โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: พรรคพลังประชารัฐ

“รมว.ศึกษา” เร่งหากลไกลดภาระหนี้ครู เล็งปรับ เกณฑ์ดบ.-ดึงเงินอนาคตช่วย

, ,

“รมว.ศึกษา” เร่งหากลไกลดภาระหนี้ครู เล็งปรับเกณฑ์ดบ.-ดึงเงินอนาคตช่วย

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ที่ประชุมหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยต้องดึงสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเข้ามาช่วยเหลือ เพราะครูกว่า 60% เป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ดังนั้นสหกรณ์ออมทรัพย์ครูถือเป็นเจ้าหนี้ที่ใหญ่ที่สุด ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี รับหน้าที่ดูแลและช่วยเหลือหนี้สินข้าราชการทั้งระบบ ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ จะเป็นตัวกลางที่เข้าไปพูดคุยกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ครู ขณะเดียวกัน ศธ.จะกลับมาดูรายละเอียดต่างๆ เพื่อปรับหลักเกณฑ์ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ ศธ.จะเร่งแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด เพื่อให้ครูมีเงินเดือนเหลือเงินใช้ และสามารถอยู่ได้

นายสุทธิชัย จรูญเนตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าศธ. กล่าวว่า ที่ประชุมหารือถึงเครื่องมือที่จะใช้ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู พร้อมกับวิเคราะห์ว่าจะสามารถใช้ได้จริงมากน้อยแค่ไหน เช่น การลดดอกเบี้ยเงินฝาก และดอกเบี้ยเงินกู้ หากทำการลดดอกเบี้ยแล้วจะช่วยแบ่งเบาภาระของครูได้อย่างไรบ้าง หรือนำเงินในอนาคตของครู เช่น เงินค่าหุ้นที่อยู่ในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู เงินบำเหน็จตกทอด และเงินสะสมกองทุนบำเหน็จข้าราชการ (กบข.) เป็นต้น มานำเงินส่วนนี้มาลดยอดหนี้ได้หรือไม่ เพื่อทำให้ครูผ่อนชำระได้คล่องตัวมากขึ้นแทนที่จะมานั่งจ่ายเงินกู้จำนวนมาก และการตัดเงินเดือน จะต้องปรับเกณฑ์อย่างไรเพื่อไม่ให้ครูได้รับความเดือดร้อน เช่น อาจจะตัดเฉพาะยอดหนี้ของครู แต่ไม่ตัดยอดในส่วนอื่นๆ เป็นต้น

“รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ต้องการเร่งแก้ปัญหาหนี้สินครูให้เร็วที่สุด พร้อมกับเน้นย้ำว่าต้องรีบจัดทำมาตรการลดหนี้สิ้นครูให้มีความชัดเจน และนำเครื่องมือที่หารือกันวันนี้ หากเห็นว่าเครื่องมือไหนที่มีความพร้อม มีประสิทธิภาพ ให้รีบนำไปปฏิบัติใช้ทันที นอกจากนี้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ได้รายงานแนวทางแก้หนี้สินให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี รับทราบเป็นระยะ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจสอบและเห็นว่า ขอให้ศธ.เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินครูโดยเร็ว” นายสิทธิชัย กล่าว

นายสิทธิชัย กล่าวต่อว่า เมื่อเร็วๆนี้ ตนได้หารือร่วมกับผู้บริหารธนาคารออมสิน เรื่องแก้ไขปัญหาหนี้สินครูทั้งระบบ ซึ่งธนาคารออมสินยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยหลังจากนี้คณะทำงานแก้ไขปัญหา
หนี้สินครูฯ จะเร่งเข้าไปเจรจาหน่วยงานที่ปล่อยเงินกู้ให้ครู เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ว่าจะไปลดค่าใช้จ่ายให้อย่างไร และทางธนาคารออมสินจะเข้าไปช่วยเหลืออย่างไร เพื่อให้สหกรณ์ลดดอกเบี้ยให้ครูต่อไป ส่วนความคืบหน้าโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบเป็นฐาน ในระยะที่ 1 มานำร่งแก้ไขปัญหาครู ขณะนี้มีสหกรณ์ออมทรัพย์ครู เข้ารวมโครงการ 20 แห่ง มีสมาชิกทั้งหมดเกือบ 200,000 คน และขนาดนี้อยู่ระหว่างเปิดรับสมัครสหกรณ์ออมทรัพย์ ในระยะ 2 คาดว่าจะมีสหกรณ์ออมทรัพย์ สนใจเข้าร่วมประมาณ 30-40 แห่ง คาดว่าหากมีสหกรณ์ออมทรัพย์ครู เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น ภายใน 2 เดือนนี้ จะเห็นผลการแก้ไขปัญหา เช่น ครูมีสภาพคล่องในการชำระหนี้อย่างไร ครูมียอดหนี้ลดลงมาอย่างไร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ต่อไปคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ จะเร่งทงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาหนี้สินครูต่อไป คาดว่าจะสามารถ MOU กับสหกรณ์ออมทรัพย์ในเร็วๆนี้

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 2 พฤศจิกายน 2564

“ตรีนุช” ลงพื้นที่สมุทรสาคร ตรวจโรงเรียนรับเปิดเทอม 2/2564

, ,

“ตรีนุช” ลงพื้นที่สมุทรสาคร ตรวจโรงเรียนรับเปิดเทอม 2/2564 ย้ำ ผอ.-ครู เคร่งครัด 6 มาตรการหลัก – 6 มาตรการเสริม – 7 มาตราเข้ม ชี้เราต้องอยู่กับโควิด-19 ให้ได้

วันนี้ (1 พ.ย.) ที่จังหวัดสมุทรสาคร นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เป็นวันแรก ที่โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย ซึ่งจัดการเรียนการสอนแบบ On Site และโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ซึ่งจัดการเรียนการสอนรูปแบบ On Line

นางสาวตรีนุช กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เชื่อมั่นว่าการเรียนที่ดีที่สุด คือ การที่นักเรียนได้มาเรียนที่โรงเรียน หรือ On Site ขณะเดียวกันเราต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 วันนี้ตนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาในจังหวัด
สุมทรสาคร ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง โดยโรงเรียนสุมทรสาครวิทยาลัย เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียน 3,034 คน ทางโรงเรียนให้นักเรียนแบ่งกลุ่มมาเรียน ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งที่ ศธ.ออกมาตรการเพื่อให้เด็กรักษาระยะห่าง และ วันนี้ก็เป็นวันแรกที่นักเรียนได้มาเรียนแบบ On Site โดยนักเรียนทุกคนได้รับวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 เข็มแล้ว ส่วนครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับวัคซีนมากกว่า 90%

“ศธ.เน้นย้ำว่า แม้ครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา จะได้รับวัคซีนแล้ว แต่วัคซีนเป็นเพียงตัวช่วยที่ทำให้เมื่อรับเชื้อแล้วลดอัตราการเสียชีวิต และไม่ป่วยหนัก ดังนั้นที่สำคัญโรงเรียนต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ในข้อกำหนด 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตราเข้มสำหรับสถานศึกษาอย่างเคร่งครัด เช่น เว้นระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ใช้เจลแอลกอฮอล์ คัดกรองวัดไข้ ตลอดจนเข้มงวดเรื่องแผนเผชิญเหตุหากพบเด็ก หรือ บุคลากรในโรงเรียนมีอาการหรือติดเชื้อ ต้องมีกระบวนการ มีแผนรองรับ เช่น การสุ่มตรวจหาเชื้อด้วย ATK เป็นต้น ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุมทรสาคร ยืนยันว่าพร้อมจะช่วยเหลือโรงเรียนในพื้นที่โดยจะร่วมมือกับสาธารณสุขจังหวัด เพื่อให้โรงเรียนในจังหวัดสุมทรสาคร เปิดเรียนอย่างปลอดภัย” รมว.ศธ.กล่าว

รมว.ศธ. กล่าวด้วยว่า แม้นักเรียนไม่ได้รับวัคซีนก็สามารถมาเรียนได้ ซึ่งขณะนี้มีผู้ปกครองยื่นความประสงค์ให้ลูกฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น คาดว่าเพราะผู้ปกครองมั่นใจมากขึ้น ทั้งนี้ ศธ.ไม่เร่งให้โรงเรียนเปิด
On Site ทั้งหมด แต่ ศธ.เน้นเรื่องความปลอดภัยของเด็กเป็นหลัก ถ้าโรงเรียนมีความพร้อมก็สามารถเปิดเรียน On Site ได้ ซี่งทราบว่า ขณะนี้มีโรงเรียนที่สอนระดับชั้นประถมศึกษาบางแห่งได้รับอนุญาตจากจังหวัดให้เรียน On Site วันที่ 5 พ.ย.นี้ และในวันที่ 15 พ.ย. ก็จะเปิด On Site เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้โรงเรียนเปิดเรียนรูปแบบ On Site แล้วก็ตาม ศธ.จะมีคณะกรรมการติดตาม ว่าเปิดเรียนแล้วมีประเด็นปัญหาอะไรบ้างเพื่อเข้าช่วยเหลือโรงเรียน โดยในภาคเรียนที่ 1/2564 ที่ผ่านมา ศธ.ได้ตั้งคณะทำงานคอยติดตามว่าการเรียน 5 รูปแบบที่ ศธ.กำหนดไว้ มีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาให้โรงเรียนด้วย นอกจากนี้ ศธ.มีคณะทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อติดตามมาตรการป้องกันโรค และร่วมกันทำแผนเผชิญเหตุให้โรงเรียนเตรียมรับมือด้วย

“ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจว่า ศธ.มีแผนเผชิญเหตุรองรับอยู่ ส่วนแผนฟื้นฟูความรู้ให้นักเรียน นั้น ดิฉัน
เน้นย้ำให้ครูทำความเข้าใจกับเด็ก เพื่อให้เด็กมีความสุขกับการเรียนก่อน พร้อมกับปรับพฤติกรรมให้เด็กด้วย เมื่อเด็กมีความพร้อมเรียนรู้ ก็ให้ครูค่อยๆเพิ่มวิชาความรู้เข้าไป และขอเน้นย้ำให้ครู ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัดเราต้องอยู่กับโควิด-19 ให้ได้”
นางสาวตรีนุช กล่าว

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 1 พฤศจิกายน 2564

พล.อ.ประวิตร ย้ำจุดยืนพรรคยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตริย์เป็นประมุข

, ,

พล.อ.ประวิตร ย้ำจุดยืนพรรคยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตริย์เป็นประมุข
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึง กรณีต่อข้อเสนอแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 และ มาตรา 116 เข้าไปพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร ว่า พรรค พปชร. มีเป้าหมายและจุดยืนในเรื่องของการ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่มุ่งการเดินหน้าแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง พรรคพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วนในสังคม แต่ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นสถาบันหลัก ธำรงไว้ ให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า
มาจนถึงทุกวันนี้

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 1 พฤศจิกายน 2564

เดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี ลงพื้นที่น้ำท่วม อำเภอบางปลาม้า ตำบลวัดโบสถ์

, ,

หลายพื้นที่ที่ตอนนี้ระดับน้ำยังท่วมสูงอยู่ เช่น อำเภอบางปลาม้า ตำบลวัดโบสถ์ ที่เดียร์ไปลงพื้นที่วันนี้ระดับน้ำยังสูงอยู่ที่ 2 เมตรมาเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว ขอเป็นกำลังใจและขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่

#เดินหน้าทำงาน #น้ําท่วม64

ที่มา : เดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี
เมื่อวันที่ : 29 ตุลาคม 2564

มูลนิธิ ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้าช่วยเหลือ “เด็กหญิงถูกข่มขืน” พร้อมสนับสนุนการศึกษาสูงสุด

, ,

ผมจะส่งเด็กคนนี้เรียนให้จบถึงชั้นปริญญาตรีเป็นอย่างน้อยและจะส่งเสริมให้เรียน ปริญญาโทและเอกต่อไป หากเขาต้องการ เพื่อให้น้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเป็นคนที่ดีของสังคมและเพื่อชาติบ้านเมืองสืบต่อไป

เนื่องจากน้องย้ายออกมาอยู่ข้างนอกบ้านและพ่อแม่เลิกรากัน ประกอบกับไม่มีกำลังในการส่งให้น้องเรียนหนังสือ ทำให้ตอนนี้น้องยังเรียนไม่จบ ป.6 เพราะหยุดเรียนหนังสือมากกว่า 1 ปี น้องได้ผ่านเรื่องราวเลวร้ายมามากแล้วหลังจากนี้จะเป็นฟ้าหลังฝนของเขา น้องจะได้รับโอกาสที่ดีจากมูลนิธิ ธรรมนัส พรหมเผ่า และจะมีชีวิตตามที่เด็กคนหนึ่งควรจะได้รับ เท่าที่คุยกับเขาความฝันของน้องคืออยากเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ( แอร์โฮสเตส ) ลุงธรรมนัส พรหมเผ่า จะรอดูวันนั้น ขอให้ทำให้สำเร็จตามฝันที่ต้องการครับ

ที่มา : facebook.com/ThamanatPhayao
ออกอากาศเมื่อวันที่ : 29 ตุลาคม 2564

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลงนามสั่ง ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ประชุมกรรมการบริหารฯ

,

ลงนามนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ พฤหัสบดี 28 ตุลาคมนี้

วันที่ 27 ตุลาคม 2564 มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)​ ได้ลงนามนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพร้อมทั้งหัวหน้าภาคของพรรค ในวันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคมนี้ เวลา 12.30 น. ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ อาคารรัชดา วัน

“ท่านหัวหน้าพรรคมีความเป็นห่วงในกระแสข่าวต่าง ๆ ที่คลาดเคลื่อนในขณะนี้ จึงเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พร้อมทั้งหัวหน้าภาคด้วยในคราวเดียวกัน เพื่อทำความเข้าใจที่ตรงกัน”
แหล่งข่าวกล่าว

ที่มา : www.prachachat.net
เมื่อวันที่ : 28 ตุลาคม 2564

“เลขาฯธรรมนัส” ลงพื้นที่ให้กำลังใจคนเมืองนนท์ เร่งดูแลน้ำท่วม-มอบถุงยังชีพ

,

“เลขาฯธรรมนัส” ลงพื้นที่ให้กำลังใจคนเมืองนนท์ เร่งดูแลน้ำท่วม-มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อน

วันที่ 15 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 9.30น. ณ บริเวณวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ จังหวัดนนทบุรี

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมคณะลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในชุมชนวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ จังหวัดนนทบุรี โดยมี นางเจริญ เรี่ยวแรง ส.ส. เขต 1 พปชร.จังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย อดีต ส.ส.นายฉลอง เรี่ยวแรง และทีมงาน รวมถึง นายทศพล เพ็งส้ม อดีตผู้สมัคร เขต 5 พปชร.นนทบุรี และนายจำลอง บัวสา รองนายกฯอบจ.นนทบุรี ให้การต้อนรับ พร้อมรายงานสถานการณ์น้ำในจังหวัดนนทบุรี

ทั้งนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส ได้กล่าวระหว่างพบปะกับชาวบ้านในชุมชนวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ ว่า วันนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ตนเองได้ลงมาในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีส.ส.เจริญ และ อดีต ส.ส.ฉลอง และนายทศพล ตลอดจนรองนายกฯอบจ. จังหวัดนนทบุรี และสมาชิก อบจ.หลายท่านมาร่วมต้อนรับ และยืนยันว่า การลงพื้นที่วันนี้ ตนมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนไม่ใช่เป็นเรื่องของการเมือง แต่มาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้

“ขณะนี้มีหลายจังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี และเมื่อวาน ผมได้เดินทางไปจังหวัดขอนแก่นมาแล้ว สิ่งที่เป็นผลกระทบจากน้ำท่วมทิ้งไว้ คือความเสียหายและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งจุดนี้ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่ไหลผ่านลงมา แต่อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านรองนายกฯ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เป็นประธานการบริหารจัดการน้ำแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับน้ำทุกๆ กลุ่มที่ท่านกำกับดูแลอยู่ ให้บูรณาการดูแลแก้ไขปัญหาประชาชนอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เราเตรียมจัดการไปมากกว่านั้นคือในเรื่องของปัญหาภัยแล้งด้วย สำหรับในชุมชนนี้ ขั้นตอนจากนี้ไป จะเป็นเรื่องของการประสานงานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ในการเยียวยาให้พี่น้องประชาชน ที่เดือดร้อนต่อไปครับ” ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว

จากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส พร้อมคณะได้มอบถุงยังชีพและสิ่งของที่จำเป็น ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมกันนี้ยังได้มีการสำรวจบ้านเรือนและให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วย

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนเดินทางกลับ ถึงกรณีแต่งตั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคฯว่า ส่วนตัวเคารพการตัดสินใจของ พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่ตัดสินใจในเรื่องนี้ โดยยืนยันว่า การลงพื้นที่ของตนเองในช่วงนี้ ทุกครั้งไม่ใช่เป็นการวัดพลังอะไร จึงอยากให้ทำใจให้เป็นกลาง ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องการบ้าน ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านจนถึงเอกชน ต้องระดมกำลังไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และน้ำท่วม ต้องมองความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งตนเองลงพื้นที่ทุกวันในฐานะเป็นตัวแทน ส.ส. และเป็นแม่บ้านพรรค ไปในนามพรรคช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งตนทำทุกอย่างตามนโยบายที่หัวหน้าพรรคได้มอบหมาย ต้องช่วยประชาชนให้มากที่สุด ปัญหาต่างๆ ต้องนำเรียน เพื่อที่ว่าท่านหัวหน้าพรรคฯจะได้สั่งการช่วยเหลือทันท่วงที

สำหรับความพร้อมในเรื่องการเลือกตั้งนั้นเป็นธรรมชาติของการเมืองที่นักการเมืองจะเริ่มขยับเมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 การหาบุคคลที่จะเป็นผู้สมัครและสมาชิกของพรรค เป็นเรื่องของแกนนำแต่ละจังหวัด ส่วนกรณี พรรคอื่นๆ ได้เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค สำหรับพรรคพลังประชารัฐจะส่งใคร ตนไม่สามารถตัดสินใจโดยพละการได้ เรื่องนี้จะเป็นการตัดสินใจของสมาชิก กรรมการบริหารพรรค จากนั้นจะนำเสนอให้กับหัวหน้าพรรค เราต้องทำตามระบบต่อไป

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand
เมื่อวันที่ : 15 ตุลาคม 2564

“เลขาธรรมนัส” ลงพื้นที่ติดตามน้ำท่วม ช่วยเหลือชุมชนบ้านหนองหมู จ.สระบุรี

,

“เลขาธรรมนัส” ลุยน้ำช่วยเหลือชุมชนบ้านหนองหมู จ.สระบุรี พบหลายจุดเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเสนอหน่วยงานวางแผนป้องน้ำท่วมระยะยาว

“ธรรมนัส” ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านไม่มีหยุด! ล่าสุด นำทีมงาน ลุยช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ความเดือดร้อนประชาชน จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ชุมชนบ้านหนองหมู ตำบลบางโขมด อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี

วันที่ 12 ตุลาคม 2564 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ชุมชนบ้านหนองหมู ตำบลบางโขมด อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี โดยมี นายสมบัติ อ่ำนาคะ ส.ส.เขต2 พปชร.จังหวัดสระบุรี พร้อมคณะและตัวแทนเจ้าหน้าที่ส่วนปกครองท้องถิ่นให้การต้อนรับ ได้นั่งเรือท้องแบน นำถุงยังชีพ และยารักษาโรคจำเป็นเบื้องต้น ไปมอบให้ประชาชนใน พื้นที่ ม.1 จำนวน 53 ครัวเรือน ม.3 จำนวน 105 ครัวเรือน ม.4 จำนวน 81 ครัวเรือน ม.5 จำนวน 9 ครัวเรือน ม.6 จำนวน 2 ครัวเรือน ม.8.จำนวน 36 ครัวเรือน และ ม.9 จำนวน 257 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 543 ครัวเรือน

ทั้งนี้ได้รับรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ที่นอกจากปริมาณน้ำฝนตกหนักแล้ว ยังเกิดจากน้ำที่ไหลทะลักจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเริงราง หรือโครงการ R23 ใน อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ทำให้พี่น้องประชาชนสระบุรี ได้รับผลกระทบน้ำท่วมบ้านเรือน เป็นบริเวณกว้าง 3 อำเภอ คือ อ.บ้านหมอ อ.ดอนพุด และ อ.หนองโดน ซึ่งล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลง แต่ยังมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

“วันนี้ผมและทีมงาน ได้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ ทั้งถุงยังชีพจำเป็น และยารักษาโรค มาช่วยเหลือพี่น้องตำบลในหลายหมู่บ้าน ของตำบลบางโขมด อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมกันนี้ ยังได้รับฟังฟังปัญหาต่างๆของพี่น้องและนำไปประสานแก้ไขให้ความช่วยเหลือต่อไป จากการที่ผมได้มาเห็นสถานการณ์น้ำท่วมจริงในพื้นที่ รวมถึงที่ได้รับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนนั้น พบว่า ภาพรวมบริเวณตำบลบางโขมด เป็นจุดพื้นที่ลุ่มต่ำ สิ่งที่เราจะแก้ไข นอกจากช่วยเหลือเฉพาะหน้าเวลาน้ำท่วมแล้ว ยังต้องมีแผนแก้ไขในระยะยาวอย่างยั่งยืน เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมแบบนี้ซ้ำซากอีก ซึ่งผมมองว่า สถานการณ์ท่วมแบบนี้ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ลุ่มต่ำของจังหวัดต่างๆ จึงจะนำปัญหานี้ไปนำเสนอต่อหน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 12 ตุลาคม 2564

เยี่ยมคุณยายกัลยา เพื่อช่วย ส.ส. โอ๋ดูแลประชาชนในพื้นที่เพราะ ส.ส.โอ๋ ต้องกักตัว

, ,

เดียร์ได้ไปเยี่ยมคุณยายกัลยา เพื่อช่วย ส.ส. โอ๋ดูแลประชาชนในพื้นที่เพราะ ส.ส.โอ๋ ต้องกักตัว 14 วัน

วันนี้ประชาชนทุกคนกำลังพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ส.ส. ก็พยายามช่วยคนเดือดร้อนเท่าที่กำลังของตัวเองจะทำไหว พวกเราขอเป็นกำลังใจให้คุณยายที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัวไปถึง 2 คน
ในระยะเวลาอันสั้น เหลือเพียงหลานชายคนเดียวที่เป็นที่พึ่ง แต่ในเวลานี้หลานชายก็ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เหลือทิ้งไว้แต่เพียงคุณยายให้ใช้ชีวิตลำพังภายในบ้านด้วยความหวาดกลัว การจากไปของคนที่รักและผูกพันที่ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีเวลาตั้งตัว ไม่มีโอกาสให้ได้ทำใจกับพายุในชีวิตที่ถาโถมเข้ามา

แม้ไม่อาจทดแทนความรู้สึกของความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนสำคัญในชีวิต แต่เดียร์ก็ขอเป็นหนึ่งกำลังใจที่ส่งไปถึงคนไทยทุกๆคนที่กำลังเผชิญความเสียใจ และความเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้กับวิกฤตในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ จิตอาสาทุกๆคน ให้พวกเราเข้มแข็งร่วมกันฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ด้วยกันค่ะ

และขอขอบคุณ ส.ส.ฐิติภัสร์ โอ๋ โชติเดชาชัยนันต์ ที่แม้ต้องกักตัว 14 วันแต่ก็ไม่เคยหยุดทำงาน ช่วยคนในพื้นที่เหมือนเช่นในกรณีคุณยายกัลยานี้

#เพื่อนช่วยเพื่อน #คนไทยไม่ทิ้งกัน

ที่มา : เดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี
เมื่อวันที่ : 15 กรกฎาคม 2564

การตรวจเชิงรุกโควิด-19 ให้กับพี่น้องในพื้นที่หนองจอกเป็นครั้งที่ 6

, ,

ที่วัดลำพะอง เขตหนองจอกวันนี้ มีการตรวจเชิงรุกโควิด-19 ให้กับพี่น้องในพื้นที่หนองจอกเป็นครั้งที่ 6 จากการประสานงานของ ส.ส.ศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม.เขตหนองจอก เพื่อช่วยให้ประชาชนได้มีโอกาสตรวจโรคโควิด-19 อย่างทั่วถึง ในการตรวจเชิงรุกนี้หากพบผู้ที่ติดเชื้อ จะให้ผู้ป่วยไป Swap อีกรอบ แล้วพบแพทย์เพื่อติดตามอาการและจ่ายยา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยสีเขียว ประมาณ 90% สามารถทำ
Home Isolation ได้ ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่มาช่วยในครั้งนี้

เดียร์อยากจะเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกทม. ให้เร่งตรวจคัดกรองเชิงรุก คัดแยก
ผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงออกจากครอบครัวและนำผู้ติดเชื้อเข้าระบบเร็วที่สุด

#เราจะผ่านวิกฤติไปด้วยกัน #สู้โควิดไปด้วยกัน #เดินหน้าทำงาน

ที่มา : เดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี
เมื่อวันที่ : 10 สิงหาคม 2564