โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวกิจกรรมพรรค

พล.อ.ประวิตร สั่งตื่นตัวเฝ้าระวังแก้ปัญหา PM 2.5 เตรียมแผนเชิงรุกป้องกัน ปชช.ทั่วปท.และ กทม. หลังลมหนาวเยือน

,

พล.อ.ประวิตร สั่งตื่นตัวเฝ้าระวังแก้ปัญหา PM 2.5
เตรียมแผนเชิงรุกป้องกัน ปชช.ทั่วปท.และ กทม. หลังลมหนาวเยือน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประสานกับกระทรวงมหาดไทย กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าระวังคุณภาพอากาศ PM 2.5 หลังความกดอากาศสูงและมวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุม โดยเริ่มมีผลหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้ง กรุงเทพมหานครฯ

โดยขอให้ประสานขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ ที่ให้ความสำคัญ การสื่อสารเชิงรุก แจ้งเตือนป้องกันกับประชาชน ยกระดับเพิ่มความเข้มปฏิบัติการ ทั้งการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการต่างๆที่กำหนด รวมทั้งการสร้างการมีส่วนร่วม โดยเฉพาะการสร้างความตระหนักรู้และร่วมมือกันในช่วงเวลาวิกฤต ทั้งนี้ให้ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้มีผลและครอบคลุมเป้าหมายทั้ง พื้นที่เมือง พื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่ป่า เพื่อลดต้นเหตุของการเกิดปัญหาให้เป็นผล ทั้งนี้ขอให้ประสานการทำงานร่วมกัน สธ.เข้าไปช่วยดูแลกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็ก ผู้สูงวัยและสตรีมีครรภ์ ในภาพรวม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 ธันวาคม 2565

‘ พล.อ.ประวิตร’ อวยพรปีใหม่ ทีมสมาคม”กีฬาว่ายน้ำฯ” ภูมิใจทัพนักกีฬาทุกคน ทุ่มเทสร้างผลงานเพื่อประเทศชาติ

,

‘ พล.อ.ประวิตร’ อวยพรปีใหม่ ทีมสมาคม”กีฬาว่ายน้ำฯ”
ภูมิใจทัพนักกีฬาทุกคน ทุ่มเทสร้างผลงานเพื่อประเทศชาติ

เมื่อ 22 ธ.ค.65 ,09.30น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยฯ เพื่อกล่าวอวยพร-รับพร ในโอกาสเทศกาลปีใหม่2566 ณ บ้านอัมพวัน สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ถนนศรีอยุธยา โดย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ได้นำคณะกรรมการและนักกีฬาว่ายน้ำ สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยฯ เข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องในโอกาสปีใหม่

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณ และแสดงความชื่นชมนักกีฬาว่ายน้ำ พร้อมคณะผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ที่ได้ทุ่มเทฝึกซ้อม และเข้าแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ กระทั่งประสบความสำเร็จ สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในหลายรายการ ในปีที่ผ่านมา อย่างน่าภาคภูมิใจ พร้อมทั้งได้อวยพรและให้กำลังใจนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ขอให้ทุ่มเท ตั้งใจฝึกซ้อม อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้น ต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 ธันวาคม 2565

พปชร. คึกคักต่อเนื่อง “รองฯวิรัช”ฟิตนำทีมอบรมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. รุ่น 2,3 เตรียมความพร้อมสู้ศึกสนามเลือกตั้ง เผย เตรียมประชุมใหญ่ 14 ม.ค.นี้

,

พปชร. คึกคักต่อเนื่อง “รองฯวิรัช”ฟิตนำทีมอบรมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. รุ่น 2,3
เตรียมความพร้อมสู้ศึกสนามเลือกตั้ง เผย เตรียมประชุมใหญ่ 14 ม.ค.นี้

22 ธันวาคม 2565 นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร) .เปิดเผยว่า วันนี้ พรรคได้จัดการอบรมว่าที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐรุ่นที่ 2 และก็รุ่นที่ 3 ซึ่งเป็นนโยบายของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้กำหนดให้ ว่าผู้ที่สมัคร ส.ส. ต้องรู้แนวทางปฏิบัติในการรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้งที่จะมาถึงในอนาคต ดังนั้นในครั้งนี้ได้เปิดครอสอบรม 2 รุ่น ที่ได้เชิญวิทยากรที่มีประสบการณ์ และความรู้ความสามารถในทุกมิติ ในเรื่องการขับเคลื่อนนโยบายและข้อกฎหมาย อาทิ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ , นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ , นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้แทน ส.ส.ทั้งปัจจุบัน และในอดีตมาช่วยกันถ่ายทอดความรู้ให้กับรุ่นลูก รุ่นหลาน เพื่อให้เขาได้มีโอกาสตามเราให้ทัน ให้สอดรับกับทิศทางของการเมืองปัจจุบัน เพราะที่ผ่านมาในอดีต รุ่นตน เป็นในแนวทางการหาเสียงลองผิด ลองถูก ดังนั้นการอบรมถ่ายทอด เป็นการเพิ่มความรู้เพื่อไม่ให้ว่าที่ผู้สมัครต้องลองผิดอีก

นอกจากนี้พรรค กำลังเตรียมจัดให้มีการประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ โดยกำหนดเบื้องต้น ในวันที่ 14 มกราคม 2566 ซึ่งจะเป็นการประชุมใหญ่ เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในส่วนของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคเช่นเดิม แต่คณะกรรมการบริหารที่ต้องเลือกกันใหม่เพื่อมาทดแทนกรรมการที่มีการลาออกไป เนื่องจาก ในส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะลง ส.ส.เขต ต้องพ้นจากการเป็นกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากว่ากฎระเบียบของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการลงพื้นที่มีข้อจำกัดจำนวนมาก พร้อมกันนี้พรรคพลังประชารัฐจะมีการจัดระดมทุนคาดว่าจะอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับกิจกรรมสัมมนาพรรคแล้วเสร็จ

อย่างไรก็ตามความพร้อมของการคัดสรรว่าที่ผู้สมัครของของพรรคพลังประชารัฐ คาดว่าสิ้นปีนี้ก็น่าจะได้ประมาณ 80% แล้ว ส่วนกรุงเทพฯ กำลังดูรายละเอียด ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคช่วยกันคัดเลือก ส่วนการดูแลผู้สมัครในพื้นที่กทม. ขณะนี้ยังช่วยกันดูแล ยังไม่ได้มอบหมายใครดูแลเป็นพิเศษ โดยมีพล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค เป็นผู้พิจารณาโดยตรง และกำหนดวันเปิดตัวอีกครั้ง


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 ธันวาคม 2565

เลขา พปชร.ปักธงนำทัพเปิดตัว 55 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วปท. คัดคนคุณภาพร่วมอุดมการณ์ อาสาดูแลปชช.ให้อยู่ดีกินดี

,

เลขา พปชร.ปักธงนำทัพเปิดตัว 55 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วปท. คัดคนคุณภาพร่วมอุดมการณ์ อาสาดูแลปชช.ให้อยู่ดีกินดี

วันที่ 21 ธ.ค. 65 ที่พรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร. ) และนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ภาคเหนือและภาคอีสาน โดยมีผู้สมัครที่โดดเด่น คือ นายอันวาร์ สาและ อดีต ส.ส. ปัตตานี 4 สมัย ร่วมเปิดตัวกับพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้ด้วย ถือเป็นการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพปชร. ที่มีจำนวนมากที่สุดถึง 55 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน มีความตั้งใจเข้ามาร่วมทำงานให้กับประชาชน ที่พร้อมอาสาเข้าไปพัฒนาท้องถิ่นในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งมีบุคคลทั้งที่มีประสบการณ์ เป็นส.ส.อยู่แล้ว และเป็นผู้สมัครใหม่ มาจากแวดวงนักธุรกิจ ข้าราชการ และอาจารย์

“ ตามที่หัวหน้าพรรค โดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เน้นย้ำเสมอว่า พปชร.มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะพัฒนาประเทศ ดูแลประชาชนให้อยู่ดีกินดี เป็นพรรคที่สนับสนุนนักลงทุน นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ชาวไร่ ชาวนา เกษตรกร พี่น้องแรงงาน เพื่อช่วยยกระดับในทุกอาชีพ พร้อมยึดมั่นสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นโอกาสดีที่ได้เปิดตัวผู้สมัครของพรรค เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการที่จะดูแลพัฒนาบ้านเมืองอย่างตั้งใจและจริงใจ”

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า การก้าวไปข้างหน้า ร่วมกัน ภายใต้อุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งคาดว่าในปีหน้าไม่เกิน 22 มี.ค.66 เราจะต้องมีกำหนดการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งไม่เกิน 7 พ.ค.66 เป็นตัวชี้วัดให้เกิดการยุบสภาก่อน 22 กำหนดการเลือกตั้ง 7 พค ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กำหนดไว้ ซึ่งพปชร ต้องทำการบ้าน นำนโยบายของพรรคไปนำเสนอต่อประชาชน กระจายไปทั่วภูมิภาคอย่างเท่าเทียมกัน เห็นว่า พรรคมีผู้สมัครจากทุกภาค พร้อมกับความหลากหลายของอาชีพ ของผู้สมัครของ พปชร. และไม่ได้เน้นเฉพาะจุดหนึ่งจุดใด ขอบคุณที่ไว้ใจ พปชร. เลือก พปชร.ในการมาร่วมอุดมการณ์ ซึ่งขณะนี้เราสามารถเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่าสิ่งที่ขาดหายไป โดยจะเปิดตัวให้ครบ 400 เขต

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า มีความมั่นใจต่อผู้สมัครที่เข้ามาร่วมอุดมการณ์กับ พปชร. เชื่อว่า จะทำให้สังคมได้รับรู้ว่า พปชร.ในวันนี้มีความเข้มแข็ง จากความเป็นเอกภาพ มั่นคง มีการเติบโต ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่ที่ หัวหน้าพรรคมอบหมายไว้ จะทำให้ พปชร.เป็นพรรคของประชาชน

สำหรับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ ในครั้งนี้ พปชร. ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร พรรคพลังประชารัฐ รวม 55 คน ใน 23 จังหวัด พร้อมด้วย ส.ส บัญชีรายชื่อ ได้แก่ นายบุญสิงห์ วิรินทร์รักษ์ , พล.ต.อ. ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส่วนในพื้นที่ภาคต่างๆ ดังนี้

พื้นที่ภาคอีสาน
1. จ.อุบลราชธานี นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ, นายนาวิน ลาธุลี, นายวิทยา จันทวีศิริรัตน์,
2. จ.อำนาจเจริญ ได้แก่ นางจันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี
3. จ.ศรีสะเกษ ได้แก่ นายพงษ์ศักดิ์ อิริยะสุนทรกุล, นายเกียรติศักดิ์ ธรรมบุตร, นายอภิชาติ เกียรติสาร นายธนกฤช จิริวิภากร, นายฤทธา นันทพันธ์
4. จ.ยโสธร ได้แก่ นายสฤษดิ์ ประดับศรี, นายประสพโชค โคตรพงศ์, นายมนตรี เอราวรรณ์,
5. จ.สุรินทร์ ได้แก่ นายปุณยวัฒน์ สนใจ
6. จ.สกลนคร ได้แก่ นายกฤษณะ พุฒซ้อน, นายสินธุวัฒน์ ยนพันธ์, นายบุญรักษา พรมวัง, นายทนงศิลป์ วจีสิงห์
7. จ.หนองบัวลำภู ได้แก่ นายสรชาติ วิชยสุวรรณพรหม
8. จ.มหาสารคราม ได้แก่ นายสมเกียรติ กะตะศิลา
9. จ.ร้อยเอ็ด ได้แก่ นายเฉลิมศักดิ์ แสนปาง

พื้นที่ภาคเหนือ
10. จ.ลำพูน ได้แก่ นายทรงชัย วงศ์สวัสดิ์,
11. จ.ลำปาง ได้แก่ นางระพีพรรณ โพธิ์ทอง, นายจินดา วงศ์สวัสดิ์, นายดาชัย เอกปฐพี, นายสมเกียรติ ตันตระกูล,
12. จ.น่าน ได้แก่ นายสักก์สีห์ พลสันติกุล, นายสกล เนตรโสวรกุล, นายฉัตรชัย จิตตรง
13. จ.เชียงราย ได้แก่ นายพันธวัช ภูผาพันธกานต์ ,นายบุญเกิด ร่องแก้ว
14. จ.เชียงใหม่ ได้แก่ นายพจนารถ ศรียารัณย, นางศรีพรรณ เขียวทอง นายพรชัย อรรถปรียากูร นางสาวมนสิชา ภัคดิเมธี, นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ
15. จ.แม่ฮ่องสอน ได้แก่ นายปกรณ์ จีนาคำ, นายจำลอง ศรีสวัสดิ์

พื้นที่ภาคใต้
16. จ.ปัตตานี ได้แก่ นายอันวาร์ สาและ อดีตส.ส.ปัตตานี 4 สมัย,
17. จ.พัทลุง ได้แก่ นายเอกภัทร ภัทรัศมี, ดร.วัฒนา เรื่องแก้ว
พื้นที่ภาคตะวันออก
18. จ.ตราด ได้แก่ นายกิตติธัช ไชยอรรถ,
19. จ.ปราจีนบุรี ได้แก่ นายนุกูลกิจ พากเพียรศิลป์,

พื้นที่ภาคกลาง
20. จ.สมุทรสาคร ได้แก่ นายวัฒนา แตงมณี ,นางสาวจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ, นางสาวปัญฑารีย์ มั่งมี นายภัฏ สุริวงษ์,
21. จ.พระนครศรีอยุธยา ได้แก่ นายชาตรี อยู่ประเสริฐ,
22. จ.กาญจนบุรี ได้แก่ นายนพดล สงวนพันธ์, นายประเทศ บุญยงค์
23. จ.นนทบุรี ได้แก่ นายวิเชียร เจริญนนทสิทธิ์, นายสามารถ เจริญนนทสิทธิ์

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” ลงมุกดาหารแก้ปัญหาน้ำทุกระบบยั่งยืน เปิดแผนพัฒนาแหล่งน้ำผิวดิน น้ำบาดาล ช่วยเหลือปชช.

,

“พล.อ.ประวิตร” ลงมุกดาหารแก้ปัญหาน้ำทุกระบบยั่งยืน เปิดแผนพัฒนาแหล่งน้ำผิวดิน น้ำบาดาล ช่วยเหลือปชช.

วันนี้ (2 ธ.ค.65). พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการน้ำตามมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/2566 และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ณ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร โดยมี นายวลัยพรรณ น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวต้อนรับและบรรยายสรุป ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำในภาพรวม และมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/2566 ก่อนเดินทางไปติดตามก้าวหน้าโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำห้วยบังอี่ ต.โพธิ์ไทร อ.ดอนตาล และโครงการขุดเจาะน้ำบาดาลและสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ณ บ้านนาดี หมู่ 8 ต.ดงมอน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร พร้อมพบปะประชาชนในพื้นที่ และมอบนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาแหล่งน้ำและการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนโดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค วางแผนการบริหารจัดการน้ำและกักเก็บน้ำ รวมทั้งการเตรียมการรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่งรองนายกฯ ได้มอบหมายให้ สทนช. บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน เร่งรัด ขับเคลื่อน แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม-น้ำแล้ง เพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำในระดับพื้นที่ ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ พร้อมสั่งการให้จังหวัดและกรมชลประทาน วางแผนการใช้น้ำให้เพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน มอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำบังอี่ ให้แล้วเสร็จตามแผนงาน เพื่อช่วยในการพร่องระบายน้ำในช่วงต้นฤดูฝนและเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร และอื่นๆ ในช่วงฤดูแล้ง รวมถึงยังช่วยป้องกันน้ำจากแม่น้ำโขงหนุนและไหลย้อนกลับเข้ามาท่วมพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ริมห้วยบังอี่ พร้อมทั้งมอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งดำเนินการขุดเจาะน้ำบาดาลและสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ที่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาขาดแคลนน้ำได้ ในช่วงฤดูแล้งปีที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรมีรายได้ในช่วงฤดูแล้ง แม้จะเกิดฝนทิ้งช่วง ทั้งนี้ รองนายกฯ ได้เน้นย้ำหน่วยงานในพื้นที่ให้ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำที่ถูกต้องกับประชาชนล่วงหน้า เพื่อป้องกันผลกระทบตลอดฤดูแล้งนี้อย่างต่อเนื่องด้วย

ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำระยะยาวของจ.มุกดาหาร ซึ่งขาดแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่เพราะมีข้อจำกัดด้านสภาพภูมิประเทศ ระบบน้ำประปายังไม่ทั่วถึงมีการขยายตัวของชุมชนเมืองที่เพิ่มขึ้นทำให้เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค มี 3 แนวทางหลัก คือ 1) ก่อสร้างสถานีสูบน้ำ 2) ก่อสร้างแหล่งเก็บกักน้ำ 3) ขยายเขตน้ำประปา ซึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 61 – 64) รัฐบาลได้เร่งรัดการพัฒนาในพื้นที่โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า มีการพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มขึ้นรวม 634 แห่ง พื้นที่รับประโยชน์กว่า 4 หมื่นไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ประมาณ 2 หมื่นครัวเรือน ความจุ 9.81 ล้าน ลบ.ม. เช่น โครงการประตูระบายน้ำห้วยบางทราย ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบท่อจ่ายน้ำ อ.คำชะอี เป็นต้น ซึ่งในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาแหล่งน้ำต่างๆ ใน จ.มุกดาหาร สามารถเก็บกักน้ำได้มากกว่าปี 64 ถึง 18%

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 ธันวาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” เคาะจังหวัดเร่งเยียวยาชาวอุบล-ศรีษะเกษ ประสานทุกหน่วยระดมแผนฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด

,

“พล.อ.ประวิตร” เคาะจังหวัดเร่งเยียวยาชาวอุบล-ศรีษะเกษ
ประสานทุกหน่วยระดมแผนฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด

วันที่12 ต.ค.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช. ) ได้เดินทางลง พื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ พร้อมคณะ พื่อติดตามสถานการณ์น้ำ และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากภาวะน้ำท่วม โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดให้การต้อนรับ ณ สำนักงานชลประทานที่ 7 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

ทั้งนี้ พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำและสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เป็นจังหวัดได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม จากอิทธิพลพายุโนรู และร่องมรสุมที่พัดผ่านประเทศไทยทำให้ฝนตกหนัก ต่อเนื่อง เป็นบริเวณกว้างส่งผลให้ลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูล มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ที่มีน้ำคงค้างอยู่ก่อนแล้ว และมีปริมาณน้ำมากกว่า ทุกปี เฉลี่ยร้อยละ 25 แต่พื้นที่น้ำท่วมน้อยกว่าปี2554 และปี2562 เนื่องจากรัฐบาลได้นำ13มาตรการรับมือฤดูฝน มาใช้อย่างได้ผล

ขณะเดียวกัน จ.อุบลราชธานี ยังเป็นพื้นที่ที่มีการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยเพื่อบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วย ทั้งนี้ภาครัฐได้ระดมให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ อย่างเต็มที่ ทั้ง 19 อำเภอ ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ว และเตรียมแผนรองรับการเยียวยาหลังน้ำลด ไว้แล้ว

พล.อ.ประวิตร และคณะ ยังได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ บริเวณแม่น้ำมูล ณ วัดหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และได้เยี่ยมเยียนพบปะให้กำลังใจ พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม เสร็จแล้วเดินทางต่อไปยัง จ.ศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ และการให้ความช่วยเหลือประชาชน ณ บริเวณบ้านหนองบัวไชยวาน อ.กันทรารมณ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม เช่นกัน

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบนโยบายแก่ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช. )กรมชลประทาน จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยย้ำว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น กับประชาชนทุกครัวเรือน และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน เร่งดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝน อย่างเข้มข้น ตลอดจนการเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือกำลังคน อย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้สถานการณ์กลับสู่ ภาวะปกติ โดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ กอนช. โดยศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหน่วยงานหลัก ในการประสานแผนการบริหารจัดการน้ำของกรรมการลุ่มน้ำ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของจังหวัดและการประกาศพื้นที่ประสบภัย ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการน้ำในสภาวะเสี่ยงเกิดอุทกภัยและส่งผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด พร้อมมอบหมายให้กรมชลประทาน ดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมปี 2565 ตามที่ กนช. ได้ให้ความเห็นชอบไว้ และตามมติของคณะทำงานศูนย์ส่วนหน้าฯที่มีความเห็นร่วมกัน ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างทันท่วงที และเตรียมแผนการช่วยเหลือฟื้นฟู ภายหลังน้ำลดให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วต่อไปด้วย

อย่างไรก็ตามสทนช ได้เตรียมดำเนินการ สั่งศูนย์ส่วนหน้า ในการจัดทีม เข้าไป เพื่อฟื้นฟูร่วมกับเหล่าทัพ ข้าราชการหน่วยงานท้องถิ่น รวม 28 ทีม แบ่งเป็นทีมละ 15 คน เข้าไปเยียวยา โดยเร็วที่สุด


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 ตุลาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” เตรียมลงอีสานติดตามข้อมูลน้ำลุ่มน้ำชี-มูล เร่งแผนระบายน้ำ ลดผลกระทบประชาชนจ.อุบล-ศรีสะเกษ

,

“พล.อ.ประวิตร” เตรียมลงอีสานติดตามข้อมูลน้ำลุ่มน้ำชี-มูล
เร่งแผนระบายน้ำ ลดผลกระทบประชาชนจ.อุบล-ศรีสะเกษ

“พล.อ.ประวิตร” ห่วงน้ำท่วมอีสาน ลงพื้นที่อุบลราชธานี – ศรีสะเกษ วางแผนจัดการบริหารลุ่มน้ำชี-มูล เร่งระบายออกแม่น้ำโขง บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หลังเจอผลกระทบจากพายุโนรู และร่องมรสุมหลายระลอก

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการติดตามสถานการณ์น้ำในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ ในวันที่ 12 ต.ค. 2565 เพื่อรับฟังรายงานบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำ และสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ที่สำนักงานชลประทานที่ 7 อ.เมือง จากอิทธิพลของพายุโนรูที่เข้าภาคอีสานของไทย ในช่วงที่ผ่านมา และยังได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมที่พัดผ่านเข้าสู่ไทยหลายระลอก มีปริมาณฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูล มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมที่ก่อนหน้านี้มีน้ำคงค้างอยู่แล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้สถานการณ์ก็ยังอยู่ในการเฝ้าระวังและต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประเมินความเสี่ยงที่ประชาชนจะได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำในลุ่มน้ำมูลขณะนี้สูงกว่าปี 2562 มากว่า 50 ซม. ทำให้บ้านเรือนและประชาชน ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ขณะที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ยังมีการเพิ่มการระบายน้ำจาก 50 ลบ.ม./วัน มาเป็น 52 ลบ.ม./วัน ทำให้ระดับน้ำชีสูงขึ้น

นอกจากนี้จะลงพื้นที่บริเวณวัดหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำว่าอยู่ในระดับใด และมีการบริหารจัดการน้ำอย่างไร เพื่อให้สามารถผันลงแม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะสามารถระบายน้ำ ในการบรรเทาความเดือดร้อนในกับประชาชนในพื้นที่

นอกจากนี้ได้เดินทางต่อไปบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟ บ้านหนองบัวไชยวาน ต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ รับฟังถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ พร้อมพบปะพูดคุยกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 11 ตุลาคม 2565

" รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม"

” รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น ‘โนรู’ พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม”

,

วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายฐนัญญ์ภพ ดาราย ปลัดอาวุโสอำเภอประทาย นางคมขำ ปองนาน นายกเทศมนตรีตำบลประทาย นายชัยยุทธ โคตรสมบัติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองค่าย และผู้นำท้องที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จ.นครราชสีมา และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุ “โนรู” ณ ถนนบ้านไร่ริมบึง – บ้านนางิ้ว เทศบาลตำบลประทาย และ บ้านโคกเพชร ต.หนองค่าย กรณีน้ำท่วมบึงกระโตนและไหลออกมาท่วมชุมชนบริเวณบ้านกระโตน บ้านไร่ ในเทศบาลตำบลประทาย และบ้านโคกเพชร โดยในเบื้องต้น

ปภ.เขต 5 นครราชสีมา นำชุดรถปฏิบัติการสูบน้ำท่วม/ขัง พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ อัตราสูบ 54,000 ลิตร/นาที จำนวน 1 ชุดอบต.ประทาย ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ
– ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ในเขตเทศบาลตำบลประทาย
– ขนาด 6 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง เขตบ้านนางิ้ว
เพื่อสูบน้ำที่ท่วมขังผิวการจราจร และพื้นที่ชุมชน และสูบน้ำกลับเข้าไปใน “บึงกระโตน” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ ตนได้สั่งการกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมมาตรการช่วยเหลือประชาชน ดังนี้

1. การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
1.1 ให้อำเภอ และ อปท. ประชาสัมพันธ์ เฝ้าระวัง สำรวจเส้นทางน้ำ หากพื้นที่ใดพบว่ามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ให้เร่งดำเนินการเสริมแนวคันดิน กระสอบทราย พร้อมจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอดเวลา
1.2 ให้ทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน กรณีการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำ และคำนึงถึงภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
1.3 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม อาหารแก่ผู้ประสบภัย
1.4 ให้แขวงทางหลวงนครราชสีมา แขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา สนับสนุนเครื่องมือ เครื่องจักรให้กับ อปท. เช่น กรณีคอสะพานชำรุด หากมีน้ำท่วมขังให้ดำเนินการตามมาตรการของหน่วยงาน และให้แจ้งจังหวัดเพื่อประชาสัมพันธ์ต่อไป

2. การเยียวยาฟื้นฟูในพื้นที่หลังเกิดภัย
2.1 ให้อำเภอ และ อปท.ดำเนินการสำรวจความเสียหายบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบฯ และหลักเกณฑ์
2.2 ด้านการเกษตร พืช ประมง ปศุสัตว์ ดำเนินการสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด ช่วยเหลือเยียวยา ตามระเบียบฯ และหลักเกณฑ์

" รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม" " รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ  เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม" " รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ  เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม" " รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ  เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม" " รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ  เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม" " รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ  เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม" " รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ  เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม" " รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ  เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม" " รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ  เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม" " รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ  เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม" " รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ  เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม" " รมช อธิรัฐ “ ลงพื้นติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ประทาย จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น 'โนรู' พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับพื้นที่ รับมือฝนตกต่อเนื่อ  เยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม"

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 ตุลาคม 2565

รมว.ชัยวุฒิ ขอเชื่อมั่น พล.อ. ประยุทธ์ นายกฯขับเคลื่อนรัฐบาล ดูแลประชาชนต่อเนื่อง พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำภาคกลางจันทร์นี้

,

รมว.ชัยวุฒิ ขอเชื่อมั่น พล.อ. ประยุทธ์ นายกฯขับเคลื่อนรัฐบาล ดูแลประชาชนต่อเนื่อง พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำภาคกลางจันทร์นี้

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำภาคกลาง ที่ จ.สิงห์บุรี พร้อมประชุมติดตามสถานการณ์ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจราชการ พื้นที่ภาคกลาง ในวันจันทร์นี้

โดย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า นำความห่วงใย จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาให้กำลังใจ และติดตาม สถานการณ์ น้ำท่วมซึ่งพลเอกประวิตร จะลงพื้นที่ ภาคกลางในวันจันทร์นี้

โดย นายชัยวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบันมีผลกระทบในหลายพื้นที่ วันนี้ได้ลงพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อติดตามความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ ‘พายุโนรู’ รวมถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้หารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวเนื่องเร่งจัดการ ตั้งแต่การให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ รวมถึงชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครอง หน่วยแพทย์ พยาบาล เข้าถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่รับผลกระทบจากพายุและน้ำท่วมขัง โดยหากที่พักอาศัยของครอบครัวใดประสบเหตุจากน้ำท่วมหนัก ก็จะมีหน่วยงานเข้าดูแลและเร่งพาไปศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้ ได้กำชับให้เตรียมนำ้ อาหาร ยารักษาโรค ห้องนำ้เคลื่อนที่

ขณะเดียวกัน ก็เร่งให้ติดตั้งเครื่องสูบนำ้เพื่อระบายนำ้ออกจากพื้นที่ชุมชน หากพื้นที่ใดประสบเหตุน้ำท่วมหนัก ก็จะเร่งการเปิดทางระบายน้ำท่วมขังโดยทันที ส่วนภายหลังเหตุการณ์คลี่คลายแล้ว ทั้งนี้หาก สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ทางรัฐบาลได้มีก็เตรียม มาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนให้เร็วที่สุดด้วยพร้อมกับ ฝากประชาชนว่า รัฐบาลทำงานต่อขอให้มั่นใจใน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าท่านตั้งใจช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และ ขอร้องกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ว่า ขอให้เห็นใจ ประชาชน ที่ประสบอุทกภัย ขอให้รัฐบาลได้ทำงานเต็มที่ ในการรับมือนำ้ท่วมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจะดีกว่า การออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ในขณะที่กฎหมายเลือกตั้งยังไม่เสร็จ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 กันยายน 2565

‘พล.อ.ประวิตร ’ เร่งช่วยคน”หล่มสัก” ติดตามแก้ปัญหาน้ำ ชาวบ้านต้อนรับคับคั่ง ขอบคุณรัฐบาล จริงใจ พร้อมร่วมมือพัฒนาท้องถิ่น ต่อเนื่อง

, ,

‘พล.อ.ประวิตร ’ เร่งช่วยคน”หล่มสัก” ติดตามแก้ปัญหาน้ำ ชาวบ้านต้อนรับคับคั่ง ขอบคุณรัฐบาล จริงใจ พร้อมร่วมมือพัฒนาท้องถิ่น ต่อเนื่อง

เมื่อ 25 ก.ย.65 พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่าเวลา 14.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ในฐานะ ผอ.กอนช. พร้อมคณะได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ ต่อเนื่องจากช่วงเช้า ในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ณ เทศบาลเมืองหล่มสัก และเทศบาล ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยได้รับฟังรายงานสถานการณ์น้ำ และปัญหาอุทกภัยพร้อมแนวทางการแก้ไขจาก สทนช. ณ บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก โดยสรุปภาพรวม พื้นที่อ.หล่มสัก มีแม่น้ำสายหลักคือแม่น้ำป่าสัก มีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 3แห่ง ฝาย 2แห่ง มีปริมาณน้ำกักเก็บ จำนวน 61,320 ล้าน ลบ.ม.มีพื้นที่ชลประทาน ได้รับประโยชน์ 37,359 ไร่ สถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมาตั้งแต่ ก.ค.65 ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ 3ครั้ง และส่งผลกระทบต่อการดำรงค์ชีวิตประชาชน ทั้งทางด้านการเกษตร พืชผล ด้านปศุสัตว์ และประมง ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเยียวยาแล้ว สำหรับอุทกภัยและภัยแล้งที่ยังคงเป็นปัญหา ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติม โดยจังหวัดและผู้เกี่ยวข้องได้เสนอให้ สทนช.ศึกษาความเป็นไปได้ในภาพรวมของจังหวัด อย่างเป็นระบบ ให้กรมชลประทาน จัดทำโครงการระบบผันน้ำพื้นที่ต้นน้ำ และโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อการกักเก็บน้ำ และชะลอน้ำไม่ให้ไหลเข้าชุมชน อย่างรวดเร็ว รวมถึงให้กรมโยธาธิการและผังเมือง สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมในการทำเขื่อนป้องกันตลิ่ง และป้องกันน้ำท่วมพื้นที่วิกฤติในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหล่มสัก เป็นต้น

พล.อ.ประวิตร ได้พบปะกับพี่น้องประชาชน และข้าราชการในพื้นที่ที่มาให้การต้อนรับ จำนวนมากโดยแสดงความห่วงใยชาวบ้านและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง ที่ยังประสบอยู่ทุกปีในบางพื้นที่ รวมทั้ง การเตรียมรับมือกับพายุ “โนรู” ที่กำลังจะเข้าประเทศไทย บริเวณภาคเหนือ เร็วๆนี้ด้วย ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หล่มสัก และยังได้กล่าวชื่นชมวิถีชีวิตดังเดิมสู่ปัจจุบัน ที่น่าภาคภูมิใจ พร้อมขอบคุณ ชาวหล่มสัก และชาว จ.เพชรบูรณ์ ที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐด้วยดีในการพัฒนาพื้นที่ กล่าวยืนยัน ว่ารัฐบาลพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ทุกความเดือดร้อนของประชาชน อย่างเต็มที่ ซึ่งตนจะนำข้อเสนอแนะจากพื้นที่ในวันนี้ ไปให้รัฐบาล เร่งหาวิธีแก้ไข เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และพัฒนาความเป็นอยู่ ของพี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ต่อไป


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 กันยายน 2565

 

 

“พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์ ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน

“พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์ ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน

,

วันที่ 25 กันยายน 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีอุ้มพระดำน้ำ จ.เพชรบูรณ์ ณ วัดโบสถ์ชนะมาร อ.เมืองเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมในพิธี พร้อมด้วยคณะข้าราชการในจังหวัด อาทิ นายอำนาจ แย้มศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสมศักดิ์ คณาคำ ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ นายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพชรบูรณ์ และจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สส พปชร. เขต 3 นายจักรัตน์ พั้วช่วย สส พปชร. เขต 2 น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.สพปชร เขต 1 และนางสาวกัลยา รุ่งวิจิตรชัย สส เขต1 พปชร จ.สระบุรี นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ นายเพชรภูมิ อาภรรัตน์ ส.ส. กำแพงเพชร นายอนุชา น้อยวง ส.ส. พิษณุโลก ซึ่งการจัดงานในพิธีดังกล่าวเป็นเทศกาลและประเพณีประจำปีของจังหวัดที่สืบสานมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีประชาชนเข้าร่วมงานอย่างเนื่องแน่นกว่า 3,000 คน เพื่อร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธ์ที่เป็นมงคล ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย โดยเชื่อว่าการทำพิธีจะทำให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ผู้คนมีความสุข บ้านเมืองปราศจากโรคระบาดคุกคาม

นอกจากนี้ ได้ เดินทางไปศาลากลางจังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการดำเนินงานโครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ของกระทรวงการคลัง เพื่ออำนวยความสะดวกการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของประชาชนที่มีสิทธิ์ และช่วยยกระดับรายได้ต่อหัวของประชาชนเพชรบูรณ์ในภาพรวม ในส่วนสถานการณ์น้ำ พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำ รอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่เพชรบูรณ์ครั้งนี้ เป็นการติดตามสถานการณ์น้ำในภาคเหนือและอีสานของพล.อ.ประวิตร โดยเน้นการเตรียมรับมือพายุโนรูที่คาดการณ์พาดผ่านประเทศไทยในเร็วๆนี้ โดย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวม และผลกระทบที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนที่ผ่านมา รวมถึงแผนเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

พล.อ.ประวิตร’ ยังได้สั่งการ สทนช.และฝ่ายปกครอง ติดตามสถานการณ์พายุโนรู และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่ 25 ก.ย.65 เป็นต้นไป โดยให้ประสาน กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมเร่งระบายน้ำรักษาสมดุลพื้นที่เหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนรองรับมวลน้ำสะสม ที่จะเกิดขึ้นจากฝนตกหนักและหนักมากต่อเนื่อง พร้อมทั้งสั่งการฝ่ายปกครอง แจ้งเตือนและดูแลให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ท้ายเขื่อนริมเจ้าพระยาและลำน้ำสายหลัก เช่น แม่น้ำยม แม่น้ำวังและแม่น้ำมูล ที่มีปริมาณน้ำเอ่อล้นสูงขึ้น สำหรับพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ขอให้ยังคงเฝ้าระวังและร่วมกันบริหารจัดการน้ำ พื้นที่ริมตลิ่งให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด นอกจากนี้ ได้เร่งเข้าไปช่วยดูปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในจ.เพชรบูรณ์ ในการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าไม้น้ำหนาว เขาค้อและป่าภูทับเบิก ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ชุมชนเมือง ที่จะต้องเตรียมเขื่อนป้องกันตลิ่งและสร้างอ่างเก็บน้ำรองรับ

“สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ย้ำว่า เพื่อดูแลประชาชนเป็นหลัก เพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม ตนมาช่วยเหลือประชาชน ไม่ได้เล่นการเมือง ย้ำว่ามาช่วยเหลือประชาชน ส่วนข้าราชการทุกคนไม่ใช่เจ้านายประชาชน แต่เป็นลูกน้อง ฉะนั้นต้องเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ต้องดูแลให้ประชาชนให้อยู่ดีกินดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นความประสงค์ของรัฐบาล” พล.อ.ประวิตรกล่าว

“พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์ ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน “พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์   ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน “พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์   ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน “พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์   ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน “พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์   ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน “พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์   ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน “พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์   ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน “พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์   ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน “พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์   ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน “พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์   ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน “พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานเปิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำจ.เพชรบูรณ์   ติดตามแผนปฏิบัติการรับมือน้ำหวั่นพายุโนรูซ้ำอุทกภัยเหนือ- อีสาน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 กันยายน 2565

 

 

สส. พปชร.เร่งแก้ปัญหาคุณภาพน้ำประปาพื้นที่โคกสูง จ.สระแก้ว เปิดประชาคมประสานหน่วยงานถ่ายโอนระบบน้ำประปาสู่ท้องถิ่น

,

สส. พปชร.เร่งแก้ปัญหาคุณภาพน้ำประปาพื้นที่โคกสูง จ.สระแก้ว
เปิดประชาคมประสานหน่วยงานถ่ายโอนระบบน้ำประปาสู่ท้องถิ่น

นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ ส.ส. จ.สระแก้ว เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมประชุมประชาคม รับฟังความคิดเห็นการรับโอนระบบประปา เทศบาลตำบลโคกสูง ให้กับการประปาส่วนภูมิภาคสาขาอรัญประเทศ หลังจากประชาชนในพื้นที่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดิบ สำหรับผลิตน้ำประปา เพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภค ทำให้ชุมชนหลายแห่งขาดแคลนน้ำที่มีคุณภาพ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต โดยมีประชาชนกว่า 2,419 ครัวเรือน ในพื้นที่ตำบลโคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้วได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำประปา

ดังนั้นหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายเกรียงศักดิ์ หลเมฆ ปลัดอาวุโส อำเภอโคกสูง และนายสกล ถุงทรัพย์ ผู้จัดการ การประปาส่วนภูมิภาค สาขาอรัญประเทศ เข้าร่วมชี้แจงถึงแนวทางและรายละเอียด ในการรับโอนระบบประปา นำไปสู่การจัดหาแหล่งน้ำ เพื่อป้อนน้ำให้กับภาคครัวเรือน ซึ่งในที่ประชุมมีผู้นำ และตัวแทนประชาชน เข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็นและแนวทางการดำเนินการ พร้อมให้สนับสนุนเพื่อสร้างความมั่นคงในระบบการผลิตน้ำประปาของ พื้นที่โคกสูง เป็นไปตามนโยบายหลักของพรรคในการช่วยเหลือปัญหาเรื่องแหล่งน้ำให้เพียงพอในการอุปโภค บริโภคและทำการเกษตร


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่:
23 กันยายน 2565