โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวกิจกรรม ส.ส. และสมาชิกพรรค

“ชัยวุฒิ” นำสส.โชติวุฒิ พปชร. รุดลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัยไฟไหม้ตลาด 100 ปี อินทร์บุรี ประสานหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ ลดผลกระทบประชาชน

,

“ชัยวุฒิ” นำสส.โชติวุฒิ พปชร. รุดลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัยไฟไหม้ตลาด 100 ปี อินทร์บุรี ประสานหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ ลดผลกระทบประชาชน

วันนี้ (20 ส.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส. จ.สิงห์บุรี เขต1 ได้เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนที่ประสบเหตุอัคคีภัย เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ในช่วงค่ำที่ผ่านมาในตลาดอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ประสานทางจังหวัดในการเข้าดูแลความช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัย

“เหตุการณ์ครั้งนี้พบว่า มีผู้ประสบอัคคีภัย 34 หลังคาเรือน ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้เข้าช่วยเหลือในการระงับเหตุ และบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนหาสาเหตุ การเยียวยาในอนาคต ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เข้าช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งตลาดแห่งนี้ เป็นตลาดสด เปิดในช่วงเช้า เป็นย่านชุมชนเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี จำเป็นอย่างยิ่งต้องหาแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำในอนาคตต่อไป”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 สิงหาคม 2566

“บุญชัย สส.เพชรบูรณ์”หารือหลายปัญหาของชาวเพชรบูรณ์ ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งคลี่คลาย แก้ไข บรรเทาความเดือดร้อนให้ ปชช.

,

“บุญชัย สส.เพชรบูรณ์”หารือหลายปัญหาของชาวเพชรบูรณ์ ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งคลี่คลาย แก้ไข บรรเทาความเดือดร้อนให้ ปชช.

นายบุญชัย กิตติยาราทรัพย์ สส.เพชรบูรณ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาช้างป่าว่า ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามีช้างป่าจากภูหลวง จังหวัดเลย ได้ออกมาหากินบริเวณหมู่บ้านของพี่น้องประชาชน ในตำบลศิลา ตำบลตาดกลอย อ.หล่มเก่า และทำลายพืชผลทางการเกษตร ของประชาชา รวมถึงที่อยู่อาศัย จึงฝากให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ช่วยผลักดันช้างป่าให้กลับไปอยู่ในป่าดังเดิม

นายบุญชัย กล่าวต่อถึงปัญหาของถนนทางหลวงหมายเลข 21 ตอนสักหลงถึงกกกะทอน ช่วงหลักกิโลที่ 286+700 ถึง289+700 ระยะทาง 3 กิโลเมตร มีระยะทางแคบ มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และในเวลากลางคืนจะมืดมาก ไม่มีไฟฟ้าข้างทาง ทั้งที่เป็นเขตชุมชน อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทุกครั้ง ทำให้เกิดความสูญเสีย ทรัพย์สินและชีวิตของผู้ใช้ถนนเส้นนี้ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการขยายถนนเป็นสี่เลนด้วย

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาด้านไฟฟ้าแสงสว่าง และสัญญาณจราจร ที่สามแยกบ้านกกกะทอน บนทางหลวงหมายเลข 21 ตัดกับถนนทางหลวง หมายเลข 2216 ซึ่งเป็นบริเวณชุมชนมีจำนวนประชากร ที่ใช้เส้นทางจราจรอย่างหนาแน่น และมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงขอฝากให้กรมทางหลวง ช่วยดำเนินการติดตั้งไฟสัญญาณจราจรและไฟฟ้าสว่าง
ทั้งนี้เรื่องถนนถ่ายโอนหลายพื้นที่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเฉพาะเขต3 ได้ถ่ายโอนถนนมาหลายเส้น เช่น อำเภอหล่มสักทางหลวงหมายเลข 20110100 ตอนแยกทางหลวง 203 ซึ่งเป็นถนนที่ใช้ระหว่าง บ้านหนองสว่าง ถึงบ้านฝ่ายนาแซง ระยะทาง 3-4 กิโลเมตร และสภาพถนนมีรอยแตกร้าวและเป็นหลุมเป็นบ่อ ขอให้ กรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยจัดงบประมาณปรับปรุงถนนเส้นนี้ด้วย

นายบุญชัย ยังกล่าวถึงการสร้างอ่างเก็บน้ำทางตอนเหนือ ของอำเภอหล่มเก่า ซึ่งเป็นต้นน้ำ ของแม่น้ำป่าสักในฤดูฝน มีน้ำจำนวนมากไหลผ่าน จากอำเภอหล่มเก่า ผ่านอำเภอหล่มสัก ถึงอำเภอเมือง และหลายอำเภอของจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดอุทกภัย น้ำท่วมในหลายๆ พื้นที่ พอถึงฤดูแล้งก็ไม่มีน้ำใช้ เพราะเป็นที่ลาดชันสูง จึงอยากให้กรมชลประทานเร่งรัดการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ห้วยน้ำเลา ตำบลตาดกลอย อ่างเก็บน้ำห้วยผักกรูด อ่างเก็บน้ำห้วยหินโง่น ตำบลศิลา จะได้ช่วยลดปัญหาน้ำท่วม และเก็บน้ำไว้ให้เกษตรกรใช้ สร้างเศรษฐกิจให้เกษตรกร และยังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2566

“จำลอง สส.กาฬสินธุ์”ขอการปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งแก้ปัญหาแหล่งน้ำให้ชาวบ้าน หลังถูกเวนคืนไปสร้างเขื่อนลำปาว ทำให้ไม่สามารถนำน้ำขึ้นมาใช้ได้ พร้อม วอน รัฐรวบรัดขั้นตอน ไม่ให้ล่าช้า

,

“จำลอง สส.กาฬสินธุ์”ขอการปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งแก้ปัญหาแหล่งน้ำให้ชาวบ้าน หลังถูกเวนคืนไปสร้างเขื่อนลำปาว ทำให้ไม่สามารถนำน้ำขึ้นมาใช้ได้ พร้อม วอน รัฐรวบรัดขั้นตอน ไม่ให้ล่าช้า

นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ ที่ถูกเวนคืนสร้างเขื่อนลำปาว เป็นระยะเวลานานแล้วที่ประชาชน ได้รับผลกระทบในการทำมาหากิน และนำน้ำขึ้นมาใช้ อย่างบ้านตนอยู่ฝั่งตะวันตกของเขื่อนลำปาว แต่ไม่สามารถนำน้ำขึ้นมาใช้ได้ โดยการปกครองส่วนท้องถิ่น อบต.หรือเทศบาลได้ร่วมมือกันเสนอโครงการขึ้นมาเพื่อขอใช้น้ำ ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ซึ่งได้อนุมัติโครงการไป 76 ล้าน ในขณะนี้ตนกังวงว่าโครงการดังกล่าวจะถูกตีตกไป จึงนำมาหารือไว้ก่อน

นายจำลอง ยังกล่าวถึงปัญหาของถนนทางหลวงเส้นอำเภอหนองสี อำเภอหนองวัดโพธิ์ เส้น 2009 มีความคับแคบ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนได้เสนอให้มีการแก้ไขมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด ซึ่งในพื้นที่ประชาชนมีอาชีพเกษตรกร ทำไร่อ้อย รถ 10 ล้อเยอะ รถเล็กสัญจรไปมาไม่สะดวก ควรจะมีไหลทาง มาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

นอกจากนี้ การประปาท้องถิ่นที่ทางพื้นที่ได้ขอใช้น้ำปรากฏว่า เกิดความล่าช้า ด้วยสำนักงานน้ำแห่งชาติ โดยพลเอกประวิตร ในฐานะประธานนโยบายน้ำแห่งชาติ ได้อนุมัติโครงการไป 8 โครงการ แต่อีก 2 โครงการต้องใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเองตามสภาพธรรมชาติ มีการสงวนหวงห้ามตามกฎหมายการใช้ประโยชน์ร่วมกันของราษฎร หรือโดยการอุทิศให้ ซึ่งเป็นที่มาของการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ น.ส.ล.จึงต้องผ่านคณะกรรมการหลายคณะ
จึงเกิดความล่าช้ามาก

“ผมขอให้รวบรัดขั้นตอน ให้อยู่ที่เดียวกัน เพราะถ้ามีขั้นตอนเยอะ ก็จะทำให้เกิดความล่าช้า ผลประโยชน์ไม่ตกไปถึงประชาชนอย่างทั่วถึง ทันที รวดเร็ว ทันใจ”นายจำลอง กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2566

“อัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์”วอน หน่วยงาทที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง-อุทกภัย แนะ เพิ่มแหล่งเก็บน้ำ และขยายเส้นทางน้ำให้น้ำมีทางไปได้

,

“อัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์”วอน หน่วยงาทที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง-อุทกภัย แนะ เพิ่มแหล่งเก็บน้ำ และขยายเส้นทางน้ำให้น้ำมีทางไปได้

นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า เราปฎิเสธไม่ได้ว่าน้ำ เป็นต้นกำเนิดทุกสิ่ง น้ำเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่เราใช้บริโภคอุปโภคกันทุกคน แต่เมื่อน้ำน้อยเกินไปก็เกิดปัญหาภัยแล้ง เมื่อน้ำมากเกินไปก็เกิดปัญหาอุทกภัย 2 ปัญหานี้เกิดขึ้นที่อำเภอวิเชียรบุรี และศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่เป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำป่าสักเป็นหัวใจหลัก ซึ่งมีความยาวราว 350 กิโลเมตร ไหลผ่านตั้งแต่เหนือสุดไปถึงใต้สุดของจังหวัด ปัญหาคือความลาดชันของแม่น้ำป่าสัก จุดสูงสุดของความลาดชันอยู่ที่ 190 เมตรส่วน จุดต่ำสุดอยู่ที่อำเภอศรีเทพ อยู่ที่ประมาณ 40 เมตร จากความลาดชันนี้ทำให้อำเภอวิเชียรบุรีและศรีเทพ ไม่สามารถเก็บกักได้จากแม่น้ำป่าสักและไหลออกไปจังหวัดอื่นเกือบหมด

นายอัคร กล่าวต่อว่า ตนจึงอยากหารือ2 ประเด็นหลักคือ ปัญหาภัยแล้ง และปัญหาน้ำท่วม สำหรับปัญหาภัยแล้ง จังหวัดเพชรบูรณ์มีครัวเรือนทั้งหมดเกือบ 300,000 ครัวเรือน โดยทำอาชีพเกษตรกรรมไปแล้วเกือบ 100,000 ครัวเรือน คิดเป็น 38% ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพหลักของคนในพื้นที่ ทุกคนต่างหวังว่าน้ำฝนจะตกมาในปริมาณที่พอเพียง และตกตามฤดูกาล แต่ฝนกลับไม่ตกและ น้ำก็กักเก็บไม่พอ เช่น พื้นที่ในอำเภอวิเชียรมี พืชผลเสียหายทางการเกษตรกว่าพันไร่ เกษตรกรเสียหายหนัก โดยเฉพาะข้าว ข้าวโพด เช่น ตำบลทรัพย์สมบูรณ์ตำบล วัดประดู่และตำบลพุเตย ถ้าประเมินค่าความเสียหายถ้าเป็นข้าวก็ตกประมาณ 1000 ไร่ ตกอยู่ที่ 7.9 ล้านบาท ถ้าเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ก็ตกอยู่ที่ 11.2 ล้านบาท

“สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าเกษตรกรมีรายได้ลดลงจากการขายพืชผลทางการเกษตร แทนที่มีเงินจะไปจ่ายค่าเทอมลูก แทนที่จะมีเงินไปจ่ายในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือว่าจ่ายหนี้สิน ผมจึงฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเพิ่มแหล่งเก็บน้ำ ไม่ว่าจะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ถ้ามีวิธีที่ไวกว่านี้ผมก็ยินดีอย่างยิ่ง”นายอัคร กล่าว

นายอัคร กล่าวต่อถึงปัญหาอุทกภัย อาจจะดูย้อนแย้งจากปัญหาแรก แต่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดที่เกิดปัญหาน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง แต่ในหลายปีที่ผ่านมาความรุนแรงของปัญหานี้ทวีคูณยิ่งขึ้น เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานของอำเภอเชียรบุรีและอำเภอศรีเทพ ตั้งอยู่ช่วงทางผ่านน้ำ และเป็นจุดที่ต่ำกว่าอำเภออื่นๆ ทำให้น้ำจากตอนเหนือไหลลงมาท่วม 2 อำเภอนี้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับแม่น้ำป่าสักนั้นตื้นเขิน จึงไม่สามารถจุน้ำทั้งหมดไว้ได้ การระบายน้ำจึงเป็นไปได้ยากและช้ามาก รถไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้เรือในการนำส่งอาหาร และส่งของใช้จำเป็น จากเหตุการณ์นี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของบ้านเรือน พืชผลทางการเกษตร ผมจึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยขยายเส้นทางน้ำให้น้ำมีทางไปได้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2566

พรรคพลังประชารัฐ เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้ผลกระทบจากอุทกภัยอย่างหนักในพื้นที่จ.ตาก ภายใต้กิจกรรม”พลังน้ำใจ พลังประชารัฐ กำลังใจให้คนตาก”เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนโดยเร็ว

,

พรรคพลังประชารัฐ เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้ผลกระทบจากอุทกภัยอย่างหนักในพื้นที่จ.ตาก ภายใต้กิจกรรม”พลังน้ำใจ พลังประชารัฐ กำลังใจให้คนตาก”เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนโดยเร็ว

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะเลขาธิการ พปชร. กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากติดต่อกันหลายวันในจังหวัดตากและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะหมู่บ้านตามแนวตะเข็บชายแดนที่ติดแม่น้ำเมย และพื้นที่บนภูเขา เกิดดินถล่มเส้นทางถูกตัดขาด เป็นจำนวนมาก ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย เส้นทางทรุดหนักเป็นบริเวณกว้าง รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่าน ไป – มาได้อย่างสะดวกนั้น

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมีความห่วงใยประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก จึงดำริให้ตนเองเร่งระดมความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนอย่างเร่งด่วน ภายใต้กิจกรรมชื่อ”พลังน้ำใจ พลังประชารัฐ กำลังใจให้คนตาก”ซึ่งขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า เพื่อการกุศล สมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรฐกิจไทย-เอเชีย นำถุงยังชีพอุปโภคบริโภคจำเป็นไปมอบให้ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

โดยเบื้องต้น ทางพรรคฯได้มอบหมายให้สส.ของพรรคในพื้นที่ ได้แก่นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.จังหวัดตาก และนายปกรณ์ จีนาคำ สส.จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นตัวแทนลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยือนให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันยังเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเสียหายเพื่อให้ประชาชนสัญจรอย่างปลอดภัย

ด้านนายภาคภูมิ กล่าวว่า ขอบคุณพรรคพลังประชารัฐและทุกภาคส่วนที่ร่วมช่วยเหลือประชาชน อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ขอพี่น้องประชาชนระมัดระวังในการเดินทาง เฝ้าดูสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตนเองขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ซึ่งใน วันพุธ 16 สิงหาคม นี้ มีประชุมสภาฯตน จะนำเรื่องนี้หารือต่อสภา เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนโดยเร่งด่วนต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 สิงหาคม 2566

“ส.ส.สะถิระ”เสนอสภาฯตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทาง โอนย้ายบริการไฟฟ้าของชาวสัตหีบ จากไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ไปให้ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดูแลแทนบรรเทาความเดือดร้อนให้ ปชช.

,

“ส.ส.สะถิระ”เสนอสภาฯตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทาง โอนย้ายบริการไฟฟ้าของชาวสัตหีบ จากไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ไปให้ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดูแลแทนบรรเทาความเดือดร้อนให้ ปชช.

นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้เสนอญัตติด่วนเพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการมอบหน้าที่การให้บริการไฟฟ้า อำเภอสัตหีบ จากกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทาน กองทัพเรือ ไปเป็นหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยตรง เพราะในตอนนี้พี่น้องประชาชน อำเภอสัตหีบ ทั้ง ๕ ตำบล ตำบลแสมสาร ตำบลพลูตาหลวง ตำบลสัตหีบ ตำบลบางเสร่ และตำบลนาจอมเทียน ประสบปัญหาได้รับความเดือดร้อนจากการให้บริการไฟฟ้า โดยกิจการไฟฟ้าสวัสติการสัมปทานกองทัพเรือ ทั้งการขยายเขตไฟฟ้า ไฟดับ ไฟตก ค่าไฟ รวมถึง สิทธิประโยชน์ของผู้ใช้ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

นายสะถิระ กล่าวต่อว่า การขยายเขตไฟฟ้าพี่น้องประชาชนอำเภอสัตหีบ ยังไม่มีไฟฟ้าถาวรใช้อีกหลายครัวเรือน รวมถึงการเพิ่มขนาดกระแสไฟฟ้าในแต่ละครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันกระแสไฟฟ้าในอำเภอสัตหีบตกบ่อยมาก ทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้รับความเสียหาย ทำให้พี่น้องประชาชนอำเภอสัตหีบ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา

“การให้บริการไฟฟ้า โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นการให้บริการไฟฟ้าหลักของคนไทยทั้งประเทศ ควรเข้ามาให้บริการไฟฟ้าประชาชนอำเภอสัตหีบ เช่นเดียวกับพื้นที่อื่น ๆ ผมจึงขอเสนอญัตติด่วนดังกล่าว เพื่อตั้ง กมธ.ศึกษาให้ประชาชนอำเภอสัตหีบได้รับการบริการสาธารณะชั้นพื้นฐาน เช่นเดียวกับคนไทยทั้งประเทศ และเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยด่วน”นายสะถิระ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 สิงหาคม 2566

“ส.ส อรรถกร”ยื่นญัตติด่วนขอสภาฯตั้ง กมธ.แก้ไขราคากุ้งตกต่ำ หาทางช่วยเกษตรกรเลี้ยงกุ้งเดือดร้อนหนัก หลังมีการนำเข้าจาก ตปท.ย้ำ รัฐต้องเร่งจัดการก่อนปัญหาบานปลาย

,

“ส.ส อรรถกร”ยื่นญัตติด่วนขอสภาฯตั้ง กมธ.แก้ไขราคากุ้งตกต่ำ หาทางช่วยเกษตรกรเลี้ยงกุ้งเดือดร้อนหนัก หลังมีการนำเข้าจาก ตปท.ย้ำ รัฐต้องเร่งจัดการก่อนปัญหาบานปลาย

31 กรกฎาคม 2566 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)จ.ฉะเชิงเทรา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้เสนอญัตติด่วน เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำ เนื่องจากในขณะนี้ ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั้งขนาดกลาง และขนาดย่อยกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากราคากุ้งเลี้ยงตกต่ำอย่างรวดเร็ว โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งหลังจากการที่ คณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโช่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) หรือบอร์ดกุ้งอนุมัติการนำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์และอินเดียเข้ามา โดยอ้างว่าเกษตรกรไทยมีโครงการประกันราคากุ้งอยู่แล้ว

“ปัญหาการขาดทุนจากการเลี้ยงกุ้งของเกษตรกร เกิดมาจากราคาน้ำมันเซื้อเพลิงมีราคาสูง และ มีโรคระบาดในกุ้ง ประกอบกับราคาประกันขั้นต่ำที่ห้องเย็นตั้งไว้นั้นเท่ากับราคาตันทุนการผลิตที่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ซึ่งเท่ากับเป็นการบังคับให้เกษตรกรขายในราคาขาดทุน ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาหนี้สิน”นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า แม้ราคากุ้งจะถูกกำหนดโดยคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) แต่ราคาของจริงไม่ได้ตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด จึงต้องการให้รัฐช่วยลดภาระต้นทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เช่น ค่าอาหารกุ้ง ค่าปู่น ค่าไฟฟ้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง หากภาครัฐไม่ดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม ปัญหาอาจบานปลายได้

“ผมจึงขอให้สภาฯตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคากุ้งดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยโดยเร่งด่วน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สำคัญของแผ่นดินและประชาชนจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะรักษาความมั่นคง ของประเทศในทางเศรษฐกิจและสังคม โดยญัตติที่ผมเสนอไปได้ถูกบรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภาฯเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผมหวังว่าจะสามารถช่วยแก้ไขความเดือดร้อนของเกษตรกรได้ทันท่วงที”นายอรรถกร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 31 กรกฎาคม 2566

‘พลเอกประวิตร-ผู้กองธรรมนัส’ ร่วมทำบุญพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ วัดโพสพผลเจริญ จังหวัดปทุมธานี ขณะที่ ปชช.ในพื้นที่รอให้กำลังใจจำนวนมาก

,

‘พลเอกประวิตร-ผู้กองธรรมนัส’ ร่วมทำบุญพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ วัดโพสพผลเจริญ จังหวัดปทุมธานี ขณะที่ ปชช.ในพื้นที่รอให้กำลังใจจำนวนมาก

วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เป็นประธานในพิธียกช่อฟ้า อุโบสถวัดโพสพผลเจริญ ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.จังหวัดพะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ,พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ
และนายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ร่วมพิธีด้วย

ทั้งนี้ ก่อนที่พลเอกประวิตร จะเดินทางมาถึงที่วัดมีฝนตกโปรยปรายลงมา แต่ทันทีที่พลเอกประวิตร และคณะมาถึงฝนก็ได้หยุด และมีประชาชนมารอให้การต้อนรับจำนวนมาก พร้อมกันนี้ยังขอถ่ายรูป รวมถึงนำผ้าขาวม้ามาผูกที่เอวของพลเอกประวิตร พร้อมส่งเสียงเชียร์บอกให้สู้ๆ และเรียกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อีกด้วย ซึ่งพลเอกประวิตร มีสีหน้า สดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส

เวลา 13.19 น. พลเอกประวิตร พร้อมด้วย ร้อยเอกธรรมนัส และนายสุรทิน ได้ร่วมพิธียกช่อฟ้าอุโบสถฯ จนเสร็จสิ้นพิธี ท่ามกลางคำกล่าว “สาธุ สาธุ สาธุ” จากพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก จากนั้นพลเอกประวิตร ได้นำคณะไปปลูกต้นพยุง ไม้มงคล และร่วมพิธีเสริมดวงชะตาเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งในช่วงทำพิธีดังกล่าว ทางวัดขอให้สื่อมวลชนออกไปรอภายนอกโบสถ์ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชนเป็นอย่างดี

มีรายงานว่า หลังเสร็จพิธีแล้ว พลเอกประวิตร ยังได้ทักทายประชาชนที่รอให้กำลังใจ ก่อนจะเดินขึ้นรถกลับทันที ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 กรกฎาคม 2566

“พล.อ. ประวิตร” ขอแสดงความเสียใจกับ พี่น้องปชช.ต.มูโน๊ะ ประสบเหตุโรงงานประทัดระเบิด มอบ สส.พปชร เร่งดูแล ปชช.ในพื้นที่ลดความเดือดร้อน

,

“พล.อ. ประวิตร” ขอแสดงความเสียใจกับ พี่น้องปชช.ต.มูโน๊ะ ประสบเหตุโรงงานประทัดระเบิด มอบ สส.พปชร เร่งดูแล ปชช.ในพื้นที่ลดความเดือดร้อน

30 กรกฎาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องประชาชนชาว ต.มูโน๊ะ อ.สุไหง-โกลก จ.นราธิวาส จากอุบัติเหตุโรงงานประทัดระเบิดเมื่อวันที่ 29 กค ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมถึงบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายในวงกว้าง

ทั้งนี้ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ บีลา ส.ส.นราธิวาส เขต 3 และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส. นราธิวาส เขต 2 ได้ลงเข้าพื้นที่เปิดครัว และที่พักชั่วคราว พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการให้ความช่วยเหลือและดูแลพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะรองนายกฯ ดูแลด้านความมั่นคง ได้สั่งการลงในพื้นที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โดยด่วน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 กรกฎาคม 2566

“ดร.เอ สะถิระ” หนุน พัฒนาคนรุ่นใหม่รับอุตสาหกรรมใหม่ พร้อมส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้คนพื้นที่ ลั่น ขอทำงานเพื่อสัตหีบตลอดไป

,

“ดร.เอ สะถิระ” หนุน พัฒนาคนรุ่นใหม่รับอุตสาหกรรมใหม่ พร้อมส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้คนพื้นที่ ลั่น ขอทำงานเพื่อสัตหีบตลอดไป

นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จ.ชลบุรี อยู่ในเขตพื้นที่เศรษฐหกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งเราได้พัฒนาพื้นที่ รวมถึงการสร้างบุคลากรเพื่อรองรับ โดยรัฐบาลชุดที่ผ่านมาได้วางแผนพัฒนาแรงงานทักษะไว้เพื่อรองรับการขยายตัวในพื้นที่ และอุตสาหกรรมใหม่ที่มาพร้อมอีอีซี โดยเน้นดึงคนรุ่นใหม่ของให้เกิดการเรียนรู้กับวิชาการแนวใหม่ๆที่จะนำมาสู่การสร้างรายได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่มากขึ้น รวมทั้งเร่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ปัญหาสาธารณูปโภครวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ที่บางแห่งที่ยังมีความต้องการจากประชาชน สิ่งเหล่านี้ คือ เรื่องที่เราทำไปแล้วแต่ก็ยังมีความจำเป็นที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

นายสะถิระ กล่าวต่อว่า ตลอด 4 ปีของการลงพื้นที่ทำหน้าที่ ส.ส.มีทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหา และแนวทางการพัฒนา โดยตนได้นำเสียงสะท้อนของพี่น้องประชาชนไปบอกต่อพรรค เพื่อนำเสนอในแผนนโยบายของรัฐบาล นำมาสู่การพัฒนาอำเภอสัตหีบ ซึ่งเป็นเสียงจากล่างสู่บน ไม่ใช่บนสู่ล่าง เพื่อพี่น้องชาวอำเภอสัตหีบ ตนฟังเสียงของประชาชนเป็นหลักในการทำงานมาโดยตลอด

“ผมอาจไม่ใช่ผู้แทนที่เก่ง หรือ ดีที่สุด แต่ขอปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงชาติบ้านเมือง เพื่อศักดิ์ศรีของอำเภอสัตหีบ ผมตั้งใจมาเป็นปากเป็นเสียงในการทำงาน แก้ปัญหา พัฒนา ยังคงเป็นแนวทางการทำงานที่สำคัญที่สุด ถึงแม้ว่า การเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่แนวทางการทำงานของผมเป็นเช่นนี้เพื่อสัตหีบตลอดไป”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 กรกฎาคม 2566

“ส.ส.เพชรภูมิ” ร่วมผลักดันสร้างฝายผันน้ำแม่น้ำปิงสำเร็จ แก้ปัญหาน้ำขาดแคลนช่วยเกษตรกรนับแสนไร่ใน3อำเภอ

,

“ส.ส.เพชรภูมิ” ร่วมผลักดันสร้างฝายผันน้ำแม่น้ำปิงสำเร็จ
แก้ปัญหาน้ำขาดแคลนช่วยเกษตรกรนับแสนไร่ใน3อำเภอ

นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ สส.จังหวัดกำแพงเพชร เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนน้ำซึ่งตนได้ร่วมประสานแนวทางการช่วยเหลือไปยังกรมชลประทานซึ่งล่าสุดทางกรมชลฯได้เตรียมพัฒนาฝายกั้นน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างในเร็วๆ นี้ เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำปิง ทำการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ ผลิตประปาหมู่บ้าน ให้กับพี่น้องประชาชน ในตำบลลานดอกไม้ อำเภอเมืองกำแพงเพชร ตำบลโกสัมพี อำเภอโกสัมพีนคร และอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ขณะเดียวกันได้ทำข้อตกลงกับประชาชนในการใช้น้ำ เพื่อลดปัญหาการแย่งชิงน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ในฤดูกาลเพาะปลูก

นอกจากนี้ยังต้องมีการพัฒนาในเรื่องของคลองส่งน้ำ ประตูน้ำต่างๆ ต่อไป เพื่อให้สอดรับกับฝายที่จะพัฒนาขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ไม่ใช่คลองที่กรมชลประทานรับผิดชอบ ทำให้ไม่สามารถ เข้าไปซ่อมบำรุง หรือพัฒนาได้เท่าที่ควร แต่เมื่อมีการพัฒนาโครงการฝายกันน้ำแล้วเสร็จ ก็จะเป็นพื้นที่ของกรมชลประทานเข้ามาดูแล ซึ่งจะส่งผลดีตอประชาชนที่จะได้รับโอกาสพัฒนาระบบชลประทานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ผมพยายามผลักดันฝายกั้นน้ำตรงจุดนี้ร่วมกับชาวบ้านมาโดยตลอด จนประสบความสำเร็จ ที่กรมชลประทานเตรียมจะมาสร้างฝายกั้นน้ำ เพื่อผันน้ำไปยังพื้นที่ใช้น้ำจากลำคลองดังกล่าว ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้น้ำ ทั้งสามอำเภอซึ่งรวมพื้นที่ราว 1 แสนไร่ที่สำคัญหากฝายกั้นน้ำบริเวณนี้สร้างสำเร็จจะช่วยพี่น้องเกษตรกร ได้นับแสนไร่ด้วย”นายเพชรภูมิ กล่าว

นายเพชรภูมิ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำปิง เพื่อความสะดวกในการย่นระยะทางการติดต่อระหว่างอำเภอ ซึ่งปัจจุบัน ประชาชนต้องได้รับความเดือดร้อนในการสัญจร โดยเฉพาะการเดินทางไปรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลหลัก การขนส่งสินค้าเกษตร เป็นต้น จึงได้ประสานไปยังกรมหลวงชนบทให้พิจารณาเร่งเพื่อดำเนินการก่อสร้างสะพานดังกล่าว ซึ่งตนและประชาชนในพื้นที่ได้แก้ไขปัญหาการจัดการที่ดินเพื่อก่อสร้าง โดยเจ้าของที่ดินทั้งสองฝั่งแม่น้ำ ยินยอมให้ใช้ประโยชน์เป็นที่เรียบร้อย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 กรกฎาคม 2566

“อนุรัตน์ สส.พะเยา”หวั่นชาวบ้านประสบภัยแล้งหนัก น้ำไม่พอใช้ กระทบภาคเกษตร วอนรัฐพิจารณางบวางท่อน้ำเพื่อผลิตประปาระดับท้องถิ่นลดความเดือดร้อนให้ ปชช.

,

“อนุรัตน์ สส.พะเยา”หวั่นชาวบ้านประสบภัยแล้งหนัก น้ำไม่พอใช้ กระทบภาคเกษตร
วอนรัฐพิจารณางบวางท่อน้ำเพื่อผลิตประปาระดับท้องถิ่นลดความเดือดร้อนให้ ปชช.

นายอนุรัตน์ ต้นบรรจง สส. เขต 2 จังหวัดพะเยา ในอำเภอจุน ในอำเภอพูซาน อำเภอเชียงคำ กล่าวหารือถึงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ได้รับแจ้งจากพี่น้องประชาชนใน 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลลอ ตำบลหิน ตำบลห้วยยางขาว และตำบลห้วย ถึงสถานการณ์ปริมาณน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค รวมถึงเกษตร แหล่งน้ำในอำเภอจุนใน ที่ยังต้องพึ่งพิงจากธรรมชาติ โดยการขุดสระ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ แต่ขณะนี้ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากเกิดปัญหาภัยแล้ง น้ำในสระมีปริมาณไม่เพียงพอที่จะสูบขึ้นมาใช้ในการอุปโภค บริโภค ปัญหาที่ตามมาคือ น้ำในการใช้เพื่อการเกษตรไม่เพียงพอ เช่นเดียวกัน เนื่องจากประชาชนทั้ง 4 ตำบลนี้ มีอาชีพทำเกษตรกร ทำสวน ทำไร่ เป็นหลัก

“ผมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันงบประมาณ ส่งเสริมให้เกิดการโครงการวางท่อน้ำ HDPE จัดทำน้ำประปาระดับชุมชน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด มีน้ำใช้ แต่ในขณะนี้พบว่า ยังขาดงบประมาณ ในการที่จะทำการวางท่อ เพื่อการผลิตน้ำปะปา ที่จะป้อนให้กับประชาชนได้ใช้น้ำประปา ขอให้หน่วยงาน เร่งดำเนินการพิจารณา โดยด่วน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว “นายอนุรัตน์ กล่าว

นายอนุรัตน์ กล่าวต่อว่า ถนนสาย 1021 เป็นถนนที่เชื่อมต่อจาก อำเภอจุนสู่ อำเภอเชียงคำ ใน กมที่ 70+300 -กมที่ 71+400 เป็นแยกเชียงบาน เป็นจุดเสี่ยงสำคัญ ที่ประชาชนได้ประสบอุบัติเหตุ อย่างที่เรียนไว้ข้างต้นครับ กมที่ 70+300 -กมที่ 71+400 ตนขอให้ขยายเป็นถนนสี่เลน และมีสัญญาณไฟจราจร ให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 กรกฎาคม 2566