โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์

“ส.ส.อาดิลัน” เสนอนายกฯแก้ไขพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย เพื่อสร้างความยุติธรรม

,

“ส.ส.อาดิลัน” เสนอนายกฯแก้ไขพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย สร้างความยุติธรรมให้กับจำเลย–ผู้เสียหายในคดีอาญา

นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทน และค่าใช้จ่าย แก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 หลังกฎหมายดังกล่าวมีการบังคับใช้มาจนถึงปัจจุบัน พบว่ามีปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาอีกหลายประการ จึงฝากท่านประธานสภาฯ ผ่านไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินพิจารณาและแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อสร้างความยุติธรรมให้กับจำเลยและผู้เสียหายในคดีอาญาต่างๆ

#อาดิลันอาลีอิสเฮาะ
#สสยะลา
#พลังประชารัฐ
#พปชร.

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 19 ธันวาคม 2564

“ส.ส.ศิริพงษ์” วอน สนง.หนองจอก หน่วยงานภาครัฐ เร่งแก้ปัญหาล้น

,

“ส.ส.ศิริพงษ์” วอน สนง.หนองจอก – หน่วยงานภาครัฐ เร่งแก้ปัญหาล้น-ลักลอบเปิดบ่อนไก่ หวั่นแพร่เชื้อโควิด-19

นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กรุงเทพฯ เขตหนองจอก พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีได้รับการร้องเรียนจากคณะกรรมการชุมชน คณะกรรมการเคหะฯ ต่างๆ ในพื้นที่เขตหนองจอก ขณะนี้มีปริมาณขยะจำนวนมาก เนื่องจากมีถังขยะไม่เพียงพอดับปริมาณประชากรในพื้นที่ อีกทั้งรถเก็บขยะมาเก็บล่าช้า ทำให้มีปริมาณในพื้นที่สะสมของขยะเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ พื้นที่หนองจอกเป็นพื้นที่ชานเมือง จึงมีการลักลอบเปิดบ่อนไก่ ซึ่งเกรงว่าจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงขอฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังสำนักงานเขตหนองจาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งดำเนินการแก้ไขและตรวจสอบอย่างเร่งด่วน

#ศิริพงษ์รัสมี
#สสกรุงเทพฯ
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 18 ธันวาคม 2564

“ส.ส. พรรณสิริ”แนะ ก.เกษตรฯ เฝ้าติดตามโครงการฯ แก้มลิงทะเลหลวง

,

“ส.ส. พรรณสิริ”แนะ ก.เกษตรฯ เฝ้าติดตามโครงการฯ แก้มลิงทะเลหลวง หลังผู้รับเหมาขอขยายสัญญาโครงการยืดเยื้อ ปชช. ขาดผลประโยชน์

ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สืบเนื่องจากความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จากการดำเนินโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า และระบบส่งน้ำแก้มลิงทะเลหลวง จ.สุโขทัย โดยกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย 5 สถานี โดยพื้นที่ทะเลหลวงเป็นแหล่งเก็บน้ำ ขนาดความจุ 32.4 ล้าน ลบ.ม. ในพื้นที่ 7,500 ไร่ ครอบคลุม 2,500 ครัวเรือน

ทั้งนี้ พบว่าโครงการดังกล่าว ประสบปัญหาในเรื่องของการก่อสร้าง ในวงเงิน 116,480,000 บาท และได้ขอขยายสัญญาการก่อสร้างออกไป เนื่องจากภูมิทัศน์เปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนรูปแบบรายการ จากสัญญาเดิม 3 ปี โดยสัญญาจะแล้วเสร็จในวันที่ 10 ต.ค. 2562 ซึ่งปัญหานี้ได้นำเสนอต่อที่ประชุมสภาแห่งนี้ ไปแล้ว 2 ครั้ง ในวันที่ 16 ม.ค. 2563 และในวันที่ 6 ส.ค. 2563 ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ปีผ่านไป ยังได้รับคำตอบเหมือนเดิมจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าขอขยายสัญญารูปแบบรายการเปลี่ยนแปลงเพราะภูมิประเทศเปลี่ยนแปลง
จึงขอเรียนท่านประทานสภาฯ ผ่านไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้กำกับติดตามและตรวจสอบประสิทธิภาพการบริหารโครงการที่ขาดประสิทธิภาพดังกล่าว ขอให้พิจารณาหาแนวทางชดใช้ความเสียหายต่อรัฐ และหาแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้สามารถดำเนินโครงการนี้ให้แล้วเสร็จ และเกิดประโยชน์แก่ประชาชนส่วนรวมโดยเร็ว

#ดร.พรรณสิริกุลนาถศิริ
#สสสุโขทัย
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 18 ธันวาคม 2564

“ส.ส. สุทา” อาสาเป็นคนกลางแก้ไขปัญหาชาวประมงภูเก็ต จี้ ก.เกษตรฯ

,

“ส.ส. สุทา” อาสาเป็นคนกลางแก้ไขปัญหาชาวประมงภูเก็ต จี้ ก.เกษตรฯ ตรวจสอบค่าธรรมเนียมสะพานปลาปรับขึ้น 300%

นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.ภูเก็ต เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาคมประมง จ.ภูเก็ต เรื่องประกาศขึ้นค่าธรรมเนียมใหม่ขององค์การสะพานปลา ท่าเทียบเรือ จ.ภูเก็ต ที่เพิ่มในอัตราที่สูงขึ้น 300% โดยชาวประมงใน จ.ภูเก็ต ได้ตั้งข้อสังเกตุว่า การปรับขึ้นค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูง อาจมาจากการที่ชาวประมงไปคัดค้าน เรื่องที่องค์การสะพานปลาให้สัมปทานพื้นที่กับภาคเอกชน เพื่อนำไปสร้างอู่ต่อเรือ

ดังนั้น จึงฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลหน่วยงานดังกล่าว ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวประมงใน จ.ภูเก็ต

#สุทาประทีปณถลาง
#สสภูเก็ต
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 18 ธันวาคม 2564

“ส.ส. อาญาสิทธิ์” วอนรัฐจัดงบทำฝายกั้นน้ำคลองเก่าแบบถาวร 31 แห่ง

,

“ส.ส. อาญาสิทธิ์” วอนรัฐจัดงบทำฝายกั้นน้ำคลองเก่าแบบถาวร 31 แห่ง เพิ่มประสิทธิภาพจัดการน้ำยั่งยืนบรรเทาทุกข์ชาว อ.จุฬาภรณ์เมืองคอน

นายกองตรี อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต3 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สืบเนื่องจาก ปี 2560 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณผ่านกลุ่มจังหวัดภาคใต้ เพื่อให้ จ.นครศรีธรรมราช จัดทำโครงการฟื้นฟูคลองเก่า สร้างคลองใหม่ พัฒนาคลองซอย เพื่อป้องกันภัยแล้งและน้ำท่วม ในพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์ โดยมีการสร้างฝายกั้นน้ำ จำนวน 31แห่ง ปัจจุบันฝายกั้นน้ำบางส่วนได้รับความชำรุดเสียหายตามกาลเวลา เบื้องต้นได้รับการแก้ปัญหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้วยวิธีการถมดินเพื่อกั้นน้ำ แต่ยังไม่เป็นที่มั่นใจของประชาชน จึงฝากท่านประธานฯ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งดำเนินการซ่อมแซมฝายกั้นน้ำที่ได้รับความเสียหายเป็นการถาวร เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำกัดเซาะ และกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

#อาญาสิทธิ์ศรีสุวรรณ
#สสนครศรีธรรมราช
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 18 ธันวาคม 2564

“ส.ส. สะถิระ”วอน คมนาคม เร่งแก้ปัญหาโครงการสร้างถนน อ.สัตหีบ

,

“ส.ส. สะถิระ”วอน คมนาคม เร่งแก้ปัญหาโครงการสร้างถนน อ.สัตหีบ เร่งหน่วยงานท้องถิ่นจัดการระบบงานก่อสร้างลดผลกระทบประชาชน

นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี เขต 8 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ผลกระทบจากโครงการก่อสร้างถนนของกรมทางหลวง ในพื้นที่ อ.ตหีบ จ.ชลบุรี แบ่งเป็น 3 ประเด็นเร่งด่วน ดังนี้

1.กรณีเจ้าของโครงการก่อสร้างถนน ไม่มีการเปิดเวที หรือจัดประชุม ให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น ในเรื่องของการออกแบบถนน ทำให้ประชาชนในพื้นที่เขตการก่อสร้างได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องของการออกแบบพื้นถนนที่สูงกว่าตัวบ้าน ประมาณ 1 เมตร

2.การก่อสร้างถนนต้องมีการประสานกับหน่วยงานรัฐ เช่น องค์การปกครองท้องถิ่น การไฟฟ้า การประปา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้หน่วยงานเหล่านี้ได้เตรียมความพร้อมในการก่อสร้างถนน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า เช่น การย้ายเสาไฟฟ้า การย้ายท่อประปา เป็นต้น

3.การกำหนดมาตรฐานที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในการก่อสร้างถนน เช่น สัญญาณไฟจราจร ไฟส่องสว่าง และอุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุ ต้องได้มาตรฐานและต้องมีจำนวนเพียงพอ เช่น แบริเออร์ เสาล้มลุกจราจร และเสาแบ่งเลน เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการก่อสร้าง เนื่องจากระยะเวลา 3 ปีในการก่อสร้าง ประชาชนได้รับผลกระทบมาโดยตลอด

ดังนั้น จึงขอฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังกระทรวงคมนาคม ให้เร่งพิจารณาและดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าว เพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

#พรรคพลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 17 ธันวาคม 2564

“ส.ส. ฐนภัทร”วอน มหาดไทย แก้ไขการขอเลขที่บ้านของผู้มีรายได้น้อย

,

“ส.ส. ฐนภัทร”วอน มหาดไทย แก้ไขการขอเลขที่บ้านของผู้มีรายได้น้อย เร่งหน่วยงานในสังกัดอำนวยความสะดวกเพื่อการเข้าถึงบริการภาครัฐ

พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ไม่ได้รับความสะดวกในการขอเลขที่บ้าน ทั้งแบบเป็นการชั่วคราว และเป็นการถาวร โดยเฉพาะในกลุ่มพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อย การเข้าถึงบริการของรัฐทำได้ยากมาก เพราะเลขที่บ้านมีความสำคัญอย่างมากในการขอสิ่งสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ เช่น ไฟฟ้า และประปา เป็นต้น จึงขอฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังกระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการและแก้ไข หรือสั่งการไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานอำเภอ หรือท้องถิ่น ให้ดำเนินการให้กับประชาชนโดยเร็วเมื่อมีการร้องขอเลขที่บ้าน

#ฐนภัทรกิตติวงศา
#สสจันทบุรี
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 17 ธันวาคม 2564

“ส.ส. จีรเดช” เสนอรัฐบาลพิจารณาเพิ่มค่าตอบแทน อสม.เป็น 1,500 บาท

,

“ส.ส. จีรเดช” เสนอรัฐบาลพิจารณาเพิ่มค่าตอบแทน อสม.เป็น 1,500 บาท สร้างกำลังใจด่านหน้ารับมือการแพร่ระบาดโควิด-19

นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส. พะเยา เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีได้รับการประสานจากพี่น้องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทุกประเทศทั่วโลกประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะประเทศไทย ณ ปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อกว่า 2.1 ล้านคน ด้วยความร่วมมือและเสียสละจากทุกฝ่าย ที่ทำงานกันอย่างหนักทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพี่น้อง อสม. ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือหน่วยงานด้านสาธารณสุข ที่ต้องทำงานเชิงรุกเป็นด่านหน้าเสี่ยงภัย ทั้งการเฝ้าระวัง ตั้งจุดตรวจ คัดกรองกลุ่มเสี่ยงตามชุมชนและงานต่างๆ พร้อมทั้งแนะนำให้ความรู้ ดูแลพี่น้องประชาชน และอื่นๆ

ขอฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องของการเพิ่มค่าตอบแทน จากปัจจุบันที่ได้รับเดือนละ 1,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ประกาศจ่ายให้เพิ่มอีก 500 บาท ระยะเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น จึงอยากให้รัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาค่าตอบแทน และจัดสรรงบประมาณการจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มเป็น 1,500 บาท ตลอดชีพ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้อง อสม. ในการปฏิบัติงานต่อไป

#จีรเดชศรีวิราช
#สสพะเยา
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 17 ธันวาคม 2564

“ส.ส. ทัศนาพร” ​เปิดการฝึก รด.ประจำปี 2564 จ.นครราชศรีมา

,

“ส.ส. ทัศนาพร” เปิดการฝึกรด.ประจำปี 64 จ.นครราชศรีมา พร้อมมอบหน้ากาก-แอลกอฮอล์อุปกรณ์ป้องกันการโควิด 19

สส.ทัศนาพร เกษเมธีการุณ เขต8 จ.นครราชสีมา เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกวิชาทหารนักศึกษาวิชาทหาร ประจำปีการศึกษา 2564 ณ ศูนย์ฝึกโรงเรียนห้วยแถลงพิทยาคม ต.ห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนเข้าฝึกระเบียบวินัย และเตรียมความพร้อมการเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศ เพื่อให้การฝึกเป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุขด้านความปลอดภัยในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาด โควิด 19 ยังได้มอบได้มอบแอลกอฮอล์, หน้ากาก N95, สมุดจดบันทึก และปากกาให้กับนักศึกษาวิชาทหาร

#สสทัศนาพร
#พลังประชารัฐ
#โควิด19

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 17 ธันวาคม 2564

“ส.ส. ธณิกานต์” หนุนสิทธิสตรีบนความเท่าเทียม ในเวที MOU เพื่อความเสมอภาค

,

“ส.ส.ธณิกานต์” หนุนสิทธิสตรีบนความเท่าเทียม ในเวที MOU จัดทำงบฯ เพื่อความเสมอภาคอย่างเป็นรูปธรรม

“ส.ส.ธณิกานต์” ขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางเพศ สู่นโยบายภาครัฐ ในการจัดทำงบประมาณประเทศ โดยคำนึงถึงมิติเพศภาวะ และร่วมวงเสวนา มุ่งสู่การขับเคลื่อนนโยบายการจัดทำงบประมาณเพื่อการบริหารประเทศ มองผลประโยชน์ของประชาชนทุกคน เพื่อความเสมอภาคเป็นสำคัญ

นางสาวธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าภาค ด้านสิทธิและสวัสดิภาพเยาวชนและสตรี และประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ ขับเคลื่อน SDGs & GRB สภาผู้แทนราษฎร กล่าวในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของประเทศไทย ในการขับเคลื่อนการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะ ระหว่างภาคีภาครัฐ และองค์กรระหว่างประเทศ ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในความตั้งใจขับเคลื่อนเพื่อความเสมอภาคและความเท่าเทียมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสิทธิและสวัสดิการที่เป็นธรรมสำหรับผู้หญิงอย่างแท้จริง ทั้งในระดับนโยบายและปฏิบัติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายระดับโลก (Global Goals) และ SDGs #5 promote Gender Equality & advance Women Empowerment

ทั้งนี้ นางสาวธณิกานต์ ยังได้เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “มุ่งสู่การขับเคลื่อนการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงนิติเพศภาวะ” ร่วมกับคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รองประธานกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาสถานภาพสตรีแห่งชาติ (กยส.) และประธานคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาสถานภาพสตรี (กสส.), ดร.ถวิลวดี บุรีกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า, นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างภาคีภาครัฐ ในการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ที่ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นธรรมแก่ประชาชนทุกคน โดยเฉพาะความจำเป็นและความต้องการที่แตกต่างกันของเพศ วัย และสภาพของบุคคล

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 17 ธันวาคม 2564

“พล.อ.ประวิตร”ประธานพิธีลงนามโครงการชุมชนซื่อสัตย์ ปี 65

,

“พล.อ.ประวิตร”ประธานพิธีลงนามโครงการชุมชนซื่อสัตย์ดันไอแบงก์ปล่อยสินเชื่อผ่านมัสยิดเป้า1,000แห่งในปี’65

“พล.อ.ประวิตร” รองนายกรัฐมนตรี ประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) “โครงการชุมชนซื่อสัตย์” เพื่อพัฒนาสังคมมุสลิม ระหว่างธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สร้างโอกาสลูกค้าเข้าถึงระบบสถาบันการเงิน ยกระดับความเป็นอยู่ เพิ่มคุณภาพชีวิตพี่น้องมุสลิม โดยให้สินเชื่อผ่านตัวแทนคณะกรรมการมัสยิดทั่วประเทศ ตั้งเป้าปี 2565 มีมัสยิดเข้าร่วม 1,000 แห่ง

วันนี้ (16 ธันวาคม 2564) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการชุมชนซื่อสัตย์” เพื่อพัฒนาสังคมมุสลิมระหว่างธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายประสาน ศรีเจริญ รองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ในนามผู้แทนจุฬาราชมนตรี ร่วมเป็นสักขีพยาน

การลงนามครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการแสดงเจตจำนงในการพัฒนาสังคมมุสลิม ระหว่างธนาคารอิสลาม แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานตามพันธกิจสำคัญ ในการสร้างโอกาสให้ลูกค้ามุสลิม เข้าถึงระบบสถาบันการเงิน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องมุสลิม โดยการให้สินเชื่อผ่านตัวแทนของคณะกรรมการมัสยิดทั่วประเทศ โดยในปี 2564 ธนาคารได้มีการนำร่องเสนอโครงการให้มัสยิดในภาคกลาง และภาคใต้ ปัจจุบันมีมัสยิดให้การตอบรับเข้าร่วมโครงการดังกล่าว แล้ว 350 แห่ง โดยปี 2565 มีเป้าหมายจะมีมัสยิดเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ รวม 1,000 แห่ง

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลังได้กำหนดยุทธศาสตร์องค์กร การให้บริการทางการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม (หลักซะรีอะฮ์) บนพื้นฐานของคุณธรรมซึ่งเชื่อมโยงสู่แผนดำเนินงาน “โครงการชุมชนซื่อสัตย์” เพื่อพัฒนาสังคมมุสลิมเป็นการสร้างโอกาส ให้พี่น้องชาวมุสลิมเข้าถึงการแหล่งเงินทุน เพื่อการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดี จึงนับเป็นการสร้างความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม สร้างความมั่นคงและลดความเหลื่อมล้ำ

“การดำเนินงานครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้มุ่งมั่นที่จะสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน ในทุกภาคส่วน และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม” พล.อ.ประวิตรกล่าว

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ที่ผ่านมาได้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมให้กับพี่น้องชาวมุสลิม โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไอแบงก์ได้ออกมาตรการเข้ามาช่วยเหลือลูกค้า เพื่อลดผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ มาตรการการให้สินเชื่อเพิ่มเติม ฯลฯ และโครงการชุมชนซื่อสัตย์จะเข้ามาเสริมสร้างให้ลูกค้าของไอแบงก์เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

“ด้วยความเคร่งครัดในการปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาของชาวไทยมุสลิม ในเรื่องการบริหารจัดการทางการเงิน แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้พี่น้องชาวไทยมุสลิม จำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถูกต้องตามข้อปฏิบัติตามหลักศาสนา เพื่อให้ดำเนินธุรกิจและสามารถดำเนินชีวิตเพื่อประกอบอาชีพ และการดูแลครอบครัวต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง” นายสันติกล่าว

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 16 ธันวาคม 2564

ตรีนุช ร่วมตั้งเข็มทิศการศึกษาอาเซม 2030 ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม

,

“ตรีนุช” ร่วมตั้งเข็มทิศการศึกษาอาเซม 2030 ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมรัฐมนตรีศึกษาเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 8 แบบออนไลน์ 50 ประเทศร่วมตั้งเข็มทิศการศึกษาอาเซม 2030 เน้นเป้าหมาย 4 หัวข้อใหญ่ “ตรีนุช” ลั่นไทยพร้อมดำเนินการตามยุทธศาสตร์

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีศึกษาเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 8 (ASEM Education Ministers’ Meeting : ASEMME ในรูปแบบทางไกล ผ่านโปรแกรม Microsoft Team โดยมีรัฐมนตรีศึกษาจากประเทศสมาชิกอาเซม ทั้งเอเชียและยุโรป ผู้แทนสหภาพยุโรป (European Union) อาเซียน (ASEAN Secretariat) และ ภาคีเครือข่ายด้านการศึกษาของอาเชม 50 ประเทศ กว่า 120 คนเข้าร่วมการประชุม ภายใต้หัวข้อ “ASEM Education 2030 : Towards more resilient, prosperous and sustainable futures” หรือ “ การศึกษาอาเซม พ.ศ.2573 : สู่อนาคตที่ยืดหยุ่น มั่งคั่ง และยั่งยืนมากขึ้น”

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า การประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซม จัดขึ้นทุก 2 ปี เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินความร่วมมือในสาขาการศึกษาและกำหนดแนวทางการดำเนินความร่วมมือระหว่างกัน โดยได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.2008 หรือ พ.ศ.2551 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ และเป็นการประชุมต่อเนื่องจากการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษาของอาเซม ครั้งที่ 2 (ASEM Education Senior Officials’ Meeting: SOM2) ซึ่งจัดไปเมื่อวันที่ 13 – 14 ธ.ค.2564 ในส่วนของการประชุม ASEMME 8 นี้ เป็นเวทีให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่รับผิดชอบงานด้านการศึกษาของประเทศสมาชิกได้รับทราบผลการดำเนินความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการสร้างโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพระหว่างกัน พร้อมทั้งร่วมกันกำหนดแนวทางและกิจกรรมที่จะดำเนินการร่วมกันไปจนถึงปี ค.ศ. 2030

“ที่ประชุม ASEMME 8 ได้รับรองยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาของอาเซม 2030 ซึ่งเป็นการกำหนดทิศทางที่สำคัญมากของความร่วมมือด้านการศึกษาภายใต้กรอบอาเซมในอนาคต โดยยุทธศาสตร์ ด้านการศึกษาของอาเซม เน้นเป้าหมาย 4 หัวข้อใหญ่ คือ การประกันคุณภาพและการรับรองคุณวุฒิทางการศึกษา การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในการศึกษา การเคลื่อนที่เพื่อแลกเปลี่ยนอย่างสมดุลระหว่างเอเชียและยุโรป และการเรียนรู้ตลอดชีวิตรวมถึงการศึกษาด้านเทคนิคและอาชีวศึกษา อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการรับมือกับความท้าทายของโลกปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นต้น” รมว.ศธ.กล่าว

นางสาวตรีนุช กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับรองข้อสรุป หรือ Chair’s Conclusions ซึ่งเน้นย้ำความร่วมมือของประเทศสมาชิกอาเซมและเครือข่ายด้านการศึกษาของอาเซมในการดำเนินตามยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา การส่งเสริมข้อริเริ่มกิจกรรมและโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ การดำเนินการของเครือข่ายด้านการศึกษาของอาเซม ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีความพร้อมและความเชื่อมั่นที่จะดำเนินการตามยุทธศาสตร์ และให้การสนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษาของอาเซมอย่างเต็มที่

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 16 ธันวาคม 2564