โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: ข่าวกิจกรรม

“พล.อ.ประวิตร” มอบหมาย “สส.กระแสร์” แจกถุงยังชีพช่วยบรรเทาความเดือดร้อน หลังน้ำท่วมหนักกินพื้นที่เป็นวงกว้าง

,

“พล.อ.ประวิตร” มอบหมาย “สส.กระแสร์” แจกถุงยังชีพช่วยบรรเทาความเดือดร้อน หลังน้ำท่วมหนักกินพื้นที่เป็นวงกว้าง

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนในนามตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงพื้นที่ตำบลบ้านเดื่อ และตำบลหินโงม มอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วม โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมเป็นอย่างมาก เพราะประชาชนจะต้องเสียทรัยพ์สินทั้งบ้านเรือนพื้นที่ทางการเกษตร พื้นที่ลุ่มต่ำ รวมถึงด้านปศุสัตว์ด้วย จึงมอบหมายให้ตนนำถุงยังชีพมาแจกจ่ายพี่น้องประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

“ช่วงที่ผ่านมา ในพื้นที่หนองคายมีปริมาณฝนตกอย่างต่อเนื่อง จนเกิดภาวะน้ำท่วมไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน กินพื้นที่เป็นวงกว้าง ผมจึงได้ลงพื้นที่มาเพื่อเป็นกำลังใจให้กับชาวบ้านที่กำลังเผชิญกับวิกฤตน้ำท่วมในขณะนี้ พร้อมทั้งมารับฟังปัญหา เพื่อประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การทำแผนในการแก้ปัญหาน้ำท่วมให้กับพี่น้องประชาชน และในส่วนพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว จะมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 กันยายน 2567

“สส.พิมพ์พร” บูรณาการร่วม “อบต.นาป่า-โยธาธิการและผังเมือง จ.เพชรบูรณ์” ลงพื้นที่สำรวจพร้อมเร่งแก้ไขความเดือดร้อนให้ ปชช.หลังแนวตลิ่งทรุดตัว น้ำล้นเข้าท่วมบ้านเรือน

,

“สส.พิมพ์พร” บูรณาการร่วม “อบต.นาป่า-โยธาธิการและผังเมือง จ.เพชรบูรณ์” ลงพื้นที่สำรวจพร้อมเร่งแก้ไขความเดือดร้อนให้ ปชช.หลังแนวตลิ่งทรุดตัว น้ำล้นเข้าท่วมบ้านเรือน

น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ สส.เพชรบูรณ์ เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมกับนายอดุลย์ นนทะโคตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาป่า และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลนาป่า พร้อมทั้งนายศิลชัย สำเภา กำนันตำบลนาป่า และผู้ใหญ่บ้านตำบลนาป่า ลงพื้นที่สำรวจแนวตลิ่งทรุดตัวบริเวณคลองตาเต็ง บ้านคลองป่าสัก หมูที่ 11 ตำบลนาป่า ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำไหลกัดเซาะ ทำให้บริเวณตลิ่งพังทลาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนน้ำล้นท่วมบ้านเรือน โรงเรียน ร้านค้า และพื้นที่ใกล้เคียงเสียหายเป็นประจำทุกปี

น.ส.พิมพ์พร กล่าวต่อว่า ตนยังได้สำรวจพื้นที่บริเวณเส้นทางสายเรียบแม่น้ำ เพื่อดูแนวทางสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องขอขอบคุณนายสมศักดิ์ วิริยะธนาวุฒิวงษ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ และทีมงานที่ให้ความอนุเคราะห์ ร่วมลงพื้นที่และช่วยติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนร่วมกัน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 กันยายน 2567

“สส.กาญจนา” เผย ข่าวดีชาวบ้านโนนเหม่า หมู่ 3 มีน้ำดื่มชุมชนในหมู่บ้าน แก้ปัญหาขาดเเคลนน้ำได้สำเร็จ เชื่อ ระบบสาธารณูปโภคของท้องถิ่น คือจุดเริ่มต้นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

,

“สส.กาญจนา” เผย ข่าวดีชาวบ้านโนนเหม่า หมู่ 3 มีน้ำดื่มชุมชนในหมู่บ้าน แก้ปัญหาขาดเเคลนน้ำได้สำเร็จ เชื่อ ระบบสาธารณูปโภคของท้องถิ่น คือจุดเริ่มต้นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนได้ลงพื้นที่ บ้านโนนเหม่า ม.3 ต.นางแดด เพื่อติดตามโครงการน้ำประปาและน้ำดื่มชุมชน ที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น เพราะน้ำถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำรงชีวิตและการทำเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นการอุปโภคบริโภค ทำนา เลี้ยงปลา หรือปลูกผัก แต่ในหลายๆ พื้นที่ของประเทศไทยก็ยังประสบปัญหาน้ำแตกต่างกันไป ทั้งน้ำแล้ง น้ำท่วม หรือขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับดื่มกินหรือใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกับในพื้นที่ต.นางแดด

“การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน มีเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็ง และสร้างระบบการบริหารจัดการน้ำอย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพ อย่างยั่งยืน” น.ส.กาญจนา กล่าว

น.ส.กาญจนา กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัญหาขาดเเคลนน้ำที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนมานาน วันนี้ตนขอแสดงความยินดีกับชาวบ้านโนนเหม่า หมู่ 3 ที่ได้มีน้ำดื่มชุมชนในหมู่บ้านแล้ว ซึ่งตนก็เดินหน้าผลักดันเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนวันนี้ประสบความสำเร็จแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้ทันเวลา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 กันยายน 2567

“สส.วรโชติ” เผย “พล.อ.ประวิตร” มอบถุงยังชีพเยียวยาชาวเพชรบูรณ์เบื้องต้น หลังน้ำป่าไหลหลากทำบ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวนมาก

,

“สส.วรโชติ” เผย “พล.อ.ประวิตร” มอบถุงยังชีพเยียวยาชาวเพชรบูรณ์เบื้องต้น หลังน้ำป่าไหลหลากทำบ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวนมาก

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 01 ก.ย.ที่ผ่านมา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้มอบหมายให้ตนและนางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สส.เขต 5 เพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย นายก อบต.วังโป่ง และสมาชิก อบต.,กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเป็นตัวแทนมอบถุงยังชีพให้กับพื้นที่ เทศบาลตำบลวังโป่ง จำนวน 1,000  ครัวเรือน ครับ เนื่องจากจังหวัดเพชรบูรณ์ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม และน้ำป่าไหลหลากทำให้บ้านเรือนพี่น้องประชาชนและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งได้รับความเสียหาย

“น้ำมาครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกันเป็นอย่างมาก เพราะกระแสน้ำมาเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว บ้านเรือนและทรัพย์สินข้าวของในครัวเรือนเสียหายไปมาก ซึ่ง พลเอกประวิตร ติดตามสถานการณ์อย่างใกช้ชิด และท่านยังคิดถึง ห่วงใย ชาวเพชรบูรณ์อยู่เสมอ จึงให้นำสิ่งของจำเป็น เครื่องอุปโภคบริโภคมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้คนในพื้นที่ อาทิ ข้าวสาร น้ำดื่ม เป็นต้น โดยตนต้องขอบพระคุณ พล.อ.ประวิตร แทนพี่น้องชาววังโป่งด้วย” นายวรโชติ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 กันยายน 2567

“พล.อ.ประวิตร“ ร่วมโต๊ะมื้อกลางวันกับสมาชิก พปชร. ฝากการบ้านสส.ผู้สมัครลุยดูแล ปชช.จากภัยน้ำท่วม

,

“พล.อ.ประวิตร“ ร่วมโต๊ะมื้อกลางวันกับสมาชิก พปชร. ฝากการบ้านสส.ผู้สมัครลุยดูแล ปชช.จากภัยน้ำท่วม

27 สิงหาคม 2567 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย กรรมการบริหารพรรค กรรมการยุทธศาสตร์พรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ รองนายกรัฐมนตรี, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและรองหัวหน้าพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, และรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ น.ส. ตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค, พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรค และนายทะเบียนพรรค นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานกรรมการด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย สส. ร่วมรับประทานอาหารกลางวันอย่างเป็นกันเอง และบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นของสส. และสมาชิกที่เข้ามาแสดงพลังและความมุ่งมั่น พร้อมทำงานเคียงข้าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในการทำงานเพื่อประชาชนต่อไป

ทั้งนี้ในการพบปะครั้งนี้ มีฝ่ายบริหาร สส. และสมาชิกของพปชร. ทยอยเดินทางเข้ามากันมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ได้ให้การต้อนรับทุกคนอย่างเป็นกันเอง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใจใสตลอดเวลา โดยได้มีการพูดคุย และฝากการทำงานให้กับสส.​ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานการณ์ภัยน้ำท่วมในภาคเหนือที่ต้องติดตาม ภายหลังได้มอบหมาย ให้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย ทีมโฆษกพรรค ลงพื้นที่จ.แพร่ เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนเบื้องต้นให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งสถานการณ์มรสุมที่เข้ามาสู่ประเทศไทยยังมีต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำมีมากกว่าปกติ จึงมีความเป็นห่วง ภัยน้ำท่วมจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคกลาง และกทม.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 สิงหาคม 2567

“พลเอกประวิตร” มอบ “ชัยวุฒิ-พล.ต.ท.ปิยะ” รุดลงพื้นที่จังหวัดแพร่ ห่วงผู้ประสบภัยน้ำท่วม มอบถุงยังชีพ พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ร่วมแรงร่วมใจทำงานเพื่อประชาชน

,

“พลเอกประวิตร” มอบ “ชัยวุฒิ-พล.ต.ท.ปิยะ” รุดลงพื้นที่จังหวัดแพร่ ห่วงผู้ประสบภัยน้ำท่วม มอบถุงยังชีพ พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ร่วมแรงร่วมใจทำงานเพื่อประชาชน

วันที่ 26 ส.ค.เวลา 14.00 น.พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มอบหมายให้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และพลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย ทีมโฆษกพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ วัดปากจอก ต.ทุ่งแล้ง อ.ลอง จ.แพร่ เป็นตัวแทนมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยในเขต พื้นที่อำเภอลอง จังหวัดแพร่ จำนวน 400 ชุด พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพจำนวน 600 ชุด ให้กับตัวแทนนายอำเภอเด่นชัย และตัวแทนนายอำเภอวังชิ้น รับมอบถุงยังชีพ

โดย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พลเอกประวิตร เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่บางครัวเรือนยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้ เนื่องจากบ้านถูกน้ำท่วมและประชาชนหลายคนยังขาดแคลนเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก พลเอกประวิตร จึงห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย โดยขอให้กำลังให้ทุกคนให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งพรรคพลังประชารัฐหวังว่ามอบถุงยังชีพที่เรานำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นได้

“พรรคพลังประชารัฐ นำโดยท่านหัวหน้ามีความเป็นห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ที่กำลังได้รับกับความเดือดร้อน และยากลำบากในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวแพร่ทุกท่าน ผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ ไปโดยเร็ว“ นายชัยวุฒิกล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 สิงหาคม 2567

“สส.รัชนี”กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคมก่อสร้างสะพาน คสล.แทนสะพานไม้เดิมในพื้นที่ 2 จุด หลังตัวคานไม้ชำรุดมาก จนเกินศักยภาพที่ชาวบ้านและท้องถิ่นจะซ่อมแซมได้

,

“สส.รัชนี”กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคมก่อสร้างสะพาน คสล.แทนสะพานไม้เดิมในพื้นที่ 2 จุด หลังตัวคานไม้ชำรุดมาก จนเกินศักยภาพที่ชาวบ้านและท้องถิ่นจะซ่อมแซมได้

นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหาหรือในที่ประชุมสภาถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ผ่านไปยังกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เพื่อให้ก่อสร้างสะพาน คสล. แทนสะพานไม้เดิม ที่ก่อสร้างโดยสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท ซึ่งปัจจุบันมีสภาพชำรุดไม่ปลอดภัยในการใช้สัญจรไปมา แต่พี่น้องประชาชนก็มีความต้องการ และจำเป็นในการสัญจรไปมา เพราะเป็นสะพานที่ใช้ข้ามไปไร่นา และขนส่งผลผลิตทางการเกษตรเข้าหมู่บ้าน ที่ผ่านมาชาวบ้านให้ช่วยกันเรี่ยไรเงินซ่อมแซมเป็นประจำทุกปี เพื่อให้คงสภาพพอที่จะใช้สัญจรไปมาได้ แต่ปัจจุบันสภาพตัวคานไม้ชำรุดมาก จนเกินศักยภาพที่ชาวบ้านและท้องถิ่นจะซ่อมแซมได้ จึงขอให้กรมทางหลวงชนบทก่อสร้างสะพาน คสล. ขนาดกว้าง 6 เมตร ขนาดความยาวตามความกว้างของลำห้วย 2 แห่งรายละเอียดดังนี้

1.ก่อสร้างสะพาน คสล. แทนสะพานไม้เดิม ข้ามหนองมะทอง พร้อมถนนลาดยางเชื่อมทั้ง 2 ฝั่ง จุดบ้านหนองหว้าหมู่ 10 ตำบลกกโพธิ์ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด

2.ก่อสร้างสะพาน คสล.แทนสะพานไม้เดิม ข้ามลำห้วยยางบ้านพรหมจรรย์ หมู่ 4 ตำบลโคกกกม่วง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด จุดนา สท.วัชริยา พร้อมก่อนสร้างถนนลาดยาง เชื่อมสะพานทั้ง 2 ฝั่ง

3.ขอให้กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อก่อสร้างและขยายสะพานข้ามลำห้วยยาง จุดบ้านดงกลางหมู่ 3 ตำบลโคกกกม่วง อำเภอโพนทอง ไปยังบ้านหนองฝ้ายน้ำ ตำบลศรีวิลัย อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นสะพานของกรมชลประทาน มีความกว้างเพียง 1 เมตร รถยนต์ไม่สามารถที่จะข้ามได้
จึงขอให้ก่อสร้างและขยายความกว้างของสะพานเป็น 6 เมตร ความยาวตามความกว้างของลำห้วย และขอให้ก่อสร้างถนนลาดยางทั้ง 2

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2567

“สส.จำลอง”ชี้ ประมาณขยายถนนไม่ถึง 20 ล้าน สมควรเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

,

“สส.จำลอง”ชี้ ประมาณขยายถนนไม่ถึง 20 ล้าน สมควรเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหาหรือในที่ประชุมสภาว่า ตนได้ลงพื้นที่สำรวจความเดือดร้อนของประชาชนได้จากกรณีถนนในพื้นที่ไม่มีไหล่ทาง เป็นถนนที่ลำบากมาก ซึ่งตนเคยหารือในที่ประชุมอันทรงเกียรติแห่งนี้ ว่า ขอให้ขยายถนน ขยายไหล่ทาง เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน

นายจำลอง ยังหารือถึงปัญหาน้ำท่วม ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อ เพราะบ้านของตนอยู่ท้ายเขื่อนแต่ว่ามีน้ำท่วม มูลเหตุเกิดจากการที่ อปท.เทศบาลหนองหิน โดยท่านสมศักดิ์ สายแสน ได้รับคำยืนยันจากกรมทางหลวงว่าจะมี งบประมาณมาขยายถนนให้กับทางเทศบาล จำนวนงบประมาณไม่ถึง 20 ล้าน และให้ทางเทศบาล หรือทางท้องถิ่นเคลียร์พื้นที่ เขาก็เคลียร์แล้ว แต่พอเคลียร์เสร็จเอาท่อระบายน้ำออก ไม่มีช่องทางให้น้ำไหลไป จึงทำให้เกิดน้ำท่วม ชาวบ้านสัญจรไปมาลำบาก

“ผมขอฝากไปยังกรมทางหลวงว่า งบประมาณแค่ไม่ถึง 20 ล้านบาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ก็สมควรที่จะเยียวยา สมควรที่จะเร่งดำเนินการถนนเส้นนี้ให้เสร็จโดยเร็วเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน”นายจำลอง กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2567

“ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ” แถลงผลประชุม กก.บห.ยืนยันส่ง 4 รายชื่อรัฐมนตรีของพรรคตามข้อตกลงพรรคร่วมรัฐบาล ชี้เป็นมารยาททางการเมือง หากมีการเปลี่ยนตัวบุคคล แจ้ง พปชร.คัดเลือกบุคคลใหม่

,

“ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ” แถลงผลประชุม กก.บห.ยืนยันส่ง 4 รายชื่อรัฐมนตรีของพรรคตามข้อตกลงพรรคร่วมรัฐบาล ชี้เป็นมารยาททางการเมือง หากมีการเปลี่ยนตัวบุคคล แจ้ง พปชร.คัดเลือกบุคคลใหม่

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 67 พรรคพลังประชารัฐ นำโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์, นายไพบูลย์ นิติตะวัน, นายวิรัช รัตนเศรษฐ, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง, พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรค, นายยงยุทธ สุวรรณบุตร, นายอภิชัย เตชะอุบล, นายอัครวัฒน์ อัศวเหม, นายสุธรรม จริตงาม, นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ และ น.ส.กาญจนา จังหวะ จำนวน 12 คน ถือว่าครบองค์ประชุม

เมื่อเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ทีมโฆษกของพรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนยืนยันการเข้าร่วมรัฐบาล และการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคตามที่ได้มีข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบเกี่ยวกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐ ได้มีมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

ต่อมาผู้ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลได้ประสานมายังพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเสนอรายชื่อบุคคลที่มีความเหมาะสมจะเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ และในวันที่ 20 สิงหาคม 2567 หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอรายชื่อบุคคลดังกล่าว จำนวน 4 ท่าน ผ่านนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีไปแล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งตามข้อตกลงในการร่วมรัฐบาล ได้แก่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ทั้งนี้ หากรายชื่อที่ส่งไปแล้วปรากฏว่ามีบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทางพรรคเพื่อไทยควรต้องแจ้งกลับมาให้พรรคพลังประชารัฐทราบ เพื่อให้หัวหน้าพรรคซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อและเสนอไปใหม่เพื่อทดแทนเท่านั้น หากมีการเสนอแต่งตั้งรายชื่อบุคคลอื่นบุคคลใดที่ไม่ได้มาจากรายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐเสนอเป็นรัฐมนตรี ทางพรรคขอปฏิเสธรายชื่อดังกล่าวและจะถือว่าไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ทางพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลควรยึดถือและปฏิบัติตาม

พล.ต.ท.ปิยะ ยังระบุถึงกรณีหากรายชื่อคณะรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่มารยาททางการเมือง ควรจะต้องมีการประสานกลับมาที่พรรคพลังประชารัฐก่อนว่า เกิดปัญหาในด้านใดกับรายชื่อบุคคลของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อทำการปรับเปลี่ยนรายชื่อต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2567

“สส.องอาจ” ขอ ประปาภูมิภาค แก้ไขปัญหาน้ำไม่ไหลในพื้นที่สระบุรี ชี้ เป็นเรื่องจำเป็นและเป็นดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพ ความสามารถ สมรรถภาพ ของผู้ดูแล

,

“สส.องอาจ” ขอ ประปาภูมิภาค แก้ไขปัญหาน้ำไม่ไหลในพื้นที่สระบุรี ชี้ เป็นเรื่องจำเป็นและเป็นดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพ ความสามารถ สมรรถภาพ ของผู้ดูแล

นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหาหรือในที่ประชุมสภาถึงปัญหา ความเดือดร้อนกรณีน้ำประปาไม่ไหลต่อเนื่องมานานถึง 3 วัน บริเวณตำบลขุนโขน อำเภอพระพุทธบาท ตั้งแต่
สี่แยกโรงพยาบาลพระพุทธบาท ไปยังหมู่ 9 หมู่บ้าน ราชพฤกษ์ หมู่บ้านอารียา ไปจนถึงพหลโยธิน ถึงถ้ำกระบอก โดยสาเหตุหลักและเกิดจากปัญหาคือ ท่อเล็กท่อน้อยที่ส่งไปยังหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ เทศบาลเมืองพระพุทธบาท เก่าแก่ เสื่อมโทรม ชำรุด อุดตัน มาหลายปี ไม่เคยได้รับการดูแลแก้ไข

“ผมขอให้ประปาส่วนภูมิภาค ปรับปรุงซ่อมแซม เปลี่ยนท่อเก่าให้เป็นท่อใหม่ โดยเร่งด่วน ปัญหานี้คาราคาซัง มาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งกรณีน้ำหยุดไหลต่อเนื่องหลายวัน ให้ฉุกเฉินกรณีดังกล่าว ขอให้ประปา ได้แจ้งเตือนก่อน เพราะว่าที่ผ่านมาไม่ได้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ก็จะได้เตรียมพร้อมดูแลแก้ไขทดแทนหาน้ำมาใช้ ในกรณีดังกล่าวได้ทันท่วงที พร้อมขอให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบในส่วนนี้ช่วยบริหารจัดการรถน้ำไปช่วย คลายทุกข์ให้พี่น้องประชาชน เป็นเวลาชั่วคราวอย่างน้อยทุกข์ก็จะได้คลายลงบ้าง“นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ ยังกล่าวต่อถึงปัญหาน้ำประปาในเทศบาลสวนดอกไม้ อำเภอเสาไห้ ไหลน้อยจนถึงไม่ไหล โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด เสาร์ อาทิตย์เป็นช่วงที่ใช้น้ำเยอะๆ สาเหตุหลักก็คือ เนื่องจากเทศบาลตำบลสวนดอกไม้ เป็นพื้นที่ปลายสาย ปลายน้ำ เพราะต้องใช้บริการน้ำประปาจากพระพุทธบาท ซึ่งจะใช้เวลาระยะเวลาที่ไกลก่อนน้ำจะไปถึง ก็ค่อยลงไปเรื่อยๆ จึงขอฝากไปยังประปาภูมิภาคให้ช่วยขยายท่อส่งน้ำ เพิ่มแรงดันให้น้ำแรงขึ้น จะได้ช่วยคลายทุกข์บริเวณอำเภอเสาให้ ได้ เพราะน้ำประปาเป็นดัชนีชี้วัดความสุขของพี่น้องประชาชน ในขณะเดียวกันก็เป็นดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพความสามารถ สมรรถภาพ ของผู้ที่ดูแลประปาภูมิภาค

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 สิงหาคม 2567

“สส.สัมพันธ์” หวัง รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะของ กมธ. แก้ไขหนี้สินฯไปกำหนดนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน

,

“สส.สัมพันธ์” หวัง รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะของ กมธ. แก้ไขหนี้สินฯไปกำหนดนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ เปิดเผยว่า กมธ.ได้รายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหา หนี้สินภาคครัวเรือนอย่างยั่งยืน และปัญหาค่าครองชีพสูงที่พิจารณาเสร็จแล้วต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยผลการศึกษาสรุปได้ว่า
ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนของประเทศไทยในปัจจุบันอยู่ในสัดส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตมากที่สุด รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการเป็นหนี้ของประชาชนที่เป็นไปในลักษณะของการมีความพร้อมที่จะก่อหนี้ได้ง่ายและเร็วขึ้น

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นปัญหาสำคัญอีกประการคืออาชีพเกษตรกรมีรายได้ไม่แน่นอนทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ยาก ทำให้มีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนนอกระบบและต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง รายได้ไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ ต้องชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายวันไปเรื่อย ๆ จึงไม่สามารถชำระหนี้ได้หมด ประกอบกับปัญหาค่าครองชีพสูงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ถือเป็นปัจจัยที่สร้างภาระให้แก่ครัวเรือนไทยเป็นอย่างมาก และลดทอนความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนด้วย

โดยทาง กมธ.ได้พิจารณถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนอย่างยั่งยืน เช่น การกำหนดเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนให้ชัดเจน รวมถึง กลไกการบริหารนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน โดยการกำหนดตัวชี้วัดในการแก้ไขปัญหาหนี้สินแต่ละด้าน ระบบการติดตามและการประเมินผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้สิน การจัดหมวดหมู่งบประมาณและการจัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ติดตามและการประเมินผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้สินการปิดช่องโหว่ทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และการเพิ่มความรอบรู้ทางการเงินของประชาชน โดยการเพิ่มความรอบรู้ทางการเงินตามช่วงวัย คือ วัยเรียน วัยทำงาน วัยเตรียมเกษียณ และวัยผู้สูงอายุ การเพิ่มความรอบรู้ตามกลุ่มเป้าหมายการทำงาน อาทิ กลุ่มทำงานประจำ ทำงานอิสระ และดำเนินการควบคู่กับการฟื้นฟูสถานะการเงินของครัวเรือน

“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนต่อไป”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 สิงหาคม 2567

พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานของขวัญ ช่อดอกไม้และกระเช้า เป็นกำลังใจ นักกีฬาโอลิมปิกฯ ต่างมีความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ประธานโอลิมปิคฯ ภูมิใจผลงาน โอลิมปิก 2024 ไทยครองเหรียญรวม อันดับ 1 อาเซียน ขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศ จัดงานมอบรางวัล – เลี้ยงขอบคุณนักกีฬาสร้างชื่อสนั่นโลก อีกครั้ง

,

พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานของขวัญ ช่อดอกไม้และกระเช้า เป็นกำลังใจ นักกีฬาโอลิมปิกฯ ต่างมีความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ประธานโอลิมปิคฯ ภูมิใจผลงาน โอลิมปิก 2024 ไทยครองเหรียญรวม อันดับ 1 อาเซียน ขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศ
จัดงานมอบรางวัล – เลี้ยงขอบคุณนักกีฬาสร้างชื่อสนั่นโลก อีกครั้ง

ยกย่อง “น้องเทนนิส-โค้ชเช” คว้าทอง 2 สมัยติด ต้นแบบความสำเร็จ ปวศ.จารึกมิรู้ลืม

เมื่อ 16 ส.ค.67, 10.00 น. ณ ห้องรับรองบ้านอัมพวัน โอลิมปิคแห่งประเทศไทย ฯ ผู้แทนพระองค์
ได้อัญเชิญของขวัญพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานของขวัญ ช่อดอกไม้และกระเช้า ให้กับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ครั้งที่ 33
เพื่อพระราชทานกำลังใจให้แก่นักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 สร้างความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้

ต่อจากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เป็นประธานจัดงานพิธีมอบรางวัลและเลี้ยงอาหารกลางวัน แสดงความยินดีให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาและคณะเจ้าหน้าที่ ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 26 ก.ค.67 ถึง 11 ส.ค.67 โดยมีประเทศเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 206 ประเทศ

ทั้งนี้ ผลการแข่งขัน ทัพนักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญทองได้ 1 เหรียญ จากเรืออากาศโทหญิง
พาณิภัค วงศ์วัฒนกิจ (เทควันโด) 3 เหรียญเงิน จาก สิบตำรวจโท กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (แบดมินตัน) นายธีรพงศ์ ศิลาชัย (ยกน้ำหนัก) และนายวีระพล วิชุมา (ยกน้ำหนัก) กับ 2 เหรียญทองแดง จาก
จ่าอากาศตรีหญิง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง (มวยสากล) และนางสาว สุรจนา คำเบ้า (ยกน้ำหนัก) รวมทั้งสิ้น 6 เหรียญรางวัล

โดย พล.อ.ประวิตร ได้ทำพิธีมอบของรางวัลจากคณะกรรมการโอลิมปิคฯ และได้กล่าวแสดงความยินดีพร้อมกล่าวขอบคุณ นักกีฬา ผู้ฝึกสอนสมาคม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนแทนคนไทยทั้งประเทศ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ที่ได้ทุ่มเทฝึกซ้อม กระทั่งได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้ ซึ่งมีหลายสมาคมฯ ประสบความสำเร็จทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ และทำให้นานาประเทศได้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งทัพนักกีฬาไทยก็ยังสามารถรักษามาตรฐานผลการแข่งขันกีฬาระดับโลกไว้ได้อย่างงดงาม และยังได้สร้างชื่อเสียงจากการได้รับเหรียญรางวัลรวม มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานของ“น้องเทนนิส -โค้ชเช” ที่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกเหรียญทอง 2 สมัยติดต่อกัน นับเป็นนักกีฬาคนแรกของไทย และเป็นประวัติศาสตร์ที่จะต้องถูกจารึกไว้ ซึ่งเชื่อว่าผลงานครั้งนี้ สะท้อนความสำเร็จได้ตามเป้า อันเกิดจากนโยบายสำคัญ ที่ตนให้ไว้โดยเฉพาะเรื่องการใช้“วิทยาศาสตร์การกีฬา”เพื่อความเป็นเลิศ อย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามนักกีฬายังคงต้องมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก อย่างต่อเนื่อง ทุกสมาคม โดยจะต้องนำประสบการณ์จากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ไปปรับปรุงแก้ไข และถอดบทเรียนเพื่อสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้น ในรายการแข่งขันอื่นๆ ต่อไป

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ฝากขอให้สมาคมกีฬามุ่งใช้ “วิทยาศาสตร์การกีฬา” ที่มีมาตรฐานสากล อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยยกระดับผลงานของนักกีฬาทุกประเภท ให้ดียิ่งๆขึ้น รวมถึงมาตรการป้องกันการใช้“สารต้องห้าม”จะต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด และเด็ดขาดด้วยเช่นกัน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2567