โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: ข่าวกิจกรรม

“ปกรณ์ จีนาคำ” เดินสายขอบคุณ ปชช. พร้อมทำงานพัฒนา จ.แม่ฮ่องสอน เล็งผลักดันเสนอยกจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้เป็น “จังหวัดพิเศษ” เพื่อลดปัญหารายได้ต่อหัวต่ำ และแรงงานฝีมือ รวมถึงข้าราชการขาดแคลน

,

“ปกรณ์ จีนาคำ” เดินสายขอบคุณ ปชช. พร้อมทำงานพัฒนา จ.แม่ฮ่องสอน เล็งผลักดันเสนอยกจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้เป็น “จังหวัดพิเศษ” เพื่อลดปัญหารายได้ต่อหัวต่ำ และแรงงานฝีมือ รวมถึงข้าราชการขาดแคลน

นายปกรณ์ จีนาคำ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.แม่ฮ่องสอน เขต 1 เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนในทุกอำเภอที่ให้ความไว้วางใจตนเอง ซึ่งขณะนี้กำลังรอการรับรองผลอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) เมื่อรับรองแล้ว ตนจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนบุคลากรของหน่วยราชการ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของการขับเคลื่อนจังหวัด ด้วยข้อจำกัดของภูมิศาสตร์ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ห่างไกล ทำให้บุคลากรที่จะมาบรรจุทำงานในพื้นที่มีไม่มาก และไม่เพียงพอต่อการบริหารงานด้านต่างๆให้มีประสิทธิภาพ ตนจึงตั้งใจว่า ทันทีที่เปิดสภาฯ จะเร่งเสนอให้มีการยกฐานะของจังหวัด เป็นเมืองพิเศษ เช่นเดียวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้มีการกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่นมากขึ้น

“จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากร ของหน่วยราชการ ที่จะเข้ามาให้บริการประชาชน ผมต้องการให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีข้าราชการเพียงพอต่อการพัฒนาพื้นที่ ทั้งด้าน เศรษฐกิจ สังคม และสุขอนามัย เพื่อให้ทัดเทียมกับพื้นที่อื่นๆ ผมเห็นว่า ควรมีการผ่อนผันข้อบังคับระบบราชการ โดยการสร้างแรงจูงใจ การปฎิบัติหน้าที่ของบุคลากร ที่จะเข้ามาบรรจุในพื้นที่ และควรมีระยะเวลาทำงานในพื้นที่ได้นานขึ้น การพิจารณาความเหมาะสม ของค่าตอบแทน ค่าเดินทาง พร้อมทั้งเพิ่มอำนาจการอนุมัติให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด การใช้พื้นที่ป่า เพื่อการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ทั้งไฟฟ้า ถนน เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น”นายปกรณ์ กล่าว

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาในเรื่องของที่ทำกิน จะต้องเร่งผลักดันให้มีการออกใบอนุญาตโดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เพราะปัจจุบันมีประชาชน กว่า 2 หมื่นครัวเรือนที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตในการเข้าทำกินในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ตามนโยบายคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เพื่อเป็นการลดปัญหาการบุกรุกป่า เพราะพื้นที่แม่ฮ่องสอนมีประชาชนที่เป็นกลุ่มชาติพันธ์หลากหลาย เน้นทำการเพาะปลูกอยู่ในพื้นที่สูงซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่า ดังนั้นควรส่งเสริมให้เกิดอาชีพที่มั่นคง และลดกระทำผิดทางกฎหมาย พร้อมให้เป็นแนวร่วมในการดูแลฟื้นฟูป่าให้อุดมสมบูรณ์มากขึ้นไปพร้อมกัน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 มิถุนายน 2566

เดินหน้าทำงานไม่ต้องรอ กกต.!”อัครแสนคีรี ว่าที่ ส.ส.ชัยภูมิ”ลงพื้นที่ประสานเครื่องจักรฟื้นฟูแหล่งน้ำ รับมือหน้าฝน ลั่น เกษตรกรชัยภูมิต้องก้าวสู่ตลาดโลก

,

เดินหน้าทำงานไม่ต้องรอ กกต.!”อัครแสนคีรี ว่าที่ ส.ส.ชัยภูมิ”ลงพื้นที่ประสานเครื่องจักรฟื้นฟูแหล่งน้ำ รับมือหน้าฝน ลั่น เกษตรกรชัยภูมิต้องก้าวสู่ตลาดโลก

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ชัยภูมิ เขต 7 กล่าวว่า ในช่วงระหว่างรอการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตนก็ได้ลงพื่นที่หนองซ่อ ม.3 บ้านโคกสง่า ตำบลห้วยไร่ ซึ่งปัจจุบันมีสภาพปกคลุมไปด้วยวัชพืชจำนวนมาก ทำให้กักเก็บน้ำไม่ได้ และยังเป็นด่านรับน้ำด่านหน้าของอำเภอคอนสวรรค์ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่น้ำจากบนเขาภูแลนคาจะไหลมาตรงนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องรีบเอาวัชพืชออก เพื่อให้กักเก็บน้ำได้มากขึ้นทั้งหน้าแล้งและหน้าฝน ตนจึงได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รีบเข้ามาดูเพื่อประสานเครื่องจักรฟื้นฟูแหล่งน้ำ โดยเบื้องต้นทราบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะสามารถย้ายรถแบคโฮเข้ามาขุดลอกได้ภายในอาทิตย์หน้า

“การผลักดันโครงการเพิ่มพื้นที่ในการกักเก็บน้ำในระดับหมู่บ้าน ผลักดันโครงการกักเก็บน้ำ ป้องกันน้ำท่วมแล้งซ้ำซาก เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องช่วยเหลือเกษตรกร รวมไปถึงแนวทางการลดต้นทุนรายจ่าย เช่น ราคาปุ๋ยแพง อาหารสัตว์แพงด้วย ไฟฟ้าแพง”

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า การเกษตรจะพัฒนาได้ก็จะตัองมีความร่วมมือระหว่างจังหวัด และระหว่างประเทศ เพื่อเป็นช่องทางในการช่วยซื้อขายสินค้าเกษตร เช่น มันสำปะหลัง อ้อย ให้กับพี่น้องชาวชัยภูมิ
และจะเป็นการยกระดับรายได้เกษตกรชัยภูมิ ตนมีความตั้งใจที่จะทำให้จังหวัดชัยภูมิก้าวออกไปสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งมีความต้องการกินการใช้มหาศาล

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 มิถุนายน 2566

“ฉกาจ ว่าที่ส.ส.พังงา” เตรียมสานต่อแก้ปัญหาน้ำ-ที่ทำกินให้ปชช.หนุนปรับปรุงผังเมืองจังหวัดสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มรายได้คนท้องถิ่น

,

“ฉกาจ ว่าที่ส.ส.พังงา” เตรียมสานต่อแก้ปัญหาน้ำ-ที่ทำกินให้ปชช.หนุนปรับปรุงผังเมืองจังหวัดสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มรายได้คนท้องถิ่น

นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.พังงา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่า เป้าหมายการทำงานในพื้นที่หลังที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตนจะสานต่อนโยบายที่ทำกิน และการแก้ปัญหาเรื่องแหล่งน้ำตามนโยบายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร. ที่ให้ความสำคัญและล่าสุดได้ลงพื้นที่มายังอำเภอกะปง จังหวัดพังงาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำในพื้นที่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจในจังหวัดตามที่ท้องถิ่นนำเสนอ

“ผมจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามเพื่อการสนับสนุนและผลักดันในการสร้างอ่างเก็บน้ำโดยเฉพาะ ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล บางทอง, ลำภี ,โคกเคียน ที่ได้เริ่มดำเนินการสำรวจเพื่อออกแบบและประมาณการความเป็นไปได้ ในการที่จะก่อสร้างเพื่อสนับสนุนให้ภาคเกษตรและประชาชนมีแหล่งน้ำใช้ที่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น”นายฉกาจกล่าว
นอกจากนี้ยังจะมีการยกระดับจังหวัดพังงา ให้เป็นแหล่งรองรับนักท่องเที่ยว ภายใต้การขับเคลื่อนแบบคลัสเตอร์ที่ควรจะมีการเชื่อมโยงกับจังหวังต่างๆ ในฝั่งทะเลอันดามัน ที่สามารถพัฒนาจากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์ เกิดการสร้างรายได้ให้กับชาวพังงามากยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบัน

“ต้องมีการเสนอการปรับปรุงผังเมืองใหม่ จ.พังงา เพราะปัจจุบันเป็นพื้นที่สีเขียว ทำให้ไม่สามารถพัฒนาได้เท่าที่ควร ซึ่งเรื่องนี้ ต้องอาศัยการเข้าไปทำหน้าที่ผลักดันในสภาฯ ผ่านการขับเคลื่อนของพรรค ทั้งนี้พรรคพลังประชารัฐจะมีการแบ่งงาน และหน้าที่ความรับผิดชอบภายหลังสภาฯเปิด เพื่อจะได้เดินหน้าในการเข้าไปเป็นปากเสียงให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่”นายฉกาจ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 มิถุนายน 2566

“นเรศ ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่” ฝ่าศึกเลือกตั้ง ปชช.เทเสียงหนุน เชื่อมั่นในผลงาน ลุยสานต่อโครงการสร้างแหล่งน้ำผลักดัน พ.ร.บ.ลำไยแก้ปัญหาราคาตกต่ำ

,

“นเรศ ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่” ฝ่าศึกเลือกตั้ง ปชช.เทเสียงหนุน เชื่อมั่นในผลงาน ลุยสานต่อโครงการสร้างแหล่งน้ำผลักดัน พ.ร.บ.ลำไยแก้ปัญหาราคาตกต่ำ

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 9 จ. เชียงใหม่ กล่าวว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาตนได้รับคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน จนสามารถเป็นหนึ่งในว่าที่ ส.ส. พปชร. อีก 1 สมัย จาก 10 เขตในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งเป็นผลมาจากทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในหลายแห่งที่เป็นนโยบายของพรรค โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มุ่งการแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่ จนสามารถมีโครงการแหล่งกักเก็บน้ำให้ประชาชนได้มีน้ำกิน น้ำใช้ เพื่ออุปโภค บริโภคตลอดปีรวมถึงภาคการเกษตร และยังมีโครงการต่อเนื่องที่ต้องสานต่อ อาทิ อ่างเก็บน้ำโป่งจ้อ อ่างเก็บน้ำแม่วาง และโครงการทำน้ำประปา เพื่อประชาชน การจัดหาแหล่งน้ำบาดาล ในโครงการเกษตรแปลงใหญ่ พร้อมกับติดตามความคืบหน้าการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ปอน ซึ่งจะเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่เข้ามาแก้ไขปัญหา เพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนให้กับประชาชนในพื้นที่

นายนเรศ กล่าวต่อว่า เรายังมีแผนที่ต้องเร่งผลักดันในระยะต่อไป ในเรื่องการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะปัญหาราคาลำไย ที่ต้องเผชิญกับราคาตกต่ำในแต่ละปี จำเป็นต้องมีการผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.ลำไย เพื่อมาดูแลราคาผลผลิตให้ได้รับความเป็นธรรม เช่นเดียวกับสินค้าเกษตรหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นยางพารา มันสำปะหลัง และอ้อย ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการหารือในพรรค ว่าจะวางแนวทางให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมเพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ให้สามารถ ออก พ.ร.บ.เพื่อแก้ปัญหาราคาลำไย ของเกษตรกร 8 จังหวัดของภาคเหนือ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ในฐานะเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหรกรณ์ ได้เข้าร่วมพิจารณาแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำซึ่งเป็นความเดือดร้อนที่เกษตรกรได้รับมาอย่างต่อเนื่อง

“การที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน เนื่องจาก การทำงานที่เห็นผลงานเป็นรูปธรรม และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ทั้ง การหาแหล่งน้ำ แก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญของการประกอบอาชีพ ของพี่น้องชาวภาคเหนือ ทำให้ผมสามารถฝ่าฟัน สนามการแข่งขันเลือกตั้งใน พื้นที่จ.เชียงใหม่ ที่มีความรุนแรงและเข้มข้นของ สองพรรคใหญ่ จนได้รับชัยชนะ และต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เชื่อมั่นในการทำงานของตนและพปชร. จากนี้ไป ยังคงมุ่งมั่น พร้อมทำงานอย่างหนัก เพราะบางพื้นที่ยังต้องได้รับการแก้ไข และเยียวยา เพื่อเข้าไปยกระดับคุณภาพชีวิต ของพี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้น” นายนเรศ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 พฤษภาคม 2566

ผู้กองธรรมนัส ควงว่าที่ ส.ส. เขต 2 พะเยา ‘น้องออม อนุรัตน์ ตันบรรจง’ ร่วมประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง ประจำปี 2566 ‘รวมพลคนอิสานล้านนา สืบสานตำนานบุญบั้งไฟตำบลอ่างทอง’

,

ผู้กองธรรมนัส ควงว่าที่ ส.ส. เขต 2 พะเยา ‘น้องออม อนุรัตน์ ตันบรรจง’ ร่วมประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง ประจำปี 2566 ‘รวมพลคนอิสานล้านนา สืบสานตำนานบุญบั้งไฟตำบลอ่างทอง’

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)เขต1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานพิธีเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง ประจำปี 2566 ‘รวมพลคนอิสานล้านนา สืบสานตำนานบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง’ ณ บ้านปางมดแดง ตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา โดยมีนางสาวธนพร ศรีวิราช ภริยา และนายอนุรัตน์ ตันบรรจง ว่าที่ ส.ส.เขต จังหวัดพะเยา ไปร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ตำบลอ่างทอง และหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ยินดีที่ได้มาร่วมประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง เพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของพ่อแม่พี่น้องชาวอีสาน ในพื้นที่ตำบลปางมดแดง ที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาจากหลายจังหวัดของภาคอีสานทั้ง กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ และมหาสารคาม เป็นเวลานาน และเมื่อมีพ่อแม่พี่น้องชาวอิสานเข้ามาอาศัยเป็นจำนวนมาก ขยายเป็นหลายหมู่บ้านของตำบลอ่างทอง ต่างก็ร่วมกันสานต่อประเพณีบุญบั้งไฟอันดีงามนี้มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตนเองพร้อมสนับสนุนให้มีการจัดประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง สู่รุ่นลูกหลานในอนาคตสืบไป

สำหรับงานประเพณีบุญบั้งไฟบ้านปางมดแดง ตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา จัดโดยองค์การบริหารส่วนตำบลอ่างทอง ระหว่างวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2566 ภายในงานมีทั้งการประกวดขบวนแห่บั้งไฟ และขบวนเซิ้งแต่ละชุมชน การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน เซิ้งและโปงลาง หมอลำ และยังมีการจุดบั้งไฟ เพื่อบูชาพญาแถน (ขอฝน) ณ อ่างเก็บน้ำสาธารณะ (หนองสลาบ) บ้านปางมดแดง หมู่ที่ 4 ตำนลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ อีกด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤษภาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” จูงใจพลเรือนและเอกชน เข้าร่วมพัฒนากองทัพ ใช้กลไกระบบกำลังสำรอง ดึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาศักยภาพ

,

“พล.อ.ประวิตร” จูงใจพลเรือนและเอกชน เข้าร่วมพัฒนากองทัพ ใช้กลไกระบบกำลังสำรอง ดึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาศักยภาพ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำลังพลสำรอง ผ่านระบบ เพื่อขับเคลื่อนกิจการกำลังพลสำรอง ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองของ กห.ปี 66 -70 รองรับการปฏิรูปกองทัพสมัยใหม่ ทั้งนี้ที่ประชุมรับทราบ การเปิดให้ผู้มีความรู้ ความชำนาญเฉพาะทาง สามารถเป็นกำลังพลสำรองครั้งแรกได้โดยไม่กำหนดอายุ รวมทั้งการกำหนดแต่งตั้ง เลื่อนยศกำลังสำรองได้ถึงยศ พันเอกหรือเทียบเท่า และการกำหนดสิทธิประโยชน์ของกำลังพลสำรอง จากอันตรายหรือเจ็บป่วย พร้อมทั้งรับทราบยุทธศาสตร์พัฒนาระบบกำลังสำรอง ที่เน้นการควบคุม บริหารจัดการด้านนโยบาย การพัฒนากิจการ การเสริมสร้างเครือข่าย การปรับปรุงกฎหมาย การพัฒนาสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ รวมทั้งการพัฒนาและปรับปรุงระบบฐานข้อมูลทรัพยากรด้านกำลังสำรองและกำลังพลสำรอง

ทั้งนี้ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาและเห็นชอบหลักการ รวม 3 ประเด็น คือ การปรับปรุงตำแหน่งและอัตราของหน่วยทหารรองรับการบรรจุกำลังพลสำรอง การบรรจุบุคคลพลเรือนและภาคเอกชน ที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะทาง และบรรจุกำลังพลสำรองให้มีชั้นยศที่เหมาะสม และการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลกำลังพลสำรองกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อการบริหารจัดการกำลังพลสำรองอย่างมีประสิทธิภาพ

พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ระบบกำลังสำรอง จะช่วยเสริมและพัฒนาศักยภาพกองทัพ จากบุคคลพลเรือนภายนอกกองทัพเป็นการชั่วคราวและเท่าที่จำเป็น จึงขอให้ กห.ได้ประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง หารือและขอความเห็นชอบในประเด็นที่อาจไม่สอดคล้องและขัดกันในข้อกฎหมาย ทั้งนี้ ขอให้กำหนดภารกิจและตำแหน่งเฉพาะที่จำเป็น พร้อมทั้งให้ติดตามประเมินผลการใช้ตำแหน่งและอัตราที่กำหนด เพื่อช่วยเสริมศักยภาพกองทัพและใช้ประโยชน์จากระบบกำลังสำรองอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤษภาคม 2566

“สัมพันธ์ – อามินทร์” คว้าที่นั่งส.ส.เดินหน้าแก้ปัญหาปากท้องจ.นราธิวาส กระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจพื้นที่ดึงคนมาเลย์เข้าไทยกระจายรายได้ ปชช.

,

“สัมพันธ์ – อามินทร์” คว้าที่นั่งส.ส.เดินหน้าแก้ปัญหาปากท้องจ.นราธิวาส กระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจพื้นที่ดึงคนมาเลย์เข้าไทยกระจายรายได้ ปชช.

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา ในจังหวัดนราธิวาส ตนและ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ เขต 2 ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง โดยตนได้รับการแต่งตั้งเป็นสมัยที่ 2 ถือเป็นความไว้วางใจที่ ประชาชนในพื้นที่ได้มอบให้ และพร้อมทำหน้าที่ต่อเนื่อง นอกจากเรื่องการสร้างสันติสุขในพื้นที่ ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน ทำให้สามารถพัฒนาการเติบโตทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ที่ต้องการสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับประชาชน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับคืนมา เพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชน โดยการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียมาสู่จังหวัดนราธิวาสมากยิ่งขึ้น ที่อาศัยความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ

“ส่วนเรื่องการกินดีอยู่ดีที่มั่นคง ยังเป็นปัญหาที่ต้องเร่งเข้าไป ส่งเสริมอาชีพทางการเกษตร ที่ปัจจุบันเกษตรกร มีการละทิ้งไร่นา จนเป็นนาล้าง ไม่มีการเพาะปลูก จึงจะวางแผนเร่งส่งเสริม ประสานหน่วยราชการ ให้มาสนับสนุน โดยการมอบเมล็ดพันธ์ข้าว เพื่อให้ที่นากลับมาเป็นที่ทำกินได้อีกครั้ง เชื่อมั่นว่า จะทำให้ประชาชน มีอาชีพ และมีรายได้มั่นคงมากขึ้น”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 พฤษภาคม 2566

ว่าที่ ส.ส.อรรถกร ขอบคุณเสียง ปชช.เขต 2 ฉะเชิงเทรา เร่ง ทำงานสางปัญหาราคากุ้งช่วยเกษตรกรรายย่อยทันที

,

ว่าที่ ส.ส.อรรถกร ขอบคุณเสียง ปชช.เขต 2 ฉะเชิงเทรา เร่ง ทำงานสางปัญหาราคากุ้งช่วยเกษตรกรรายย่อยทันที

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ฉะเชิงเทรา เขต 2 หนึ่งในว่าที่ส.ส.พปชร. ที่ชนะการเลือกตั้งเป็นผู้แทนของชาวฉะเชิงเทรา และเป็นหนึ่งในผู้สมัครที่สามารถฝ่าการแข่งขันสูงในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ตนขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความเชื่อมั่นให้ได้ทำงานต่อเนื่อง ตนพร้อมทำงานทันที เพราะยังมีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง ซึ่งประสบปัญหาราคากุ้งไม่สอดคล้องกับต้นทุนการเพาะเลี้ยง ทั้งค่าอาหารและปูนในการเพาะเลี้ยงปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรประสบปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เข้าร่วมประชุมหารือ กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อวางแนวทางร่วมกัน ในการยกระดับราคากลางให้สูงขึ้น คุ้มค่ากับการลงทุนในการเพาะเลี้ยง ควบคู่กับการหาช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับเกษตรกรรายย่อยในระยะต่อไป เพื่อให้ได้ราคากุ้งที่เหมาะสมกับต้นทุน

“พื้นที่ฉะเชิงเทรา เป็นแหล่งผลิตกุ้งเลี้ยง อีกแห่งหนึ่ง ถือเป็นเศรษฐกิจพื้นฐานของจังหวัด ต้องได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาระยะยาว ให้เกษตรกรอยู่รอดได้”นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า เราต้องเร่งสานต่อนโยบายการแก้ปัญหาเรื่องน้ำในจังหวัด ทั้งการแก้ไขปัญหาน้ำเค็ม การจัดหาแหล่งน้ำจืด และลดปัญหาน้ำกร่อย พร้อมกับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้น้ำสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เพราะพื้นที่ฉะเชิงเทรา มีความหลากหลายทางอาชีพ นอกจากเกษตรกรรม ยังเป็นแหล่งเพาะพันธ์สัตว์น้ำ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมด้วย ทำให้ความต้องการใช้น้ำมีการปริมาณเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 พฤษภาคม 2566

“ทวี สุระบาล” ว่าที่ส.ส. ตรัง ขอบคุณปชช.เทเสียงขึ้นแชมป์อันดับ1 ของประเทศ พร้อมลุยทำงานแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องดันทุกเรื่องเข้าสู่สภาฯ

,

“ทวี สุระบาล” ว่าที่ส.ส. ตรัง ขอบคุณปชช.เทเสียงขึ้นแชมป์อันดับ1 ของประเทศ พร้อมลุยทำงานแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องดันทุกเรื่องเข้าสู่สภาฯ

นายทวี สุระบาล ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จ.ตรัง กล่าวว่า ตนขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดตรังเขต 2 ที่มอบคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น จนสามารถมีคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. 2566 สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ด้วยคะแนนเสียง 63,185 คะแนน เป็นครั้งที่ 2 ที่พี่น้องชาวจ.ตรังให้ความไว้วางใจ จากเมื่อปี 2544 ที่เคยได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเป็นครั้งแรก 65,458 คะแนน นับเป็นคนแรกของรัฐสภาไทยที่ได้คะแนนสูงสุด สองครั้ง ซึ่งเป็นการทำงานลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ยังได้ทำหน้าที่พบปะประชาชน อย่างใกล้ชิดไม่เคยทิ้งพื้นที่

นายทวี กล่าวต่อว่า พี่น้องประชาชนยังพอใจในนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะการเพิ่มเบี้ยสวัสดิการ 700 บาท และ และ เบี้ยยังชีพผู้สูงวัย โดยการเพิ่มเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน หรือเรียกว่า‘เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3 4 5 และ 6 7 8’

“หลังจากนี้ แม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เตรียมพร้อม และลงพื้นที่ต่อเนื่อง ไม่เคยปฏิเสธการเข้าถึงประชาชนเพื่อช่วยเหลือในทุกเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง ที่ต้องเร่งเสนอต่อ พรรค เพื่อนำไปผลักดันในสภาฯ ต่อไป “

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤษภาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” ร่วมรับมอบธงในฐานะเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 !!!

, ,

“พล.อ.ประวิตร” ร่วมรับมอบธงในฐานะเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 !!!

ปิดฉากลงแล้วกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 สนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช ประเทศกัมพูชา โดยบิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ร่วมรับมอบธงในฐานะเจ้าภาพครั้งต่อไป ครั้งที่ 33 อีก 2 ปีข้างหน้า ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม ในปี พ.ศ. 2568 ใช้กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, สงขลา เป็น 3 จังหวัดหลักในการเป็นเจ้าภาพ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 พฤษภาคม 2566

ป๊อป”นิธิ”ควง “เป้ย”ปานวาดสวมบทอีกี้-เด็กแว้นสร้างสีสันเรียกคะแนนโค้งสุดท้าย

,

ป๊อป”นิธิ”ควง “เป้ย”ปานวาดสวมบทอีกี้-เด็กแว้นสร้างสีสันเรียกคะแนนโค้งสุดท้าย

วันนี้(13 พ.ค.66 ) นายนิธิ บุญยรัตกลิน (ป๊อป) ผู้สมัคร ส.ส. เขตทวี วัฒนา-ตลิ่งชั่น(ยกเว้นแขวงบางเชือกหนัง ) พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ลงพื้นที่หาเสียงพร้อมทีมงานโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้(14พ.ค.) ทุ่มสุดตัวด้วยการควงภรรยา”เป้ย” ปานวาด เหมมณี บุญยรัตกลิน ร่วมหาเสียงพร้อมแปลงร่างเป็นอีกี้ สุดแซ่บ!!!! ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ที่ป๊อปทำหน้าที่เป็นเด็กแว้น ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องหันมาให้ความสนใจตลอดทางเพราะงานนี้สาวเป้ยใช้โทรโข่งพูดหาเสียงอ้อนให้ประชาชนสนับสนุนท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนจัด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

“ผู้กองมาร์ค”เชื่อมั่นว่า ปชช.ให้โอกาสผู้แทนฯที่ลงพื้นที่และทำงานจริง วอน 14 พ.ค.นี้ เข้าคูหา ตัดสินใจเลือกจากหัวใจและสายตา

,

“ผู้กองมาร์ค”เชื่อมั่นว่า ปชช.ให้โอกาสผู้แทนฯที่ลงพื้นที่และทำงานจริง วอน 14 พ.ค.นี้ เข้าคูหา ตัดสินใจเลือกจากหัวใจและสายตา

13 พ.ค. 2566 / ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางซื่อ – ดุสิต กทม.หมายเลข 12 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยก่อนวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.ว่า ตนความมั่นใจในคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพราะตนทำงานในเขตบางซื่อมากว่า 13 ปี แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งใด ๆทางการเมืองเลย ตนได้สัมผัสกับชาวบ้าน เราร่วมทุกข์ ร่วมสุขมาด้วยกัน จึงเชื่อมั่นว่า ประชาชนจะให้โอกาสผู้แทนที่ลงพื้นที่และทำงานจริง

“หลายคนอาจจะอยากถามผมเรื่องอุดมการณ์ทางความคิดทางการเมืองของผม ซึ่งผมขอตอบตรงนี้เลยว่า ผมไม่ได้ยึดโยงที่พรรคการเมือง แต่ผมสามารถทำงานร่วมกับพรรคการเมืองใดก็ได้ ที่มีนโยบายแนวทางในการทำงานที่ตรงกัน และอะไรดีที่สุดสำหรับประเทศ เพื่อที่จะทำงานให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด ” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวต่อว่า การพัฒนาพื้นที่บ้านเกิดของเรา ตนไม่สามารถทำคนเดียวต่างลำพังได้ แต่ตนเข้ามาขอโอกาสรับใช้พี่น้องประชาชน แล้วเราจะมาร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืนและถาวร พรุ่งนี้จะเป็นวันที่คนไทยได้ตัดสินอนาคตของตัวเอง ขออย่าเลือกผู้สมัคร ส.ส.โดยการฟังเสียงโน้มน้าวของใคร แต่ขอให้ฟังเสียงหัวใจตัวเอง ตัดสินจากสายตาที่เคยเห็นการทำงานของผู้สมัคร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566