โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”จุดพลังพปชร.รับสู้ศึกเลือกตั้ง ร่วมใจสมาชิกพรรคเป็นหนึ่งเดียวสู่เป้าหมายเพื่อปชช.

“พล.อ.ประวิตร”จุดพลังพปชร.รับสู้ศึกเลือกตั้ง
ร่วมใจสมาชิกพรรคเป็นหนึ่งเดียวสู่เป้าหมายเพื่อปชช.

11 พฤศจิกายน 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมาร่วมการสัมมนาของ พปชร. โดยมี ส.ส. และสมาชิกพรรค มารอต้อนรับจำนวนมาก โดยการจัดสัมมนาครั้งนี้ มี ส.ส.และผู้สมัคร แสดงเจตจำนงมาร่วม 400 คน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มาร่วมกันอย่างคึกคัก เพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างเคร่งครัด ซึ่งในกิจกรรมครั้งนี้ได้เชิญให้ กกต.มาให้ความรู้และความเข้าใจในการปฏิบัติตัวระหว่างการลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชน

การสัมมนาครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงเป็นการหนึ่งเดียวของพรรค เห็นได้จากสมาชิกพรรคที่เข้ามาร่วม ประชุมจำนวนมาก ซึ่งตนเชื่อมั่นใน ส.ส.ทุกคนมาโดยตลอด ส่วนการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ พปชร. ขึ้นอยู่ในที่ประชุมของกรรมการบริหารพรรคว่าจะเป็นผู้เลือกใคร

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำถึง ความสามัคคี ของทุกคนซึ่งทำให้พรรคมีความเข้มแข็งต่อไปในอนาคต การที่พรรคจะเข้มแข็งเพราะเราทุกคนช่วยกัน ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งจะนำพาพรรคไปได้คนเดียวเป็นไปไม่ได้ ทุกคนต้องร่วมมือกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ข้ามความขัดแย้งทั้งหมด และขอต้อนรับสมาชิกพรรคที่อยู่กับเราเพื่อจะรับการเลือกตั้งในต้นปีหน้า ที่ผ่านมาพรรคพปชร.ร่วมมือร่วมใจกันทำให้เป็นสถาบันการเมืองที่มั่งคง มั่งคั่ง สร้างประโยชน์ให้ประชาชน ตลอดเวลาที่ผ่านมา พรรคพปชร.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และตลอดเวลา3 ปีที่ผ่านมาผ่านวิกฤตและอุปสรรคไปได้ด้วยดี ด้วยความสามารถของรัฐมนตรี และพรรคการเมืองทั้ง3-4 พรรคที่ช่วยจัดตั้งรัฐบาล ก็ผ่านไปได้ และจะสร้างพรรคพปชร.ให้แข็งแรงยิ่งขึ้นต่อไป

“ตนได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค และตระหนักอยู่เสมอว่าเมื่อส.ส.วางใจ ตนก็วางใจส.ส.ว่าจะไปด้วยกันด้วยความเป็นหนึ่งเดียวของพรรค จึงตั้งใจมุ่งมั่นทำงานเสริมสร้างความเข้มแข็งให้พรรคเต็มที่เท่าที่ทำได้ ย้ำว่าทุกคนต้องร่วมมือกัน เพราะพรรคไม่ได้อยู่คนเดียวโดดเดี่ยว แตาเราร่วมกันและข้ามความขัดแย้งทั้งหมด”

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราวางโครงสร้างการทำงานพรรคออกเป็น4 ภาค มีหัวหน้าภาคและเลขาฯภาค ให้เลือกกันเองตามหลักประชาธิปไตย และนำเสนอไอเดียที่เป็นประโยชน์และนำมาขับเคลื่อนเป็นนโยบายพรรค ตนเป็นรองนายกฯและหัวหน้าพรรค ได้ร่วมกับรัฐบาลดำเนินการตามนโยบายให้ประชาชนในหลายเรื่อง บริหารจัดการน้ำ ทำให้น้ำไม่ท่วมกทม.เหมือนปี 2554 แต่ที่ท่วมเพราะน้ำมากกว่าปี 54 เพราะน้ำมาก ที่ผ่านมาเราเป็นพรรคที่ทำงานให้ประชาชนโดยตรงเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ทั้งส่วนระบบคมนาคม โครงสร้างพื้นฐาน ถนน รถไฟฟ้า และท่าเรือ เป็นต้น ให้เป็นประโยชน์กับประชาชน

สำหรับคนที่ผ่านการกลั่นกรองการคัดเลือก เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ต้องภูมิใจที่มีคุณสมบัติของพรรค ได้รับเลือก ขอให้ขยันลงพื้นที่ ดูแลประชาชนอย่างจริงจังและใกล้ชิดให้มากที่สุด ส่วนส.ส.เก่า จะได้สิทธิลงสมัครได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกรรมการสรรหา เพราถือว่าผ่านการทำงานให้พรรคมาตลอด4 ปี ย่อมรู้ว่าพรรคดำเนินการอย่างไร ให้ประโยชน์และเสียประโยชน์อย่างไร ขอให้ทุกคนลงพื้นที่ตั้งแต่ตอนนี้ ให้ทุกคนทุ่มเทเสียสละเสียสลทำการเมืองเพื่อประโยชน์อย่างแท้จริง ทำเพื่อประเทศชาติเราให้พัฒนา เจริญรุ่งเรืองต่อไป
โดยย้ำจุดยืนว่า เราจะต้องทำให้ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของส.ส.ทุกคนอยู่ดีกินดี ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในพรรคพปชร.และเชื่อมั่นในส.ส. และอย่าชักช้าให้ลงพื้นที่ เพราะถึงอย่างไรก็เลือกตั้งแน่นอน ไม่มีทางเป็นได้ที่จะเป็นอย่างอื่น เราเชื่อมั่น และมั่นใจส.ส.และเชื่อมั่นในพรรค เราพร้อมสนับสนุนพื้นที่และหาเสียง เราพร้อมใจกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ขอให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจด้วยความรักความสามัคคี ช่วยเกลือเกื้อกูลนำพาพรรคให้ก้าวเดินอย่างมั่นคงต่อไป เพื่อความสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ขออวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการหาเสียงและรับเลือกตั้งทุกคน และหวังว่าทุกคนจะต้องได้เป็นส.ส.ทุกคน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 11 พฤศจิกายน 2565