โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ปี: 2024

“สส.องอาจ” ขอ ประปาภูมิภาค แก้ไขปัญหาน้ำไม่ไหลในพื้นที่สระบุรี ชี้ เป็นเรื่องจำเป็นและเป็นดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพ ความสามารถ สมรรถภาพ ของผู้ดูแล

,

“สส.องอาจ” ขอ ประปาภูมิภาค แก้ไขปัญหาน้ำไม่ไหลในพื้นที่สระบุรี ชี้ เป็นเรื่องจำเป็นและเป็นดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพ ความสามารถ สมรรถภาพ ของผู้ดูแล

นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหาหรือในที่ประชุมสภาถึงปัญหา ความเดือดร้อนกรณีน้ำประปาไม่ไหลต่อเนื่องมานานถึง 3 วัน บริเวณตำบลขุนโขน อำเภอพระพุทธบาท ตั้งแต่
สี่แยกโรงพยาบาลพระพุทธบาท ไปยังหมู่ 9 หมู่บ้าน ราชพฤกษ์ หมู่บ้านอารียา ไปจนถึงพหลโยธิน ถึงถ้ำกระบอก โดยสาเหตุหลักและเกิดจากปัญหาคือ ท่อเล็กท่อน้อยที่ส่งไปยังหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ เทศบาลเมืองพระพุทธบาท เก่าแก่ เสื่อมโทรม ชำรุด อุดตัน มาหลายปี ไม่เคยได้รับการดูแลแก้ไข

“ผมขอให้ประปาส่วนภูมิภาค ปรับปรุงซ่อมแซม เปลี่ยนท่อเก่าให้เป็นท่อใหม่ โดยเร่งด่วน ปัญหานี้คาราคาซัง มาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งกรณีน้ำหยุดไหลต่อเนื่องหลายวัน ให้ฉุกเฉินกรณีดังกล่าว ขอให้ประปา ได้แจ้งเตือนก่อน เพราะว่าที่ผ่านมาไม่ได้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ก็จะได้เตรียมพร้อมดูแลแก้ไขทดแทนหาน้ำมาใช้ ในกรณีดังกล่าวได้ทันท่วงที พร้อมขอให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบในส่วนนี้ช่วยบริหารจัดการรถน้ำไปช่วย คลายทุกข์ให้พี่น้องประชาชน เป็นเวลาชั่วคราวอย่างน้อยทุกข์ก็จะได้คลายลงบ้าง“นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ ยังกล่าวต่อถึงปัญหาน้ำประปาในเทศบาลสวนดอกไม้ อำเภอเสาไห้ ไหลน้อยจนถึงไม่ไหล โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด เสาร์ อาทิตย์เป็นช่วงที่ใช้น้ำเยอะๆ สาเหตุหลักก็คือ เนื่องจากเทศบาลตำบลสวนดอกไม้ เป็นพื้นที่ปลายสาย ปลายน้ำ เพราะต้องใช้บริการน้ำประปาจากพระพุทธบาท ซึ่งจะใช้เวลาระยะเวลาที่ไกลก่อนน้ำจะไปถึง ก็ค่อยลงไปเรื่อยๆ จึงขอฝากไปยังประปาภูมิภาคให้ช่วยขยายท่อส่งน้ำ เพิ่มแรงดันให้น้ำแรงขึ้น จะได้ช่วยคลายทุกข์บริเวณอำเภอเสาให้ ได้ เพราะน้ำประปาเป็นดัชนีชี้วัดความสุขของพี่น้องประชาชน ในขณะเดียวกันก็เป็นดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพความสามารถ สมรรถภาพ ของผู้ที่ดูแลประปาภูมิภาค

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 สิงหาคม 2567

“สส.สัมพันธ์” หวัง รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะของ กมธ. แก้ไขหนี้สินฯไปกำหนดนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน

,

“สส.สัมพันธ์” หวัง รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะของ กมธ. แก้ไขหนี้สินฯไปกำหนดนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ เปิดเผยว่า กมธ.ได้รายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหา หนี้สินภาคครัวเรือนอย่างยั่งยืน และปัญหาค่าครองชีพสูงที่พิจารณาเสร็จแล้วต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยผลการศึกษาสรุปได้ว่า
ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนของประเทศไทยในปัจจุบันอยู่ในสัดส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตมากที่สุด รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการเป็นหนี้ของประชาชนที่เป็นไปในลักษณะของการมีความพร้อมที่จะก่อหนี้ได้ง่ายและเร็วขึ้น

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นปัญหาสำคัญอีกประการคืออาชีพเกษตรกรมีรายได้ไม่แน่นอนทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ยาก ทำให้มีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนนอกระบบและต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง รายได้ไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ ต้องชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายวันไปเรื่อย ๆ จึงไม่สามารถชำระหนี้ได้หมด ประกอบกับปัญหาค่าครองชีพสูงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ถือเป็นปัจจัยที่สร้างภาระให้แก่ครัวเรือนไทยเป็นอย่างมาก และลดทอนความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนด้วย

โดยทาง กมธ.ได้พิจารณถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนอย่างยั่งยืน เช่น การกำหนดเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนให้ชัดเจน รวมถึง กลไกการบริหารนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน โดยการกำหนดตัวชี้วัดในการแก้ไขปัญหาหนี้สินแต่ละด้าน ระบบการติดตามและการประเมินผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้สิน การจัดหมวดหมู่งบประมาณและการจัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ติดตามและการประเมินผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้สินการปิดช่องโหว่ทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และการเพิ่มความรอบรู้ทางการเงินของประชาชน โดยการเพิ่มความรอบรู้ทางการเงินตามช่วงวัย คือ วัยเรียน วัยทำงาน วัยเตรียมเกษียณ และวัยผู้สูงอายุ การเพิ่มความรอบรู้ตามกลุ่มเป้าหมายการทำงาน อาทิ กลุ่มทำงานประจำ ทำงานอิสระ และดำเนินการควบคู่กับการฟื้นฟูสถานะการเงินของครัวเรือน

“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนต่อไป”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 สิงหาคม 2567

พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานของขวัญ ช่อดอกไม้และกระเช้า เป็นกำลังใจ นักกีฬาโอลิมปิกฯ ต่างมีความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ประธานโอลิมปิคฯ ภูมิใจผลงาน โอลิมปิก 2024 ไทยครองเหรียญรวม อันดับ 1 อาเซียน ขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศ จัดงานมอบรางวัล – เลี้ยงขอบคุณนักกีฬาสร้างชื่อสนั่นโลก อีกครั้ง

,

พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานของขวัญ ช่อดอกไม้และกระเช้า เป็นกำลังใจ นักกีฬาโอลิมปิกฯ ต่างมีความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ประธานโอลิมปิคฯ ภูมิใจผลงาน โอลิมปิก 2024 ไทยครองเหรียญรวม อันดับ 1 อาเซียน ขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศ
จัดงานมอบรางวัล – เลี้ยงขอบคุณนักกีฬาสร้างชื่อสนั่นโลก อีกครั้ง

ยกย่อง “น้องเทนนิส-โค้ชเช” คว้าทอง 2 สมัยติด ต้นแบบความสำเร็จ ปวศ.จารึกมิรู้ลืม

เมื่อ 16 ส.ค.67, 10.00 น. ณ ห้องรับรองบ้านอัมพวัน โอลิมปิคแห่งประเทศไทย ฯ ผู้แทนพระองค์
ได้อัญเชิญของขวัญพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานของขวัญ ช่อดอกไม้และกระเช้า ให้กับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ครั้งที่ 33
เพื่อพระราชทานกำลังใจให้แก่นักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 สร้างความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้

ต่อจากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เป็นประธานจัดงานพิธีมอบรางวัลและเลี้ยงอาหารกลางวัน แสดงความยินดีให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาและคณะเจ้าหน้าที่ ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 26 ก.ค.67 ถึง 11 ส.ค.67 โดยมีประเทศเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 206 ประเทศ

ทั้งนี้ ผลการแข่งขัน ทัพนักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญทองได้ 1 เหรียญ จากเรืออากาศโทหญิง
พาณิภัค วงศ์วัฒนกิจ (เทควันโด) 3 เหรียญเงิน จาก สิบตำรวจโท กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (แบดมินตัน) นายธีรพงศ์ ศิลาชัย (ยกน้ำหนัก) และนายวีระพล วิชุมา (ยกน้ำหนัก) กับ 2 เหรียญทองแดง จาก
จ่าอากาศตรีหญิง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง (มวยสากล) และนางสาว สุรจนา คำเบ้า (ยกน้ำหนัก) รวมทั้งสิ้น 6 เหรียญรางวัล

โดย พล.อ.ประวิตร ได้ทำพิธีมอบของรางวัลจากคณะกรรมการโอลิมปิคฯ และได้กล่าวแสดงความยินดีพร้อมกล่าวขอบคุณ นักกีฬา ผู้ฝึกสอนสมาคม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนแทนคนไทยทั้งประเทศ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ที่ได้ทุ่มเทฝึกซ้อม กระทั่งได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้ ซึ่งมีหลายสมาคมฯ ประสบความสำเร็จทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ และทำให้นานาประเทศได้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งทัพนักกีฬาไทยก็ยังสามารถรักษามาตรฐานผลการแข่งขันกีฬาระดับโลกไว้ได้อย่างงดงาม และยังได้สร้างชื่อเสียงจากการได้รับเหรียญรางวัลรวม มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานของ“น้องเทนนิส -โค้ชเช” ที่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกเหรียญทอง 2 สมัยติดต่อกัน นับเป็นนักกีฬาคนแรกของไทย และเป็นประวัติศาสตร์ที่จะต้องถูกจารึกไว้ ซึ่งเชื่อว่าผลงานครั้งนี้ สะท้อนความสำเร็จได้ตามเป้า อันเกิดจากนโยบายสำคัญ ที่ตนให้ไว้โดยเฉพาะเรื่องการใช้“วิทยาศาสตร์การกีฬา”เพื่อความเป็นเลิศ อย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามนักกีฬายังคงต้องมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก อย่างต่อเนื่อง ทุกสมาคม โดยจะต้องนำประสบการณ์จากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ไปปรับปรุงแก้ไข และถอดบทเรียนเพื่อสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้น ในรายการแข่งขันอื่นๆ ต่อไป

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ฝากขอให้สมาคมกีฬามุ่งใช้ “วิทยาศาสตร์การกีฬา” ที่มีมาตรฐานสากล อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยยกระดับผลงานของนักกีฬาทุกประเภท ให้ดียิ่งๆขึ้น รวมถึงมาตรการป้องกันการใช้“สารต้องห้าม”จะต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด และเด็ดขาดด้วยเช่นกัน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2567

”สส.จำลอง”วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการปัญหายาเสพติดแพร่ระบาด หลังสถิติผู้ป่วยเพิ่มสูง หวั่น เป็นจุดเริ่มต้นของอาชญากรในสังคม

,

”สส.จำลอง”วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการปัญหายาเสพติดแพร่ระบาด หลังสถิติผู้ป่วยเพิ่มสูง หวั่น เป็นจุดเริ่มต้นของอาชญากรในสังคม

นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ปัจจุบันยาเสพติดได้แพร่ระบาดไปทุกหย่อมหญ้าของสังคมไทย จากสถิติเมื่อปี พ.ศ 2566 มีผู้ป่วย 195,604 คน และปี 2567 ซึ่งยังไม่ถึงสิ้นปียังมีผู้ป่วยสะสม 46,566 คน จากแค่ 2 ปี มียอดผู้ติดยาเสพติดถึง 241,210 คน

“ผมได้ไปสอบถามตัวเลขสถิตินี้จากสาธารณสุขจังหวัด
และได้รับคำตอบว่า สถิติผู้ที่มารักษาในโรงพยาบาล ต้องคูณด้วย 10 เท่า ลองคิดดูว่าสังคมจะเป็นอย่างไร
ในอนาคต“นายจำลอง กล่าว

นายจำลอง กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ในพื้นที่ของตนเกิดเหตุฆาตกรรมที่อำเภอท่าคันโท โดยชายชรา อายุ 74 ปี ถูกฆาตกรรม โดยเยาวชนที่ติดยาเสพติด แล้วเกิดอาการอาละวาด จนเกิดเหตุสลดขึ้น นอกจากนี้ เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมผู้ปกครองของเด็กในพื้นที่ได้ปรึกษาตนว่า อยากมีอาวุธปืน ตนจึงถามว่า จะเอาไปทำไม เพราะว่าเป็นเกษตรกรไม่จำเป็นต้องพกอาวุธ ซึ่งชาวบ้านบอกว่า ลูกมาอาละวาดเกือบทุกวันเพราะติดยาเสพติด จะทำร้ายพ่อ จึงต้องการขอมีใบอนุญาตพกพาอาวุธ เพื่อป้องกันตนเอง จึงขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการ แก้ไขปัญหายาเสพติดด้วย“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2567

‘พปชร.’ ย้ำ จุดยืน หนุน แคนดิเดตนายกฯ จาก’เพื่อไทย’ ทั้ง ‘ชัยเกษม-แพทองธาร’ มั่นใจโควต้า รมต. ยังเหมือนเดิม

,

‘พปชร.’ ย้ำ จุดยืน หนุน แคนดิเดตนายกฯ จาก’เพื่อไทย’ ทั้ง ‘ชัยเกษม-แพทองธาร’ มั่นใจโควต้า รมต. ยังเหมือนเดิม

วันที่ 15 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ,นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ด้านกิจกรรมสัมพันธ์พร้อมด้วย สส.ของพรรคพลังประชารัฐ ร่วมแถลงจุดยืนต่อกรณีการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้(16 ส.ค.)

โดยนายสันติ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อแสดงจุดยืนแนวทางในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ดังนี้

1.พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนบุคคลในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้

2.พรรคพลังประชารัฐ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูนและธำรงซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พรรคพลังประชารัฐยังคงมีจุดยืนที่ไม่เปลี่ยนแปลงที่จะไม่ร่วมกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

3.พรรคพลังประชารัฐ ยึดมั่นในนโยบายที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดการส่งเสริมความปรองดองของคนในชาติ ให้มีความสามัคคี เพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ในเรื่องเศรษฐกิจ และความเท่าเทียม รวมถึงจะพัฒนาประเทศชาติของเราต่อไปให้มีความเข้มแข็ง

ทั้งนี้ นายสันติ เปิดเผยว่า ได้มีการพูดคุยกับพลเอกประวิตรเรียบร้อยแล้ว และท่านได้มอบหมายให้ ตนมาชี้แจงร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับหัวหน้าพรรค และก็มีมติชัดเจนตามที่ได้แถลงข่าวไป ซึ่งเราขอย้ำว่า เราสนับสนุนบุคคลใดก็ตามที่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอ และสิ่งสำคัญคือการยึดมั่นในนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ ยังมี 4 โควต้าตามเดิม ซึ่งภายหลังจากได้นายกรัฐมนตรีแล้ว ตนและนายสันติ จะมีการดำเนินการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ส่วนจะมีการสลับตัวบุคคลหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของหัวหน้าพรรค

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2567

”สส.นเรศ“ขอกรมทางหลวงชนบท เข้าสำรวจและเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบนพื้นผิวถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 4016 ที่เป็นเส้นทางหลักเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว

,

”สส.นเรศ“ขอกรมทางหลวงชนบท เข้าสำรวจและเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบนพื้นผิวถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 4016 ที่เป็นเส้นทางหลักเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ เขต 9 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนขอฝากเรื่องร้องเรียนไปยังกรมทางหลวงชนบท เนื่องจากได้รับการร้องขอจากเทศบาลตำบลแม่วาง และ โครงการบริหารส่วนตำบลบ้านกาด อำเภอแม่วาง เพื่อขอเข้าแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ถนนทางหลวงชนบท เลขที่ 4016 เชื่อมต่อทางหลวง 1013 บ้านกาด-แม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ กม.ที่ 1-6 เนื่องจากช่วงหน้าฝนสภาพถนนจะมีน้ำท่วมขังและ ทางหลวงชนบทหมายเลข 4016 เป็นเส้นทางหลักของ อำเภอแม่วาง ที่จะเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นโครงการหลวง ปางช้าง ตลอดจนถึงเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังอุทยานดอยอินทนนท์

“ผมขอให้กรมทางหลวงชนบทเข้าสำรวจและเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อนก็ได้ เนื่องจากว่า ตอนนี้เข้าหน้าฝนแล้วเวลาน้ำท่วม ก็จะเกิดน้ำร่วมขังบนถนนมาโดยตลอด จึงขอให้กรมทางหลวงแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้พี่น้องประชาชนอำเภอแม่วาง“นายนเรศ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 สิงหาคม 2567

“สส.วรโชติ”ชี้ ข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ลานรับซื้อของเกษตรกรไทยน้อยลง วอน คงโควต้านำเข้าข้าวโพด 3 ต่อ 1 ไว้ให้เกษตรกรอยู่ได้

,

“สส.วรโชติ”ชี้ ข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ลานรับซื้อของเกษตรกรไทยน้อยลง วอน คงโควต้านำเข้าข้าวโพด 3 ต่อ 1 ไว้ให้เกษตรกรอยู่ได้

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน มีประชาชนตัวแทนของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มายื่นหนังสือให้กับผม เพื่อร้องเรียนเรื่องข้าวโพดที่มีการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน มันเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งในเดือนสิงหาคมและกันยายน จะเป็นฤดูที่เก็บเกี่ยวข้าวโพดของจังหวัดเพชรบูรณ์ ราคาตอนนี้ก็ยังถือว่าไปได้ แต่ว่าปัญหาใหญ่ๆ เลยก็คือ มีการนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำนวนเยอะ

นายวรโชติ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ลานรับซื้อข้าวโพดก็จะไม่ค่อยซื้อข้าวโพดจากชาวบ้าน เพราะว่า มีการรับซื้อข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา
และปัญหาที่น่าห่วงอีกประการหนึ่งที่ทางพี่น้องเกษตรกรฝากมาคือโควต้าการนำเข้า 3-1 ตนไม่ทราบว่าเขาไปรู้มาจากไหนว่า เร็วๆนี้จะมีการลด
โควต้าการนำเข้า จาก 3 ต่อ 1 จะไม่ใช่แบบนั้นแล้ว

”ถ้ามีการลดโควต้าตรงนี้ พี่น้องเกษตรกรแย่แน่ เพราะว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มันจะออกมา 3 ต่อ 1 ส่วน ใช้ข้าวโพดภายในประเทศ 3 ส่วนและนำเข้า 1 ส่วน ถ้าเกิดไปลดโควต้า 3 ส่วนของเกษตรกรแล้ว เขาจะอยู่อย่างไร วันนี้ราคาปุ๋ย ราคายา ราคาพันธุ์ข้าวโพด ก็แพงอยู่แล้ว ไร่นึงค่าใช้จ่ายตกค่าเฉลี่ยแล้ว 6,000 กว่าบาท แล้ววันนี้จะไปลดโควต้าเขาอีก ต้องฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดูเรื่องนี้ โดยอยากให้คง โควต้า 3 ต่อ 1 ไว้ ซึ่งผมจะฝากหนังสือที่ทางพี่น้องเกษตรกรฝากมาให้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย“นายวรโชติ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 สิงหาคม 2567

“สส.ปกรณ์”ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส-หน่วยงานของจังหวัดแม่ฮ่องสอน”ให้ความช่วยเหลือ ปชช.เดือดร้อนจากน้ำท่วมทันท่วงที ขอ เร่งซ่อมแซม“สะพานบ้านห้วยผา”อย่ารอให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้

,

“สส.ปกรณ์”ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส-หน่วยงานของจังหวัดแม่ฮ่องสอน”ให้ความช่วยเหลือ ปชช.เดือดร้อนจากน้ำท่วมทันท่วงที ขอ เร่งซ่อมแซม“สะพานบ้านห้วยผา”อย่ารอให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้

นายปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เกิดอุทกภัยที่รุนแรง หลาย ๆ พื้นที่ถูกน้ำป่าไหลหลากทับท่วมและดินสไลด์ ทำให้บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร สะพานและถนนต่างๆในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เบื้องต้นตนต้องขอขอบคุณทางหน่วยงานของจังหวัด โดยการนำของ
ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ได้เร่งเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว

“ผมต้องขอขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้แจ้งผมโดยตรงให้ช่วยจัดหาสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ที่รับความเสียหายเป็นอย่างมากนั้น เช่น อำเภอขุนยวม อำเภอปางมะผ้า อำเภอเมือง และอำเภแม่ลาน้อย บ้านเรือนส่วนใหญ่ที่เสียหายนั้นกว่า 400 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 คน และมีพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 2,000 ไร่ รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพอีกจำนวนมาก ณ วันนี้ ยังไม่สามารถที่จะประเมินความเสียหายได้ทั้งหมด

ส่วนในเรื่องของสะพานถนน ที่อำเภอขุนยวม ตำบลแม่ยวมน้อย บ้านแม่โกปี่ และ บ้านแม่ละก๊ะใต้ สะพานถนนถูกตัดขาด ยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้ ต้องใช้วิธีการเดินเท้า ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงที่จะเข้าถึงหมู่บ้านต่างๆ ในส่วนของสะพานที่สำคัญอีกเส้นหนึ่ง ก็คือ สะพานบ้านห้วยผา ตำบลห้วยผา อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮองสอน บนถนนเลขที่ 1095 สะพานแห่งนี้เคยถูกอุทกภัยมาครั้งหนึ่ง เมื่อเดือน ก.ย.66 และตั้งแต่นั้นมาก็เป็นสะพานชั่วคราวมาโดยตลอด วันนี้ก็เจออุทกภัยอีกรอบหนึ่ง

“ผมได้หารือเรื่องสะพานแห่งนี้มา 2 ครั้ง แต่ ณ.วันนี้ ก็ยังไม่มีการปรับปรุงหรือแก้ไขให้เป็นสะพานที่เป็นมาตรฐานและถาวร มีความปลอดภัยแต่อย่างไร และเท่าที่ทราบก็ไม่เห็นในงบประมาณปี 2567 และ ปี2568 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผมก็ไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้น หรือว่าจะต้องรอให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ ถึงจะดำเนินการแก้ไขได้ ผมขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านี้ด้วย”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 สิงหาคม 2567

‘บิ๊กป้อม’ ชูความสำเร็จไทยกวาด 6 เหรียญ สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาไทย

,

‘บิ๊กป้อม’ ชูความสำเร็จไทยกวาด 6 เหรียญ สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาไทย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ส.ค. 67 ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานในที่ประชุม สส. ประจำสัปดาห์ โดยมีแกนนำ และ สส. เข้าร่วมประชุม อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุขและรองหัวหน้าพรรค นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค  นายวราเทพ รัตนากร ผอ.พรรค เป็นต้น

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า พล.อ.ประวิตร ได้รายงานความสำเร็จของไทยในการจัดส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน นับเป็นประวัติศาสตร์การกีฬาของไทย ที่ได้รับเหรียญรวมมากที่สุดถึง 6 เหรียญ ได้แก่เหรียญทอง 1 เหรียญ เหรียญเงิน 3 เหรียญ และเหรียญทองแดง 2 เหรียญ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีกับนักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกประเภทกีฬา ซึ่งถือว่าการแข่งขันโอลิมปิก ในครั้งนี้ ไทยได้รับสิทธิในการส่งนักกีฬาสูงถึง 51 คน สะท้อนถึงความสนใจที่คนไทยให้ความสนใจในการเล่นกีฬา จึงเห็นว่าควรมีการส่งเสริม และเชิญชวนให้เยาวชนหันมาใส่ใจกีฬามากขึ้น เพื่อป้องกันเยาวชนเข้าสู่วงจรยาเสพติด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 สิงหาคม 2567

“สส.ชนนพัฒฐ์”ฝาก บริษัทใหญ่ ให้โอกาสจ้างงานคนพิการ แทน เอาเงินเข้ากองทุนส่งเสริมชีวิตคนพิการ มอง จ่ายเท่ากันแต่ได้คนทำงานเพิ่ม แถมรายได้ยังถึงมือคนพิการจริง

,

“สส.ชนนพัฒฐ์”ฝาก บริษัทใหญ่ ให้โอกาสจ้างงานคนพิการ แทน เอาเงินเข้ากองทุนส่งเสริมชีวิตคนพิการ มอง จ่ายเท่ากันแต่ได้คนทำงานเพิ่ม แถมรายได้ยังถึงมือคนพิการจริง

นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนได้ต้อนรับเหล่าพี่ๆคนพิการในจังหวัดสงขลาที่มาเยี่ยมเยียน พร้อมมอบเกียรติบัตรที่ตนได้สนับสนุนเสื้อกีฬาไปแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย รวมถึงตนยังได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของชมรมคนพิการของจังหวัดสงขลาด้วย จากการพูดคุยและรับฟังปัญหาของคนพิการในวันนี้ ปัญหาหลัก ๆ ก็คือ การหางานทำของคนพิการที่มีเสียงสะท้อนว่า หากยากเหลือเกิน

นายชนนพัฒฐ์ กล่าวต่อว่า จริง ๆ แล้ว ปัญหานี้มีพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 มาตรา 33 ซึ่งกฎกระทรวงแรงงานกำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน ที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คน ต้องรับคนพิการที่สามารถทำงานได้ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด โดยสัดส่วนในการรับคนพิการเข้าทำงานคือ ลูกจ้างที่ไม่ใช่คนพิการ 100 คน ต่อคนพิการ 1 คน นอกจากนี้ในมาตรา 34 ก็ระบุไว้ว่า นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการคนใดที่ไม่ได้รับคนพิการเข้าทำงานตามที่กำหนด ให้ทำการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายปี โดยคำนวณจากอัตราต่ำสุดของอัตราค่าแรงขั้นต่ำ 328 บาท

“ผมจึงอยากจะฝากไปยังถึงบริษัท และ กิจการ ห้างร้านใหญ่ ให้ช่วยพิจารณาคนพิการด้วย นี่คือเสียงสะท้อนเล็กๆ ที่คนพิการอยากให้พวกเราทุก ๆ คนได้ยิน อย่าปฎิเสธพวกเขา หรือคิดว่าเขาจะสร้างภาระให้กับองค์กร เพราะหลาย ๆ คนก็สามารถทำงานได้ไม่แตกต่างจากคนปกติ ผมมองว่า นายจ้างที่จะต้องเอาเงินไปสนับสนุนกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ สู้เราเอาค่าแรงขั้นต่ำ 328 บาทต่อวัน เท่ากันมาจ้างคนพิการมาทำงานจะดีกว่าหรือไม่ เพราะเราก็จะได้คนเพิ่ม 1 คน”นายชนนพัฒฐ์ กล่าว

นายชนนพัฒฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า คนพิการมีเงินสนับสนุนจากภาครัฐเพียงเดือนละ 800 บาทเท่านั้น แต่ถ้าผู้ประกอบการให้โอกาสจ้างพวกเขาทำงาน เขาก็จะได้รับเงินโดยตรง ซึ่งตนมองว่าดีกว่า ทั้งนี้ ขอฝากไปยังผู้ใหญ่ของบ้านให้สนับสนุนและเล็งเห็นความสำคัญของคนพิการ ทั้งนี้ ตนขอให้ จังหวัดสงขลาเป็นจุดเริ่มต้นในการจ้างงานคนพิการ รวมถึงขอฝากให้ บริษัทห้างร้านทั่วประเทศพิจารณาให้โอกาสคนพิการได้มีอาชีพอีกครั้งด้วย

ด้านตัวแทนชมรมคนพิการ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า พวกเราอยากจะให้ผู้ประกอบการในจังหวัดสงขลา ร่วมมือกันจ้างงานคนพิการทุกบริษัท ซึ่งดีกว่าการส่งเงินเข้ากองทุน เพราะจะได้กลับมาในจังหวัดน้อยมาก แต่การจ้างคนพิการ ทุกบาท ทุกสตางค์ ทำให้คนพิการสามารถดำรงชีวิตแบบมีคุณภาพที่ดีขึ้นได้ รวมถึงคนพิการก็จะเกิดความภูมิใจว่า เขาสามารถเปลี่ยนจากภาระมาเป็นพลังของสังคม สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ ทั้งนี้ อย่ามองว่าการทำงานของคนพิการเป็นเพียงแค่การสงเคราะห์ แต่คนพิการสามารถพัฒนาศักยภาพในการทำงานได้ หลาย ๆ คนที่ตนดูแล เมื่อได้รับโอกาสจากนายจ้าง ก็สามารถทำงานได้ดีด้วย

“ชมรมคนพิการของจังหวัดสงขลาได้มีการจัดตั้งศูนย์หางานของคนพิการมากกว่า 9 ปี แล้ว ดังนั้นทางผู้ประกอบการจึงไม่ต้องกังวลว่า การจ้างคนพิการจะเจอความยากลำบาก เพราะทุกคนต้องเตรียมตัวที่จะทำงานอีกทั้งรายชื่อของบุคคลพิการที่ลงทะเบียนกันเอาไว้ ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ก็ได้จัดอบรมให้กับคนพิการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สถานประกอบการและการสร้างอาชีพต่าง ๆ”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

”สส.สะถิระ“จับมือสำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดชลบุรี จัดโครงการบริการทำหมันสุนัขและแมว ฟรี 100 ตัว แก้ปัญหาหมาแมวจรจัด พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

,

”สส.สะถิระ“จับมือสำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดชลบุรี จัดโครงการบริการทำหมันสุนัขและแมว ฟรี 100 ตัว แก้ปัญหาหมาแมวจรจัด พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี สำนักงานปศุสัตว์อำเภอสัตหีบ เพื่อจัดโครงการบริการทำหมันสุนัข แมว ฟรีจำนวน 100 ตัว รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตามบ้านเรือนประชาชนอีก 500 ตัว โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากจำนวนหมาแมวจรจัด และเพื่อให้ประชาชนมีความรู้เรื่องโรคพิษสุนัขบ้าได้อย่างถูกต้อง

“ผมต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่จากปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี นำโดยนายสัตวแพทย์ชำนาญการ พิชญา วีรพันธุ์ ปศุสัตว์อำเภอสัตหีบ และเจ้าหน้าที่ออกหน่วยมาให้บริการฉีดวัคซีนทำหมันสุนัขและแมวให้กับประชาชนในเขตพื้นที่ อำเภอสัตหีบ รวมถึง นายสมประสงค์ วังแก้วหิรัญ ผู้ช่วย สส.,พ.จ.อ.วิษณุ โตสมบัติ ผู้ใหญ่บ้าน และคณะทำงาน ตลอดจน กำลังพลเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ที่ร่วมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและทีมสัตวแพทย์ในการนำสุนัขและแมวมารับบริการ“นายสะถิระ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

อวยพรวันเกิด “พล.อ.ประวิตร”ครบ 79 ปี คนสนิท-ทหาร-ตำรวจ-นักการเมือง “รวมพลคนรักลุงป้อม” ขอให้มีความสุข-สุขภาพแข็งแรง ย้ำจุดยืน ปกป้อง-เทิดทูนสถาบันฯสำคัญสูงสุด

,

อวยพรวันเกิด “พล.อ.ประวิตร”ครบ 79 ปี คนสนิท-ทหาร-ตำรวจ-นักการเมือง “รวมพลคนรักลุงป้อม” ขอให้มีความสุข-สุขภาพแข็งแรงย้ำจุดยืน ปกป้อง-เทิดทูนสถาบันฯสำคัญสูงสุด

เมื่อ 11 ส.ค.67 ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ต้อนรับ บุคคลใกล้ชิด ทั้งทหารตำรวจ นักการเมืองจากพรรคต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชน เข้าร่วมอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 79 ปี ทั้งนี้ได้มีคณะต่างๆ ทยอยมาร่วมอวยพรก่อนวันเกิดเป็นจำนวนมาก มาก่อนหน้าแล้ว สำหรับวันนี้ ในช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปประกอบพิธีทำบุญ ซึ่งได้ปฏิบัติเป็นประจำทุกปี ณ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน

จากนั้นได้เดินทางมายัง มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อต้อนรับผู้มาร่วมแสดงความยินดีในวันคล้ายวันเกิด ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่มาอวยพรได้กล่าวขอให้พล.อ.ประวิตร มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง เป็นหลักชัย ให้บ้านเมือง มีความสงบสุข ร่มเย็น เจริญรุ่งเรือง

พล.อ.ประวิตร ได้มอบของที่ระลึกแก่ผู้มาอวยพรและกล่าวตอบรับพร โดยขอให้ช่วยกัน ทุ่มเททำงาน เพื่อบ้านเมืองและประชาชน สำคัญที่สุด ต้องช่วยกันปกป้อง เทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้คงอยู่คู่ชาติไทย ตลอดไป

สำหรับงานวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประวิตร ในวันนี้ บรรยากาศ เป็นแบบเรียบง่ายเป็นกันเองทุกคนทุกคณะมาด้วยความเคารพรัก ความผูกพัน ที่เคยมีมาอย่างยาวนาน เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ที่มีความเมตตากับทุกคน เป็นที่เคารพนับถือของผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ รวมทั้งข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ วันนี้ จึงเป็นอีกวันหนึ่ง ที่นับเป็นวัน“รวมพลคนรักลุงป้อม”ก็ว่าได้ ซึ่งจะทำให้ พล.อ.ประวิตร เจ้าของวันเกิดได้รับพลังอันบริสุทธิ์ ให้มีกำลังใจที่เข้มแข็ง มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท พร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พรรคที่มีอุดมการณ์ ยึดมั่น ปกป้องเทิดทูนสถาบันฯ เป็นสถาบันทางการเมือง และพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นกลไกหนึ่ง ที่จะช่วยขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้พี่น้องประชาชน กินดีอยู่ดี มีความสุข ต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567