โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. อนุรัตน์ ตันบรรจง

“สส.อนุรัตน์” ร่วมคณะ กมธ.คมนาคมฯ ลุยญี่ปุ่น ศึกษาระบบขนส่งทางบก หวัง นำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาปรับใช้พัฒนาประเทศไทย

,

“สส.อนุรัตน์” ร่วมคณะ กมธ.คมนาคมฯ ลุยญี่ปุ่น ศึกษาระบบขนส่งทางบก หวัง นำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาปรับใช้พัฒนาประเทศไทย

นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อศึกษาดูงานเทคโนโลยีรถไฟฟ้าความเร็วสูง ท่าเรือน้ำลึก และการคมนาคมขนส่งทางบกของประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นประเทศที่มีระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพมาก และให้บริการทั่วถึงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีตารางเวลาที่หนาแน่นและตรงเวลา ทั้งยังสะอาด ปลอดภัยและสะดวกสบาย โดยเฉพาะการเดินทางโดยรถไฟ จึงเป็นที่นิยมมากที่สุด

“เครือข่ายการคมนาคมในประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีมาก ๆ เนื่องจากมีระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะระบบการรถไฟที่ครอบคลุมเกือบทุกจุดหมายปลายทางทั้งหมดในประเทศ นอกจากนี้ยังมีทางหลวงและบริการการบินภายในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างดี พร้อมทั้งยังมีรถบัสหรือรถแท็กซี่เป็นบริการเสริมการเดินทางภายในและรอบเมืองต่างๆ ขณะที่เรือเฟอรี่ก็มีบริการเชื่อมระหว่างเมืองท่ากับเมืองท่าบนเกาะหลายเส้นทาง”

นายอนุรัตน์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมาธิการยังได้ไปดูการจัดการบริหารการท่าเรือโยโกฮาม่า ซึ่งเป็นเมืองท่าเรือแห่งแรก ที่เปิดตัวเองสู่โลกในฐานะทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น และนับตั้งแต่การเปิดท่าเรือโยโกฮาม่า เมืองแห่งนี้ก็ได้รับวัฒนธรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยได้ใช้ประโยชน์จากท่าเรือโยโกฮาม่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนท่าเรือแห่งนี้นับเป็นท่าเรือการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญแห่งหนึ่งในโลก

“การมาดูงานในครั้งนี้ทางคณะกรรมาธิการได้ความรู้ที่มีค่าอย่างมากต่อการนำมาพัฒนาระบบคมนาคมในประเทศไทย โดยเราจะนำความรู้ และแนวทางที่ได้รับมาปรับใช้เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศแลเความสะดวกสบายของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ผมขอขอบคุณคณะกรรมาธิการ ที่ปรึกษาและข้าราชการทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กรกฎาคม 2567

“สส.อนุรัตน์”เผย กมธ.คมนาคม สภาฯ ลงพื้นที่รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง เร่งตรวจสอบอุบัติเหตุชิ้นส่วนรถไฟฟ้าตกหล่น เตรียมชงเข้ากระทรวงคมนาคม

,

“สส.อนุรัตน์”เผย กมธ.คมนาคม สภาฯ ลงพื้นที่รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง เร่งตรวจสอบอุบัติเหตุชิ้นส่วนรถไฟฟ้าตกหล่น เตรียมชงเข้ากระทรวงคมนาคม

นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะ กมธ.ได้ตรวจเยี่ยมการทำงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดอุบัติเหตุชิ้นส่วนรถไฟฟ้าตกหล่น ขณะให้บริการแก่ประชาชน จนเกิดอันตรายต่อผู้รับบริการ รวมถึงผู้ใช้ถนนใต้รถไฟฟ้า สายสีชมพู และสายสีเหลือง โดย รฟม.ได้ให้นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) และ นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ รองผู้ว่าการ (กลยุทธ์และแผน) มาให้การต้อนรับคณะกรรมาธิการการคมนาคม

นายอนุรัตน์ กล่าวต่อว่า คณะฯ กมธ.ได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ณ ศูนย์ควบคุมการเดินรถไฟฟ้าและศูนย์ซ่อมบำรุง รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองฯ เพื่อเร่งตรวจสอบถึงสาเหตุดังกล่าวจึงได้เดินทางมาตรวจอู่เก็บรถไฟฟ้าดังกล่าว เพื่อรายงานต่อกระทรวงคมนาคมต่อไป

ทั้งนี้ รฟม. ได้นำเสนอข้อมูลภาพรวมการดำเนินกิจการรถไฟฟ้าของ รฟม. และได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตอบข้อซักถาม พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะจากคณะกรรมาธิการฯ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 พฤษภาคม 2567

“อนุรัตน์ สส.พะเยา”ของบประมาณ ก.เกษตรฯสนับสนุนเครื่องสูบน้ำพลังงานไฟฟ้า หลังเกษตรกรปลูกข้าวหอมมะลิกว่า 20,000 ไร่ เดือดร้อนจากภัยแล้ง

,

“อนุรัตน์ สส.พะเยา”ของบประมาณ ก.เกษตรฯสนับสนุนเครื่องสูบน้ำพลังงานไฟฟ้า หลังเกษตรกรปลูกข้าวหอมมะลิกว่า 20,000 ไร่ เดือดร้อนจากภัยแล้ง

นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า สจ.ในอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรในน้ำทุ่งรอ กลุ่มทุ่งรอนั้นประกอบไปด้วย 4 ตำบล 1.ตำบลทุ่งดวงทอง 2.ตำบลอ่างทอง 3.ตำบลน้ำแว 4.ตำบลเชียงมาร ทั้ง 4 ตำบลมีพื้นที่ในการปลูกข้าวมากกว่า 20,000 ไร่ เรียกว่าทุ่งรอเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ จังหวัดพะเยา ซึ่งข้าวหอมมะลิของจังหวัดพะเยาเป็นซอร์ฟพาวเวอร์

“ปัญหาคือต้องการสูบน้ำจากแม่น้ำอิงเพื่อผันน้ำเข้าสู่ที่นา แต่เมื่อเกิดภัยแล้งในลำน้ำอิง ซึ่งตื้นเขินจึงไม่สามารถสูบน้ำเข้าที่นาของเกษตรกรได้ทั่วถึง เพราะมีที่นากว่า 20,000 ไร่ จึงขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณางบประมาณสนับสนุนเครื่องสูบน้ำพลังงานไฟฟ้า รวมถึงเรื่องการระบบวางท่อน้ำให้ครอบ คลุมที่นากว่า 20,000 ไร่ เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้รับการจัดสรรน้ำอย่างครบระบบ“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 ตุลาคม 2566

“สส.อนุรัตน์ พปชร.” ร่วมหารือแก้ไขปัญหารุกที่ดินปิดทางเข้าแหล่งน้ำประสานที่ดินรางวัดพิสูจน์สิทธิเปิดทางให้เกษตรกร

,

“สส.อนุรัตน์ พปชร.” ร่วมหารือแก้ไขปัญหารุกที่ดินปิดทางเข้าแหล่งน้ำประสานที่ดินรางวัดพิสูจน์สิทธิเปิดทางให้เกษตรกร

นายอนุรัตน์ ตันบรรจง ส.ส. เขต2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จ.พะเยาเปิดเผยว่า เข้าร่วมประชุมชวาบ้าน ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งน้ำ ที่ไม่สามารถสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรได้ จากการรุกที่ดินของนายทุน จึงประสานสำนักงานที่ดินเข้าทำการรางวัดและชี้แนวเขตพื้นที่ใหม่ เพื่อพิสูจน์สิทธิอีกครั้ง และพบว่าการบุกรุกจริง จึงได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปได้ด้วยดี ส่งผลให้ชาวบ้านสามารถเข้าใช้พื้นที่เพื่อการสูบน้ำเข้าพื้นที่เพาะปลูกได้แล้ว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 กันยายน 2566

“อนุรัตน์ สส.พะเยา”ลุยงานหนักทั้งสภาฯ-พื้นที่ เผย 3 เดือนของการทำหน้าที่ สส.แม้จะเป็นเรื่องใหม่ เดินหน้าทำเพื่อชาวบ้านเต็มที่ พร้อมชนทุกอุปสรรค

,

“อนุรัตน์ สส.พะเยา”ลุยงานหนักทั้งสภาฯ-พื้นที่ เผย 3 เดือนของการทำหน้าที่ สส.แม้จะเป็นเรื่องใหม่ เดินหน้าทำเพื่อชาวบ้านเต็มที่ พร้อมชนทุกอุปสรรค

นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.เขต 2 จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่ ต.ทุ่งรวงทวง อ.จุน เพื่อรับฟังปัญหาของแม่พี่น้องประชาชน และพบปะกลุ่มผู้สูงอายุ ที่เทศบาลตำบลทุ่งรวงทอง รวมถึงได้มีการประชุมกับนายกเทศบาลทุ่งรวงทอง พร้อมคณะบริหาร เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาการขอทำฝนเทียมในพื้นที่ เนื่องจากเกิดปัญหาภัยแล้ง น้ำไม่เพียงพอที่จะใช้ในการทำเกษตร รวมถึงการขาดแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้อีกด้วย

นายอนุรัตน์ กล่าวต่อว่า ตนได้พบกับกลุ่มแม่บ้าน ต.ทุ่งรวงทอง ซึ่งได้รับมอบผลิตภัณฑ์ในตำบล เพื่อขอให้ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของตำบลให้มีช่องทางทางการตลาด และทางกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ได้ร่วมกันมอบหนังสือโครงการขอสร้างอ่างเก็บน้ำในตำบล เพื่อไว้ใช้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ว โดยทั้ง 2 เรื่องที่ตนได้รับข้อเสนอมา ตนก็จะเดินหน้าผลักดันให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ให้มากขึ้น หรือปัญหาน้ำไม่เพียงพอในการทำการเกษตร

“จากการทำหน้าที่ สส.มา 3 เดือน ถือว่าชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงเพราะไม่เคยเป็น สส.มาก่อน แต่ก็ถือว่าได้เข้าสภาฯไปเรียนรู้แล้วมีประสบการณ์มากขึ้น นอกจากงานในสภาฯแล้ว ผมก็ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาของพี่น้องเราทุกวัน อย่างล่าสุด ผมต้องขอกราบขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจกันแก้ไขปัญหาส่วนรวมอย่าง ถนนสายหลักของพ่อแม่พี่น้องบ้าน แม่ทะลาย ต.พระธาตุขิงแกง ระยะทางเกือบ 5 km. ผมและพ่อไพรัตน์ ตันบรรจง ได้นำยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต จำนวน 40 ตัน ร่วมกับ นายกสิทธิ์ พ่อหลวงบ้าน รวมถึงผู้ช่วยและทีมงานในหมู่บ้าน รวมถึงอาสาสมัครที่มาร่วมแรงร่วมใจกันล้างผิวถนน และซ่อมหลุมลึกบนถนนสายนี้ ผมซึ้งใจและขอบคุณทุกท่านที่เราไม่ทอดทิ้งกันยามลำบาก และร่วมกันเอาชนะอุปสรรคแบบนี้ต่อไป ซึ่งจากนี้ผมจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันหางบมาซ่อมสร้างถนนเส้นนี้ให้ได้”นายอนุรัตน์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 กันยายน 2566

ผู้กองธรรมนัส ควงว่าที่ ส.ส. เขต 2 พะเยา ‘น้องออม อนุรัตน์ ตันบรรจง’ ร่วมประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง ประจำปี 2566 ‘รวมพลคนอิสานล้านนา สืบสานตำนานบุญบั้งไฟตำบลอ่างทอง’

,

ผู้กองธรรมนัส ควงว่าที่ ส.ส. เขต 2 พะเยา ‘น้องออม อนุรัตน์ ตันบรรจง’ ร่วมประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง ประจำปี 2566 ‘รวมพลคนอิสานล้านนา สืบสานตำนานบุญบั้งไฟตำบลอ่างทอง’

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)เขต1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานพิธีเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง ประจำปี 2566 ‘รวมพลคนอิสานล้านนา สืบสานตำนานบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง’ ณ บ้านปางมดแดง ตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา โดยมีนางสาวธนพร ศรีวิราช ภริยา และนายอนุรัตน์ ตันบรรจง ว่าที่ ส.ส.เขต จังหวัดพะเยา ไปร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ตำบลอ่างทอง และหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ยินดีที่ได้มาร่วมประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง เพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของพ่อแม่พี่น้องชาวอีสาน ในพื้นที่ตำบลปางมดแดง ที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาจากหลายจังหวัดของภาคอีสานทั้ง กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ และมหาสารคาม เป็นเวลานาน และเมื่อมีพ่อแม่พี่น้องชาวอิสานเข้ามาอาศัยเป็นจำนวนมาก ขยายเป็นหลายหมู่บ้านของตำบลอ่างทอง ต่างก็ร่วมกันสานต่อประเพณีบุญบั้งไฟอันดีงามนี้มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตนเองพร้อมสนับสนุนให้มีการจัดประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง สู่รุ่นลูกหลานในอนาคตสืบไป

สำหรับงานประเพณีบุญบั้งไฟบ้านปางมดแดง ตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา จัดโดยองค์การบริหารส่วนตำบลอ่างทอง ระหว่างวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2566 ภายในงานมีทั้งการประกวดขบวนแห่บั้งไฟ และขบวนเซิ้งแต่ละชุมชน การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน เซิ้งและโปงลาง หมอลำ และยังมีการจุดบั้งไฟ เพื่อบูชาพญาแถน (ขอฝน) ณ อ่างเก็บน้ำสาธารณะ (หนองสลาบ) บ้านปางมดแดง หมู่ที่ 4 ตำนลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ อีกด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤษภาคม 2566