โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: ข่าวกิจกรรม

"พล.อ.ประวิตร"สายตรงผู้ว่าจังหวัดอยุธยาเตรียมแผนป้องอุทุกภัย กำชับหน่วยงานระดมเครื่องมือ อุปกรณ์-กำลังคนเสริมช่วยปชช.

“พล.อ.ประวิตร”สายตรงผู้ว่าจังหวัดอยุธยาเตรียมแผนป้องอุทุกภัย กำชับหน่วยงานระดมเครื่องมือ อุปกรณ์-กำลังคนเสริมช่วยปชช.

,

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร. ) ได้โทรศัพท์สายตรงพูดคุยกับผู้ว่าราชการอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาอุทกภัยอยู่ในขณะนี้และเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งรองนายกฯ ได้กำชับและสั่งการเร่งรัดให้เกิดการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้ระดับน้ำไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน โดยเฉพาะกรมชลประทาน และกรมป้องกันสาธารณภัย ในการตรวจสอบเครื่องจักรเครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ ระบบไฟ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง เพื่อให้การเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว

ขณะเดียวกัน ต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมทันที ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณาภัย หน่วยทหาร ตำรวจ หน่วยงานจิตอาสา ในการอำนวยความสะดวกในการสัญจร สิ่งของที่จำเป็นการในดำรงชีพ รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านสุขภาพที่อาจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ด้วยเช่นกัน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเป็นปกติ

สำหรับ จ.พระนครศรีอยุธยาปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.บางปะหัน อ.เสนา อ.ผักไห่ อ.บางไทร อ.พระนครศรีอยุธยา และอ.ท่าเรือ รวม 75 ตำบล 340 หมู่บ้าน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทานได้ออกหนังสือแจ้งเตือน สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องล่วงหน้าแล้ว พร้อมได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนในพื้นที่ ทั้งนี้ยังได้กำชับสทนช.ให้บูรณาการในการบริหารจัดการน้ำในการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาไปทางฝั่งตะวันตก ตะวันออก และท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเชื่อมโยงไปแต่ละจังหวัดที่มีทางน้ำผ่านไปสู่ทะเล ซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานครเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ประชาชนกลับมาสู่การดำเนินชีวิตได้ตามปกติให้เร็วที่สุด เพื่อความกินดีอยู่ดี พร้อมให้สส. พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ประสานงานความช่วยเหลือในทุกชุมชน ที่ได้รับผลกระทบ

ที่มา: ทีมประชาสัมะันธ์พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”ยินดี”น้องมายด์”นักกีฬาเยาวชนหญิงสนุกเกอร์คว้า แชมป์คนแรก สร้างชื่อเสียงไทย

,

“พล.อ.ประวิตร”ชื่นชม “น้องมาย”นักสนุกเกอร์เยาวชนไทยคนแรกคว้าแชมป์สนามประเทศโรมาเนีย!!!พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานัประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ได้แสดงความยินดีและชื่นชม กับ ด.ญ. ปุณชญาจันทร์น้อยหรือ “น้องมายด์” นักเรียน รร.เทพลีลา และนักกีฬาสนุกเกอร์หญิงไทยวัย 14 ปี คนแรกในประวัติศาสตร์สนุกเกอร์หญิง ที่คว้าแชมป์สนุกเกอร์เยาวชนหญิงอายุไม่เกิน 21 ปี ระหว่างจัดการแข่งขัน 12 – 29 สิงหาคม 2565 ที่มีขึ้น ณ ประเทศโรมาเนีย

“ขอบคุณ สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ที่สร้างความสุขและความภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ และประสบความสำเร็จในการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน โดยเฉพาะการคัดเลือก เตรียมและให้โอกาสนักกีฬาทุกคนเข้าร่วมแข่งขันในรายการสำคัญๆ ระดับโลก โดยย้ำว่า รัฐบาล พร้อมที่จะกระตุ้นและส่งเสริมให้เยาวชนไทย เข้ามาเล่นกีฬาทุกชนิดมากขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนนักกีฬาไทยให้ประสบความสำเร็จ โดยจะให้ความสำคัญกับการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬามากขึ้นในทุกสมาคมกีฬา เพื่อเตรียมพร้อมร่างกาย และทักษะของนักกีฬาทุกประเภทกีฬาให้มีขีดความสามารถมากขึ้น เพื่อเข้ารับการแข่งขันในระดับโลกต่อไป” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ทีมา: ทีมข่าวพรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”ลุยภารกิจเร่งด่วนแก้ปัญหาความเดือดร้อนปชช. บูรณาการแก้ปัญหาที่ทำกิน-ดึงหน่วยงานความมั่นคงรับมือภัยพิบัติ

,

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชนในขณะนี้ ที่มีหลายด้านเข้ามากระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน และต้องรับผิดชอบราชการแทนนายกรัฐมนตรี สิ่งที่ต้องเร่งทำก็คือเรื่องการบริหารจัดการที่ดินทั่วประเทศ ที่ต้องบูรณาการหน่วยงานเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งจะให้22 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หน่วยงาน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในโครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ที่มีคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)กำกับดูแลในแผนการดำเนินงาน ระยะ 5 ปี

สำหรับ 22 หน่วยงานที่จะร่วมลงนาม ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ ได้แก่ กรมป่าไม้ กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมอุทธยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 2.กลุ่มหน่วยงานงานพัฒนา ได้แก่ การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรมทางหลวงชนบท กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมโยธาธิการและผังเมือง และ 3.กลุ่มหน่วยงานสนับสนุนส่งเสริม ได้แก่ กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน

ทั้งนี้ภารกิจที่ต้องทำร่วมกันได้ กำหนดเป้าหมาย ที่ให้ความสำคัญในด้านการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค รวมถึงส่งเสริมพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตให้ราษฎรมีรายได้ที่มั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามพ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ.2562 ที่กำหนดให้มี คทช. เพื่อทำให้การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินเป็นเอกภาพ มีการแก้ปัญหาแนวเขตที่ดินทับซ้อนระหว่างหน่วยงาน และหน่วยงานกับประชาชน โดยแก้ปัญหาประชาชนที่บุกรุกอยู่ในที่ดินรัฐ โดยการพัฒนาอาชีพเกษตรและนอกภาคเกษตร เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคง และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเป็นการแก้ไขเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์ภัยพิบัติที่มีความรุนแรงมากขึ้นขณะนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุและมรสุมที่พาดผ่าน ส่งผลให้มีปริมาณฝนตกชุก และต่อเนื่องในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ในระยะที่ผ่านมา ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม จัดกำลังพล เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เนื่องจากมีความพร้อม ทั้งกำลังคน และเครื่องมือที่จะเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที ทั้งด้านการอพยพประชาชน การซ่อมบำรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น การวางแผนเร่งระบายน้ำ เป็นต้น โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยงานในท้องถิ่น ที่ผ่านมามีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ

“จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ได้กำชับกระทรวงกลาโหม ระดมกำลังพล และยุทโธปกรณ์ร่วมกับส่วนราชการ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้บูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่เสี่ยงที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานให้การสนับสนุนประชาชน วางแผนการใช้น้ำระยะยาว เก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง สำหรับพืชไร่ และการทำเกษตรด้วย”

สำหรับ พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง จากการรายงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่า แบ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากปัญหาของปริมาณน้ำใน 3 รูปแบบ

1. พื้นที่ ที่อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ประกอบด้วย พื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ จ.ตาก (อ.แม่ระมาด ท่าสองยาง) พิษณุโลก (อ.นครไทย เนินมะปรางชาติตระการ วังทอง) และเพชรบูรณ์ (อ.หล่มเก่า หล่มสัก เขาค้อ) พื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ จ.นครนายก (อ.เมืองฯ) ปราจีนบุรี (อ.ประจันตคาม นาดี) และกรุงเทพมหานคร

2.พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.ร้อยเอ็ด (อ.เสลภูมิ จังหาร โพนทอง) มหาสารคาม (อ.เมืองฯ กันทรวิชัย) และอุบลราชธานี (อ.เมืองฯ) พื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ จ.อ่างทอง (อ.ป่าโมก วิเศษชัยชาญ) และพระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา ผักไห่บางบาล บางไทร บางปะหัน พระนครศรีอยุธยา)

3. พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณปากแม่น้ำ และพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่ง ได้แก่จังหวัด ต่างๆ ดังนี้ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นนทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพมหานคร ภาคใต้ ได้แก่ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงาภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ที่มา: ทีมข่าวพรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 สิงหาคม 2565

 

“รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช.

“รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช.

,

ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานพิธีปิดการแข่งขันฟุตบอล 11 คน “ครอบครัวรัตนเศรษฐ คัพ” ครั้งที่ 1 ประจำปี 2565 ณ โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้ในการแข่งขันได้แบ่งออกเป็น 4 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ,รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ,รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี และรุ่นประชาชนทั่วไป โดยมีทีมเข้าแข่งขัน 45 ทีม ในการจีดการแข่งขันนี้มีเงินรางวัล จำนวน 112,000 บาทและถ้วยรางวัลและเงินรางวัล สำหรับทีมที่แข่งขันชนะเลิศ ทั้ง 4 รุ่น โดยรางวัลชนะเลิศ – รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินรางวัล 15,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 -รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินรางวัล 7,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 – รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินรางวัล 3,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3 – รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินรางวัล 3,000 บาท

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งเสริมให้เยาวชน มีการศึกษาที่ดี ห่างไกลยาเสพติด โดยเน้นการให้มีการสร้างสมรรถนะร่างกายที่ดี ควบคู่ไปกับการศึกษาที่แข็งแรง เพื่อเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต

“รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช. “รมช.อธิรัฐ” กระตุ้นศักยภาพ พัฒนาด้านฟุตบอลของชาวโคราช เปิดการแข่งขัน ครอบครัวรัตนเศรษฐคัพ ครั้ง 1 ส่งเสริมกีฬาของปชช.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.กทม. ขอบคุณ กทม. จัดสรรงบปรับปรุงท่อระบายน้ำ ซ.กรุงเทพกรีฑา-ถ.ลาดพร้าว หนุนจัดงบต่อเนื่องแก้ไขปัญหาย่านอื่น

, , ,

ส.ส.พปชร.กทม. ขอบคุณ กทม. จัดสรรงบปรับปรุงท่อระบายน้ำ ซ.กรุงเทพกรีฑา-ถ.ลาดพร้าว หนุนจัดงบต่อเนื่องแก้ไขปัญหาย่านอื่น

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ พปชร.กทม. เขต 13” หารือประธานสภาผู้แทนราษฎร์ ไปยังกรุงเทพมหานคร ที่จัดสรรงบประมาณปรับปรุงท่อระบายน้ำในซอยกรุงเทพกรีฑา 8 แยก 3 และถนนลาดพร้าว 101 แยก 42 (ชุมชนเทพทวี ซอย 8) แก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งก่อนหน้าเคยหยิบยกขึ้นหารือผ่านสภาผู้แทนราษฎรมา 2 ปี อย่างไรก็ตามทาง กทม. ได้จัดสรรงบประมาณให้แล้วในปีนี้ และดำเนินการแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหวังว่าในปีงบประมาณต่อไปจะได้รับการจัดสรรงบประมาณให้กับถนนเส้นอื่นๆ ทั้งนี้ ได้ขอเสนอให้ กทม. มีการตรวจสอบการจัดสรรงบประมาณปี 2566 ที่กระจายไปยังสำนักงานเขตต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อทำโครงการอบรมสัมนาให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส หรือเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคนใดคนหนึ่ง เพราะเงินที่จะนำไปใช้เป็นเงินภาษีของประชาชน

นอกจากนี้ ยังหารือไปยังผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ เพื่อขอให้ปรับปรุงรั้วโครงการบ้านเอื้ออาทรหัวหมาก ที่ชำรุดทรุดโทรม เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับผู้อยู่อาศัย รวมถึงการสร้างสนามเด็กเล่น ลานออกกำลังกายให้กับผู้สูงอายุ และท่อน้ำดี โดยหากผู้ว่าการเคหะฯ รับเรื่องแล้ว ก็ยินดีที่จะนำลงพื้นที่ไปตรวจสอบก่อนดำเนินการแก้ไข

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.ภูเก็ต เดินหน้าผลักดันจัดตั้งโครงการฝึกอบรมด้านอาชีพ โครงดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.ภูเก็ต เดินหน้าผลักดันจัดตั้งโครงการฝึกอบรมด้านอาชีพ โครงดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.นัทธี ถิ่นสาคู พปชร. จ.ภูเก็ต” พร้อมทีมงานผู้ช่วย ส.ส. ลงพื้นที่ชุมชนหินรุ่ย ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อร่วมกันหารือถึงสภาพปัญหาและความต้องการของพี่น้องประชาชน ในการดำเนินการแก้ไข และสนับสนุนพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน ด้วยการจัดตั้งโครงการฝึกอบรมด้านอาชีพ โครงการชุมชนหินรุ่ยรักษ์สุขภาพของกลุ่มผู้สูงอายุ โดยมีนายธีระวัฒน์ วัฒนโสภณกุล ประธานชุมชน พร้อมคณะกรรมการฯ และนายประสงค์ ไตรรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลเทพกระษัตรี ร่วมให้ข้อมูลต่างๆ

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.ชัยภูมิ ร่วมขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชน สร้างเศรษฐกิจฐานรากสู่ความเข้มแข็ง

,

ส.ส.พปชร.ชัยภูมิ ร่วมขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชน สร้างเศรษฐกิจฐานรากสู่ความเข้มแข็ง

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.เชิงชาย ชาลีรินทร์ พปชร. จ.ชัยภูมิ” ร่วมกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ท่านอนุชา นาคาศัย พร้อมคณะ เปิดงานกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน เพื่อผลักดันและส่งเสริมในการขับเคลื่อนวิหสากิจชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากให้ชาวบ้านให้มีความเข้มแข็ง

ทั้งนี้ นายอนุชา และ ส.ส.เชิงชาย ได้เยี่ยมชมกิจกรรมและบูธแสดงสินค้าจากชุมชนต่างๆ พร้อมร่วมพูดคุยและรับฟังปัญหาอุปสรรค รวมถึงข้อเสนอแนะต่างๆ จากชาวบ้าน เพื่อนำมาปรับใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป สอดคล้องกับยนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.เพชรบูรณ์ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบอาหาร-น้ำดื่ม ช่วยเหลือเบื้องต้น

,

ส.ส.พปชร.เพชรบูรณ์ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบอาหาร-น้ำดื่ม ช่วยเหลือเบื้องต้น

พรรคพลังประชารัฐ โดย “นายจักรรัตน์ พั้วช่วย พปชร. จ.เพชรบูรณ์” พร้อมด้วยทีมงาน ลงพื้นที่บ้านศรีสะอาด ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อนำอาหารและน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุพัดถล่มในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย สร้างความยากลำบากในการดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระด้านความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชนและพระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่ ให้ได้รับความสะดวกในเรื่องของอาหารการกิน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนกินดีอยู่ดีและมีความเป็นอยู่ที่ดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.ผลักดันร่างพ.ร.บ.ทรมานและอุ้มหายคืนความยุติธรรมปชช. กลไกคุ้มครองคนไทยทั้งประเทศเพิ่มความเชื่อมั่นพื้นที่ 3 จ.ชายแดนใต้

,

ส.ส.พปชร.ผลักดันร่างพ.ร.บ.ทรมานและอุ้มหายคืนความยุติธรรมปชช.
กลไกคุ้มครองคนไทยทั้งประเทศเพิ่มความเชื่อมั่นพื้นที่ 3 จ.ชายแดนใต้

ส.ส.อาดิลัน พปชร.จ.ยะลา มั่นใจพรรคร่วมรัฐบาล รับร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. …..ที่แก้ไขโดยสมาชิกวุฒิสภา เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนคนไทยทุกคน โดยเฉพาะสร้างความเชื่อมั่นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และใน 4 อำเภอ จ.สงขลา

วันที่ 24 สิงหาคม 2565 – นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ จังหวัดยะลา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวอภิปรายที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า หลังจากที่สมาชิกวุฒิสภาได้มีการแก้ไข ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ….. ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาและได้มีการปรับปรุงแก้ไขในสาระสำคัญ จำนวน 10 มาตรา ทั้งนี้หลังจากที่ทำการศึกษาและติดตามความเป็นมาของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ และการแก้ไขโดยสมาชิกวุฒิสภาไปแล้ว แม้ว่าเนื้อหาสาระสำคัญที่เป็นร่างของสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการปรับปรุงแก้ไข โดยไม่กระทบกับสาระสำคัญมากนัก เพราะโดยส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ให้รับร่างพ.ร.บ.ฉบับที่แก้ไขโดยสมาชิกวุฒิสภา ถือว่าเป็นร่างกฎหมายที่จะยกระดับมาตรฐานด้านกฎหมายประเทศไทย ที่จะสามารถอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับคนไทยทุกคนที่มีกฎหมายและรูปแบบการตรวจสอบและถ่วงดุลในการสืบสวนและสอบสวนในการอำนวยความยุติธรรม ซึ่งแตกต่างจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และถือเป็นการถ่วงดุลของผู้ใช้อำนาจ

“ต้องยินดีกับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวมถึงใน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เพราะที่ผ่านมาไม่มีกฎหมายที่ไม่อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน และหวังว่าทุกฝ่ายจะเข้ามาช่วยกันผลักดันให้มีกฎหมายที่สามารถอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน และกฎหมายนี้เป็นกฎหมายฉบับหนึ่งที่ดี และสามารถนำไปใช้ได้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอขอบคุณพรรคประชาสังคมที่ช่วยกันผลักดันกฎหมายฉบับนี้ รวมทั้ง สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาฯ และรัฐบาล โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้” นายอาดิลัน กล่าว

ทั้งนี้ กฎหมายฉบับนี้ได้มีการนำเสนอต่อรัฐบาลชุดที่แล้ว รวมถึงสภาผู้แทนราษฎร และคณะคสช. ซึ่งได้ตีตกไป แต่ก็ยังมีการยืนยันที่จะเสนอกฎหมายฉบับนี้เข้ามาในรัฐบาลชุดนี้และก็ประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้ ในฐานะผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐ ขอยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐยินดีที่จะผลักดันกฎหมายดีๆ ให้กับคนไทย โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ….. ฉบับนี้ ในการประชุมร่วมของพรรคร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ มีความเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะให้การสนับสนุนรับร่างกฎหมายฉบับนี้ แม้ว่าจะมีหลายประเด็นที่คิดว่ายังไม่เป็นที่พึงพอใจ แต่ก็ไม่กระทบกับสาระสำคัญสำหรับการอำนวยความยุติธรรมให้กับคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และใน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.กทม. มอบสิ่งของให้กำลังใจกลุ่มเปราะบาง แบ่งเบาภาระ-ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.กทม. มอบสิ่งของให้กำลังใจกลุ่มเปราะบาง แบ่งเบาภาระ-ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ พปชร.กทม.เขต 2” พร้อมด้วยทีมงาน ลงพื้นที่เขตปทุมวัน บางรัก และสาทร เพื่อพบปะและเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง พร้อมกันนี้ได้นำถุงผ้าปันน้ำใจมามอบให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและแบ่งเบาภาระความเป็นอยู่ให้กับกลุ่มคนดังกล่าว

ทั้งนี้ ส.ส.ดร.พัชรินทร์ ยังได้ร่วมพูดคุยและรับฟังปัญหาความเดือดร้อน รวมถึงข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อนำมาจัดทำเป็นแนวทางในการปรับปรุงและแก้ไขปัญหา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาในการยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการดูแลและแก้ไขในเรื่องปากท้องของคนไทยให้กินดีอยู่ดีอย่างยั่งยืน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.นครศรีธรรมราช ส่งเยาวชนเล่นกีฬา สร้างเสริมสุขภาพ-ความสัมพันธ์ 17 โรงเรียนพื้นที่ปากพนัง 2 เกมส์

, ,

ส.ส.พปชร.นครศรีธรรมราช ส่งเยาวชนเล่นกีฬา สร้างเสริมสุขภาพ-ความสัมพันธ์ 17 โรงเรียนพื้นที่ปากพนัง 2 เกมส์

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง พปชร. จ.นครศรีธรรมราช” มอบหมายให้ นายพัชรไชย พันธุ์ทอง ผู้ช่วยดำเนินงาน ส.ส.และคณะทำงาน เป็นตัวแทน “กลุ่มเพื่อนสัณหพจน์” ร่วมมอบทุนสนับสนุนอาหารกลางวันและน้ำดื่ม เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักเรียน ผู้ปกครอง และครูอาจารย์ ในงานกิจกรรม “การแข่งขันกีฬากลุ่มเครือข่ายสถานศึกษาปากพนัง 2” หรือ “ปากพนัง 2 เกมส์” ที่จัดขึ้นในวันที่ 17-19 สิงหาคม 2565 ณ สนามกีฬาโรงเรียนบ้านบางเนียน

ทั้งนี้ กิจกรรดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทย หันมาออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬา ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลจากยาเสพติด และยังสร้างความสามัคคีและความสัมพันธ์ ระหว่าง 17 โรงเรียน หรือกว่า 500 คน ในพื้นที่ปากพนัง 2

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.สิงห์บุรี หารือพร้อมผู้นำชุมชน ร่วมหารือกรมชลประทานเพื่อบริหารจัดการน้ำสอดรับความต้องการ ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.สิงห์บุรี หารือพร้อมผู้นำชุมชน ร่วมหารือกรมชลประทานเพื่อบริหารจัดการน้ำสอดรับความต้องการ ปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ พปชร. จ.สิงห์บุรี” ร่วมกับกรมชลประทานจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมด้วยผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ตำบลงิ้วราย จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อพูดคุยและรับฟังปัญหาความเดือดร้อน การบริหารจัดการน้ำ และข้อเสนอแนะต่างๆ จากชาวบ้าน ในการระดมความคิดเห็นเพื่อนำมาจัดทำเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านให้ดียิ่งขึ้น ตามแนวทางของนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 สิงหาคม 2565