โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: พรรคพลังประชารัฐ

“สส.วรโชติ” ขอ กระทรวงศึกษาฯเร่งจัดสรรงบ แก้ปัญหาน้ำท่วมโรงเรียนอนุบาลวังโป่ง ชี้ ผ่านมาอีกปีก็ยังไม่ได้รับ พร้อมขอบคุณ กระทรวงเกษตรฯที่ดูแลแหล่งน้ำ และฝนหลวงให้ชาวเพชรบูรณ์

,

“สส.วรโชติ” ขอ กระทรวงศึกษาฯเร่งจัดสรรงบ แก้ปัญหาน้ำท่วมโรงเรียนอนุบาลวังโป่ง ชี้ ผ่านมาอีกปีก็ยังไม่ได้รับ พร้อมขอบคุณ กระทรวงเกษตรฯที่ดูแลแหล่งน้ำ และฝนหลวงให้ชาวเพชรบูรณ์

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนต้องขอขอบพระคุณรัฐบาล ท่านนายกเศรษฐา ทวีสิน พร้อมทั้งคณะรัฐมนตรีทุกท่าน โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีช่วยนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ที่ได้ดูแลเรื่องแหล่งน้ำ และฝนหลวง ซึ่งที่ผ่านมามีภาวะแล้งในจังหวัดเพชรบูรณ์ สส.เพชรบูรณ์ทุกท่านก็ได้ขอความอนุเคราะห์จากท่านรัฐมนตรีทั้ง 2 ท่าน ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี รวมถึงกระทรวงคมนาคม โดยท่านรัฐมนตรีสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจและรัฐมนตรีมนพร เจริญศรี ที่มา
ดูแลในเรื่องถนนหนทาง ไฟฟ้าแสงสว่าง ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์

นายวรโชติ กล่าวต่อว่า ตนอยากฝากไปยังกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากในเขตพื้นที่ของตน มีโรงเรียนอนุบาลวังโป่ง ในพื้นที่อำเภอวังโป่ง เป็นอนุบาลประจำอำเภอวังโป่ง ซึ่งถูกน้ำท่วมทุกปี แล้วเราก็ของบประมาณมาทุกปี เข้าหลักเกณฑ์ทุกอย่าง เมื่อครั้งก่อนได้มีการพูดคุยกับตัวแทนของทางกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งบอกว่า จะทำให้ แต่ปีนี้ก็ไม่มีอีก

“ผมไม่ทราบว่า เกิดปัญหาอะไร เพราะว่าเด็กลำบาก เยาวชนของชาติลำบาก จึงขอถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลปัญหาความเดือดร้อนของโรงเรียนอนุบาลวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอวังโป่ง ให้ช่วยเร่งรัดจัดการด้วย” นายวรโชติ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 กรกฎาคม 2567

“สันติ” รมช.สธ.ลงพื้นที่ตรวจงานอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา

,

“สันติ” รมช.สธ.ลงพื้นที่ตรวจงานอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา
รองรับการให้บริการด้านสุขภาพให้ประชาชน เข้าถึงเครื่องมือการแพทย์ที่ทันสมัยครบวงจร

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) กับนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการจัดสร้างอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น

ทั้งนี้แผนพัฒนาอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น ประกอบด้วย Trauma& Emergency center , ICU และศูนย์เปลี่ยนถ่ายอวัยวะ , แผนกผ่าตัด ศูนย์ส่องกล้อง ODS, MIS และศูนย์สุขภาพครบวงจร (CHECK UP CENTER) ดำเนินการภายใต้งบประมาณการก่อสร้างรวมคุรุภัณฑ์ จำนวนเงิน 4,427 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างอาคารพักแพทย์และพยาบาล 18 ชั้น จำนวน 352 ห้อง วงเงิน 437 ล้านบาท รวมวงเงินการดำเนินการโครงการ ทั้งสิ้น จำนวน 4,864 ล้านบาท

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 กรกฎาคม 2567

“พล.อ.ประวิตร”พบปะสส.พปชร.ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันคับคั่ง ย้ำทำภารกิจกมธ.งบ 68 จัดทำทุกโครงการต้องคุ้มค่าภาษีปชช.

,

“พล.อ.ประวิตร”พบปะสส.พปชร.ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันคับคั่ง ย้ำทำภารกิจกมธ.งบ 68 จัดทำทุกโครงการต้องคุ้มค่าภาษีปชช.

วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 11.30 น. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญ อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค, นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) นายธีรชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานด้านวิชาการพรรค นายอุตตม สาวนายน ประธานกรรมการด้านนโยบายและการปฏิรูปเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน พล.อ. กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนและเหรัญญิกพรรค และสมาชิกพรรค ได้นัดพบปะอย่างไม่เป็นทางการ พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งยังเต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคัก หนาแน่นของจำนวนสส.และสมาชิกที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าวันนี้จะมีสส. และรัฐมนตรีของพรรคติดภารกิจการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร รวมถึงบางส่วนติดภารกิจของกรรมาธิการดูงานในพื้นที่ต่างๆ

โดยการพบปะครั้งนี้ พล.อ. ประวิตร ได้เน้นย้ำให้ สส.ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนของพรรคร่วมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างงบประมาณ ปี 2568 ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยให้นำข้อมูลปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ จากการไปรวบรวมของสส. และสมาชิกพรรค มาสู่​แนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งทางด้าน น้ำ เกษตรกรรม ที่ทำกิน และการดูแลสิ่งแวดล้อม สู่การผลักดัน และการจัดสรรงบประมาณเพื่อทำโครงการที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง และที่สำคัญให้ยืนหยัดทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในการพิจารณางบประมาณอย่างรอบคอบ คำนึงถึงเงินภาษีของประชาชน ให้คุ้มค่าทุกบาทมีความโปร่งใส เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสู่ประชาชนโดยตรงอย่างทั่วถึง นำไปสู่การพัฒนาความเจริญให้กับประเทศ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับพี่น้องประชาชน

สำหรับสส. ที่ทำหน้าที่กรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2568 ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 5 คน คือ นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา เขต 2 , น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ สส.เพชรบูรณ์ เขต 1 , นายวิริยะ ทองผา สส.มุกดาหาร เขต 1 , นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 และ นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 และในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรค และนายไผ่ ลิกค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จ.กำแพงเพชร

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังฝากให้ สส.ที่ประจำอยู่ตามคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎรที่ ที่ได้ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ขอให้เก็บเกี่ยวความรู้ และวิธีการบริหารจัดการเพื่อการแก้ไขปัญหา นำมาปรับใช้และต่อยอด ให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศ ในการดูแลพี่น้องประชาชน เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม และสร้างประโยชน์ให้ตกถึงมือพี่น้องประชาชนต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 กรกฎาคม 2567

“สันติ” รมช.สธ. ยกต้นแบบ รพ.อัจฉริยะ รพ.ปากช่องนานา-เทพรัตน์ จ.นครราชสีมา

,

“สันติ” รมช.สธ. ยกต้นแบบ รพ.อัจฉริยะ รพ.ปากช่องนานา-เทพรัตน์ จ.นครราชสีมา

ดึงเอกชนร่วมพัฒนาเขาใหญ่สู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสร้างรายได้ประชาชนยั่งยืน

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจราชการก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์)เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการพัฒนาและยกระดับระบบสาธารณสุขในเขตสุขภาพที่ 9 “นครชัยบุรินทร์” ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่สะดวก สบายมากยิ่งขึ้น โดยได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโรงพยาบาลอัจฉริยะของโรงพยาบาลปากช่องนานา จ.นครราชสีมา ได้แก่ ระบบคิว ระบบการให้บริการผู้ป่วยนอกในรูปแบบโรงพยาบาลอัจฉริยะ การให้บริการ Telemedicine ณ จุดบริการผู้ป่วยนอก อาคารผู้ป่วยนอก พร้อมมอบของที่ระลึกให้กับผู้รับบริการที่รถนั่ง

ทั้งนี้โรงพยาบาลปากช่องนานา เป็นโรงพยาบาลทั่วไป ระดับ A+ มีจำนวนเตียง ทั้งสิ้น จำนวน 303 เตียง มีบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 87 คน พยาบาลวิชาชีพ จำนวน 253 คน ได้ดำเนินการตามนโยบายและพัฒนา ให้เป็นโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ ด้านการแพทย์และการสาธารณสุขชั้นเลิศในเขตการท่องเที่ยว โดยการยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพ เน้นเสริมสร้างระบบนิเวศเพื่อส่งเสริม นโยบายอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสุขภาพ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 นโยบายที่กระทรวงสาธารณสุข ในการเร่งรัดพัฒนาให้เห็นผลโดยมีการให้บริการ ด้านการแพทย์ครอบคลุมการรักษาพยาบาลแบบบูรนาการครอบคลุมทุกมิติ เพื่อลดการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่น ๆ นอกเขตสุขภาพ มีแพทย์เฉพาะทางสาขาหลัก โดยเฉพาะอายุรแพทย์โรคหัวใจ ประสาทวิทยา เวชศาสตร์การกีฬาและกระดูกสันหลัง และโรคหลอดเลือดสมอง ได้วางแผนเป็นโรงพยาบาลรับส่งต่อผู้ป่วยเพื่อใส่สายสวนหลอดเลือดสมอง (Thrombectomy) และเตรียมเปิดห้องปฏิบัติการตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ (Cath Lab) นอกจากนี้ยังเปิดคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก ช่วยค้นหาเด็กพัฒนาการช้าเข้าระบบเพิ่มขึ้นถึง 33% ลดระยะเวลารอคอยในโรงพยาบาลจาก 6 เดือน เหลือ 1 เดือน ขณะที่ด้านอุบัติเหตุสามารถให้บริการประชาชนใน อ.ปากช่อง และพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนนักท่องเที่ยว โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัล ภายใต้นโยบายโรงพยาบาลอัจฉริยะมาประยุกต์ใช้ในการให้บริการด้วยการยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว การลงทะเบียนยืนยันตัวตน การนัดหมายออนไลน์ บริการรับ-ส่งยาทางไปรษณีย์/Health Rider ระบบบริการการแพทย์ทางไกล เพื่อประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่ มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน

นายสันติ กล่าวว่า ได้เห็นถึงความทันสมัย ที่ครอบคลุมในการดูแลรักษาต่างๆ โดยเฉพาะการส่งยากลับไปให้พี่น้องประชาชนที่มาหาหมอ และการใช้ระบบเทเลเมดิซีน หรือ แพทย์ทางไกล ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) วิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน ที่ประจำ รพ.สต.เพื่อช่วยแพทย์ดูแลประชาชนเบื้องต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชน ในการเดินทางมาพบแพทย์ ที่สำคัญที่สุดระบบเทคโนโลยีต่างๆ จะช่วยประหยัดบุคลากรทางการแพทย์ในอีกระดับหนึ่ง จากการที่ตนได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหลายโรงพยาบาลพบว่า โรงพยาบาลหลายแห่งมีการขาดแคลนแพทย์ค่อนข้างมาก แต่โรงพยาบาลปากช่องนานา ได้นำเทคโลโนยีมาใช้ควบคู่กับการทำงานจนสามารถพัฒนารองรับการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ได้ อย่างไรก็ตามตนได้ให้มหาวิทยาลัย และแพทยสภาเร่งรัดผลิตบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาให้เพียงพอ เพื่อป้อน รพ.สต.ที่ขาดแคลน ดังนั้นโรงพยาบาลปากช่องนานา สามารถที่จะเป็นต้นแบบของโรงพยาบาลหลายๆแห่งได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหรรษาไทยเวลเนส คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ สาขาเขาใหญ่ อ.ปากช่อง เปิดให้บริการและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพโดยแพทย์แผนไทยประยุกต์ในโรคทั่วไป โรคกล้ามเนื้อกระดูกและข้อ สุขภาพทางเพศชายและหญิง การใช้ยาสมุนไพร และคุณแม่หลังคลอด การรักษาออฟฟิศซินโดรม การนวดรักษาอาการปวด จาก Office syndrome เฉพาะรายที่มีปัญหาแตกต่างกันออกไป ใช้การประคบสมุนไพร ในการเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและลดการอักเสบ และอบสมุนไพรเพื่อคลายกล้ามเนื้อช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย การรักษาโรคนอนไม่หลับ การนวดรักษาที่ใช้น้ำมันกัญชาในการนวดรักษาเพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและช่วยให้สามารถเข้านอนได้ง่ายมากขึ้นพร้อมกับการประคบและอบสมุนไพรเพื่อคลายกล้ามเนื้อและช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

นายสันติ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพโดยส่งเสริมให้สถานประกอบกานด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่จะมีส่วนสำคัญในการสร้างโอกาสการแข่งขันและฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ด้วยการยกระดับสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพตามเกณฑ์มาตรฐานศูนย์เวลเนส (Wellness Center) โดยภูมิประเทศของเขาใหญ่เป็นพื้นที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สมบูรณ์อันดับต้นๆของประเทศ มีโอโซนที่บริสุทธิ์ และยังเป็นพื้นที่เศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง ที่ผ่านมามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่ง มีสาธารณูปโภคที่พร้อม และการคมนาคมที่สะดวกหากได้มาเยือนแล้วก็ต้องกลับมาเรียนอีก จึงอยากให้ผู้ประกอบการของหรรษาไทยเวลเนส ตลอดจนผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร และสถานบันเทิงของเขาใหญ่และปากช่อง ร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ wellness อย่างแท้จริง โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงสาธารณสุข เข้ามาสนับสนุนเพื่อให้คนไทยเข้ามาใช้บริการ หากมีการพัฒนาได้เชื่อว่าเขาใหญ่จะมีศักยภาพการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในประเทศได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สร้างเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศได้อีกระดับหนึ่ง

ในช่วงบ่ายรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา มีการให้บริการที่สำคัญ ได้แก่ ผ่าตัดไส้ติ่ง ผ่าตัดต้อกระจก ผ่าตัดข้อเข่าเทียม การผ่าตัดแผลเล็ก และการผ่าตัดวันเดียวกลับ โรคหลอดเลือดสมองทั้งตีบและแตกเฉียบพลันแบบครบวงจร เป็นแม่ข่ายรับส่งต่อผู้ป่วยจาก อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.ด่านขุนทด อ.เทพารักษ์ และ อ.เมืองและ มี stroke unit มาตรฐาน ขยายบริการจาก 8 เตียง เป็น 16 เตียง นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการระบบโรงพยาบาลอัจฉริยะยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว นัดหมายออนไลน์ ใช้นัดหมายออนไลน์ผ่านโปรแกรม หมอพร้อม โดยมีการนัดหมายผ่านคลินิกทันตกรรมและคลินิกแพทย์แผนไทย ใบรับรองแพทย์ดิจิตอล สามารถดูใบรับรองแพทย์ออนไลน์ผ่านโปรแกรม หมอพร้อม บริการรับ-ส่งยาทางไปรษณีย์/Health Rider มีการให้บริการรับ-ส่งยา ผ่าน Rider และ Flash Exprees ระบบบริการการแพทย์ทางไกล คลินิกจิตเวช ใช้ระบบบริการแพทย์ ทางไกลผ่านโปรแกรม LINE บนเครื่องคอมพิวเตอร์

นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการคลินิกส่งเสริมการมีบุตรคลินิกมีบุตรยาก มีผู้เข้ารับบริการคลินิกส่งเสริมการมีบุตร จำนวน 24 คน ประกอบด้วยผู้เข้ารับบริการโดยวิธีการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง (Intra – Uterine Insemination : บI) จำนวน 9 ราย ซึ่งตั้งครรภ์ 1 ราย (มีการฝากครรภ์ และมีอายุครรภ์ 29 สัปดาห์/อยู่ในกระบวนการ 4 ราย/ส่งต่อ 4 ราย ผู้รับบริการผ่าตัดทางนรีเวช 15 ราย

หรรษาเวลเนส

รพ.เทพรัตน์

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 กรกฎาคม 2567

“สส.อนุรัตน์” ร่วมคณะ กมธ.คมนาคมฯ ลุยญี่ปุ่น ศึกษาระบบขนส่งทางบก หวัง นำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาปรับใช้พัฒนาประเทศไทย

,

“สส.อนุรัตน์” ร่วมคณะ กมธ.คมนาคมฯ ลุยญี่ปุ่น ศึกษาระบบขนส่งทางบก หวัง นำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาปรับใช้พัฒนาประเทศไทย

นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อศึกษาดูงานเทคโนโลยีรถไฟฟ้าความเร็วสูง ท่าเรือน้ำลึก และการคมนาคมขนส่งทางบกของประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นประเทศที่มีระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพมาก และให้บริการทั่วถึงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีตารางเวลาที่หนาแน่นและตรงเวลา ทั้งยังสะอาด ปลอดภัยและสะดวกสบาย โดยเฉพาะการเดินทางโดยรถไฟ จึงเป็นที่นิยมมากที่สุด

“เครือข่ายการคมนาคมในประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีมาก ๆ เนื่องจากมีระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะระบบการรถไฟที่ครอบคลุมเกือบทุกจุดหมายปลายทางทั้งหมดในประเทศ นอกจากนี้ยังมีทางหลวงและบริการการบินภายในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างดี พร้อมทั้งยังมีรถบัสหรือรถแท็กซี่เป็นบริการเสริมการเดินทางภายในและรอบเมืองต่างๆ ขณะที่เรือเฟอรี่ก็มีบริการเชื่อมระหว่างเมืองท่ากับเมืองท่าบนเกาะหลายเส้นทาง”

นายอนุรัตน์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมาธิการยังได้ไปดูการจัดการบริหารการท่าเรือโยโกฮาม่า ซึ่งเป็นเมืองท่าเรือแห่งแรก ที่เปิดตัวเองสู่โลกในฐานะทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น และนับตั้งแต่การเปิดท่าเรือโยโกฮาม่า เมืองแห่งนี้ก็ได้รับวัฒนธรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยได้ใช้ประโยชน์จากท่าเรือโยโกฮาม่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนท่าเรือแห่งนี้นับเป็นท่าเรือการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญแห่งหนึ่งในโลก

“การมาดูงานในครั้งนี้ทางคณะกรรมาธิการได้ความรู้ที่มีค่าอย่างมากต่อการนำมาพัฒนาระบบคมนาคมในประเทศไทย โดยเราจะนำความรู้ และแนวทางที่ได้รับมาปรับใช้เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศแลเความสะดวกสบายของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ผมขอขอบคุณคณะกรรมาธิการ ที่ปรึกษาและข้าราชการทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กรกฎาคม 2567

“พปชร.” จัดประชุมสาขาพรรค จ.เชียงใหม่ ประกาศ “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ นำ” ปชช.เป็นศูนย์กลางวางนโยบาย สร้างพลัง ต่อยอดในการสร้างชาติ

,

“พปชร.” จัดประชุมสาขาพรรค จ.เชียงใหม่ ประกาศ “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ นำ” ปชช.เป็นศูนย์กลางวางนโยบาย สร้างพลัง ต่อยอดในการสร้างชาติ

พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)นำโดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มอบหมายให้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ และ หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี รองประธานด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเสวนาเรื่อง”ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส”ในการประชุมใหญ่ สาขาพรรคภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องประชุมโรงแรมราชพฤกษ์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

โดย นายธีระชัย ได้กล่าวกับสมาชิกพรรคในช่วงหนึ่งว่า พรรคพลังประชารัฐขอเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมทันสมัยด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่ในการปกป้องสถาบันและบริหารเศรษฐกิจทันสมัย เพื่อชีวิตที่สดใสให้กับคนไทยทั้งประเทศ พรรคการเมืองทุกพรรคมักจะเสนอนโยบายที่ต้องการให้ประเทศก้าวหน้า แต่วิธีการของแต่ละพรรคก็จะแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับพรรคพลังประชารัฐเราเชื่อว่า ประเทศจะก้าวหน้าได้ก็เพราะประชาชน ถ้าประเทศก้าวหน้าแต่ประชาชนไม่มีศักยภาพ ไม่มีความรู้ ไม่สามารถทำงานได้เต็มกำลัง มีสุขภาพที่ไม่ดี และเครื่องมือในการทำงานก็ไม่ครบถ้วน ไม่ทันสมัย จะหวังให้ประเทศก้าวหน้าคงเป็นไปไม่ได้

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะนำประชาชนเป็นศูนย์กลางในการวางนโยบาย พรรคสร้างพลังให้ประชาชน เพราะประชาชนมีหน้าที่ในการสร้างชาติ จึงเป็นที่มาของชื่อพรรคพลังประชารัฐ ฟังมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะมองว่า อนุรักษ์กับทันสมัยมันไปด้วยกันไม่ได้ หลักคิดของของอนุรักษ์นิยมคือการ เอาสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เอาไปต่อยอด เอาสิ่งที่ดีเป็นฐานในการพัฒนาและเอื้ออำนวยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ให้ประชาชนเป็นโอกาสในการที่จะก้าวหน้าในตัวเอง เพื่อที่จะปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ประชาชนจะสามารถทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและคนรอบข้าง

“อนุรักษ์นิยมทันสมัย สามารถแยกออกมาได้”5 อนุรักษ์ 5 ทันสมัย ได้แก่ อนุรักษ์สถาบัน,อนุรักษ์ผลประโยชน์ของชาติ,อนุรักษ์ทรัพยากรของชาติ,อนุรักษ์วัฒนธรรม และอนุรักษ์ระเบียบทางสังคม ในส่วนของ 5 ทันสมัย ได้แก่ เศรษฐกิจทันสมัย,วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทันสมัย,สิ่งแวดล้อมทันสมัย,สังคมทันสมัย และภาครัฐทันสมัย” นายธีระชัย กล่าว

ด้านหม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ กล่าวว่า คำขวัญของพรรคพลังประชารัฐ “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ”ถามว่า มันจะมาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไรนั้น ตนมองว่า การปกป้องสถาบันที่ดีที่สุดก็คือ การทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี สิ่งที่สำคัญก็คือ ศักยภาพของประเทศไทย แม่หลายคนอาจจะมองว่าประเทศเราสู้กับประเทศอื่นไม่ได้แต่จากการที่ตนใช้ชีวิตอยู่ทั้งอเมริกาและอังกฤษกว่า 10 ปี ตนยืนยันว่า แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินที่ดีที่สุด ประเทศของเราเพียงแค่โยนเมล็ดผลไม้ลงไปในดินก็เติบโตเป็นต้น ออกดอก ออกผล แต่อย่างเมืองแคลิฟอร์เนียพื้นดินเป็นกึ่งทะเลทราย โยนอะไรไปก็ไม่ขึ้น วันนี้เราอยู่กับสิ่งที่ดีที่สุด แต่เรามองไม่เห็น ถ้าจะพูดว่าเราดีที่สุดในอาเซียนก็คงไม่แปลก และจากนโยบายของพรรคพลังประชารัฐวันนี้สินค้าทางการเกษตรของเราถูกส่งออกไปขายที่ประเทศจีนจำนวนมาก

“อย่างเมล็ดกาแฟในภาคเหนือก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากคนดื่มกันทั่วโลก ความต้องการจากชาวจีนและยุโรปมีจำนวนมาก แต่เราจะยกระดับกาแฟเราให้เป็นกาแฟระดับโลกได้อย่างไร ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ รวมไปถึงที่ดินในการเพาะปลูก ผมมองว่าประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เราควรนำมาคุยกันเพราะจะสามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่เราต้องรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมไปถึงเรื่องการโปรโมทสินค้าให้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกได้ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่พรรคพลังประชารัฐของเราจะพยายามผลักดันต่อไป”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กรกฎาคม 2567

“สส.คอซีย์” ร่วมอนุรักษ์ผ้าถิ่นใต้กระตุ้นประชาชนร่วมใช้ผ้าไทย เพิ่มมูลค่าต่อยอดซอฟเพาเวอร์ใต้สร้างรายได้มั่นคงอาชีพทอผ้า

,

“สส.คอซีย์” ร่วมอนุรักษ์ผ้าถิ่นใต้กระตุ้นประชาชนร่วมใช้ผ้าไทย เพิ่มมูลค่าต่อยอดซอฟเพาเวอร์ใต้สร้างรายได้มั่นคงอาชีพทอผ้า

นายคอซีย์ มามุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.ปัตตานี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นางฟาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดปัตตานี และนางรอมือละ มามุ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาประดู่ ได้รับเกียรติร่วมกิจกรรมเดินแบบผ้าไทยและผ้าพื้นถิ่นการกุศล ในงานมหกรรมวงแหวนพหุวัฒนธรรมชายแดนใต้ และงานแสดงสินค้า ศิลปวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี ประจำปี 2567 ณ สวนเจ้าทะเล ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี เพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์ศิลปผ้าถิ่น ดำรงไว้ในแผ่นดินไทย ที่สามารถสร้างสรรค์ตัดเย็บและใส่ในชีวิตประจำวันหลากหลาย“สไตล์ ในงานมหกรรมวงแหวนพหุวัฒนธรรมชายแดนใต้ และงานแสดงสินค้า ศิลปวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี ประจำปี 2567

“การร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ มีเป้าหมายการส่งเสริมการใช้ผ้าไทยและผ้าท้องถิ่นให้สามารถเข้าถึงประชาชนในวงกว้างมากขึ้นและยังเป็นการส่งเสริม ซอฟเพาว์เวอร์ไทยอีกทางหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพการทอผ้าของพี่น้องประชาชน ที่จะสามารถรังสรรค์ต่อยอดผลงานโดยอาศัยอัตลักษณ์ของลายผ้าให้สืบสานต่อไปได้ โดยเฉพาะผ้าถิ่นใต้ที่มีการผสมผสานทางวัฒนธรรมหลากหลายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์” นายคอซีย์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 มิถุนายน 2567

“สส.กาญจนา” รับหนังสือชาวบ้าน ต.ห้วยต้อน วอน จัดงบ 68 ให้โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำ และระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ แก้ปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่ยังไม่ทั่วถึง

,

“สส.กาญจนา” รับหนังสือชาวบ้าน ต.ห้วยต้อน วอน จัดงบ 68 ให้โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำ และระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ แก้ปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่ยังไม่ทั่วถึง

น.ส.กาญจนา จังหวะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)พรรคพลังประชารัฐ พปชร. เขต4 จ.ชัยภมิ กล่าวว่า ได้รับหนังสือจากตัวแทนผู้นำท้องถิ่น ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยต้อน ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน และ คณะกรรมการน้ำประปาบ้านชีลองกลาง หมู่ 7 ต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ขอให้ผลักดันโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำ บรรจุในปีงบประมาณประจำปี 2568 เพราะจะเป็นการเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำ และการจัดหาแหล่งน้ำบาดาลและการกระจ่ายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ให้ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ รวมทั้งในช่วงหน้าฝน ก็จะยังสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในระยะยาวช่วงหน้าแล้ง และเป็นการบริหารจัดการน้ำ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องชาวชัยภูมิ

น.ส.กาญจนา กล่าวต่อว่า โครงการระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เข้าพื้นที่การเกษตรและประปาหมู่บ้าน เป็นอีกโครงการหนึ่งที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่มีความต้องการ โดยจะสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้มาก ทั้งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและเสริมการเกษตร ตลอดจนการช่วยระบบนิเวศน์ในพื้นที่ได้ดีมากขึ้นด้วย เพราะปัจจุบันการใช้น้ำด้านอุปโภคบริโภคก็ยังไม่ทั่วถึง

“ดิฉันจึงได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และความต้องการของเกษตรกรและประชาชนให้มีน้ำประปาหมู่บ้านในพื้นที่ใช้ได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ เพื่อนำข้อมูลมารวบรวมและนำเสนอต่อ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงผู้บริหารพรรค พปชร.เพื่อเร่งผลักดันความต้องการประชาชน” น.ส.กาญจนา กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 มิถุนายน 2567

“รมว.ธรรมนัส” มอบหมาย “รมช.อรรถกร” เร่งกรมพัฒนาที่ดินตรวจวิเคราะห์คุณภาพดินรับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง หนุนชาวนาเข้าถึงข้อมูลวางแผนเพาะปลูกแม่นยำเพิ่มรายได้-ลดต้นทุนตามนโยบายรัฐ

,

“รมว.ธรรมนัส” มอบหมาย “รมช.อรรถกร” เร่งกรมพัฒนาที่ดินตรวจวิเคราะห์คุณภาพดินรับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง
หนุนชาวนาเข้าถึงข้อมูลวางแผนเพาะปลูกแม่นยำเพิ่มรายได้-ลดต้นทุนตามนโยบายรัฐ

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้จัดประชุม vdo conference ร่วมกับ จนท กรมพัฒนาที่ดินทั่วประเทศให้เตรียมตัวสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ทั่วประเทศ เพื่อลดต้นทุนการผลิต และสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้สูงขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการใช้ปุ๋ยของเกษตรกรให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม ในโครงการสนับสนุนเกษตรกรใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน โดยได้เร่งรัดให้กรมพัฒนาที่ดิน จัดเก็บผลวิเคราะห์ดินทั่วประเทศ ใช้กลไกของอาสาหมอดินที่มีอยู่ใน 77 จังหวัด ทำการรวบรวมฐานข้อมูลคุณภาพดินในการเพาะปลูกของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั้งหมด ที่จะนำไปสู่การวางแผนการเพาะปลูกที่เหมาะสม กับชนิดปุ๋ยในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้สามารถวางแผนต้นทุนการเพาะปลูกข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนมาตรการ”ปุ๋ยคนละครึ่ง” ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อเร็วๆนี้

“การจัดทำฐานข้อมูลคุณภาพดินทั่วประเทศเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อให้ใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมกับคุณภาพดินในแต่ละพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาพบว่าการใช้ปุ๋ยเกินความจำเป็น สร้างภาระต้นทุนให้กับพี่น้องเกตรกรมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะขณะนี้ราคาปุ๋ยที่ปรับตัวสูงขึ้น หากยิ่งใช้เกินความจำเป็นทำให้เกษตรกรขาดทุนในการเพาะปลูก ดังนั้นโครงการดังกล่าว ถือเป็นภาระกิจหลักตามนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกะทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีแผนการพัฒนาภาคเกษตร มีการวางแผนการเพาะปลูกแบบแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่า ภายในระยะเวลา 4 ปี เป็นแนวทางของการสร้างความมั่นคงในอาชีพ ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 มิถุนายน 2567

“พปชร.”บุกร้อยเอ็ด เปิดเวที“ประชารัฐร่วมใจ เพื่อสร้างชีวิตที่สดใสให้คนไทยทั้งประเทศ”ย้ำ แนวทาง “อนุรักษนิยมทันสมัย”ชู ปกป้องสถาบัน-บริหารเศรษฐกิจทันสมัย

,

“พปชร.”บุกร้อยเอ็ด เปิดเวที“ประชารัฐร่วมใจ เพื่อสร้างชีวิตที่สดใสให้คนไทยทั้งประเทศ”ย้ำ แนวทาง “อนุรักษนิยมทันสมัย”ชู ปกป้องสถาบัน-บริหารเศรษฐกิจทันสมัย

พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)นำโดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มอบหมายให้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ,นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาฯ และ นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมประชุมใหญ่ สาขาพรรค ภาคอีสาน จังหวัดร้อยเอ็ด
ได้เปิดเวทีประชารัฐร่วมใจเพื่อสร้างชีวิตที่สดใสให้คนไทยทั้งประเทศ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของประชาชน ภายใต้สโลแกน “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส”ณ ห้องประชุมโรงเรียนโพนทองพัฒนาวิทยา อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด

โดย นายธีระชัย ได้กล่าวกับสมาชิกพรรคในช่วงหนึ่งว่า ทิศทางในการดำเนินการของพรรค พปชร. ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่หัวหน้าพรรค พล.อ.ประวิตร ได้เตรียมที่จะนำเสนอต่อประชาชน ที่เราเรียกว่า “อนุรักษ์นิยมทันสมัย“ ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่ในการปกป้องสถาบันและบริหารเศรษฐกิจทันสมัย เพื่อชีวิตที่สดใสให้กับคนไทยทั้งประเทศ

“การนำเสนอในเรื่องของอนุรักษ์นิยมทันสมัยของ พปชร.คือ การอนุรักษ์นิยมที่พัฒนาให้ดีกว่าอนุรักษ์นิยมดั้งเดิม ลักษณะอนุรักษ์นิยมทันสมัยไม่ได้เน้นให้ได้รับสิทธิเท่าเทียมภายในวันนี้ ไม่ใช่สังคมที่ต้องเท่าเทียมทันที แต่เราจะต้องเริ่มต้น โดยสังคมที่ให้โอกาสที่เท่าเทียม และความเท่าเทียมในโอกาสที่จะก้าวหน้า รวมถึงความเท่าเทียมในโอกาสที่จะปรับตัว ทำให้ทุกๆคนทันสมัยมากเป็นนโยบายที่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เราจะปรับตัวให้ทุกคนมีศักยภาพในการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รักษาสุขภาพตัวเองได้แข็งแรงขึ้น ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้มากขึ้น ทั้งหมดนี้คือการปูพื้นเพื่อสร้างโอกาสให้มากขึ้น“

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองเดียวที่จะทำได้ โดยเราเข้าใจในความจริงแห่งโลก เราจะสร้างการยอมรับ จุดอ่อน จุดแข็งของสังคม และระบบราชการแล้วก็นำมาใช้ด้วยบุคลากรที่มีประสบการณ์ เคยผ่านงานมาแล้วและคิดได้ ทำเป็น สิ่งนี้คือลักษณะของนโยบายอนุรักษ์นิยมทันสมัย

นายธีระชัย ยังกล่าวต่อว่า พันธกิจของพรรคพลังประชารัฐ คือการเป็นศูนย์รวมผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์และทันสมัย ทุกรุ่นทุกวัยด้วย “5 อนุรักษ์ 5 ทันสมัย ได้แก่ อนุรักษ์สถาบัน,อนุรักษ์ผลประโยชน์ของชาติ,อนุรักษ์ทรัพยากรของชาติ,อนุรักษ์วัฒนธรรม และอนุรักษ์ระเบียบทางสังคม ในส่วนของ 5 ทันสมัย ได้แก่ เศรษฐกิจทันสมัย,วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทันสมัย,สิ่งแวดล้อมทันสมัย,สังคมทันสมัย และภาครัฐทันสมัย

ด้านนางรัชนี กล่าวว่า ตนต้องขอขอบพระคุณกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐที่ได้ให้ความสำคัญกับจังหวัดร้อยเอ็ด ถึงแม้ว่า พปชร.จะไม่ได้เป็นพรรคหลักในการจัดตั้งรัฐบาล แต่การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลของ พปชร.ก็มีส่วนที่ผลักดันและนำนโยบายต่าง ๆ ที่ได้พูดไว้กับพี่น้องประชาชนมาสานต่อจนสำเร็จแล้วหลายเรื่อง ส่วนเรื่องที่ยังไม่สำเร็จท่านหัวหน้าพรรคก็ไม่ทิ้ง ท่านอยู่กับพวกเราเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนไปตลอด ทั้งนี้ พปชร.ก็จะมีนโยบายดี ๆ มาเสนอให้พี่น้องชาวอีสานต่อไปแน่นอน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 มิถุนายน 2567

พปชร.ยืนยัน ใช้งบประมาณปี 68 ที่มาจากภาษีของ ปชช.อย่างคุ้มค่า โปร่งใส เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ

,

พปชร.ยืนยัน ใช้งบประมาณปี 68 ที่มาจากภาษีของ ปชช.อย่างคุ้มค่า โปร่งใส เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ

วันนี้(22 มิ.ย.)นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 ในฐานะทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่ให้ความร่วมมือในการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 68 ที่ทำให้การดำเนินการเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ และต้องขอบคุณท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ทรงเกียรติทุกท่าน ที่ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะนำมาเป็นแนวทางพิจารณา โดยให้สอดคล้องกับงบประมาณ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชน ต่อไป

“ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐที่มีรัฐมนตรีดูแลอยู่ 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข จะนำงบประมาณที่ผ่านสภาฯ ไปใช้อย่างโปร่งใส เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสู่ประชาชนโดยตรงอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐทุกท่าน ก็ได้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลด้วยการลงพื้นที่รับฟังและติดตามปัญหาของประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะใช้งบประมาณไปแก้ปัญหาให้ตรงจุดมากที่สุด“นายอัคร กล่าว

นายอัคร กล่าวต่อว่า ในส่วนของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2568 ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐที่มีตัวแทนจำนวน 5 คน คือ นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา เขต 2 , น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ สส.เพชรบูรณ์ เขต 1 , นายวิริยะ ทองผา สส.มุกดาหาร เขต 1 , นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 และ นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 โดย พปชร.จะพิจารณาเงินภาษีของประชาชนอย่างรอบคอบ โดยเอาประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 มิถุนายน 2567

“สส.สุธรรม” ร่วมถกวงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เร่งแก้ปัญหา“น้ำ-ที่ดินทำกิน”ให้ ปชช.เผย ไม่เกิน ส.ค.นี้ เตรียมขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม

,

“สส.สุธรรม” ร่วมถกวงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เร่งแก้ปัญหา“น้ำ-ที่ดินทำกิน”ให้ ปชช.เผย ไม่เกิน ส.ค.นี้ เตรียมขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม

นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมประชุมกับกำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน-ผู้ช่วยฯ สารวัตรกำนัน แพทย์ตำบล ณ ศาลาประชาคม อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และได้บอกกล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมือง รวมถึงชี้แจงแนวทางการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวอำเภอทุ่งสง ได้รับทราบ โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้ง ทำให้แหล่งน้ำไม่เพียงพอ ถือเป็นความเดือนร้อนที่เกษตรกรต้องเผชิญมาต่อเนื่อง จึงต้องวางแผนในการรับมือกับสภาพอากาศในปีถัดไป เช่น สำรวจแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อรองรับปัญหาภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น

นายสุธรรม กล่าวต่อว่า อีกปัญหาหนึ่งที่จะต้องได้รับการแก้ไขก็คือ เรื่องสิทธิทำกินในเขตป่าสงวนฯหากเกประชาชนสามารถใช้พื้นที่มาทำการเกษตรได้ ก็จะสร้างรายได้ เพิ่มผลผลิต ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ทั้ง 2 ปัญหาที่กล่าวมานั้น ภายในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ จะมีการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขอย่างจริงจัง

“พรรคพลังประชารัฐที่นำโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ดูแลเกษตรกรโดยตรงมีนโยบายที่จะทำให้เกษตรกรได้มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ลดความขัดแย้ง ลดการโต้แย้งสิทธิระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชน และมุ่งหวังว่าเกษตรกรที่ได้รับการจัดที่ดินทำกิน จะมีความมั่นคงในการทำมาหาเลี้ยงชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน อีกทั้งเป็นการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดินอีกด้วย“นายสุธรรม กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 มิถุนายน 2567