โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

เดือน: สิงหาคม 2023

“คอซีย์ สส.ปัตตานี”เดินหน้าทำงานเชิงบูรณาการ ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รับฟังปัญหาของ ปชช.ก่อนนำเข้าหารือในสภาฯ

,

“คอซีย์ สส.ปัตตานี”เดินหน้าทำงานเชิงบูรณาการ ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รับฟังปัญหาของ ปชช.ก่อนนำเข้าหารือในสภาฯ

นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนและกลุ่มเพื่อน”สส.คอซีย์ มามุ”ไ้ด้เชิญผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในเขตพื้นอำเภอหนองจิก อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เพื่อพบปะ รับทราบปัญหาความเดือดร้อน และปัญหาต่างๆ ของพื่น้องประชาชน ตามแนวทางการเป็น สส.ที่มีคุณค่าในสภาผู้แทนราษฎรและปัตตานี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงปัตตานีบนหลักการไม่ทอดทิ้งประชาชน

นายคอซีย์ กล่าวต่อว่า การเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรมีภารกิจ และบทบาทในสภาฯในการนำปัญหาเข้าหารือส่วนราชการ การขับเคลื่อนทีมงานในพื้นที่ การจัดแผนงานลงพื้นที่ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการทุกระดับ
ทั้งนี้ การเชิญผู้บริหารท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านในครั้งนี้ ยังได้สะท้อนการทำงานแบบการมีส่วนร่วมและบูรณาการร่วมกันเพื่อนำข้อมูลปัญหาข้อเท็จจริงในพื้นที่นำเสนอต่อสภาเพื่อประสานเร่งรัด ดำเนินการต่อหน่วยงานราชการต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 สิงหาคม 2566

“อามินทร์ มะยูโซ๊ะ”หวั่นภัยพิบัติสร้างผลกระทบที่ดินชายฝั่งพื้นที่ตากใบหาย เสนอหน่วยงานรัฐเร่งศึกษาแผนป้องกันการกัดเซาะลดความเดือดร้อนปชช.

,

“อามินทร์ มะยูโซ๊ะ”หวั่นภัยพิบัติสร้างผลกระทบที่ดินชายฝั่งพื้นที่ตากใบหาย
เสนอหน่วยงานรัฐเร่งศึกษาแผนป้องกันการกัดเซาะลดความเดือดร้อนปชช.

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้ร่วมสังเกตการณ์ และรับฟังปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินโครงการศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งบ้านปูลาโต๊ะบีซู ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ ที่กำลังประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งตลอดแนว 3 กิโลเมตร ที่ส่งผลให้ที่ดินของชาวบ้านถูกกัดเซาะ จนหายไปปีละ 2 เมตรตลอดแนว ซึ่งเห็นว่าแนวทางการป้องกันยังไม่มีความคืบหน้า และแก้ไขได้ทันท่วงที

“แม้ว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เข้ามาดำเนินการศึกษาแนวทางการแก้ปัญหา พร้อมประชุมรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านเป็นครั้งที่ 4 และมีแนวโน้มคืบหน้าในแนวทางการแก้ปัญหา แต่ยังติดที่โครงการดังกล่าว ต้องเข้าสู่กระบวนการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบส่ิงแวดล้อม (EIA) ตามกฎหมาย ที่ต้องใช้เวลาศึกษาหลายปีในขั้นตอนการทำแผนผลกระทบด้านส่ิงแวดล้อมในระยะยาว เห็นว่าประเด็นดังกล่าว อาจทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน หากไม่เร่งแก้ปัญหา เพราะผลกระทบจากสภาวะภูมิกาศโลกที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ฤดูกาล และภัยพิบัติทางธรรมชาติมีความรุนแรงในอดีต”

อย่างไรก็ตามในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรในพื้นที่ จะพยายามผลักดัน ให้เกิดการแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วเพื่อไม่ให้ประชาชน ได้รับผลกระทบในเรื่องของที่ดิน และที่ทำกิน สูญหายไปกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งพิจาณาแนวทางในการดำเนินโครงการฯให้กับประชาชนโดยเร็ว โดยเฉพาะการเร่งขั้นตอนการอนุมัติผลกระทบด้านส่ิงแวดล้อม

#สส_อามินทร์ #สส_ของคนโกลก_ตากใบ #คำไหนคำนั้น #ผู้รับใช้ประชาชน #พร้อมชนทุกสถานการณ์ #พรรคพลังประชารัฐ #พลังคนรุ่นใหม่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 สิงหาคม 2566

“ส.ส.ภาคภูมิ” พปชร.ร่วมโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน สะท้อนปัญหาสู่แนวแก้ไขในพื้นที่

,

“ส.ส.ภาคภูมิ” พปชร.ร่วมโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน สะท้อนปัญหาสู่แนวแก้ไขในพื้นที่

นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ตาก เขต 3. กล่าวว่า ได้ร่วมโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก ต้องขอขอบคุณคณะกรรมการโครงการ ที่เลือกพื้นที่ อ.ท่าสองยาง อ.แม่ระมาด และอ. บ้านตาก เพื่อรับฟัง และนำเสียงสะท้อน ของประชาชน ที่จะต้องได้รับการแก้ไข ผ่านผู้นำท้องที่ ท้องถิ่นทั้งสามอำเภอ เพื่อเป็นข้อมูลที่จะให้สมาชิกวุฒิสภาไป เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น- ปัญหาการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าเพื่อทำถนน ไฟฟ้า ปะปา แหล่งน้ำ การสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ปัญหาด้านการศึกษา สาธารณสุข และการสื่อสาร ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินที่อยู่ในพื้นที่ป่า รวมถึงเรื่องปัญหาชายแดนที่มีการลักลอบข้ามแดน การสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง และเรื่องอื่นๆที่เป็นความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนอีกหลายเรื่อง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” นั่ง “ประธาน” ถก “กนภ.” เร่งรับมือสภาพอากาศผันผวนรุนแรง

,

“พล.อ.ประวิตร” นั่ง “ประธาน” ถก “กนภ.” เร่งรับมือสภาพอากาศผันผวนรุนแรง

วันที่ 25 สิงหาคม 2566 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแห่งชาติ (กนภ.) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมประชุม เพื่อปรับปรุงองค์กรและระเบียบราชการ รับงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ซึ่งได้รับทราบถึงการปรับปรุงกฎกระทรวงและการแบ่งส่วนราชการ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2566 ที่เปลี่ยนชื่อจาก กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยจะทำหน้าที่จะเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้ยังทำหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานกลางของประเทศ ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นหน่วยให้บริการข้อมูลข่าวสารเพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ศึกษาวิจัย พัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยี เพื่อการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทุกภาคส่วนต่อไป

ที่ประชุมมีมติแก้ไขเพิ่มเติม ระเบียบว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งการปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการภายใต้ กนภ.จำนวน 8 คณะ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเสนอให้ส่วนราชการต่างกระทรวง มีหน่วยงานรองรับร่วมขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวไปด้วยกัน

“การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ นับวันจะมีความผันผวนและทวีรุนแรงมากขึ้น โดยมีผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมของประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นเรื่องรอไม่ได้ ที่จะต้องเตรียมการรับมือ โดยกำชับขอให้คณะกรรมการฯ รวมทั้ง กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ศึกษา ติดตามและขับเคลื่อนดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในและระหว่างประเทศ เตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นไปด้วยกัน โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจและความร่วมมือกัน รับมือกับการเปลี่ยนแปลง ทั้งการป้องกันและการแก้ปัญหาไปพร้อมๆกัน เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้มากที่สุด” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2566

“ชัยมงคล” เป็นปากเสียงแทนชาวสว่างแดนดิน 3 ตำบลไร้ตำรวจเหลียวแล วอนตำรวจเพิ่มความปลอดภัยในชุมชน พร้อมเสนอปรับปรุงถนนระหว่างอ.เจริญศิลป์ – อ.สว่างแดนดิน

,

“ชัยมงคล” เป็นปากเสียงแทนชาวสว่างแดนดิน 3 ตำบลไร้ตำรวจเหลียวแล
วอนตำรวจเพิ่มความปลอดภัยในชุมชน พร้อมเสนอปรับปรุงถนนระหว่างอ.เจริญศิลป์ – อ.สว่างแดนดิน

นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เนื่องจากอำเภอสว่างแดนดินเป็นอำเภอขนาดใหญ่ มีสถานีตำรวจอยู่ 3 สถานี สถานีที่มีปัญหาคือ สถานีภูธร อำเภอสว่างแดนดิน ซึ่งมีเขตรับผิดชอบอยู่ 12 ตำบลและมีอยู่ประมาณ 3 ตำบล ที่อยู่ติดกับจังหวัดอุดร แต่ไม่มีตำรวจเข้าไปดูแล ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากผู้นำท้องที่อย่างผู้ใหญ่บ้าน กำนัน โดยไม่ได้ร้องเรียนธรรมดา เนื่องจากประชาชนไม่ได้รับการเอาใจใส่จากตำรวจ จึงได้บริจาคเงินสร้างป้อมตำรวจชุมชน ติดแอร์ให้ด้วย โดยหวังว่าจะมีตำรวจไปดูแล ไปประจำอยู่ที่ป้อม

“ผู้ใหญ่และกำนันได้ไปพบผู้บังคับบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร เพื่อขอเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำการที่ป้อม ผ่านมา 4 เดือน ก็ยังไม่มีตำรวจใดๆ ไปประจำการอยู่ มีแต่ตำรวจอาสา ซึ่งเป็นประชาชน
วันนี้ประชาชนชายขอบปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับการดูแลจากตำรวจ แต่ไปปฏิบัติหน้าที่ด้านอื่นในเมือง แม้ว่าจะชุมชนได้สร้างสถานที่ปฏิบัติและอำนวยความสะดวกแล้วก็ตาม ดังนั้นสิ่งที่ต้องการคือความเท่าเทียม และดูแลทุกข์สุขของประชาชน ข้าราชการตำรวจควรที่จะให้ความเท่าเทียมกับประชาชนในท้องที่ด้วย”นายชัยมงคล กล่าว

นายชัยมงคล กล่าวต่อว่า หน่วยความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่นถนนสาย 2042 เป็นถนนเชื่อมระหว่างอำเภอเจริญศิลป์ และอำเภอสว่างแดนดิน ที่ประชาชนอำเภอเจริญศิลป์ สามารถที่จะเดินทางเข้าจังหวัด และย่นระยะทางได้ 40 กิโลเมตร แต่ยังเป็นถนนลูกรังอยู่ จึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบกรุณาช่วยไปทำให้ด้วย นอกจากนี้อำเภอสว่างแดนดิน เป็นอำเภอขนาดใหญ่ และมีหลายอำเภอที่จะเข้าอุดรราชธานี และสกลนคร ต้องผ่านอำเภอสว่างแดนดิน และกรมทางหลวงได้ไปสำรวจถนนเลี่ยงเมือง ทั้งทำประชาคมทั้งทำEIA ตั้งแต่ปี 2557 ผ่านมา 9 ปี ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ตนจึงอยากวิงวอนกรมทางหลวง ช่วยไปทำเรื่องนี้ให้ด้วย เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุ และทำให้คนสว่างแดนดินที่รอคอยมานานได้สมหวังกันสักที

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 สิงหาคม 2566

“คอซีย์ สส.ปัตตานี”วอน อธิบดีกรมป่าไม้ เร่งวางแนวทางให้กับ ปชช.ได้รับสิทธิการใช้ที่ดินถูกต้องตาม กม.หลังไม่สามารถเข้าพื้นที่ปลูกยางพารา-ทุเรียน ได้

,

“คอซีย์ สส.ปัตตานี”วอน อธิบดีกรมป่าไม้ เร่งวางแนวทางให้กับ ปชช.ได้รับสิทธิการใช้ที่ดินถูกต้องตาม กม.หลังไม่สามารถเข้าพื้นที่ปลูกยางพารา-ทุเรียน ได้

นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงความเดือดร้อนของประชาชน ที่ตนได้มีการประชุมร่วมรับฟังกับผู้บริหารท้องถิ่นและกำนันในเขตพื้นที่ โดยนายก อบต.ทรายขาว ขอให้เร่งรัดแก้ไขพื้นที่ทำกินให้กับพี่น้องประชาชนในเขตตำบลทรายขาว และตำบลใกล้เคียง เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 2,000 ครัวเรือน เพราะพื้นที่ดังกล่าวปัจจุบันมีการกำหนดให้เป็นเขตป่าไม้ ก่อนและหลังที่ประชาชนเข้าไปทำประโยชน์ เพื่อปลูกยางพารา ปลูกทุเรียน และที่อยู่อาศัย

นายคอซีย์ กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อกรมป่าไม้ตามเก็บข้อมูลจากประชาชนเพื่อตรวจสอบสถานะสิทธิ์ก็พบว่า ประชาชนบางรายมี สค.1 บางรายก็ได้ทำประโยชน์อย่างยาวนานและเปิดเผย ตนจึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมป่าไม้ เร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังนี้

1.ขอให้แก้ไขปัญหากรณีที่ประชาชนไม่สามารถเข้าทำการปรับปรุงพื้นที่ เพื่อโค่นยางพารา ต้นทุเรียนที่หมดอายุ เพื่อที่จะเพาะปลูกใหม่ เพราะวันนี้มีการจับกุมประชาชนที่เข้าไปดำเนินการ ทั้งที่ ทุเรียนทรายขาวเป็นทุเรียนที่มีชื่อเสียง สร้างรายได้ให้กับชาวปัตตานีเป็นอย่างมาก ถ้าปลูกทดแทนไม่ได้ประชาชนก็จะไม่มีรายได้
2.ช่วยเร่งพิจารณาเรื่องที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ เพื่อการพัฒนาก่อสร้างถนนไฟฟ้า แหล่งน้ำ ให้กับประชาชน เพราะว่าคำขอตกค้างมานาน การที่ประชาชนได้ใช้สิทธิในเขตดังกล่าวนี้ไม่ใช่เป็นการบุกรุก แต่ประชาชนกำลังช่วยสร้างมูลค่าทางธรรมชาติ ทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดปัตตานี จึงขอฝากไปยังอธิบดีกรมป่าไม้ เร่งวางแนวทางให้กับประชาชนได้รับสิทธิการใช้ที่ดินอย่างถูกต้องตามกฏหมาย

นายคอซีย์ กล่าวต่อว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายก อบต.ท่าเรือ เกี่ยวกับปัญหาภารกิจที่ได้รับถ่ายโอนจากกรมชลประทาน ซึ่งประกอบด้วยคลองส่งน้ำประตูน้ำในพื้นที่หมู่ที่2 หมู่ที่4 และหมู่ที่ 6 ซึ่งปัจจุบันมีสภาพไม่พร้อมที่ใช้ประโยชน์ ซึ่ง อบต.ท่าเรือ มีงบประมาณไม่เพียงพอในการซ่อมแซม ทำให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 500 ไร่ และยังกระทบต่อการส่งน้ำเค็ม ในช่วงน้ำทะเลหนุน จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผ่านไปยังอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าวให้ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2ภ สิงหาคม 2566

“วรโชติ สส.เพชรบูรณ์”พูดแทนชาวเพชรบูรณ์ หลายปัญหาที่ยังรอการจัดสรรงบประมาณมาแก้ไข ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวเร่งดำเนินการให้ ปชช.

,

“วรโชติ สส.เพชรบูรณ์”พูดแทนชาวเพชรบูรณ์ หลายปัญหาที่ยังรอการจัดสรรงบประมาณมาแก้ไข ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวเร่งดำเนินการให้ ปชช.

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้หารือสภาผู้แทนราษฎรถึงความเดือดร้อนของประชาชนว่า ถนนเส้นโรงเรียน ดงขุยวิทยาคม ตำบลดงขุยไปถึงบ้านหนองกุ่ม ตำบลดงขุย ไปตำบลศาลาลาย ถนนเส้นนี้ได้รับการถ่ายโอนมาจาก ทางหลวงชนบท ระยะทาง 8 กิโลเมตร ปัจจุบันไม่มีงบประมาณในการพัฒนา ประชาชนเดือดร้อนมาก ถนนเส้นนี้ นักเรียนนักศึกษาที่ใช้ในโรงเรียนหนองขุยวิทยาคม ไม่สามารถเดินทางได้สะดวก จึงขอฝากไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ของบประมาณในการดูแลถนนเส้นนี้ด้วย

นายวรโชติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ถนนจากอำเภอ วังโป่ง ไปโรงพยาบาลวังโป่ง ซึ่งจริงๆแล้วถนนเส้นนี้จะได้รับงบประมาณประมาณ ปี 2567 แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ในการจัดตั้งรัฐบาลของสภาฯได้ล่าช้า กลัวงบประมาณจะไม่ทันการณ์ จึงขอฝากให้กระทรวงคมมนาคมช่วยพิจารณาจัดสรรงบประมาณ เนื่องจากพี่น้องประชาชนเดือดร้อน โดยเฉพาะการสัญจรที่จะเข้าไปโรงพยาบาลไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตามยังมีถนนเส้น 3101 เป็นถนนสายหลักของ3 จังหวัด คือ จังหวัดเพชรบูรณ์แจังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิษณุโลก แต่ถนนเส้นนี้กลับไม่มีไฟส่องทาง และพื้นถนนระยะทาง 19 กิโลเมตรมีสภาพไม่ดี ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งไฟส่องทาง และงบเพื่อพัฒนาถนนเส้นนี้ด้วย

“ปัญหาของจังหวัดเพชรบูรณ์ตอนนี้คือ ภัยแล้ง ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นจังหวัดที่ทำการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นข้าวข้าวโพด แล้วก็ผลไม้ต่างๆแวันนี้ฝนไม่ตกท่าน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถ้าเป็นไปได้ช่วยจัดสรรงบประมาณดูแลเรื่องทำฝนเทียมหรือว่าฝนหลวง ทั้ง 11 อำเภอ 98 ตำบล พื้นที่ได้รับความเสียหาย 510,000 กว่าไร่ วันนี้เราได้นายกรัฐมนตรีแล้ว อยากได้เรื่องนี้ตามมาอย่างเร่งด่วน เพราะว่าข้าวข้าวโพดและ พืชผลทางการเกษตรของพี่น้องจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับความเสียหายอย่างมากถึง 500,000 กว่าไร่แล้ว”นายวรโชติ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2566

“สุธรรม สส.นครศรีธรรมราช”เร่ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งสัญญาณไฟจราจร 2 จุด บนเส้นทางหลัก หลังเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจากจราจรที่คับคั่ง

,

“สุธรรม สส.นครศรีธรรมราช”เร่ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งสัญญาณไฟจราจร 2 จุด บนเส้นทางหลัก หลังเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจากจราจรที่คับคั่ง

นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนขอขอบคุณที่ไว้วางใจให้เป็นตัวแทนของพี่น้องของอำเภอทุ่งสง ตนจะขอปฎิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งในสภาแห่งนี้และนอกสภา ซึ่งวันนี้ตนจะหารือถึงความเดือดร้อนของประชาชน โดยขอให้ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร บริเวณสามแยกจุดกลับรถ สามแยกตลาดนัด ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง เส้นทางหลวงหมายเลข 403 ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดนครศรีธรรมราชกับจังหวัดตรัง โดยสามแยกจุดกลับรถแห่งนี้มีการจราจรคับคั่งตลอดทั้งวัน เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ และเป็นที่ตั้งของโรงงานปูนซีเมนต์ ไทย สาขาภาคใต้ ส่งผลให้มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ วิ่งสัญจรไปมาตลอดทั้งวัน

นายสุธรรม กล่าวต่อว่า สภาพแวดล้อมที่มีทั้งตลาดนัด จุดกลับรถ คนข้ามถนน และรถบรรทุกขนาดใหญ่ ประกอบกับมีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ถึง 2 โรงงาน และไม่มีไฟสัญญาณจราจร ทำให้เกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้น ส่งผลกระทบกับประชาชนและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตั้งสัญญาณไฟจราจร ที่บริเวณสามแยกจุดกลับรถด้วย

นอกจากนี้ นายสุธรรม กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาไม้ไผ่ อำเภอทุ่งสง ถึงปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง บริเวณสี่แยกวังขรี เส้นทางหลวงหมายเลข 4116 ช่วงอำเภอบ่อน้ำร้อน กม.ที่ 2+960 ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักมุ่งหน้าสู่ อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อมุ่งหน้าต่อจังหวัดกระบี่ เส้นทางสายนี้มีพี่น้องใช้สัญจรเป็นจำนวนมาก มีทั้งโรงเรียนวัดดงขรี และร้านสะดวกซื้อ โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมามีหมู่บ้านจัดสรรทยอยขึ้นบริเวณแห่งนี้หลายโครงการ ทำให้มีการจราจรคับคั่ง ส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตนขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 2 กรมทางหลวงคมมนาคม เพื่อเร่งให้ติดตั้งสัญญาณไฟจราจรสองจุดนี้ อย่างเร่งด่วนด้วยครับ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2566

“อัครแสนคีรี”แนะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขุดลอกเขื่อนลำปะทาว กำจัดตะกอนดิน เพิ่มความจุในเขื่อน ป้องกันน้ำท่วม จ.ชัยภูมิ

,

“อัครแสนคีรี”แนะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขุดลอกเขื่อนลำปะทาว กำจัดตะกอนดิน เพิ่มความจุในเขื่อน ป้องกันน้ำท่วม จ.ชัยภูมิ

วันที่ 22 ส.ค.2566 ที่รัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)มอบหมายให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร.รับหนังสือจากสหพันธ์ครูแสะบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย โรงเรียนบ้านหันเชียงเทียน ตำบลเขวา อำเภอเมืองจังหวัดมหาสารคาม ภายใต้การประสานงานโดยนายปรีดา บุญเพลิง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคครูไทยเพื่อประชาชน

สำหรับโดยหนังสือดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ ขอให้คณะกรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)พิจารณามติก.ค.ศ.ที่คลาดเคลื่อนเพื่อเยียวยาผู้ส่งผลงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการว13/2556 น้ำสู่การพิจารณารับรองคุณสมบัติข้ารับการประเมิน โดยการเปิดประชุม ก.ค.ศ.

ทั้งนี้ ในรายละเอียดหนังสือ ยังอ้างถึง
1. หนังสือที่ศธ 0206.3/ว(23 สิงหาคม 2566 )นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวและขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า โดยเขื่อนลำปะทาวซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทน สังกัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งปัจจุบันเขื่อนลำปะทาวประกอบไปด้วย เขื่อนบนและเขื่อนล่าง ตั้งอยู่บนเขาของจังหวัดชัยภูมิ เขื่อนด้านบนจะอยู่ทางซ้าย เขื่อนด้านล่างจะอยู่ด้านขวา เป็นตัวผลิตไฟฟ้า เป็นเครื่องที่ตั้งอยู่ตีนเขา กรณีผลิตไฟฟ้าจะต้องปล่อยน้ำลงมาจากบนเขา ส่งไปที่ตัวเครื่องเจนเพื่อผลิตไฟ แล้วก็ป้อนไฟเข้าระบบ ในส่วนของเครื่องเจนเองจะอยู่ตรงตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอแก่งคล้อ หลังจากที่มีการสร้างเขื่อนนี้ มีการผลิตไฟฟ้า มีการปล่อยน้ำลงมา ก็จะได้ประโยชน์สองเรื่องหลักๆ เรื่องแรกคือเรื่อง ไฟฟ้าที่ได้ใช้ เรื่องที่ 2 คือ เกษตรกรที่อยู่ในเขตนาหนองทุ่มจะได้ใช้น้ำในการปล่อยน้ำลงมา เพื่อผลิตไฟฟ้า

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้เขื่อนลำปะทาว กำลังพบเจอปัญหาวิกฤติ หลักๆ คือการที่ไม่สามารถเก็บน้ำในเขื่อนได้ ปัจจุบันเขื่อนลำปะทาวเขื่อนบน ฃสามารถเก็บน้ำได้ 44 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนล่างกักเก็บน้ำได้ประมาณ 14 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่หลังจากสร้างใช้ระยะเวลานานยังไม่มีการขุดลอกในเขื่อน ทำให้เกิดปัญหา คือทำให้มีตะกอนดินสะสมมหาศาลจากการสำรวจพบว่ามีอยู่หลายล้านคิว ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมหรือเกิดเหตุ ช่วงพายุเข้ามาก็จะทำให้น้ำที่อยู่ในเขื่อนไหลทะลักและเข้าท่วมจังหวัดชัยภูมิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทศบาลเมือง

“ผมมีข้อเสนอ 2 ข้อ ข้อแรกคือ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวทั้งเขื่อนบนและเขื่อนล่าง ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับคือ ได้กำจัดตะกอนดิน เพิ่มความจุในเขื่อน และสามารถขยายกำลังผลิตไฟฟ้าได้ เพราะมีน้ำไว้ผลิตไฟมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันปัญหาน้ำไหลไปท่วมในตัวจังหวัดชัยภูมิ เมื่อเราเก็บน้ำได้มากขึ้นแล้ว ปัญหาน้ำที่จะล้นก็จะน้อยลง”

ข้อ 2 เพิ่มกำลังการผลิตไฟ โดยการติดตั้งเครื่อง Generator ในพื้นที่ตำบลโคกกุงซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับ ตำบลนาหนองทุ่ม จุดผลิตไฟเดิม และโดยตำบลโคกกุงนั้นเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ซึ่งเกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากน้ำที่ปล่อยลงมาเพื่อผลิตไฟ มีตัวอย่างให้เห็นที่ ตำบลนาหนองทุ่ม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” มอบหมาย “เลขาฯธรรมนัส” รับหนังสือจากสหพันธ์ครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ ขอให้ก.ค.ศ.พิจารณามติ ก.ค.ศ.ที่คลาดเคลื่อนเพื่อเยียวยาผู้ส่งผลงานตามหลักเกณฑ์

,

“พล.อ.ประวิตร” มอบหมาย “เลขาฯธรรมนัส” รับหนังสือจากสหพันธ์ครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ ขอให้ก.ค.ศ.พิจารณามติ ก.ค.ศ.ที่คลาดเคลื่อนเพื่อเยียวยาผู้ส่งผลงานตามหลักเกณฑ์

วันที่ 22 ส.ค.2566 ที่รัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)มอบหมายให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร.รับหนังสือจากสหพันธ์ครูแสะบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย โรงเรียนบ้านหันเชียงเทียน ตำบลเขวา อำเภอเมืองจังหวัดมหาสารคาม ภายใต้การประสานงานโดยนายปรีดา บุญเพลิง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคครูไทยเพื่อประชาชน

สำหรับโดยหนังสือดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ ขอให้คณะกรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)พิจารณามติก.ค.ศ.ที่คลาดเคลื่อนเพื่อเยียวยาผู้ส่งผลงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการว13/2556 น้ำสู่การพิจารณารับรองคุณสมบัติข้ารับการประเมิน โดยการเปิดประชุม ก.ค.ศ.

ทั้งนี้ ในรายละเอียดหนังสือ ยังอ้างถึง
1. หนังสือที่ศธ 0206.3/ว13 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2556
2. หนังสือที่ศธ 0206.3/ 1 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559
3. หนังสือที่ศธ 0206.3/0174 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563
หนังสือที่ศธ 04009/ว1216 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563
5. หนังสือที่ศธ 04112.01272/47 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2566
6. หนังสือที่ศธ 04112.01272/78 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2566
7. หนังสือที่นร 0105.04/419/24 ลงวันที่ 25 เมษายน 2566
8. หนังสือที่ศธ 0206.3/822 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2566
9. หนังสือที่ศธ 0206.3/840 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2566

ที่ต 0411201272/140

ทั้งนี้ภายหลังรับหนังสือดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส ได้รับปากจะนำความเดือดร้อนของสหพันธ์ครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย โรงเรียนบ้านหันเชียงเทียน ตำบลเขวา อำเภอเมืองจังหวัดมหาสารคาม นำเรียนต่อพล.อ.ประวิตร เพื่อพิจารณาแนวทางให้หน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไขปัญหาโดยเร็ว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 สิงหาคม 2566

“ชัยวุฒิ” นำสส.โชติวุฒิ พปชร. รุดลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัยไฟไหม้ตลาด 100 ปี อินทร์บุรี ประสานหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ ลดผลกระทบประชาชน

,

“ชัยวุฒิ” นำสส.โชติวุฒิ พปชร. รุดลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัยไฟไหม้ตลาด 100 ปี อินทร์บุรี ประสานหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ ลดผลกระทบประชาชน

วันนี้ (20 ส.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส. จ.สิงห์บุรี เขต1 ได้เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนที่ประสบเหตุอัคคีภัย เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ในช่วงค่ำที่ผ่านมาในตลาดอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ประสานทางจังหวัดในการเข้าดูแลความช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัย

“เหตุการณ์ครั้งนี้พบว่า มีผู้ประสบอัคคีภัย 34 หลังคาเรือน ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้เข้าช่วยเหลือในการระงับเหตุ และบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนหาสาเหตุ การเยียวยาในอนาคต ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เข้าช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งตลาดแห่งนี้ เป็นตลาดสด เปิดในช่วงเช้า เป็นย่านชุมชนเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี จำเป็นอย่างยิ่งต้องหาแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำในอนาคตต่อไป”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 สิงหาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร”ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง ประธานกรรมการ 8 ด้าน ขับเคลื่อนนโยบายการทำงานพรรคตามยุทธศาสตร์ให้สัมฤทธิ์ผล

,

“พล.อ.ประวิตร”ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง ประธานกรรมการ 8 ด้าน
ขับเคลื่อนนโยบายการทำงานพรรคตามยุทธศาสตร์ให้สัมฤทธิ์ผล

เมื่อวันที่ 16 ส.ค.พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามในคำสั่งพรรคพลังประชารัฐ ที่ 116/2566 แต่งตั้งประธานกรรมการด้านต่างๆ ภายใต้คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของพรรค รวมถึงนโยบายและแนวทางที่พรรคกำหนด ให้สัมฤทธิ์ผลและสอดประสานไปในทิศทางเดียวกัน

โดยอาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ.2561 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 5 พ.ศ.2566 ข้อ 17(1) (จ) (ช) โดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย

1.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นประธานกรรมการด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์
2.นายอุตตม สาวนายน เป็นประธานกรรมการด้านนโยบายและการปฏิรูปเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
3.นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เป็นประธานกรรมการด้านวิชาการ
4.นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานกรรมการด้านกฎหมาย
5.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นประธานกรรมการด้านความสัมพันธ์องค์กรและการต่างประเทศ
6.นางสาวตรีนุช เทียนทอง เป็นประธานกรรมการด้านกิจกรรมสัมพันธ์
7.พลเอกณัฐ อินทรเจริญ เป็นประธานกรรมการด้านสื่อสารและประชาสัมพันธ์
8.พลตำรวจเอกธรรมศักดิ์ วิชชารยะ เป็นประธานกรรมการด้านประสานงานและอำนวยการ

สำหรับองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการแต่ละคณะ ให้ประธานกรรมการฯพิจารณาจัดทำร่างบัญชีรายชื่อจาก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค สมาชิกพรรคและผู้ทรงคุณวุฒิที่เหมาะสม พร้อมทั้งพิจารณากำหนดหน้าที่และอำนาจ ที่สมควรได้รับมอบหมาย ให้รับผิดชอบดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับภารกิจ เพื่อเสนอต่อหัวหน้าพรรคพิจารณาออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการด้านต่างๆ ต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 สิงหาคม 2566