โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

เดือน: พฤษภาคม 2024

‘สส.จักรัตน์’ นำ กมธ.บริหารจัดการน้ำ สภาฯลงพื้นที่ เกาะพีพี เร่งประสาน 3 กระทรวงหลักแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนช่วงหน้าแล้ง ย้ำ ยังรองรับภาคการท่องเที่ยวได้ นทท.ไม่ต้องกังวล

,

‘สส.จักรัตน์’ นำ กมธ.บริหารจัดการน้ำ สภาฯลงพื้นที่ เกาะพีพี เร่งประสาน 3 กระทรวงหลักแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนช่วงหน้าแล้ง ย้ำ ยังรองรับภาคการท่องเที่ยวได้ นทท.ไม่ต้องกังวล

นายจักรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการบริหารจัดการน้ำ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยคณะ กมธ.ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค จังหวัดกระบี่ โดยได้ประสานหน่วยงานฝ่ายบริหารภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรฯ, กระทรวงทรัพย์ฯ และ กระทรวงมหาดไทย ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่, อบจ.กระบี่, อบต.อ่าวนาง, นายอำเภอเมืองกระบี่, การประปาส่วนภูมิภาคสาขากระบี่, สนง.เขตชลประทานที่ 15, สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาและร่วมขับเคลื่อนแผนการบริหารจัดการทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาวอย่างจริงจัง

นายจักรัตน์ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมือง ที่มีการจ่ายน้ำวันเว้นวัน รวมทั้งปัญหาน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาบนเกาะพีพีไม่เพียงพอ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนน้อย เพราะฝนไม่ตกตั้งแต่เดือนมกราคม และน้ำบาดาลคุณภาพต่ำหรือ น้ำกร่อย เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชน
ซึ่งสำหรับแผนการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งได้ข้อสรุปทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาวเป็นที่เรียบร้อย

โดยเฉพาะการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำประปา ด้วยการก่อสร้างระบบผลิต สถานีผลิต-จ่ายน้ำหนองทะเล ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ งบประมาณ 174 ล้านบาท ตลอดจนวางท่อน้ำดิบความยาว 22 กม. จากอ่างเก็บน้ำคลองแห้งมายังสถานีผลิตน้ำตลาดเก่า งบประมาณ 400 ล้านบาท และแผนระยะยาว ในการขยายกำลังการผลิตจาก 1,500 คิว เป็น 2,250 คิว และ ก่อสร้างถังน้ำใสขนาด 6,000 ลบ.ม. ที่สถานีจ่ายน้ำนครธรรม’

“เราได้ค้นพบแหล่งน้ำดิบใหม่ของจังหวัด ได้แก่ สระคลองหวายเล็ก พื้นที่ประมาณ 264 ไร่ เป็นขุมเหมืองเดิม ซึ่งอาจจะมีความลึกถึง 1,500 เมตร คุณภาพน้ำดิบระดับผิวน้ำถึงระดับความลึก 15 เมตร สามารถนำมาใช้เป็นน้ำประปาได้ ได้รับการยืนยันว่าผ่านการทดสอบเมื่อวาน นับเป็นข่าวดีล่าสุดของพื้นที่กระบี่ในการเพิ่มปริมาณน้ำดิบทั้งเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร”

สำหรับพื้นที่บนเกาะพีพี รองนายกอบต.อ่าวนาง และ การประปาส่วนภูมิภาค กล่าวว่า พื้นที่เกาะพีพี มีสัดส่วนของแหล่งน้ำดิบมาจากน้ำบาดาล 60% และจัดซื้อจากเอกชน 40% แปลว่าพื้นที่ที่กระทบไม่ได้มากตามที่เป็นข่าว ยังสามารถรองรับภาคการท่องเที่ยวได้เต็มที่ โดยขณะนี้ให้ผู้ประกอบการเอกชนปรับเปลี่ยนการจ่ายน้ำโดยสูบจากบาดาลแทนการจ่ายน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่แห้งเพราะฝนไม่ตก และยังมีการขนน้ำจากแพภูเก็ตมาเพิ่ม อีกทั้งยังได้เตรียมแผนระยะยาวในการทำน้ำอาร์โอ ระบบกรองน้ำเค็มเป็นน้ำจืด ซึ่งอยู่ระหว่างขอรับจัดสรรงบกลางปี 68 เพื่อการศึกษาวางระบบ ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ข้อกฎหมาย, ผลกระทบสิ่งแวดล้อม, ระยะเวลาและการคุ้มทุน

“สำหรับภาคท่องเที่ยว ต้องขอขอบคุณทางฝ่ายบริหาร นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ยืนยันว่าการดูแลนักท่องเที่ยวไม่มีปัญหา เนื่องจากโรงแรมส่วนมากมีบ่อบาดาลของตนเอง ขอให้ผู้ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดกระบี่และเกาะพีพีไม่ต้องกังวล และในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติก็จะช่วยพิจารณาผลักดันงบประมาณโครงการที่พื้นที่นำเสนอในวันนี้เพื่อมาแก้ไขในการบริหารจัดการน้ำ”นายจักรัตน์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 พฤษภาคม 2567

“สส.สุธรรม”เผย กมธ. การเกษตร สภาฯ เตรียมหารือขอใช้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ ร่วมกับกรมอุทยาน เพื่อผลักดันโครงการอ่างเก็บน้ำ รับมือปัญหาภัยแล้ง

,

“สส.สุธรรม”เผย กมธ. การเกษตร สภาฯ เตรียมหารือขอใช้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ ร่วมกับกรมอุทยาน เพื่อผลักดันโครงการอ่างเก็บน้ำ รับมือปัญหาภัยแล้ง

นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรฯ สภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยว่า คณะ กมธ.เกษตรได้ประชุมร่วมกับนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานและรองอธิบดีกรมชลประทาน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตชลประทาน ผอ.ชลประทาน 15 จังหวัด และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อรับฟังแนวทางการบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศ

นายสุธรรม กล่าวต่อว่า กมธ.หลายคนเสนอให้กรมชลประทานช่วยผลักดันโครงการอ่างเก็บน้ำ ซึ่งมีอยู่หลายโครงการ หากได้งบประมาณก็สามารถทำได้ทันที หากโครงการเหล่านี้เกิดขึ้น จะทำให้เกิดการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งปัญหาหลักๆของการสร้างอ่างเก็บน้ำ คือ การขอใช้พื้นที่ป่าอนุรักษ์จากกรมอุทยาน ที่ผ่านมาแม้ว่าทางกรมชลประทานจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ แต่ทางกรมอุทยานก็อนุญาตล่าช้า โดยเรื่องนี้ กมธ.จะมีการนัดประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขกับกรมอุทยานต่อไป

“ต้องยอมรับว่าปีนี้พี่น้องประชาชนเกือบทุกจังหวัดต้อง เผชิญกับปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ซึ่งปีหน้าก็เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดา แต่หน่วยงานภาครัฐ ต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัญหาภัยแล้งอย่างเต็มที่ เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน”นายสุธรรม กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 พฤษภาคม 2567

“สส.กาญจนา” ร่วมประชุมส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ หารือปัญหาขาดแคลนน้ำ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมช่วงฤดูฝน ห่วง ปชช.ดูแลสุขภาพ อาจเกิดอันตรายได้

,

“สส.กาญจนา” ร่วมประชุมส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ หารือปัญหาขาดแคลนน้ำ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมช่วงฤดูฝน ห่วง ปชช.ดูแลสุขภาพ อาจเกิดอันตรายได้

น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้เข้าร่วมประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดชัยภูมิ หัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอหนองบัวแดง นายกเทศมนตรีตำบลทั้ง 2 แห่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่งกำนันทุกตำบลผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน เพื่อนำปัญหาความเดือดร้อนในแต่ละพื้นที่มาร่วมหาทางออกแก้ไขร่วมกัน ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความสำคัญและไม่นิ่งเฉยต่อปัญหาของพี่น้องจังหวัดชัยภูมิ

น.ส.กาญจนา กล่าวต่อว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ภัยแล้งในขณะนี้ ส่งผลทำให้ปัจจุบันจังหวัดชัยภูมิ มีปริมาณน้ำในลำน้ำชีลดระดับอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำที่ประชาชนต้องการใช้ จึงต้องบูรณาการทุกภาคส่วน ในการระดมความคิดเห็นร่วมกันวางแผนในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และเตรียมความพร้อมของเครื่องมืออุปกรณ์ ต่าง ๆ หากเกิดสถานการณ์จำเป็นจะต้องใช้งานได้ทันที

นอกจากนี้ จ.ชัยภูมิ ยังเกิดภาวะอากาศร้อนจัดเกิดภัยแล้งหนัก และเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มหนักรุนแรงสุดในรอบหลายสิบปีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเป็นประวัติการณ์ ทำให้พื้นที่ทั้ง 16 อำเภอ เริ่มประสบภัยแล้งหนักแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมีปริมาณน้อย ประชาชนจึงได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดน้ำและไม่มีน้ำสำหรับการเพาะปลูก จึงต้องริเริ่มวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งในพื้นที่อย่างจริงจัง รวมทั้งการเตรียมพร้อมรับมือและดำเนินการวางแผนเพื่อรองรับสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงฤดูฝนด้วย

“ตนเดินหน้าทำงานหนักต่อเนื่อง เพราะเข้าใจในสภาพปัญหาที่พี่น้องประชาชนต้องเผชิญมาตลอด ซึ่งตนจะค่อยๆ พัฒนาให้ครบทุกพื้นที่ โดยในช่วงนี้นอกจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดแล้วยังมีพายุฤดูร้อนทำให้ฝนตกด้วย ก็ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพร่างกายด้วย โดยเฉพาะผู้สูงอายุหากอยู่กลางแดดเป็นระยะเวลานาน อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้” น.ส.กาญจนา กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 พฤษภาคม 2567

”สส.อนุรัตน์“เผย 6 โครงการสำคัญเพื่อเกษตรกร ถูกบรรจุในงบ 67 แล้ว ขอบคุณ ”รมว.ธรรมนัส“ไม่เคยลืมชาวบ้าน แก้ปัญหาจนสำเร็จ

,

”สส.อนุรัตน์“เผย 6 โครงการสำคัญเพื่อเกษตรกร ถูกบรรจุในงบ 67 แล้ว ขอบคุณ ”รมว.ธรรมนัส“ไม่เคยลืมชาวบ้าน แก้ปัญหาจนสำเร็จ

นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาประมาณ 1 ปีของการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแทนประชาชนในฐานะ สส.มีหลายปัญหาที่พ่อแม่พี่น้องได้ร้องขอมาโดยตลอดเมื่อตนมาเป็นผู้แทนของท่าน ก็ได้ทำหน้าที่ประสานงานผ่าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านจึงสั่งการให้กรมชลประทาน ได้สำรวจและออกแบบเป็นการเร่งด่วน เพื่อผลักดันงบประมาณเพื่อมาแก้ไขให้กับพ่อแม่พี่น้องเกษตรกรบ้านเราอย่างทั่วถึง โดยมี 6 โครงการที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนในปี 2567 นี้ คือ

1.แก้มลิงไผ่สีทองพร้อมอาคารประกอบ โครงการชลประทานพะเยา ตำบลหงส์หิน อำเภอจุน จังหวัดพะเยา 25,000,000 บาท

2.สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำไผ่สีทอง พื้นที่รับประโยชน์ 300 ไร่ โครงการชลประทานพะเยา ตำบลหงส์หิน อำเภอจุน จังหวัดพะเยา 25,000,000 บาท

3.งานซ่อมแซมฝายวังผาเหนือ ตำบลเชียงบาน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา 4,500,000 บาท

4.งานปรับปรุงระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยผาลาด ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา 18,000,000 บาท

5.งานปรับปรุงฝายทุ่งกว๋างพร้อมระบบส่งน้ำ ตำบลสบบง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา 25,000,000 บาท

6.งานซ่อมแซมสะพานคลองส่งน้ำ กิโลเมตร 1+500 อ่างเก็บน้ำห้วยยัด โครงการชลประทานพะเยา ตำบลแม่ลาว อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา 2,500,000 บาท

“ผมต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส ที่ให้ความสำคัญกับทุกความเดือดร้อนของชาวพะเยา และนำไปแก้ไขปัญหาให้จนสำเร็จ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้ประชาชน“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 06 พฤษภาคม 2567

“สส.อัคร”ร่วมประชุม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถกปัญหาน้ำขาดแคลน-ถนนชำรุด สู่การแก้ไขอย่างมีระบบและยั่งยืน

,

“สส.อัคร”ร่วมประชุม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถกปัญหาน้ำขาดแคลน-ถนนชำรุด สู่การแก้ไขอย่างมีระบบและยั่งยืน

นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ของอำเภอวิเชียรบุรี และศรีเทพ ซึ่งมีการพูดคุยกันถึงปัญหาเรื้อรังที่ต้องได้รับการแก้ปัญหาอย่างมีระบบและยั่งยืน เช่น ปัญหาในช่วงหน้าแล้ง น้ำประปาไม่เพียงพอสำหรับการอุปโภคและบริโภค รวมถึงปัญหาถนนหนทางชำรุด ทรุดโทรม ไม่สะดวกในการสัญจรไปมา ที่จำเป็นที่จะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก

นายอัคร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงแนวทางการแก้ไขในหลาย ๆ ปัญหา อย่างเช่น การแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบของจังหวัดเพชรบูรณ์ ต้องเร่งสร้างแหล่งเก็บน้ำ โดยจะนำไปปรึกษาและเสนอต่อกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และโครงการน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ที่ได้นำเสนอเรื่องไปยังกรมทรัพยากรน้ำบาดาลสระบุรี เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำอุปโภค บริโภค ในพื้นที่ที่มีปัญหาแล้ว รวมถึงการขอฝนหลวง แก้ปัญหา น้ำแล้ง และเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำให้เพียงพอ ในส่วนของการขุดเจาะบ่อบาดาลเบื้องต้น ได้ประสานงานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ ในเรื่องของการขุดเจาะบาดาล โดยเร่งด่วนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ

สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องถนนนั้น นายอัคร กล่าวว่า เราจะติดตามงบประมาณของ กรมทางหลวง และ กรมทางหลวงชนบท ในการก่อสร้างถนน และ ซ่อมแซม ถนนที่ชำรุดเสียหาย และประสานไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อนำปัญหาของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและลำบากในการใช้ถนนในจุดที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งการจะแก้ปัญหานี้ได้ ต้องมีการบด อัด เกรดผิวถนน ให้ใช้สัญจรได้สะดวกโดยเร็ว และซ่อมสร้างถนนใหม่ ให้ทันตามงบประมาณที่ได้จัดสรรมา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 04 พฤษภาคม 2567

”สส.อัครแสนคีรี“ เข้าพบ รมว.เกษตร ผอ.อตก.ผลักดันสินค้าเกษตรชัยภูมิสู่ตลาดตปท. วางแผนจัดคิวพบปะพี่น้องเกษตรกร รับฟังปัญหา พัฒนากลไกสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต

,

”สส.อัครแสนคีรี“ เข้าพบ รมว.เกษตร ผอ.อตก.ผลักดันสินค้าเกษตรชัยภูมิสู่ตลาดตปท.
วางแผนจัดคิวพบปะพี่น้องเกษตรกร รับฟังปัญหา พัฒนากลไกสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ภายหลังจากตนได้เดินทางไปหารือ ร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และ นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อตก.) พร้อมรายงานถึงแนวทางการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ที่จะยกระดับพืชผลทางการเกษตรจังหวัดชัยภูมิ เพื่อสร้างรายได้ให้ที่มั่นคงให้กับพี่น้องภาคการเกษตร โดยได้จะจัดให้มีกิจกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ลงพื้นที่พบปะพี่น้องเกษตรกร เพื่อรับปัญหาที่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ตามนโยบายของกระทรวงเกษตร นอกจากการยกระดับราคาพืชผลแล้ว ต้อง วางแผนด้านการตลาดเพื่อใช้เป็นกลไกรองรับผลผลิต ด้วยการหาตลาดส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มเติม พร้อมพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีเข้ามาเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรไทย ทั้งนี้เพื่อยกระดับรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกร ซึ่งประชาชนในจังหวัดชัยภูมิส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการเกษตร ดังนั้นจำเป็นต้องวางแผนการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาสินค้าเกษตร ให้มีคุณภาพมาตรฐานสากล จนสามารถขยายตลาดไปประเทศต่าง ๆ ได้ เช่น ตลาดวัวส่งออก กล้วยหอมทอง สัปปะรดภูแลนคา เพื่อส่งไปประเทศญี่ปุ่น

“ ที่สำคัญ ได้เตรียมผลักดัน ยกมาตรฐาน หม่ำ ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่น ของฝากที่มีชื่อของจังหวัดชัยภูมิ จดมาตราฐาน GMP และ อ.ย. เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถจำหน่ายได้ในห้างสรรพสินค้า รวมถึงในตลาดสากล เป็นการยกระดับเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเรื่องนี้ผมมีความตั้งใจที่จะทำให้จังหวัดชัยภูมิก้าวออกไปสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดประเทศจีน ที่เป็นตลาดใหญ่ และความต้องการสูง “นายอัครแสนคีรี กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 04 พฤษภาคม 2567