โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ผู้เขียน: pprpadmin

‘รมว.สมศักดิ์’โชว์ความสำเร็จไกล่เกลี่ยหนี้ 5.6 หมื่นราย ปลดล็อคลดภาระประชาชนทั่วประเทศกว่า 5 พันลบ.

‘รมว.สมศักดิ์’โชว์ความสำเร็จไกล่เกลี่ยหนี้ 5.6 หมื่นราย ปลดล็อคลดภาระประชาชนทั่วประเทศกว่า 5 พันลบ.

,

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินนโยบายในการจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันดำเนินจัดงานมาแล้ว 70 ครั้ง โดยข้อมูลปัจจุบัน (ณ วันที่ 6 ส.ค. 2565 ) มีลูกหนี้ขอไกล่เกลี่ยแล้ว 59,436 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ จำนวน 56,674 ราย คิดเป็น 95.35% รวมทุนทรัพย์ 11,995 ล้านบาท ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 5,114 ล้านบาท และเหลือการจัดงานอีก 7 ครั้ง ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว นครนายก สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ตราด จันทบุรี และชลบุรี และจะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม 2556

การจัดงานที่จังหวัดนนทบุรีเป็นครั้งที่ 70 นนทบุรีถือจังหวัดเล็กอันดับ 3 ของประเทศ แต่กลับมีความหนาแน่นเป็นรองแค่กรุงเทพฯ มีหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม กว่า 2,000 โครงการ ทั้งนี้ ภายในงานได้จัดนิทรรศการและบริการให้คำปรึกษาทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับคดีให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยมีเป้าหมายผู้ร่วมงาน จำนวน 17,479 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 3,431 ล้านบาท

“การจัดงานมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการแก้ปัญหาหนี้สิน ยุติหรือระงับข้อพิพาทแทนการถูกฟ้องบังคับคดี ตลอดจนประชาชนจะได้รับบริการที่สะดวก เป็นธรรม และเป็นการลดค่าใช้จ่าย” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ ยังได้มอบป้ายและเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา 13 ราย เป็นเงิน 842,079 บาท มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ย 11 ศูนย์ และร่วมการไกล่เกลี่ยด้วยตนเอง โดยรายแรกเป็นหญิงสาว มีหนี้ กยศ. หลังผ่อนมา 16 ปี โดยกู้มา 179,555 บาท ชำระไป 111,370 บาท แต่ส่งไม่ตามกำหนดมีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับทำให้ยังมียอดค้างอยู่ 68,185 บาท ผลการเจรจาได้รับส่วนลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ 32,039 บาท คงเหลือที่จะต้องชำระ 36,145 บาท โดย กยศ.ให้ผ่อนอีก 96 เดือน งวดละ 400 บาท รายต่อมา เป็นผู้ชาย มีหนี้ กยศ. หลังศาลสั่งฟ้อง โดยกู้เงินมา 244,096 บาท มีดอกเบี้ย 26,817 บาท เบี้ยปรับ 100,584 บาท รวม 371,497 บาท และถูกศาลสั่งยึดห้องชุด คอนโดสุขุมวิทที่ใช้ค้ำประกัน โดยผลการเจรจา ได้ลดเบี้ยปรับ 100% เหลือยอดปิดหนี้ 270,913 บาท และจะได้คอนโดคืน

สำหรับงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “มีหนี้ต้องแก้ไข รุกก้าวไปอย่างยั่งยืน” มุ่งแก้ปัญหาหนี้สินในชั้นก่อนฟ้องคดี และลูกหนี้ที่อยู่ในชั้นภายหลังศาลมีคำพิพากษา อาทิ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล และหนี้เช่าซื้อรถยนต์ โดยภายในงานลูกหนี้จะได้รับข้อเสนอพิเศษจากสถาบันการเงินต่างๆ เช่น ส่วนลดดอกเบี้ย ลดค่าปรับ และขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระ เป็นต้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากการลดภาระในการชำระหนี้ ทำให้มีสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ มีความมั่นคงในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น เป็นไปตามนโยบายขอพรรคพลังประชารัฐ ในการที่จะเข้าไปดูแลประชาชน ให้ทุกมิติ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง

สำหรับผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนยุติธรรม 1111 กด77 / กรมบังคับคดี 0-2881-4999 หรือสายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 หรือ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท 0-2881-4840 และ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ 0-2141-2768-73

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 สิงหาคม 2565

“รมช.สันติ”เร่งเยียวยาผู้ปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระ จ.เพชรบูรณ์ หนุนระบบเศรษฐกิจฐานรากเร่งช่วยเกษตรกรถูกลดโควต้ารับซื้อ

,

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผย ในการเป็นประธาน เปิดโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย ฤดูกาลผลิต 2562/2563 โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.) จังหวัดเพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นายจักรัตน์ พั้วช่วย ส.ส. เขต 2 นางสาวพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส. เขต 1 นายเอี่ยม ทองใจสด ส.ส. เขต 5 นายสุรศักดิ์ ส.ส.เขต 4 ให้การต้อนรับ มีเกษตรกรปลูกยาสูบเพชรบูรณ์และตัวแทนเกษตรกรจากจังหวัดข้างเคียงเข้าร่วม ที่หอประชุมโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ (วังชมภูวิทยาคม) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์

“ได้รับทราบสถานการณ์ความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบ พร้อมหาแนวทางจัดการปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ อันดับสองของประเทศ หลังจาก ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 อนุมัติงบ 159.69 ล้านบาท เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรฯ 8 จังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน จำนวน 14,292 ราย แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใบยา ได้แก่ 1.) ใบยาเวอร์ยิเนีย (ชาวไร่ในสังกัด 2,378 ราย ผู้บ่มอิสระ 54 ราย และชาวไร่ใบสด 1,807 ราย) 2.)ใบยาเบอร์เลย์ (ชาวไร่ในสังกัด 6,562 ราย) และ 3.)ใบยาเตอร์กิ (ชาวไร่ในสังกัด 3,491 ราย) โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระในอัตราร้อยละ 70 ของรายได้ที่หายไป โดยคำนวณเงินช่วยเหลือจากปริมาณโควต้าการผลิตใบยาที่ลดลงในฤดูกาลผลิต 2562/2563 เปรียบเทียบกับปริมาณโควตาที่ได้รับในฤดูกาลผลิต 2560/2561 คูณด้วยร้อยละ 70 ของรายได้ที่หายไป”

ความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรเพาะปลูกยาสูบ มีเกษตรกรที่อยู่ในระบบการเพาะปลูกจำนวนมาก แต่ด้วนสถานการณ์ความจำเป็นในเรื่องการดูแลสุขภาพ ทำให้รัฐบาลต้องลดปริมาณการรับซื้อ ซึ่งเป็นเงื่อนไขของกติกาการค้าโลก ดังนั้นต้องเข้าไปช่วยเหลือเกษตรในด้านต่างๆทั้งการส่งเสริมปลูกพืชทดแทน โดยการให้องค์ความรู้ รวมถึงการเข้าไปเยียวเพื่อให้เกิดการปรับตัวของเกษตรกร ซึ่งถือเป็นกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ที่พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายดูแลประชาในกลุ่มนี้ ให้สามารถมีการสร้างรายได้ และมีอาชีพที่มั่นคง

ทั้งนี้จังหวัดเพชรบูรณ์นับเป็นพื้นที่มีการเพาะปลูกไร่ยาสูบ ในฤดูกาลผลิต 2562 /2563 ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ ยสท.และกรมสรรพสามิต ที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณรับซื้อใบยาสูบของ ยสท.จำนวน 2,337 ราย โดยอยู่ในข่ายที่ได้รับการเงินช่วยเหลือรวมวงเงิน 19.5 ล้านบาทเศษ ปัจจุบันรัฐบาลมีแนวทางสนับสนุนให้มีการเพาะปลูกพืชทดแทนการปลูกพืชยาสูบ ซึ่งเป็นผลมาจากการรับซื้อใบยาสูบลดลง จากการยาสูบแห่งประเทศไทย ในฤดูการผลิต 2562/2563 ส่งผลให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระ จำนวนมากกว่า 50,000 ครอบครัวทั่วประเทศ ถูกลดโควตาการรับซื้อใบยาสูบลงร้อยละ 50

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 9 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ ร่วมกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ สร้างความสามัคคี ในชุมชน รณรงค์ออกกำลังกายห่างไกลโรคร้าย!!!

,

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ ร่วมกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ สร้างความสามัคคี ในชุมชน รณรงค์ออกกำลังกายห่างไกลโรคร้าย!!!

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สัญญา นิลสุพรรณ พปชร. จ.นครสวรรค์” เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันกีฬาชุมแสงคัพ ครั้งที่ 7 เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะผู้บริหารสมาชิก ฯอบต.อำเภอชุมแสง โดยมีนายสุวัฒน์ จันทร์สุข นายอำเภอชุมแสง พ.ต.อ.พีระศักดิ์ สุทธิสวรรค์ ผกก.สภ.ชุมแสง สจ.กัลย์ชพร รอดบำรุง สจ.อรรณพ ทาเอื้อ สจ.สุพัสสร คล้ายแจ้ง นายไพฑูรย์ อินทร์นาง กำนันประทีป ยิ้มแพร์ ร่วมชมและให้กำลังใจนักกีฬา ณ สนามหน้าอำเภอชุมแสง จ.นครสวรรค์

ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมีสุขภาพ พลานามัย และร่างกายที่แข็งแรง ยังสนับสนุนให้ออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬา ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และห่างไกลจากยาเสพติด นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์อยู่ที่การแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ระหว่างทีม ส.ส.สัญญา กับทีมผู้นำชุนอำเภชุมแสง ที่สร้างสีสันให้กับกิจกรรมในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 9 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. กทม. ประสาน NT แก้ปัญหาสายสื่อสาร สร้างความปลอดภัยปชช.

,

ส.ส.พปชร. กทม. ประสาน NT แก้ปัญหาสายสื่อสาร สร้างความปลอดภัยปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ พปชร. กทม.เขต 2” ลงพื้นที่หมู่บ้านจันทรานิเวศน์ เขตสาทร กรุงเทพฯ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่จัดระเบียบสายไฟฟ้า เกรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดอันตรายกับชาวบ้านและผู้ที่สัญจรไปมาในบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ ได้ประสานงานบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เข้ามาดำเนินการแก้ไขและจัดระเบียนสายสื่อสาร เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ยังได้พูดคุยรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงและหาแนวทางแก้ไขให้กับชาวบ้านต่อไป

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 9 สิงหาคม 2565

ส.ส. พปชร. กทม. ออกหน่วยตรวจโควิด19 เชิงรุกสกัดการระบาดดูแลสุขภาพชุมชนคลองเตย-วัฒนา

,

ส.ส. พปชร. กทม. ออกหน่วยตรวจโควิด19 เชิงรุกสกัดการระบาดดูแลสุขภาพชุมชนคลองเตย-วัฒนา

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา พปชร. กทม.เขต 4” และทีมงาน ประสาน Bangkok Community Help ออกตรวจคัดกรองเชิงรุกให้กับชาวในพื้นที่ชุมชนเขตวัฒนา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ภายในครอบครัวและในพื้นที่ชุมชนต่างๆ

ทั้งนี้ ส.ส.กรณิศ ยังได้นำข้าวสารและอาหารแห้งมามอบให้กับพี่น้องประชาชน และจัดยามอบให้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ถึงหน้าประตูบ้าน โดยจัดตั้งจุดตรวจคัดกรองที่ชุมชนข้างสะพานคลองตัน
(ปรีดี 46-48 และสุขุมวิท71) สามารถติดตามความคืบหน้าและรายละเอียดสำหรับการตรวจคัดกรองในครั้งต่อไปได้ที่เพจ ส.ส. กรณิศ (กดติดตาม follow + และเลือกเห็นก่อน see first)

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 9 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช.

“พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาล จ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อ ปชช.

, ,

“พล.อ.ประวิตร” ตรวจงานเจาะบาดาล ป้อนชาวพัทลุงแก้ปัญหาน้ำขาด ดูความพร้อมสถานีจ่ายน้ำบาดาล บริการประชาชนฟรี มีน้ำใช้ตลอดปี เน้นย้ำ “เรื่องน้ำคือชีวิต” ต้องเพียงพอต่อการดำรงชีวิต

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในฐานะผู้อำนวยการ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจตรวจติดตาม พื้นที่โครงการก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำบาดาลเพื่อประชาชน ณ บ้านต้นไทร ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง โดยมีนาย กู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจ.พัทลุง ได้รายงานภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่จ.พัทลุง ที่ยังคงประสบปัญหาเรื่องน้ำ ทั้งปัญหาน้ำท่วม ที่เกิดจากน้ำหลากจากเทือกเขาบรรทัด ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางตามลำน้ำ

ส่วนการขาดแคลนน้ำที่ประชาชน บางพื้นที่แหล่งน้ำต้นทุนไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้เพื่อการทำการเกษตร และอุปโภคบริโภค ซึ่ง สทนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข ตามแผนงานที่จะพัฒนาโครงการต่างๆในขณะนี้

นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปตรวจบริเวณโครงการฯ ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้รายงานถึงความตืบหน้าในการพัฒนาโครงการน้ำบาดาล ที่ได้ทำการขุดเจาะบ่อบาดาล 2บ่อ ได้ปริมาณน้ำ 7ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และ3 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และมีการวางระบบท่อเพื่อกระจายน้ำ สำหรับอุปโภค บริโภค รวมถึงมีการก่อสร้างอาคารบริการน้ำดื่มฟรี ให้กับประชาชน เพื่อให้มีน้ำใช้ ตลอดปี

พล.อ.ประวิตร กล่าวกับ พบปะพี่น้องประชาชน ที่มาให้การต้อนรับว่า รัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และรมว.กห. ได้ฝากความปรารถนาดี และความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนชาวพัทลุงทุกคน พร้อมยืนยันจะให้ความช่วยเหลือ ทุกปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน อย่างดีที่สุด และได้พยายามแก้ปัญหาเรื่องน้ำมาโดยตลอด เพื่อประชาชน เพราะน้ำมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ซึ่ง”น้ำก็คือชีวิต”นั่นเอง ดังนั้นจึงหาวิธีแก้ปัญหาน้ำทุกมิติ ให้ดีที่สุด เพื่อต้องการให้ประชาชน ไม่ขาดแคลนน้ำ และมีความอยู่ดีกินดี อย่างยั่งยืน มั่นคง ตลอดไป

“พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.กทม. เป็นตัวแทนชาวคลองเตย-วัฒนา นั่งประธานอนุฯกธม.พิจาณาข้อสังเกตุการทำงบฯปี 66

,

ส.ส.พปชร.กทม. เป็นตัวแทนชาวคลองเตย-วัฒนา นั่งประธานอนุฯกธม.พิจาณาข้อสังเกตุการทำงบฯปี 66

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา พปชร. กทม.เขต 4” ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการข้อสังเกต ในคณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 เพื่อปฏิบัติหน้าที่พิจารณากลั่นกรองข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2566

ทั้งนี้ ส.ส. กรณิศ ยังได้เป็นตัวแทนชาวคลองเตยและวัฒนา ในการรายงานสรุปข้อสังเกตเกี่ยวกับเนื้อหาพิจารณางบประมาณ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการข้อสังเกต ในคณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 8 สิงหาคม 2565

“รมต.อนุชา”ลงพื้นที่ชัยภูมิ ขับเคลื่อนกองทุนหมู่บ้าน สร้างโอกาสพัฒนาอาชีพ ปชช เข้มแข็ง

,

รมต.อนุชา”ลงพื้นที่ชัยภูมิขับเคลื่อนกองทุนหมู่บ้านสร้างโอกาสพัฒนาอาชีพ ปชช เข้มแข็ง

รมต.อนุชา ลงพื้นที่ภาคอีสาน ย้ำความสำเร็จกองทุนหมู่บ้านกระจายทุกพื้นที่ ชงโครงการเลี้ยงโค หนทางรอดเกษตรกรหมดหนี้ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด “โครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน” กลุ่มจังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วย ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู บึงกาฬ ขอนแก่น และมหาสารคาม ซึ่งจัดโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยมี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จังหวัดชัยภูมิ นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จังหวัดชัยภูมิ นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกฤษณ์พีรัช คมสุรศิษฐ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ คณะผู้บริหารในพื้นที่ สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ เข้าร่วม

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้กับประชาชน ผ่านการขับเคลื่อนของ “กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง” โดยเฉพาะการสนับสนุนแหล่งทุน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตหลายๆ ด้าน กองทุนหมู่บ้านจึงเป็นส่วนที่สนับสนุนแหล่งทุนให้สมาชิกนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ต่อครอบครัวและชุมชน นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยการดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ สามารถพึ่งพาตัวเองได้ภายใต้หลักเศรษฐกิจพอเพียง และนโยบาย BCG เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

“ส่วนสำคัญที่ช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ คือ เศรษฐกิจฐานราก ที่มีกลุ่มเกษตรกรเป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก รายได้ส่วนมากมาจากเงินจากน้ำ เงินจากดิน เราต้องทำให้ภาคเกษตรมีรายได้เพิ่ม หมดหนี้สิน หลุดพ้นจากความยากจนให้ได้ ปัจจุบันผมได้หารือร่วมกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จัดทำ “โครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโค เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต” โดยการสนับสนุนเงินทุนตั้งต้นจากทางกองทุนฯ ซึ่งการเลี้ยงโคนั้นใช้เงินไม่มาก ให้วัวกินหญ้า สามารถหาได้ทั่วไป เมื่อนำโคไปขายจะเป็นรายได้ให้ครัวเรือนอีกทางหนึ่ง ที่ผ่านมาเราได้เริ่มนำร่องโครงการนี้ที่ จ.สุโขทัย เป็นระยะที่ 1 จำนวน 1,000 ครัวเรือน จากนั้นจะขยายไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ ภายใต้การสนับสนุนเงินทุนของกองทุนฯ เป้าหมายคือ ประชาชนมีรายได้อย่างยั่งยืน หมดหนี้สินได้ในที่สุด” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนความคืบหน้าโครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนในพื้นที่ภาคอีสานที่ประสบความสำเร็จ อาทิ โครงการปั๊มน้ำมันชุมชนของกองทุนบ้านโคกสำราญ หมู่ที่ 1 ต.โคกสำราญ อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ที่ดำเนินกิจการในรูปแบบการบริหารจัดการปั๊มน้ำมัน มีสมาชิกสนใจซื้อหุ้นโครงการปั๊มน้ำมัน จำนวน 173 หุ้น โดยมีการปันผลกำไรให้กับสมาชิก 30% โครงการกองทุนหมู่บ้านหนองแวงไร่ หมู่ 1 ตำบลในเมือง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ดำเนินกิจการในรูปแบบของสถาบันการเงินชุมชน มีสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน 240 ราย คิดเป็น 12.28% ของจำนวนประชากรที่มีอยู่ หรือ 72.22% ของจำนวนครัวเรือน โดยดำเนินกิจกรรมเปิดให้มีการปล่อยกู้ให้กับสมาชิก ซึ่งสมาชิกจะต้องถือหุ้นอย่างน้อยคนละ 1 หุ้น เป็นจำนวนเงิน 10 บาท โดยเงินกู้ของสมาชิกจะได้จากเงินค่าหุ้นที่สะสมคูณด้วย 3 แต่ไม่เกิน 3 หมื่นบาท ทำให้เกิดสมาชิกมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้อีกทางหนึ่ง เป็นต้น

โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้มอบรางวัลกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตัวอย่าง จำนวน 10 รางวัล, รางวัลโครงการตามแนวทางประชารัฐตัวอย่าง จำนวน 10 รางวัล และรางวัลเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตัวอย่าง จำนวน 10 รางวัล พร้อมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของโครงการฯ

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 8 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” ชูผลงานพัฒนาแหล่งน้ำป่าแดดฟื้นพื้นที่ทำกิน แก้ปัญหาค้ามนุษย์ขึ้นชั้นเทียร์2 เพิ่มคุณภาพชีวิตปชช.ทั่วประเทศ

,

“พล.อ.ประวิตร” ชูผลงานพัฒนาแหล่งน้ำป่าแดดฟื้นพื้นที่ทำกิน แก้ปัญหาค้ามนุษย์ขึ้นชั้นเทียร์2 เพิ่มคุณภาพชีวิตปชช.ทั่วประเทศ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า กว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ ได้เร่งผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการสร้างและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ยังคงมุ่งมั่นแก้ปัญหาเรื่องปากท้องประชาชน ให้คนไทยกินดีอยู่ดี ตามแนวทางและนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนาแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะมุ่งเข้าไปแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ภัยน้ำท่วม ลดผลกระทบเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพ ทั้งนี้เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชนได้มีน้ำใช้ในการอุปโภค-บริโภค และภาคการเกษตร

ทั้งนี้ อยู่ระหว่างให้หน่วยงานเข้าไปดำเนินการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง ต.ป่าแดด จ.เชียงราย เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและประกอบอาชีพทางการเกษตร หลังจากที่ประชาชนรอคอยมายาวนานถึง 30 ปี ล่าสุดได้มอบหมายให้คณะทำงานเร่งติดตามและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการและขับเคลื่อนให้เป็นผลสำเร็จ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี หรือในปี 2566 จะแล้วเสร็จในปี 2569 เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ ต.ป่าแดด และในพื้นที่ใกล้เคียง มีแหล่งน้ำไว้ใช้อุปโภค-บริโภค และภาคการเกษตร เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี มั่นคง และยั่งยืน ให้กับคนลุ่มน้ำลาวตอนกลาง-ตอนล่าง

นอกจากนโยบายแก้ปัญหาปากท้องที่เป็นเรื่องสำคัญแล้ว พรรคพลังประชารัฐยังให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษย์ชน และการดูแลประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ โดยได้เร่ง นโยบายการต่อต้านการค้ามนุษย์ของไทยให้เข้าสู่มาตรฐานสากล เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้เกิดกรณีมิให้มีการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และเป็นความสำเร็จของทุกหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ร่วมมือกันดำเนินตามนโยบายที่ได้มอบหมาย ทำให้ในปี 2565 ประเทศไทยได้รับการจัดระดับสูงขึ้น เลื่อนจากกลุ่มเทียร์ 2 Watchlist มาอยู่ในกลุ่มเทียร์ 2 ในปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาเรื่องการต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ

นอกจากนี้ ยังได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน นำมาตรการในการปราบปรามค้ามนุษย์ที่กำหนดไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยเร่งรัดให้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติฯ ปี 2565 พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขจัดการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานในทุกรูปแบบ และร่วมมือกับรัฐบาลออสเตรเลีย จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (Counter Trafficking in Persons Center of Excellence) เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านวิชาการและแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย ในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศที่ทันสมัยในภูมิภาคนี้

“พี่น้องประชาชนยังมีปัญหาและอุปสรรค ต้องการความช่วยเหลือ ผมยินดีให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ รัฐบาลและตัวผมเอง มุ่งหวังให้พี่น้องประชาชนคนไทยอยู่ดีกินดี มีความสุข มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หากมีความทุกข์ร้อนเรื่องอะไร ขอให้บอกทีมงานของผมได้ทุกคนครับ” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 8 สิงหาคม 2565

“ตรีนุช”ลงพื้นที่อุดรธานีเล็งเพิ่มห้องเรียนกีฬาในโรงเรียน สพฐ.

,

“ตรีนุช”ลงพื้นที่อุดรธานีเล็งเพิ่มห้องเรียนกีฬาในโรงเรียน สพฐ.

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการห้องเรียนกีฬา ของโรงเรียนอุดรพัฒนาการ และ โรงเรียนราชินูทิศ 2 จังหวัดอุดรธานี ว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ดำเนินโครงการห้องเรียนกีฬา เพื่อส่งเสริมพหุปัญญา สนับสนุนเยาวชนที่มีความเป็นเลิศด้านกีฬามีโอกาสได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ โดยใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาและโภชนาการเป็นฐาน เพื่อให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ พบว่า ทั้ง 2 โรงเรียนมีเด็กสนใจสมัครเข้าเรียนในห้องเรียนกีฬาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เด็กมีร่างกายสมบูรณ์ มีความสุข ซึ่งขอชื่นชมผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่ทำให้โครงการนี้บรรลุผล

“ ปัจจุบัน สพฐ. มีโรงเรียนในโครงการห้องเรียนกีฬา จำนวน 9 โรงเรียน ใน 8 จังหวัด ซึ่งห้องเรียนกีฬาที่โรงเรียนอุดรพัฒนาการ เปิดรับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-กีฬา และแผนการเรียนศิลป์-กีฬา ส่วนโรงเรียนราชินูทิศ 2 เปิดห้องเรียนกีฬาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สอนประเภทกีฬาฟุตบอลชาย และวอลเลย์บอลหญิง ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการได้สนับสนุนอาคารเรียน สนามประกอบ อุปกรณ์การเรียนการสอน ที่พักนักเรียน อาหาร 3 มื้อ และยังมีการจัดงบฯพิเศษเพิ่มเติม เพื่อให้โรงเรียนสามารถจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสฝึกทักษะการแข่งขัน โดยดิฉันเห็นว่าโครงการห้องเรียนกีฬาเป็นโครงการที่ดี จึงได้มอบหมายให้สพฐ.ได้พิจารณาความเป็นไปได้ในการขยายผลเพิ่มมากขึ้นทั้งจำนวนโรงเรียน และจำนวนรับนักเรียนกีฬา ตลอดจนประสานกับสโมสรกีฬาต่างๆ เพื่อฝึกหัดและต่อยอดให้เด็กเข้าสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพต่อไป ” นางสาวตรีนุช กล่าว.


ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 8 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” ล่องใต้ห่วงใยปชช.รับฤดูมรสุมเข้าตรัง-พัทลุง เร่งหน่วยงานวางแผนระบายน้ำ-เตือนภัยสกัดน้ำท่วมซ้ำซาก

,

“พล.อ.ประวิตร” ล่องใต้ห่วงใยปชช.รับฤดูมรสุมเข้าตรัง-พัทลุง เร่งหน่วยงานวางแผนระบายน้ำ-เตือนภัยสกัดน้ำท่วมซ้ำซาก

วันที่ 8 ส.ค. 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวพรรคพลังประชารัฐ(พปชร. ) พร้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และคณะ ผู้บริหาร เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ จ.ตรัง และ จ.พัทลุง ติดตามสถานการณ์น้ำและความพร้อมรับมือฤดูฝนภาคใต้ที่กำลังมาถึง รวมทั้งปัญหาพื้นที่ภัยแล้งในพื้นที่ โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และพัทลุง ให้การต้อนรับ ณ ศาลากลางจังหวัด โดยได้รายงานสถานการณ์น้ำภาคใต้ในภาพรวม ซึ่งจ.ตรัง มีลำน้ำย่อย 5 สาย มีปัญหาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก 4 จุดสำคัญ คือ พื้นที่วัดท่าจีน อ.เมือง พื้นที่ตลาดนาโยง อ.นาโยง พื้นที่อนุสาวรีย์ฯ อ.เมือง และ พื้นที่ตลาดย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จำเป็นต้องเร่งบริหารจัดการน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิในการระบายน้ำลงสู่ทะเล เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชน ได้มอบหมายให้มีการบูรณาการจัดทำข้อมูลและเตือนภัยกับประชาชนในภาวะที่เผชิญกับน้ำท่วม น้ำหลาก

“จากปัญหาแม่น้ำตรัง ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากพื้นที่ที่ต้องรับน้ำปริมาณสูง จากเทือกเขาบรรทัด ในช่วงฤดูมรสุม ซึ่งอาจจะทำให้น้ำท่วมเข้าสู่ชุมชนและบ้านเรือน โดยเฉพาะใน อ.ทุ่งสง โดยอยู่ระหว่างบูรณาการ ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในแม่น้ำตรัง”

พล.อ.ประวิตร’ แสดงความขอบคุณ และเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนในการทำงาน พร้อมทั้งย้ำว่า แม่น้ำตรัง มีความสำคัญกับการระบายน้ำและการเกษตรในพื้นที่ภาคใต้ จึงต้องให้ความสำคัญในการ บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ไม่ให้เกิดภาวะน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เน้นการป้องกันเชิงรุก พร้อมทั้งสั่งการให้กรมชลประทาน เร่งรัดก่อสร้างโครงการระบายน้ำแม่น้ำตรังให้แล้วเสร็จภายใน ก.ย.65 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในฤดูฝนที่จะมาถึง และให้เร่งเตรียมความพร้อมโครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำตรัง รวมถึงช่องลัด และคันกั้นน้ำ เพื่อให้สามารถสร้างได้ในปี 2567 โดยให้ สทนช.ยกระดับเป็นโครงการสำคัญ เพื่อให้สามารถบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ครอบคลุม 7 ตำบลใน 4 อำเภอ

นอกจากนี้ยังให้เร่งรัดศึกษาผังน้ำและจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม น้ำแล้ง ในพื้นที่ลุ่มน้ำ เพื่อให้มีแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกันทั้งภาวะปกติและวิกฤต โดยให้หน่วยเกี่ยวข้อง พร้อมทั้ง องค์กรปกครองท้องถิ่น และ กรมป้องกันและบรรเทาธารณภัย สำรวจพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม รายงานคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อแก้ปัญหาเป็นพื้นที่และภาพรวม พร้อมทั้งกำชับ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งพัฒนาน้ำบาดาลที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้วให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้ในฤดูแล้งโดยทั่วกัน
ทั้งนี้ยังได้ลงพื้นที่ อ.ห้วยยอด ตรวจสอบความเหมาะสมโครงการเพิ่มศักยภาพอ่างเก็บน้ำ คลองท่างิ้ว เพื่อเร่งนำไปผลิตน้ำประปาอีกแห่งในพื้นที่ อบต.หนองปรือ พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง และได้พบปะประชาชนในพื้นที่ เพื่อสอบถามทุกข์ สุข และความต้องการ ของพี่น้องประชาชน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 8 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”ยกย่องผลงานนักกีฬาพาราไทยสร้างชื่อให้ประเทศ คว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง “โซโล 2022”เกมส์ ประเทศอินโดนีเซีย

,

“พล.อ.ประวิตร”ยกย่องผลงานนักกีฬาพาราไทยสร้างชื่อให้ประเทศ
คว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง “โซโล 2022”เกมส์ ประเทศอินโดนีเซีย

“พล.อ.ประวิตร” ปลื้มผลสำเร็จ ทัพนักกีฬาพาราไทย ที่อินโดนิเซีย โชว์ผลงานคว้า รองแชมป์เจ้าเหรียญทอง สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ !!

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานประธานคณะกรรมการโอลิมปิกส์ แห่งประเทศไทย แสดงความยินทัพนักกีฬาพาราไทย สร้างผลงานในการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 “โซโล 2022″ เกินเป้าหมาย กวาดเหรียญทองได้ 116 เหรียญทอง 111 เหรียญเงิน 90 เหรียญทองแดง ได้เหรียญรวมทั้งสิ้น 317 เหรียญรางวัล จากที่วางเป้าหมายไว้ที่ 70 เหรียญทอง

“นับเป็นความก้าวหน้าของศักยภาพของสมาคมกีฬาทุกประเภท ที่สนับสนุนการฝึกซ้อมเพื่อสนับสนุนนักกีฬา จนประสบความสำเร็จด้วยการนำวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่เข้าไปดูแลการเพิ่มขีดความสามารถจนประสบความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้”

ขอขอบคุณนักกีฬาพาราไทย ที่คนที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในเวทีการแข่งขันครั้งสำคัญของภูมิภาคอาเซียนเป็นผลสำเร็จ จนสามารถจากการค้าวเหรียญทองได้เป็นอันดับสองรองจากเจ้าภาพในครั้งนี้ และคว้าตำแหน่งรองแชมป์ การกีฬาแห่งประเทศไทยพร้อมที่จะให้การสนับสนุนนักกีฬาทุกประเภทต่อไป ทั้งในการนำเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์การกีฬา ในการดูแลนักกีฬาเพื่อเตรียมรับการแข่งขันในรายการกีฬาต่างๆ “

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 8 สิงหาคม 2565