โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์

‘ พล.อ.ประวิตร’ อวยพรปีใหม่ ทีมสมาคม”กีฬาว่ายน้ำฯ” ภูมิใจทัพนักกีฬาทุกคน ทุ่มเทสร้างผลงานเพื่อประเทศชาติ

,

‘ พล.อ.ประวิตร’ อวยพรปีใหม่ ทีมสมาคม”กีฬาว่ายน้ำฯ”
ภูมิใจทัพนักกีฬาทุกคน ทุ่มเทสร้างผลงานเพื่อประเทศชาติ

เมื่อ 22 ธ.ค.65 ,09.30น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยฯ เพื่อกล่าวอวยพร-รับพร ในโอกาสเทศกาลปีใหม่2566 ณ บ้านอัมพวัน สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ถนนศรีอยุธยา โดย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ได้นำคณะกรรมการและนักกีฬาว่ายน้ำ สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยฯ เข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องในโอกาสปีใหม่

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณ และแสดงความชื่นชมนักกีฬาว่ายน้ำ พร้อมคณะผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ที่ได้ทุ่มเทฝึกซ้อม และเข้าแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ กระทั่งประสบความสำเร็จ สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในหลายรายการ ในปีที่ผ่านมา อย่างน่าภาคภูมิใจ พร้อมทั้งได้อวยพรและให้กำลังใจนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ขอให้ทุ่มเท ตั้งใจฝึกซ้อม อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้น ต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 ธันวาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” หนุนบทบาทสตรีขับเคลื่อนประเทศ ประกาศอัดงบกองทุนฯ อีก 2 เท่าขยายโอกาสเพิ่มขึ้น

,

“พล.อ.ประวิตร” หนุนบทบาทสตรีขับเคลื่อนประเทศ ประกาศอัดงบกองทุนฯ อีก 2 เท่าขยายโอกาสเพิ่มขึ้น

เมื่อ 21 ธ.ค.65 , 13.30น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนา คณะทำงานเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ระดับประเทศ ระหว่างวันที่ 21-22 ธ.ค.65 ณ ห้องจูปิเตอร์ 4-6 อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี โดยกระทรวงมหาดไทย (กรมการพัฒนาชุมชน) ได้จัดโครงการสัมมนาคณะทำงานเครือข่าย ขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ระดับประเทศขึ้น เพื่อส่งเสริมทักษะ ความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินงานเครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน ขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกลุ่มเป้าหมายจาก 76 จังหวัด ทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรม

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความชื่นชม บทบาทสตรีในปัจจุบัน ที่ได้ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับบทบาทสตรีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดโอกาส ให้สตรีมีบทบาทผ่านทางกองทุนพัฒนาฯ ซึ่งมีผลความคืบหน้าด้วยดี ที่ผ่านมา และพล.อ.ประวิตร ยังได้ประกาศที่จะเพิ่มงบประมาณให้แก่กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี มากขึ้นอีกอย่างน้อย 2 เท่า เพื่อขยายโอกาสให้สตรีไทย สามารถประกอบอาชีพได้มากยิ่งขึ้น ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวเสริมว่า สตรีควรได้รับการพัฒนาศักยภาพให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ในทุกๆด้านเพื่อให้มีความรู้เท่าทัน การเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน และเป็นกำลังสำคัญไม่แพ้เพศชาย ในการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติได้เช่นกันต่อไป ในอนาคต

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2565

“ส.ส.อาดิลัน” เสนอมหาดไทยจัดงบสนับสนุนเพิ่มอุปกรณ์เครื่องมือช่วยชาวใต้ประสบภัยน้ำท่วม

,

“ส.ส.อาดิลัน” เสนอมหาดไทยจัดงบสนับสนุนเพิ่มอุปกรณ์เครื่องมือช่วยชาวใต้ประสบภัยน้ำท่วม

นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือผ่านไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2565 มีเหตุฝนตกหนักในเขตพื้นที่ภาคใต้ สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งในเขตเทศบาล เขตเมืองเทศบาลตำบล อบต.แม้ว่าทางจังหวัดจะมีงบประมาณจัดสรรไว้ สำหรับแก้ปัญหาฉุกเฉิน จำเป็นเร่งด่วน เช่น ถุงยังชีพ แจกพี่น้องประชาชน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ

โดยเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตนได้นำเรียนเพื่อนำเสนอให้มีการจัดสรรให้ความช่วยเหลือประชาชน และ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งด่วน

ทั้งนี้ สิ่งที่ท้องถิ่นจะต้องรับผิดชอบ คือการจัดสรรอุปกรณ์เครื่องมือ ในการที่จะบรรเทาสาธารณภัยให้กัประชาชน โดยกระทรวงมหาดไทย ควรที่จะต้องมีการจัดสรรดูแล สำรวจความต้องการของท้องถิ่นที่ติดแม่น้ำ จะต้องมีความพร้อมของเครื่องมือที่จะต้องดูแลประชาชน รวมไปถึงเครื่องมือกู้ชีพ เครื่องมือดำน้ำที่เอาไว้สำหรับช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับภัยพิบัติจากน้ำท่วม เพราะหลายครั้งที่น้ำท่วมแล้วจะมีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม เนื่องจากเครื่องมือไม่พร้อม ต้องร้องขอจากจังหวัดหรือพื้นที่ข้างเคียง เหล่านี้เป็นปัญหา อุปสรรคที่ตนเชื่อว่าท้องถิ่นสามารถจะได้รับการสนับสนุนจากทางกระทรวงมหาดไทยได้

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #อาดิลันอาลีอิสเฮา
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2565

“ส.ส.ยงยุทธ” เร่งหน่วยงานอนุมัติ 3 โครงการพัฒนาตำบลคลองด่าน ดันเป็นศูนย์กลางอาหารทะเล

,

“ส.ส.ยงยุทธ” เร่งหน่วยงานอนุมัติ 3 โครงการพัฒนาตำบลคลองด่าน ดันเป็นศูนย์กลางอาหารทะเล

นายยงยุทธ สุวรรณบุตร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือถึงกรณีที่ประชาชนในตำบลคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ได้เสนอมาให้มีการสร้างเขื่อน เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าขาย รวมถึงการพัฒนาโครงการสร้างถนนเส้นทางบายพาส จากถนนสุขุมวิทใต้ ตัดกับถนนปานวิถี และถนนเส้นบายพาสทางทิศเหนือ เพื่อที่ประชาชนในพื้นที่ฝั่งเหนือสุขุมวิท จะได้ใช้ถนนกรมชลประธาน เชื่อมต่อกับวัดหลวงพ่อปาน เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์กลางหน่วยราชการ รวมถึงมีวัด โรงพยาบาล และสถานศึกษา กรมชลประทาน ซึ่งมีชุมชนในพื้นที่จำนวนมาก

นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า ขอให้ผู้เกี่ยวข้องและผู้มีอำนาจ ช่วยลงไปดูแลทั้ง 3 โครงการนี้ ตำบลคลองด่านจะได้เจริญกว่านี้ เพราะว่าคลองด่านเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจเรื่องอาหารทะเล ถ้าทำโครงการทั้ง 3 โครงการนี้เสร็จ พื้นที่ตรงนี้ จะเป็นพื้นที่ๆ ประชาชนสามารถใช้สอยในเรื่องของอาหารทะเลได้

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ยงยุทธสุวรรณบุตร
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” หนุนขับเคลื่อนพัฒนาผังเมืองสร้างความเจริญประเทศ เปิดรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนมุ่งสร้างประโยชน์ต่อสูงสุดประชาชน

“พล.อ.ประวิตร” หนุนขับเคลื่อนพัฒนาผังเมืองสร้างความเจริญประเทศ
เปิดรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนมุ่งสร้างประโยชน์ต่อสูงสุดประชาชน

21 ธ.ค. 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยพล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบ ร่างรายงานประจำปีในการปฎิบัติตาม พ.ร.บ.การผังเมืองปี2565 (ตามมาตรา 10 วรรคสอง ประกอบมาตรา 75 (7)) ซึ่งมีสาระสำคัญประกอบด้วย สถานการณ์ด้านการผังเมืองของประเทศไทยในปี64 ,ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ,ผลดำเนินการและผลสัมฤทธิ์ของการวางและจัดทำผังเมือง ,การพัฒนาเมือง รวมถึงการดำเนินการเพื่อสนับสนุนภารกิจด้านการผังเมือง และการพัฒนาเมือง เป็นต้น รวมทั้งได้เห็นชอบ ร่างธรรมนูญว่าด้วยการผังเมือง (ปรับปรุงแก้ไขตามมติ ครม.เมื่อ 30 ก.ย.65 โดยให้มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบูรณาการทำงาน ซึ่ง มท.(กรมโยธาธิการและผังเมือง) ได้พิจารณาแก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปตามมติ ครม.แล้ว

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เร่งรัดดำเนินการและรายงานให้คณะกรรมการฯ ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นไปตามกฎหมาย และแนวทางปฎิบัติที่ชัดเจน เหมาะสมในการดำเนินงานตามแผนการผังเมืองของประเทศในทุกระดับ ต่อไป โดยคำนึงถึง การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และประชาชนที่จะต้องได้รับประโยชน์สูงสุดทั้งผังพื้นที่ ผังน้ำ และเส้นทางเดินรถต่างๆ เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศ ให้มีความเจริญก้าวหน้า ต่อไป

ทั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบผลการประกาศใช้บังคับอนุบัญญัติที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2562 จำนวน 5 ฉบับ ในเรื่องของหลักเกณฑ์และวิธีการรับฟังความคิดเห็น การปรึกษาหารือ และการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการวางและจัดทำผังเมืองรวม พ.ศ.2564 ,ผังนโยบายระดับประเทศ ,ระดับภาค ,ระดับจังหวัดและผังเมืองเฉพาะ พ.ศ.2565


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2565

“รมว.ตรีนุช”ยกระดับความร่วมมือการพัฒนาการศึกษา ระดับอาชีวศึกษา พัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม

“รมว.ตรีนุช”ยกระดับความร่วมมือการพัฒนาการศึกษา ระดับอาชีวศึกษา พัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม

วันนี้ 19 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อยกระดับความร่วมมือการพัฒนาการศึกษาระดับอาชีวศึกษาในการผลิตและพัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติ และสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย

โดย นางสาวตรีนุช กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ความสำคัญในการจัดการอาชีวศึกษา และเห็นว่าการพัฒนาอาชีวศึกษาให้ก้าวไกลเป็นแนวทางสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการสร้างความแข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจ เพราะกำลังคนอาชีวศึกษาถือได้ว่ามีบทบาทและเป็นปัจจัยสำคัญต่อการผลิต ทั้งในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และภาคธุรกิจบริการ ซึ่งมีการกระจายตัวอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ ดังนั้นอาชีวศึกษาจึงต้องเร่งสร้างขีดความสามารถในการผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีทักษะที่จำเป็น เพื่อให้มีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งต้องมีการพัฒนาครู พัฒนาผู้เรียน พัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัย ตอบโจทย์กับภาคธุรกิจ

“ การบูรณาการความร่วมมือจากภาคเอกชน ในฐานะองค์กรวิชาชีพ มีความเชี่ยวชาญ มีความเป็นผู้นำในภาคเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ศธ.ได้ดำเนินการมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งการลงนามความร่วมมือกับ 5 องค์กรเอกชนของ สอศ.ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทั้ง 6 หน่วยงาน ที่เล็งเห็นความสำคัญในการเข้ามาร่วมมีบทบาท เพื่อการพลิกเปลี่ยนและยกระดับความร่วมมือการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านอาชีวะในการผลิตและพัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรมธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการวางรากฐาน และเชื่อมโยงการทำงานในการวางแนวทางการพัฒนาคนอาชีวะอย่างเป็นระบบที่แข็งแรง เข้มข้น และครบวงจรมากขึ้น เพื่อให้การผลิตบุคลากรได้อย่างมีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของภาคธุรกิจ และจะเป็นแนวทางสำคัญในขับเคลื่อนระบบการศึกษาทางด้านสายอาชีพ ให้มีการปรับตัว และบรรลุสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จในการสร้างทรัพยากรบุคคลที่พร้อมด้วยความรู้ ความสามารถ มีทักษะ ที่พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 และสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของประเทศในเวทีระดับโลก” นางสาวตรีนุช กล่าว.​


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

ลุยดูแลชาวภูเก็ต พัฒนาแหล่งน้ำส่งเสริมอาชีพมั่นคง !!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างประโยชน์ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน อยู่ดี กินดี

ลุยดูแลชาวภูเก็ต พัฒนาแหล่งน้ำส่งเสริมอาชีพมั่นคง !!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างประโยชน์ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน อยู่ดี กินดี

ลุยดูแลชาวภูเก็ต พัฒนาแหล่งน้ำส่งเสริมอาชีพมั่นคง !!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างประโยชน์ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน อยู่ดี กินดี


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่3 จ.ภาคใต้หนุนพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ย้ำเดินหน้าสร้างสันติสุขเพื่อสร้างความมั่นคง กินดีอยู่ดี ให้ประชาชน

“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่3 จ.ภาคใต้หนุนพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ย้ำเดินหน้าสร้างสันติสุขเพื่อสร้างความมั่นคง กินดีอยู่ดี ให้ประชาชน

วันนี้ 19 ธันวาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.ชาญชัย ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ได้เดินทางลงภาคใต้ เพื่อตรวจติดตามราชการในพื้นที่ จ.ปัตตานี และ จ.ภูเก็ต โดยมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ว่าที่ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ ที่ สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนเดินทางต่อไปยัง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีๆ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพื่อติดความคืบหน้าการขับเคลื่อน เมืองปูทะเลโลก”ตามมติของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.)

ทั้งนี้ ได้ติดความคืบหน้าการขับเคลื่อน” เมืองปูทะเลโลก”ตามมติของ กพต. โดยได้ทำพิธีเปิดโรงเพาะเลี้ยงปูบริเวณคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี พร้อมทั้งได้ชมนิทรรศการการขับเคลื่อน Soft Power ด้านอาหาร ร่วมกับเชฟชุมพล ภายใต้แนวคิด “มหานครแห่งอาหารและบริการฮาลาล สู่ตลาดโลก

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนา จ.ชายแดนภาคใต้ เพื่อรับทราบความก้าวหน้าของการดำเนินโครงการตามการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ( เป็นการส่วนพระองค์ ) กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในการส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ และรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการงานที่สำคัญ ประกอบด้วย การพัฒนาทักษะแรงงาน และการสอนภาษานานาชาติ การขับเคลื่อนโครงการแก้ปัญหาความยากจน ตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อเพิ่มรายได้ครัวเรือน โดยปัจจุบันได้มีการขยายการช่วยเหลือเพิ่ม 1,200 ครอบครัวในปี 2566 โครงการเมืองปศุสัตว์ตามกรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล ซึ่งมีเกษตรกรนำร่อง 5 จว. 171 กลุ่ม ความก้าวหน้าการจัดทำแผนพัฒนา จ.นราธิวาสและปัตตานี

ขณะเดียวกันได้ร่วมพิจารณาและให้ความเห็นชอบในหลักการโครงการที่สำคัญ เช่น โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากระดับชุมชนหมู่บ้าน ปี 66-70 รวมทั้ง โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้นำทุกศาสนาในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี2566- 2570 และ (ร่าง) แผนส่งเสริมการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2566- 2570 ซึ่งมีองค์กรกว่า 200 องค์กรเข้าร่วมโครงการ เป็นต้น

พล.อ.ประวิตร’ แสดงความพอใจที่โครงการต่างๆที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องพร้อมกำชับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแก้ปัญหาแบบมีส่วนร่วมไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะระดับพื้นที่หมู่บ้าน มีกำนันผู้ใหญ่เป็นแกนกลาง เน้นการมีส่วนร่วมของผู้นำทุกศาสนาและการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยต้องเพิ่มศักยภาพภาคประชาสังคมและดึงทุกภาคส่วนเข้ามาร่วม ทั้งการร่วมคิด ร่วมทำและรับประโยชน์ไปด้วยกันอย่างทั่วถึง เป็นนโยบายหลักรัฐบาลในการสร้างความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชนและให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ภาคใต้ และต้องรับฟังปัญหาและความต้องการจากภาคประชาสังคมอย่างรอบด้านไปพร้อมๆกัน สำหรับแผนงานโครงการที่เห็นชอบร่วมกัน ขอให้เร่งขับเคลื่อนการบริหารจัดการให้เป็นไปตามแผนงาน โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน ใช้งบประมาณอย่างเต็มประสิทธิภาพ และโปร่งใส

พล.อ.ประวิตร ได้พบปะกับประชาชน โดยเฉพาะผู้นำชุมชนกว่า 300 คน พร้อมระบุว่าจากการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ เพื่อมารับฟังปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการของประชาชน สิ่งที่สำคัญที่สุดในเป้าหมายของรัฐ ให้พื้นที่จ.ชายแดนภาคใต้ มีสันติสุข ซึ่งทุกฝ่ายเห็นในทิศทางเดียวกัน ย้ำให้ทุกฝ่ายมีความเชื่อใจและร่วมมือกัน โดยต้องมีการพูดคุยนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ไม่มีการแบ่งแยก ทุกคนจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ซึ่งประชาชนในพื้นที่ 3 จ. ภาคใต้ มีถึง 2ล้านคน หากพื้นที่ดังกล่าวมีความสันติสุข มั่นใจว่าจะส่งเสริมให้เกิดการเข้ามาในพื้นที่ได้มากขึ้น จะเห็นได้ว่า ประเทศไทย ในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด 19 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทย ถึง 30 ล้านคน ซึ่งต่างประเทศ มองว่าไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ หากเกิดสันติสุขในพื้นที่ดังกล่าว ก็จะส่งผลดีต่อไทยให้เป็นประเทศที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้นอีก เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นหากมีการส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุย รัฐบาลก็พร้อมจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหา และเกิดสันติสุขในพื้นที่ได้อย่างมั่นคง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

“ผู้กองมาร์ค” ซบอก”พปชร.”เดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้ง นโยบายตอบโจทย์ลด เหลื่อมล้ำปชช.-แก้ไขสิ่งแวดล้อม

,

“ผู้กองมาร์ค” ซบอก”พปชร.”เดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้ง นโยบายตอบโจทย์ลด เหลื่อมล้ำปชช.-แก้ไขสิ่งแวดล้อม

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร เขต 7 บางซื่อ-ดุสิต พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้ตัดสินใจลาลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่ผ่านมาได้รับคำเชิญจากผู้ใหญ่ในพรรคพปชร.และได้ศึกษานโยบายและแนวทางในการทำงานของพรรคซึ่งเห็นว่าตอบโจทย์แนวทางในการทำงานที่เหมือนกันและพร้อมพิสูจน์ว่าเป็นพรรคที่ตั้งใจทำงานให้กับประชาชนอย่างแท้จริง โดยทางพรรคมีการพัฒนาการและปรับตัวเองให้เข้าได้กับคนทุกรุ่น เน้นเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม

“ ผมยืนยันว่าไม่เคยคิดจะเผาบ้านเก่า เพราะทุกการตัดสินใจทางการเมืองขึ้นอยู่กับอุดมการณ์ทางความคิดของสมาชิกและพรรคที่มีนโยบายแนวทางในการทำงานที่ตรงกันว่าอะไรดีที่สุดสำหรับประเทศ ซึ่งในส่วนของการย้ายพรรคก่อนเลือกตั้งใหม่นั้นเป็นเรื่องปกติของนักการเมืองที่ต้องหาบ้านที่เหมาะสม เพื่อที่จะทำงานให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด ประชาชนก็มีโอกาสได้พิจารณาใหม่ มีสิทธิเลือกผู้แทนที่สามารถทำงานให้กับพวกเค้าได้ตรงตามระบอบของประชาธิปไตย”ร.ต.อ.วัฒนรักษ์กล่าว
ทั้งนี้แม้ว่าหลายคนมีคำถามว่ามาสังกัดพรรคพลังประชารัฐแล้วจะทำอะไร ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของตนคือจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดิม บางซื่อ-ดุสิต เพราะผลการเลือกตั้งในปี 2562 นั้นตนแพ้คะแนนไปเพียงหลักร้อย และตลอดเวลาที่ผ่านมายังได้ลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ โดยมีเสียงตอบรับที่ดีมาก และผลจากการสำรวจในการทำโพลทุกครั้ง ก็ชนะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตมาโดยตลอด และจากการที่ตนได้เสนอนโยบายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับทางพปชร. ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมถนัด และทำผลงานด้านนี้มาตลอดทั้งชีวิต โดยได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลกมามากมายหลายครั้ง ก็ได้รับการสนับสนุนจากทางพรรค
อย่างไรก็ตามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพียงเพื่อจะเน้นย้ำว่าไม่ใช่เพียงแค่ผมคนเดียวที่จะทำ แต่จะเป็นสมาชิกของพรรคที่จะร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืนและถาวร ซึ่งตนเชื่อว่าหากพรรคพลังประชารัฐได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอีกครั้งและได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้าจะสามารถ “ทำน้ำให้สะอาด คืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับคนไทยได้อย่างแน่นอน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

‘พล.ประวิตร’สนับสนุน’ซอฟต์ เพาเวอร์’นำมวยไทย เผยแพร่สู่ต่างแดน

,

‘พล.ประวิตร’สนับสนุน’ซอฟต์ เพาเวอร์’นำมวยไทย เผยแพร่สู่ต่างแดน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนฯ และประธานกรรมการคณะกรรมการ กกท.สนับสนุนให้มีการนำ “มวยไทย” ศิลปวัฒนธรรมประจำชาติที่เป็น “ซอฟต์ เพาเวอร์” ของประเทศไทยไปเผยแพร่ในต่างแดน

โดย ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนกีฬา ( NSDF) เปิดเผยถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า ต้องขอขอบคุณการสนับสนุน จากพล.อ.ประวิตร ที่ทำให้งานมหกรรมส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว World Travel Market 2022 (WTM) ที่ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าเอ็กเซล กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้มีการนำ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยชื่อดัง ร่วมแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทย และได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก และยังได้เข้าถึงสำนักงานกีฬามวยไทยที่อยู่ใต้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) อีกด้วย ซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่นานาชาติให้รับรู้ และเข้าใจ เรื่องมาตรฐานมวยไทยที่ถูกต้องตรงภายใต้สหพันธ์มวยไทยนานาชาติ หรือ IFMA

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 ธันวาคม 2565

พล.อ.ประวิตร นำทีมคณะผู้บริหาร-ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ

,

พล.อ.ประวิตร นำทีมคณะผู้บริหาร-ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ
ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ

วันที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ – เมื่อเวลา 14.30 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภานเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

พลเอกประวิตร กล่าวว่า ในวันนี้ได้ตนได้นำคณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมถวายพระพร และถวายกำลังใจ แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา พร้อมขอให้ประชาชนคนไทย ร่วมกันสวดมนต์ เพื่อถวายพระพร แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ เพื่อให้พระองค์ทรงพระพลานามัยแข็งแรง และทรงหายจากพระอาการประชวรสมบูรณ์โดยเร็ววัน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2565

พล.อ.ประวิตร เคาะโครงการแก้ปัญหาน้ำตามแผนจัดการน้ำ 20ปี เตรียมชงคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พิจารณา 29 ธ.ค.นี้

,

พล.อ.ประวิตร เคาะโครงการแก้ปัญหาน้ำตามแผนจัดการน้ำ 20ปี
เตรียมชงคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พิจารณา 29 ธ.ค.นี้

วันนี้ (15 ธ.ค. 65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาทรัพยากรน้ำ ผ่านระบบ VTC ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อห้าจังหวัด โดยที่ประชุมรับทราบผลการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาทรัพยากรน้ำที่สำคัญ ปี 65 และการติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ( 61-65 ) รวมถึงความก้าวหน้าโครงการแก้มลิงทุ่งหิน จ.สมุทรสงคราม

นอกจากนี้ที่ประชุมได้ความเห็นชอบ โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง ตั้งแต่ จ.พระนครศรีอยุธยา – สมุทรปราการ และฝั่งตะวันตก ตั้งแต่ จ.พระนครศรีอยุธยา – สมุทรสาคร เพื่อระบายน้ำเหนือ – ใต้ ออกสู่ทะเลทั้งสองฝั่ง โดยปรับปรุงโครงข่ายชลประทาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำนำไปใช้ประโยชน์ และสามารถช่วยบรรเทาอุทกภัยลดพื้นที่น้ำท่วม

รวมทั้งโครงการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของ กทม. ด้วยการปรับปรุงสถานนีสูบน้ำพระโขนง การก่อสร้างเขื่อนคลองหนองบอน เขื่อนคลองมะขามเทศ ลดผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. พร้อมทั้งเห็นชอบการขยายระยะเวลาและกรอบวงเงิน โครงการคลองระบายน้ำหลาก บางบาล – บางไทร และโครงการปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค สาขาพังงา – ภูเก็ต เพื่อเพิ่มศักยภาพระบบประปา รองรับการขยายตัวของชุมชนเมือง

อย่างไรก็ตามที่ประชุมยังได้เห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำปี 67 จำนวน 63,589 รายการ วงเงิน 337,736 ล้านบาท โดยให้ความเร่งด่วน 26,421 โครงการ วงเงิน 184,530 ล้านบาท ในพื้นที่ทั่วประเทศ ในด้านต่างๆ ประกอบด้วย การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย การอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรน้ำ และด้านบริหารจัดการ ซึ่งผลสัมฤทธิ์ สามารถเพิ่มความจุเก็บกักน้ำกว่า 1,400 ล้าน ลบ.ม.พื้นที่รับประโยชน์ 6.23 ล้านไร่ ประชาชนได้ประโยชน์ 5.64 ล้านครอบครัว และพื้นที่ได้รับการป้องกัน 5.37 ล้านไร่ เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ 29 ธ.ค. นี้ต่อไป

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าได้มอบหมายให้กรมชลประทานและหน่วยเกี่ยวข้อง เพิ่มน้ำหนักการพิจารณาปัจจัยเสี่ยงของโครงการให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อมิให้มีปัญหาการขยายระยะเวลาและกรอบวงเงิน พร้อมทั้งขอให้คณะกรรมการร่วมกันพิจารณากลั่นกรองโครงการอย่างรอบคอบ โดยหลายโครงการมีความสำคัญต่อการลดปัญหาการขาดแคลนน้ำและอุทกภัยอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่บ้าง จึงขอให้พิจารณาดำเนินการให้กระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 ธันวาคม 2565