โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: ข่าวกิจกรรม

”สส.จำลอง”วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการปัญหายาเสพติดแพร่ระบาด หลังสถิติผู้ป่วยเพิ่มสูง หวั่น เป็นจุดเริ่มต้นของอาชญากรในสังคม

,

”สส.จำลอง”วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการปัญหายาเสพติดแพร่ระบาด หลังสถิติผู้ป่วยเพิ่มสูง หวั่น เป็นจุดเริ่มต้นของอาชญากรในสังคม

นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ปัจจุบันยาเสพติดได้แพร่ระบาดไปทุกหย่อมหญ้าของสังคมไทย จากสถิติเมื่อปี พ.ศ 2566 มีผู้ป่วย 195,604 คน และปี 2567 ซึ่งยังไม่ถึงสิ้นปียังมีผู้ป่วยสะสม 46,566 คน จากแค่ 2 ปี มียอดผู้ติดยาเสพติดถึง 241,210 คน

“ผมได้ไปสอบถามตัวเลขสถิตินี้จากสาธารณสุขจังหวัด
และได้รับคำตอบว่า สถิติผู้ที่มารักษาในโรงพยาบาล ต้องคูณด้วย 10 เท่า ลองคิดดูว่าสังคมจะเป็นอย่างไร
ในอนาคต“นายจำลอง กล่าว

นายจำลอง กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ในพื้นที่ของตนเกิดเหตุฆาตกรรมที่อำเภอท่าคันโท โดยชายชรา อายุ 74 ปี ถูกฆาตกรรม โดยเยาวชนที่ติดยาเสพติด แล้วเกิดอาการอาละวาด จนเกิดเหตุสลดขึ้น นอกจากนี้ เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมผู้ปกครองของเด็กในพื้นที่ได้ปรึกษาตนว่า อยากมีอาวุธปืน ตนจึงถามว่า จะเอาไปทำไม เพราะว่าเป็นเกษตรกรไม่จำเป็นต้องพกอาวุธ ซึ่งชาวบ้านบอกว่า ลูกมาอาละวาดเกือบทุกวันเพราะติดยาเสพติด จะทำร้ายพ่อ จึงต้องการขอมีใบอนุญาตพกพาอาวุธ เพื่อป้องกันตนเอง จึงขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการ แก้ไขปัญหายาเสพติดด้วย“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2567

‘พปชร.’ ย้ำ จุดยืน หนุน แคนดิเดตนายกฯ จาก’เพื่อไทย’ ทั้ง ‘ชัยเกษม-แพทองธาร’ มั่นใจโควต้า รมต. ยังเหมือนเดิม

,

‘พปชร.’ ย้ำ จุดยืน หนุน แคนดิเดตนายกฯ จาก’เพื่อไทย’ ทั้ง ‘ชัยเกษม-แพทองธาร’ มั่นใจโควต้า รมต. ยังเหมือนเดิม

วันที่ 15 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ,นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ด้านกิจกรรมสัมพันธ์พร้อมด้วย สส.ของพรรคพลังประชารัฐ ร่วมแถลงจุดยืนต่อกรณีการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้(16 ส.ค.)

โดยนายสันติ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อแสดงจุดยืนแนวทางในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ดังนี้

1.พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนบุคคลในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้

2.พรรคพลังประชารัฐ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูนและธำรงซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พรรคพลังประชารัฐยังคงมีจุดยืนที่ไม่เปลี่ยนแปลงที่จะไม่ร่วมกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

3.พรรคพลังประชารัฐ ยึดมั่นในนโยบายที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดการส่งเสริมความปรองดองของคนในชาติ ให้มีความสามัคคี เพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ในเรื่องเศรษฐกิจ และความเท่าเทียม รวมถึงจะพัฒนาประเทศชาติของเราต่อไปให้มีความเข้มแข็ง

ทั้งนี้ นายสันติ เปิดเผยว่า ได้มีการพูดคุยกับพลเอกประวิตรเรียบร้อยแล้ว และท่านได้มอบหมายให้ ตนมาชี้แจงร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับหัวหน้าพรรค และก็มีมติชัดเจนตามที่ได้แถลงข่าวไป ซึ่งเราขอย้ำว่า เราสนับสนุนบุคคลใดก็ตามที่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอ และสิ่งสำคัญคือการยึดมั่นในนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ ยังมี 4 โควต้าตามเดิม ซึ่งภายหลังจากได้นายกรัฐมนตรีแล้ว ตนและนายสันติ จะมีการดำเนินการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ส่วนจะมีการสลับตัวบุคคลหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของหัวหน้าพรรค

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 สิงหาคม 2567

”สส.นเรศ“ขอกรมทางหลวงชนบท เข้าสำรวจและเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบนพื้นผิวถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 4016 ที่เป็นเส้นทางหลักเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว

,

”สส.นเรศ“ขอกรมทางหลวงชนบท เข้าสำรวจและเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบนพื้นผิวถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 4016 ที่เป็นเส้นทางหลักเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ เขต 9 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนขอฝากเรื่องร้องเรียนไปยังกรมทางหลวงชนบท เนื่องจากได้รับการร้องขอจากเทศบาลตำบลแม่วาง และ โครงการบริหารส่วนตำบลบ้านกาด อำเภอแม่วาง เพื่อขอเข้าแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ถนนทางหลวงชนบท เลขที่ 4016 เชื่อมต่อทางหลวง 1013 บ้านกาด-แม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ กม.ที่ 1-6 เนื่องจากช่วงหน้าฝนสภาพถนนจะมีน้ำท่วมขังและ ทางหลวงชนบทหมายเลข 4016 เป็นเส้นทางหลักของ อำเภอแม่วาง ที่จะเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นโครงการหลวง ปางช้าง ตลอดจนถึงเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังอุทยานดอยอินทนนท์

“ผมขอให้กรมทางหลวงชนบทเข้าสำรวจและเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อนก็ได้ เนื่องจากว่า ตอนนี้เข้าหน้าฝนแล้วเวลาน้ำท่วม ก็จะเกิดน้ำร่วมขังบนถนนมาโดยตลอด จึงขอให้กรมทางหลวงแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้พี่น้องประชาชนอำเภอแม่วาง“นายนเรศ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 สิงหาคม 2567

“สส.วรโชติ”ชี้ ข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ลานรับซื้อของเกษตรกรไทยน้อยลง วอน คงโควต้านำเข้าข้าวโพด 3 ต่อ 1 ไว้ให้เกษตรกรอยู่ได้

,

“สส.วรโชติ”ชี้ ข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ลานรับซื้อของเกษตรกรไทยน้อยลง วอน คงโควต้านำเข้าข้าวโพด 3 ต่อ 1 ไว้ให้เกษตรกรอยู่ได้

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน มีประชาชนตัวแทนของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มายื่นหนังสือให้กับผม เพื่อร้องเรียนเรื่องข้าวโพดที่มีการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน มันเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งในเดือนสิงหาคมและกันยายน จะเป็นฤดูที่เก็บเกี่ยวข้าวโพดของจังหวัดเพชรบูรณ์ ราคาตอนนี้ก็ยังถือว่าไปได้ แต่ว่าปัญหาใหญ่ๆ เลยก็คือ มีการนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำนวนเยอะ

นายวรโชติ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ลานรับซื้อข้าวโพดก็จะไม่ค่อยซื้อข้าวโพดจากชาวบ้าน เพราะว่า มีการรับซื้อข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา
และปัญหาที่น่าห่วงอีกประการหนึ่งที่ทางพี่น้องเกษตรกรฝากมาคือโควต้าการนำเข้า 3-1 ตนไม่ทราบว่าเขาไปรู้มาจากไหนว่า เร็วๆนี้จะมีการลด
โควต้าการนำเข้า จาก 3 ต่อ 1 จะไม่ใช่แบบนั้นแล้ว

”ถ้ามีการลดโควต้าตรงนี้ พี่น้องเกษตรกรแย่แน่ เพราะว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มันจะออกมา 3 ต่อ 1 ส่วน ใช้ข้าวโพดภายในประเทศ 3 ส่วนและนำเข้า 1 ส่วน ถ้าเกิดไปลดโควต้า 3 ส่วนของเกษตรกรแล้ว เขาจะอยู่อย่างไร วันนี้ราคาปุ๋ย ราคายา ราคาพันธุ์ข้าวโพด ก็แพงอยู่แล้ว ไร่นึงค่าใช้จ่ายตกค่าเฉลี่ยแล้ว 6,000 กว่าบาท แล้ววันนี้จะไปลดโควต้าเขาอีก ต้องฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดูเรื่องนี้ โดยอยากให้คง โควต้า 3 ต่อ 1 ไว้ ซึ่งผมจะฝากหนังสือที่ทางพี่น้องเกษตรกรฝากมาให้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย“นายวรโชติ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 สิงหาคม 2567

“สส.ปกรณ์”ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส-หน่วยงานของจังหวัดแม่ฮ่องสอน”ให้ความช่วยเหลือ ปชช.เดือดร้อนจากน้ำท่วมทันท่วงที ขอ เร่งซ่อมแซม“สะพานบ้านห้วยผา”อย่ารอให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้

,

“สส.ปกรณ์”ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส-หน่วยงานของจังหวัดแม่ฮ่องสอน”ให้ความช่วยเหลือ ปชช.เดือดร้อนจากน้ำท่วมทันท่วงที ขอ เร่งซ่อมแซม“สะพานบ้านห้วยผา”อย่ารอให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้

นายปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เกิดอุทกภัยที่รุนแรง หลาย ๆ พื้นที่ถูกน้ำป่าไหลหลากทับท่วมและดินสไลด์ ทำให้บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร สะพานและถนนต่างๆในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เบื้องต้นตนต้องขอขอบคุณทางหน่วยงานของจังหวัด โดยการนำของ
ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ได้เร่งเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว

“ผมต้องขอขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้แจ้งผมโดยตรงให้ช่วยจัดหาสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ที่รับความเสียหายเป็นอย่างมากนั้น เช่น อำเภอขุนยวม อำเภอปางมะผ้า อำเภอเมือง และอำเภแม่ลาน้อย บ้านเรือนส่วนใหญ่ที่เสียหายนั้นกว่า 400 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 คน และมีพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 2,000 ไร่ รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพอีกจำนวนมาก ณ วันนี้ ยังไม่สามารถที่จะประเมินความเสียหายได้ทั้งหมด

ส่วนในเรื่องของสะพานถนน ที่อำเภอขุนยวม ตำบลแม่ยวมน้อย บ้านแม่โกปี่ และ บ้านแม่ละก๊ะใต้ สะพานถนนถูกตัดขาด ยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้ ต้องใช้วิธีการเดินเท้า ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงที่จะเข้าถึงหมู่บ้านต่างๆ ในส่วนของสะพานที่สำคัญอีกเส้นหนึ่ง ก็คือ สะพานบ้านห้วยผา ตำบลห้วยผา อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮองสอน บนถนนเลขที่ 1095 สะพานแห่งนี้เคยถูกอุทกภัยมาครั้งหนึ่ง เมื่อเดือน ก.ย.66 และตั้งแต่นั้นมาก็เป็นสะพานชั่วคราวมาโดยตลอด วันนี้ก็เจออุทกภัยอีกรอบหนึ่ง

“ผมได้หารือเรื่องสะพานแห่งนี้มา 2 ครั้ง แต่ ณ.วันนี้ ก็ยังไม่มีการปรับปรุงหรือแก้ไขให้เป็นสะพานที่เป็นมาตรฐานและถาวร มีความปลอดภัยแต่อย่างไร และเท่าที่ทราบก็ไม่เห็นในงบประมาณปี 2567 และ ปี2568 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผมก็ไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้น หรือว่าจะต้องรอให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ ถึงจะดำเนินการแก้ไขได้ ผมขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านี้ด้วย”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 สิงหาคม 2567

‘บิ๊กป้อม’ ชูความสำเร็จไทยกวาด 6 เหรียญ สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาไทย

,

‘บิ๊กป้อม’ ชูความสำเร็จไทยกวาด 6 เหรียญ สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาไทย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ส.ค. 67 ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานในที่ประชุม สส. ประจำสัปดาห์ โดยมีแกนนำ และ สส. เข้าร่วมประชุม อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุขและรองหัวหน้าพรรค นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค  นายวราเทพ รัตนากร ผอ.พรรค เป็นต้น

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า พล.อ.ประวิตร ได้รายงานความสำเร็จของไทยในการจัดส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน นับเป็นประวัติศาสตร์การกีฬาของไทย ที่ได้รับเหรียญรวมมากที่สุดถึง 6 เหรียญ ได้แก่เหรียญทอง 1 เหรียญ เหรียญเงิน 3 เหรียญ และเหรียญทองแดง 2 เหรียญ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีกับนักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกประเภทกีฬา ซึ่งถือว่าการแข่งขันโอลิมปิก ในครั้งนี้ ไทยได้รับสิทธิในการส่งนักกีฬาสูงถึง 51 คน สะท้อนถึงความสนใจที่คนไทยให้ความสนใจในการเล่นกีฬา จึงเห็นว่าควรมีการส่งเสริม และเชิญชวนให้เยาวชนหันมาใส่ใจกีฬามากขึ้น เพื่อป้องกันเยาวชนเข้าสู่วงจรยาเสพติด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 สิงหาคม 2567

“สส.ชนนพัฒฐ์”ฝาก บริษัทใหญ่ ให้โอกาสจ้างงานคนพิการ แทน เอาเงินเข้ากองทุนส่งเสริมชีวิตคนพิการ มอง จ่ายเท่ากันแต่ได้คนทำงานเพิ่ม แถมรายได้ยังถึงมือคนพิการจริง

,

“สส.ชนนพัฒฐ์”ฝาก บริษัทใหญ่ ให้โอกาสจ้างงานคนพิการ แทน เอาเงินเข้ากองทุนส่งเสริมชีวิตคนพิการ มอง จ่ายเท่ากันแต่ได้คนทำงานเพิ่ม แถมรายได้ยังถึงมือคนพิการจริง

นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนได้ต้อนรับเหล่าพี่ๆคนพิการในจังหวัดสงขลาที่มาเยี่ยมเยียน พร้อมมอบเกียรติบัตรที่ตนได้สนับสนุนเสื้อกีฬาไปแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย รวมถึงตนยังได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของชมรมคนพิการของจังหวัดสงขลาด้วย จากการพูดคุยและรับฟังปัญหาของคนพิการในวันนี้ ปัญหาหลัก ๆ ก็คือ การหางานทำของคนพิการที่มีเสียงสะท้อนว่า หากยากเหลือเกิน

นายชนนพัฒฐ์ กล่าวต่อว่า จริง ๆ แล้ว ปัญหานี้มีพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 มาตรา 33 ซึ่งกฎกระทรวงแรงงานกำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน ที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คน ต้องรับคนพิการที่สามารถทำงานได้ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด โดยสัดส่วนในการรับคนพิการเข้าทำงานคือ ลูกจ้างที่ไม่ใช่คนพิการ 100 คน ต่อคนพิการ 1 คน นอกจากนี้ในมาตรา 34 ก็ระบุไว้ว่า นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการคนใดที่ไม่ได้รับคนพิการเข้าทำงานตามที่กำหนด ให้ทำการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายปี โดยคำนวณจากอัตราต่ำสุดของอัตราค่าแรงขั้นต่ำ 328 บาท

“ผมจึงอยากจะฝากไปยังถึงบริษัท และ กิจการ ห้างร้านใหญ่ ให้ช่วยพิจารณาคนพิการด้วย นี่คือเสียงสะท้อนเล็กๆ ที่คนพิการอยากให้พวกเราทุก ๆ คนได้ยิน อย่าปฎิเสธพวกเขา หรือคิดว่าเขาจะสร้างภาระให้กับองค์กร เพราะหลาย ๆ คนก็สามารถทำงานได้ไม่แตกต่างจากคนปกติ ผมมองว่า นายจ้างที่จะต้องเอาเงินไปสนับสนุนกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ สู้เราเอาค่าแรงขั้นต่ำ 328 บาทต่อวัน เท่ากันมาจ้างคนพิการมาทำงานจะดีกว่าหรือไม่ เพราะเราก็จะได้คนเพิ่ม 1 คน”นายชนนพัฒฐ์ กล่าว

นายชนนพัฒฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า คนพิการมีเงินสนับสนุนจากภาครัฐเพียงเดือนละ 800 บาทเท่านั้น แต่ถ้าผู้ประกอบการให้โอกาสจ้างพวกเขาทำงาน เขาก็จะได้รับเงินโดยตรง ซึ่งตนมองว่าดีกว่า ทั้งนี้ ขอฝากไปยังผู้ใหญ่ของบ้านให้สนับสนุนและเล็งเห็นความสำคัญของคนพิการ ทั้งนี้ ตนขอให้ จังหวัดสงขลาเป็นจุดเริ่มต้นในการจ้างงานคนพิการ รวมถึงขอฝากให้ บริษัทห้างร้านทั่วประเทศพิจารณาให้โอกาสคนพิการได้มีอาชีพอีกครั้งด้วย

ด้านตัวแทนชมรมคนพิการ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า พวกเราอยากจะให้ผู้ประกอบการในจังหวัดสงขลา ร่วมมือกันจ้างงานคนพิการทุกบริษัท ซึ่งดีกว่าการส่งเงินเข้ากองทุน เพราะจะได้กลับมาในจังหวัดน้อยมาก แต่การจ้างคนพิการ ทุกบาท ทุกสตางค์ ทำให้คนพิการสามารถดำรงชีวิตแบบมีคุณภาพที่ดีขึ้นได้ รวมถึงคนพิการก็จะเกิดความภูมิใจว่า เขาสามารถเปลี่ยนจากภาระมาเป็นพลังของสังคม สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ ทั้งนี้ อย่ามองว่าการทำงานของคนพิการเป็นเพียงแค่การสงเคราะห์ แต่คนพิการสามารถพัฒนาศักยภาพในการทำงานได้ หลาย ๆ คนที่ตนดูแล เมื่อได้รับโอกาสจากนายจ้าง ก็สามารถทำงานได้ดีด้วย

“ชมรมคนพิการของจังหวัดสงขลาได้มีการจัดตั้งศูนย์หางานของคนพิการมากกว่า 9 ปี แล้ว ดังนั้นทางผู้ประกอบการจึงไม่ต้องกังวลว่า การจ้างคนพิการจะเจอความยากลำบาก เพราะทุกคนต้องเตรียมตัวที่จะทำงานอีกทั้งรายชื่อของบุคคลพิการที่ลงทะเบียนกันเอาไว้ ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ก็ได้จัดอบรมให้กับคนพิการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สถานประกอบการและการสร้างอาชีพต่าง ๆ”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

”สส.สะถิระ“จับมือสำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดชลบุรี จัดโครงการบริการทำหมันสุนัขและแมว ฟรี 100 ตัว แก้ปัญหาหมาแมวจรจัด พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

,

”สส.สะถิระ“จับมือสำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดชลบุรี จัดโครงการบริการทำหมันสุนัขและแมว ฟรี 100 ตัว แก้ปัญหาหมาแมวจรจัด พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี สำนักงานปศุสัตว์อำเภอสัตหีบ เพื่อจัดโครงการบริการทำหมันสุนัข แมว ฟรีจำนวน 100 ตัว รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตามบ้านเรือนประชาชนอีก 500 ตัว โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากจำนวนหมาแมวจรจัด และเพื่อให้ประชาชนมีความรู้เรื่องโรคพิษสุนัขบ้าได้อย่างถูกต้อง

“ผมต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่จากปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี นำโดยนายสัตวแพทย์ชำนาญการ พิชญา วีรพันธุ์ ปศุสัตว์อำเภอสัตหีบ และเจ้าหน้าที่ออกหน่วยมาให้บริการฉีดวัคซีนทำหมันสุนัขและแมวให้กับประชาชนในเขตพื้นที่ อำเภอสัตหีบ รวมถึง นายสมประสงค์ วังแก้วหิรัญ ผู้ช่วย สส.,พ.จ.อ.วิษณุ โตสมบัติ ผู้ใหญ่บ้าน และคณะทำงาน ตลอดจน กำลังพลเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ที่ร่วมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและทีมสัตวแพทย์ในการนำสุนัขและแมวมารับบริการ“นายสะถิระ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

อวยพรวันเกิด “พล.อ.ประวิตร”ครบ 79 ปี คนสนิท-ทหาร-ตำรวจ-นักการเมือง “รวมพลคนรักลุงป้อม” ขอให้มีความสุข-สุขภาพแข็งแรง ย้ำจุดยืน ปกป้อง-เทิดทูนสถาบันฯสำคัญสูงสุด

,

อวยพรวันเกิด “พล.อ.ประวิตร”ครบ 79 ปี คนสนิท-ทหาร-ตำรวจ-นักการเมือง “รวมพลคนรักลุงป้อม” ขอให้มีความสุข-สุขภาพแข็งแรงย้ำจุดยืน ปกป้อง-เทิดทูนสถาบันฯสำคัญสูงสุด

เมื่อ 11 ส.ค.67 ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ต้อนรับ บุคคลใกล้ชิด ทั้งทหารตำรวจ นักการเมืองจากพรรคต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชน เข้าร่วมอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 79 ปี ทั้งนี้ได้มีคณะต่างๆ ทยอยมาร่วมอวยพรก่อนวันเกิดเป็นจำนวนมาก มาก่อนหน้าแล้ว สำหรับวันนี้ ในช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปประกอบพิธีทำบุญ ซึ่งได้ปฏิบัติเป็นประจำทุกปี ณ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน

จากนั้นได้เดินทางมายัง มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อต้อนรับผู้มาร่วมแสดงความยินดีในวันคล้ายวันเกิด ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่มาอวยพรได้กล่าวขอให้พล.อ.ประวิตร มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง เป็นหลักชัย ให้บ้านเมือง มีความสงบสุข ร่มเย็น เจริญรุ่งเรือง

พล.อ.ประวิตร ได้มอบของที่ระลึกแก่ผู้มาอวยพรและกล่าวตอบรับพร โดยขอให้ช่วยกัน ทุ่มเททำงาน เพื่อบ้านเมืองและประชาชน สำคัญที่สุด ต้องช่วยกันปกป้อง เทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้คงอยู่คู่ชาติไทย ตลอดไป

สำหรับงานวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประวิตร ในวันนี้ บรรยากาศ เป็นแบบเรียบง่ายเป็นกันเองทุกคนทุกคณะมาด้วยความเคารพรัก ความผูกพัน ที่เคยมีมาอย่างยาวนาน เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ที่มีความเมตตากับทุกคน เป็นที่เคารพนับถือของผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ รวมทั้งข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ วันนี้ จึงเป็นอีกวันหนึ่ง ที่นับเป็นวัน“รวมพลคนรักลุงป้อม”ก็ว่าได้ ซึ่งจะทำให้ พล.อ.ประวิตร เจ้าของวันเกิดได้รับพลังอันบริสุทธิ์ ให้มีกำลังใจที่เข้มแข็ง มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท พร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พรรคที่มีอุดมการณ์ ยึดมั่น ปกป้องเทิดทูนสถาบันฯ เป็นสถาบันทางการเมือง และพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นกลไกหนึ่ง ที่จะช่วยขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้พี่น้องประชาชน กินดีอยู่ดี มีความสุข ต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

“สส.สุธรรม”ขอบคุณ“รมช.อรรถกร”ลงพื้นที่ นครศรีฯ ผลักดันโครงการเร่งด่วน เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ํา แก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม อย่างยั่งยืน

,

“สส.สุธรรม”ขอบคุณ“รมช.อรรถกร”ลงพื้นที่ นครศรีฯ ผลักดันโครงการเร่งด่วน เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ํา แก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม อย่างยั่งยืน

นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนขอเป็นตัวแทนชาวนครศรีธรรมราช ขอบคุณนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อนำไปสู่การแก้ไข ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ท่านให้ความสำคัญกับจังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่อำเภอทุ่งสงที่เป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ทำให้พี่น้องเกษตรกรและชาวบ้านได้รับผลกระทบ

”กระทรวงเกษตรฯที่นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้มุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร โดยได้เร่งผลักดันโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน รวมถึงเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุน เพื่อเป็นแหล่งเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เพื่อให้พี่น้องประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ได้ใช้ประโยชน์จากการเก็บกักน้ำ สามารถใช้น้ำได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและปัญหาอุทกภัย“นายสุธรรม กล่าว

นายสุธรรม กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรฯยังได้เสนอแผนโครงการเร่งด่วนในพื้นที่อำเภอทุ่งสง 3 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการทำนบดินบนบ้านบนควน ตำบลที่วัง เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับการเกษตร และอุปโภคบริโภค 2) ประตูระบายนํ้าวัดวังขรี ตําบลนาไม้ไผ่ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ําในช่วงน้ําหลาก และ 3) เพิ่มประสิทธิภาพการระบายนํ้าวัดคงคาเจริญ ตําบลหนองหงส์ ป้องกันน้ําท่วมในพื้นที่การเกษตร 50 ไร่ อีกด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

“พล.อ.ประวิตร”ยกหูหา“โค้ชเช”ขอบคุณที่ทำให้คนไทยมีความสุข ฝากอวยพรวันเกิด“น้องเทนนิส”ขอให้มีความสุข สมหวัง ทุกเรื่อง

,

“พล.อ.ประวิตร”ยกหูหา“โค้ชเช”ขอบคุณที่ทำให้คนไทยมีความสุข ฝากอวยพรวันเกิด“น้องเทนนิส”ขอให้มีความสุข สมหวัง ทุกเรื่อง

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังนายชัชชัย เช หรือโค้ชเช หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย โดยขอ เป็นตัวแทนของคนไทยขอบคุณและแสดงความยินดีกับ เรืออากาศโทพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือน้องเทนนิส โค้ชเช และสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่สามารถคว้าเหรียญทองเทควันโด ประเภทหญิงเดี่ยวรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม ให้กับประเทศไทย และยังเป็นการป้องกันแชมป์ได้อีกหนึ่งสมัยด้วย

โดยพลเอกประวิตร ได้ฝากสุขสันต์วันเกิดน้องเทนนิส และขอให้มีความสุข สมหวังทุกประการ และขอต้อนรับการเดินทางกลับประเทศไทย ด้วยความชื่นชมยินดีและภาคภูมิใจที่ทีมเทควันโดได้สร้างความสุขให้กับประชาชนคนไทย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

“รมช.อรรถกร”ตอบกระทู้“สส.จักรัตน์”อ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ เตรียมก่อสร้างได้ในปี 70 มั่นใจช่วยเกษตรกรเก็บกักน้ำเพิ่มได้กว่า 9,700 ไร่“ลั่น กระทรวงเกษตรพร้อมทำทุกทางเพื่อแก้ปัญหาน้ำให้ชาวหล่มสัก

,

“รมช.อรรถกร”ตอบกระทู้“สส.จักรัตน์”อ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ เตรียมก่อสร้างได้ในปี 70 มั่นใจช่วยเกษตรกรเก็บกักน้ำเพิ่มได้กว่า 9,700 ไร่“ลั่น กระทรวงเกษตรพร้อมทำทุกทางเพื่อแก้ปัญหาน้ำให้ชาวหล่มสัก

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่8 ส.ค. นายจักรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่รัฐมนตรีติดภารกิจสำคัญ จึงมอบหมายให้ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน

โดยนายจักรัตน์ กล่าวว่า ตนทราบข้อมูลมาว่าประเทศไทยจะพบจะเกิดปรากฏการณ์ลานีญา ก็คือจะมีฝนตกมากกว่าปกติ พื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีแม่น้ำสำคัญ เปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ของคนเพชรบูรณ์ก็คือ แม่น้ำป่าสัก จากเหนือสุดของจังหวัดก็คือที่อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก ไล่ลงมาถึงใต้สุดของจังหวัดก็คือ อำเภอศรีเทพ ความยาวของแม่น้ำป่าสัก ประมาณ 280 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ทางต้นน้ำ อำเภอหล่มสัก เกิดอุทกภัยทุกๆปี ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะจากแม่น้ำป่าสัก ไม่มีอ่างเก็บน้ำที่ต้นน้ำเลย ก็คือ ไม่มีอ่างที่จะคอยชะลอน้ำ หรือว่าตัดยอดน้ำทางจังหวัด และกรมชลประทานมีความเห็นตรงกันก็คือ ต้องสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ ก็อยู่ในโครงการพระราชดำริด้วย

“ผมอยากทราบความก้าวหน้าของโครงการอ่างเก็บน้ำสะดวงใหญ่ เพราะในปี 2562 ได้รับเงินศึกษาสิ่งแวดล้อมไปแล้ว แต่จนถึงปี 2567 ก็ยังไม่ผ่านประเมินสิ่งแวดล้อม จึงอยากถามว่า ความก้าวหน้าเป็นอย่างไร และปัญหาความล่าช้าเกิดจากอะไร รวมถึงจะตั้งงบประมาณก่อสร้างอ่างเก็บน้ำสะดวงใหญ่ได้ ในปีไหน

นอกจากนี้ นายจักรัตน์ ยังถามถึงโครงการแนวทางผันน้ำเลี่ยงเมืองหล่มสัก ที่จะช่วยไม่ให้เกิดอุทกภัยในเขตพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอหล่มสักก็คือการทำบายพาสน้ำ เพื่อลดมวลน้ำที่จะไหลเข้าเมืองให้ไหลอ้อมเมืองออกไปลงที่แม่น้ำป่าสัก ในจุดที่ไกลเมืองออก ซึ่งทราบว่าทางกรมชลประทานได้ของบศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปแล้ว แต่ก็ยังได้รับเงินงบประมาณ จึงอยากทราบว่า เมื่อไหร่จะได้เงินงบประมาณในการศึกษาแผนงานนี้

ด้าน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตอบกระทู้ของ สส.จักรัตน์ว่า เบื้องต้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนในเขตอำเภอหล่มสัก ทางกรมชลประทาน ก็พยายามที่จะดำเนินการในการแก้ไขปัญหาไปหลายเรื่อง โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งการแก้ไขปัญหาในเรื่องของน้ำแล้ง น้ำท่วมในเขตอำเภอหล่มสักยังมีอีกหลายจุด ที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน และทางกรมชลประทานก็ทราบดี และเป็นเป้าหมายที่ทางกรมชลประทานมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการต่อ

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ ที่อำเภอหล่มสัก เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งกรมชลประทานนั้นได้ให้ความสำคัญกับโครงการตามพระราชดำริอยู่แล้ว ซึ่งโครงการนี้หากสร้างเสร็จจะสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำได้ประมาณ 13.75,000,000 ลูกบาศก์เมตร โดยอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่จะอยู่ขึ้นอยู่ทางเหนือของอำเภอหล่มสัก อยู่ตอนบนของอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่นที่เรามีโอกาสได้ลงพื้นที่ไปในคราวก่อน ซึ่งความคืบหน้าของโครงการนั้นได้รับการผ่านการตรวจสอบ EIA และจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการในการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ และทางกรมชลประทานมีความเชื่อว่า ภายในเดือนนี้ รายงานฉบับนี้ก็จะผ่าน จากนั้นเราก็จะเร่งทำการสำรวจเพื่อที่จะวางแผนในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่

”คาดว่าเราจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ใน 2570 โดยทางกรมชลประทานคาดการณ์ว่า จะต้องใช้เงินงบประมาณถึง 975 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 4 ปีแล้วเสร็จในปี 73 ซึ่งเราเชื่อว่าจะมีพื้นที่พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรจะได้รับประโยชน์กับการที่เราจะเก็บกักน้ำเพิ่มได้ประมาณ 9700 ไร่“นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า วานนี้ ร.อ.ธรรมนัส ,ปลัดกระทรวงเกษตรฯ พร้อมด้วยตน ได้เดินทางไปร่วมประชุมและสัมมนาที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และก็มีการได้ร่วมสัมมนาพูดคุยกับทางผู้บริหารของสำนักงาน กปร.ด้วย ซึ่งบทความสนทนา เมื่อวานก็คือการที่กระทรวงเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมารวมกัน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการไปแล้ว 4900 โครงการจาก 5000 กว่าโครงการ ก็สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งให้กับพี่น้องประชาชนในทั่วภูมิภาคได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่

ในเขตพื้นที่ในอำเภอเมืองในเขตเทศบาลเมืองของพี่น้องชาวอำเภอหล่มสัก ก็มีปัญหาในเรื่องของน้ำเอ่อล้นทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนได้รับความเดือดร้อน กระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะกรมชลประทานเราได้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำเอ่อล้นในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักเป็น 2 รูปแบบ ซึ่งแบบแรกอาจจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร คือการก่อสร้างอ่างเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะกักเก็บน้ำที่จะไหลลงไปเอ่อล้นในเขตชุมชนของเทศบาลเมืองหล่มสัก โดยทางสำนักงานบริหารโครงการชลประทาน มีแผนการที่จะดำเนินการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลเมืองหล่มสัก หลายโครงการยกตัวอย่างเช่น อ่างเก็บน้ำห้วยหินโง่น อ่างเก็บน้ำห้วยผักกูด โครงการต่าง ๆ ทางกรมชลประทานวางแผนว่าจะลงมือทำในอนาคตอันใกล้นี้

ในส่วนของแนวทางที่ 2 น่าจะรวดเร็วกว่า โดยกรมชลประทานกำลังพิจารณาที่จะขยายความกว้างของคลองส่งน้ำสายใหม่ ฝั่งซ้ายของแม่น้ำป่าสัก โดยเรามีการสำรวจพื้นที่แล้ว และมีแผนที่จะขยายคลองเพิ่มให้เป็นความกว้างประมาณ 40 เมตรกรมชลประทานจะใส่แผนในการสำรวจศึกษาออกแบบในปี 69 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะแบ่งเบาภาระการผันน้ำที่แม่น้ำป่าสักได้ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งนอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระในการผันน้ำแล้ว การขยายก็หมายความว่า จะเป็นการเพิ่มความจุเก็บกักน้ำไปในตัวด้วย

“ไม่ว่าจะเป็นแนวทางที่หนึ่งในการสร้างอ่างเก็บน้ำหลาย ๆ อ่างเก็บน้ำเพิ่ม บริเวณเหนืออำเภอหล่มสัก หรือว่าแนวทางที่ 2 ในการที่จะขยายคลอง เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระการผันน้ำ ผมเชื่อว่า ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาไม่ว่าโครงการไหนที่สามารถดำเนินการได้ก่อน เรายินดีที่จะดำเนินการก่อน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ ความพร้อมของเจ้าหน้าที่ รวมถึงทำความเข้าใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และที่สำคัญเราจะออกแบบสำรวจให้เสร็จรวดเร็วที่สุด“

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางกรมชลประทานได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการที่จะทำช่องลัดน้ำ ซึ่งภูมิประเทศตรงนั้น แม่น้ำป่าสักมีลักษณะเป็นตัวซี มีฝายอยู่ด้านบน ถ้าเราจะไปทำการปรับปรุงจะต้องผ่านกระบวนการในการที่จะรับฟังความคิดเห็นในเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะใช้เวลานาน จึงได้พูดคุยกับทางกรมชลประทานให้แยกทำเป็น 2 มิติ คือการปรับปรุงฝายทั้งด้านบนและด้านล่างของแม่น้ำสายนี้ก็ทำไป อีกส่วนหนึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องทำช่องลัดน้ำซึ่งจะแยกกับฝายทั้งสองตัวที่เราตั้งใจจะทำ พอเราทำทางลัดน้ำ ก็ไม่ต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ ไม่ต้องผ่านขอความเห็นในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพราะว่าเราไม่ได้ไปทำเพิ่มในแหล่งน้ำ แต่เราใช้พื้นที่ ๆ เป็นที่ดินในการขุดทางลัดขึ้นมาเพิ่ม ดังนั้น การระบายน้ำหรือว่า การเดินทางของน้ำในพื้นที่บริเวณหมู่บ้านคลองสีฟันจะสามารถระบายน้ำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยทางกรมชลประทานได้วางแผนที่จะทำการศึกษาออกแบบให้แล้วเสร็จในปี 68 ใช้เวลาไม่นาน และจะเข้าแผนในปี 69 ซึ่งถ้าเราสามารถทำโครงการนี้สำเร็จลุล่วง จะสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรได้ไม่ต่ำกว่า 4000 ไร่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567