โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์

พปชร.ประชุมสาขาพรรค จ.สิงห์บุรี เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น สู่การกำหนดนโยบายพรรค ด้าน “ชัยวุฒิ”เปิดชู“อนุรักษ์นิยมทันสมัย“ขับเคลื่อนพรรคอย่างประนีประนอม ไม่ทำให้สังคมแตกแยก

,

พปชร.ประชุมสาขาพรรค จ.สิงห์บุรี เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น สู่การกำหนดนโยบายพรรค ด้าน “ชัยวุฒิ”เปิดชู“อนุรักษ์นิยมทันสมัย“ขับเคลื่อนพรรคอย่างประนีประนอม ไม่ทำให้สังคมแตกแยก

วันนี้ (17 พฤษภาคม 2567) ที่ห้องประชุมโรงแรมไชยแสง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมเปิดงานประชุมใหญ่สาขาพรรคภาคกลาง จังหวัดสิงห์บุรี เวทีประชารัฐร่วมใจเพื่อสร้างชีวิตที่สดใสให้คนไทยทั้งประเทศ โดยมีกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเข้าร่วม อาทิ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่ผ่านการเป็นรัฐบาลมาแล้ว4 ปี และการเลือกตั้งรอบนี้ก็ยังได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง เพียงแต่เราไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากจำนวน สส.ลดลง แต่สำหรับจังหวัดสิงห์บุรี เราก็ยืนหยัดอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ และต้องขอบคุณที่ประชาชนไว้ใจและสนับสนุนให้ สส.โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เข้ามาทำหน้าที่ สส. เราก็จะทำให้จังหวัดสิงห์บุรีได้รับการพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆตนเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่มีความพร้อม มีความชัดเจนในการที่จะทำงานให้พี่น้องประชาชน และตนในฐานะรองหัวหน้าพรรค สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ในหลายๆด้าน

“ชาวจังหวัดสิงห์บุรี อาชีพหลักในพื้นที่คือการเกษตร ซึ่งพปชร.ก็ดูแลเต็มที่ในเรื่องน้ำ และระบบชลประทาน ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนรู้สึกได้ที่พรรคเราทำงานอย่างเต็มที่มาโดยตลอด ทำให้เราได้รับการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่สำคัญ นอกจากการดูแลพื้นที่ ตอนนี้มีการแข่งขันในด้านโซเชียลมีเดีย ซึ่งตรงนี้จะทำให้นักการเมืองดูแลพื้นที่ ดูแลชาวบ้านอย่างเดียวมันไม่พอแล้วพรรคพลังประชารัฐ จึงต้องปรับตัวและทำนโยบายทำความชัดเจนในเรื่องของอุดมการณ์ เพื่อสร้างกระแสให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ”นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า คำว่า อนุรักษ์นิยมทันสมัย ก็คือ สิ่งที่ดีเราก็ดูแลส่งเสริมให้มันเข้มแข็งให้สิ่งดีๆเหล่านั้นอยู่กับสังคมไทยสืบทอดไปให้ลูกหลายของเรา แต่ขณะเดียวกัน เราก็พัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ให้ต่อเนื่องกันไป และอนุรักษ์สิ่งที่ดีไว้ สิ่งสำคัญก็คือ การหารือร่วมกัน ประนีประนอมเข้าใจกัน หาทางออกร่วมกันไม่ใช่ใช้ความรุนแรง ไม่ใช้ความรู้สึกที่เกลียดชังกัน ไม่ใช่การที่ทำให้สังคมแตกแยกกัน และอีกสิ่งหนึ่งคือ เรายึดมั่นในอุดมการณ์ปกป้องสถาบัน ทำให้บ้านเมืองสงบสุข และพัฒนาประเทศไปร่วมกัน นี่คือแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ และตนเชื่อว่าแนวทางนี้อยู่ในหัวใจของเราทุกคนตลอดไปแน่นอน

ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมประจำปีของสมาชิกพรรคที่จังหวัดสิงห์บุรีเรียบร้อยดี เป็นการประชุมและรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคและพี่น้องประชาชน เพื่อนำไปกำหนดเป็นนโยบายของพรรคต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 พฤษภาคม 2567

“ชัยวุฒิ” นำสส.โชติวุฒิ พปชร. รุดลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัยไฟไหม้ตลาด 100 ปี อินทร์บุรี ประสานหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ ลดผลกระทบประชาชน

,

“ชัยวุฒิ” นำสส.โชติวุฒิ พปชร. รุดลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัยไฟไหม้ตลาด 100 ปี อินทร์บุรี ประสานหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ ลดผลกระทบประชาชน

วันนี้ (20 ส.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส. จ.สิงห์บุรี เขต1 ได้เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนที่ประสบเหตุอัคคีภัย เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ในช่วงค่ำที่ผ่านมาในตลาดอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ประสานทางจังหวัดในการเข้าดูแลความช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัย

“เหตุการณ์ครั้งนี้พบว่า มีผู้ประสบอัคคีภัย 34 หลังคาเรือน ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้เข้าช่วยเหลือในการระงับเหตุ และบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนหาสาเหตุ การเยียวยาในอนาคต ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เข้าช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งตลาดแห่งนี้ เป็นตลาดสด เปิดในช่วงเช้า เป็นย่านชุมชนเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี จำเป็นอย่างยิ่งต้องหาแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำในอนาคตต่อไป”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 สิงหาคม 2566

“ชัยวุฒิ” ควง “ฟิล์ม” ปราศรัยเขตสวนหลวง ชูนโยบายลดค่าครองชีพ พร้อมวลีเด็ด “กระแสพรรคนั้นอยู่ไม่นาน แต่ถ้าเลือกคนที่ทำงาน ผมจะอยู่กับพ่อแม่พี่น้องตลอดไป”

,

“ชัยวุฒิ” ควง “ฟิล์ม” ปราศรัยเขตสวนหลวง ชูนโยบายลดค่าครองชีพ พร้อมวลีเด็ด “กระแสพรรคนั้นอยู่ไม่นาน แต่ถ้าเลือกคนที่ทำงาน ผมจะอยู่กับพ่อแม่พี่น้องตลอดไป”

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 22 เบอร์ 1 พรรคพลังประชารัฐ ได้ลงพื้นที่ปราศรัยกับพี่น้องชาวสวนหลวง ที่ศูนย์ยีซา ซอยปานเหล็ง โดยการปราศรัยในครั้งนี้ นายชัยวุฒิ ได้ขอบคุณพี่น้องชาวสวนหลวงที่สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ และมั่นใจว่าเขตนี้ฟิล์มจะได้รับการเลือกจากประชาชน ได้เป็น ส.ส. เขตสวนหลวง

นายชัยวุฒิ กล่าวถึงนโยบายลดค่าครองชีพว่า ปัจจุบันสินค้ามีราคาแพงเพราะพลังงานมีราคาสูงมาก ทางพรรคจึงมีนโยบายเร่งด่วนในการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ด้วยการลดค่าไฟฟ้าเหลือหน่วยละ 2.50 บาท ลดค่าแก๊สเหลือถังละ 250 บาท ลดค่าน้ำมันเบนซินลงลิตรละ 18 บาท ดีเซลลดลงลิตรละ 6 บาท และยังมีนโยบายช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย อย่างบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเงินเป็น 700 บาท

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า นโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขประเทศเดินไปข้างหน้า มีนักท่องเที่ยว มีนักธุรกิจมาลงทุน มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ให้กับประชาชนชาวกรุงเทพมหานครอยู่อย่างมีความสุข เราคิดต่างกันได้ เราเห็นต่างกันได้ แต่เราต้องทำให้บ้านเมืองสงบสุข เลือกพรรคพลังประชารัฐให้ “ลุงป้อม” ก้าวข้ามความขัดแย้งไปด้วยกันให้ได้นะครับ พรรคพลังประชารัฐมีอุดมการณ์ชัดเจน สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง มีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนทางพรรคเห็นด้วย แต่ถ้าจะไปเปลี่ยนสิ่งใดทำให้บ้านเมืองเสียหาย ทำให้ประชาชนแตกแยก ทำให้ลูกหลานในอนาคตของเราเดือดร้อน พรรคพลังประชารัฐจะไม่ยอมเด็ดขาด นี่คืออุดมการณ์สำคัญของพรรคพลังประชารัฐที่จะมีอยู่ตลอดไป

ด้านนายรัฐภูมิ กล่าวว่า ทุกคนไม่ต้องห่วงโตมาต้องมั่งคงใครที่มีรายได้ไม่ถึง 5 แสนบาทไม่ต้องเสียภาษี พร้อมชูนโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุ “3 4 5 6 7 8″ โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับ 3,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไป จะได้รับ 4,000 บาท และอายุ 80 ปีขึ้นไปจะได้รับ 5,000 บาท อีกทั้งบัตรสวัสดิการรัฐหรือบัตรประชารัฐ ที่เมื่อก่อนได้รับ 300 บาท ถ้าพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาลจะเพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ฟิล์มยังได้ขอกำลังใจจากพี่น้องประชาชนเขตสวนหลวง และทิ้งวลีเด็ดส่งท้ายว่า “วันนี้กระแสพรรคนั้นอยู่ไม่นาน แต่ถ้าทุกคนเลือกคนที่ทำงาน ผมจะอยู่กับพ่อแม่พี่น้องตลอดไป” พร้อมเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ ใช้เสียงเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เป็นกำลังใจให้ฟิล์ม บัตรสีม่วงกาเบอร์ 1 เลือกฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เขต 22 ส่วนใครชื่นชอบนโยบายพรรคพลังประชารัฐ บัตรสีเขียวกาเบอร์ 37

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 พฤษภาคม 2566

ชัยวุฒิ ปราศรัย ซัดนักการเมืองโกงมีปัญหา ประเทศไม่ได้มีปัญหา วอนหยุดดราม่า โจมตีหาเสียง ย้ำจุดยืน พปชร.รักชาติ รักแผ่นดิน

,

ชัยวุฒิ ปราศรัย ซัดนักการเมืองโกงมีปัญหา ประเทศไม่ได้มีปัญหา วอนหยุดดราม่า โจมตีหาเสียง ย้ำจุดยืน พปชร.รักชาติ รักแผ่นดิน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ ปราศรัย อำเภอ ค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อช่วย นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ผู้สมัคร สส. หมายเลข7 พรรคพลังประชารัฐ หาเสียง

โดย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ทุกวันนี้ มีคนกลุ่มหนึ่งก็พยายามหาเสียงเลือกตั้ง ด้วยการ พูดจาดราม่า เข้าใจคําว่าดราม่าไหม พูดจริงบ้าง ใส่สีปรุงแต่ง บิดเบือนเพื่อหาเสียง อะไรก็ไม่ดีประเทศไทยเสียหายเศรษฐกิจตกต่ำเพราะปฏิวัติรัฐประหาร มันก็ไม่ใช่ พอเขาปฏิวัติผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว 8ปีแล้ว วันนี้มันไม่เกี่ยวกับการปฏิวัติรัฐประหารแล้ว มันเป็นเรื่องของการเลือกตั้งตามบอกประชาธิปไตย แต่ที่สําคัญประเทศไม่ได้เสียหาย บางคนทำธุรกิจ เขาเรียกว่าอสังหาริมทรัพย์ พูดชื่อเลย บริษัท แสนศิริ กําไรปีที่แล้วประมาณสองพันล้าน ปีนี้กําไรสี่พันล้าน กําไรเพิ่มขึ้นเท่าตัว แปลว่าอะไร เศรษฐกิจดี ขายบ้านได้ เพราะถ้าเศรษฐกิจไม่ดีเขาไม่ซื้อบ้านกัน บ้านหลังก็หลายสิบล้านด้วยในกรุงเทพ ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ เติบโตทุกปี ช่วงสิบปีมาแล้วไม่มีตกเลย มีโควิดที่ยังส่งออกได้ อุตสาหกรรมเติบโต ให้โบนัสพนักงาน8-9เดือน ต่อเนื่องมาเป็นสิบปี ปฏิวัติแล้ว อุตสาหกรรมรถยนต์ ธุรกิจก็ไม่ได้มีปัญหา การออกมาพูด ปฏิวัติแล้วเศรษฐกิจตกต่ำมากประชาชนเดือดร้อน มันไม่ได้มีปัญหาอย่างนั้น มันเป็นการสร้างวาทกรรม สร้างภาพเพื่อให้คนเกลียดชังกันและคิดว่าจะสร้างคะแนนนิยมให้กับนักการเมืองเท่านั้น ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐไม่ทํา

การข้ามความขัดแย้ง คือไม่ทะเลาะกัน ไม่โจมตีกัน พูดแต่สิ่งที่จะมาทําให้ประชาชน วันนี้จึงควรพูดแต่เรื่องที่อยากจะมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพราะ เรื่องใหญ่พี่น้องเข้าใจอยู่แล้ว คือก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่ออะไร เพื่อให้มีรัฐบาลที่ดีมีเสถียรภาพ บ้านเมืองสงบสุข ประชาชนจะได้ทํามาหากินได้ อันนี้อันดับแรกที่เราต้องทํา แต่หลังจากบ้านเมืองเดินหน้าได้แล้ว วันนี้ปัญหาใหญ่ของคนไทยคือ ปัญหาเศรษฐกิจ น้ํามันแพง แก๊สหุงต้มอยากให้ลดราคาไหม ใช้ทุกบ้านอยู่แล้ว พอลดค่าแก๊ส เราก็เหลือเงินในกระเป๋ามากขึ้น เราจะได้มีเงินไปซื้อของไปดูแลลูกหลานเรา แต่ว่าบางพรรคบอก เรามาเอาแบบนี้ เราจะเติมเงินดิจิทัลให้คนละหนึ่งหมื่นบาท ใช้ไม่เป็น คนใช้ก็ไม่เป็น ร้านค้าตอนรับมา เขาบอกว่าเงินดิจิทัลจะได้ตรวจสอบได้ จะได้เก็บภาษีได้ ร้านค้านี้ไม่เข้าโครงการ ผมก็งงว่าจะให้เงิน10,000 บาท ทําไมต้องทําให้ยาก ก็ใส่แอปเป๋าตังค์ก็ได้ โอนเข้าบัญชีก็ได้ มีบัญชีทุกคน วันนี้ทุกคนมี โอนเงินเป็นสดใช่ไหมครับ โอนเงินมาเลยดีกว่าไหม แต่ทํายากทําไมก็ไม่รู้ มันทําไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไร ตอนนี้คนไทยก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ การสร้างราคาพลังงานที่ในอดีตทํามา มาเจอค่าแก๊สมันขึ้น ค่าไฟก็ขึ้นตาม เราก็ต้องไปแก้ปัญหาที่ค่าแก๊สและปรับโครงสร้าง เพื่อให้พลังงานไฟฟ้าราคาถูกลง เราตั้งเป้าไว้ว่าครอบครัวหนึ่งต้องเสียค่าไฟหน่วยละ สองบาทห้าสิบจากเดิมเกือบห้าบาท เพราะงั้นเราต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์37

ผมสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับที่3 อันดับที่1 คือลุงป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อันดับที่2 คือ เลขาพรรค สันติพร้อมพันธ์ อันดับ3 รองหัวหน้าพรรค ชื่อชัยวุฒิ เราต้องช่วยกันพรรคพลังประชารัฐ เบอร์37 เบอร์นี้ไม่ใช่เลือกนายก เลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ บางคนบอกเลือกลุงตู่ ผมก็รักลุงตู่ แต่ลุงตู่ไม่ได้อยู่พลังประชารัฐแล้ว เราต้องเลือกพลังประชารัฐ เพราะเลือกชัยวุฒิเบอร์37 เพราะผมได้ไปทํางานรับใช้พี่น้อง ร่วมกับโชติวุฒิ ร่วมกับคุณแม่ผมด้วย เข้าถึงทุกคน อยู่กับประชาชน เราเรียกใช้ได้ อันนี้คือเรื่องสําคัญสองเรื่อง เลือกคนที่ดี เลือกพรรคที่มีนโยบายดี ทําให้บ้านเมืองสงบสุข แต่เรื่องที่สามที่เป็นเรื่องสําคัญในการที่จะช่วยเราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น คือ เรื่องที่อุดมการณ์ อุดมการณ์คือภาพใหญ่ที่เราคิดว่าจะทําให้ประเทศไทยเป็นอย่างไร พรรคเราชนะ รักชาติรักแผ่นดินอยากให้บ้านเมืองมั่นคงเข้มแข็ง ให้คนไทยปลอดภัยอยู่อย่างสงบสุข นี่คืออุดมการณ์ของพรรคพลังประชารัฐ เราคิดว่าปัญหาของประเทศ นักการเมืองชอบพูด บางคนบอกว่า อยากเปลี่ยนประเทศ เพราะประเทศมันมีปัญหา วุ่นวายมาก ต้องแก้ที่ต้นตอ ต้นตอนั้นคือต้นไม้ใหญ่ ที่มีรากแก้ว ปกคลุมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่น มีร่มเงาของต้นไม้ที่ทําให้คนไทยรักกันสามัคคีกัน เป็นราชอาณาจักรไทยอันเป็นหนึ่งเดียว อยู่ได้ทุกวันนี้ แล้วเราจะเปลี่ยนประเทศแบบเขาทําไม นี่คือเรื่องอุดมการณ์ วันนี้แทนที่จะพูดเรื่องเปลี่ยนประเทศ เรามาเปลี่ยนนักการเมืองเลวๆออกจากระบบดีกว่า พรรคการเมืองไหนที่มันโกงมันทําให้บ้านเมืองฉิบหายแล้วอย่าไปเลือก ในอดีตทําไมไม่พูด พรรคบางพรรคพูดถึงแต่ปัจจุบัน ด่าแต่ทหาร ทําอะไรก็ไม่ดี และนักการเมืองชั่วๆไม่พูดบ้าง บางครั้งนายไม่อยากพูดเรื่องจํานําข้าว เขาบอก เรื่องจำนําข้าว ผมอยู่กับพวกเราที่สิงห์บุรีเป็นชาวนาเยอะ โครงการจํานําข้าวทํามาหลาย10ปี ไม่ใช่เพิ่งมาเคยทำในสมัยรัฐบาลที่แล้ว แต่ทำไปแล้วมีปัญหา มีการโกง มีการทุจริตคอรัปชั่น ผมไม่ได้ใส่ร้าย เพราะมันพิสูจน์แล้วว่ามันโกงจริง แล้วติดคุกกันหมดแล้ว แล้วเขาต้องยกเลิกโครงการไปทําไม่ได้ เพราะมันเสียหายประเทศเป็นหนี้เป็นแสนล้าน มันไม่ได้เลิกเพราะลุงตู่ลุงป้อม บางคนรู้ว่าจำนําข้าวยกเลิกเพราะลุงตู่ลุงป้อมมันไม่ใช่มันยกเลิกเพราะมันโกงกันมันทําบ้านเมืองเสียหายไปแล้วมันเลยทําไม่ได้ วันนี้พรรคจำนำข้าวก็ไม่กล้าพูดเรื่องนี้ เพราะรู้ว่าทําผิดไปแล้ว ทําพลาดไปแล้วก็ไม่กล้าพูดเรื่องนี้ โครงการดีๆแบบนี้ที่เคยทําไว้ในอดีตก็เลยไม่มีมาช่วยพี่น้องประชาชน ผมก็ไม่อยากย้อนอดีตพูดให้ฟัง วันนี้ไอ้พรรคการเมืองแบบนี้อยู่ในสภาตอนเป็นรัฐบาลก็โกง เป็นฝ่ายค้านพี่น้องดูข่าวนะ สส. มุกดาหาร เป็นกรรมาธิการงบประมาณ ไปโกง ไปเรียกรับเงิน จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ํา เขาอัดเทป เรียกเงินเขา เรียกสินบน ตอนนี้โดนศาลฎีกาตัดสินแล้ว จําคุก6ปี ก็พรรคนี่แหละ พรรคประชาธิปไตยเรานี่แหละ เป็นฝ่ายรัฐบาลก็โกงเป็นฝ่ายค้านยังโกงได้เลยแล้วรับผิดชอบอะไร พรรครับผิดชอบไหม ด่าแต่คนอื่น ผมไม่เคยพูด ผมทนไม่ไหวต้องบอกพี่น้อง เรามาเลือกการเมือง เราเลือกให้คน เลือกพรรคที่จะมาทํางานให้เรา แล้วดูประวัติดูสิ่งที่เขาทําด้วย เพราะต้นตอของปัญหาทั้งหมดที่ประเทศไทยวุ่นวาย เพราะนักการเมืองมันไม่ดี มันโกง มันทะเลาะกัน ไปหลอกลวงประชาชน พูดจาดราม่าบิดเบือนข้อมูล ทําให้คนเกลียดชังกัน อันนี้มันลามไปถึงลูกกับหลานเราแล้วนะพี่น้องไปดู โทษฟ้าโทษแผ่นดิน โทษทุกอย่าง แต่คนที่พูดไม่เคยดูตัวเองเลย เพราะวันนี้บ้านเมืองมันดีขึ้นได้ด้วยการที่เราเลือกคนดีมาทํางาน แล้วทุกคนก็ตั้งใจทําความดี ทําหน้าที่ตัวเองให้ดี เด็กๆก็ตั้งใจเรียน ผู้ใหญ่ก็ตั้งใจทํามาหากิน ถ้าทุกคนทําหน้าที่ให้ดี ประเทศชาติของเรามันก็เจริญก้าวหน้า แล้วจะมาทะเลาะกันทําไม นี่คือเป้าหมายที่ลุงป้อมพูดมาตลอด ซึ่งบางคนไม่เข้าใจ ก้าวข้ามความขัดแย้ง คืออะไร ก็คือสิ่งนี้เลิกด่ากัน เลิกทะเลาะกัน หลังเลือกตั้ง เรามาคุยกัน ทุกพรรคทุกกลุ่มทุกฝ่าย คุณมีปัญหาอะไรมานั่งคุยกัน เจรจากัน หาทางออกกัน เพราะลุงป้อมเป็นคนใจดี เป็น soft power ประนีประนอม คุยทุกคน ลุงป้อม ตี5ครึ่งเปิดบ้าน ถึง5โมงเย็น รับแขกทุกคน ใครเดือดร้อนจะจังหวัดไหน ฝ่ายไหน กลุ่มไหน ท่านไม่เคยเลือกปฏิบัติ ควรเอาความเดือดร้อนมาคุยกัน แล้วแก้กฎหมาย แก้รัฐธรรมนูญ แก้อะไรก็ตามที่ทําให้บ้านเมืองสงบสุข นี่คือก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่อะไรที่แก้แล้ว พูดแล้ว เปลี่ยนไปแล้วทําให้บ้านเรามีปัญหา ทําให้คนทะเลาะกัน เราก็ก้าวข้ามมันไปก่อน เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าไปได้ เราจะได้ทํางานก้าวข้ามความยากจน ให้ประชาชนอยู่ดี ๆ ให้ได้ นี่คือคอนเซ็ปต์ของการก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะถ้าเราเลือกตั้งไปแล้ว ได้พรรคการเมืองที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้ ทําอะไรสุดโต่งเลย เอาแค่เรื่องง่าย ๆ ผมไม่อยากพูดจริง ๆ แก้มาตราร้อยสิบสอง มีหลายเรื่องที่เค้าจะแก้ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ที่เราเกณฑ์ทหาร เพราะทหารต้องปกป้องดูแลประเทศ สร้างค่านิยม ความเสียสละ ให้กับ ถ้าไม่มีทหารประเทศมีคนรุกรานคุณจะไปรบมั้ย

อย่างไรก็ตามบรรยากาศการปราศรัยเป็นไปอย่างสนุกสนาน มีกองเชียร์ แฟนคลับ พรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ คุณแม่ภรณี และนายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ที่ออกมาช่วยกันสร้างสีสัน ด้วยการเต้น เพลงพรรคพลังประชารัฐ และแต่งกาย แฟชั่น สีสันสดใส

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 พฤษภาคม 2566

“รมว.ชัยวุฒิ” เปิดตัวการใช้งาน Health Link รูปแบบใหม่ ตั้งเป้านำร่องกับโรงพยาบาลในสังกัด กทม. เดือนพฤษภาคมนี้

, ,

“รมว.ชัยวุฒิ” เปิดตัวการใช้งาน Health Link รูปแบบใหม่ ตั้งเป้านำร่องกับโรงพยาบาลในสังกัด กทม. เดือนพฤษภาคมนี้

26 เมษายน 2566, กรุงเทพมหานคร – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ พร้อมด้วยผู้บริหาร GBDi สังกัดดีป้า สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ร่วมเปิดตัวการ ใช้งาน Health Link รูปแบบใหม่ เพื่อเป็นช่องทางการลงทะเบียนและให้ความยินยอมในการส่งต่อข้อมูลสุขภาพ เข้าสู่ระบบแก่ประชาชนโดยสะดวกด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียวในการลงทะเบียน ณ จุดบริการที่แผนกต่าง ๆ และแผนกเวชระเบียนของโรงพยาบาล เล็งนำร่องกับโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครเป็นกลุ่มแรกพฤษภาคมนี้

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)
พร้อมด้วย รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (GBDi) หน่วยงานผู้พัฒนา Health Link ระบบเชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษาผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลทั่วประเทศ สังกัด สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดตัวการใช้งาน Health Link รูปแบบใหม่

โดยเพิ่มช่องทางการลงทะเบียนและให้ความยินยอมในการส่งต่อข้อมูลสุขภาพเข้าสู่ระบบแก่ประชาชน พร้อมรับชมกิจกรรมสาธิตการใช้งาน ณ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โดยมี ดร.นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ นพ.พรเทพ แซ่เฮ้ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ดร.ศุภกร สิทธิไชย ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสดีป้า และ นพ.ธนกฤต จินตวร รองผู้อำนวยการ GBDi ร่วมงานโดยพร้อมเพรียง

นายชัยวุฒิ เปิดเผยว่า กระทรวงดิจิทัลฯ โดย GBDi มุ่งมั่นมอบความสะดวกให้กับประชาชนในการลงทะเบียนและให้ความยินยอมในการส่งต่อข้อมูลสุขภาพของตนเองเข้าสู่ระบบ Health Link ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะประชาชนบางกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือใช้งานแอปพลิเคชันไม่คล่อง ทำให้ไม่สามารถลงทะเบียนเข้าสู่ระบบได้ ดังนั้นทีมงาน Health Link จึงพัฒนาบริการรูปแบบใหม่ที่ทำให้การลงทะเบียนและให้ความยินยอมในการส่งต่อข้อมูลสุขภาพของตนเองเข้าสู่ระบบเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วด้วยการใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ณ จุดบริการที่แผนกต่าง ๆ รวมถึงแผนกเวชระเบียนของโรงพยาบาลนั้น ๆ โดยจะนำร่องปฏิบัติการร่วมกับโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ทั้ง 11 แห่งเป็นกลุ่มแรกในเดือนพฤษภาคมนี้

ขณะที่ รศ.ดร.ธีรณี กล่าวต่อว่า รูปแบบการให้บริการของ Health Link ที่เปิดตัวในวันนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงระบบเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลประวัติสุขภาพและการรักษาระหว่างโรงพยาบาลได้ง่ายขึ้น และยังช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการเชื่อมต่อข้อมูลประวัติการรักษาโดยแพทย์สามารถเรียกดูข้อมูลต่าง ๆ ได้ทันทีที่ผู้ป่วยลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ จากเดิมที่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า 1 วัน

“ปัจจุบันมีโรงพยาบาลทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ Health Link แล้วกว่า 300 แห่ง โดยในปี 2566 ตั้งเป้าหมายเพิ่มการเชื่อมต่อข้อมูลผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลให้ครอบคลุมมากกว่า 200 แห่ง เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้ารับบริการ โดยปีที่ผ่านมา GBDi ได้ส่งเสริมให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Health Link เพื่อยินยอมให้โรงพยาบาลส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยไว้ในระบบผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ในหมวดสิทธิที่น่าสนใจฟีเจอร์กระเป๋าสุขภาพ และตอนนี้สามารถมาลงทะเบียนที่โรงพยาบาลได้” ผู้อำนวยการ GBDi กล่าว

สำหรับประชาชนสามารถศึกษารายละเอียดต่าง ๆ และติดตามข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าการพัฒนาระบบ Health Link ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก HealthLink.go.th และเว็บไซต์ www.healthlink.go.th

ปัจจุบัน GBDi อยู่ระหว่างจัดตั้งเป็น สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Institute) ในการเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดนโยบาย พร้อมยกระดับทักษะบุคลากรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนประยุกต์ใช้ข้อมูลขนาดใหญ่อย่างเป็นประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศในอนาคต

———————————————————————

ข้อมูลเพิ่มเติม :
Health Link เป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพผ่านระบบออนไลน์ (Health Information Exchange) ที่มีประสิทธิภาพด้วยระบบป้องกันภัยทางไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล มีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยยกระดับบริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน ไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรือเกิดเหตุฉุกเฉินที่ใดก็สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทันที โดยแพทย์สามารถสืบค้นข้อมูลผู้ป่วย Health Link ทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอการส่งข้อมูลจากโรงพยาบาลเดิมของผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยให้การวินิจฉัย และการวางแผนรักษารวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่วนกรณีที่ต้องการย้ายโรงพยาบาลจะดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพราะข้อมูลประวัติการรักษาจะตามตัวผู้ป่วยไปในทุกที่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 เมษายน 2566

“ชัยวุฒิ” ปราศรัยบ้านเกิดสิงห์บุรี ประกาศก้าวข้ามความขัดแย้ง ย้ำ ตั้งใจมาตอบแทนพระคุณแผ่นดิน เรียกใช้ได้ตลอดเวลา

,

“ชัยวุฒิ” ปราศรัยบ้านเกิดสิงห์บุรี ประกาศก้าวข้ามความขัดแย้ง ย้ำ ตั้งใจมาตอบแทนพระคุณแผ่นดิน เรียกใช้ได้ตลอดเวลา

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเวทีปราศรัยบริเวณวัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี นำโดย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยกล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า บ้านเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ใส่เสื้อสีออกมาประท้วง ทำให้ประชาชนทำมาหากินไม่ได้ ในสภาผู้แทนราษฎรก็ยังทะเลาะเบาะแว้ง ส่งผลทำให้บ้านเมืองมีปัญหา คนไทยไม่มีความสุข

“วันนี้แค่จะเลือกตั้งก็ทะเลาะกันแล้ว ยิ่งมีสีส้มมาอีกหนักกว่าสีแดง สีเหลือง เพราะเขาจะมาแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนประเทศ จะเปลี่ยนไปทางไหน เขาบอกต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ ซึ่งต้นตอของเราก็ไม่เหมือนกัน ส่วนตัวมองว่าต้นตอของปัญหาคือนักการเมืองที่ทุจริต นักการเมืองโกง นักการเมืองเห็นแก่ตัวทะเลาะกัน นั่นแหละคือต้นตอของปัญหา ไม่เกี่ยวกับ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์”

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยเราดีอยู่แล้ว แต่เราต้องเปลี่ยนที่นักการเมือง เลือกนักการเมืองที่ดีเข้าไปทำงานให้ประเทศชาติสงบสุข ประชาชนทำมาหากินได้ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้พูดเป็นคนแรก และคนเดียวมาตลอดว่า อยากให้ทุกคนก้าวข้ามความขัดแย้ง ถ้าทุกคนยังทะเลาะกันอยู่จะอยู่อย่างไร เราเลือกผู้แทนไปทำงาน เราต้องเลือกคนที่เรารัก เลือกพรรคที่เราชอบเข้าไปทำงาน การเมืองถึงจะเดินหน้าไปได้ บ้านเมืองก็สงบสุข แต่ช่วงหลังการเมืองแปลก ๆ เพระมีความขัดแย้ง ประชาชนมาทะเลาะกันเพราะการเมือง บางบ้านพ่อใส่เสื้อสีแดง แม่ใส่เสื้อสีเหลือง ลูกใส่เสื้อสีส้ม ก็ทะเลาะกันทั้งวันแบบนี้จะมีความสุขได้อย่างไร ครอบครัวก็แตกแยก ดังนั้นการเมืองต้องมาทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่ทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่ทำเพื่อครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ไม่ใช่เลือกแล้วมาทำให้ประชาชนมาทะเลาะกัน มาปลุกปั่นให้แตกแยก

นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ยังชูนโยบายลดราคาแก๊ส ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน เพราะเห็นใจชาวบ้านที่ประสบปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยยืนยันว่า สิ่งแรกที่พรรคพลังประชารัฐจะทำทันทีที่เป็นรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็คือ การลดค่าครองชีพ ลดค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน ให้ไฟฟ้าเหลือหน่วยละ 2.50 บาท เพื่อทำให้ประชาชนมีเงินเหลือเพื่อนำไปใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ

“ผมขอขอบคุณประชาชนที่มาฟังปราศรัย ผมตั้งใจมาตอบแทนพระคุณแผ่นดิน เพราะผมเป็นคนสิงห์บุรี ไม่มีวันลืมบ้านเกิดแน่นอน พี่น้องสามารถเรียกใช้ได้ตลอดเวลาแน่นอน”นายชัยวุฒิ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 เมษายน 2566

“ชัยวุฒิ” ชู”พล.อ.ประวิตร” พร้อมทำหน้าที่ผู้นำประเทศดูแลปชช. ชี้ ศก.ไทยดีกว่าหลายประเทศ วอนคนไทยหยุดขัดแย้งเชื่อมั่นกลับมา

,

“ชัยวุฒิ” ชู”พล.อ.ประวิตร” พร้อมทำหน้าที่ผู้นำประเทศดูแลปชช. ชี้ ศก.ไทยดีกว่าหลายประเทศ วอนคนไทยหยุดขัดแย้งเชื่อมั่นกลับมา

วันนี้ (7 เม.ย.) ที่อุทยานเบญจศิริ เขตคลองเตย พรรคพลังประชารัฐ จัดเวทีปราศรัยย่อยโซนกรุงเทพฯ ใต้ “พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า พปชร.พร้อมที่เข้าไปดูแลประชาชนในทุกกลุ่ม ภายใต้การนำของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ถือเป็นเสาหลัก ในการจัดตั้งรัฐบาล ที่ทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความกินดีอยู่ดี ให้กับประชาชน พร้อมประสานทุกหน่วยทั้ง 10 ทิศ แก้ปัญหาให้กับทุกคน ประสานงานกับทุกคน ทำให้วันนี้รัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี แล้วเราจะทำต่อไป เด็กเยาวชนทุกวันนี้สามารถจับเงิน 1,000,000 ได้ ก็เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ที่ส่งเสริมให้เกิดการขายของออนไลน์ในระบบดิจิตอล

ประเทศไทยเป็นเมืองที่มีความสุขอันดับ 6 ของโลก มีแต่ชาวต่างชาติชื่นชมในการมาอยู่เมืองไทย แต่มีพรรคการเมืองไปสร้างเรื่องว่า ประเทศไทยมีปัญหา อยากไปอยู่เมืองนอก ประเทศในแถบยุโรป วันนี้ฝรั่งเศสประท้วงกันเป็นแสนเป็นล้านคน ประเทศเยอรมันที่เจริญที่สุดในยุโรปตอนนี้ก็ประท้วงกัน การขนส่งมวลชนหยุดหมด เดือดร้อนกันทั้งประเทศ ประเทศไทยเราสงบสุขดีที่สุดแล้ว เพียงแค่อย่าทะเลาะ อยากให้ทุกคน มาช่วยกันดูแลประเทศไทยให้สงบสุข

นายชัยวุฒิ ยังกล่าวต่อว่า จะเห็นว่ารัฐบาลภายใต้การบริหารของพรรคพลังประชารัฐ ประเทศมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ยอดขายรถยนต์ปี 65 849,000 คันเพิ่มขึ้น 12 % การส่งออกก็เพิ่มขึ้น 7.29% ตัวเลขเหล่านี้ชี้ชัดว่า เศรษฐกิจของประเทศไปได้

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยเราดีที่สุดแล้ว เราเป็นพี่ใหญ่ ในเซาท์อีสต์เอเชีย ตนไปประชุมกับรัฐมนตรีที่สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ทุกคนเชื่อมั่นประเทศไทยว่า เป็นพี่ใหญ่ มีเศรษฐกิจเข้มแข็ง เรามีความมั่นคง และเรามีกองทัพ มีอํานาจและเข้มแข็ง วันนี้เราต้องจับมือกันเพื่อเดินหน้าพัฒนาประเทศภายใต้การบริหารประเทศของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ทำงานเพื่อประชาชนประชุมหนักเพื่อหาทางแก้ปัญหาบ้านเมือง ทำทุกอย่างพัฒนาทุกพื้นที่แก้ปัญหาให้กับประชาชน เราเป็นรัฐบาลมาได้4 ปี ถ้าไม่มีลุงป้อม รัฐบาลไม่มีทางอยู่ได้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 เมษายน 2566

“สันติ-ชัยวุฒิ”ควงแขนแสดงความยินดีครบรอบตั้งพรรคภท-.ปชป ความร่วมมือทำงานในอนาคตให้เป็นหน้าที่ประชาชนตัดสินใจ

,

“สันติ-ชัยวุฒิ” ควงแขนแสดงความยินดีครบรอบตั้งพรรคภท-.ปชป ความร่วมมือทำงานในอนาคตให้เป็นหน้าที่ประชาชนตัดสินใจ

เมื่อเวลา 8.05 น. วันที่ 6 เม.ย.2566 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพปชร.เป็นตัวแทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางไปแสดงความยินดีและมอบช่อดอกไม้ ที่พรรคภูมิใจไทย ในโอกาสครบรอบการก่อตั้งพรรคก้าวเข้าสู่ปีที่15 ของพรรคภูมิใจไทย โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนรับมอบ จากนั้นได้เดินทางร่วมแสดงความยินดี กับพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องในโอกาสวันครบรอบวันก่อตั้ง 77 ปี โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค นายนิพนธ์ บุญญามนี รองหัวหน้าพรรค รับมอบ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น และชื่นมื่น

นายสันติกล่าวว่า วันนี้มาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองพรรค ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมกันทำงานมา ตลอด 4 ปี ในการดูแลความเป็นอยู่ให้ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาของเลือกตั้ง เป็นวันที่เป็นมงคลในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ในเรื่องของนโยบายการทำงานเราก็ไปด้วยกันได้ เราไม่มีความขัดแย้ง ในครั้งหน้าเราก็พร้อมร่วมมือกับพรรคที่จะทำงานเพื่อประชาชน และที่ผ่านมาเราก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันมา ก็คงสามารถที่จะทำงานร่วมกันต่อไป

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า วันนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นงานมงคล ซึ่งนายสันติ และตนมาเป็นตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อมาแสดงความยินดี พร้อมอวยพรให้กับพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อยู่ด้วยกันมา 4 ปี ทำงานราบรื่นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ถือได้ว่าเป็นพรรคที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และยืนยันว่าใจเรารักกันอยู่แล้ว เพราะเราร่วมงานกันมาไม่ได้ขัดแย้งกับใคร ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน พร้อมยืนยัน ว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ขัดแย้งกับใคร เราก้าวข้ามความขัดแย้ง เราทำงานร่วมกับบุคคล ที่ตั้งใจมาทำประโยชน์ให้กับประชาชน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 เมษายน 2566

“ชัยวุฒิ”ผนึกกำลัง”ธรรมนัส”พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งเมืองตาก มั่นใจ พปชร.กวาดเก้าอี้ยกจังหวัด ด้านผู้สมัคร เชื่อ ผลงาน”พล.อ.ประวิตร”เป็นที่ประจักษ์ ช่วยให้ได้ชัยชนะ

,

“ชัยวุฒิ”ผนึกกำลัง”ธรรมนัส”พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งเมืองตาก มั่นใจ พปชร.กวาดเก้าอี้ยกจังหวัด ด้านผู้สมัคร เชื่อ ผลงาน”พล.อ.ประวิตร”เป็นที่ประจักษ์ ช่วยให้ได้ชัยชนะ

วันนี้(26 มี.ค.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดตาก ช่วย นายประสงค์ นามเสถียร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ปราศรัยหาเสียง พบปะพี่น้องประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของที่บริเวณตลาดวังหิน เทศบาลเมืองตาก เเละเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน

ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยนายชัยวุฒิ เปิดเผยว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐ พร้อมที่จะปักธง จังหวัดตากทั้ง 3 เขตยกจังหวัด โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานภาคเหนือ ก็จะเข้ามาช่วยประสานงานและดูแลด้วย เพราะว่ามีความคุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดี

“ผมเเละ ร.อ.ธรรมนัส ตั้งมั่นที่จะสู้การเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดตาก เพื่อให้ได้ ส.ส.ของพรรคครบทุกเขต โดยเมื่อปี 62 พรรคพลังประชารัฐก็ได้ 2 เขตจากทั้งหมด 3 เขต ซึ่งครั้งนี้เราเชื่อมั่นว่า จะทําให้ได้ครบทั้งจังหวัด ผมขอการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนทุกคนด้วย”

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ท่านมีความผูกพันกับชาวตาก เพราะตลอดเวลาที่ได้เข้ามาทำหน้าที่บริหารจัดการเรื่องน้ำไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแหล่งน้ํา การส่งเสริม อาชีพต่างๆ ของพี่น้องเกษตรกร รวมถึงเรื่องที่ดินทํากิน ที่ถือว่าเป็นปัญหาสําคัญของชาวจังหวัดตาก โดยเราก็มีโครงการธนาคารที่ดิน มาแก้ปัญหาที่ดินให้พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ถ้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส.ทั้ง 3 คน ก็จะเข้ามาช่วยกันผลักดันโครงการต่างๆ แก้ปัญหาชาวจังหวัดตากให้สําเร็จให้ได้

ด้านนายประสงค์ นามเสถียร ผู้สมัคร สส.เขต1 พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดตาก กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวจังหวัดตาก เพราะผลงานของ พล.อ.ประวิตร แก้ปัญหาให้กับชาวบ้านได้อย่างตรงจุด จึงเป็นที่รักของชาวตาก รวมถึงสมัยที่ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาทหารบก ก็ได้ดูเเลพื้นที่เเนวชายแดน จ.ตาก โดยให้ความสำคัญเรื่องปัญหายาเสพติด จึงเชื่อมั่นว่า พรรคพลังประชารัฐ จะทำให้ตนมีโอกาสที่จะได้รับการเลือกตั้งในเขตนี้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 มีนาคม 2566

“รมว.ชัยวุฒิ”ยกขบวนว่าที่ผู้สมัครปทุมฯชูนโยบายพรรคเข้าถึงปชช. โต้ “ปิยะบุตร” อย่าจมอดีต หมดเวลาขัดแย้งมุ่งทำงานเพื่อประเทศ

,

“รมว.ชัยวุฒิ”ยกขบวนว่าที่ผู้สมัครปทุมฯชูนโยบายพรรคเข้าถึงปชช. โต้ “ปิยะบุตร” อย่าจมอดีต หมดเวลาขัดแย้งมุ่งทำงานเพื่อประเทศ

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมว่าผู้สมัครจังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย เขต 1 นายเสวก ประเสริฐสุข, เขต 2 นายนพดล ลัดดาแย้ม, เขต 3 นายยุทธวัฒน์ หาญเกียรติกล้า, เขต 4 นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง, เขต 5 นายปรีชา ชื่นชนกพิบูล, เขต 6 นายวิรัช พยุงวงษ์ และ เขต 7 น.ส.กฤษณา วงศ์คำ เข้าร่วมสักการะบูชา เซียนแปะโรงสี เพื่อความเป็นสิริมงคล และได้มีการพบปะประชาชน ณ ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง ปทุมธานี ประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจผู้สมัครส.ส. ปทุมธานีทั้ง 7 เขต

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การลงพื้นที่ปทุมธานีในวันนี้เป็นการพาผู้สมัครทุกเขต แนะนําตัว และนำนโยบายของพรรคมานำเสนอกับพี่น้องประชาชนที่ตลาดวัดศาลเจ้า เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และความจริงใจของพรรคในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวปทุมธานี ถึงความตั้งใจของทีมงานพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและประสบการณ์ทั้งการเมืองท้องถิ่น เข้าใจความต้องการของพี่น้อง โดย สจ.ตุ้ย ว่าที่ผู้สมัครในเขตนี้เป็นคนที่พี่น้องประชาชนรู้จักเป็นอย่างดีที่เป็น ส.จ. แล้วก็ลาออกมาลง สส ให้พรรคพลังประชารัฐ

“ว่าที่ผู้สมัครปทุมฯยังมีหัวหน้าทีม ที่เป็นพี่ใหญ่และเป็นรองนายก อบจ. ที่มีประสบการณ์ มีความพร้อมที่จะทํางาน ซึ่งทีมงานทุกคนพร้อมและอยากเข้ามาช่วยกันพัฒนาปทุมธานี รวมถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆที่ยังไม่รับการแก้ไข ที่พปชร.พร้อมเร่งดําเนินการ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการจราจร ปัญหาเรื่องน้ําท่วม ปัญหาเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อพัฒนาจังหวัดปทุมธานีให้ดียิ่งขึ้นให้ได้แน่นอน ก็เชื่อว่าสามารถยกจังหวัดได้ ถ้าเราทําการรณรงค์หาเสียงแล้วก็มีนโยบายต่าง ๆ ที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน สื่อไปถึงประชาชนให้เข้าใจให้ได้ทุกพื้นที่ ก็มีโอกาสที่จะชนะทุกเขตเพราะผู้สมัครของเราก็มีความพร้อมทุกคนที่จะทํางานเพื่อประชาชน โดยจะชูนโยบายเรื่องโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาเมือง เรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้การค้าขายดีขึ้น การท่องเที่ยวดีขึ้น” นายชัยวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้การนำเสนอนโยบายพรรค ผ่าน ผู้สมัครที่จะลงพื้นด้วยตัวเอง และผ่านเครือข่ายทีมงาน เพื่อให้นโยบายถึงประชาชนทุกบ้าน เพื่อให้เข้าใจนโยบายของพรรคมากขึ้น ซึ่งตอนนี้อาจจะเป็นจุดอ่อนในรอบที่แล้ว ที่เราอาจจะลงพื้นที่น้อยไป หรือตัวผู้สมัครเราก็ไม่ได้มีพื้นฐานจากการเมืองท้องถิ่นก็ทําให้ลงพื้นที่ได้ไม่ทั่วถึง รอบนี้ทางพรรคพลังประชารัฐผู้สมัครส่วนใหญ่ก็จะมาจากการเมืองท้องถิ่น เป็นอดีต ส.ส. เป็นอดีตรองนายก อบจ. เป็นอดีต ส.จ. เพราะฉะนั้นทุกคนก็จะมีพื้นฐานท้องถิ่น จะเข้าถึงชาวบ้าน ใกล้ชิด เข้าใจชาวบ้านได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม วันนี้ เวลา 18.30-21.00 น. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค จะควงคู่ นาย สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค พร้อม ผู้สมัครส.ส. ปทุมธานีทั้ง 7 เขต ขึ้นเวทีปราศรัย ณ สวนบริษัท เคเอสเอส อินเตอร์เทคกรุ๊ป คลองสาม ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา เพื่อย้ำ ความมั่นใจว่า พรรคพลังประชารัฐพร้อมเดินหน้าพัฒนาปทุมธานีอย่างเเท้จริงจากคนรุ่นใหม่

นายชัยวุฒิ กล่าวถึงกรณีที่ นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล เเกนนำ ก้าวไกล ปราศรัยพาดพิงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่จังหวัดขอนแก่น ว่า ในสโลแกนก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ว่าพลเอกประวิตรกลับเป็นสาเหตุของความขัดแย้ง ตั้งแต่การสลายการชุมนุม การทํารัฐประหาร ซึ่งประเด็นดังกล่าว อยากให้ทุกฝ่าย รวมถึง คุณปิยะบุตร หรือบางคนที่จะยัง จมอยู่กับอดีต กับเรื่องรัฐประหารหรือความขัดแย้งต่างๆ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา เกิน8ปีแล้ว บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เป็น 10 ปีแล้ว วันนี้ไม่ใช่เวลาพูดถึงอดีต แต่ควรพูดถึงอนาคตที่เราจะต้องก้าวข้ามมันไป เพื่อมาทํางานร่วมกัน สร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆไม่ควรนำเอาเรื่องการเมืองความขัดแย้งมาเป็นตัวตั้ง

“อะไรที่ถือเป็นเรื่องที่ดีแต่อยู่ฝ่ายตรงข้าม คุณก็จะคัดค้าน มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ผมอยากให้เรามองที่ประชาชน เป็นศูนย์กลาง เรามาช่วยกันแก้ปัญหาให้ประชาชน เพื่อการก้าวข้ามความขัดแย้ง เราจะไม่ทะเลาะกันด้วยเรื่องที่ไร้เหตุผล ทุกเรื่องสามารปรองดองกันได้ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะอยากจะอยู่กับใคร อยากจะทํางานร่วมกับใคร แต่ไม่ใช่หวังว่าคนอื่นเขาทํางานร่วมกันได้ แล้วคุณมองว่าคนที่เขาอยู่ร่วมกัน เป็นคนไม่ดี ถ้าคนอื่นเขาอยู่ร่วมกันได้เป็นเสียงข้างมาก เขาปรองดองกันได้ ทํางานให้ประชาชนได้ ประเทศก็เดินไปข้างหน้า ถ้าไม่เห็นด้วย แต่เป็นเสียงข้างน้อย ก็ต้องยอมรับกติกาตามประชาธิปไตย โดยให้การเลือกตั้งเป็นคําตอบ ”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 มีนาคม 2566

“รมว.ชัยวุฒิ” ปราศรัยหาเสียงประจวบฯเขต 1 ประกาศพรรคพลังประชารัฐจะเป็นรัฐบาลอีกแน่นอน พร้อมฝาก “คิงก่อนบ่าย”ผู้สมัครพรรค พปชร.เข้ามาแก้ปัญหาพื้นที่

,

“รมว.ชัยวุฒิ” ปราศรัยหาเสียงประจวบฯเขต 1 ประกาศพรรคพลังประชารัฐจะเป็นรัฐบาลอีกแน่นอน พร้อมฝาก “คิงก่อนบ่าย”ผู้สมัครพรรค พปชร.เข้ามาแก้ปัญหาพื้นที่

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำนายณภัทร ชุ่มจิตตรี ผู้สมัคร ส.ส.เขต1 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นเวทีปราศรัยที่ลานกิจกรรม เมืองประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้หัวข้อก้าวข้ามความขัดแย้งถ้าจะทุกปัญหาพัฒนาทุกพื้นที่ โดยมีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ สลับขึ้นเวทีปราศัย

นายชัยวุฒิ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่าพลังประชารัฐจะเป็นรัฐบาลอีกแน่นอนเพราะว่าเป็นพรรคใหญ่ ขณะเดียวกันชูนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง นำคนเก่งเข้ามาทำงานเพื่อพัฒนาทุกพื้นที่ทุกจังหวัด ดังนั้นวันนี้จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ประชาชนทุกคน ขอให้เลือกคนที่พร้อมและพรรคที่พร้อมจะทำงานเพื่อคนไทยทุกคน

ด้านคิงก่อนบ่าย ขึ้นเวทีพร้อมก้มกราบเวที เพื่อแสดงถึงสำนึกแผ่นดินเกิด ก่อนที่จะขอคนประจวบฯเขต 1 ให้โอกาสตนเอง เข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงพื้นที่ ผลักดันการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ชุมชน สร้างรายได้เกษตรกร พร้อมแก้ปัญหาราคาสัปปะรด และชูกีฬาฟุตบอลให้พัฒนา /ส่งเสริมวัวลาน เป็นกีฬาพื้นบ้าน ที่ถูกกฎหมาย เพราะจะเป็นการสนับสนุนเด็กเลี้ยงวัวให้มีรายได้ เช่นเดียวกับ ส่งเสริมการเลี้ยงไก่ชน โดย ปัญหาที่กล่าวมาได้รับทราบจากการลงพื้นที่ ดังนั้น จึงนำมาเสนอ เพื่อผลักดันเป็นนโยบาย ช่วยเหลือคนประจวบฯ พร้อมยืนยันมีความตั้งใจจริง เพื่อคนประจวบฯ ดังนั้น ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในตนเอง และ ช่วยผลักดันคิงก่อนบ่าย เป็นผู้แทน และจะทำให้ จ.ประจวบ
ฯดีกว่านี้

“วันนี้กล้าแลก กับอาชีพบันเทิง เพื่อตอบแทนทุกคนที่ทำให้คิงก่อนบ่าย มีวันนี้ โดยจะกล้าคิด กล้าทำ กล้าเปลี่ยน ขอเด็กรุ่นใหม่มาพัฒนาบ้านเกิด “ คิงก่อนบ่ายกล่าว

ทั้งนี้ ถือเป็นเวทีแรกในการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. เขต1 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์พรรคพลังประชารัฐ โดยได้มีการขึ้นรถแห่รอบเมือง และนำขบวนซาเล้ง ติดข้อความ เพิ่มเงิน เพิ่มสวัสดิการ 700 บาท ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันได้เดินหาเสียง กับพ่อค้าแม่ค้า และประชาชน บนถนนคนเดินสะพานสราญวิถี

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2566

“รมว.ชัยวุฒิ” ลงพื้นที่ประจวบฯเปิดตัว “คิงก่อนบ่าย” ชูนโยบายพปชร.เพิ่มสวัสดิการเป็น 700 บ ลดภาระปชช.

,

“รมว.ชัยวุฒิ” ลงพื้นที่ประจวบฯเปิดตัว “คิงก่อนบ่าย” ชูนโยบายพปชร.เพิ่มสวัสดิการเป็น 700 บ ลดภาระปชช.

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายนภัทร ชุมจิตตรี หรือ คิงก่อนบ่ายผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่หาเสียง เขต 1 ตัวเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์หรือฟิล์ม ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ร่วมแห่รถซาเล้งรอบ เมืองก่อนขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงเย็นวันนี้ที่ ลานกิจกรรม เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์

นายชัยวุฒิกล่าวว่าหลังจากหลังจากเปิดตัวนายณภัทร ไปแล้ววันนี้จึงลงพื้นที่หาเสียงอย่างเป็นทางการ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รู้จักผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งนายณภัทร เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่อยู่แล้ว เป็นนักแสดงเป็นคนติดดิน ช่วยเหลือประชาชน มาโดยตลอดจนเป็นที่รักของคนในพื้นที่เชื่อว่าจะ จะทำงานทางการเมืองในพรรคพลังประชารัฐประสบผลสำเร็จ

สำหรับแผนการหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แบ่งพื้นที่การหาเสียงออกเป็นแต่ละภาคอยู่แล้ว แม้ในขณะที่พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ตรวจราชการ ก็ถือโอกาสพบปะกับประชาชนและสมาชิกพรรค สัปดาห์ละ2-3 วันอยู่แล้ว ซึ่งแผนงานทางการเมืองพลเอกประวิตร มีการประชุมคณะทำงาน ผู้สมัคร ส.ส วางแผนการหาเสียงอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้อยู่และทำงานทุกวัน ทำให้ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐมีแนวทางชัดเจนในการหาเสียง และจะทยอยเปิดนโยบายที่สำคัญออกมาเรื่อย ๆ โดยจะทำงาน ให้ประชาชนและรัฐเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศต่อไป พร้อมย้ำว่าแนวทางการหาเสียง แบ่งให้หัวหน้าดูแต่ละภาค จัดกิจกรรมทางการเมืองเตรียมนโยบายในพื้นที่ ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหาสังคมเศรษฐกิจคนในเมือง ซึ่งเป็นปัญหาสะสมมานาน พักพยายามรับฟังปัญหา เพื่อนำไปสู่การแก้ไข

ส่วนที่หลายพรรคการเมืองมีการเปิดชื่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่1 แล้ว พรรคพลังประชารัฐจะเสนอพล.อ.ประวิตร อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 หรือไม่นั้นนายชัยวุฒิชี้แจงว่า สส บัญชีรายชื่อลำดับที่1 กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเดียวกัน เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ สามารถที่จะเสนอชื่อคนนอกได้ ขณะที่พลเอกประวิตรจะ เป็นสน.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 หรือไม่ขอให้ไปถามพลเอกประวิตรเอง เนื่องจากขณะนี้ทางพระยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึง การจัดลำดับ สส .บัญชีรายชื่อ เพราะยังมีเวลาอีกทั้งยังมีบุคคลที่จะเข้ามาพรรคพลังประชารัฐอีก ดังนั้นจึงต้องประเมิน และไม่ทราบว่าจะได้ สส.บัญชีรายชื่อกี่คนต้องรอหลังยุบสภา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2566