โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: ข่าวกิจกรรม

'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ

‘รมช.อธิรัฐ’ เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ” หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ

, ,

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า

ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า เร่งแก้ไขปัญหาคุมเข้มด้านความปลอดภัยในการปฎิบัติหน้าบนเรือ เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้นอีก การแก้ไขต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบการท่าเรือ นายเรือ ผู้ควบคุมเรือ คนประจำเรือ ตัวแทนของบริษัทเจ้าของเรือ ตัวแทนของบริษัทเจ้าของสินค้า ผู้ปฏิบัติงาน(คนงาน) โดยให้ปฏิบัติดังนี้

  1. กำกับดูแลการปฏิบัติงานของคนงานให้ปฏิบัติตามข้อบังคับและคู่มือความปลอดภัย อบรม ฝึกซ้อม ให้เกิดความพร้อมในการปฏิบัติงานที่ปลอดภัยตลอดเวลา
  2. ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ภายในเรือ การประเมินความเสี่ยงของเส้นทางและสภาพภูมิอากาศ
  3. การกำกับดูแลให้ผู้ปฏิบัติงานต้องใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา
  4. การฝึกเจ้าหน้าที่เรือให้มีความรู้อย่างเพียงพอในการจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างถูกต้อง
  5. บริษัทที่จ้างคนงาน บริษัทเรือลำเลียงต้องแจ้งข้อมูลคนงาน ได้แก่ บัญชีรายชื่อ จำนวน ให้แก่นายเรือทราบ โดยนายเรือมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและความปลอดภัยในขณะที่มีการปฏิบัติงานบนเรือปฏิบัติตามปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยในการขนถ่ายสินค้า การบริหารจัดการความปลอดภัย และมาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้จากกรณีเกิดอุบัติเหตุคนงานเรือถ่านหินกลางทะเล เกาะเชือกขนของลงระหว่างเรือ ร่วงตกกระแทกเรือทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดกลางทะเล ช่วงระหว่างทางเดินเรือ เกาะสีชัง เกาะลอยศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากการลำเลียงคนงานที่ขึ้นไปทำงานสินค้าบนเรือสินค้า ชื่อ AGRI WARRIOR สัญชาติ ปานามา หลังจากคนงานปฏิบัติงานสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการลำเลียงคนงานที่อยู่บนเรือสินค้ากลับลงมายังเรือเล็กเพื่อกลับขึ้นสู่ฝั่ง โดยลงมากับตาข่ายที่ใช้ขนอุปกรณ์ลงจากเรือสินค้าขณะหย่อนลงมายังเรือเล็กเชือกตาข่ายเกิดขาดทำให้คนงานตกลงมายังเรือเล็กที่รอรับอยู่ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย และเสียชีวิตจำนวน 1 ราย

นายอธิรัฐ กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากการขาดความระมัดระวังและไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน การขนถ่ายสินค้าระหว่างเรือกับเรือ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการขนถ่ายสินค้า ขาดการกำกับดูแลตามมาตรการด้านความปลอดภัยในการขนถ่ายสินค้า การบริหารจัดการความปลอดภัย และจากการประเมินความเสี่ยง พบปัญหาเกิดจากบริษัทผู้ประกอบการไม่ได้ให้ความสนใจด้านความปลอดภัย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ภายในเรือให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน และความประมาทของผู้ปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ ได้มอบให้กรมเจ้าท่าโดย นายปรีชา เพชรเลิศ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชลบุรี ร่วมกับ ผู้แทนสำนักงานการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล, กองบังคับการตำรวจน้ำศรีราชา และศรชลจังหวัดชลบุรี เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ ดังนี้:

  • โรงพยาบาลวิภาราม จำนวน 1 ราย
  • โรงพยาบาลสมเด็จฯ จำนวน 2 ราย
  • โรงพยาบาลชลบุรี จำนวน 1 ราย
  • รักษาตัวหายกลับบ้าน จำนวน 1 ราย
  • ผู้เสียชีวิต ญาติได้นำศพไปบำเพ็ญกุศลยังวัดบางนา

'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ 'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ 'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ 'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ 'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ 'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 สิงหาคม2565

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ ร่วมกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ สร้างความสามัคคี ในชุมชน รณรงค์ออกกำลังกายห่างไกลโรคร้าย!!!

,

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ ร่วมกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ สร้างความสามัคคี ในชุมชน รณรงค์ออกกำลังกายห่างไกลโรคร้าย!!!

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สัญญา นิลสุพรรณ พปชร. จ.นครสวรรค์” เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันกีฬาชุมแสงคัพ ครั้งที่ 7 เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะผู้บริหารสมาชิก ฯอบต.อำเภอชุมแสง โดยมีนายสุวัฒน์ จันทร์สุข นายอำเภอชุมแสง พ.ต.อ.พีระศักดิ์ สุทธิสวรรค์ ผกก.สภ.ชุมแสง สจ.กัลย์ชพร รอดบำรุง สจ.อรรณพ ทาเอื้อ สจ.สุพัสสร คล้ายแจ้ง นายไพฑูรย์ อินทร์นาง กำนันประทีป ยิ้มแพร์ ร่วมชมและให้กำลังใจนักกีฬา ณ สนามหน้าอำเภอชุมแสง จ.นครสวรรค์

ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมีสุขภาพ พลานามัย และร่างกายที่แข็งแรง ยังสนับสนุนให้ออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬา ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และห่างไกลจากยาเสพติด นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์อยู่ที่การแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ระหว่างทีม ส.ส.สัญญา กับทีมผู้นำชุนอำเภชุมแสง ที่สร้างสีสันให้กับกิจกรรมในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 9 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. กทม. ประสาน NT แก้ปัญหาสายสื่อสาร สร้างความปลอดภัยปชช.

,

ส.ส.พปชร. กทม. ประสาน NT แก้ปัญหาสายสื่อสาร สร้างความปลอดภัยปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ พปชร. กทม.เขต 2” ลงพื้นที่หมู่บ้านจันทรานิเวศน์ เขตสาทร กรุงเทพฯ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่จัดระเบียบสายไฟฟ้า เกรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดอันตรายกับชาวบ้านและผู้ที่สัญจรไปมาในบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ ได้ประสานงานบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เข้ามาดำเนินการแก้ไขและจัดระเบียนสายสื่อสาร เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ยังได้พูดคุยรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงและหาแนวทางแก้ไขให้กับชาวบ้านต่อไป

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 9 สิงหาคม 2565

ส.ส. พปชร. กทม. ออกหน่วยตรวจโควิด19 เชิงรุกสกัดการระบาดดูแลสุขภาพชุมชนคลองเตย-วัฒนา

,

ส.ส. พปชร. กทม. ออกหน่วยตรวจโควิด19 เชิงรุกสกัดการระบาดดูแลสุขภาพชุมชนคลองเตย-วัฒนา

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา พปชร. กทม.เขต 4” และทีมงาน ประสาน Bangkok Community Help ออกตรวจคัดกรองเชิงรุกให้กับชาวในพื้นที่ชุมชนเขตวัฒนา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ภายในครอบครัวและในพื้นที่ชุมชนต่างๆ

ทั้งนี้ ส.ส.กรณิศ ยังได้นำข้าวสารและอาหารแห้งมามอบให้กับพี่น้องประชาชน และจัดยามอบให้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ถึงหน้าประตูบ้าน โดยจัดตั้งจุดตรวจคัดกรองที่ชุมชนข้างสะพานคลองตัน
(ปรีดี 46-48 และสุขุมวิท71) สามารถติดตามความคืบหน้าและรายละเอียดสำหรับการตรวจคัดกรองในครั้งต่อไปได้ที่เพจ ส.ส. กรณิศ (กดติดตาม follow + และเลือกเห็นก่อน see first)

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 9 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช.

“พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาล จ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อ ปชช.

, ,

“พล.อ.ประวิตร” ตรวจงานเจาะบาดาล ป้อนชาวพัทลุงแก้ปัญหาน้ำขาด ดูความพร้อมสถานีจ่ายน้ำบาดาล บริการประชาชนฟรี มีน้ำใช้ตลอดปี เน้นย้ำ “เรื่องน้ำคือชีวิต” ต้องเพียงพอต่อการดำรงชีวิต

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในฐานะผู้อำนวยการ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจตรวจติดตาม พื้นที่โครงการก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำบาดาลเพื่อประชาชน ณ บ้านต้นไทร ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง โดยมีนาย กู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจ.พัทลุง ได้รายงานภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่จ.พัทลุง ที่ยังคงประสบปัญหาเรื่องน้ำ ทั้งปัญหาน้ำท่วม ที่เกิดจากน้ำหลากจากเทือกเขาบรรทัด ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางตามลำน้ำ

ส่วนการขาดแคลนน้ำที่ประชาชน บางพื้นที่แหล่งน้ำต้นทุนไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้เพื่อการทำการเกษตร และอุปโภคบริโภค ซึ่ง สทนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข ตามแผนงานที่จะพัฒนาโครงการต่างๆในขณะนี้

นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปตรวจบริเวณโครงการฯ ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้รายงานถึงความตืบหน้าในการพัฒนาโครงการน้ำบาดาล ที่ได้ทำการขุดเจาะบ่อบาดาล 2บ่อ ได้ปริมาณน้ำ 7ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และ3 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และมีการวางระบบท่อเพื่อกระจายน้ำ สำหรับอุปโภค บริโภค รวมถึงมีการก่อสร้างอาคารบริการน้ำดื่มฟรี ให้กับประชาชน เพื่อให้มีน้ำใช้ ตลอดปี

พล.อ.ประวิตร กล่าวกับ พบปะพี่น้องประชาชน ที่มาให้การต้อนรับว่า รัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และรมว.กห. ได้ฝากความปรารถนาดี และความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนชาวพัทลุงทุกคน พร้อมยืนยันจะให้ความช่วยเหลือ ทุกปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน อย่างดีที่สุด และได้พยายามแก้ปัญหาเรื่องน้ำมาโดยตลอด เพื่อประชาชน เพราะน้ำมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ซึ่ง”น้ำก็คือชีวิต”นั่นเอง ดังนั้นจึงหาวิธีแก้ปัญหาน้ำทุกมิติ ให้ดีที่สุด เพื่อต้องการให้ประชาชน ไม่ขาดแคลนน้ำ และมีความอยู่ดีกินดี อย่างยั่งยืน มั่นคง ตลอดไป

“พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.กทม. เป็นตัวแทนชาวคลองเตย-วัฒนา นั่งประธานอนุฯกธม.พิจาณาข้อสังเกตุการทำงบฯปี 66

,

ส.ส.พปชร.กทม. เป็นตัวแทนชาวคลองเตย-วัฒนา นั่งประธานอนุฯกธม.พิจาณาข้อสังเกตุการทำงบฯปี 66

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา พปชร. กทม.เขต 4” ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการข้อสังเกต ในคณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 เพื่อปฏิบัติหน้าที่พิจารณากลั่นกรองข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2566

ทั้งนี้ ส.ส. กรณิศ ยังได้เป็นตัวแทนชาวคลองเตยและวัฒนา ในการรายงานสรุปข้อสังเกตเกี่ยวกับเนื้อหาพิจารณางบประมาณ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการข้อสังเกต ในคณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 8 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” ล่องใต้ห่วงใยปชช.รับฤดูมรสุมเข้าตรัง-พัทลุง เร่งหน่วยงานวางแผนระบายน้ำ-เตือนภัยสกัดน้ำท่วมซ้ำซาก

,

“พล.อ.ประวิตร” ล่องใต้ห่วงใยปชช.รับฤดูมรสุมเข้าตรัง-พัทลุง เร่งหน่วยงานวางแผนระบายน้ำ-เตือนภัยสกัดน้ำท่วมซ้ำซาก

วันที่ 8 ส.ค. 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวพรรคพลังประชารัฐ(พปชร. ) พร้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และคณะ ผู้บริหาร เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ จ.ตรัง และ จ.พัทลุง ติดตามสถานการณ์น้ำและความพร้อมรับมือฤดูฝนภาคใต้ที่กำลังมาถึง รวมทั้งปัญหาพื้นที่ภัยแล้งในพื้นที่ โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และพัทลุง ให้การต้อนรับ ณ ศาลากลางจังหวัด โดยได้รายงานสถานการณ์น้ำภาคใต้ในภาพรวม ซึ่งจ.ตรัง มีลำน้ำย่อย 5 สาย มีปัญหาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก 4 จุดสำคัญ คือ พื้นที่วัดท่าจีน อ.เมือง พื้นที่ตลาดนาโยง อ.นาโยง พื้นที่อนุสาวรีย์ฯ อ.เมือง และ พื้นที่ตลาดย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จำเป็นต้องเร่งบริหารจัดการน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิในการระบายน้ำลงสู่ทะเล เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชน ได้มอบหมายให้มีการบูรณาการจัดทำข้อมูลและเตือนภัยกับประชาชนในภาวะที่เผชิญกับน้ำท่วม น้ำหลาก

“จากปัญหาแม่น้ำตรัง ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากพื้นที่ที่ต้องรับน้ำปริมาณสูง จากเทือกเขาบรรทัด ในช่วงฤดูมรสุม ซึ่งอาจจะทำให้น้ำท่วมเข้าสู่ชุมชนและบ้านเรือน โดยเฉพาะใน อ.ทุ่งสง โดยอยู่ระหว่างบูรณาการ ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในแม่น้ำตรัง”

พล.อ.ประวิตร’ แสดงความขอบคุณ และเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนในการทำงาน พร้อมทั้งย้ำว่า แม่น้ำตรัง มีความสำคัญกับการระบายน้ำและการเกษตรในพื้นที่ภาคใต้ จึงต้องให้ความสำคัญในการ บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ไม่ให้เกิดภาวะน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เน้นการป้องกันเชิงรุก พร้อมทั้งสั่งการให้กรมชลประทาน เร่งรัดก่อสร้างโครงการระบายน้ำแม่น้ำตรังให้แล้วเสร็จภายใน ก.ย.65 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในฤดูฝนที่จะมาถึง และให้เร่งเตรียมความพร้อมโครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำตรัง รวมถึงช่องลัด และคันกั้นน้ำ เพื่อให้สามารถสร้างได้ในปี 2567 โดยให้ สทนช.ยกระดับเป็นโครงการสำคัญ เพื่อให้สามารถบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ครอบคลุม 7 ตำบลใน 4 อำเภอ

นอกจากนี้ยังให้เร่งรัดศึกษาผังน้ำและจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม น้ำแล้ง ในพื้นที่ลุ่มน้ำ เพื่อให้มีแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกันทั้งภาวะปกติและวิกฤต โดยให้หน่วยเกี่ยวข้อง พร้อมทั้ง องค์กรปกครองท้องถิ่น และ กรมป้องกันและบรรเทาธารณภัย สำรวจพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม รายงานคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อแก้ปัญหาเป็นพื้นที่และภาพรวม พร้อมทั้งกำชับ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งพัฒนาน้ำบาดาลที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้วให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้ในฤดูแล้งโดยทั่วกัน
ทั้งนี้ยังได้ลงพื้นที่ อ.ห้วยยอด ตรวจสอบความเหมาะสมโครงการเพิ่มศักยภาพอ่างเก็บน้ำ คลองท่างิ้ว เพื่อเร่งนำไปผลิตน้ำประปาอีกแห่งในพื้นที่ อบต.หนองปรือ พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง และได้พบปะประชาชนในพื้นที่ เพื่อสอบถามทุกข์ สุข และความต้องการ ของพี่น้องประชาชน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 8 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.กทม.ร่วมงาน SMART SAFETY ZONE 4.0 ยกระดับความปลอดภัยปชช.

,

ส.ส.พปชร.กทม.ร่วมงาน SMART SAFETY ZONE 4.0 ยกระดับความปลอดภัยปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงศ์ พปชร. กทม.เขต 2” พร้อมด้วย “ส.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ พปชร. กทม.เขต 1” ร่วมงานประกาศความสำเร็จ และพิธีมอบรางวัลสถานีชนะเลิศตามโครงการ SMART SAFETY ZONE 4.0 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในงานประกาศฯ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรเชฐ หักพาล ผู้ช่วยผบ.ตร. ณ สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี

ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าวเป็นหนึ่งในนโยบายการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และระบบราชการส่วนท้องถิ่น เพื่อยกระดับการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่สาธารณะ และสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน ซี่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สอดรับกับบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลง และเพื่อยกระดับการให้บริการตอบสนองความต้องการของประชาชน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 8 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ ร่วมจัดประชาคมชุมชน 2 ตำบล รับฟังปัญหาไปสู่การแก้ไขปัญหาลดความเดือดร้อน

,

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ ร่วมจัดประชาคมชุมชน 2 ตำบล รับฟังปัญหาไปสู่การแก้ไขปัญหาลดความเดือดร้อน

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สัญญา นิลสุพรรณ พปชร. จ.นครสวรรค์” เข้าร่วมประชุมประชาคมเพื่อพูดคุยและหารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลบางเคียน และตำบลโคกหม้อ จ.นครสวรรค์ โดยมีนายจักรพงษ์ เพ่งผล นายก อบต.บางเคียน นายสิริชัย ศรีสิทธิการ นายก อบต.โคกหม้อ สจ.อรรณพ ท้าเอื้อ สจ.บรรพตพิสัย สจ.กัลย์ชพร รอดบำรุง สจ.ชุมแสง พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชนตำบลบางเคียน ร่วมประชาคมเสนอปัญหาความเดือดร้อน ณ วัดบ้านลาด ต.บางเคียน อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์

ทั้งนี้ ส.ส.สัญญา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสะพานไม้ที่ชำรุดเสียหายจากอายุการใช้งาน โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดูแลและดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับชาวบ้านเป็นการด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยในการสัญจรให้กับชาวบ้าน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 8 สิงหาคม 2565

"พล.อ.ประวิตร" ปลื้มผลปราบค้ามนุษย์ ปี’65ถูกจัดอันดับดีขึ้นเดินหน้าคุมเข้มต่อ

“พล.อ.ประวิตร” ปลื้มผลปราบค้ามนุษย์ ปี’65ถูกจัดอันดับดีขึ้นเดินหน้าคุมเข้มต่อ

,

“พล.อ.ประวิตร” ปลื้มผลปราบค้ามนุษย์ ปี’65ถูกจัดอันดับดีขึ้นเดินหน้าคุมเข้มต่อ

“พล.อ.ประวิตร”ปลื้มไทยขึ้นกลุ่มเทียร์ 2 สำเร็จ หลังเร่งดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ต่อเนื่อง!!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เปิดเผยว่า นโยบายการต่อต้านการค้ามนุษย์ของไทยที่มุ่งยกระดับสู่มาตรฐานสากล อันเป็นการปกป้องมิให้มีการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รัฐบาลมีผลงานก้าวหน้าตลอด 8 ปีที่ผ่านมา จนในปี 2565 ได้รับการจัดระดับสูงขึ้นเลื่อนจากกลุ่มเทียร์ 2 Watchlist มาอยู่ในกลุ่มเทียร์ 2 ในปีนี้ พร้อมกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาตรการในการปราบปรามค้ามนุษย์ ที่กำหนดไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยเร่งรัดให้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติฯ ปี 2565

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังได้มอบหมาย พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัด เตรียมการและวางแผนการปฏิบัติเพื่อรองรับภารกิจ ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่า ทุกจังหวัดได้จัดเตรียมความพร้อมด้านสถานที่คัดกรองและคัดแยกบุคคลและกลุ่มเสี่ยงที่อาจตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ ทีมสหวิชาชีพระดับจังหวัดในขั้นตอนภาวะปกติได้ครบทุกจังหวัด

สำหรับการดำเนินงานในพื้นที่ 22 จังหวัดชายทะเล และพื้นที่ชายแดนติดต่อประเทศเพื่อนบ้าน ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงเฉพาะ ทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประมง กองกำลังชายแดน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกสถานที่เพื่อยกระดับความพร้อมในการปฏิบัติเต็มรูปแบบในพื้นที่ 10 จังหวัดเป้าหมาย

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประวิตร ให้เร่งผลักดันความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศ โดยได้นำผู้บริหารโครงการต่อต้านการค้ามนุษย์ในประเทศไทย (USAID Thailand CTIP) และ Winrock International ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ร่วมหารือกับคณะทำงานของกระทรวงแรงงาน เพื่อพัฒนาระบบและแนวทางป้องกันช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับและการค้ามนุษย์ และได้นำคณะผู้แทนและภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ (อาทิ Mars Petcare Thailand, Nauticomm, Etneca, Stella Maris, ITF, EJF) เข้าศึกษาดูงานศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการทำการประมง (FMC) ณ กรมประมง เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่สำหรับแรงงานต่างด้าวในภาคประมง ทั้งนี้ อยู่ระหว่างจัดทำร่าง MOU เพื่อกำหนดวัตถุประสงค์และขอบเขตการทำงานร่วมกันต่อไป สำหรับรูปแบบการทำงานของรัฐบาลไทยเชิงรุกโดยองค์การระหว่างประเทศและภาคเอกชนเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในการขจัดปัญหาการค้ามนุษย์อย่างใกล้ชิดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงได้รับการชื่นชมจากต่างประเทศ โดยมีความก้าวหน้าและความมุ่งมั่นเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินความพยายามของรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่องภายใต้การกำกับดูแลของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

สำหรับความก้าวหน้าในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (Counter Trafficking in Persons Center of Excellence) เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ทางการออสเตรเลีย โครงการ ASEAN-ACT โดยคณะผู้เชี่ยวชาญจาก RCG ได้นำเสนอผลวิจัยกรอบดำเนินงานและแนวทางการพัฒนาศักยภาพในการต่อต้านการค้ามนุษย์ของประเทศไทย เพื่อใช้ในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศที่ทันสมัยในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมและสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ได้ตรวจร่างบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลออสเตรเลียเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ปคม. คราวหน้าได้ในปี 2565 มีรายงานสถิติการจับกุมคดีค้ามนุษย์ได้แล้ว 151 คดี โดย พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับทุกหน่วยงานยกระดับความเข้มข้นในการสืบสวนปราบปรามและดำเนินคดีเพิ่มมากขึ้น และดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ของรัฐบาล รวมทั้งทุกมาตรการที่กำหนด เพื่อยกระดับประเทศไทยให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

,

เส้นทางผ้าขาวม้าเชื่อมโลก เปิดภาคอีสานแหล่งท่องเที่ยว-ลงทุน บูมเศรษฐกิจอีสาน !!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้กล่าวย้ำว่า ผ่านเวทีปราศรัยในจ.หนองคายและพื้นที่ใกล้เคียงว่า พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้จัดกิจกรรมโรดโชว์ (ครั้งที่ 2) ภายใต้แนวคิด”พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย” พร้อมกล่าวชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ของวัฒนธรรมอันดีงามของคนอีสานในการต้อนรับที่มาเยือนทุกครั้ง สะท้อนจากการผูกผ้าขาวม้ารอบเอว ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกอบอุ่น และเห็นคุณค่าของผ้าขาวม้าที่ถ่ายทอดถึง ความรู้สึกถึง”การเชื่อมโยง”ต่างๆ ทั้งความเจริญทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยว ที่รัฐบาลให้ความสำคัญและผลักดันให้เกิดขึ้น

ดังนั้นผ้าขาวม้า เป็นเสมือนการสร้างเส้นทางนำความเจริญมาสู่ท้องถิ่น ดินแดนภาคอีสาน ด้วยการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่สามารถเชื่อมจีนเข้า สปป.ลาว ผ่านหนองคาย สู่ภาคอีสาน มาสู่กรุงเทพ และยังเชื่อมต่อลงใต้ไปประเทศมาเลเซีย และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านถนนเชื่อมโยงมหาสมุทรแปซิฟิกกับอันดามัน ด้วยเส้นทาง east-west corridor รวมถึงการเชื่อมโลก ผ่านเส้นทางอากาศ ด้วยสนามบินนานาชาติ อุดรธานี ขอนแก่นและอุบลราชธานี เป็นต้น

“รัฐบาลได้ดำเนินการวางแผนเรื่องเส้นทางผ้าขาวม้าไว้แล้วและทำให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้คนอีสาน เดินทางไปยังทั่วโลกได้อย่างปลอดภัย และต้อนรับผู้คนทั่วโลกเข้าสู่ภาคอีสาน ด้วยเส้นทางคมนาคม บก ราง อากาศ ขอให้เชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ เพราะเราใจถึงพึ่งได้ จะช่วยให้คนอีสาน กินดีอยู่ดี”

นอกจากนี้ ยังได้ชื่นชมพี่น้องชาวอีสานที่มีส่วนร่วมแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ทั้งบนดิน และใต้ดิน อย่างได้ผล ซึ่งใน 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีพื้นที่ใดเลย ประสบภัยแล้ง นับเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจที่รัฐบาล โดยมีพรรค พปชร.เป็นแกนนำได้มอบให้กับคนอีสานด้วยความจริงใจ เพราะรู้ว่า “น้ำ คือชีวิต ของทุกคน” พร้อมยืนยัน มีพรรค พปชร. จะไม่มีภัยแล้งอีกต่อไป“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”ดึงอัตลักษณ์”ผ้าขาวม้า”ดันนโยบายพัฒนาอีสาน พลิกฟื้นดินแดงสู่แหล่งการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวสร้างรายได้ยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” ชูนโยบายดันอีสานพื้นที่เศรษฐกิจใหม่เชื่อมโลก เร่งสร้างที่ทำกิน พัฒนาแหล่งน้ำทุกระบบ หนุนปชช.กินดีอยู่ดี

“พล.อ.ประวิตร” ชูนโยบายดันอีสานพื้นที่เศรษฐกิจใหม่เชื่อมโลกเร่งสร้างที่ทำกิน พัฒนาแหล่งน้ำทุกระบบ หนุนปชช.กินดีอยู่ดี

,

6 สิงหาคม 2565 ณ ลานอเนกประสงค์ฝั่งตรงข้ามชิค ชิค มาร์เก็ต จังหวัดหนองคาย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำทัพ 2 รัฐมนตรี ประกอบด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพปชร. พร้อมด้วย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ คณะส.ส. พรรคฯ เยือนถิ่นอิสานเปิดเวทีปราศรัย “พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย” ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการลงพื้นที่พบปะประชาชนต่อเนื่อง ที่ได้เตรียมการใน 10 ภาคทั่วประเทศ โดยมุ่งสานต่อนโยบาย เพื่อสร้างความกินดีอยู่ดี ไม่หยุดที่จะดูแลประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่แห่งนี้ต้องเร่งแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างทั่วถึง โดยจะผลักดันหน่วยงานที่เป็นกลไกของรัฐดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ของพี่น้องกลุ่มเกษตรกรและเพื่อการอุปโภคและบริโภค รวมถึงส่งเสริมอาชีพที่มั่นคงให้กับประชาชน ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดความยั่งยืน ทั้งนี้บรรยากาศภายในงานมีประชาชนในพื้นที่และจังหวัดข้างเคียงมาเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 10,000 คน

พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า วันนี้รู้สึกยินดี และดีใจอย่างมากที่ได้มาพบปะประชาชนจังหวัดหนองคาย สิ่งสำคัญที่สุดของพื้นที่นี้คือเรื่องน้ำ เพราะน้ำคือชีวิต เรามีการนำน้ำใต้ดินมาช่วยเหลือประชาชนได้แล้วมากกว่า 9 ล้านครัวเรือน ซึ่งมีเราไม่มีแล้ง เราหมายถึงพลังประชารัฐ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการประกาศว่ามีพื้นที่ภัยแล้งเลย ตลอดระยะเวลาที่ทำงานมา ต่อไปนี้ พปชร.จะทำให้คนอีสานไม่มีแล้ง ไม่มีจน สร้างคนสร้างงาน สิ่งที่รัฐบาลจะทำและพรรคพลังประชารัฐจะทำด้วย

“ทุกครั้งที่ผมเดินทางมาภาคอิสานพี่น้องชาวอีสานมีวัฒนธรรมในการต้อนรับที่อบอุ่นด้วยการผูกผ้าขาวม้ารอบเอวอยากบอกพี่น้องด้วยคำพูดที่มีความจริงใจว่าผ้าขาวม้าเชื่อมโลก ต่อจากนี้อีสานจะเชื่อมโลก เป็นภาพที่รุ่งโรจน์ เป็นภาพที่มีการผลิตสินค้าและการกระจายสินค้า และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ทุกจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดหนองคาย เนื่องจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ให้มากที่สุด เชื่อมทั้งโลกด้วยภาคอีสานและเชื่อมทางลางรถไฟความเร็วสูงจากจีนเข้าสู่ สปป.ลาว ทะลุหนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น โคราช สู่กรุงเทพ ลงใต้ไปมาเลเซีย”

การเชื่อมภาคอีสาน ยังมีเรื่องของการเชื่อมทางบกของ 2 มหาสมุทรแปซิฟิคและอันดามันเข้าและการเชื่อมโยง ด้วยเส้นทาง east-west corridor รวมถึงการสร้างทางยกระดับโคราชผ่านลำตะคลองทำถนน 4 เลนเชื่อมต่อจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสานได้มากที่สุดในประวัติการณ์ นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลทำดำเนินการทำเรื่องโครงสร้างพื้นฐานให้กับประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะในภาคอีสานเชื่อมโลก ทั้งทางบก ทางราง และทางอากาศ อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี ที่เป็นสนามบินนานาชาติสามารถบินไปทั่วโลกได้ ขอให้ประชาชนเชื่อใจในพรรคพลังประชารัฐเราใจถึงพึ่งได้ เราทำให้พี่น้องชาวอีสานและทุกคนกินดี อยู่ดี

นายสุริยะ กล่าวว่า ในฐานะที่รับผิดชอบบริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เข้าไปขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ภาค อีสาน เพื่อนำความเจริญมาสู่พี่น้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษหนองคาย ซึ่งปัจจุบันได้รับการส่งเสริมการลงทุนมากถึง 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท เป็นกิจการประเภท อาทิ ยางแท่ง พลังงานแสงอาทิตย์ และมีกิจการที่ตั้งขึ้นใหม่รวมกว่า 951 ราย วงเงินกว่า 1,600 ล้านบาท ปัจจุบันมีโรงงานตั้งอยู่ใน จ.หนองคายกว่า 200 โรงงาน มูลค่า 7,300 ล้านบาท มีการจ้างงานกว่า 4,400 คน ซึ่งเป็นการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจในทุกมิติ และยังมีโครงการที่รัฐบาลผลักดันให้เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคอีสาน อาทิ โครงการเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟไทย ลาว จีน การก่อสร้างทางเลียงเมืองหนองคาย คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2566 รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย ซึ่งจะช่วยผลักดันการลงทุนให้เกิดขึ้นในจ.หนองคายได้มากกว่า 3 แสนล้านบาท เชื่อว่ามั่นว่า จ.หนองคาย มีศักยภาพรองรับการค้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้เกิดการจ้างงาน ไม่มีการย้ายแรงงานเข้าสู่กรุงเทพ และภาคตะวันออก เพราะพื้นที่ภาคอีสาน จะเป็นพื้นที่เจริญเติบโตของการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับประชาชน

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ในด้านการดูแลปัญหาอาชญากรรมด้านเทคโนโลยี ที่ประชาชนได้รับผลกระทบและตกเป็นเหยื่อการหลอกลวง ของมิจฉาชีพออนไลน์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้กำชับให้เร่งปราบปรามอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา และยังเดินหน้าพัฒนาการสร้างอาชีพใหม่ด้วยดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำองค์ความรู้ใหม่ๆไปช่วยบริการชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้กับประชาชน ถือว่าเป็นการสร้างรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ

“พล.อ.ประวิตร” ชูนโยบายดันอีสานพื้นที่เศรษฐกิจใหม่เชื่อมโลก เร่งสร้างที่ทำกิน พัฒนาแหล่งน้ำทุกระบบ หนุนปชช.กินดีอยู่ดี ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 สิงหาคม 2565