โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: ข่าวกิจกรรม

“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

,

เส้นทางผ้าขาวม้าเชื่อมโลก เปิดภาคอีสานแหล่งท่องเที่ยว-ลงทุน บูมเศรษฐกิจอีสาน !!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้กล่าวย้ำว่า ผ่านเวทีปราศรัยในจ.หนองคายและพื้นที่ใกล้เคียงว่า พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้จัดกิจกรรมโรดโชว์ (ครั้งที่ 2) ภายใต้แนวคิด”พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย” พร้อมกล่าวชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ของวัฒนธรรมอันดีงามของคนอีสานในการต้อนรับที่มาเยือนทุกครั้ง สะท้อนจากการผูกผ้าขาวม้ารอบเอว ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกอบอุ่น และเห็นคุณค่าของผ้าขาวม้าที่ถ่ายทอดถึง ความรู้สึกถึง”การเชื่อมโยง”ต่างๆ ทั้งความเจริญทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยว ที่รัฐบาลให้ความสำคัญและผลักดันให้เกิดขึ้น

ดังนั้นผ้าขาวม้า เป็นเสมือนการสร้างเส้นทางนำความเจริญมาสู่ท้องถิ่น ดินแดนภาคอีสาน ด้วยการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่สามารถเชื่อมจีนเข้า สปป.ลาว ผ่านหนองคาย สู่ภาคอีสาน มาสู่กรุงเทพ และยังเชื่อมต่อลงใต้ไปประเทศมาเลเซีย และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านถนนเชื่อมโยงมหาสมุทรแปซิฟิกกับอันดามัน ด้วยเส้นทาง east-west corridor รวมถึงการเชื่อมโลก ผ่านเส้นทางอากาศ ด้วยสนามบินนานาชาติ อุดรธานี ขอนแก่นและอุบลราชธานี เป็นต้น

“รัฐบาลได้ดำเนินการวางแผนเรื่องเส้นทางผ้าขาวม้าไว้แล้วและทำให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้คนอีสาน เดินทางไปยังทั่วโลกได้อย่างปลอดภัย และต้อนรับผู้คนทั่วโลกเข้าสู่ภาคอีสาน ด้วยเส้นทางคมนาคม บก ราง อากาศ ขอให้เชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ เพราะเราใจถึงพึ่งได้ จะช่วยให้คนอีสาน กินดีอยู่ดี”

นอกจากนี้ ยังได้ชื่นชมพี่น้องชาวอีสานที่มีส่วนร่วมแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ทั้งบนดิน และใต้ดิน อย่างได้ผล ซึ่งใน 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีพื้นที่ใดเลย ประสบภัยแล้ง นับเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจที่รัฐบาล โดยมีพรรค พปชร.เป็นแกนนำได้มอบให้กับคนอีสานด้วยความจริงใจ เพราะรู้ว่า “น้ำ คือชีวิต ของทุกคน” พร้อมยืนยัน มีพรรค พปชร. จะไม่มีภัยแล้งอีกต่อไป“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” ชูนโยบายดันอีสานพื้นที่เศรษฐกิจใหม่เชื่อมโลก เร่งสร้างที่ทำกิน พัฒนาแหล่งน้ำทุกระบบ หนุนปชช.กินดีอยู่ดี

“พล.อ.ประวิตร” ชูนโยบายดันอีสานพื้นที่เศรษฐกิจใหม่เชื่อมโลกเร่งสร้างที่ทำกิน พัฒนาแหล่งน้ำทุกระบบ หนุนปชช.กินดีอยู่ดี

,

6 สิงหาคม 2565 ณ ลานอเนกประสงค์ฝั่งตรงข้ามชิค ชิค มาร์เก็ต จังหวัดหนองคาย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี ประกอบด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพปชร. พร้อมด้วย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ คณะส.ส. พรรคฯ เยือนถิ่นอิสานเปิดเวทีปราศรัย “พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย” ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการลงพื้นที่พบปะประชาชนต่อเนื่อง ที่ได้เตรียมการใน 10 ภาคทั่วประเทศ โดยมุ่งสานต่อนโยบาย เพื่อสร้างความกินดีอยู่ดี ไม่หยุดที่จะดูแลประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่แห่งนี้ต้องเร่งแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างทั่วถึง โดยจะผลักดันหน่วยงานที่เป็นกลไกของรัฐดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ของพี่น้องกลุ่มเกษตรกรและเพื่อการอุปโภคและบริโภค รวมถึงส่งเสริมอาชีพที่มั่นคงให้กับประชาชน ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดความยั่งยืน ทั้งนี้บรรยากาศภายในงานมีประชาชนในพื้นที่และจังหวัดข้างเคียงมาเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 10,000 คน

พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า วันนี้รู้สึกยินดี และดีใจอย่างมากที่ได้มาพบปะประชาชนจังหวัดหนองคาย สิ่งสำคัญที่สุดของพื้นที่นี้คือเรื่องน้ำ เพราะน้ำคือชีวิต เรามีการนำน้ำใต้ดินมาช่วยเหลือประชาชนได้แล้วมากกว่า 9 ล้านครัวเรือน ซึ่งมีเราไม่มีแล้ง เราหมายถึงพลังประชารัฐ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการประกาศว่ามีพื้นที่ภัยแล้งเลย ตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา ต่อไปนี้ พปชร.จะทำให้คนอีสานไม่มีแล้ง ไม่มีจน สร้างคนสร้างงาน สิ่งที่รัฐบาลจะทำและพรรคพลังประชารัฐจะทำด้วย

“ทุกครั้งที่ผมเดินทางมาภาคอิสานพี่น้องชาวอีสานมีวัฒนธรรมในการต้อนรับที่อบอุ่นด้วยการผูกผ้าขาวม้ารอบเอวอยากบอกพี่น้องด้วยคำพูดที่มีความจริงใจว่าผ้าขาวม้าเชื่อมโลก ต่อจากนี้อีสานจะเชื่อมโลก เป็นภาพที่รุ่งโรจน์ เป็นภาพที่มีการผลิตสินค้าและการกระจายสินค้า และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ทุกจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดหนองคาย เนื่องจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ให้มากที่สุด เชื่อมทั้งโลกด้วยภาคอีสานและเชื่อมทางลางรถไฟความเร็วสูงจากจีนเข้าสู่ สปป.ลาว ทะลุหนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น โคราช สู่กรุงเทพ ลงใต้ไปมาเลเซีย”

การเชื่อมภาคอีสาน ยังมีเรื่องของการเชื่อมทางบกของ 2 มหาสมุทรแปซิฟิคและอันดามันเข้าและการเชื่อมโยง ด้วยเส้นทาง east-west corridor รวมถึงการสร้างทางยกระดับโคราชผ่านลำตะคลองทำถนน 4 เลนเชื่อมต่อจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสานได้มากที่สุดในประวัติการณ์ นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลทำดำเนินการทำเรื่องโครงสร้างพื้นฐานให้กับประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะในภาคอีสานเชื่อมโลก ทั้งทางบก ทางราง และทางอากาศ อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี ที่เป็นสนามบินนานาชาติสามารถบินไปทั่วโลกได้ ขอให้ประชาชนเชื่อใจในพรรคพลังประชารัฐเราใจถึงพึ่งได้ เราทำให้พี่น้องชาวอีสานและทุกคนกินดี อยู่ดี

นายสุริยะ กล่าวว่า ในฐานะที่รับผิดชอบบริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เข้าไปขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ภาค อีสาน เพื่อนำความเจริญมาสู่พี่น้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษหนองคาย ซึ่งปัจจุบันได้รับการส่งเสริมการลงทุนมากถึง 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท เป็นกิจการประเภท อาทิ ยางแท่ง พลังงานแสงอาทิตย์ และมีกิจการที่ตั้งขึ้นใหม่รวมกว่า 951 ราย วงเงินกว่า 1,600 ล้านบาท ปัจจุบันมีโรงงานตั้งอยู่ใน จ.หนองคายกว่า 200 โรงงาน มูลค่า 7,300 ล้านบาท มีการจ้างงานกว่า 4,400 คน ซึ่งเป็นการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจในทุกมิติ และยังมีโครงการที่รัฐบาลผลักดันให้เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคอีสาน อาทิ โครงการเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟไทย ลาว จีน การก่อสร้างทางเลียงเมืองหนองคาย คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2566 รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย ซึ่งจะช่วยผลักดันการลงทุนให้เกิดขึ้นในจ.หนองคายได้มากกว่า 3 แสนล้านบาท เชื่อว่ามั่นว่า จ.หนองคาย มีศักยภาพรองรับการค้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้เกิดการจ้างงาน ไม่มีการย้ายแรงงานเข้าสู่กรุงเทพ และภาคตะวันออก เพราะพื้นที่ภาคอีสาน จะเป็นพื้นที่เจริญเติบโตของการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับประชาชน

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ในด้านการดูแลปัญหาอาชญากรรมด้านเทคโนโลยี ที่ประชาชนได้รับผลกระทบและตกเป็นเหยื่อการหลอกลวง ของมิจฉาชีพออนไลน์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้กำชับให้เร่งปราบปรามอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา และยังเดินหน้าพัฒนาการสร้างอาชีพใหม่ด้วยดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำองค์ความรู้ใหม่ๆไปช่วยบริการชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้กับประชาชน ถือว่าเป็นการสร้างรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ

“พล.อ.ประวิตร” ชูนโยบายดันอีสานพื้นที่เศรษฐกิจใหม่เชื่อมโลก เร่งสร้างที่ทำกิน พัฒนาแหล่งน้ำทุกระบบ หนุนปชช.กินดีอยู่ดี ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 สิงหาคม 2565

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน

,

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน

เปิดเวทีปราศรัย “พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย” พบปะประชาชน สานต่อนโยบาย เพื่อความกินดีอยู่ดี ดูแลชาวอิสาน ไม่หยุดที่จะดูแลประชาชน

แล้วพบกันวันนี้ (06.08.65) เวลา 18.00 น ณ ลานอเนกประสงค์ฝั่งตรงข้ามชิค ชิค มาร์เก็ต จังหวัดหนองคาย

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เยือนถิ่นอิสาน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”กดปุ่มพัฒนา2เส้นทางเพิ่มคุณภาพชีวิต ปชช. หนุนปลูกป่าชายเลนลดโลกร้อนสร้างความมั่นคงอาชีพ ประมง

“พล.อ.ประวิตร”กดปุ่มพัฒนา2เส้นทางเพิ่มคุณภาพชีวิต ปชช.หนุนปลูกป่าชายเลนลดโลกร้อนสร้างความมั่นคงอาชีพ ประมง

,

“พล.อ.ประวิตร” ลุยขับเคลื่อนโปรเจ็กต์เพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนให้เป็นรูปธรรม ผ่านการอนุมัติโครงสร้างพื้นฐาน 2 โครงการ ในพื้นที่กรุงเทพ และจ.สงขลา พร้อมยกระดับแผนปฏิบัติขยายพื้นที่ป่าชายเลน 3 แสนไร่ในระยะ 10 ปี แก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล เพิ่มความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล สร้างแหล่งเกษตรประมง เพื่อความกินดีอยู่ดี อย่างมั่นคง และยั่งยืน

(6 สิงหาคม 2565 )พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้ให้ความสำคัญในมิติการขับเคลื่อนนโยบายอย่างเร่งด่วนเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว โดยได้มีการผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงการ ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ในฐานะคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ล่าสุดได้อนุมัติ 2 โครงการ โครงสร้างการเชื่อมต่อถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 กับสะพานพระราม 8 ของสำนักการโยธา กทม. เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด รวมระยะทาง 3.5 ก.ม. และโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา-ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ของกรมทางหลวงชนบท ที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ นำมาสู่การแก้ปัญหาจราจรให้กับประชาชนในพื้นที่ และยังเป็นขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจให้กับคนในท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นกลไกให้เกิดการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว ที่มีส่วนสำคัญของการสร้างรายได้ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว

สำหรับการดูแลและฟื้นฟูในด้านสิ่งแวดล้อม โดยพปชร. ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง และกระตุ้นให้ทุกฝ่าย เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เพราะสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงที่มีแนวโน้มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และสร้างผลกระทบต่อการดำรงชีวิต และยังรวมไปถึงการประกอบอาชีพของประชาชน ที่เป็นความเชื่อมโยงกันในเรื่องของฤดูกาล ก่อให้เกิดภัยพิบัติ ทั้งภัยแล้งและอุทกภัย ที่สร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดังนั้นได้ดำเนินนโยบายเพื่อการยกระดับการแก้ปัญหาป่าชายเลน ด้วยการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมปลูกป่าชายเลน 3 แสนไร่ ในระยะเวลา 10 ปี ( ปี 66-74 ) เพื่อเพิ่มพื้นที่ ป่าอนุรักษ์ แก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ตามกฎกระทรวงที่กำหนด มุ่งเป้า 6 พื้นที่ ใน 23 จังหวัดชายฝั่ง มีเป้าหมายเพื่อลดการกัดเซาะชายฝั่งทะเล อีกทั้งยังสร้างแหล่งเพาะพันธ์สัตว์น้ำ เป็นการสร้างความมั่นคงอาชีพประมง และยกระดับให้เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของประเทศ

ขณะเดียวกันได้วางแผนเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อประโยชน์การดูดซับคาร์บอน สู่ประเด็น การแบ่งปันผลประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ระหว่าง ผู้พัฒนาโครงการ และ ทช. ในสัดส่วน 90 : 10 โดยเรื่องดังกล่าว ได้มอบหมายให้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ศึกษาแผนการแบ่ง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครึ่งหนึ่ง เพื่อนำไปให้ชุมชนใช้ในกิจกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ โดยมีระยะเวลา 10 ปี เป็นการสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรให้เกิดขึ้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่มีการทำลายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นการกระตุ้นให้เกิดการขยายผลให้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อการพัฒนาความเป็นอยู่ทั้งในด้านอาชีพ การสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 สิงหาคม 2565

“ดร.นฤมล”มองศก.ไทยไม่เสี่ยงเกิดต้มยำกุ้ง หนุนมาตการพลิกฟื้นเศรษฐกิจรับวิกฤติโลก

“ดร.นฤมล”มองศก.ไทยไม่เสี่ยงเกิดต้มยำกุ้ง หนุนมาตการพลิกฟื้นเศรษฐกิจรับวิกฤติโลก

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัวแสดงความถึงกรณีเมื่อวาน(5ส.ค.) ธนาคารกลางอังกฤษ(BoE) ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ไปอยู่ที่ 1.75% เป็นการเพิ่มสูงสุดในรอบ 27 ปี เพื่อจัดการกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงถึง 9.4% และคาดว่าเดือนตุลาคมนี้ อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษจะไปแตะระดับสูงสุดที่ 13.3% แล้วจะค่อยๆลดลงสู่กรอบเงินเฟ้อ 2% ในเวลาอีก 3 ปีข้างหน้า

เมื่อหันกลับมาพิจารณาของไทยคงหนีไม่พ้นที่ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแน่ แต่จะขึ้นเท่าไร คงต้องรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการผลิต( กนง.) ในสัปดาห์หน้า เพราะล่าสุดวันนี้(5ส.ค.) กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศอัตราเงินเฟ้อลดลงจากเดือนที่แล้วเล็กน้อยมาอยู่ที่ 7.61% ต่ำกว่าเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 8.0%

เมื่อดูตัวเลขแล้ว หลายคนถามมาว่า เศรษฐกิจโลกถดถอย เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขาขึ้น หลายประเทศสถานะทางการคลังย่ำแย่ ของไทยเราจะเกิดวิกฤติเหมือนปี 2540 อีกหรือไม่ ซึ่งในการบริหารความเสี่ยง เราต้องมองทั้งด้านบวกและด้านลบ

ด้านลบที่เป็นจุดเปราะบาง คือ หนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ยขาขึ้น นำไปสู่ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นที่ฉุดรั้งกำลังซื้อในตลาด และเสี่ยงต่อการเกิดหนี้เสีย(NPL) ก็ได้เห็นความพยายามของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือให้ความรู้และแนะนำแนวทางป้องกันหนี้เสียให้ภาคครัวเรือนในระดับหนึ่งแล้ว
หันมาดูความแตกต่างที่เป็นด้านบวก ในสถานการณ์ปัจจุบันของไทยมีปัจจัยบวกสองจุดสำคัญ ที่จะไม่ทำให้ไทยเกิดวิกฤตแบบปี 2540 คือ

1. เงินบาทตอนช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งยังใช้ระบบ peg คือ ผูกกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแบบตายตัว แต่วันนี้ ค่าเงินบาทลอยตัวแบบมีการจัดการ (managed float) และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐตอนนั้นอ่อนค่ามาก แต่ปัจจุบันเงินดอลลาร์กลับแข็งค่า

2. สถาบันการเงินของไทยยังมีผลการดำเนินงานและสถานะการเงินที่เข้มแข็ง อัตราส่วนที่วัดค่าความเสี่ยงด้านต่างๆของธนาคารยังอยู่ในระดับที่ดีมาก ไม่ได้มีอาการที่จะเสี่ยงล้มเหมือนเช่นในอดีต

แต่ในครั้งนี้ สองจุดต่างที่ว่า หากรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าใจ และพิจารณา นำมากำหนดนโยบายการเงินการคลังที่เหมาะสม พร้อมกับวางนโยบายเศรษฐกิจเพื่อการฟื้นตัวในระยะยาวมากกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่า เศรษฐกิจไทยคงไม่มีต้มยำกุ้ง แต่อาจจะเป็นต้มข่าไก่ ที่เศษฐกิจไทยอาจได้รับผลกระทบ

“ดร.นฤมล”มองศก.ไทยไม่เสี่ยงเกิดต้มยำกุ้ง หนุนมาตการพลิกฟื้นเศรษฐกิจรับวิกฤติโลก

ที่มา: ทีมข่าว พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.นครศรีฯ มอบข้าวสารสร้างกำลังใจอสม ทำหน้าที่ดูแลชุมชน ผู้ป่วยติดเตียง

,

ส.ส.พปชร.นครศรีฯ มอบข้าวสารสร้างกำลังใจอสม.ทำหน้าที่ดูแลชุมชน -ผู้ป่วยติดเตียง ลดภาระค่าครองชีพ

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.รงค์ บุญสวยขวัญ พปชร. จ.นครศรีธรรมราช” และทีมงาน ลงพื้นที่มอบข้าวสารให้กับตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จาก 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) ในพื้นตำบลบางจาก จำนวน 80 คน เพื่อนำไปมอบให้ผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ตำบลบางจาก เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในช่วงปัญหาเศรษฐกิจเงินเฟ้อ โดยมีนายก อบต. บางจาก กำนันเล็ก และนายกเทศบาลตำบลบางจาก อาจารย์สุธัม นายก อบต. สวนหลวง พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมและรับประทานอาหารร่วมกัน

โอกาสนี้ ส.ส.รงค์ ได้เดินทางไปยังสำนักสงฆ์วิสุทธิธรรม ศาลามีชัย เพื่อมอบข้าวสารให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นขวัญและกำลังในการรักษาตัว

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน


ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 5 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. ขึ้นหารือสภาฯ สู่แนวทางแก้ปัญหาน้ำแล้งพื้นที่การเกษตร 1.5 พันไร่ จ.ร้อยเอ็ด

,

ส.ส.พปชร. ขึ้นหารือสภาฯ สู่แนวทางแก้ปัญหาน้ำแล้งพื้นที่การเกษตร 1.5 พันไร่ จ.ร้อยเอ็ด

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สุรพร ดนัยตั้งตระกูล พปชร. บัญชีรายชื่อ” อภิปรายถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านกุดก่วง ตำบลวังสามัคคี อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด กรณีสถานีสูบน้ำคลองส่งน้ำชำรุดใช้การไม่ได้มา15ปี ขณะนี้ทางสำนักงานชลประทานที่ 6 ได้เริ่มปรับแนวท่อสูบจากลำน้ำยังไปยังสถานีสูบน้ำ ที่จะได้เร่งบูรณะพร้อมคลองส่งน้ำและสร้างฝายกักเก็บน้ำแบบซอยซีเมนต์ ภายใต้งบประมาณ 40 ล้านบาท เสร็จแล้วจะก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตลำน้ำยัง มูลค่า 400 ล้านบาทต่อไป เพื่อให้พื้นที่ 1,500 ไร่ ของเกษตรกรมีความสมบูรณ์ตลอดปี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กินดีอยู่ดี ควบคู่กับรับฟังปัญหา นำความเดือดร้อนไปแก้ไข ยังเดินหน้าสู่เป้าหมายในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 5 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. กทม. รับฟังปัญหาความเป็นอยู่ปชช.ในพื้นที่ มอบสิ่งเครื่องอุปโภคบริโภคของแบ่งเบาภาระกลุ่มเปราะบาง

,

ส.ส.พปชร. กทม. รับฟังปัญหาความเป็นอยู่ปชช.ในพื้นที่ มอบสิ่งเครื่องอุปโภคบริโภคของแบ่งเบาภาระกลุ่มเปราะบาง

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ชาญวิทย์ วิภูศิริ พปชร. กทม.” และทีมงานกลุ่มเพื่อชาญวิทย์ ลงพื้นชุมชนคลองโตนด และหมู่บ้านมีนบุรีการ์เด้นโฮม เพื่อเยี่ยมเยียนและดูแลความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนและกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง พร้อมมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง ไข่แก่ และผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับกลุ่มดังกล่าว

ทั้งนี้ ส.ส.ชาญวิทย์ ยังได้ร่วมพูดคคุยรับฟังปัญหาสาระทุกข์สุขดิบและความเป็นอยู่ พร้อมรับข้อเสนอแนะจากชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อนำมาปรับปรุงและแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของปัญหาปากท้องและความเป็นอยู่ สอดรับกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการให้คนไทยทุกคนกินดีอยู่ดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กินดีอยู่ดี ควบคู่กับรับฟังปัญหา นำความเดือดร้อนไปแก้ไข ยังเดินหน้าสู่เป้าหมายในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 5 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. กทม. จัดระเบียบทางเท้าสร้างความปลอดภัยการเดินทางให้นักเรียน

,

ส.ส.พปชร. กทม. จัดระเบียบทางเท้าสร้างความปลอดภัยการเดินทางให้นักเรียน

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กษิดิ์เดช ชุติมันต์ พปชร. กทม.” และทีมงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยตลอดเส้นทางบริเวณซอยลาดพร้าว 69 และซอยสังคมสงเคราะห์ 7 , 9 และ 11 อำเภอวังทองหลาง กรุงเทพฯ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านและผู้ปกครอง ว่าได้รับผลกระทบจากการจราจรที่ไม่เป็นระเบียบ เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับผู้ใช้ทางเท้าโดยเฉพาะเด็กนักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา ที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวเดินทางไปและกลับโรงเรียน

ทั้งนี้ จาการลงพื้นที่พบว่ามีการจอดรถไม่เป็นระเบียบ เส้นทางมืดและเปลี่ยว ซึ่ง ส.ส.กษิดิ์เดช มีความเห็นว่าควรมีการจัดระเบียบการจอดรถใหม่ และเพิ่มไฟส่องส่องสว่างในซอยดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง และความปลอดภัยให้กับผู้สัญจรไปมาโดยเฉพาะเด็กนักเรียน ทั้งนี้ จะประสานงานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เข้ามาแก้ไขโดยเร่งด่วน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สร้างการกินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 4 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. กทม. ประสานกฟน. แก้ไขหม้อแปลงไฟฟ้าน้ำมันรั่วซึมหวั่นเกิดอุบัติเหตุ

,

ส.ส.พปชร. กทม. ประสานกฟน. แก้ไขหม้อแปลงไฟฟ้าน้ำมันรั่วซึมหวั่นเกิดอุบัติเหตุ

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ พปชร. กทม.” ประสานการไฟฟ้านครหลวง หลังได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประธานและคณะกรรมการหมู่บ้านสินธรและชาวบ้านในพื้น ว่าหม้อแปลงไฟฟ้าบริเวณปากซอย 9 มีน้ำมันรั่วซึมและไหลออกมา หากปล่อยทิ้งไว้เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับผู้ที่สัญจรและชาวบ้านในพื้นที่ได้

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจพบว่า มีน้ำมันรั่วซึมจากหม้อแปลงไฟฟ้าจริง ซึ่งทางการไฟฟ้านครหลวง โดยท่านเดชา วิริยะเจริญกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง
ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการแก้ไขด้วยการเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้าให้ใหม่ และได้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับชาวบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส
ร้างการกินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 4 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.จ.ชลบุรี มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ศูนย์เด็กกำพร้าบ้านลอเรนโซ่

,

ส.ส.พปชร.จ.ชลบุรี มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ศูนย์เด็กกำพร้าบ้านลอเรนโซ่
พรรคพลังประชารัฐ โดย “นายรณเทพ อนุวัฒน์ พปชร. จ.ชลบุรี” ลงพื้นที่ ต.หน้าพระธาตุ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พร้อมนำสิ่งของเครื่องใช้อุปโภค-บริโภคที่จำเป็น ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง ไข่ไก่ น้ำดื่มสะอาด และหน้ากากอนามัย มอบให้กับสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า บ้านลอเรนโซ่ ชลบุรี โดยมีซิสเตอร์เป็นตัวแทนในการรับมอบในครั้งนี้

การลงพื้นที่มอบสิ่งของในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์ฯ ทุกท่าน ที่เสียสละและอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลเด็กและเยาวชนด้วยดีเสมอมา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยให้กินดีอยู่ดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนปละผู้ด้อยโอกาส เดินหน้าตามนโยบาย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมเปิดการรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป นำไปสู่เป้าหมายในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ที่มา :ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 4 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.จ.พิษณุโลก ลงพื้นที่บรรเทาทุกข์มอบเครื่องอุปโภคบริโภค 4 หมู่บ้าน

,

ส.ส.พปชร.จ.พิษณุโลก ลงพื้นที่บรรเทาทุกข์มอบเครื่องอุปโภคบริโภค 4 หมู่บ้าน

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.อนุชา น้อยวงศ์ พปชร. จ.พิษณุโลก” พร้อมด้วยนายเกษม คำสุกดี ประธานชมรมอสม. อำเภอวังทอง (ผู้ช่วยส.ส.)
นายฉัตรชัย ตันติพลาผล และกลุ่มเพื่อนส.ส. ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียมพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลวังยาง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
เพื่อมอบสิ่งของเครื่องใช้อุปโภค-บริโภคให้กับชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านคลองตะเคียน หมู่ 2 บ้านไทร ดงยั้ง หมู่ 3 บ้านวังดินเหนียว และหมู่ 4 บ้านหนองชาละวัน
เพื่อแบ่งเบาภาระความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ส.ส.อนุชา ยังได้รับฟังปัญหาความทุกข์ร้อนและข้อเสนอแนะจากชาวบ้าน
เพื่อนำมาปรับปรุงและแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น สอดรับกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้กินดีอยู่ดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา
ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 4 สิงหาคม 2565