โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวกิจกรรม ส.ส. และสมาชิกพรรค

“พล.ต.อ. พัชรวาท” จับเข่าคุยรองผู้ว่าฯ เชียงราย ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ห่วงกระทบสุขภาพปชช. ตรวจเข้มเผานาข้าว หลังมีข้อมูล “จิสด้า” จับจุด Hotsport พบเผาหลายพื้นที่ ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ฟ้าใส”

,

“พล.ต.อ. พัชรวาท” จับเข่าคุยรองผู้ว่าฯ เชียงราย ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ห่วงกระทบสุขภาพปชช. ตรวจเข้มเผานาข้าว หลังมีข้อมูล “จิสด้า” จับจุด Hotsport พบเผาหลายพื้นที่ ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ฟ้าใส”

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเปิดงานเทศกาลหนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ได้มีโอกาสพบปะหารือกับนายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ว่าฯ มาร่วมงานดังกล่าว จึงได้ใช้โอกาสนี้หารือเกี่ยวกับข้อห่วงใยเรื่องของไฟป่าหมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ที่เชียงราย ซึ่งได้กำชับกับรองผู้ว่าฯและฝากถึงผู้ว่าฯ ให้ช่วยกันตรวจตรา เรื่องการเผาเรือกสวนไร่นาของประชาชน เพราะขณะนี้เข้าใกล้ช่วงของการเตรียมพื้นที่สำหรับทำเกษตรกรรมในฤดูกาลที่จะมาถึงอาจจะมีการเผามากยิ่งขึ้น จนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในวงกว้าง

นอกจากนี้ตนได้รับการรายงานข้อมูลจาก จิสด้า พบว่าพื้นที่จังหวัดเชียงรายมีจุด Hotsport เกิดขึ้นจากการเผานาข้าว แม้ว่าจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องก็ยังพบว่ามีการเผาอยู่ ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือทางจังหวัดให้เข้มงวดมากขึ้น เพราะมีอำนาจในการสั่งการแก้ปัญหา อีกทั้งมีข้อมูลจากดาวเทียมชี้พิกัดที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเกิดบริเวณไหน อย่างไร เชื่อว่าจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที อย่างไรก็ตามก็อยากขอร้องพี่น้องประชาชน ให้ความร่วมมือหยุดการเผา เพราะปัญหานี้จะแก้ไขได้ทุกฝ่าย ต้องช่วยกันจึงจะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันตนได้มีการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาว และเมียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินยุทธศาสตร์ฟ้าใส ลดการเผาพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่า และร่วมกันให้ข้อมูลกับประชาชนให้ตระหนักปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ปัญหานี้ต้องจับมือกันแก้ไข เพื่อสุขภาพที่ดีของพี่น้องประชาชนของเรา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“กระแสร์” ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส” แทนชาวหนองคาย หลัง มอบ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้เกษตรกรทั่วประเทศ

,

“กระแสร์” ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส” แทนชาวหนองคาย หลัง มอบ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้เกษตรกรทั่วประเทศ

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดหนองคายต้องขอขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มาตรวจเยี่ยม พบปะเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ พร้อมมอบนโยบายเรื่องการปฏิรูปที่ดินการเกษตรและสหกรณ์ อีกทั้งยังได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกร จำนวน 30 ราย และมอบเมล็ดพันธุ์ผักและต้นกล้าผักให้กับตัวแทนชุมชน รวมถึงมอบเงินโครงการเกษตรกรชาวสวนยางต้นแบบด้วยเกษตรแบบยั่งยืนเพื่อยกระดับด้วยเศรษฐกิจฐานราก

“ร.อ.ธรรมนัส ได้ชี้แจงเรื่องปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรให้ประชาชนเข้าใจ และท่านยังหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนชาวตำบลหาดคำ ที่เข้าพบเพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดิน หลังจากอาศัยอยู่ในที่ดินดังกล่าวมานาน ซึ่งต้องขอขอบคุณที่กระทรวงเกษตรฯได้ดำเนินนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร เพราะทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงสิทธิและแหล่งทุนมากขึ้น รวมทั้งมีการส่งเสริมพัฒนาอาชีพตามศักยภาพของพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย“นายกระแสร์ กล่าว

นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า อีกนโยบายหนึ่งที่น่าชื่นชมก็คือ จุดบริการรับยื่นคำร้องขอออกโฉนดเพื่อการเกษตร ที่จะช่วยเหลือให้ประชาชนมีที่ปรึกษาและเข้าใจในเรื่องกฎหมายได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ โฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่รัฐบาลแจกในครั้งนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ชิ้นสำคัญของเกษตรกรทั่วประเทศอย่างแท้จริง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“รมว.ธรรมนัส” ลงพื้นที่เขตหนองจอก แก้ ‘จน เจ็บ เจ๊ง’ ให้พี่น้องเกษตรกร เตรียมประกาศรับรอง 8 สายพันธุ์ข้าวปลูกได้ทั้งปี อายุเก็บเกี่ยวไม่เกิน 95 วัน

,

“รมว.ธรรมนัส” ลงพื้นที่เขตหนองจอก แก้ ‘จน เจ็บ เจ๊ง’ ให้พี่น้องเกษตรกร เตรียมประกาศรับรอง 8 สายพันธุ์ข้าวปลูกได้ทั้งปี อายุเก็บเกี่ยวไม่เกิน 95 วัน

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะและรับฟังปัญหาจากเกษตรกร สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และสภาเกษตรกรกรุงเทพมหานคร พร้อมหว่านข้าวในแปลงนา โดยใช้โดรนเป็นนวัตกรรมใหม่ และปลูกต้นไม้มงคล ณ โรงสีข้าวชุมชน หมู่ 6 ก้าวหน้า คลองสิบสอง เขตหนองจอก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว เตรียมประกาศรับรอง 8 สายพันธุ์ ในเดือนเมษายน ปี 2567 ครอบคลุมข้าวหลายชนิด เช่น ข้าวพื้นนุ่ม ข้าวหอม ข้าวบาเล่ ข้าวสาลี และข้าวญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งทั้ง 8 สายพันธุ์ เป็นพันธุ์ที่สามารถปลูกได้ทั้งปี มีอายุการเก็บเกี่ยวไม่เกิน 95 วัน เป็นพันธุ์ที่ตลาดต้องการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวในเขตภาคกลางทั้งหมดจัดเตรียมเมล็ดพันธุ์สำหรับรองรับความต้องการ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่นาปรังทั้งหมด ประมาณ 6 ล้านไร่ อีกทั้งยังต้องการให้รับรองข้าวเจ้าหอม มช 10-1 ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเป็นข้าวที่มีระยะเวลาการปลูกน้อย ผลผลิตเยอะ และมีความเป็นข้าวหอมมะลิถึง 92% มีกลิ่มหอม นุ่ม และรูปทรงสวยงาม ปัจจุบันสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดราชบุรีอยู่ระหว่างการทดลองและปรับปรุงพันธุ์ เพื่อเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการรับของกรมการข้าวต่อไป

นอกจากนี้ ยังรับฟังและหาแนวทางแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำ และราคาข้าว ที่กระทรวงเกษตรฯ จะต้องหามาตรการช่วยเหลือให้พี่น้องชาวนามีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ เขตหนองจอกเป็นเขตที่มีขนาดใหญ่สุดใน กทม. สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นท้องทุ่งและเกษตรกรรม มีลำคลองไหลผ่านหลายสาย มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปี ตามที่ตั้งแปลง ปี 2566/67 เขตหนองจอก จำนวน 2,047 ครัวเรือน พื้นที่ 49,485 ไร่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“สส.ปกรณ์” ยินดีชาวแม่ฮ่องสอน ได้รับการแปลง สปก.เป็นโฉนดรุ่นแรก 150 แปลง พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจ ปชช.เพื่อรักษาสิทธิ สร้างความมั่นคงในชีวิต

,

“สส.ปกรณ์” ยินดีชาวแม่ฮ่องสอน ได้รับการแปลง สปก.เป็นโฉนดรุ่นแรก 150 แปลง พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจ ปชช.เพื่อรักษาสิทธิ สร้างความมั่นคงในชีวิต

นายปกรณ์ จีนาคำ สส.เขต1 แม่ฮ่องสอน พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าแปลงสปก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อเกษตกร ของ จ.แม่ฮ่องสอนว่า จะมีพี่น้องประชาชนได้รับโฉนดในรอบแรกในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ประมาณ 150 แปลง หรือ ประมาณ 150 ครอบครัว ที่ถือครองที่ดินเพื่อทำการเกษตรอยู่หลายร้อยไร่ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีอาชีพที่มั่นคง สามารถนำที่ดินไปต่อยอดในการประกอบอาชีพได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้ประชาชนกินดีอยู่ยิ่งขึ้น ภายใต้การขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ไว้ และยังเป็นการสานต่อนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรไทยทั่วประเทศ
ทั้งนี้พื้นที่ สปก.4-01 ที่จะได้การแปลงเป็นโฉนดนั้น เป็นพื้นที่ ๆ เกษตรกรได้รับหนังสือเอกสารสิทธิ และประกอบอาชีพอยู่แล้ว ซึ่ง สปก.จังหวัดได้ทำการพิสูจน์สิทธิเสร็จสิ้นในกลุ่มแรก และอยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิในกลุ่มทั้งหมด 3,966 ราย ที่ถือครองที่ดินถึง 4,885 แปลง คิดเป็น 15,349 ไร่ ซึ่งจะทยอยเปลี่ยนแปลงเป็นโฉนดต่อไป

“ที่ผ่านมา ผมได้ประสานงานกับสปก.จังหวัดอย่างใกล้ชิด และได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรในการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบปฎิบัติที่กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถรักษาสิทธิ และนำไปสู่กระบวนการพิจารณาได้อย่างรวดเร็ว ตามแนวทางที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้มีข้อสั่งการให้ สส.ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน” นายปกรณ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“สส.กระแสร์”เชื่อ โครงการห้วยหลวง ช่วยแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนในลุ่มน้ำสวย วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ

,

“สส.กระแสร์”เชื่อ โครงการห้วยหลวง ช่วยแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนในลุ่มน้ำสวย วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 อำเภอเมือง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึง ลุ่มน้ำสวย ที่เป็นเขตติดต่อระหว่างอำเภอ เป็นบ้านหัวสวย ตำบลนาพู่ โดยช่วงนี้พี่น้องประชาชนจะทำนาปรัง ทำให้น้ำขาดแคลนในลุ่มน้ำสวยที่ไหลมาจากในเขตจังหวัดอุดรธานีมาเข้าที่อำเภอสระใคร ตำบลคอกช้าง ผ่านไปยังเขตอำเภอเมือง ไปยังตำบลโพนสว่าง ตำบลวัดธาตุ เทศบาลวัดธาตุ ไหลเรื่อยๆไปสิ้นสุดที่ตำบล บ้านเดื่อ แล้วไหลลงไปสู่ แม่น้ำโขง

นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง ซึ่งจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่เกษตรกรรองรับ ที่ของเกษตรกรประมาณ 3 แสนไร่ซึ่ง ตนทราบข่าวจากชลประทานว่าปีหน้าจะผันน้ำโขงขึ้นมาสู่ลำห้วยหลวงแห่งนี้ ซึ่งมีพื้นที่ใกล้เคียงกับลุ่มน้ำสวย ถ้าน้ำที่ผันขึ้นมาจากแม่น้ำโขง อีกส่วนหนึ่งแยกเข้ามา ลงไปสู่ลุ่มน้ำสวยนั้น จะทำให้พี่น้องประชาชนที่ตนได้กล่าวขึ้นมาข้างต้นนี้ คงจะมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ

ทั้งนี้ ตนต้องขอขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่ ครม.สัญจรไปที่ จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเขตการเลือกตั้งของตนที่ จังหวัดหนองคาย มีพื้นที่ติดกับจังหวัดหนองบัวลำภู คณะรัฐมนตรีหลายท่านได้เดินทางเข้าสู่จังหวัดหนองคาย เพื่อไปกราบขอพรหลวงพ่อพระใส เพราะเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดหนองคาย และพี่น้องจาก สปป.ลาว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ชูแคมเปญ “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” ร่วมใจในวันสิ่งแวดล้อมไทย

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ชูแคมเปญ “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” ร่วมใจในวันสิ่งแวดล้อมไทย

มุ่งให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ไขเพื่อเดินหน้าลดปัญหาการปล่อยคาร์บอนสู่เป้าหมายNet Zero

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2566 พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีและกล่าวปาฐกถาพิเศษ เนื่องใน “วันสิ่งแวดล้อมไทย” และ “วันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ” ที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดขึ้น ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนเครือข่ายชุมชนปลอดขยะและโรงเรียนปลอดขยะ และเครือข่าย ทสม. เข้าร่วม

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า วันนี้นับจากจุดเริ่มต้นของวันสิ่งแวดล้อมไทย ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำรัสให้การดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานที่ดูแล อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้น้อมนำตามแนวพระราชดำรัสของพระองค์มาปฏิบัติโดยตลอด ทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชน ทุกคนมีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดูแลรักษาโลกใบนี้ให้สืบทอดต่อไปจนถึงอนุชนรุ่นหลัง และนอกจากวันนี้จะเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทยแล้ว ยังเป็นวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ ซึ่งตนต้องขอบคุณเครือข่าย ทสม. ที่มีส่วนร่วมและประสานกลไกในการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง

“ปัจจุบันโลกใบเดียวของเราได้ส่งสัญญาณ และปี 2566 กำลังจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า เป็นปีที่ร้อนที่สุด ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องร่วมกันลงมือทำ เพื่อให้ลูกหลานของเรามีโลกใบนี้ที่อาศัยอยู่ได้ต่อไป ซึ่งประเทศไทยได้ให้คำมั่นสัญญาต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยได้ทำตามสิ่งที่ได้ให้คำมั่นไว้อย่างแน่นอน พร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อยกระดับการดำเนินงานต่อไป มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2593 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2608” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของประชาชนคนไทยทุกคน ที่จะมีส่วนร่วมในการปกป้อง ดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนเรื่องใกล้ตัวให้เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและรูปแบบการใช้ชีวิตชีวิตประจำวันให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดในการรณรงค์จัดกิจกรรมฯ ในปีนี้ ที่ว่า “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” และขอใช้โอกาสนี้กระตุ้นให้ผู้คนได้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งรับ ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกัน เริ่มจากการ “เปลี่ยนเรา” และขับเคลื่อนงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลให้ “เปลี่ยนโลก” เพื่อ “ลดโลกเดือด”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

“สส. อามินทร์”จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการอาคารศูนย์แสดงสินค้าชุมชน จ.นราธิวาส หลังสร้างเสร็จมาหลายปี แต่กลับไม่ได้ใช้งาน ปล่อยทรุดโทรม ชี้ สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน

,

“สส. อามินทร์”จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการอาคารศูนย์แสดงสินค้าชุมชน จ.นราธิวาส หลังสร้างเสร็จมาหลายปี แต่กลับไม่ได้ใช้งาน ปล่อยทรุดโทรม ชี้ สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.จังหวัดนราธิวาส เขต 2 อำเภอตากใบ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงเรื่องศูนย์แสดงสินค้าชุมชน จังหวัดนราธิวาส ตั้งอยู่บริเวณหน้าด่านศุลกากร อำเภอ สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นเรื่องที่รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่เป็นเขตดินแดนติดกับประเทศมาเลเซีย เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นนโยบายหลักสำคัญของรัฐบาล ที่ผ่านมาได้ดำเนินการขับเคลื่อนมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นตลอดระยะเวลา5-8 ปีที่ผ่านมาจนมีโครงการก่อสร้างอาคารต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน

“แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนได้รับกลับไม่ก่อประโยชน์เลยแม้แต่น้อย อาคารที่ถูกสร้างและเสร็จโดยสมบูรณ์ แต่ไม่มีการใช้งาน ปล่อยให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาทั้งทั้งที่สร้างเสร็จมาแล้วไม่ต่ำกว่า5 ปี ก็ยังไม่เห็นหน่วยงานใดมารับผิดชอบ อาคารแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็น ท้องถิ่นเทศบาล ที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรง หรือหน่วยงานใดที่ได้เสนอโครงการก่อสร้างอาคารชุดนี้ ผมถือว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินอย่างที่สุด จึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไข กฎระเบียบต่างๆ เพื่อที่จะได้ใช้อาคารแห่งนี้ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน”นายอามินทร์ กล่าว

นายอามินทร์ กล่าวต่อถึงความคืบหน้าการสร้างอาคาร เรียน 4 ชั้นของอาคารเรียนมิตรภาพที่ 223 โดยตน
ได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้อำนวยการโรงเรียนว่า การสร้างอาคารมีความล่าช้ามากว่า6 ปี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายกับนักเรียนและโรงเรียนเป็นอย่างมาก ที่ต้องสูญเสียโอกาสในการที่จะมีสถานศึกษาที่ดี และเพียบพร้อมสมบูรณ์ ตนได้สอบถามปัญหาเบื้องต้นทราบว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ได้นำเรื่องส่งถึง สำนักงานงบเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น

“ผมในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ขอให้สำนักงาน สพฐ. หรือสำนักงบอนุมัติงบประมานสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนที่ยังค้างอยู่ให้แล้วเสร็จด้วย“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

”สส.นเรศ“ขอ จ.เชียงใหม่หามติร่วมตัดสินเส้นทางชนบทที่4053 อยู่ในความรับผิดชอบของใคร จะได้แก้ไขปัญหาให้ ปชช.ชี้ เป็นอันตรายต่อการสัญจรมาก

,

”สส.นเรศ“ขอ จ.เชียงใหม่หามติร่วมตัดสินเส้นทางชนบทที่4053 อยู่ในความรับผิดชอบของใคร จะได้แก้ไขปัญหาให้ ปชช.ชี้ เป็นอันตรายต่อการสัญจรมาก

นายนเรศ ธำรงศ์ทิพยคุณ สส.เขต 9 จังหวัดเชียงใหม่ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายกฯบริหารส่วนตำบลแม่วินและผู้ใหญ่บ้านบ้านม่อนยะ ถึงถนนเส้นทางชนบทที่4053 เส้นทางระหว่างบ้านม่อนยะ ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จนไปถึง บ้านห้วยน้ำจางหมู่6 ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมือง กม.ที่ 9.7 ซึ่งทางอบต.ได้ทำหนังสือแจ้งว่า ถนนได้มีความเสียหาย แต่ทางหลวงชนบทได้บอกว่า ได้ถ่ายโอนถนนไปแล้ว

นายนเรศ กล่าวต่อว่า ต่อมาท้องถิ่นก็ได้ติดต่อไปยัง อบจ.แต่ถนนเส้นดังกล่าวก็ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.อีก ตนขอให้จังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นเจ้าภาพบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หามติร่วมกันว่า ถนนเส้นนี้อยู่ในความรับผิดชอบของใคร เพื่อจะได้เข้าไปแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนต่อไป เพราะสถาพถนนขณะนี้เป็นอันตรายต่อการสัญจรมาก

“ผมยังได้รับการร้องเรียนจากนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลแม่วาง และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล บ้านกาด กรณีทางหลวงหมายเลข 1013 ช่ว บ้านกลาง ถึงแม่วิ นกม.ที่ 1-8 ในช่วงหน้าฝน หรือในช่วงฝนตกหนักน้ำ เกิดน้ำนองท่วมถนน พื้นผิวถนนเป็นจำนวนมาก ทำให้พี่น้องซึ่งอยู่สองข้างทางถนนเส้นนี้ ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีทางระบายน้ำ ไม่มีช่องทางที่น้ำจะระบายออกได้ ประกอบกับเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา จึงขอให้กรมทางหลวงช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนด้วย“นายนเรศ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

“สส. ภาคภูมิ”ขอ “กรมปศุสัตว์”เร่งหาทางออกนำเข้าโคกระบือข้ามแดน เชื่อ ถึงจะสั่งปิดแต่ก็มีการลักลอบ นำเข้า พร้อมวอน รบ.อย่าปล่อยให้นำเข้าพืชทดแทนมากเกิน ทำราคาข้าวโพดตกต่ำ

,

“สส. ภาคภูมิ”ขอ “กรมปศุสัตว์”เร่งหาทางออกนำเข้าโคกระบือข้ามแดน เชื่อ ถึงจะสั่งปิดแต่ก็มีการลักลอบ นำเข้า พร้อมวอน รบ.อย่าปล่อยให้นำเข้าพืชทดแทนมากเกิน ทำราคาข้าวโพดตกต่ำ

นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส. จังหวัดตาก เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงปัญหาการนำเข้าโคกระบือข้ามแดน โดยล่าสุดกรมปศุสัตว์ได้ลงนามขยายเวลาห้ามนำเข้าครั้งที่ 4 เข้าเดือนที่ 10 แล้ว ทำให้ไม่สามารถนำเข้าโคกระบือได้ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกร ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมามีการพูดคุยเจรจาของทุกฝ่าย และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านก็ได้กำชับให้หาทางออกโดยเร่งด่วน

“ล่าสุดทางผู้ประกอบการได้ปิดถนนเส้นทางตาก แม่สอด แต่ก็มีการเจรจา โดยผู้ว่าฯการจังหวัดตาก ผู้ชุมนุมจึงได้ยุติการชุมนุมเป็นการชั่วคราว จึงอยากให้กรมปศุสัตว์เร่งรัดเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะว่าถ้า กรมปศุสัตว์ ปิดการนำเข้า ก็มีการลักลอบนำเข้าเรื่อยๆ”นายภาคภูมิ กล่าว

นายภาคภูมิ กล่าวต่อถึงราคาข้าวโพดตกต่ำว่า
สาเหตุหลักก็คือ ทางรัฐได้ปล่อยให้มีการนำเข้าพืชทดแทน เช่น ข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี มากเกินไป จึงทำให้ ทางไซโล และโรงงานอาหารสัตว์ไม่อยากจะรับซื้อข้าวโพดของไทย ซึ่งมันมีราคาแพงกว่า พืชทดแทน จึงขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขเรื่องนี้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการขออนุญาตใช้พื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การใช้พื้นที่ป่าไม้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ตอนนี้ตนทราบว่า นายก อปท. ทั่วประเทศ รวมตัวกัน เพื่อขอให้เป็นวาระพิเศษ ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ ตนอยากให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯและกระทรวงมหาดไทย พูดคุยเจรจากัน สิ่งไหนยกเว้นได้ก็ยกเว้น สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ของประชาชน ขอให้เร่งแก้ไข และนำเข้าที่ประชุม ครม.โดยเร่งด่วน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“พัชรวาท” มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน แจกไม้มงคล 19 ชนิด 101,010 กล้า ผ่านพิธีพุทธาภิเษก จาก “สมเด็จธงชัย” ได้สิริมงคล – เพิ่มพื้นที่สีเขียว นำบัตรประชาชนมารับได้ตั้งแต่ 13-28 ธ.ค. พร้อมกันทั่วประเทศ

,

“พัชรวาท” มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน แจกไม้มงคล 19 ชนิด 101,010 กล้า ผ่านพิธีพุทธาภิเษก จาก “สมเด็จธงชัย” ได้สิริมงคล – เพิ่มพื้นที่สีเขียว นำบัตรประชาชนมารับได้ตั้งแต่ 13-28 ธ.ค. พร้อมกันทั่วประเทศ

พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ “พฤกษามหามงคล” โดยมี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ท่านเจ้าประคุณธงชัย) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่
หนกลาง วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์รวม 10 รูป
ร่วมเจริญพระพุทธมนต์พุทธาภิเษกกล้าไม้มงคลกว่า 19 ชนิด จำนวน 101,010 กล้า พร้อมทั้งแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อสิริมงคลและเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2567
ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งใจมอบให้ประชาชน

พล.ต.อ. พัชรวาท กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ผลักดันและส่งเสริม
ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศ ด้วยวิธีสนับสนุนการปลูกและฟื้นฟูป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ “ปลูกป่า ปลูกคน” สร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วม ประกอบกับช่วงโอกาสพิเศษ
ในวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2567 ที่กำลังจะมาถึง กระทรวงทรัพย์ฯ โดยกรมป่าไม้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ “พฤกษามหามงคล” ซึ่งนำกล้าไม้มงคลกว่า 19 ชนิด อาทิ สักทอง พะยูง ไผ่สีสุก ล่ำซำ (สั่งทำ)
หอมหมื่นลี้ จิกเศรษฐี หัวใจเศรษฐี แผ่บารมี (หูกระจง) มั่งมี (เฉียงพร้านางแอ) ชะแมบทอง จำปี ขนุน พิกุล ทองหลาง ทรงบาดาล ชัยพฤกษ์ บุนนาค มะขาม และกันเกรา จำนวน 101,010 กล้า ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี จะได้นำกล้าไม้มงคลดังกล่าวแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
ให้นำกลับไปปลูกเป็นสิริมงคลกับครอบครัวและที่อยู่อาศัย หรือนำไปปลูกตามสถานที่หน่วยงาน
ซึ่งเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้

ทั้งนี้ประชาชนสามารถเดินทางมาขอรับกล้าไม้มงคลได้ระหว่างวันที่ 13-28 ธันวาคม 2566 ณ กรมป่าไม้ บางเขน กรุงเทพมหานคร โดยแบ่งเป็น 4 รอบ รอบละ 50 ท่าน ช่วงเช้ารอบแรกเวลา 9.00 น.
และรอบสองเวลา 10.30 น. สำหรับช่วงบ่ายเริ่มเวลา 13.00 น. และรอบสุดท้ายเวลา 15.00 น. สามารถขอรับกล้าไม้ได้ท่านละ 50 ต้น โดยนำบัตรประชาชนมาลงทะเบียนรับกล้าไม้ พร้อมนำถุงผ้าหรือภาชนะมาใส่กล้าไม้ และขอความร่วมมือประชาชนในการงดใช้ถุงพลาสติกเพื่อช่วยลดโลกร้อน

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า นอกจากการจัดพิธี
ในส่วนกลางแล้ว ประชาชนในส่วนภูมิภาคก็สามารถขอรับกล้าไม้มงคลได้เช่นกัน โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้
ทั่วประเทศจะจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ “พฤกษามหามงคล” พร้อมกับส่วนกลาง และประชาชนในพื้นที่
สามารถโทรสอบถามและขอรับกล้าไม้มงคลได้ที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ทั่วประเทศ หรือติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ที่เว็บไซต์กรมป่าไม้ www.forest.go.th/nursery/requestseedling/seedlingnurserylocation

นายจตุพร กล่าวอีกว่า สำหรับเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ คาดว่าจะมีประชาชนต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา
เพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัวจำนวนมาก กระทรวงทรัพย์ฯ โดยกรมป่าไม้ ได้จัดเตรียมของขวัญให้กับประชาชนในช่วงระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 66 – 1 ม.ค. 67 โดยจะยกเว้นค่าบริการท่องเที่ยวในป่านันทนาการ
3 แห่ง ได้แก่ ป่านันทนาการทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จ.ยะลา ป่านันทนาการหินสามวาฬ จ.บึงกาฬ
และป่านันทนาการน้ำตกเขาอีโต้ จ.ปราจีนบุรี เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ได้เข้าไปท่องเที่ยวธรรมชาติกับครอบครัว นอกจากนี้ กรมป่าไม้ได้จัดจุดให้บริการประชาชน นักท่องเที่ยว
เป็นจุดพักรถ จำนวน 297 จุด และให้บริการช่วยเหลืออำนวยความสะดวก บริการเครื่องดื่ม ผ้าเย็น
ยาสามัญเบื้องต้น ให้ข้อมูลการเดินทาง และห้องสุขา ในช่วงเวลาดังกล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ดึงหน่วยงานแหล่งกำเนิดฝุ่น ร่วมวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา – ออกมาตรฐานรับมือฤดูฝุ่นจิ๋ว สื่อสารให้ประชาชนรับทราบข้อมูลให้ทันท่วงที ด้าน อธิบดี คพ. แนะเช็ก 2 แอปฯ Air4Thai – AIRBKK เป็นหลัก ป้องกันการสับสน

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ดึงหน่วยงานแหล่งกำเนิดฝุ่น ร่วมวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา – ออกมาตรฐานรับมือฤดูฝุ่นจิ๋ว สื่อสารให้ประชาชนรับทราบข้อมูลให้ทันท่วงที ด้าน อธิบดี คพ. แนะเช็ก 2 แอปฯ Air4Thai – AIRBKK เป็นหลัก ป้องกันการสับสน

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในหลายพื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยได้สั่งการไปยัง นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ให้เร่งรัดประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5

นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาว การถ่ายเทอากาศไม่ดี ทำให้ฝุ่นระบายออกยาก จึงทำให้ค่าฝุ่นเพิ่มขึ้นในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล แหล่งกำเนิดฝุ่นที่สำคัญคือภาคจราจรและขนส่ง ทำให้ค่าฝุ่นแตะเกินค่ามาตรฐานสีส้ม ในอนาคตจะเริ่มมีการเผาในพื้นที่โล่ง โดยเฉพาะภาคการเกษตร ยิ่งทำให้ค่าฝุ่นในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นอีก หากควบคุมไม่ได้ในปัจจุบัน สำหรับพื้นที่ กทม.ที่เกิดฝุ่นพิษจากจราจรและการขนส่งนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรณรงค์ให้เข้มข้น เรื่องการหันมาใช้น้ำมันยูโร 5 โดยที่ไทยเริ่มปรับมาใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ผ่านมา ช่วยค่าฝุ่นในกทม.ลงได้ถึงร้อยละ 10 ควบคู่กับบำรุงรักษาเครื่องยนต์และตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้ดี จะช่วยลดการเกิดฝุ่นลงได้มากถึงร้อยละ 50 ของรถคันดังกล่าว และได้รับการประสานข้อมูลจากจิสด้า เพื่อแยกแยะจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ว่าเกิดจากการเผาป่าหรือภาคเกษตร เผานาข้าว ไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งมายังกระทรวงฯ จากนั้นจะส่งไปยังจังหวัด เป็นซิงเกิ้ลคอมมานด์ ที่มีผู้ว่าราชการเป็นผู้สั่งการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จะทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น เช่น มีข้อมูลจากจิสด้าระบุว่ามีการเผาไหม้นาข้าวในเขตจังหวัดภาคกลาง ทำให้ชี้เป้าจุดเกิดเหตุได้ และสั่งการแก้ไขในทันที

นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า เราได้มีการตั้งศูนย์สื่อสาร ภายใต้คณะกรรมการสื่อสาร ที่มีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นประธาน เพื่อให้สื่อสารว่าควรแก้ไขอย่างไร พื้นที่ไหน เวลาใด ขณะนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน กำลังทำเรื่อง เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและการสื่อสารรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“พล.ต.อ.พัชรวาท ได้วางระบบแนวทางแก้ปัญหาไว้ โดยมีอนุกรรมการและคณะทำงานวิชาการส่วนกลาง เพื่อวิเคราะห์ว่าปัญหาเกิดจากอะไร รวบรวมข้อมูลให้ถูกต้อง เพื่อให้มีมาตรการที่เหมาะสม และส่งข้อมูลให้ศูนย์ซิงเกิ้ลคอมมานด์ในระดับจังหวัด และระดับภาคที่มีแม่ทัพภาคเข้ามาช่วยแก้ปัญหา” นายปิ่นสักก์ กล่าว

อธิบดี คพ. กล่าวด้วยว่า นอกจากแอปพลิชันที่ใช้ในการสื่อสารอย่าง Air4Thai กรุงเทพฯ แล้ว จะมี AirBKK ที่ใช้มาตรฐานเดียวกัน จึงอยากให้ใช้ 2 แอพนี้เป็นหลัก เพราะจะมีการเตือนที่ถูกต้อง ซึ่งหากใช้แอปฯ อื่น อิงมาตรฐานประเทศอื่น ค่าสีจะไม่เท่ากัน อาจจะทำให้เกิดความสับสนได้ และจากความตระหนักอาจกลายเป็นความตระหนก เช่น มีการถามว่า กทม.สีแดงแล้วทำไมไม่เวิร์คฟอร์มโฮม ทั้งที่จริงๆ แล้ว ผู้ว่าฯ กทม.เตรียมความพร้อมแล้วว่าจะต้องสีแดงต่อเนื่อง 3 วัน แต่ค่ามาตรฐานของไทยยังไม่สีแดง แต่พอเราไปใช้มาตรฐานประเทศอื่น ที่มีการแบ่งสี 6 ช่วง 6 เฉด ทำให้เกิดการตระหนกเกิดขึ้น เป็นต้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“พัชรวาท” กล่าวถ้อยแถลงร่วมกับผู้นำนานาชาติ ในเวที COP 28 ประกาศหมุดหมายลดก๊าซเรือนกระจก ในปี 2030 พร้อมแสดงความจริงใจแก้ปัญหาเร่งผลักดัน พ.ร.บ.เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรียกร้องทุกฝ่ายร่วมมือเพื่อโลกให้ลูกหลานอยู่อาศัย

,

“พัชรวาท” กล่าวถ้อยแถลงร่วมกับผู้นำนานาชาติ ในเวที COP 28 ประกาศหมุดหมายลดก๊าซเรือนกระจก ในปี 2030 พร้อมแสดงความจริงใจแก้ปัญหาเร่งผลักดัน พ.ร.บ.เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรียกร้องทุกฝ่ายร่วมมือเพื่อโลกให้ลูกหลานอยู่อาศัย

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับสูงของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 28 (COP 28) ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมกับผู้นำจากนานาประเทศ โดยกล่าวว่า ไทยมีความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามเป้าหมาย โดยจะมีแผนการปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมให้เป็นไปตามเป้าหมายตามแผนการลดก๊าซเรือนกระจกในปี ค.ศ. 2030

นอกจากนั้น ประเทศไทยในการแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาจะได้เร่งผลักดันพระราชบัญญัติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการจัดทำแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ให้ออกมาเป็นหลักในการทำงานของประเทศโดยเร็วที่สุด

พล.ต.อ.พัชรวาท ยังกล่าวสนับสนุนการระดมเงินแสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ภายในปี ค.ศ. 2025 ที่จะดำเนินการโดยประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อนำมาเป็นแรงผลักดันการเปลี่ยนแปลง และรองรับผลกระทบในประเทศกำลังพัฒนา ที่จะเกิดขึ้นจากเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีจึงคาดหวังที่จะได้เห็นความชัดเจนของกองทุนสำหรับการสูญเสียและความเสียหายนี้ในการประชุม COP28 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมมือกันในระดับโลกจะนำไปสู่เส้นทาง 1.5 องศา เซลเซียส ตามเป้าหมายของความตกลงปารีส ให้สำเร็จ

“ขอย้ำเตือนว่าทุกประเทศว่าต้องร่วมมือกันให้เต็มที่เพราะโลกกำลังส่งสัญญาณแล้วว่าอุณหภูมิโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องลงมือทำ เพื่อลูกหลานมีโลกอาศัยอยู่ต่อไป“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 ธันวาคม 2566