โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวประชาสัมพันธ์

พล.อ.ประวิตร’ มอบใบอนุญาตเข้าทำกินให้ประชาชน จ.กำแพงเพชร เดินหน้าคุมเข้มเร่งกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดทุกพื้นที่

,

พล.อ.ประวิตร’ มอบใบอนุญาตเข้าทำกินให้ประชาชน จ.กำแพงเพชร
เดินหน้าคุมเข้มเร่งกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดทุกพื้นที่

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี . พร้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวง.ดีอีเอส รัฐมนตรีช่วยว่าการะทรวงการคลังและคณะ เดินทางลงตรวจราชการพื้นที่ จ.กำแพงเพชร เพื่อติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด ที่ดินทำกินและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ได้รับรายงานสถานการณ์ด้านการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด และการจัดการที่ดินทำกินตามนโยบายของรัฐบาล ณ โรงเรียนปางศิลาทองศึกษา โดยมี ผู้ว่าราชการจ.กำแพงเพชร กองทัพภาค 3 ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เลขา สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ.และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดย พล.อ.ประวิตรได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเขียว-ป่าเขาสว่าง และป่าคลองห้วยทราย เนื้อที่กว่า 12,951 ไร่ มีประชาชนเข้าอยู่อาศัย 1,077 ราย ให้กับ ผวจ.กำแพงเพชร พร้อมทั้งมอบหนังสืออนุญาตสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดที่ดินทำกินในพื้นที่ อ.ปางศิลาทอง และ อ.ขาณุวรลักษณ์บุรี เนื้อที่รวมกว่า 4,233 ไร่ ให้กับประชาชนจำนวน 334 ราย ทั้งนี้ คทช.อยู่ระหว่างเร่งจัดสรรพื้นที่ จว.กำแพงเพชร ตามเป้าหมาย 12 พื้นที่ ทั้งในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและเขตปฏิรูปที่ดิน รวม 188,000 ไร่ ให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยและทำประโยชน์ พร้อมทั้งส่งเสริมพัฒนาอาชีพ พัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นในพื้นที่เป้าหมายต่อเนื่องกันไป

พล.อ.ประวิตร’ กล่าว่าขอบคุณ คทช. ที่เดินหน้าแก้ปัญหาที่ดินทำกินมีความก้าวหน้า ต่อเนื่องมา โดยสามารถกระจายที่ดินให้ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินได้ใช้ประโยชน์แล้วในหลายพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำสังคมในการถือครองที่ดินระดับพื้นที่ โดยย้ำขอให้ยึดหลักความเป็นหนึ่งเดียวและอาศัยความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ ขอให้ฝ่ายปกครองในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าไปพัฒนาระบบสาธารณูปโภค น้ำและไฟ การส่งเสริมอาชีพในรูปการรวมกลุ่มของสหกรณ์ เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้’กล่าวย้ำถึงการดำเนินนโยบายแก้ปัญหายาเสพติด โดยให้ฝ่ายปกครอง และตำรวจเปิดปฏิบัติการกวาดล้างใหญ่ ร่วมป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในทุกพื้นที่อย่างจริงจังต่อเนื่องกันไป โดยให้ลงลึกเชื่อมโยงถึงตัวการสำคัญ ไม่มียกเว้น โดยขอให้กลไกหลักระดับพื้นที่ทั้ง องค์การบริหารส่วงนจังหวัดและ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และตำรวจในท้องที่ รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องให้ความสำคัญจริงจัง ดึงภาคประชาชนเข้ามีส่วนร่วม เฝ้าระวังแก้ปัญหายาเสพติด ให้ครอบคลุใทุกมิมติ ทั้งการสกัดกั้น การป้องกันและปราบปราม และการบำบัดรักษาให้เป็นผล โดยให้สังคมมีส่วนร่วมประเมินผล เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนร่วมกัน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤศจิกายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ขอบคุณทุกหน่วยดูแลงานเอเปกมีประสิทธิภาพ ดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกผู้นำ สร้างชื่อเสียงประเทศ

,

“พล.อ.ประวิตร” ขอบคุณทุกหน่วยดูแลงานเอเปกมีประสิทธิภาพ ดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกผู้นำ สร้างชื่อเสียงประเทศ

19 พ.ย.65 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจร ครั้งที่ 6/65 (กอร.รปภ.จร.) โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร./รองประธาน ผบ.ทก.สน.ปฏิบัติการภายใต้ กอร.รปภ.จร. ประจำสถานที่ประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเซียแปซิฟิก( APEC )ประจำโรงแรมที่พัก และ ทก.สน.ปฏิบัติการเฉพาะด้าน เข้าร่วมประชุม ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และ กอร.รปภ.จร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผ่านระบบการประชุมทางไกล ไปยัง ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) และ ที่ทำการส่วนหน้าที่ (ทก.สน.) ปฏิบัติการประจำสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการประชุม

พลเอกประวิตร กล่าวว่าการประชุมวันนี้ เป็นการติดตามสถานการณ์ และการปฏิบัติของหน่วยได้แก่ การประชุม ของผู้นำเขตเศรษฐกิจ และการเดินทางกลับ ของผู้นำ และคู่สมรส 12 เขตเศรษฐกิจ จึงต้องให้ความสำคัญ ในเรื่องการรักษาความปลอดภัย และการจราจร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำทุกหน่วยให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัย ในช่วงสุดท้ายของการประชุม ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และ ความประทับใจให้กับผู้นำ และ คู่สมรสที่จะเดินทางกลับประเทศตลอดห้วง ระยะเวลาที่เราได้ปฏิบัติภารกิจร่วมกันมา ขอขอบคุณรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหมผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าหน่วย ผู้แทนหน่วยทุกท่าน ตลอดจนฝากขอบคุณไปยังกำลังพล และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่อันมีเกียรติ และมีความสำคัญต่อประเทศชาติ และประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่งในครั้งนี้ ขอให้มีความภาคภูมิใจร่วมกัน และขอให้เดินทางกลับที่ตั้งหน่วยโดยสวัสดิภาพทุกคน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 พฤศจิกายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม.วอน กทม. จัดระเบียบสายไฟไฟ้-ลอกท่อ บรรเทาทุกข์ ปชช.

,

ส.ส.พปชร.กทม.วอน กทม. จัดระเบียบสายไฟไฟ้-ลอกท่อ บรรเทาทุกข์ ปชช.

นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. เขตคลองเตย-วัฒนา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีการจัดระเบียบจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารในพื้นกทม. ขอฝากท่านประธานฯ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดำเนินการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารในพื้นที่ทองหล่อและเอกมัย เพราะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นถนนตัวอย่างของสังคมเมืองยุคปัจจุบัน

ทั้งนี้ ยังได้หารือถึงกรณีปัญหาน้ำท่วมถนน ตรอก ซอก ซอยต่างๆ ในพื้นที่ของภาครัฐและเอกชน พบว่าเกิดจากปัญหาท่ออุดตันสะสมเป็นเวลานาน จึงขอฝากท่านประธานฯ ไปยัง กทม. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดำเนินการลอกท่อในเขตคลองเตยและวัฒนาในพื้นที่ต่างๆ อาทิ ซอยปรีดีพนมยงค์ 26 แยกพัฒนเวศน์ แยก 10 และ 12 ซอยปรีดีพนมยงค์ 14 แยก 8 และบริเวณหมู่บ้านเกษมสำราญ 2 และแยก 8 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #กรณิศงามสุคนธ์รัตนา
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2565

ส.ส.พปชร.นครศรีธรรมราช วอนรัฐ เร่งจัดสรรงบสร้างถนน-ซ่อมแซมฝายชำรุด ให้ชาวบบ้านได้มีน้ำใช้

,

ส.ส.พปชร.นครศรีธรรมราช วอนรัฐ เร่งจัดสรรงบสร้างถนน-ซ่อมแซมฝายชำรุด ให้ชาวบบ้านได้มีน้ำใช้

นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีโครงการก่อสร้างถนนเฉลิมพระเกียรติและส่วนต่อขยาย ช่วงถนนวงแหวนบ้านบางปูไปบ้านนาหลวง ระยะทาง 20 กิโลเมตร และช่วงบ้านนาหลวงไปบ้านหมน ต.ท่าเรือ จึงขอฝากทางประธานฯ ไปยังกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เร่งพิจารณาจัดสรรงบประมาณกากก่อสร้างถนนทั้ง 2 ช่วงดังกล่าว เนื่องจากถนนสายนี้เป็นวงแหวนตะวันออกที่เชื่อมต่อไปยังสนามบินนครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ ยังได้หารือถึงความเดือนร้อนของประชาชนที่พักอาศัยอยู่บริเวณหน้าม.ราชภัฎนครศรีธรรมราช รวมถึงหมู่ที่ 4, 5, 6, และ 7 ไม่มีน้ำอุปโภคบริโภค เนื่องจากฝายชำรุดเสียหายเมื่อปี 2564 จึงขอให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการแก้ไข และเดินท่อพีอีไปยังหมู่บ้านต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านในพื้นที่

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #สายัณห์ยุติธรรม
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2565

“อรรถกร” ยันจุดยืน ต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ต้องไม่ผูกขาดกลุ่มทุน เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถผลิตได้ และต้องมีการควบคุม คำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคเป็นหลัก

,

“อรรถกร” ยันจุดยืน ต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ต้องไม่ผูกขาดกลุ่มทุน เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถผลิตได้ และต้องมีการควบคุม คำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคเป็นหลัก

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ในฐานะทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ระบุถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ว่าวันนี้เป็นที่ทราบกันดี มีกฎกระทรวง ที่เพิ่งคลอดออกมาใช้กับเรื่องนี้สดๆ ร้อนๆ ซึ่งถ้ามองกลับไป ในการพิจารณากฎหมายในวาระที่1 เวลานั้นยังไม่มีกฎกระทรวง ถ้าวันที่พิจารณาในวาระที่1 ได้มีกฎกระทรวงนี้ อาจจะไม่ต้องพิจารณาต่อในวาระที่2-3 ก็เป็นได้

ทั้งนี้ต้องขอชื่นชม ผู้ที่ได้เสนอกฎหมายฉบับนี้ และกรรมาธิการ ที่มีความปรารถนาดี ในการแก้ไขปัญหา ให้กับพี่น้องประชาชนรายเล็ก เพื่อเปิดโอกาสให้นำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่องของสุราพื้นบ้านมาต่อยอดทางธุรกิจได้ จากเดิมที่ไม่สามารถทำได้

ซึ่งในการประชุมวิปรัฐบาลครั้งก่อน เคยได้มีการพูดคุยหารือให้ทางหน่วยงานที่กำกับดูแล ได้เร่งออกกฎกระทรวงในการดูแล ควบคุม อุตสาหกรรมสุรา มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว

โดยมีข้อคำนึง คือ ประการแรก ต้องไม่ผูกขาดโดยกลุ่มทุน ประการที่สอง ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถผลิตได้ และประการสุดท้าย คือ การผลิตสุรานั้น ต้องมีการควบคุม มิใช่ว่าจะผลิตอะไรก็ได้ เพราะเราต้องคำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคเป็นหลัก

ซึ่งหากพิจารณาจากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ถือว่าการออกกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นไปตามเจตนารมณ์ของสภาฯ ที่ต้องการเห็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีขีดความสามารถเข้าสู่การแข่งขันในตลาดสุราได้อย่างมีคุณภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนผู้บริโภคด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 พฤศจิกายน 2565

พปชร.เพชรบุรี เป็นประธานประชุม กมธ.ศาสนาฯ พิจารณาแก้ปัญหาที่พักสงฆ์

,

พปชร.เพชรบุรี เป็นประธานประชุม กมธ.ศาสนาฯ พิจารณาแก้ปัญหาที่พักสงฆ์

วันที่ 1 พ.ย. 2565 – นายสุชาติ อุสาหะ พปชร.จังหวัดเพชรบุรี เขต 3 ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมคณะ กมธ. ครั้งที่ 76 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพิจารณาเรื่องดังนี้ 1. พิจารณาติดตามความคืบหน้าการขออนุญาตตั้งวัดของที่พักสงฆ์พระธาตุดอยเวียงแก้ว ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย 2. พิจารณาติดตามความคืบหน้าการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ของมูลนิธิวิมุตตยาลัย (ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน) ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย และ 3. พิจารณาแนวทางการต่ออายุใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าไม้ของวัดห้วยปลากั้ง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้เชิญหน่วยงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ ผู้แทนจากกรมที่ดิน และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีความเห็นว่าการขอสร้างและตั้งวัดภายหลังพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 บังคับใช้แล้ว จะต้องมีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือหนังสือยินยอมให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินก่อนจึงจะขอสร้างวัดได้ แต่กรณีนี้เป็นการใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์เพื่อตั้งวัดหรือสร้างวัด และมีการก่อสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีสภาพเป็นถาวรวัตถุเพื่อใช้ประกอบศาสนกิจ จึงมิใช้เป็นการใช้ประโยชน์ในราชการ จึงไม่อาจดำเนินการถอนสภาพที่ดินตามมาตรา 8 วรรค 2 (1) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #สุชาติอุสาหะ
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 พฤศจิกายน 2565

“พล.อ.ประวิตร”สานสัมพันธ์ออสเตรเลียเดินหน้าร่วมมือทุกมิติ ร่วมหนุนตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลปราบปรามค้ามนุษย์ระดับสากล

,

“พล.อ.ประวิตร”สานสัมพันธ์ออสเตรเลียเดินหน้าร่วมมือทุกมิติ
ร่วมหนุนตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลปราบปรามค้ามนุษย์ระดับสากล

2 พ.ย.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้การต้อนรับ นางสาวเพนนี หว่อง รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ เครือรัฐออสเตรเลีย เพื่อหารือ และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ในการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่าง2ประเทศ ในโอกาสครบรอบ 70 ปี และเดินหน้าในการยกระดับความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ของทั้งสองประเทศ

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย ในการต่อต้านการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง โดยให้เป็นวาระแห่งชาติเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบ และให้หมดไปจากประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้พยายามยกระดับเทียร์ (Tier) สถานการณ์ค้ามนุษย์ของไทย จนได้รับการจัดอันดับขึ้นเป็น เทียร์2 ในปีนี้ และยืนยันจะขับเคลื่อนการแก้ปัญหาต่อเนื่องให้มากขึ้น โดยร่วมกับภาคต่างประเทศ ต่อไป พล.อ.ประวิตร ยังได้ขอบคุณรัฐบาลออสเตรเลีย ที่สนับสนุนความร่วมมือที่ผ่านมา พร้อมได้จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ ในโอกาสนี้ ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะยืนยันความตั้งใจของไทย ต่อไป

พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันส่งเสริมความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดและครอบคลุมในหลายมิติให้มากยิ่งขึ้น ทั้งด้านการค้า การลงทุนเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจระหว่างกัน และการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง โดยเฉพาะด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ยังเป็นปัญหาสำคัญ โดยพล.อ.ประวิตรได้ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วย ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลออสเตรเลีย ในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายไทย ลงนามร่วมกับ นางสาวเพนนี หว่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ประเทศออสเตรเลีย

นางสาว เพนนี หว่อง ได้กล่าวย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นในระดับต่างๆของทั้ง 2ประเทศ และยินดีให้การสนับสนุนไทยในการยกระดับความร่วมมือมิติต่างๆ และด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยจะส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนดำเนินคดีในระดับประเทศและระดับภูมิภาคอาเซียน

พล.อ.ประวิตร ยังได้ให้การต้อนรับ นางอภิญญา ทาจิตต์ รอง ผอ.ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทางทะเล ซึ่งได้รับรางวัล TIP Report Hero ประจำปี 2565 จากสหรัฐ พร้อมกล่าวชื่นชม มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีที่ได้รับรางวัลดังกล่าวและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย อย่างน่าภาคภูมิใจ ซึ่ง นางอภิญญาฯ ยังได้รายงาน ผลการเดินทางไปชี้แจงการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ของไทย ณ สำนักงานตรวจสอบและต่อต้านการค้ามนุษย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ทราบด้วย


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 พฤศจิกายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” โชว์ผลสำเร็จแข่งจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก โมโตจีพี ปี65 สร้างมูลค่าเพิ่มจากกีฬาสู่การฟื้นฟูการท่องเที่ยว กว่า 4,048 ลบ.

,

“รมว.ตรีนุช”ตั้งเป้าสิ้นปีการศึกษา 2565 ดึงนักเรียนเข้าระบบ100%
มอบครูต้องเข้าถึง-เข้าใจนักเรียนรายคนมุ่งลดปัญหาช่องว่างการศึกษา

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (1 พ.ย.65) ถึงผลสรุปการจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโตจีพี ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ สามารถเพิ่มมูลค่ากีฬาที่มีศักยภาพเพื่อการท่องเที่ยว มีการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยมีผู้เข้าร่วมงาน ประมาณ 178,463 คน และมีผู้รับชม การถ่ายทอดสดทั่วโลก มากกว่า 800 ล้านคน ซึ่งการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติในครั้งนี้ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมเป็น มูลค่ากว่า 4,048,000,000 บาท


ที่มา:
ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 พฤศจิกายน 2565

“รมว.ตรีนุช”ตั้งเป้าสิ้นปีการศึกษา 2565 ดึงนักเรียนเข้าระบบ100% มอบครูต้องเข้าถึง-เข้าใจนักเรียนรายคนมุ่งลดปัญหาช่องว่างการศึกษา

,

“รมว.ตรีนุช”ตั้งเป้าสิ้นปีการศึกษา 2565 ดึงนักเรียนเข้าระบบ100%
มอบครูต้องเข้าถึง-เข้าใจนักเรียนรายคนมุ่งลดปัญหาช่องว่างการศึกษา

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวในการมอบนโยบายเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และ ผู้อำนวยการโรงเรียนทั่วประเทศ ผ่าน OBEC Channel ว่า ขอบในโอกาสเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 เรื่องที่สำคัญ จะต้องให้สำคัญในการดูแลพัฒนาการของนักเรียนแบบองค์รวม ตั้งแต่ ความปลอดภัยในสถานศึกษา การเดินทางไป-กลับของนักเรียน การจัดสภาพแวดล้อมสถานศึกษาให้มีความปลอดภัย การให้บริการดูแลด้านโภชนาการ และสุขภาพ การป้องกันภัยธรรมชาติ

“ที่สำคัญในยังไปรวมถึง การป้องกันภัยจากยาเสพติด และภัยจากอาวุธปืน ซึ่งต้องไม่เกิดขึ้นในสถานศึกษาอย่างเด็ดขาด และต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้น ตามหลัก 3 ป. ได้แก่ ป้องกัน ปลูกฝัง และ ปราบปราม ภายใต้โครงการ MOE Safety Center เพื่อสร้างความปลอดภัยให้นักศึกษา ครู และบุคลากรทุกคน” นางสาวตรีนุชกล่าว

ทั้งนี้ในภาคเรียนที่ 2/2565 นี้ กระทรวงศึกษาธิการ ได้มุ่งเน้นให้ครูกระชับความสัมพันธ์กับนักเรียนและผู้ปกครองมากขึ้น เพื่อทำให้เข้าใจนักเรียนเป็นรายบุคคล ทั้งนิสัยและชีวิตความเป็นอยู่ ได้พูดคุยกับผู้ปกครองโดยตรง เพื่อร่วมกันหาแนวทางช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายผู้ปกครองและชุมชนให้ช่วยกันเฝ้าระวัง และมีส่วนร่วมในการแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัย ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ปกครองไว้วางใจในการนำผู้เรียนมาอยู่ภายใต้การดูแลของเราผ่านการเยี่ยมบ้านนักเรียน

นางสาวตรีนุช กล่าวว่า การสร้างความเข้มแข็งให้แก่นักเรียน ผ่านระบบ “ Screening Learning Loss” ครอบคลุม 4 มิติ ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม เพื่อการแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ที่ถดถอย โดยการนำข้อมูลของนักเรียนมาใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสม และป้องกันนักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษา ซึ่งโครงการพาน้องกลับมาเรียน ยังเป็นนโยบายสำคัญที่เดินหน้าต่อเนื่อง โดยติดตามเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาครบ 100% และ ทำให้การออกกลางคันเป็นศูนย์ (zero drop out ) ในปีการศึกษา 2565 นี้

นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม School Mental Health ระบบดูแลนักเรียนและครูในสถานศึกษา ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อตรวจสภาพจิตใจของเด็กและครู ซึ่งสถานศึกษาสามารถประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อขอรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือเกี่ยวกับสุขภาพจิตได้

รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า การยกระดับคุณภาพทางการศึกษา และการแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ที่ถดถอย นั้น ให้โรงเรียนจัดกิจกรรมสอนซ่อมเสริม ชดเชย หรือ กิจกรรมเสริมทักษะเพิ่มเติมตามความถนัด ความสนใจ และเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน โดยนำการเรียนการสอนรูปแบบ Active Learning มาใช้ช่วยให้ผู้เรียน เรียนอย่างมีความสุข สนุก และมีทักษะการคิด ซึ่งจะทำให้เรียนรู้ได้เร็วและนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ และขอให้เพิ่มความสำคัญในวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง เพื่อสร้างสำนึกของความเป็นไทย รักในการเป็นชาติของเรา โดยจัดการเรียนรู้ตามความพร้อม และเหมาะสมในแต่ละบริบทพื้นที่

สำหรับนักเรียนที่จะจบชั้น ม. 3 สถานศึกษาควรสำรวจความต้องการในการศึกษาต่อสายอาชีพ เพื่อเตรียมความพร้อม ให้คำแนะนำและส่งต่อเข้าสู่โครงการ “อาชีวะ อยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ” ในปีการศึกษา 2566โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่ครอบครัวประสบปัญหาด้านค่าใช้จ่าย สำหรับหลักสูตรทวิศึกษา ซึ่งเป็นการเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย เมื่อสำเร็จการศึกษาผู้เรียนจะได้รับวุฒิการศึกษาทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) นั้น ตนได้มอบหมายให้ สพฐ. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ. )จัดทำแผนระดับจังหวัดว่า ควรจัดทวิศึกษารายวิชาใด ในโรงเรียนไหน โดยให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ ทั้งแก้ไขปัญหา และข้อจำกัดจากการดำเนินงานในอดีต โดยเป้าหมายระยะสั้น เน้นการเรียนการสอนทวิศึกษาในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ,โรงเรียนตามโครงการพระราชดำริ และโรงเรียนที่มีความพร้อม

“ ขณะนี้ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ รวมถึงบางพื้นที่น้ำลดลงแล้ว ขอให้สำรวจความเสียหาย เพื่อจัดหางบประมาณสนับสนุน หากไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ให้โรงเรียนออกแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสม หรือ นำไปเรียนรวมกับโรงเรียนใกล้เคียง โดยให้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางของนักเรียน ” นางสาวตรีนุช กล่าวและว่า สำหรับเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ใหม่) หรือ เกณฑ์ PA นั้น ขณะนี้มี PA Support Team ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์ และวิธีการประเมินแบบใหม่แล้ว ซึ่งหลายคนในที่นี้ ได้รับผิดชอบใน PA Support Team ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษา เป็นบุคลากรสำคัญในการเชื่อมโยงนโยบาย และสร้างความเข้าใจแก่ครู ไปสู่การปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ ตนขอให้ทุกฝ่ายเป็นพลังผลักดันขับเคลื่อนงาน รวมทั้งการประสานการทำงานแบบเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อเป้าหมายของการจัดการศึกษา คือ คุณภาพผู้เรียน. และหากสถานศึกษาใด มีความสำเร็จในการยกระดับคุณภาพศึกษา ตนจะถือโอกาสในการลงพื้นที่เพื่อขอไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนของท่านด้วย.



ที่มา:
ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 พฤศจิกายน 2565

“รมช.อธิรัฐ”ลงพื้นที่รับฟังปัญหาปชช. ร่วมหาแนวทางฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม

,

“รมช.อธิรัฐ”ลงพื้นที่รับฟังปัญหาปชช. ร่วมหาแนวทางฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยคณะทำงาน ร่วมกันลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลบ้านยาง อำเภอลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา หลังประสบปัญหาน้ำท่วมกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้าน พร้อมกันนี้ ยังได้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ

ทั้งนี้ ยังได้ร่วมพูดคุย รับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะจากชาวบ้าน เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดในพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ วัดหนองม่วง โรงเรียนบ้านหนองยาง วัดโสกดู่ วัดหินแร่ และวัดหนองดู่ โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #อธิรัฐรัตนเศรษฐ
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial


ที่มา:
ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 31 ตุลาคม 2565

พล.อ.ประวิตร ขอเป็นตัวแทนคนไทย แสดงความเสียใจเหตุโศกนาฏกรรมอิแทวอน ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เฝ้าระวังเข้มดูแลความปลอดภัยในเทศกาลฮาโลวีนในไทย

“พล.อ.ประวิตร”ขอเป็นตัวแทนคนไทย แสดงความเสียใจเหตุโศกนาฏกรรมอิแทวอน ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เฝ้าระวังเข้มดูแลความปลอดภัยในเทศกาลฮาโลวีนในไทย

,

วันนี้ (30 ตุลาคม) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงโศกนาฏกรรมเทศกาลฉลองวันฮาโลวีน ที่ย่านอิแทวอน กรุงโซล เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ตนขอเป็นตัวแทนประชาชนคนไทยทุกคนแสดงความเสียใจกับชาวเกาหลีใต้ทุกคน รวมถึงครอบครัวคนไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ และขอส่งความห่วงใยไปยังทุกคนที่ได้รับผลกระทบ นับเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ประเทศไทยขออยู่เคียงข้างให้กำลังใจกับทุกครอบครัว

ในส่วนของการดูแลเรื่องความปลอดภัยในการจัดงานเทศกาลฉลองวันฮาโลวีนในประเทศไทยนั้นพล.อ.ประวิตร ระบุว่า ได้ขอให้หน่วยงานต่างๆ และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ผู้จัดงานต่างๆ คำนึงถึงความปลอดภัย ประเมินสถานการณ์ผู้เข้าร่วมงานเป็นระยะ และตรวจสอบมาตรการรักษาความความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน หากเป็นสถานประกอบการแบบปิด ต้องตรวจตราระบบไฟ ประตู ทางหนีไฟให้พร้อมใช้งานได้ดีอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นซ้ำอีก

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 ตุลาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” ถก กนช.ไฟเขียวร่างแผนแม่บทฯน้ำ 20 ปี เปิด10 มาตรการ รองรับสถานการณ์ภัยแล้ง ปี 2566

,

“พล.อ.ประวิตร” ถก กนช.ไฟเขียวร่างแผนแม่บทฯน้ำ 20 ปี
เปิด10 มาตรการ รองรับสถานการณ์ภัยแล้ง ปี 2566

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการ กนช. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบ (ร่าง) แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (ปรับปรุงช่วงที่ 1 พ.ศ. 2566–2580) ที่ปรับปรุงกรอบแนวทางและค่าเป้าหมายตามกรอบวิสัยทัศน์ “ทุกหมู่บ้านมีน้ำสะอาดอุปโภค บริโภค น้ำเพื่อการผลิตมั่นคง ความเสียหายจากอุทกภัยลดลง คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน บริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ภายใต้การพัฒนาอย่างสมดุล โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน” โดยได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน 13 กระทรวง 51 หน่วยงาน เพื่อร่วมกันกำหนดกรอบแนวทางการพัฒนาด้านทรัพยากรน้ำ ค่าเป้าหมาย ตัวชี้วัด กลยุทธ์ แผนงานภายใต้แผนแม่บทฯน้ำ 20 ปี พร้อมทั้งได้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจำนวน 7 พื้นที่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการลุ่มน้ำ องค์กรผู้ใช้น้ำ และภาคประชาชน เพื่อให้ร่างแผนแม่บทดังกล่าวมีความสมบูรณ์ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง

สำหรับการปรับปรุงแผนแม่บทฯน้ำ 20 ปี ได้นำประเด็นสถานการณ์ปัจจุบันมาใช้วิเคราะห์สถานการณ์ด้านทรัพยากรน้ำ เช่น สถานการณ์ของโรคระบาด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแก้ปัญหาที่อาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน การปรับตัวโดยอาศัยระบบนิเวศ เศรษฐกิจหมุนเวียนและการฟื้นตัว การเชื่อมโยงตัวชี้วัดและเป้าหมายกับแผนระดับชาติและแผนระดับนานาชาติ การปรับปรุงกรอบแนวทางการพัฒนา จากเดิม 6 ด้าน เป็น 5 ด้าน ได้แก่ 1.การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค 2.การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต 3.การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย 4.การอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรน้ำ ซึ่งมีการควบรวมแผนแม่บทฯ เดิมด้านจัดการคุณภาพน้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และการอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรมและป้องกันการพังทลายของดินเข้าด้วยกัน เพื่อให้ครอบคลุมระบบนิเวศของต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ และ 5.การบริหารจัดการ

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำเรื่องการกำหนดเป้าหมายแต่ละระยะโดยนำงบประมาณมาพิจารณาประกอบ รวมถึงการปรับปรุงจำนวนกลยุทธ์ โดยเพิ่มกลยุทธ์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัยเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการจัดกลุ่มกลยุทธ์แผนแม่บทด้านบริหารจัดการให้สอดคล้องกับตัวชี้วัดธรรมาภิบาลด้านน้ำ เช่น การส่งเสริมองค์กรและการมีส่วนร่วม การจัดทำเครื่องมือในการบริหารจัดการ การจัดทำงบประมาณและการเงิน ทั้งกลุ่มโครงการที่สามารถดำเนินการได้เลย ให้ขับเคลื่อนผ่านช่องทางปกติ และโครงการที่ดำเนินการจำเป็นต้องขับเคลื่อน แต่ต้องให้มีการศึกษาความเหมาะสม ผลกระทบ หรือแนวทางที่เหมาะสม เพื่อให้การขับเคลื่อนงานตามแผนแม่บทฯ เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติและติดตามประเมินผลได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุม กนช. ยังได้เห็นชอบ 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/2566 ประกอบด้วย 1.เร่งเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำทุกประเภท 2.เฝ้าระวังและเตรียมจัดหาแหล่งน้ำสำรอง พร้อมวางแผนเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ ในพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำ 3.ปฏิบัติการเติมน้ำ 4.กำหนดแผนจัดสรรน้ำและพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้ง 5.เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำภาคการเกษตร 6.เตรียมน้ำสำรองสำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำ รับน้ำนอง 7.เฝ้าระวังคุณภาพน้ำ 8.เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ำของชุมชน 9.สร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์ และ 10.ติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน รวมทั้งเห็นชอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2566 แนวคิดในการพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของกรุงเทพมหานครในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และผลการศึกษาวิจัยนวัตกรรมเชิงระบบ โครงสร้างและกลไกการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ และข้อเสนอการยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับลุ่มน้ำด้วย


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์​ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ตุลาคม 2565