โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ

“สส.สัมพันธ์” หวัง รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะของ กมธ. แก้ไขหนี้สินฯไปกำหนดนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน

,

“สส.สัมพันธ์” หวัง รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะของ กมธ. แก้ไขหนี้สินฯไปกำหนดนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ เปิดเผยว่า กมธ.ได้รายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหา หนี้สินภาคครัวเรือนอย่างยั่งยืน และปัญหาค่าครองชีพสูงที่พิจารณาเสร็จแล้วต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยผลการศึกษาสรุปได้ว่า
ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนของประเทศไทยในปัจจุบันอยู่ในสัดส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตมากที่สุด รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการเป็นหนี้ของประชาชนที่เป็นไปในลักษณะของการมีความพร้อมที่จะก่อหนี้ได้ง่ายและเร็วขึ้น

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นปัญหาสำคัญอีกประการคืออาชีพเกษตรกรมีรายได้ไม่แน่นอนทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ยาก ทำให้มีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนนอกระบบและต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง รายได้ไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ ต้องชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายวันไปเรื่อย ๆ จึงไม่สามารถชำระหนี้ได้หมด ประกอบกับปัญหาค่าครองชีพสูงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ถือเป็นปัจจัยที่สร้างภาระให้แก่ครัวเรือนไทยเป็นอย่างมาก และลดทอนความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนด้วย

โดยทาง กมธ.ได้พิจารณถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนอย่างยั่งยืน เช่น การกำหนดเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนให้ชัดเจน รวมถึง กลไกการบริหารนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน โดยการกำหนดตัวชี้วัดในการแก้ไขปัญหาหนี้สินแต่ละด้าน ระบบการติดตามและการประเมินผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้สิน การจัดหมวดหมู่งบประมาณและการจัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ติดตามและการประเมินผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้สินการปิดช่องโหว่ทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และการเพิ่มความรอบรู้ทางการเงินของประชาชน โดยการเพิ่มความรอบรู้ทางการเงินตามช่วงวัย คือ วัยเรียน วัยทำงาน วัยเตรียมเกษียณ และวัยผู้สูงอายุ การเพิ่มความรอบรู้ตามกลุ่มเป้าหมายการทำงาน อาทิ กลุ่มทำงานประจำ ทำงานอิสระ และดำเนินการควบคู่กับการฟื้นฟูสถานะการเงินของครัวเรือน

“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนต่อไป”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 สิงหาคม 2567

“สส.บีลา-อามินทร์” ร่วมต้อนรับ นายกฯ “เศรษฐา” และ นายกฯ ”อันวาร์” มาเลเซีย ในโอกาสลงพื้นร่วมประชุม ตอกย้ำความมุ่งมั่นความสงบสุข และพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนของทั้งสองประเทศ

,

“สส.บีลา-อามินทร์” ร่วมต้อนรับ นายกฯ “เศรษฐา” และ นายกฯ ”อันวาร์” มาเลเซีย ในโอกาสลงพื้นร่วมประชุม ตอกย้ำความมุ่งมั่นความสงบสุข และพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนของทั้งสองประเทศ

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 และพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.เปิดเผยว่า ตน และนายอามินทร์ มายูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 ได้ลงพื้นที่ด่านสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ร่วมให้การต้อนรับ ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และท่านดาโตะ เซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสลงพื้นที่อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อหารือข้อราชการโดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ร่วมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก พร้อมรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก

จากนั้นในช่วงบ่ายคณะนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางถึง Pasir Mas District and Land Office รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียเพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน โดยการประชุมในครั้งนี้นายกเศรษฐาได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นเรื่องความสงบสุขและการพัฒนา เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนสองประเทศ การได้มาเยี่ยม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส – เมืองรันเตาปันจัง รัฐกลันตัน ได้ดูโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจ เชื่อมโยงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซียร่วมกัน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 สิงหาคม 2567

“สส. สัมพันธ์” รับหนังสือร้องเรียน “นิคมสหกรณ์ปิเหล็ง”วอน“รมว.ธรรมนัส”เร่งช่วยหลือปมที่ดินของสหกรณ์ฯ เป็นที่ทับซ้อนกับกรมป่าไม้

,

“สส. สัมพันธ์” รับหนังสือร้องเรียน “นิคมสหกรณ์ปิเหล็ง”วอน“รมว.ธรรมนัส”เร่งช่วยหลือปมที่ดินของสหกรณ์ฯ เป็นที่ทับซ้อนกับกรมป่าไม้

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ทางผู้ใหญ่บ้านปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง พร้อมด้วยคณะกรรมการนิคมสหกรณ์ปิเหล็ง ได้เข้ามายื่นหนังสือ เพื่อขอให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ปิเหล็ง ที่มีความเดือดร้อน กรณีป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนกับพระราชฎีกา ในการจัดตั้งนิคมสหกรณ์ปิเหล็งในท้องที่

”ผมจะนำเสนอไปยังท่านร้อยเอกธรรมนัส เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป เพราะทราบมาว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่รอการแก้ไขมานานกว่า 30 ปี วันนี้ ซึ่งผมมั่นใจว่า รัฐบาลไม่ทอดทิ้งและจะร่วมกันหาทางออกทุกวิถีทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อทำให้ชาวบ้านได้รับที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมายหลังรอคอยมานาน“นายสัมพันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของที่ดินทับซ้อนในพื้นที่นิคมสหกรณ์ปิเหล็ง เกิดขึ้นเนื่องจากเส้นแนวเขตของพื้นที่ทับซ้อน บางส่วนระหว่างเขตห้ามล่าสัตว์ป่ากับพื้นที่นิคมสหกรณ์ปิเหล็ง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 พฤษภาคม 2567

“สัมพันธ์”ขอ รัฐบาล เร่งเยียวยา ช่วยเหลือชาวนราธิวาส เพื่อบรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วมหนัก เดือดร้อนแล้วกว่า 3 หมื่นคน

,

“สัมพันธ์”ขอ รัฐบาล เร่งเยียวยา ช่วยเหลือชาวนราธิวาส เพื่อบรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วมหนัก เดือดร้อนแล้วกว่า 3 หมื่นคน

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยังมีประสบอุทกภัยกินพื้นที่วงกว้าง ทำให้ขณะนี้รางรถไฟถูกตัดขาดบริเวณเส้นทางตันหยงมัส-ป่าไผ่ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยจึงต้องงดบริการรถไฟทุกขบวนจากสุไหงโก-ลก รวมถึงเมื่อคืนที่ผ่านมาน้ำยังเข้าท่วมโรงเรียน บ้านเรือนประชาชน ใน อ.สุคิริน อ.แว้ง อ.เจาะไอร้อง อ.สุไหงปาดี ขณะที่การระบายน้ำเป็นไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากฝนยังคงตกต่อเนื่อง

นายสัมพันธ์ จากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้พื้นที่ 9 อำเภอ 44 ตำบล 196 หมู่บ้าน 9,558 ครัวเรือน 37,901 คน 4 ชุมชน โรงเรียน 11 แห่ง ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ตนอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือและเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่โดยด่วน เนื่องจากประชาชนสูญเสียรายได้หลายพันครัวเรือน ไม่สามารถออกไปประอาชีพได้ตามปกติ ขณะที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายร้อยหลังคาเรือน

“ผม และ สส.พปชร.เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง และมีการติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด แต่สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย และมีแนวโน้มจะยาวนาน เนื่องจากฝนยังตกอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำเก่ายังไหลมาสมทบ ทำให้น้ำยังคงท่วมขังบ้านเรือนประชาชน และสร้างผลกระทบขยายวงกว้างขึ้น ผมและสส.นราธิวาส อยากเสนอให้รัฐบาลมีแนวทางเพื่อเข้ามาเยียวยาให้กับประชาชน เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยครั้งนี้โดยเร็ว”นายสัมพันธ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 ธันวาคม 2566

“ส.ส.พปชร.นราธิวาส” ลงพื้นที่ปาเสมัส สุไหงโก-ลก นำถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ย้ำพล.อ.ประวิตร-เลขาฯ ห่วงใยปชช.สั่งการช่วยเหลือ ติดตาม-เฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

,

“ส.ส.พปชร.นราธิวาส” ลงพื้นที่ปาเสมัส สุไหงโก-ลก นำถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ย้ำพล.อ.ประวิตร-เลขาฯ ห่วงใยปชช.สั่งการช่วยเหลือ ติดตาม-เฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

18 ธค 2566 นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.เขต 3 จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ ร่วมกับนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.เขต 2 จ.นราธิวาส นำถุงยังชีพ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน โรงเรียนมัสยิด และสถานที่ราชการ ใน 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลปาเสมัส และตำบลสุไหงโก-ลก ซึ่งพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำเพราะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งมีจำนวน 5 หมู่บ้าน มี 399 ครัวเรือน หรือ 2,067 คน ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

“จากเหตุการณ์ที่เกิดสร้างผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ได้สั่งการให้ส.ส.สัมพันธ์ และผมลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชนและติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด พร้อมไปกับประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ“ นายอามินทร์กล่าว

โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จะเข้าไปช่วยเหลือ ประกอบด้วย 1. ต. ปาเสมัส หมู่ที่ 2 บ้านตือระ จำนวน 15 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 55 คน หมู่ที่ 3 บ้านกวาลอซีรา จำนวน 118 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 445 คน หมู่ที่ 4 บ้านมือบา จำนวน 64 ครัวเรือน ราษฏรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 315 คน หมู่ที่ 5 บ้านน้ำตก จำนวน 176 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 1,056 คน หมู่ที่ 7 บ้านกวาลอซีรอออก จำนวน 26 ครัวเรือน ราษฏรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 196 คน

2. ตำบลสุไหงโก-ลก ประกอบด้วย – ชุมชนบือเร็ง จำนวน 10 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 43 คน ชุมชนบือเร็งใน จำนวน 20 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 92 คน ชุมชนโปฮงยามู จำนวน 180 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 810 คน ชุมชนท่าประปา จำนวน 83 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 381 คน ชุมชนท่าโรงเลื่อย จำนวน 70 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 322 คน ชุมชนท่ากอไผ่ จำนวน 30 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 138 คน ชุมชนหัวสะพาน จำนวน 86 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 387 คน ชุมชนกือดาบารู จำนวน 20 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 91 คน ชุมชนเสาสัญญาณ จำนวน 89 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 401 คน

สถานที่ราชการ/ศาสนสถาน ได้รับผลกระทบ จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย
1.โรงเรียนบ้านตือระ หมู่ที่ 2 ตำบลปาเสมัส
2. ด่านกักกันสัตว์ หมู่ที่ 3 ตำบลปาเสมัส
3.โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะลือซง หมู่ที่ 2 ตำบลมูโนะ
4.มัสยิดการีลมาติลอุลยา หมู่ที่ 5 ตำบลปาเสมัส

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 ธันวาคม 2566

“สส. สัมพันธ์” เผย กมธ.แก้ปัญหาหนี้สินฯตั้ง 2 อนุ กมธ.เร่ง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน พร้อมติดตามโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

,

“สส. สัมพันธ์” เผย กมธ.แก้ปัญหาหนี้สินฯตั้ง 2 อนุ กมธ.เร่ง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน พร้อมติดตามโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) แก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตามที่ คณะ กมธ. ได้พิจารณาประเด็นหนี้ กยศ. หนี้สินเกษตรกร และหนี้นอกระบบ โดยได้เดินทางไปศึกษาดูงาน จำนวน 1 ครั้ง เรื่อง “การสร้างรายได้เพื่อลดปัญหาหนี้สิน ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลา โดย กมธ.มีมติให้ตั้งคณะ อนุ กมธ. 2 คณะ คือ 1. คณะอนุ กมธ.ด้านการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน เนื่องจากปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเร่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ และ 2.คณะอนุ กมธ. พิจารณาศึกษาปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการและยั่งยืน ขึ้นเพื่อพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ตลอดจนการติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีกรอบระยะเวลาในการดำเนินงาน 120 วัน และจัดทำรายงานผลการพิจารณาศึกษาต่อคณะ กมธ. และสภาผู้แทนราษฎร

นายสัมพันธ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กมธ.ได้กำหนดวาระการประชุมวันที่ 20 ธ.ค.66 โดยพิจารณา 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1. ติดตามการดำเนินงานโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Soft loan) โดยเชิญตัวแทนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง 2. ปัญหาการบริหารจัดการพื้นที่ป่าไม้ของพื้นที่ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัด ยะลา โดยเชิญตัวแทนจาก กรมป่าไม้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และนายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลอัยเยอร์เวง และ 3. ติดตามประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ พ.ศ. 2548 ตามความตกลงระหว่างประเทศ โดยเชิญ กระทรวงคมนาคม มาร่วมประชุม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“สส. สัมพันธ์” นำคณะกมธ.แก้หนี้พบปะปชชจ.ยะลา รับฟังปัญหาเร่งหาแนวทางช่วยเหลือลดความยากจนขจัดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ชายแดนใต้

,

“สส. สัมพันธ์” นำคณะกมธ.แก้หนี้พบปะปชชจ.ยะลา รับฟังปัญหาเร่งหาแนวทางช่วยเหลือลดความยากจนขจัดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ชายแดนใต้

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สินความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนได้นำคณะกรรมาธิการลงพื้นที่ ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เพื่อรับฟังการบรรยายและรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ เพื่อลดปัญหาหนี้สินความยากจนและความเหลื่อมล้ำของประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ จากนั้นได้เดินทางไปยัง ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว ณ จุดชมวิวสกายวอล์ค เพื่อรับฟังสภาพปัญหาหนี้สินและศึกษาสภาพการดำรงชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น

จากนั้นในช่วงบ่าย ได้เดินทางต่อไปยังด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อรับฟังการบรรยายและรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้พร้อมศึกษาดูงานเกี่ยวกับการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่บริเวณด่านพรมแดนเบตง โดยจากข้อมูลที่คณะกรรมาธิการได้ไปรับฟังมา ก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.ซึ่งจะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน เพื่อหาทางแก้ไขอย่างยั่งยืนให้กับประชาชนภาคใต้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2566

“2 สส. นราธิวาส พปชร.เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดน้ำท่วมหนัก อ.สุไหงโก – ลก ซ้ำรอยปี 65 ลั่น เพราะความห่วงใย มันรอไม่ได้

,

“2 สส. นราธิวาส พปชร.เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดน้ำท่วมหนัก อ.สุไหงโก – ลก ซ้ำรอยปี 65 ลั่น เพราะความห่วงใย มันรอไม่ได้

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการทำบุญอุมเราะห์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ตนได้เดินทางกลับประเทศไทยทันที และรีบลงพื้นที่ร่วมกับ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 พร้อมด้วย นายอำเภอสุไหงโก-ลก,ผอ.ชลประทาน,รองผู้การนราธิวาส และผู้กำกับ สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อสังเกตุการณ์ระดับนํ้าในเขตพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก บ้านมูโนะ และเทศบาลตำบลบูเก๊ะตา เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณน้ำฝนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่ฝนตกหนักมาหลายวัน

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงปลายเดือน พ.ย.ไปจนถึง ธ.ค.ของทุกปี พื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้จะต้องเผชิญกับมรสุมฝนตกกระหน่ำอย่างหนัก อย่างเมื่อตอนปี 65 ที่ผ่านมา ในอำเภอสุไหงโก-ลก มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 5,000 ครัวเรือน จำนวนประมาณ 20,000 คน ในปีนั้นน้ำท่วมบริเวณตลาดมูโนะเต็มพื้นที่หลังจากที่พนังกั้นน้ำเก่า ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกแตก ทำให้กระแสน้ำได้ท่วมเพิ่มสูงขึ้น และขยายวงกว้าง รวมทั้งกระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยว บางจุดมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร

“หากเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ พื้นที่จังหวัดนราธิวาส เป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมสูงมาก ถือเป็นความเสียหายอย่างหนักต่อพี่น้องประชาชน อีกทั้งพื้นที่แห่งนี้น้ำมีความเชี่ยวกราก ส่งผลทำให้ตลิ่งชำรุดและเกิดความเสียหาย ดังนั้น เราจึงต้องเฝ้าระวังเหตุอุทกภัย และเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน ในยามเกิดเหตุ โดยขณะนี้ก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเฝ้าสังเกตุการณ์ และเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแล้ว เพราะความห่วงใย..มันรอไม่ได้ ”นายสัมพันธ์ กล่าว

ด้านนายอามิทร์ กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อรับฟังและบรรยายสรุปเรื่องปริมาณน้ำ รวมถึงแผนรับมือของกรมชลประทาน และการป้องกันน้ำท่วม แบริเออชั่วคราว ที่บ้านตันหยงมะลิ เพื่อการป้องกันน้ำเข้าท่วม ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก จากการที่ได้ดูและสำรวจ เบื้องต้นเชื่อว่าปีนี้มาตรการทางเทศบาลเมืองสุไหงโกลก ได้มีมาตรการป้องกันไว้อย่างรัดกุม และเชื่อว่าเราน่าจะผ่านวิกฤตน้ำท่วมในปีนี้ไปได้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2566

“สส.สัมพันธ์”เยี่ยมคารวะ“รองนายกรัฐมนตรี” มาเลเซีย หารือแนวทางผลักดันพัฒนาพื้นที่ติดต่อทางชายแดนไทย-มาเลเซีย เชื่อเป็นของขวัญให้ ปชช.ทั้ง 2 ประเทศ

,

““สส.สัมพันธ์”เยี่ยมคารวะ“รองนายกรัฐมนตรี” มาเลเซีย หารือแนวทางผลักดันพัฒนาพื้นที่ติดต่อทางชายแดนไทย-มาเลเซีย เชื่อเป็นของขวัญให้ ปชช.ทั้ง 2 ประเทศ

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส. นราธิวาส เขต 3 และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนได้เข้าเยี่ยมคารวะ ท่านดาโต๊ะ ศรี ฮัจญี ฟาดิลละห์ บิน ฮัจญี ยูโซ๊ะ (YAB Dato’ Sri Haji Fadillah Bin Haji Yusof) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเพาะปลูกและสินค้าโภคภัณฑ์ (Timbalan Perdana Menteri Dan Menteri Perladangan Dan Komoditi) ณ อาคารรัฐสภามาเลเซีย เพื่อหารือถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อไทยและมาเลเซีย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า การค้าชายแดนบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย ในอำเภอตากใบและอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องร่วมกันไว้ ทั้งนี้จะเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า การขนส่งสินค้าข้ามแดน การเดินทางของประชาชน การส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว เป็นการพัฒนาที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และประชาชนอย่างแท้จริง ตามแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม

“การหารือในวันนี้นั้นเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนโครงการให้บรรลุผลสำเร็จทั้งโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส – เปิงกาลันกูโบร์ รัฐกลันตัน มาเลเซีย และโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก (ไทย-มาเลเซีย) แห่งที่ 2 อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส – เมืองรันเตาปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย”นายสัมพันธ์ กล่าว

นายสัมพันธ์ เปิดเผยด้วยว่า ดาโต๊ะ ศรี ฮัจญี ฟาดิลละห์ เห็นพ้องต้องกันที่จะร่วมมือผลักดันการพัฒนาพื้นที่ติดต่อทางชายแดนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางสัญจรของประชาชน การเพิ่มประสิทธิภาพทางการค้าชายแดน การลงทุนและการท่องเที่ยว ซึ่งตั้งความหวังว่า โครงการที่ขับเคลื่อนร่วมกันจะเป็นของขวัญให้กับประชาชนทั้งสองประเทศที่ดีที่สุด และท่านได้ให้เกียรติตอบรับคำเชิญ พร้อมที่จะเยือนจังหวัดนราธิวาส ประเทศไทย ในโอกาสอันใกล้นี้เพื่อส่งเสริมมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2566

“สัมพันธ์” ประธาน กมธ.แก้ปัญหาหนี้สินฯ เผย ประสาน ก.คลัง ออกระเบียบตาม พรบ.กองทุนฯฉบับใหม่ เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ หลังยังถูกบังคับให้ชำระหนี้ในมูลหนี้เดิม

,

“สัมพันธ์” ประธาน กมธ.แก้ปัญหาหนี้สินฯ เผย ประสาน ก.คลัง ออกระเบียบตาม พรบ.กองทุนฯฉบับใหม่ เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ หลังยังถูกบังคับให้ชำระหนี้ในมูลหนี้เดิม

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สินความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงคืบหน้าสำหรับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เป็นลูกหนี้ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.ว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สินความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ
ได้มีการเชิญผู้จัดการ กยศ.มาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ

โดยทางคณะกรรมาธิการได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้บังคับพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 โดยเห็นว่า พระราชบัญญัติดังกล่าว มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 แต่ปัจจุบันยังไม่ได้มีการออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ และการคำนวณยอดหนี้ใหม่ทั้งอัตราดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และลำดับการตัดชำระหนี้

“ทำให้ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน โดยยังคงถูกทวงถามและบังคับคดีให้ชำระหนี้ในมูลหนี้เดิม ทางกรรมาธิการฯ จึงขอความอนุเคราะห์ทางกระทรวงการคลังได้เร่งพิจารณาเร่งดำเนินการออกข้อบังคับฯ ให้เป็นไปตาม พรบ.ดังกล่าว เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 ตุลาคม 2566

“สส.สัมพันธ” “สส.อามินทร์” นำคณะ“มท.1” และ “รมว.ศึกษาฯ” ลงพื้นที่ ต.มูโนะ ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ”

,

“สส.สัมพันธ” “สส.อามินทร์” นำคณะ“มท.1” และ “รมว.ศึกษาฯ” ลงพื้นที่ ต.มูโนะ ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ”

วานนี้ 1 สิงหาคม 2566 นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ (บีลา) กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต 3 และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต 2 ร่วมต้อนรับ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทย และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมต.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในโอกาสลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องชาวมูโนะที่ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ” ณ ตลาดมูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส

พร้อมกันนี้ได้ร่วมประชุมหารือรับมอบนโยบายและข้อราชการต่างๆ และติดตามสถานการณ์โกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด โดยมีนายนริศ ขำนุรักษ์ รมต.ช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส, รอง ผวจ.นราธิวาส, หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาและช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบเหตุให้ได้รับการเยียวยาให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ทางด้านกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ได้รับการสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่ร่วมกันสนับสนุนงบประมาณจัดซื้อวัสดุ”กระเบื้องหลังคา” เพื่อแจกจ่ายมอบใ้หกับพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งส่งผลให้อาคารบ้านเรือนและหลังคาได้รับความเสียหาย โดยมีพี่น้องมาลงทะเบียนกว่า 500 ราย เพื่อมาขอรับการช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยทีมงานกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ได้บริการจัดส่งถึงบ้านเรือนของพี่น้องยังความประทับใจและขอบคุณพร้อมให้กำลังใจซึ่งกันและกันดั่งคำว่า “คนไทยที่ไหนเดือดร้อน..คนไทยย่อมไม่ทิ้งกัน” ทางทีมงานกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ซาบซึ้งในน้ำใจจากพี่น้องทั่วสารทิศ ทั่วไทย จึงขอขอบคุณทุกน้ำใจทุกท่าน มา ในโอกาสนี้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 สิงหาคม 2566

“พล.อ. ประวิตร” ขอแสดงความเสียใจกับ พี่น้องปชช.ต.มูโน๊ะ ประสบเหตุโรงงานประทัดระเบิด มอบ สส.พปชร เร่งดูแล ปชช.ในพื้นที่ลดความเดือดร้อน

,

“พล.อ. ประวิตร” ขอแสดงความเสียใจกับ พี่น้องปชช.ต.มูโน๊ะ ประสบเหตุโรงงานประทัดระเบิด มอบ สส.พปชร เร่งดูแล ปชช.ในพื้นที่ลดความเดือดร้อน

30 กรกฎาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องประชาชนชาว ต.มูโน๊ะ อ.สุไหง-โกลก จ.นราธิวาส จากอุบัติเหตุโรงงานประทัดระเบิดเมื่อวันที่ 29 กค ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมถึงบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายในวงกว้าง

ทั้งนี้ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ บีลา ส.ส.นราธิวาส เขต 3 และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส. นราธิวาส เขต 2 ได้ลงเข้าพื้นที่เปิดครัว และที่พักชั่วคราว พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการให้ความช่วยเหลือและดูแลพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะรองนายกฯ ดูแลด้านความมั่นคง ได้สั่งการลงในพื้นที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โดยด่วน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 กรกฎาคม 2566