โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 20 พฤษภาคม 2025

“โฆษก พปชร.”เตือน“ ธนกร”อย่าหวังรัฐบาลจะกวาดล้างเครือข่ายเว็บพนันได้ ชี้ คนรอบตัวมีเอี่ยวทั้งนั้น

,

“โฆษก พปชร.”เตือน“ ธนกร”อย่าหวังรัฐบาลจะกวาดล้างเครือข่ายเว็บพนันได้ ชี้ คนรอบตัวมีเอี่ยวทั้งนั้น

วันนี้ (18พ.ค.2568) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงกรณีที่นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลกวาดล้างเครือข่ายเว็บพนัน ที่ฟอกเงินเป็นทุนในการซื้อเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นหลายพื้นที่นั้น ตนอยากเตือนนายธนกรว่า อย่าคาดหวังอะไรกับรัฐบาลมากนัก เพราะตอนนี้ประชาชนรากหญ้า ที่เคยคาดหวังรัฐบาล หมดความหวังไปนานแล้ว คนรอบตัวรัฐบาลมีเอี่ยวทั้งนั้น ไม่ใช่แต่จังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และ จังหวัดในภาคใต้ ก็คือ สงขลา เท่านั้น ทุกวันนี้มีการโฆษณาอย่างเปิดเผย ทุกหมู่บ้าน ชุมชน ได้รับผลกระทบไปทั่ว  ไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียน แม่ค้า คนแก่ คนชรา แม้กระทั่งพระสงฆ์ ก็ตกเป็นเหยื่อแก๊งการพนันออนไลน์  และเงินกู้นอกระบบทั้งนั้น ดังที่เห็นในข่าว พระผู้ใหญ่ก็ เป็นเหยื่อการพนันออนไลน์ทั้งนั้น    

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า กรณีปราบปรามการพนันออนไลน์ มันไม่ใช่เรื่องยาก อย่างที่เคยบอกไว้ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก.ตร. คุมตำรวจ 200,000 กว่าคนท้้งประเทศ คุมกระทรวงไอซีที แค่สั่งและกำกับ ติดตามผลให้เป็นเท่านั้น แก๊งค์พวกนี้ ลอยนวลไม่ได้หรอก  ทางพรรคพลังประชารัฐ เคยเรียกร้องและเปิดเผยชื่อ เว๊บพนันออนไลน์ ที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน  ไม่ว่า จะเป็น มาเก๊า 888  ไฮดร้า888  บราซิล999 เฮง 36และอื่นๆ เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา  จนวันนี้  เว็บดังกล่าวก็ยังคงลอยนวล  หลอกต้มเด็ก  เยาวชน คนเกษียณ และชาวบ้านรากหญ้าอยู่

      ”ความผิดปรากฏชัดเจน มีข้อมูลชัดเจนขนาดนี้  ท่านนายกฯจะให้ใครออกมาปฎิเสธว่า ไม่รู้ ไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ ท่านนายกฯมีความจริงใจ หรือมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวหรือไม่เท่านั้น สุดท้ายมันก็จะชนตอ คนใกล้ตัวท่านนายกฯ คนร่วมรัฐบาล ที่สนิทสนม กับ นาย ตคม., สารวัตร ซ., นาย ก.,นาง น. และ นาง ม.  โดยเฉพาะคนบางคนมีหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหลบหนีคดีอยู่  ยังมาป้วนเปี้ยนบ่อยครั้งที่ชั้น 9 โรงแรมหรูย่านเพลินจิต อยู่เลย“พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤษภาคม 2568

 “สรุเดช”เผย กระแส พปชร.เริ่มฟื้นตัว หลังลุยภาคเหนือตอนบน เฟ้นหาผู้สมัคร ระดับเกรด A-B ร่วมงาน มั่นใจปักธงเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ควรน้อยกว่า 10 เขต

,

 “สรุเดช”เผย กระแส พปชร.เริ่มฟื้นตัว หลังลุยภาคเหนือตอนบน เฟ้นหาผู้สมัคร ระดับเกรด A-B ร่วมงาน มั่นใจปักธงเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ควรน้อยกว่า 10 เขต

นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน น่าน ทั้งหมด 34 เขต ซึ่งมีจำนวน สส.รวม 34 คน โดยในวันพุธที่ 21 พ.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปภาคเหนือเพื่อพบปะกับผู้ที่แสดงเจตจำนงต้องการลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งปี 2570 กว่า 30 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นบุคคลคุณภาพอยู่ในระดับ A และ B เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ ซึ่งพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกพรรคต่อไป ตนยืนยันว่า พรรคจะคัดเลือกตัวแทนที่ดีที่สุด มีความสามารถ ส่งลงสนามสู้ศึกเลือกตั้ง

“จากที่ผมได้มีโอกาสพบกับประชาชนในภาคเหนือตอนบน ยืนยันได้ว่า กระแสความนิยมของพรรคพลังประชารัฐ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการทำงานอย่างทุ่มเท จริงจัง และยึดความต้องการของประชาชน จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น คาดว่า ในการเลือกครั้งหน้า ประชาชนใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนจะให้โอกาสตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ
เข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรไม่ต่ำกว่า 10 เขต” นายสุรเดช กล่าว

นายสุรเดช กล่าวต่อว่า นับตั้งแต่ตนได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นรองหัวหน้าพรรค ตนได้มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และพบปะพี่น้องประชาชน และร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร เพื่อแนะนำตัวพร้อมทั้งรับฟังปัญหาโดยเฉพาะปัญหาการประกอบอาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปัญหาที่ทำกินรวมถึงปัญหาคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นปัญหาที่พรรคให้ความสนใจ และเป็นนโยบายการของพรรคที่มีการติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ซึ่งได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลอย่างต่อเนื่องผ่านกลไกของรัฐสภา โดยเน้นย้ำให้แกนนำทุกคนได้ลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่นโยบายของพรรค ทั้งด้านการปกป้องสถาบัน และด้านเศรษฐกิจ ที่เกี่ยวกับการทำมาหากิน ยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้น

“ผมมีความมุ่งมั่น ทำงานอย่างเต็มที่ในการใช้ประสบการณ์ที่เคยได้รับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จ.พะเยา และเป็นอดีต สส. พรรคเพื่อแผ่นดิน รวมถึงความรู้ ความสามารถที่ตนมี  มาสร้างประโยชน์ให้กับพรรคพลังประชารัฐ และพี่น้องประชาชน โดยยึดแนวนโยบาย และปรัชญาพรรค”อนุรักษนิยมทันสมัย” ที่ยึดมั่นการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สืบสานวัฒนธรรม
ขนบธรรมเนียม และค่านิยมอันดีงามของชาติ มาสร้างการพัฒนาที่สร้างประโยชน์ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน ทำให้เกิดเป็นพลังประชาชนเพื่อประชาชนและประเทศชาติ“

นายสุรเดช ยังกล่าวต่อว่า นโยบายของพรรคเน้นการทำงานโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำงานเพื่อสร้างพลังแห่งความ
สามัคดี ไม่แบ่งสี ไม่แบ่งเพศ ไม่แบ่งวัย ที่จะขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวต่อไป และพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า มั่นคงยั่งยืน ปราศจากความขัดแย้งของคนในชาติ ดั่งเห็นได้จากโลโก้ใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีคำว่า”พลัง” เป็นสีเขียว คำว่า “ประชา” เป็นสีน้ำเงิน คำว่า”รัฐ” เป็นสีแดง อยู่ภายในวงล้อพลวัตที่มี 3 แถบสีได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว บนพื้นสีขาว โดยสีแดงหมายถึง ความสามัคคีร่วมมือร่วมใจของประชาชน สีน้ำเงิน หมายถึง ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ขณะที่ สีเขียว หมายถึง การอนุรักษ์ธรรมชาติวัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงาม และผสมผสมสานกับโลกเทคโนโลยีในปัจจุบัน และสีขาว หมายถึง ความเป็นธรรมาภิบาลของภาครัฐ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤษภาคม 2568

“โฆษก พปชร.”ยืนยัน“พล.อ.ประวิตร”แข็งแรงดี ยังทำงานตามปกติ ไม่ได้รับบาดเจ็บ แค่เสียหลัก

,

“โฆษก พปชร.”ยืนยัน“พล.อ.ประวิตร”แข็งแรงดี ยังทำงานตามปกติ ไม่ได้รับบาดเจ็บ แค่เสียหลัก

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงกระแสข่าววานนี้(19 พ.ค.) ที่ระบุว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ได้เดินทางไปเป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์มงคลเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อความเป็นสวัสดิมงคลแก่ประเทศชาติและประชาชน ณ พระอุโบสถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และได้ประสบอุบัติเหตุพลัดตกบันไดว่า พลเอกประวิตร ไม่ได้ตกบันไดอย่างที่มีข่าวเผยแพร่ออกมา ท่านเพียงเดินเสียหลักเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ และขณะนี้ท่านก็ยังทำงานตามปกติ โดยยืนยันว่า สุขภาพของท่านยังคงแข็งแรงดีทั้งร่างกายและจิตใจ 

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤษภาคม 2568

”โฆษกพปชร.​ เผยหัวหน้าพรรค ล้มจริง แต่ไม่ได้เจ็บ ไม่ได้หามส่ง รพ.ยัน เป็นทหารเก่า ยังแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง

,

”โฆษกพปชร.​ เผยหัวหน้าพรรค ล้มจริง แต่ไม่ได้เจ็บ ไม่ได้หามส่ง รพ.ยัน เป็นทหารเก่า ยังแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง

เมื่อวันที่ 20 พ.ค. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงกรณีโลก       โซเชียลมีการเผยแพร่คลิป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลื่นล้มขณะลงบันไดวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดยมีกระแสข่าวว่า ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลนั้น พลเอกประวิตร ฝากตนมาแจ้งว่า ท่านลื่นล้มจริง แต่ไม่เป็นอะไร ไม่ได้ถูกหามส่งโรงพยาบาลอย่างที่เป็นข่าว ตนกลับจากวัด ก็มาพักผ่อนตามปกติ เช้ารุ่งขึ้นจึงค่อยไปให้แพทย์ตรวจร่างกายซึ่งผลออกมาปกติดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โดยย้ำว่า ผมเป็นทหารเก่า ยังแข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมฝากขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤษภาคม 2568

“โฆษก พปชร.”จี้ รัฐบาล ตอบให้ชัด “เอกสารปานเทพ”จริงหรือมั่ว ซัดทำอะไรเพื่อรักษาแผ่นดินไทยบ้าง ชี้ อย่าให้เขมรตราหน้าคนไทยขายแผ่นดินแลกสัญชาติ หวั่นซ้ำรอยเขาพระวิหาร

,

“โฆษก พปชร.”จี้ รัฐบาล ตอบให้ชัด “เอกสารปานเทพ”จริงหรือมั่ว ซัดทำอะไรเพื่อรักษาแผ่นดินไทยบ้าง ชี้ อย่าให้เขมรตราหน้าคนไทยขายแผ่นดินแลกสัญชาติ หวั่นซ้ำรอยเขาพระวิหาร

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.พล.ต.ท.ปิยะ
ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงกรณีที่มีนายทหารชั้นนายพล ได้นำชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่ง ขึ้นมาร้องเพลงชาติกัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และมีการบันทึกภาพและเสียง ซึ่งประชาชนมีข้อสงสัยว่า เหตุใดทำไมรัฐบาลถึงได้สั่งการให้ทหารไทยออกนอกปราสาทตาเมือนธม ทั้งที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินไทย โดยพี่น้องประชาชนคนไทยอยากถามรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดังนี้

1. น.ส.แพทองธาร และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบหรือไม่ว่ากรมศิลปากรได้ขึ้นบัญชีปราสาทตาเมือนธมเป็นโบราณสถานของไทย ตั้งแต่ปี 2478 หรือเมื่อ 90 ปีที่แล้ว และปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักศิลปากรที่ 5 จ.ปราจีนบุรี

2.การออกคำสั่งให้ทหารไทยถอยออกจากตัวปราสาทตาเมือนธมถึง 2 ครั้ง ทั้ง ๆ ที่ปราสาทดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่ของราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย และถูกต้องตามหลักสากลหรือไม่

3. การยินยอมให้ทหารกัมพูชาเข้าประจำการในบริเวณ ตัวปราสาทตาเมือนธมของราชอาณาจักรไทย จำนวน 5 นาย เป็นไปตามข้อตกลงที่รัฐบาลไทยไปลงนามร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างใช่หรือไม่ และการส่งกองกำลังทหารแต่งเครื่องแบบติดอาวุธ เข้ามาปฏิบัติหน้าที่บนผืนแผ่นดินไทย ชอบด้วยกฏหมายหรือไม่

4. เอกสารแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมประเทศกัมพูชา ที่นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต มาเผยแพร่ที่ปรากฎข้อความว่า “รัฐบาลเขมร  โดยนายฮุน มาเนต ได้ออกแถลงการณ์ต่อคนเขมรว่า เขมรไม่ได้เสียอธิปไตยให้กับราชอาณาจักรไทย หมายถึงยังคงยึดมั่นว่า ตัวปราสาทตาเมือนธมยังคงเป็นของเขมรอยู่นั้น เป็นของจริงหรือของปลอม  
         
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลทำอะไรเพื่อรักษาแผ่นดินไทยบ้าง เช่น กรณีที่นายทหารชั้นนายพลแต่งเครื่องแบบได้นำชาวกัมพูชาแต่งชุดประจำชาติจำนวนหนึ่ง ขึ้นมาร้องเพลงชาติกัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และมีการบันทึกภาพและเสียง ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ล่วงละเมิดอธิปไตยของไทยในดินแดนของไทย แต่รัฐบาลไม่ดำเนินการประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ หรือดำเนินคดี หรือดำเนินการใดๆ แต่อย่างใด เป็นลายลักษณ์อักษร หรือให้เป็นพยานหลักฐาน  เพื่อใช้ในการต่อสู้คดีที่อาจเกิดขึ้นในภายภาคหน้า หากทางประเทศกัมพูชาจะเรียกร้องพื้นที่นี้เป็นอาณาเขตของประเทศตนเอง จะเข้าลักษณะกฏหมายปิดปาก”พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐได้เคยเรียกร้องให้ทางรัฐบาลดำเนินการประท้วง หรือท้วงติงเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังรัฐบาลกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.จนถึงวันนี้เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว แต่ไร้คำตอบจากรัฐบาล นอกจากนี้ ประชาชนยังคาใจในหลายๆ เรื่อง  โดยเฉพาะการที่นายปานเทพได้นำแถลงการณ์กระทรวงกลาโหมกัมพูชามาแถลงต่อสาธารณชนนั้น เป็นของจริงหรือไม่ หากเป็นของจริง เหตุใดรัฐบาลจึงไม่ได้ดำเนินการประท้วงดำเนินคดีหรือดำเนินการใดๆ ตนขอเตือนว่ากรณีดังกล่าวจะซ้ำรอยการเสียที่ดินบางส่วนของเขาพระวิหาร เมื่อปี พ.ศ. 2556  อย่าให้คนเขมรตราหน้าว่าคนไทยขายแผ่นดินแลกสัญชาติ หรือแลกผลประโยชน์ทางทะเลเลย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤษภาคม 2568

“ธีระชัย”ชี้ธปท. เสาหลักเศรษฐกิจชาติ มีสิทธิแนะผลกระทบกาสิโน รมช.คลังอย่าเมินผลศึกษานำประเทศเป็นแหล่งฟอกเงิน ผู้บังคับใช้กฎหมายอ่อนแอมีเอี่ยวบ่อนออนไลน์

,

“ธีระชัย”ชี้ธปท. เสาหลักเศรษฐกิจชาติ มีสิทธิแนะผลกระทบกาสิโน รมช.คลังอย่าเมินผลศึกษานำประเทศเป็นแหล่งฟอกเงิน ผู้บังคับใช้กฎหมายอ่อนแอมีเอี่ยวบ่อนออนไลน์

วันนี้ ( 20 พฤษภาคม 2568) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ  พปชร. อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวไม่เห็นด้วยกับกรณีที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โต้นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กังวลภาพลักษณ์ของประเทศไทยจากโครงการกาสิโน ว่าองค์กรอิสระไม่ควรที่จะมาก้าวก่ายการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล

นายธีระชัยเห็นว่าถึงแม้ ธปท. ไม่มีอำนาจที่จะสั่งยุตินโยบายรัฐบาล แต่ในฐานะองค์กรหลักที่รับผิดชอบงานด้านเศรษฐกิจถ้าเห็นว่านโยบายใดจะมีผลทางลบก็มีหน้าที่จะต้องให้ข้อมูล ส่วนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั้น ถึงแม้จะมีอำนาจเต็มในการบริหารและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก็ควรจะรับฟังนำไปประกอบการพิจารณา โดยท้ายสุดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน กรณีคำพูดของนายจุลพันธ์ว่าเรามีบ่อนเถื่อนอยู่ทั่วเมือง แต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น แบบนี้ประเทศเราไม่เทาไหม มันก็เทา นั้น นายธีระชัยเตือนว่าภาระหน้าที่ปราบปรามบ่อนเถื่อนเป็นของรัฐบาลโดยตรง จะต้องลงโทษข้าราชการที่ทำเป็นมองไม่เห็นให้เป็นเยี่ยงอย่าง

นายธีระชัยชี้ให้รัฐบาลควรคำนึงถึงข้อศึกษาทางวิชาการที่บ่งชี้ว่ากาสิโนจะเป็นอันตรายต่อสังคมไทย ดังเช่นในงานเสวนาวิชาการ ม.เกษตรศาสตร์ ที่ รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล พบว่าแม้ในประเทศพัฒนาแล้วที่มีระบบยุติธรรมเข้มแข็ง ก็ยังพบว่าก่อคดีรุนแรงได้มาก ยิ่งคอรัปชันสูง จะยิ่งเสี่ยงหนัก และรศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ที่เตือนว่ากาสิโนถูกกฎหมายจะทำให้การฟอกเงินเกิดขึ้นได้ง่าย

“ที่ผ่านมา ทางการสามารถจับกุมกรณีทุจริตคอรัปชั่นและการปฏิบัติผิดกฎหมายโดยตามเส้นทางเงิน แต่การใช้ชิปกาสิโนฟอกเงินจะตัดตอนเส้นทางเงินไปหมดสิ้น ส่วนกรณีที่นายจุลพันธ์บอกว่าสหรัฐฯ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ที่มีกาสิโนถูกกฎหมายไม่ได้ทำให้เป็นประเทศสีเทานั้น เป็นเพราะระบบบริหารประเทศมีธรรมาภิบาล ผมขอแนะนำให้ดูเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอินโดจีนและหันมาดูตัวเองในไทย นอกจากนี้ รัฐบาลควรเข้มงวดเรื่องปราบปรามพนันออนไลน์โดยดูตัวอย่างในสิงคโปร์ที่ในปีก่อนสามารถปิดเว็บพนันออนไลน์ได้หลายพันแห่ง และล่าสุดในญี่ปุ่นสมาชิกรัฐสภาก็จะมีการเสนอกฎหมายเพื่อปราบปรามเรื่องนี้” นายธีระชัยกล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤษภาคม 2568