โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 3 กรกฎาคม 2024

“สส.นเรศ”วอนกรมทางหลวง เร่งซ่อมทางหลวงหมายเลข 1088 ช่วงสะพานห้วยแม่เม็ง ประชาชนเดือดร้อนต้นทุนสูงขนส่งสินค้าเกษตรลำบาก

“สส.นเรศ”วอนกรมทางหลวง เร่งซ่อมทางหลวงหมายเลข 1088 ช่วงสะพานห้วยแม่เม็ง ประชาชนเดือดร้อนต้นทุนสูงขนส่งสินค้าเกษตรลำบาก

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ เขต 9 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงกระทรวงคมนาคม เพื่อขอจัดสรรเร่งรัดงบประมาณ ในการสร้างซ่อมแซมทางหลวงหมายเลข 1088 ตอนสะพานห้วยแม่เม็ง แม่ซา กม.ที่ 77+490 ถึงกม. ที่ 77 +640 อำเภอแม่แจ่ม ซึ่งเกิดจากความเสียหายการชะล้าง พังทลายจากการเคลื่อนตัวเชิงราบ โดยเกิดความเสียหายตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. 2565 ปัจจุบันยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ขนส่งสินค้าการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำเภอแม่แจ่มต้องส่งข้าวโพด ซึ่งต้องใช้รถบรรทุกขนาดขนาดใหญ่

นายนเรศ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่เกิน 21 ตัน ไม่สามารถจะผ่านได้ ทำให้ต้นทุนในการขนส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้นประกอบกับเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางลัดระหว่างอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ไปจนถึงอำเภอขุนยวมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน

”ผมขอฝากเร่งรัดกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอนด้วย“นายนเรศ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 กรกฎาคม 2567

“สส.จำลอง”ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งซ่อมแซมถนนเชื่อมระหว่าง อ.โคกเครือ-ต.ดงมูล ชี้ ช่วงหน้าฝนเกิดน้ำท่วมขังชาวบ้านสัญจรลำบาก

“สส.จำลอง”ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งซ่อมแซมถนนเชื่อมระหว่าง อ.โคกเครือ-ต.ดงมูล ชี้ ช่วงหน้าฝนเกิดน้ำท่วมขังชาวบ้านสัญจรลำบาก

นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาถนนเชื่อมระหว่างอำเภอโคกเครือ กับตำบลดงมูล เนื่องจากเวลาหน้าฝนพื้นถนนที่ใช้สัญจรที่เป็นหลุมเป็นบ่อจะถูกน้ำท่วมขังจำนวนมาก ประชาชนประมาณ 200 ครัวเรือนต้องใช้เส้นทางสายนี้เป็นประจำทุกเวลาที่ต้องไปประกอบภารกิจ ซึ่งก็ได้นายก อบจ. กาฬสินธุ์ ที่สนับสนุนงบประมาณจำนวน 500,000 บาท มาทำถนนคอนกรีตระยะทาง 167 เมตร
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

“ทางนายก อบจ.ได้ใช้เงินเหลือจ่ายที่ได้จากถนนเส้นอื่น ประมาณ 1,700,000 บาท มาบรรเทาก่อน โดยถนนเส้นนี้ ที่ผมเคยหารือกับท่านประธานว่าต้องใช้งบประมาณอยู่ประมาณกว่า 8,000,000 บาทตอนนี้เหลืออยู่ประมาณ 6,000,000 บาท เมื่อไหร่ถนนเส้นนี้ จะแล้วเสร็จ“นายจำลอง กล่าว

นายจำลอง กล่าวต่อว่า เรื่องการสัญจรของสนามบินใน กทม.ซึ่งตนได้รับผลกระทบกับตัวเอง ไม่ต่างอะไรจากขนส่งหมอชิตที่ตนเคยใช้มาก่อน รถแท็กซี่ห้ามเข้า แม้ส่งและรับผู้โดยสาร ทำให้ต้องเดินจากสนามบินมาชั้นสอง ปัญหาของตนคือประตูทางเข้า ห้ามออกจากสนามบิน ถ้าจะกรุณาควรจะทำทางออกออกจากสนามบินให้ด้วยจะเป็นพระคุณกับพี่น้องประชาชนผู้สัญจรไปมา โดยการใช้การเดินทางอากาศหรือเครื่องบิน จะเป็นคุณูปการแก่พี่น้องประชาชน

“ ปัญหาดังกล่าวตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่เดินทางมาด้วยกัน วันนี้สนามบินมีสภาพไม่แตกต่างจากมาเฟีย ประเทศไทยวันนี้เดินมาถึงจุดที่ศรีวิไลแล้วในสายตาผม เรื่องเหล่านี้ไม่ควรจะมีในสังคมสังคมไทย”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 กรกฎาคม 2567

“สส. อัครแสนคีรี” ฝาก รัฐบาล – กระทรวงทรัพย์ฯ นำมติ ครม.63 มาใช้ชั่วคราวระหว่างใช้งบ 67 เร่งแก้ไขปัญหาขอเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ เชื่อ หลายโครงการจะก่อสร้างไวขึ้น ฟื้นความเชื่อมั่นที่มีต่อ รัฐบาล.”

“สส. อัครแสนคีรี” ฝาก รัฐบาล – กระทรวงทรัพย์ฯ นำมติ ครม.63 มาใช้ชั่วคราวระหว่างใช้งบ 67 เร่งแก้ไขปัญหาขอเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ เชื่อ หลายโครงการจะก่อสร้างไวขึ้น ฟื้นความเชื่อมั่นที่มีต่อ รัฐบาล.”

นายอัครแสนคีรี โลห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า อย่างที่เราทราบว่า งบประมาณปี 2567 เกิดปัญหาความล่าช้า และหลายท้องถิ่นต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าก่อนดำเนินการก่อสร้างโครงการ เช่นถนนท้องถิ่น แหล่งน้ำ หรือโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่สำคัญต่อชีวิตของพี่น้องประชาชน ซึ่งอาจส่งผลให้ท้องถิ่นใช้งบประมาณไม่ทันในปีงบประมาณ

“ผมจึงอยากขอหารือท่านประธานผ่านไปยังกระทรวงทรัพยากรและรัฐบาลให้ช่วยพิจารณานำมติคณะรัฐมนตรีปี 2563 มาใช้ชั่วคราว เพื่อใช้ในห้วงระยะเวลาการใช้งบ 2567 นั่นก็คือ เห็นชอบมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหากรณีที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต ซึ่งจะสามารถทำให้หลายท้องถิ่นใช้งบประมาณเบิกจ่ายได้เร็วขึ้น หลายโครงการจะเริ่มก่อสร้างได้ไวขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และฟื้นความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 กรกฎาคม 2567

“สันติ” รมช.สธ.ลงพื้นที่ตรวจงานอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา

,

“สันติ” รมช.สธ.ลงพื้นที่ตรวจงานอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา
รองรับการให้บริการด้านสุขภาพให้ประชาชน เข้าถึงเครื่องมือการแพทย์ที่ทันสมัยครบวงจร

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) กับนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการจัดสร้างอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น

ทั้งนี้แผนพัฒนาอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น ประกอบด้วย Trauma& Emergency center , ICU และศูนย์เปลี่ยนถ่ายอวัยวะ , แผนกผ่าตัด ศูนย์ส่องกล้อง ODS, MIS และศูนย์สุขภาพครบวงจร (CHECK UP CENTER) ดำเนินการภายใต้งบประมาณการก่อสร้างรวมคุรุภัณฑ์ จำนวนเงิน 4,427 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างอาคารพักแพทย์และพยาบาล 18 ชั้น จำนวน 352 ห้อง วงเงิน 437 ล้านบาท รวมวงเงินการดำเนินการโครงการ ทั้งสิ้น จำนวน 4,864 ล้านบาท

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 กรกฎาคม 2567