โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: พรรคพลังประชารัฐ

“สส.ไผ่ ลิกค์ ลงพื้นที่ 2 ตำบล ร่วมประชุมสัญจรกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ขอบคุณ ปชช.-ราชการ ที่ร่วมมือกันเดินหน้าแก้ปัญหาปากท้อง-ความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

,

“สส.ไผ่ ลิกค์ ลงพื้นที่ 2 ตำบล ร่วมประชุมสัญจรกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ขอบคุณ ปชช.-ราชการ ที่ร่วมมือกันเดินหน้าแก้ปัญหาปากท้อง-ความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ บ้านคลองใหญ่ ม. 7 ตำบลวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อร่วมประชุมสัญจรกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วย สจ.กมล สิมเมือง และนายกวสันต์ ชูเฉลิม ณ และในพื้นที่บ้านหนองปิ้งไก่ ตำบลนาบ่อคำ
เพื่อร่วมประชุมกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาบ่อคำ รวมถึงกำนันตำบลนาบ่อคำ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตร แพทย์ประจำตำบล สายตรวจตำบลนาบ่อคำ ซึ่งถือเป็นการประชุมที่ได้พบปะพูดคุยกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น พร้อมรับฟังปัญหาและความต้องการในแต่ละหมู่ของทั้ง 2 ตำบล

“การรับฟังปัญหาของประชาชนอย่างใกล้ชิด จะทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดและรวดเร็ว ผมก็ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนและหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมมือกันเป็นอย่างดี ผมพร้อมที่จะทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาปากท้อง และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนต่อไป⁣”นายไผ่ กล่าว

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ตนยังได้ลงพื้นที่ร่วมกับ สจ.กมล สิมเมือง เพื่อเปิดงานกีฬาสีภายในโรงเรียนบ้านทุ่งเศรษฐี และสนับสนุนให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
โดยการแข่งขันกีฬาสีภายในของนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งเศรษฐี มีนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 101 คน กีฬาที่จัดให้มีการแข่งขัน มี 6 ประเภทกีฬา ประกอบไปด้วย ฟุตบอลชายหญิง วอลเล่ย์บอลผสม เชปักตะกร้อชายหญิง เปตองผสม กรีฑา และกีฬาพื้นบ้าน ซึ่งกิจกรรมเช่นนี้คือการส่งเสริมให้เยาวชนของเราใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และห่างไกลยาเสพติดด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 กันยายน 2566

‘รมว.ธรรมนัส’ ติดตามสถานการณ์อุทกภัย จ.ขอนแก่น สั่งเร่งแก้ไขปัญหา พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อสร้างกำลังใจพี่น้องเกษตรกรที่ประสบภัย

,

‘รมว.ธรรมนัส’ ติดตามสถานการณ์อุทกภัย จ.ขอนแก่น สั่งเร่งแก้ไขปัญหา พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อสร้างกำลังใจพี่น้องเกษตรกรที่ประสบภัย

ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และให้ความช่วยเหลือ พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ณ โรงเรียนบ้านคำบง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ว่า ตามที่มีฝนตกหนักในช่วงคืนวันศุกร์ 15 กันยายน 2566 ต่อเนื่องถึงวันอาทิตย์ 17 กันยายน 2566 ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จนทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำชี แม่น้ำเชิญ และลำห้วยเสือเต้น ได้รับผลกระทบมีน้ำท่วมในพื้นที่ อำเภอเขาสวนกวาง อำเภอน้ำพองอำเภออุบลรัตน์ และอำเภอเมืองขอนแก่น โดยปริมาณน้ำฝนที่วัดได้ ณ อำเภอเขาสวนกวาง 53.4 มม. อำเภออุบลรัตน์ 58.0 มม. อำเภอน้ำพอง 67.8 มม. และอำเภอเมืองขอนแก่น 145 มม. ตามลำดับ ส่งผลให้มีน้ำหลากจากลำห้วยสาขา เช่น ลำห้วยเสือเต้น ลำห้วยคุนมุม ไหลหลากลงมาที่ท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ บริเวณเหนือฝายหนองหวาย ส่งผลให้มีปริมาณน้ำเกินความจุของลำน้ำพอง ทำให้มีน้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรบางส่วน

รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นนั้นมีปัญหาภัยแล้ง – น้ำท่วมซ้ำซาก ต้องเร่งบูรณาการทั้งจังหวัด และยังมีหนองน้ำตื้นเขิน ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเก็บกักปริมาณน้ำได้ในปริมาณมาก แต่ก็สามารถสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ได้ เช่น โครงการแก้มลิง ที่สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ในยามหน้าแล้ง หรือไว้เป็นที่ระบายน้ำในช่วงน้ำหลาก จึงได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งศึกษาหาทางแก้ไขในระยะยาว

สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ประมาณ 7,600 ไร่ จำนวน 500 ครัวเรือน นาข้าวได้รับความเสียหายกว่า 7,000 ไร่ ปัจจุบันน้ำลดลงประมาณ 30 ซม. คงเหลือน้ำท่วมสูง 60 – 70 ซม. ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้เร่งระบายน้ำผ่านฝายหนองทุกช่องทาง เพื่อลดผลกระทบ พร้อมทั้งเร่งระบายน้ำที่เขื่อนมหาสารคาม เพื่อดึงมวลน้ำจากลำน้ำพองลงแม่น้ำชี เพื่อให้ไหลสะดวกขึ้น โดยแม่น้ำชียังมีช่องว่างสามารถรองรับได้ และไม่เกิดผลกระทบท้ายน้ำในแม่น้ำชี เขตพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม คาดว่า 1 – 2 วัน จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม

โอกาสนี้ รมว.เกษตรฯ ยังได้มอบหญ้าแห้งอาหารสัตว์พระราชทาน และถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จำนวน 500 ถุง แก่พี่น้องเกษตรกร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 กันยายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” นำ ทส. และ วธ. ร่วมเฉลิมฉลอง ยูเนสโก ประกาศเมืองโบราณศรีเทพแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 7 ของไทย

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” นำ ทส. และ วธ. ร่วมเฉลิมฉลอง ยูเนสโก ประกาศเมืองโบราณศรีเทพแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 7 ของไทย

พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เป็นประธานแถลงข่าวการประกาศขึ้นทะเบียนเมืองโบราณศรีเทพ เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประธานอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม ร่วมแถลงข่าว ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

พลตำรวจเอก พัชรวาท กล่าวว่า การที่องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ได้ประกาศให้เมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี และเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน ซึ่งเป็นเจ้าของมรดกวัฒนธรรม โดยเมืองโบราณศรีเทพ ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-25 กันยายน 2566 ณ กรุงริยาร์ด ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ประกอบด้วยแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม 3 แหล่ง ที่มีความเกี่ยวเนื่องและสัมพันธ์กัน มีความครบถ้วน สมบูรณ์ และคงความเป็นของแท้ดั้งเดิม ได้แก่ เมืองโบราณศรีเทพ โบราณสถานเขาคลังนอก และโบราณสถานถ้ำเขาถมอรัตน์ ภายใต้เกณฑ์ของยูเนสโก เกณฑ์ข้อที่ 2 แสดงถึงความสำคัญของการแลกเปลี่ยนคุณค่าของมนุษย์ในช่วงเวลาใด เวลาหนึ่งหรือพื้นที่ในวัฒนธรรมใด ๆ ของโลก ผ่านการพัฒนาด้านสถาปัตยกรรม หรือทางเทคโนโลยี การวางแผนผังเมืองหรือการออกแบบภูมิทัศน์ และเกณฑ์ข้อที่ 3 เป็นพยานหลักฐานที่ยอดเยี่ยม หรือหาที่เสมอเหมือนไม่ได้ของประเพณี วัฒนธรรม หรือวัฒนธรรมที่ยังคงอยู่ หรือสูญหายไปแล้ว

ทั้งนี้ พลตำรวจเอก พัชรวาทฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยประสานงานกลางอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ได้ขับเคลื่อนแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติเป็นมรดกโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ การจัดทำเอกสารการนำเสนอเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยประสานงานกลางอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก และกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลพื้นที่ จนทำให้เมืองโบราณศรีเทพ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของไทย นับเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 7ของไทย ซึ่งจะกระตุ้นให้ประชาชนเกิดการหวงแหน และอนุรักษ์ทรัพยากรที่เป็นทุนสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ และก่อให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวตามมา โดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จะได้จัดทำแผนแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนาอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เพื่อรองรับการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองโบราณศรีเทพต่อไป

โอกาสนี้จึงขอเชิญชวนให้ทุกคน ไปสัมผัสความสวยงามของเมืองโบราณศรีเทพ แหล่งมรดกโลกแห่งใหม่ของไทย ซึ่งอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียม ระหว่างวันที่20-24 กันยายน2566 อีกทั้งยังจัดแสดงนิทรรศการ เรื่อง ศรีเทพกับมรดกโลก ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งแต่วันที่20 กันยายน 2566ถึง 14 มกราคม 2567 เพื่อเผยแพร่เรื่องราว คุณค่า และความสำคัญของเมืองโบราณศรีเทพ ให้ประชาชนคนไทยทุกคน ตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ร่วมเฉลิมฉลองการประกาศขึ้นทะเบียนเมืองโบราณศรีเทพเป็นมรดกโลกในครั้งนี้ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 กันยายน 2566

“สส.บุญชัย -สส.วรโชติ” พปชร. จ.เพชรบูรณ์ เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รับผลกระทบจากฤดูฝน สร้างความเสียหายให้กับเส้นทางสัญจร-ปัญหาอุทกภัยท่วมบ้านเรือน

,

“สส.บุญชัย -สส.วรโชติ” พปชร. จ.เพชรบูรณ์ เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รับผลกระทบจากฤดูฝน สร้างความเสียหายให้กับเส้นทางสัญจร-ปัญหาอุทกภัยท่วมบ้านเรือน

นายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ สส.เพชรบูรณ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า ตนได้ร่วมประสานงานกับภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ผู้นำชุมชน นายสมยง คำตุ้ม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตาดกลอย พร้อมผู้นำชุมชนในตำบลตาตาดกลอย และตำบลศิลา เพื่อร่วมสำรวจถนนเส้นศิลา-อุ่มกะทาด ระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร โดยสภาพถนนชำรุด เสียหาย เป็นหลุมเป็นบ่อมีน้ำท่วมขัง เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรของพี่น้องประชาชน ทั้ง 2 ตำบลจึงร่วมกันหาแนวทางในการปรับปรุงซ่อมแซมให้พื้นผิวถนนกลับมาสมบูรณ์ เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุและป้องกันการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

ด้านนายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่าว่า ขณะนี้ตนได้เร่งเข้าพื้นที่ ต.ซับพุทรา อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชน ที่กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมหลังจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยตนได้มอบถุงยังชีพให้กับผู้เดือดร้อนจากน้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ ทั้งทางด้านสุขภาพและการดำรงชีวิตประจำวันด้วย

“จ.เพชรบูรณ์ ในช่วงที่ผ่านมีปริมาณฝนตกอย่างต่อเนื่อง และด้วยสภาพภูมิประเทศพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ลาดชัน มักจะเกิดปัญหาน้ำไหลหลากจากที่สูงและสร้างผล
กระทบกับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนจะเสนอต่อรัฐบาล เพื่อวางแผนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวและสามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เพื่อให้มีแหล่งน้ำเพิ่มขึ้น และยังสามารถบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัยให้กับประชาชน”นายวรโชติ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 กันยายน 2566

“สส.กาญจนา” เผย ฝนตกหนักกัดเซาะถนนเข้าพื้นที่ทำเกษตรพัง ประสาน อบต.เร่งซ่อมแซมลดความเดือดร้อนให้ ปชช.

,

“สส.กาญจนา” เผย ฝนตกหนักกัดเซาะถนนเข้าพื้นที่ทำเกษตรพัง ประสาน อบต.เร่งซ่อมแซมลดความเดือดร้อนให้ ปชช.

น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน ตนได้รับแจ้งจากพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ บ้านวังตะกู ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ถึงปัญหาความเดือดร้อน เนื่องจากเส้นทางเข้าพื้นที่ทำการเกษตรได้รับความเสียหายจากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากและกัดเซาะถนนพื้นที่เกษตรกรเสียหาย และความเดือดร้อนดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงฤดูทำนาปี แต่ยังไม่ได้รับซ่อมแซม จึงส่งผลกระทบในการประกอบอาชีพ ตนจึงได้เร่งประสานกับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านวังตะกู เข้าดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับประชาชน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 กันยายน 2566

“อรรถกร”ร่วมหารือภาคส่วนราชการ เร่งแก้ปัญหานำน้ำเข้า ต.หนองยาว – ต.ใกล้เคียง ช่วยเกษตรกรมีน้ำใช้ปลูกพืชผลทางการเกษตรอย่างยั่งยืน

,

“อรรถกร”ร่วมหารือภาคส่วนราชการ เร่งแก้ปัญหานำน้ำเข้า ต.หนองยาว – ต.ใกล้เคียง ช่วยเกษตรกรมีน้ำใช้ปลูกพืชผลทางการเกษตรอย่างยั่งยืน

นายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ร่วมประชุมปรึกษาหาทางออกในการแก้ปัญหาการนำน้ำเข้ามาภายในตำบลหนองยาวและตำบลใกล้เคียง เพื่อให้เกษตรกรทุกภาคส่วนมีน้ำใช้ปลูกพืชผลทางการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยมีภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ นายคเชนทร์ บุญประเสริฐ นายก อบต.หนองยาว นายพีระ ตั้งชูทวีทรัพย์ สมาชิกสภาจังหวัด(ส.จ.)ฉะเชิงเทรา นายดำรัจ พุทธรักษา ส.จ.อ.ราชสาส์น และนางพิศมัย ตั้งชูทวีทรัพย์ กำนันตำบลหนองยาว พร้อมด้วยผู้นำชุมชนตำบลหนองยาว และกลุ่มเกษตรกรตำบลหนองยาว

ทั้งนี้ได้มีการประสานงานไปยังหัวหน้าส่วนราชการ กรมชลประทานบางพลวง,กรมชลประทานคลองส่งน้ำพระองค์เจ้าไชยยานุชิต,กรมชลประทานคลองส่งน้ำแควสียัด/ระบม,กรมชลประทบางปะกง,กรมชลประทานฉะชิงเทรา,กรมทรัพยากรน้ำ,สหกรณ์การเกษตร, ปศุสัตว์,ประมง,เกษตรจังหวัดฉะชิงเทราและประธานบริหารลุ่มน้ำบางปะกง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 กันยายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ดันตั้งคณะกรรมการแห่งชาติ แก้ปัญหา PM2.5 -ไฟป่า เร่งกวดขันส่งหน่วยลาดตระเวณคุมพื้นที่ ตรวจจับใช้กม.เข้ม พร้อมแก้ที่ทำกินสปก.ชงคทช.เพื่อปชช.

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ดันตั้งคณะกรรมการแห่งชาติ แก้ปัญหา PM2.5 -ไฟป่า เร่งกวดขันส่งหน่วยลาดตระเวณคุมพื้นที่ ตรวจจับใช้กม.เข้ม พร้อมแก้ที่ทำกินสปก.ชงคทช.เพื่อปชช.

วันที่ 16 กันยายน 2566 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากการประชุมรับทราบปัญหาและข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา ที่ด่านศุลกากรแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ อยากให้มีการยกระดับคณะกรรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM 2.5 รวมถึงปัญหาหมอกควันไฟป่า เป็น คณะกรรมการแห่งชาติ เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เห็นผลอย่างรวดเร็วนั้น ตนได้สั่งการอย่างเร่งด่วน ให้ยกระดับคณะกรรมการแห่งชาติ ในเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในช่วงสถานการณ์วิกฤต

“พร้อมให้มีแผนการดำเนินงาน ทั้งมาตรการระยะยาว และมาตรการเร่งด่วน เช่น ปิดป่าในส่วนที่มีสถานการณ์ไฟป่าอยู่ในระดับวิกฤต หรือ เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในขั้นรุนแรง รวมถึงสั่งระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า เครือข่ายอาสาสมัครดับไฟป่า อุปกรณ์ เครื่องมือ และอากาศยาน ในการลาดตระเวนเฝ้าระวัง และปฏิบัติการดับไฟอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ ยังห้ามเผาในที่โล่งในช่วงนี้ และให้บรูณาการหน่วยงานในพื้นที่ ร่วมกันลาดตระเวนเฝ้าระวังการเผา ป้องกันไม่ให้มีการเผาอย่างเข้มข้น ให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผา หรือ ผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวด พร้อมให้ทุกหน่วยงานเน้นการสื่อสารผลการดำเนินงานของภาครัฐในการป้องกันแก้ไขปัญหา หมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง ให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่องด้วย” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีปัญหาที่อยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ของตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำแม่คำ ป่าน้ำแม่สลอง และป่าน้ำแม่สลวงฝั่งซ้าย นั้น พบว่า พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่กฤษฎีกำหนดเขตในเป็นเขตปฎิรูปที่ดิน แต่ไม่สามารถออกเอกสารแสดงการครอบครองที่ดิน สปก.ให้กับประชาชนได้ เนื่องจากพบว่า พื้นที่นี้ มีภาระผูกพันการใช้ประโยชน์ของกองทัพบกอยู่ รวมถึงมีความลาดชันสูงกว่าร้อยละ 35 ตนจึงสั่งการให้ กรมป่าไม้ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) ประสานกับ อบต.แม่สลองนอก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลงพื้นที่สำรวจแปลงที่พบปัญหา เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของเจ้าของพื้นที่ เพื่อกันคืนจาก สปก. ตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติในการคืนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ กลับคืนกรมป่าไม้ พ.ศ.2538 เพื่อที่กรมป่าไม้ จะได้นำพื้นที่ดังกล่าวมาดำเนินการแก้ไขปัญหาประชาชน ด้วยการเข้าโครงการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชน หรือ คทช.ต่อไป

“ผมจะสนับสนุนคุณภาพในการดำรงชีวิต ให้สามารถอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ลุ่มน้ำ 1 และ 2 พร้อมกับอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนการอนุญาต เพื่อให้มีการพัฒนาสาธารณูปโภค และใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างยั่งยืน ภายใต้การดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ หรือ คทช. ซึ่งเป็นหลักการและแนวทางปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ในพื้นที่ลุ่มน้ำ 1 และ 2 ทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หรือไม่ก็ตาม เพราะผมเข้าใจปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 กันยายน 2566

“รมว.ธรรมนัส” ลง 3 จังหวัดชายแดนใต้ เร่งแก้ปัญหาเอกสารสิทธิ์ ประสานกระทรวงทรัพยากรฯ เดินหน้าพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินทำกิน พร้อมผลักดันสร้างอัตลักษณ์ทุเรียนทรายขาว สร้างรายได้ให้เกษตรกร

,

“รมว.ธรรมนัส” ลง 3 จังหวัดชายแดนใต้ เร่งแก้ปัญหาเอกสารสิทธิ์ ประสานกระทรวงทรัพยากรฯ เดินหน้าพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินทำกิน พร้อมผลักดันสร้างอัตลักษณ์ทุเรียนทรายขาว สร้างรายได้ให้เกษตรกร

วันนี้ (16 กันยายน 2566) ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างวันที่ 16 – 17 ณ จ.ปัตตานี จ.ยะลา และจ.นราธิวาส พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อรับฟังปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ณ มัสยิดโบราณบาโงยลางา ตําบลทรายขาว อําเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โดยมีประเด็นสำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่
1) ปัญหาที่ดินทําการเกษตรที่เป็นเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1
2) การส่งเสริมทุเรียนทรายขาวให้เป็นทุเรียนคุณภาพ สร้างอัตลักษณ์ให้กับอำเภอทรายขาว และเป็นจุดขาย
3) ปัญหาประมงพื้นบ้าน และ
4) การเพิ่มพื้นที่แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร

ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ปัญหาที่ดินทําการเกษตรที่เป็นเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1 เป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอันดับต้นๆ ใน จ.ปัตตานี โดยได้ขอให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งรัดแก้ไขพื้นที่ทำกินในเขตตำบลทรายขาว และตำบลใกล้เคียง เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 2,000 ครัวเรือน เพราะพื้นที่ดังกล่าวปัจจุบันมีการกำหนดให้เป็นเขตป่าไม้ ก่อนและหลังที่ประชาชนเข้าไปทำประโยชน์ เพื่อปลูกยางพารา ปลูกทุเรียน และที่อยู่อาศัย โดยในเรื่องนี้ ตนได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้น อาทิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทยแล้ว โดยจะหารือร่วมกันถึงแนวทางแก้ไข เพราะชาวบ้านไม่สามารถเข้าทำการปรับปรุงพื้นที่เพื่อทำการเกษตรได้ โดยเฉพาะการปลูกทุเรียนทรายขาวซึ่งเป็นผลผลิตที่สร้างรายได้ให้เกษตรกร อย่างไรก็ตาม จะต้องเร่งรัดดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์ว่าเป็นของประชาชนจริงหรือไม่ ก่อนที่จะประกาศเป็นเขตอุทยาน โดยจะขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อให้สอดคล้องกับแนวพระราชดำริให้คนอยู่คู่กับป่าไม้ และเพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้รับสิทธิการใช้ที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมายและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้

นอกจากนี้ ยังได้ผลักดันให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียน ผลิตทุเรียนทรายขาวให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างอัตลักษณ์ให้กับอำเภอทรายขาว และเป็นจุดขาย ดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยส่งเสริมการผลิตในรูปแบบแปลงใหญ่ เพื่อลดต้นทุน ซึ่งตำบลทรายขาว มีทุเรียนเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก พื้นที่ปลูกทุเรียนในปี 2566 ทั้งหมด จํานวน 836.5 ไร่ เกษตรกร จํานวน 497 ครัวเรือน ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว จํานวน 545 ตัน ทั้งนี้ ยังพบปัญหาการระบาดของศัตรูพืช หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมให้ความรู้กับเกษตรกรในการป้องกัน รวมทั้งส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมการป้องกันกําจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ผลผลิต กระทบต่อคุณภาพของผลผลิตทุเรียน และสร้างความความน่าเชื่อถือต่อผู้บริโภค

สำหรับปัญหาชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดปัตตานี พบว่า ยังขาดเครื่องมืออุปกรณ์ องค์ความรู้สําหรับใช้ในการดําเนินงานในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโอรังปันตัย โดยในเรื่องนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยินดีให้การสนับสนุนเพื่อให้เกิดการทําประมงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อันจะนําไป สู่การสร้างงาน สร้างรายได้พร้อมๆ ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อีกทั้ง ได้ผลักดันในเรื่องของการเพิ่มพื้นที่แหล่งน้ำ เนื่องจากปัตตานีมีน้ำต้นทุนน้อย จึงมอบหมายให้กรมชลประทานศึกษาร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบให้ครอบคลุมทั้ง 12 อำเภอในจังหวัดปัตตานี

“วันนี้ผมได้นำทีมครอบครัวกระทรวงเกษตรฯ ลงมาเพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่โดยตรง แล้วจะรีบนำไปแก้ไข และ จะรายงานปัญหาทั้งหมดในพื้นที่ให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ เพื่อเดินหน้าทำงานอย่างบูรณาการ ยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรให้กินดี อยู่ดี” รมว.เกษตรฯ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 กันยายน 2566

“สส.บุญชัย” เร่งรุดเข้าพื้นที่ดูแลปชช.รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก!!!

,

“สส.บุญชัย” เร่งรุดเข้าพื้นที่ดูแลปชช.รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก!!!

นายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ เปิดเผยว่า 2 หมู่บ้าน ต.ตาดกลอย อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ หลังรับแจ้งได้เกิดน้ำป่าไหลลากท่วมบ้านในช่วงเวลา 02.00 น.ของวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมประสานหน่วยงานท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน พบประชาชนบ้านตาดข่า ม.5 จำนวน 27 หลังเรือน บ้านกกกล้วยนวล ม.7 จำนวน 50 หลังคาเรือนโดย ได้นำน้ำดื่มและข้าวกล่องแจกจ่ายพี่น้องประชาชน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 กันยายน 2566

“สส.อนุรัตน์ พปชร.” ร่วมหารือแก้ไขปัญหารุกที่ดินปิดทางเข้าแหล่งน้ำประสานที่ดินรางวัดพิสูจน์สิทธิเปิดทางให้เกษตรกร

,

“สส.อนุรัตน์ พปชร.” ร่วมหารือแก้ไขปัญหารุกที่ดินปิดทางเข้าแหล่งน้ำประสานที่ดินรางวัดพิสูจน์สิทธิเปิดทางให้เกษตรกร

นายอนุรัตน์ ตันบรรจง ส.ส. เขต2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จ.พะเยาเปิดเผยว่า เข้าร่วมประชุมชวาบ้าน ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งน้ำ ที่ไม่สามารถสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรได้ จากการรุกที่ดินของนายทุน จึงประสานสำนักงานที่ดินเข้าทำการรางวัดและชี้แนวเขตพื้นที่ใหม่ เพื่อพิสูจน์สิทธิอีกครั้ง และพบว่าการบุกรุกจริง จึงได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปได้ด้วยดี ส่งผลให้ชาวบ้านสามารถเข้าใช้พื้นที่เพื่อการสูบน้ำเข้าพื้นที่เพาะปลูกได้แล้ว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 กันยายน 2566

“สส.ปกรณ์ สส.พปชร.” รุดเข้าพื้นที่อุทกภัยอำเภอเมืองดูแลประชาชน เก็บข้อมูลประสานหน่วยงานแก้ไขปัญหา ป้องภัยธรรมชาติ

,

“สส.ปกรณ์ สส.พปชร.” รุดเข้าพื้นที่อุทกภัยอำเภอเมืองดูแลประชาชน เก็บข้อมูลประสานหน่วยงานแก้ไขปัญหา ป้องภัยธรรมชาติ

นายปกรณ์ จีนาคำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เขต 1 จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อให้กำลังและเยี่ยมพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมทั้งได้มอบ นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ ยังได้สอบถามปัญหาเก็บข้อมูลสภาพพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อนำไปประสานกับหน่วยงาน หาแนวทาฃช่วยเหลือและแก้ปัญหาระยะยาวให้กับพี่น้องประชาชน ต่อไป

ทั้งนี้ ในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลจากลมมรสุม มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ที่พัดผ่านเข้ามาในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 5,8และ14 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณสะสมในพื้นที่สูง เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน และทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 กันยายน 2566

“สันติ รมช.สธ.” สนับสนุนผู้บริหาร ก.สาธารณสุข ต่อสู้ เพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อประสิทธิภาพในการดูแล ปชช.ทั่ว ปท.เผย ศรัทธา การทำงานของแพทย์ทุกท่าน ชี้ เป็นคนอำนวยความสุขและละลายความทุกข์

,

“สันติ รมช.สธ.” สนับสนุนผู้บริหาร ก.สาธารณสุข ต่อสู้ เพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อประสิทธิภาพในการดูแล ปชช.ทั่ว ปท.เผย ศรัทธา การทำงานของแพทย์ทุกท่าน ชี้ เป็นคนอำนวยความสุขและละลายความทุกข์

วันที่ 15 ก.ย. 2566 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมประชุมกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข เพื่อมอบนโยบายขับเคลื่อนงานกระทรวงสาธารณสุข โดยนายสันติ กล่าวกับบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขว่า ตนเป็นฝ่ายการเมืองที่ได้เข้ามาทำงานในกระทรวงสาธารณสุข ด้วยความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและจะทำงานด้วยความรัก ความสามัคคี ความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อให้การทำงานร่วมกันเดินหน้าไปได้อย่างเต็มที่ เพื่อประสิทธิภาพในการดูแลพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ

นายสันติ กล่าวต่อว่า ชื่อของกระทรวงสาธารณสุขก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นกระทรวงที่จะสร้างความสุขให้กับสาธารณชน และก็เป็นสิ่งที่ตนศรัทธามาโดยตลอด กว่า 20 ปีของการทำหน้าที่ สส.ตนได้คลุกคลีกับชาวบ้านในพื้นที่ชนบท และชาวบ้านก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ในการเดินทางไปโรงพยาบาลจำนวนมาก มาโดยตลอด แต่ภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวก็ได้มีบุคลากรทางการแพทย์ที่ไปดูแลพี่น้องประชาชนในชนบทอย่างอดทน และเต็มความสามารถ อันนี้ถือเป็นคุณงามความดี ที่ตนได้รับรู้มาจากชาวบ้านในพื้นที่โดยตลอด และตนขอชื่นชมบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ตนผ่านการรับผิดชอบงานมาหลายกระทรวง ทำให้ได้รับรู้ปัญหาของพี่น้องประชาชนที่หลากหลาย ตนก็จะนำประสบการณ์เหล่านี้มาทำงานเพื่อให้พี่น้องคนไทยอยู่ดีกินดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่จะอำนวยความสุขให้กับประชาชนและละลายความทุกข์

“ผมเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์เป็นอย่างมาก ซึ่งผมมองว่า ถ้าจำนวนแพทย์ยังขาดแคลน ยังไม่เพียงพอโอกาสที่เราจะใช้เทคโนโลยี หรือการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาก็จะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก วันนี้สิ่งที่ผมพูด ก็คือว่า เราจะทำอย่างไรให้สามารถพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ให้พอเพียงกับระบบสาธารณสุขของเราให้ได้อย่างเต็มที่ เพราะหลายรัฐบาลที่ผ่านมาได้ดำริให้มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต.แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีแพทย์ประจำ มีแต่เพียงแพทย์หมุนเวียนที่หนึ่งเดือนจะมีแพทย์ไปประจำอยู่สัก 1-2 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าบุคลากรทางการแพทย์ยังขาดแคลนอย่างแสนสาหัส

“วันนี้ พอจะเป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะร่วมกันต่อสู้ให้ได้มาซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่เหมาะสมแต่ละพื้นที่ เช่นอย่าง 1 รพ.สต.จะมีแพทย์หมุนเวียนประมาณ 3 คน เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระในการดูแลประชาชนในพื้นที่ได้อย่างครอบคลุม”นายสันติ กล่าว

นายสันติ กล่าวต่อว่า จากนี้กระทรวงสาธารณสุขของเราจะปรับให้สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ อย่างเช่นถ้าประเทศไทยมีบุคลากรทางการแพทย์อย่างพอเพียงแล้ว ซึ่งแพทย์ไทยได้รับการยอมรับอย่างมาจากต่างชาติ เพราะเป็นบุคลากรที่ทีทักษะสูงเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าเมื่อพอเพียงสำหรับประเทศไทย ก็จะยังสามารถไปทำงานในประเทศแถบตะวันออกกลาง สร้างรายได้จำนวนมากกลับคืนเข้าสู่ประเทศได้ ตนจึงขอให้ผู้บริหารช่วยกันผลักดันให้บุคลากรทางการแพทย์ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพราะจากที่ตนคิดมาจะใช้งบประมาณจำนวนไม่มาก แต่ประโยชน์ที่ได้ถือว่ากำไรหลายเท่าตัว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 กันยายน 2566