คำสั่งที่ 116/2566 ลงวันที่ 16 ส.ค. 66
เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการด้านต่างๆ ภายใต้คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2566
ข่าวประชาสัมพันธ์, พรรคพลังประชารัฐ
คำสั่งที่ 116/2566 ลงวันที่ 16 ส.ค. 66
เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการด้านต่างๆ ภายใต้คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2566
ข่าวประชาสัมพันธ์, พรรคพลังประชารัฐ
คำสั่งที่ 115/2566 ลงวันที่ 16 ส.ค. 66
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2566
ข่าวประชาสัมพันธ์, พรรคพลังประชารัฐ
“พล.อ.ประวิตร” ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร.ชุดใหม่
สอดคล้องการเปลี่ยนแปลงกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง
เมื่อวันที่ 16 ส.ค.พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามในคำสั่งพรรคพลังประชารัฐ ที่ 115/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ โดยเห็นสมควรให้มีการปรับปรุงยุทธศาสตร์ นโยบายและแนวทางการดำเนินงานของพรรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง โดยเฉพาะสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อันเนื่องมาจากวิกฤตทางด้านต่างๆ และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี สารสนเทศที่ส่งผลกระทบต่อประชาคมโลก และนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในการเรียนรู้ ผ่านช่องทาง สื่อสารออนไลน์ การครอบงำทางความคิด การสร้างทัศนคติ และการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นปัจจัยสำคัญทางการเมือง
ทั้งนี้ได้อาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ. 2561 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 5 พ.ศ.2566 ข้อ 17(1) (จ) (ช) จึงให้ยกเลิกคำสั่งพรรคพลังประชารัฐ ตามบัญชีแนบท้าย และให้แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ดังนี้
1.พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมการ
2.ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า
3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ ฃฃ
4.นายวิรัช รัตนเศรษฐ
5.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
6.นายไพบูลย์ นิติตะวัน
7.นางสาวตรีนุช เทียนทอง
8.ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
9.พลเอกกฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์
10.นายอภิชัย เตชะอุบล
11.นายสกลธี ภัททิยกุล
12.พลเอกณัฐ อินทรเจริญ
13.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
14.นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
15.นายอุตตม สาวนายน
16.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
17.พลตำรวจเอกธรรมศักดิ์ วิชชารยะ
18.นายนพดล พลเสน
19.นายคณิศ แสงสุพรรณ
20.หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี
21.นายชาญกฤช เดชวิทักษ์
22.นายวราเทพ รัตนากร
23.นายบุรินทร์ สุขพิศาล
โดยมีหน้าที่และอำนาจดังนี้
1. กำหนดยุทธศาสตร์ นโยบายและแนวทางการดำเนินงานของพรรคพลังประชา รัฐให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคตเพื่อตอบสนองต่อ การพัฒนาประเทศ
2.กำหนดบทบาท ท่าทีและจุดยืนทางการเมืองของพรรค ทิศทางและแนวทางในการพัฒนาพรรค บุคคลากรของพรรค สมาชิกพรรค และการบริหารจัดการภายในพรรค เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพและเป็นที่ยอมรับเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน โดยให้สมาชิกพรรคและประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคอย่างเข้มแข็งและเป็นไปตามวิถีประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมโดยตรง
3.ให้ความเห็นชอบ สั่งการ และติดตามประเมินผล กิจกรรมและแผนงานโครงการที่มอบหมายให้คณะกรรมการด้านต่างๆไปดำเนินการ รวมทั้งกิจกรรมของพรรคที่ดำเนินการร่วมกับองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก การเสริมสร้างความข้มแข็งทางเศรษฐกิจภาพรวม การดูแลความเป็นอยู่และสวัสดิการของประชาชน การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรคและประชาชน และการสร้างความนิยมทางการเมือง รวมทั้งการเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้วยการสื่อสารและประชาสัมพันธ์สมัยใหม่
4.แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ที่ปรึกษา หรือผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อช่วยเหลือในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ
5.รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการต่อหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค
และ 6.ดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการและปฏิบัติงานอื่นตามที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 สิงหาคม 2566
พรรคพลังประชารัฐ, ข่าวกิจกรรม ส.ส. และสมาชิกพรรค
“บุญชัย สส.เพชรบูรณ์”หารือหลายปัญหาของชาวเพชรบูรณ์ ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งคลี่คลาย แก้ไข บรรเทาความเดือดร้อนให้ ปชช.
นายบุญชัย กิตติยาราทรัพย์ สส.เพชรบูรณ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาช้างป่าว่า ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามีช้างป่าจากภูหลวง จังหวัดเลย ได้ออกมาหากินบริเวณหมู่บ้านของพี่น้องประชาชน ในตำบลศิลา ตำบลตาดกลอย อ.หล่มเก่า และทำลายพืชผลทางการเกษตร ของประชาชา รวมถึงที่อยู่อาศัย จึงฝากให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ช่วยผลักดันช้างป่าให้กลับไปอยู่ในป่าดังเดิม
นายบุญชัย กล่าวต่อถึงปัญหาของถนนทางหลวงหมายเลข 21 ตอนสักหลงถึงกกกะทอน ช่วงหลักกิโลที่ 286+700 ถึง289+700 ระยะทาง 3 กิโลเมตร มีระยะทางแคบ มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และในเวลากลางคืนจะมืดมาก ไม่มีไฟฟ้าข้างทาง ทั้งที่เป็นเขตชุมชน อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทุกครั้ง ทำให้เกิดความสูญเสีย ทรัพย์สินและชีวิตของผู้ใช้ถนนเส้นนี้ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการขยายถนนเป็นสี่เลนด้วย
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาด้านไฟฟ้าแสงสว่าง และสัญญาณจราจร ที่สามแยกบ้านกกกะทอน บนทางหลวงหมายเลข 21 ตัดกับถนนทางหลวง หมายเลข 2216 ซึ่งเป็นบริเวณชุมชนมีจำนวนประชากร ที่ใช้เส้นทางจราจรอย่างหนาแน่น และมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงขอฝากให้กรมทางหลวง ช่วยดำเนินการติดตั้งไฟสัญญาณจราจรและไฟฟ้าสว่าง
ทั้งนี้เรื่องถนนถ่ายโอนหลายพื้นที่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเฉพาะเขต3 ได้ถ่ายโอนถนนมาหลายเส้น เช่น อำเภอหล่มสักทางหลวงหมายเลข 20110100 ตอนแยกทางหลวง 203 ซึ่งเป็นถนนที่ใช้ระหว่าง บ้านหนองสว่าง ถึงบ้านฝ่ายนาแซง ระยะทาง 3-4 กิโลเมตร และสภาพถนนมีรอยแตกร้าวและเป็นหลุมเป็นบ่อ ขอให้ กรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยจัดงบประมาณปรับปรุงถนนเส้นนี้ด้วย
นายบุญชัย ยังกล่าวถึงการสร้างอ่างเก็บน้ำทางตอนเหนือ ของอำเภอหล่มเก่า ซึ่งเป็นต้นน้ำ ของแม่น้ำป่าสักในฤดูฝน มีน้ำจำนวนมากไหลผ่าน จากอำเภอหล่มเก่า ผ่านอำเภอหล่มสัก ถึงอำเภอเมือง และหลายอำเภอของจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดอุทกภัย น้ำท่วมในหลายๆ พื้นที่ พอถึงฤดูแล้งก็ไม่มีน้ำใช้ เพราะเป็นที่ลาดชันสูง จึงอยากให้กรมชลประทานเร่งรัดการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ห้วยน้ำเลา ตำบลตาดกลอย อ่างเก็บน้ำห้วยผักกรูด อ่างเก็บน้ำห้วยหินโง่น ตำบลศิลา จะได้ช่วยลดปัญหาน้ำท่วม และเก็บน้ำไว้ให้เกษตรกรใช้ สร้างเศรษฐกิจให้เกษตรกร และยังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ด้วย
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2566
ข่าวกิจกรรม ส.ส. และสมาชิกพรรค, พรรคพลังประชารัฐ
“จำลอง สส.กาฬสินธุ์”ขอการปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งแก้ปัญหาแหล่งน้ำให้ชาวบ้าน หลังถูกเวนคืนไปสร้างเขื่อนลำปาว ทำให้ไม่สามารถนำน้ำขึ้นมาใช้ได้ พร้อม วอน รัฐรวบรัดขั้นตอน ไม่ให้ล่าช้า
นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ ที่ถูกเวนคืนสร้างเขื่อนลำปาว เป็นระยะเวลานานแล้วที่ประชาชน ได้รับผลกระทบในการทำมาหากิน และนำน้ำขึ้นมาใช้ อย่างบ้านตนอยู่ฝั่งตะวันตกของเขื่อนลำปาว แต่ไม่สามารถนำน้ำขึ้นมาใช้ได้ โดยการปกครองส่วนท้องถิ่น อบต.หรือเทศบาลได้ร่วมมือกันเสนอโครงการขึ้นมาเพื่อขอใช้น้ำ ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ซึ่งได้อนุมัติโครงการไป 76 ล้าน ในขณะนี้ตนกังวงว่าโครงการดังกล่าวจะถูกตีตกไป จึงนำมาหารือไว้ก่อน
นายจำลอง ยังกล่าวถึงปัญหาของถนนทางหลวงเส้นอำเภอหนองสี อำเภอหนองวัดโพธิ์ เส้น 2009 มีความคับแคบ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนได้เสนอให้มีการแก้ไขมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด ซึ่งในพื้นที่ประชาชนมีอาชีพเกษตรกร ทำไร่อ้อย รถ 10 ล้อเยอะ รถเล็กสัญจรไปมาไม่สะดวก ควรจะมีไหลทาง มาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
นอกจากนี้ การประปาท้องถิ่นที่ทางพื้นที่ได้ขอใช้น้ำปรากฏว่า เกิดความล่าช้า ด้วยสำนักงานน้ำแห่งชาติ โดยพลเอกประวิตร ในฐานะประธานนโยบายน้ำแห่งชาติ ได้อนุมัติโครงการไป 8 โครงการ แต่อีก 2 โครงการต้องใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเองตามสภาพธรรมชาติ มีการสงวนหวงห้ามตามกฎหมายการใช้ประโยชน์ร่วมกันของราษฎร หรือโดยการอุทิศให้ ซึ่งเป็นที่มาของการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ น.ส.ล.จึงต้องผ่านคณะกรรมการหลายคณะ
จึงเกิดความล่าช้ามาก
“ผมขอให้รวบรัดขั้นตอน ให้อยู่ที่เดียวกัน เพราะถ้ามีขั้นตอนเยอะ ก็จะทำให้เกิดความล่าช้า ผลประโยชน์ไม่ตกไปถึงประชาชนอย่างทั่วถึง ทันที รวดเร็ว ทันใจ”นายจำลอง กล่าว
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2566
พรรคพลังประชารัฐ, ข่าวกิจกรรม ส.ส. และสมาชิกพรรค
“อัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์”วอน หน่วยงาทที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง-อุทกภัย แนะ เพิ่มแหล่งเก็บน้ำ และขยายเส้นทางน้ำให้น้ำมีทางไปได้
นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า เราปฎิเสธไม่ได้ว่าน้ำ เป็นต้นกำเนิดทุกสิ่ง น้ำเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่เราใช้บริโภคอุปโภคกันทุกคน แต่เมื่อน้ำน้อยเกินไปก็เกิดปัญหาภัยแล้ง เมื่อน้ำมากเกินไปก็เกิดปัญหาอุทกภัย 2 ปัญหานี้เกิดขึ้นที่อำเภอวิเชียรบุรี และศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่เป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำป่าสักเป็นหัวใจหลัก ซึ่งมีความยาวราว 350 กิโลเมตร ไหลผ่านตั้งแต่เหนือสุดไปถึงใต้สุดของจังหวัด ปัญหาคือความลาดชันของแม่น้ำป่าสัก จุดสูงสุดของความลาดชันอยู่ที่ 190 เมตรส่วน จุดต่ำสุดอยู่ที่อำเภอศรีเทพ อยู่ที่ประมาณ 40 เมตร จากความลาดชันนี้ทำให้อำเภอวิเชียรบุรีและศรีเทพ ไม่สามารถเก็บกักได้จากแม่น้ำป่าสักและไหลออกไปจังหวัดอื่นเกือบหมด
นายอัคร กล่าวต่อว่า ตนจึงอยากหารือ2 ประเด็นหลักคือ ปัญหาภัยแล้ง และปัญหาน้ำท่วม สำหรับปัญหาภัยแล้ง จังหวัดเพชรบูรณ์มีครัวเรือนทั้งหมดเกือบ 300,000 ครัวเรือน โดยทำอาชีพเกษตรกรรมไปแล้วเกือบ 100,000 ครัวเรือน คิดเป็น 38% ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพหลักของคนในพื้นที่ ทุกคนต่างหวังว่าน้ำฝนจะตกมาในปริมาณที่พอเพียง และตกตามฤดูกาล แต่ฝนกลับไม่ตกและ น้ำก็กักเก็บไม่พอ เช่น พื้นที่ในอำเภอวิเชียรมี พืชผลเสียหายทางการเกษตรกว่าพันไร่ เกษตรกรเสียหายหนัก โดยเฉพาะข้าว ข้าวโพด เช่น ตำบลทรัพย์สมบูรณ์ตำบล วัดประดู่และตำบลพุเตย ถ้าประเมินค่าความเสียหายถ้าเป็นข้าวก็ตกประมาณ 1000 ไร่ ตกอยู่ที่ 7.9 ล้านบาท ถ้าเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ก็ตกอยู่ที่ 11.2 ล้านบาท
“สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าเกษตรกรมีรายได้ลดลงจากการขายพืชผลทางการเกษตร แทนที่มีเงินจะไปจ่ายค่าเทอมลูก แทนที่จะมีเงินไปจ่ายในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือว่าจ่ายหนี้สิน ผมจึงฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเพิ่มแหล่งเก็บน้ำ ไม่ว่าจะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ถ้ามีวิธีที่ไวกว่านี้ผมก็ยินดีอย่างยิ่ง”นายอัคร กล่าว
นายอัคร กล่าวต่อถึงปัญหาอุทกภัย อาจจะดูย้อนแย้งจากปัญหาแรก แต่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดที่เกิดปัญหาน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง แต่ในหลายปีที่ผ่านมาความรุนแรงของปัญหานี้ทวีคูณยิ่งขึ้น เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานของอำเภอเชียรบุรีและอำเภอศรีเทพ ตั้งอยู่ช่วงทางผ่านน้ำ และเป็นจุดที่ต่ำกว่าอำเภออื่นๆ ทำให้น้ำจากตอนเหนือไหลลงมาท่วม 2 อำเภอนี้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับแม่น้ำป่าสักนั้นตื้นเขิน จึงไม่สามารถจุน้ำทั้งหมดไว้ได้ การระบายน้ำจึงเป็นไปได้ยากและช้ามาก รถไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้เรือในการนำส่งอาหาร และส่งของใช้จำเป็น จากเหตุการณ์นี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของบ้านเรือน พืชผลทางการเกษตร ผมจึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยขยายเส้นทางน้ำให้น้ำมีทางไปได้
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2566
ข่าวประชาสัมพันธ์, พรรคพลังประชารัฐ
“พล.อ.ประวิตร”เผย ตัวเลขหนี้นอกระบบลดลงต่อเนื่อง หลังเดินหน้าปราบเชิงรุก เชื่อ แก้ปัญหาได้ยั่งยืน
พร้อมจัดหาแหล่งทุน ยกระดับพัฒนาทักษะ สร้างอาชีพมั่นคงให้ ปชช.ที่มีรายได้น้อย
15 สิงหาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงปัญหาหนี้นอกระบบ ที่เป็นเหมือนทุกข์กองโตของประชาชน ทำให้หลายครอบครัวต้องใช้ชีวิตทนทุกข์ จมกับกองหนี้มานาน สุดท้ายไม่เหลือแม้แต่บ้านเรือน ทรัพย์สิน และที่ดินทำกิน การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบจึงเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญสำหรับการบริหารประเทศของรัฐบาล ที่ต้องการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และขาดโอกาสที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มอิทธิพลมานาน โดยเฉพาะเจ้าหนี้นอกระบบ
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ตนได้ประสานงานกับฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ลงไปช่วยดูแลแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากหนี้นอกระบบที่มีมากขึ้น จากกลุ่มนายทุนฉวยโอกาสปล่อยกู้เก็บดอกโหด และส่งแก๊งค์ทวงหนี้เหิมเกริม ข่มขู่และใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้หาเช้ากินค่ำ เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมบั่นทอนชีวิตครอบครัวผู้มีรายได้น้อย รวมถึงทุกภาคส่วนราชการที่พยายามขับเคลื่อนแก้ปัญหาทั้งการเจรจาไกล่เกลี่ย และการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนของตำรวจซึ่งบังคับใช้กฎหมายสามารถไกล่เกลี่ย และส่งคืนทรัพย์สินให้กับประชาชนได้จำนวนมาก
“เราต้องเข้าใจว่า ปัญหาหนี้นอกระบบฝั่งรากลึกในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ทำให้ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่รอการช่วยเหลือ ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่ยังคงต้องเร่งทำงาน เพื่อเดินหน้าเข้าไปปลดล็อกปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยกับดักความยากจนของสังคมที่สำคัญที่จำเป็นต้องติดตาม รวมทั้งประสานการให้โอกาสและการช่วยเหลือลูกหนี้ต่อเนื่องกันไปให้สามารถกลับมายืนเข้มแข็งไปด้วยกัน”พล.อ.ประวิตร กล่าว
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร มองว่า การดำเนินการเพื่อปราบปรามเจ้าหนี้นอกระบบเพียงอย่างเดียวคงไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ตนจึงได้ประสานไปยัง กระทรวงการคลัง และกระทรวงแรงงาน เพื่อเข้าไปร่วมเสริมการจัดหาแหล่งทุน และพัฒนาทักษะอาชีพให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย ให้สามารถเข้าถึงโอกาสได้เป็นการช่วยสร้างความเข้มแข็งของผู้มีรายได้น้อยและลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมด้วย
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 สิงหาคม 2566
พรรคพลังประชารัฐ, ข่าวกิจกรรม ส.ส. และสมาชิกพรรค
พรรคพลังประชารัฐ เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้ผลกระทบจากอุทกภัยอย่างหนักในพื้นที่จ.ตาก ภายใต้กิจกรรม”พลังน้ำใจ พลังประชารัฐ กำลังใจให้คนตาก”เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนโดยเร็ว
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะเลขาธิการ พปชร. กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากติดต่อกันหลายวันในจังหวัดตากและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะหมู่บ้านตามแนวตะเข็บชายแดนที่ติดแม่น้ำเมย และพื้นที่บนภูเขา เกิดดินถล่มเส้นทางถูกตัดขาด เป็นจำนวนมาก ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย เส้นทางทรุดหนักเป็นบริเวณกว้าง รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่าน ไป – มาได้อย่างสะดวกนั้น
ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมีความห่วงใยประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก จึงดำริให้ตนเองเร่งระดมความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนอย่างเร่งด่วน ภายใต้กิจกรรมชื่อ”พลังน้ำใจ พลังประชารัฐ กำลังใจให้คนตาก”ซึ่งขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า เพื่อการกุศล สมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรฐกิจไทย-เอเชีย นำถุงยังชีพอุปโภคบริโภคจำเป็นไปมอบให้ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
โดยเบื้องต้น ทางพรรคฯได้มอบหมายให้สส.ของพรรคในพื้นที่ ได้แก่นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.จังหวัดตาก และนายปกรณ์ จีนาคำ สส.จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นตัวแทนลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยือนให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันยังเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเสียหายเพื่อให้ประชาชนสัญจรอย่างปลอดภัย
ด้านนายภาคภูมิ กล่าวว่า ขอบคุณพรรคพลังประชารัฐและทุกภาคส่วนที่ร่วมช่วยเหลือประชาชน อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ขอพี่น้องประชาชนระมัดระวังในการเดินทาง เฝ้าดูสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตนเองขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ซึ่งใน วันพุธ 16 สิงหาคม นี้ มีประชุมสภาฯตน จะนำเรื่องนี้หารือต่อสภา เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนโดยเร่งด่วนต่อไป
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 สิงหาคม 2566
ข่าวประชาสัมพันธ์, พรรคพลังประชารัฐ
ส.ส.อนุรัตน์ ตันบรรจง รุดเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านที่ป่วยสู้โรคร้าย พร้อมเร่งสร้างต่อเติมบ้านพักอาศัยให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)เขต 2 จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยือนให้กำลังใจ นางทองดี พรหมจันทร์ อายุ 61 ปี ณ บ้านเลขที่ 150 หมู่ 3ตำบลหงส์หิน อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ซึ่งนางทองดี เป็นผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก และไร้ที่อยู่อาศัยโดยนายอนุรัตน์ได้พูดคุยถึงสภาพความเป็นอยู่และให้กำลังใจในการต่อสู้กับโรคร้าย ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านนำสิ่งของอุปโภคบริโภคมาร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งเพื่อสมทบทุนในการสร้างต่อเติมบ้านให้นางทองดี พร้อมทั้งกำชับ ให้ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นดูแลเป็นอย่างดี ตนเอง จะไม่ทอดทิ้งพี่น้องประชาชนในเขต 2 พะเยาอย่างเด็ดขาด
จากนั้น สส.ออม ยังได้เดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิดป้ายที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา โดยมี นายสิทธิพงษ์ ปัญญาราช ผู้ใหญ่บ้านหมู4ให้การต้อนรับและพูดคุย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองแบบญาติพี่น้อง
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 สิงหาคม 2566
พรรคพลังประชารัฐ, ข่าวกิจกรรมพรรค
“พลเอกประวิตร”นำทีม กก.มูลนิธิฯอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด
ถวายพระพร “พระพันปีหลวง” 91 พรรษา
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด นำคณะกรรมการ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางพานพุ่มเฉลิมพระเกียรติ ถวายเครื่องราชสักการะ ถวายราชสดุดี และถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
พลเอกประวิตร กล่าวถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงว่า ทรงรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า แหล่งต้นน้ำลำธาร นำมาซึ่งความผาสุขร่มเย็นโดยถ้วนหน้า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ จึงทรงเป็นพระแม่แห่งแผ่นดินที่สถิตย์สถาพรอยู่กลางใจพสกนิกรทั่วทั้งแผ่นดิน
พร้อมกันนี้พลเอกประวิตร ยังเปิดให้ข้าราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอดีตผู้ใต้บังคับบัญชามอบกระเช้าดอกไม้ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 78 ปี ย้อนหลัง 11 สิงหาคม 2566 เช่น คณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ และ ตัวแทนกรมป่าไม้ และหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2566
ข่าวประชาสัมพันธ์, พรรคพลังประชารัฐ
“สันติ”เผย กระทรวงการคลัง ประสานสถาบันการเงิน ออกมาตรการด้านกู้เงินฉุกเฉิน-สินเชื่อ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโกดังพลุระเบิด
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวระหว่างการเดินทางลงพื้นที่ ต.บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมเยียมผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิดว่า ในส่วนของกระทรวงการคลังนั้นได้มีการประสานงานกับสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) หรือธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ๆ ให้เข้ามาดูแล เยียวยาให้กับผู้ประกอบการในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้
นายสันติ กล่าวต่อว่า อย่างธนาคารออมสินก็ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น มาตรการพักชำระหนี้ และยังให้ประชาชนที่ประสบภัยกู้เงินฉุกเฉิน สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อน รายละไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ ยังให้สินเชื่อเคหะแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ เพิ่มเติม สำหรับลูกค้าเดิมและประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบ เพื่อซ่อมแซมต่อเติมที่อยู่อาศัยส่วนที่เสียหายได้ถึง 100% ของราคาประเมิน สินเชื่อบุคคลแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอเนกประสงค์ในการบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายล ะ 500,000 บาท และสินเชื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจของธนาคาร วงเงินกู้สูงสุด 10% ของวงเงินกู้เดิม แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 5 ปี โดยปลอดชำระเงินต้น 1 ปี รวมถึงการดูแลเกี่ยวกับการชดเชยค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน โดยสามารถยื่นเรื่องได้ที่ธนาคารออมสินสุไหง โก-ลก หรือสาขาใกล้เคียงที่สะดวก
ทั้งนี้ภายในงานได้มีธนาคารจากหลายสถาบัน อาทิ ธนาคารอาคารสงเคราะห์,ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงไทย มารอให้บริการประชาชนในเรื่องธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ด้วย
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2566
ข่าวประชาสัมพันธ์, พรรคพลังประชารัฐ
“พล.อ.ประวิตร”นำทัพ พปชร.ลงพื้นที่บ้านมูโนะ จ.นราธิวาส มอบถุงยังชีพให้ ปชช.-จนท.-ผู้บาดเจ็บ จากเหตุโกดังพลุระเบิด สั่งระดมเร่งด่วนฟื้นฟูที่อยู่อาศัย ใช้เงินให้เป็นธรรมและโปร่งใส
เมื่อวันที่ 7 ส.ค.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรองหัวหน้าพรรค,น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรองหัวหน้าพรรค,นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรค,นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค,นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และเลขาธิการพรรค เดินทางลงพื้นที่ ต.บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมเยียมผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิด โดยมี สส.ของพรรคพลังประชารัฐให้การต้อนรับ อาทิ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ บีลา ส.ส.นราธิวาส เขต 3 นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส. นราธิวาส เขต 2 ให้การต้อนรับ
โดย พล.อ.ประวิตรและคณะได้เดินทางไปสนามกีฬามหาราช รับทราบรายงานสถานการณ์ความเสียหายและการช่วยเหลือ จาก ผวจ.นธ. อธิบดี กรม ปชส. รวมทั้งผู้แทน สธ. และศธ. มีผู้ได้รับผลกระทบ 682 ครัวเรือน เสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 389 ราย บ้านเรือนเสียหาย 682 หลัง รร.เสียหาย 3 แห่ง โดยมีการพระราชทานความช่วยเหลือทั้งสิ่งของพระราชทานและโรงครัวพระราชทานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุตรวจเยี่ยมความคืบหน้าในการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนและโรงเรียนบ้าน มูโน๊ะ พร้อมทั้งเดินทางไป รพ.สุไหงโกลก เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทีมแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนที่โรงเรียนบ้านมูโนะ เพื่อรับมอบเช็คเงินสดจากธนาคารออมสินจำนวน 2 ล้านบาท รวมถึงถุงยังชีพจำนวน 300 ถุง และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำนวน 150,000 บาท ก่อนส่งมอบให้กับทางจังหวัดนราธิวาส เพื่อนำไปดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้แจกถุงยังชีพ จำนวน 300 ถุงให้กับผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นขวัญกำลังใจ ให้ทุกคนสามารถฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ไปได้ รวมถึง ร.อ.ธรรมนัส ได้นำข้าวกล่องจำนวนมากจากมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า มามอบให้กับประชาชนด้วย
โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวกับประชาชนว่า ตนขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อพี่น้องชาวมูโน๊ะ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บ้านเรือนและอาคารสถานที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และที่สำคัญมีผลกระทบต่อจิตใจและขวัญของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ขอเป็นเป็นกำลังใจให้กับทุกคน เพื่อการก้าวผ่านความยากลำบากครั้งสำคัญนี้ไปด้วยกัน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือดูแล และไม่ทอดทิ้งกัน และจะทำให้ทุกอย่างคืนกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
พล.อ.ประวิตร ยังได้ขอให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่ทั้งภาครัฐ เอกชนและทหาร ร่วมระดมความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ โดยเฉพาะการก่อสร้างและปรับปรุงบ้านพักอาศัยที่เสียหาย รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ให้สามารถใช้การได้เร็วที่สุด ทั้งนี้การก่อสร้างปรับปรุง รร.มูโน๊ะ ได้สั่งการมอบหมายให้ รมว.ศธ.ลงพื้นที่รับทราบปัญหาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงและก่อสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิมที่เสียหาย ซึ่งทราบว่ามีภาคเอกชนร่วมสนับสนุนสร้างอาคารใหม่ให้กับเด็กเล็ก ก็ต้องขอขอบคุญผู้ใจบุญด้วย
ทั้งนี้สำหรับการฟื้นฟูที่พักอาศัยและพัฒนาอาชีพ ได้กำชับ รมว.ที่เกี่ยวข้อง ร่วมระดมธนาคาร สถาบันการเงินของรัฐ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ( บสย.) เข้ามาให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนโดยปราศจากดอกเบี้ย โดยให้ ศอ.บต.ประสาน กค. จัดหามาตรการด้านการเงินและการคลัง เป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น การพักชำระหนี้จากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น โดยเตรียมเสนอ ครม.ทันที
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวขอบคุณน้ำใจคนไทยทั่วประเทศ ที่ร่วมบริจาคเงิน และความช่วยเหลืออื่นๆมาอย่างไม่ขาดสายผ่านจังหวัด โดยย้ำขอให้ ผวจ.นธ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งนำเงินดังกล่าวใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึงเป็นธรรมและโปร่งใส พร้อมทั้งขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่รัฐจากทุกหน่วยงาน รวมทั้งอาสาสมัครและภาคเอกชน ที่ร่วมกันเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องชาวมูโน๊ะ ที่ได้รับผลกระทบหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องมา โดยขอให้กรมประชาสัมพันธ์ ให้ความสำคัญและคงความต่อเนื่องในการสร้างความเข้าใจในภาวะวิกฤตกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำกับ มท. ตร.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยว่า ขอให้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น โดยจะต้องไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
จากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ และให้กำลังใจทีมแพทย์ สาธารณสุขที่ปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2566