โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวกิจกรรมพรรค

ส.ส. พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ในฐานะโฆษกพรรค มอบกระเช้าร่วมแสดงความยินดี

,

ส.ส. พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.กทม.เขต2 ปทุมวัน บางรัก สาทร พร้อมด้วย ส.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และส.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นตัวแทนพรรค พปชร. มอบกระเช้าร่วมแสดงความยินดีในโอกาสมติชน ก้าวสู่ปีที่ 45 แก่ผู้บริหารในเครือมติชน นำโดย นายปราบ บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์มติชนและข่าวสด

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 7 มกราคม 2565

‘พล.อ.ประวิตร’ ถกจัดทำงบบูรณาการปี 66 ย้ำต้องโปร่งใส คุ้มค่า เพื่อประโยชน์ปชช.

,

‘พล.อ.ประวิตร’ ถกจัดทำงบบูรณาการปี 66 ย้ำต้องโปร่งใส คุ้มค่า เพื่อประโยชน์ปชช.เดินหน้าขับเคลื่อนแผนจัดการทรัพยากรน้ำ 3 แผนงาน เพิ่มประสิทธิภาพเป็นรูปธรรม

เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอเร้นซ์

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 เห็นชอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2566 รวม 11 แผนงาน และมอบหมายให้ผมเป็นผู้กำกับแผนงานบูรณาการ จำนวน 3 แผนงาน ต่อมา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการ รองรับการดำเนินการดังกล่าว โดยมอบหมายให้ผม เป็นประธาน คณะที่ 1 ซึ่งมี 3 คณะย่อย ได้แก่ คณะที่ 1.1 การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะที่ 1.2 การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำคณะที่ 1.3 การบูรณาการรัฐบาลดิจิทัล โดยแต่ละเรื่องได้มีการกำหนดหน่วยงานเจ้าภาพหลัก เป็นผู้ประสานและบูรณาการจัดทำงบประมาณ รองรับการขับเคลื่อนงานให้บรรลุตามเป้าหมายและตัวชี้วัดที่ยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายรัฐบาล และแผนหลัก กำหนดไว้ การประชุมในวันนี้ จึงเป็นการพิจารณากรอบงบประมาณตามแผนงานบูรณาการฯ ทั้ง 3 แผนงาน ก่อนส่งให้สำนักงบประมาณดำเนินการต่อไป ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คณะกรรมการทุกท่านจะร่วมกันพิจารณาเพื่อจัดสรรงบประมาณให้เกิดความคุ้มค่า และขับเคลื่อนงานให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้ สมช. กอ.รมน. และ ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพกำกับการทำงานของหน่วยงานภายใต้แผนงานบูรณาการฯ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้ดูความเชื่อมโยงกับการขับเคลื่อนงานภายใต้กรอบงบประมาณอื่น ๆ ทั้งงบประมาณตามภารกิจหน่วยงาน งบประมาณยุทธศาสตร์ งบประมาณเชิงพื้นที่ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนที่เกื้อหนุนกันและนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการทำให้ภาคใต้สงบสุขร่มเย็นต่อไป ในด้านการจัดการทรัพยากรน้ำเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานในหลายกระทรวง จึงมีความจำเป็นที่ทุกหน่วยงาน จะต้องบูรณาการกันอย่างแท้จริง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรน้ำได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรมลดความซ้ำซ้อน และใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถขับเคลื่อนแผนแม่บทฯน้ำ ให้บรรลุได้ตามเป้าหมายขณะนี้ เรายังต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ดังนั้น ขอให้ทุกหน่วยงานวางแผนการทำงานให้รัดกุม เพื่อเร่งรัดการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย ใช้จ่ายงบประมาณอย่างประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด ด้านแผนงานบูรณาการรัฐบาลดิจิทัลจะช่วยให้การดำเนินงานด้านรัฐบาลดิจิทัลของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันพัฒนารัฐบาลดิจิทัลให้ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรมต่อไป

#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 6 มกราคม 2565

30 ม.ค.นี้ เข้าคูหาไปใช้สิทธิ์ของท่าน สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ พลังประชารัฐ เบอร์ 7

,

30 ม.ค.นี้ เข้าคูหาไปใช้สิทธิ์ของท่าน

สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ พลังประชารัฐ เบอร์ 7
ขอโอกาสสานงานต่อดูแลพี่น้องหลักสี่-จตุจักร

#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 6 มกราคม 2565

กางผลงานโดดเด่น ”พล.อ.ประวิตร” ในรอบปี 2564 ลุยพื้นที่แก้ปากท้อง

,

กางผลงานโดดเด่น”พล.อ.ประวิตร”ในรอบปี2564 ลุยพื้นที่แก้ปากท้อง-ดันศก.ฐานราก-ลดเหลื่อมล้ำ

วันที่ 31 ธันวาคม 2564 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร) ภายใต้การนำของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรค ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้กับประชาชน จากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ เพื่อรับฟังความเดือดร้อน และอุปสรรคที่เกิดขึ้น ในแต่ละด้าน นำไปสู่การผลักดันภายใต้การดำเนินของรัฐบาล

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ระบุว่า การดำเนินงานตลอดปี 2564 ของ พปชร. แม้ว่าไทยจะต้องเผชิญความยากลำบากจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันในการป้องกันและดูแลเพื่อประคับประคองภาวะเศรษฐกิจโดยตลอดปี พล.อ.ประวิตร ได้รับฟังอุปสรรค และแนวทางการแก้ไขปัญหาจากประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของไทยและนำมาสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนที่ดีขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ตลอดจนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากที่จะมีส่วนสำคัญในการวางโครงสร้างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็งเพื่อเป็นฐานรากที่มั่นคงในการสนับสนุนเศรษฐกิจในปี 2565 ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

สำหรับผลงานในรอบปี 2564 ที่สำคัญที่พล.อ.ประวิตรได้ดำเนินการได้แก่ เดือนมกราคม ได้วางแนวทางการผลักดันและพัฒนากรุงเทพฯ สู่มหานครทันสมัยระดับโลก เดือนกุมภาพันธ์ ได้เข้าไปแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจ ดูแลคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนบริเวณชายแดนภาคใต้ เดือนมีนาคม ได้ลงพื้นที่หลายจังหวัดเพื่อเข้าไปรับฟังปัญหาและดำเนินการช่วยเหลือชาวบ้านให้น้ำเพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภคตลอดช่วงฤดูแล้ง เดือนเมษายน เร่งดูแลชาวบ้านมอบนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ จัดสรรที่ดินทำกินช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ยากไร้

ในเดือนพฤษภาคม ได้ยกระดับการป้องกันและเข้มงวดการลักลอบ เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด-19 เดือนมิถุนายน มีการมอบอุปกรณ์ ป้องกันโควิด ให้กับพี่น้องประชาชน เดือนกรกฎาคม ได้เร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิดทุกพื้นที่ เดือนสิงหาคม ได้คุมเข้มเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคใต้ตอนล่าง พร้อมแก้ไขปัญหาช่วยเหลือ ประชาชนในทันที เดือนกันยายน ได้นำคณะและหน่วยงานเกี่ยวข้อง ติดตามความพร้อมของการบริหารจัดการน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำพร้อมสั่งการให้หน่วยงานลงพื้นที่ดูแลความเดือดร้อนของประชาชน

ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี โดยในเดือนตุลาคม เริ่มสั่งการให้มีการกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้มีการดำเนินการขั้นเด็ดขาด เดือนพฤศจิกายน ลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ตรวจเยี่ยมพื้นที่บึงบอระเพ็ด เพื่อนำมาสู่การวางแผนรอรับน้ำท่วมน่ำหลากในระยะยาว และในเดือนธันวาคมวางนโยบาย 11 ปี ฟื้นคลองแสนแสบ สร้างเขื่อนวางระบบบำบัดน้ำเสีย วางแผนบริหารด้านคมนาคม เพื่อการฟื้นฟูคลองแสนแสบในระยะยาว

#พปชร
#พลังประชารัฐ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 31 ธันวาคม 2564

รมว ตรีนุช เผยหลังปีใหม่บุคลากร ศธ.85% Work From Home 14 วัน

,

รมว ตรีนุช เผยหลังปีใหม่บุคลากร ศธ.85% Work From Home 14 วัน ลดความเสี่ยงสถานศึกษา

“ตรีนุช” ห่วง “โอมิครอน” แพร่ระบาดหลังเทศกาลปีใหม่ มอบปลัด ศธ.ออกประกาศบุคลากรสังกัด ศธ.85% Work From Home ต่อเนื่อง 14 วัน ย้ำโรงเรียนเปิดสอน on-site เคร่งครัดมาตรการความปลอดภัย 6-6-7 ลดความเสี่ยงโควิดในสถานศึกษา

วันนี้ (30 ธ.ค.) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันก็มีการแพร่ระบาด ของ “โอมิครอน” (Omicron) เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ประกอบกับในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นห้วงเวลาสำคัญที่จะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จัดงานตามประเพณีท้องถิ่นและทางศาสนา ที่มีการรวมกลุ่มบุคคลจำนวนมาก มีการเดินทางท่องเที่ยว ดังนั้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันการระบาดของโรคภายหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ ตนจึงมอบหมายให้ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิ​การ (ศธ.) ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของ ศธ.

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ประกาศ ศธ.ฉบับใหม่ล่าสุดลงวันที่ 30 ธันวาคมนี้ กำหนดให้บุคลากรในสังกัดและในกำกับของ ศธ.ปฏิบัติงานภายในที่พัก ( Work From Home) อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ตั้งแต่วันที่ 1-14 มกราคม 2565 โดยการปฏิบัติงานดังกล่าวต้องไม่กระทบกับภารกิจให้บริการแก่ประชาชน ส่วนผู้บริหารของ ศธ.ในระดับบริหารสูง ระดับบริหารต้น ระดับอำนวยการสูง และผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ให้ปฏิบัติงานภายในหน่วยงานต้นสังกัดตามปกติ , ให้หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดและในกำกับของ ศธ.กำกับควบคุมดูแลการปฏิบัติงานภายในที่พักของบุคลากรในเวลาราชการให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ บุคลากรที่ต้องเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะให้ปฏิบัติงานภายในที่พัก

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานศึกษาในสังกัด ศธ. ที่จัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนแบบ on-site ทุกแห่ง ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย 6-6-7 เพื่อลดความเสี่ยงโควิดในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด ซึ่งประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ คัดกรองวัดไข้ ลดการแออัด และทำความสะอาด , 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ )ดูแลตนเอง ใช้ช้อนกลางส่วนตัว กินอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้าออกโรงเรียน สำรวจตรวจสอบ และกักกันตัวเอง ส่วนแนวทาง 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา คือ 1.ประเมิน TSC+ และรายงานผลผ่าน MOE COVID อย่างต่อเนื่อง 2.Small Bubble ทำกิจกรรมแบบกลุ่มย่อย 3.จัดอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ 4.อนามัยสิ่งแวดล้อม ทั้งอากาศ ความสะอาด น้ำ ขยะ 5.School Isolation มีแผนเผชิญเหตุและซักซ้อม 6.Seal Route ดูแลการเดินทางจากบ้านไปกลับโรงเรียน 7. จัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา

“ การออกประกาศ Work From Home ของ ศธ.ครั้งนี้ เป็นมาตรการหนึ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่างๆ ที่อาจจะมีการแพร่ระบาดภายหลังที่มีวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ อย่างไรก็ตามช่วงเวลาวันหยุดในเทศกาลปีใหม่นี้ แม้รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยที่ลดลง แต่ดิฉันขอให้นักเรียน นักศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา และพี่ น้อง ประชาชนทุกคน ไม่ประมาท การ์ดไม่ตก ระมัดระวังการเดินทางไปร่วมกิจกรรมในสถานที่ต่างๆ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือสบู่ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ มีไข้ และไอจาม และคอยสังเกตอาการตนเองอยู่เสมอ” รมว.ศธ.กล่าว.

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 30 ธันวาคม 2564

“ตรีนุช”สนองพระราชดำรัสกรมสมเด็จพระเทพฯปรับการศึกษาหลังโควิด

,

“ตรีนุช”สนองพระราชดำรัสกรมสมเด็จพระเทพฯปรับการศึกษาหลังโควิด

“ตรีนุช” สนองพระราชดำรัสสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี น้อมนำการพัฒนาการศึกษาที่สมดุล 4 ด้าน มาปรับปรุงการพัฒนาเด็กและเยาวชนหลังโควิด-19 ขยายผลงาน กพด. สู่สถานศึกษาในสังกัด ศธ.

วันนี้ (29 ธ.ค.) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า จากการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายเรื่อง “การพัฒนาเด็กและเยาวชนหลังโควิด-19” ในการเป็นประธานการประชุมวิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร (กพด.) ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2564 ว่า การพัฒนาการศึกษาที่สมดุลมี 4 ด้าน คือ 1.พุทธิศึกษา หมายถึงวิชาการด้านต่างๆ 2.จริยศึกษา เรื่องของคุณงามความดี ความคิดดี ซึ่งจริยศึกษาที่สำคัญและต้องสอน คือ เรื่องความซื่อสัตย์ 3.หัตถศึกษา หรือ การศึกษาที่ใช้มือหยิบจับ การทำงานช่างต่าง ๆ และ 4.พลศึกษา เพื่อให้ร่างกายและสมองแข็งแรงมีกำลัง ไม่ใช่มีแต่ความรู้ไม่มีพลังก็ไม่มีประโยชน์ นั้น ตนได้น้อมรับกระแสพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน โดยได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) นำการพัฒนาการศึกษาที่สมดุลทั้ง 4 ด้าน มาพิจารณากำหนดไว้ในการปรับปรุงหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนทุกระดับ ทุกประเภท ซึ่งทั้ง สพฐ. และสอศ.กำลังดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรและการเรียนการสอนอยู่ในขณะนี้

“ ดิฉัน น้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ที่ทรงเน้นย้ำถึงการแก้ปัญหาเรื่องคนที่ฟังและพูดภาษาไทยไม่ได้ ที่ต้องหาวิธีการใหม่ๆมาฝึกให้เด็กอ่านเขียน และต้องเอาจริงเอาจังกว่าเดิม, การแก้ปัญหาครูขาดทักษะในการสอนออนไลน์ , การจัดการเรียนการสอนที่ต้องสอนให้เด็กเรียนรู้รอบด้าน มีทักษะชีวิต ทักษะการทำงาน โดยต้องออกแบบการสอนแบบปฏิบัติที่เน้นให้เด็กนักเรียนลงมือปฏิบัติด้วยนั้น มาพิจารณาปรับปรุงการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมนำสิ่งที่พระองค์ท่านทรงริเริ่มทำกับโรงเรียนในโครงการ กพด.มาขยายผลต่อในโรงเรียนสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เช่นเรื่องการใช้สื่อ 60 พรรษาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สำหรับระดับประถมศึกษา และสื่อ 65 พรรษาฯ สำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งมีอยู่ในถุงยังชีพเพื่อการศึกษาพระราชทานที่ช่วยได้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 เรื่องการสอนคุณธรรมจริยธรรมความซื่อสัตย์ ที่เน้นให้เด็กมีความซื่อสัตย์ ครูก็ต้องมีความซื่อสัตย์ด้วยนั้น ก็จะมีการปรับปรุงการวัดและประเมินผลให้หลากหลายเหมาะสมกับวิธีการสอน และมีการนิเทศการสอนด้วย “ นางสาวตรีนุช กล่าว

รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า จากที่ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้ส่งผลกระทบถึงอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ส่งผลให้โรงเรียนในสังกัด สพฐ.ซึ่งเป็นโรงเรียนในโครงการ กพด.ได้รับผลกระทบเกิดความเสียหายด้วยนั้น ตนได้มอบหมายให้ สพฐ.เร่งสำรวจความเสีหายและดูแลซ่อมแซมโดยด่วนแล้ว

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 29 ธันวาคม 2564

พปชร. เคาะชื่อ “สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ” สู้ศึกเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร

,

พปชร. เคาะชื่อ “สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ” สู้ศึกเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร หวังได้รับความไว้วางใจ ดูแลประชาชนต่อเนื่อง

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วันนี้กรรมการสรรหาพรรคพลังประชารัฐ โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค เป็นประธาน และได้นำเสนอชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหา ให้กับกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พิจารณา

ทั้งนี้ ในที่สุดกก.บห.ได้พิจารณา และมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นควรให้ นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ เป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 9 ของพรรค โดยมีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ กรรมการบริหารพรรค เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง

ด้านนายชัยวุฒิ ระบุ พรรคอยากจะขอความสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน ให้พรรค ได้มีโอกาสดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องของเสถียรภาพรัฐบาล และผลงานรัฐบาลในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาโรคระบาดโควิด-19 และมาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ พรรคพลังประชารัฐ เราก็ได้ดำเนินนโยบายอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ดังนั้น พรรคจึงหวังว่าจะยังคงได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตหลักสี่ และจตุจักร(แขวงเสนานิคม แขวงจันทรเกษม และแขวงลาดยาว) ต่อไป

#พรรคพลังประชารัฐ
#พปชร
#https://pprp.or.th

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 28 ธันวาคม 2564

ศธ.ชู”เด็กไทย ใจเป็นหนึ่ง” ฉลองวันเด็ก 8 ม.ค.65 แบบ“ออนไซต์-ออนไลน์”

,

ศธ.ชู”เด็กไทย ใจเป็นหนึ่ง”พร้อมจัดฉลองวันเด็ก 8 ม.ค.65 แบบ“ออนไซต์-ออนไลน์”

ศธ.พร้อมจัดกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 แบบออนไซต์-ออนไลน์ ในวันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 ภายใต้แนวคิด “เด็กไทย ใจเป็นหนึ่ง” ตามคำขวัญ “รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม” โดยกรุงเทพฯ จัดที่หอประชุมคุรุสภา พร้อมชวนเด็กๆ ร่วมเล่นเกมออนไลน์ ลุ้นรับของรางวัลส่งตรงถึงบ้าน

วันนี้ (27 ธ.ค.) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) แถลงข่าวจัดกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 และ กิจกรรมการมอบโล่รางวัลและประกาศนียบัตร แก่เด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ พร้อมรับโอวาทจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ภายใต้แนวคิดการจัดงาน “เด็กไทย ใจเป็นหนึ่ง” ตอนหนึ่งว่า ศธ.เป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อเด็กและเยาวชนไทยทั้งประเทศ ในการเสริมสร้างองค์ความรู้ และการพัฒนา ให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า และมีความสำคัญของประเทศ โดยยึดแนวปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561 – 2580 ) ในประเด็นที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ การพัฒนาเด็ก
สำหรับวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ตรงกับวันที่ 8 มกราคม 2565 ซึ่งการจัดกิจกรรมภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในขณะนี้ต้องเฝ้าระวังและดำเนินการภายใต้ความปลอดภัยของเด็กๆ โดยมี 2 กิจกรรมหลัก ดังนี้ กิจกรรมที่ 1. เป็นการนำตัวแทนเด็กและเยาวชนดีเด่น และนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นเด็กในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 250 คน เข้าเยี่ยมคาราวะและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี และรับโล่จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT ในช่วงเวลา 08.30 – 09.30 น. สำหรับเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ ในส่วนภูมิภาค ได้มอบหมายสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดจัดกิจกรรมการมอบโล่รางวัล โดยเรียนเชิญท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้มอบ ทั้งนี้ ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวให้เป็นไปตามมาตรการและข้อกำหนดของแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ส่วนกิจกรรมที่ 2 การจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 จัดในรูปแบบออนไซต์ พื้นที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้แนวคิดการจัดงาน “เด็กไทย ใจเป็นหนึ่ง” ตามคำขวัญ “รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม”ตั้งแต่เวลา 07.00-15.00 น. โดยมีบูธกิจกรรมจำนวน 8 บูธ และได้มีการเพิ่มช่องทางสำหรับน้องๆ หนู ๆ รับชม ร่วมเล่นเกมออนไลน์ลุ้นรับของรางวัล ซึ่งจะส่งตรงถึงบ้าน โดยการถ่ายทอดผ่านระบบออนไลน์ ด้วยโปรแกรม Zoom // Zoom https://us02web.zoom.us/j/86568404538 Meeting ID: Meeting ID: 865 6840 4538 และทางFacebook Fanpage ศธ.360 องศา

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติ ของกระทรวงศึกษาธิการ ปี 2565 จัดขึ้น ได้จัดงานภายใต้มาตรการความปลอดภัยที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)กำหนดตามมาตรการและแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยมีมาตรการ คือ ผู้ที่เข้าร่วมงานจะต้องวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจำนวน 2 เข็ม และแสดงผลตรวจ ATK ภายใน 72 ชั่วโมง หากไม่มีผลตรวจ ATK สามารถตรวจวัดทันทีโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้บริการ ณ บริเวณหน้าจุดจัดงาน

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 28 ธันวาคม 2564

“พล.อ.ประวิตร”มอบ สปก. 4-01 หนุนที่ทำกินเกษตรกรบ้านช่องโคพัฒนา

,

“พล.อ.ประวิตร”มอบ สปก. 4-01หนุนที่ทำกินเกษตรกรบ้านช่องโคพัฒนาร่วมเปิดป้ายหมู่บ้าน“พิมายอุดมสุข”เมืองโคราชเน้นวิถีเศรษฐกิจพอเพียง

“บิ๊กป้อม” นำคณะ พปชร. “ธรรมนัส-นฤมล” ลงพื้นที่โคราช พร้อมเปิดหมู่บ้าน “พิมายอุดมสุข” ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และมอบ สปก. 4-01 แก่ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนไร่นาสวนผสมเกษตรกรช่องโคพัฒนา อ.พิมาย ย้ำเร่งแก้ปัญหาช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน ให้มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยครอบคลุมทั่วประเทศโดยเร็ว

วันที่ 27ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 9.30น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะหัวหน้าพรรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำคณะตรวจราชการในพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา พร้อมกันนี้ยังมี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสติน ณ อยุธยา ,พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพปชร.,ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายอธิรัช รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และ นายประสาน หวังรัตนปราณี ผช.รมต.ประจำนร.ร่วมลงพื้นที่ด้วย

โดยจุดแรก ได้เดินทางไป ณ บริเวณวิสาหกิจชุมชนไร่นาสวนผสมเกษตรฐานราก ช่องโคพัฒนา ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา โดยมี พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมตัวแทนหน่วยงานราชการ และนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพปชร.และส.ส.เอกราช ช่างเหลา ,ส.ส.เกษม ศุภรานนท์และคณะส.ส.ในพื้นที่คอยให้การต้อนรับภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มงวด

ทั้งนี้ พลเอก ประวิตร ได้รับฟังรายงาน ความคืบหน้าและความสำเร็จ ของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (บจธ.) ที่ให้การช่วยเหลือประชาชนให้มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของตนเอง และ โครงการแก้ปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินทำกินของเกษตรกรและผู้ยากจน โดยสนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกร นำไปไถ่ถอนที่ดิน จากการจำนอง ขายฝาก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกลับมามีที่ดินทำกินและที่อาศัยของตนเองแล้ว 387 ราย การรช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาที่ดิน จากนโยบายรัฐโดยสนับสนุนสินเชื่อจัดซื้อที่ดินให้ผู้ได้รับผลกระทบในรูปแบบแปลงรวมถือกรรมสิทธิ์ร่วม ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่และ โครงการธนาคารที่ดินนำร่องในพื้นที่ 5 ชุมชน ให้เกษตรกรและผู้ยากจน มีที่ดินทำกินที่เหมาะสมตามรูปแบบที่กำหนดจำนวน 500 ครัวเรือน

ทั้งนี้ พลเอกประวิตร ทำพิธีเปิดป้ายหมู่บ้าน “พิมายอุดมสุข” ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมอบสิทธิ์ในที่ดินทำกินแก่ ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนไร่นาสวนผสมเกษตรกรฐานราก ช่องโคพัฒนา อำเภอพิมาย ให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน สปก. 4-01 จำนวน 3,250 ฉบับ และเยี่ยมชมตลาดนัดชุมชนผลผลิตของเกษตรกร ตามหลักทางเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ สู่ความยั่งยืน

โดยพลเอกประวิตร กล่าวว่า ขอบคุณ บจธ.ที่เร่งขับเคลื่อนแก้ปัญหาช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนในการแก้ปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านเศรษฐกิจฐานรากที่ต้องการให้การบริหารจัดการที่ดินและกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม พร้อมย้ำว่า ยังมีเกษตรกรและผู้ยากจนอีกจำนวนมาก ที่ไร้ที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ขอให้เร่งขยายผลความสำเร็จดังกล่าว ให้ครอบคลุมทั่วประเทศโดยเร็วและขอให้พี่น้องประชาชน นำที่ดินที่ได้รับไปทำประโยชน์จริง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินและเกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการที่ดินร่วมกันอย่างยั่งยืน

จากนั้นพลเอกประวิตร พร้อมคณะเดินทางไปเยี่ยมชมแปลงเกษตรตามแนวทางของเกษตรทฤษฎีใหม่ของเกษตรกร กลุ่มประมงเลี้ยงปลา กลุ่มผลิตปุ๋ยจุลินทรีย์ชีวภาพ และกลุ่มผลิตผักปลอดสารพิษ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล ต.ในเมือง อ.พิมาย นครราชสีมาเพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่เพื่อก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำมูล ตามลำดับ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 27 ธันวาคม 2564

“พล.อ.ประวิตร” ควงเลขาฯธรรมนัส ดร.นฤมล ลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

,

“พล.อ.ประวิตร” ควงเลขาฯธรรมนัส ดร.นฤมล ลงพื้นที่จ.สมุทรสาคร ติดตามสถานการณ์บริหารจัดการน้ำเพิ่มประสิทธิภาพช่วยประชาชน

พลเอกประวิตร นำคณะ”ธรรมนัส-นฤมล”ลงพื้นที่สมุทรสาคร พร้อมพบปะประชาชน และติดตามการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำท่าจีนตอนล่าง สู่การพัฒนาพัฒนาด้านอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ การทำการเกษตรแบบผสมผสาน และการท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ แก้ไขปัญหาน้ำเค็ม ส่งเสริมการเกษตรผสมผสาน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ พร้อมแผนปรับปรุงซ่อมเขื่อนกันตลิ่งทรุด

วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ที่ห้องประชุมเทศบาลนครอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามการบริหารจัดการน้ำและแนวทางการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในลุ่มน้ำท่าจีนตอนล่าง ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ลงพื้นที่ด้วย โดยมีนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กและนางจอมขัวญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.เขต 3 พปชร.สมุทรสาคร นำคณะส.ส.พื้นที่และตัวแทนส่วนราชการต่างๆคอยให้การต้อนรับ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 เคร่งครัด

การลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ในวันนี้ เพื่อเร่งรัดติดตามการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำท่าจีนตอนล่าง การพัฒนาด้านอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ การทำการเกษตรแบบผสมผสาน และการท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ เนื่องจากที่ลุ่มน้ำท่าจีนตอนล่างมักประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำจืดสำหรับการเกษตร ปัญหาคุณภาพน้ำและการรุกตัวของน้ำเค็มบริเวณที่ราบชายฝั่งทะเลจากการทำอุตสาหกรรมประมงและโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งรัฐบาลได้เร่งให้ทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำในเชิงพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดยมอบหมายให้ สทนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ เสริมความมั่นคงของคันกั้นน้ำให้ได้ตามมาตรฐาน และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเร่งจัดทำแผนการปรับปรุงซ่อมแซมเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
รวมทั้งให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการภายใต้ 9 แผนหลักเจ้าพระยาให้เป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้และปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในระดับท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ และนำไปสู่การแก้ไขในระดับประเทศต่อไป

นอกจากนี้ พลเอกประวิตร พร้อมคณะได้เดินทางจากเทศบาลนครอ้อมน้อย ไปยังประตูระบายน้ำคลองอ้อมน้อย เพื่อตรวจสอบแนวเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองอ้อมน้อยที่ชำรุดเสียหายและเยี่ยมพบปะประชาชน พื้นที่เทศบาลนครอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร รวมทั้งเดินทางไปตรวจระบายน้ำประตูระบายน้ำคลองอ้อมน้อย ไปยัง เพื่อดูความพร้อมของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบน้ำภาษีเจริญ ต.ตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อเยี่ยมชมและตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบน้ำภาษีเจริญ ตามลำดับ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 24 ธันวาคม 2564

“พล.อ.ประวิตร” มอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะ 15 แห่ง พัฒนาเมืองแห่งอนาคต

,

“พล.อ.ประวิตร” มอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะ 15 แห่ง พัฒนาเมืองแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะประเทศไทยแก่ผู้พัฒนาเมืองที่ได้รับการประกาศรับรองเป็นพื้นที่เมืองอัจฉริยะ (Smart City) จำนวน 15 เมือง โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ผู้แทนจากสำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้องร่วมในพิธีฯ ซึ่งทั้งหมดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดี และมอบนโยบายการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ โดยระบุว่า การขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในประเทศไทยจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน โดยมี ดีป้า เป็นหัวเรือหลักในการบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าของพื้นที่ เพื่อยกระดับการบริหารจัดการเมืองในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตของประชาชน สอดคล้องกับเป้าหมายในยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีที่ต้องการให้เกิดการกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคม ลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลฯ โดย ดีป้า ได้ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในทุกภูมิภาคทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับ ทิศทางการพัฒนาประเทศตามแนวทางขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 และยุทธศาสตร์ชาติ ส่งผลให้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะ จำนวน 5 เมือง และเห็นชอบเพิ่มอีก 10 เมืองในการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 23 กันยายน ซึ่งทั้งหมดผ่านการพิจารณาการประกาศมอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะจากที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่มี พลเอก ประวิตร เป็นประธาน

ดร.ณัฐพล กล่าวว่า เมืองอัจฉริยะทั้งหมดจะก่อให้เกิดโอกาสการลงทุนเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่จากภาคเอกชน มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนไทยได้มากกว่า 16 ล้านคน ซึ่ง ดีป้า พร้อมที่จะดำเนินการร่วมกับเจ้าของพื้นที่ในการให้คำปรึกษา ขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศ ผ่านเกณฑ์การพิจารณา ประกอบด้วย การกำหนดพื้นที่และเป้าหมายที่ชัดเจน มีแนวทางพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเมือง มีระบบจัดเก็บและบริหารข้อมูลเมืองที่ปลอดภัย มีบริการเมืองอัจฉริยะตามลักษณะ 7 ด้าน คือ Smart Environment, Smart Living, Smart People, Smart Mobility, Smart Governance, Smart Living และ Smart Energy นอกจากนี้ ยังมีการคัดเลือกตัวแทนคนรุ่นใหม่ 30 คนจากทั่วประเทศเป็น ‘นักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ (The Smart City Ambassadors)’ เพื่อร่วมพัฒนาเมืองอัจฉริยะในบ้านเกิด อีกทั้งมุ่งให้เกิดการขับเคลื่อนภาคประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 24 ธันวาคม 2564

‘บิ๊กป้อม’ คุมเข้มค้ามนุษย์ ดันไทยขึ้น เทียร์ 2 ในปี 65 ยกระดับความปลอดภัย

,

‘บิ๊กป้อม’ คุมเข้มค้ามนุษย์ ดันไทยขึ้น เทียร์ 2 ในปี 65 ยกระดับความปลอดภัยหนุนธุรกิจท่องเที่ยวคุ้มครองเด็ก

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ครั้งที่ 4/2564 และคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ครั้งที่ 6/2564

โดยที่ประชุม ปคม. ได้รับทราบความคืบหน้าและแนวทางจัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้เสียหายดอนเมือง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ตามข้อเสนอแนะในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกา (TIP Report) นำเทคโนโลยีและระบบฐานข้อมูลมาช่วยในกระบวนการคัดกรอง คัดแยกเพิ่มประสิทธิภาพการช่วยเหลือ คุ้มครอง และฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจโดยยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง ให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล รับทราบแผนการดำเนินงานภายใต้โครงการ ASEAN-ACT ประจำปี 2565 และรายงานสถานะการเงิน การบริหารการติดตามตรวจสอบ และประเมินผลกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การประชุมฯ ครั้งนี้ เห็นชอบร่างรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ปี 2564 เพื่อเรียนนายกรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนส่งให้สหรัฐฯ ใช้ประเมินจัดระดับประเทศไทยในรายงาน TIP Report ปี 2565 เห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เพื่อยึดทรัพย์อันได้มาจากการกระทำผิด เข้ากองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และให้สามารถนำเงินไปช่วยเหลือ เยียวยา และชดใช้ให้กับผู้เสียหายได้ รวมทั้ง หลักการให้พิจารณาแนวทางปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน ให้สอดคล้องกับข้อเสนอใน TIP Report และพันธกรณีระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก (Child Safe Friendly Tourism Project) โดยมี พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นประธาน มีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นเจ้าภาพหลัก กรมการท่องเที่ยว และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นเลขานุการร่วม เพื่อบูรณาการภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และ NGOs ที่เกี่ยวข้อง สร้างมาตรการเชิงรุกด้านการท่องเที่ยวที่ปกป้องและคุ้มครองเด็กจากการค้ามนุษย์ และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กทุกรูปแบบ กำหนดมาตรการจูงใจด้านภาษีแก่ภาคธุรกิจ และยกระดับจากโครงการนำร่องในภูมิภาคเป็นโครงการระดับประเทศ ลบภาพลักษณ์ SEX Tourism ผลักดันการท่องเที่ยวไทยเชิงคุณภาพสู่มาตรฐานสากล รองรับการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับที่ประชุม ปกค.ได้รับทราบรายงานของสำนักคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด โครงการนำข้อมูลหรือสถิติคดีค้ามนุษย์มาวิเคราะห์ในการป้องกันและปราบปรามดำเนินคดีค้ามนุษย์ เพื่อใช้ปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ รับทราบผลงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์ผ่านช่องทางออนไลน์ของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลอกคนไทยไปบังคับใช้แรงงานและค้าประเวณีในประเทศปลายทางเพื่อย้ำเตือนให้ประชาชนระมัดระวังมิให้ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ หรือหลงเชื่อการชักชวนให้เข้าร่วมในการกระทำความผิดซ้ำเติมคนไทยด้วยกันเอง นอกจากนี้ เห็นชอบร่างหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระยะเร่งด่วน โดยมอบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเจ้าภาพจัดอบรม ร่วมกับโครงการ ASEAN-ACT และมูลนิธิ IJM และกำชับให้หน่วยงานส่งเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้และประสบการณ์เข้ามาฝึกอบรม เพื่อพัฒนาให้เป็นผู้ชำนาญการ/ เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ให้การสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ต่อไป

ด้าน พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ภาพรวมในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ตามข้อเสนอแนะใน TIP Report มีความก้าวหน้าทั้ง 15 ข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยกระดับมาตรฐานปฏิบัติงาน (SOP) ในการคัดแยก ประเมินความช่วยเหลือ และออกใบรับรองผลกระทบทางจิตใจของผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดียิ่ง ถือว่าเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในปี 2564 และจะเห็นผลชัดเจนในห้วงเวลาประเมินจัดลำดับเทียร์ค้ามนุษย์ในปี 2565

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอกำชับให้คณะอนุกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการต่อต้านการค้ามนุษย์ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม และบังคับใช้กฎหมายให้เด็ดขาด รวมทั้งเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เพื่อแสดงความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไป และผลักดันให้ประเทศไทยขยับขึ้นเทียร์ 2 ตามเป้าหมายในปี 2565

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 23 ธันวาคม 2564