โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวกิจกรรม ส.ส. และสมาชิกพรรค

“ผู้กองมาร์ค” เปิดโปงต้นตอฝุ่นพิษภาคเหนือ! ทุนไทยหนุน “โรงไฟฟ้า ห.” แนะนายกฯ จัดการด่วน ก่อนวิกฤตลุกลาม!

,

“ผู้กองมาร์ค” เปิดโปงต้นตอฝุ่นพิษภาคเหนือ! ทุนไทยหนุน “โรงไฟฟ้า ห.” แนะนายกฯ จัดการด่วน ก่อนวิกฤตลุกลาม!

25 ต.ค. 2567 / ภาคเหนือของไทยกำลังเผชิญกับมลพิษร้ายแรงอย่างไม่หยุดหย่อน ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช รองประธานคณะกรรมาธิการ พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องจับตา โรงไฟฟ้าถ่านหิน “ห.” ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีทุนจากไทยเป็นส่วนสำคัญ ถูกระบุว่าเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้ภาคเหนือจมอยู่ในมลพิษมาแล้วกว่า 7 ปี! ปัญหานี้ไม่เพียงแต่ทำลายสุขภาพคนในพื้นที่ แต่ยังส่งผลต่อสภาพแวดล้อมอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง

“โรงไฟฟ้าถ่านหินนี้อาจอยู่ในต่างแดน แต่ฝุ่นพิษที่ถูกปล่อยออกมา ทำลายคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างไม่มีข้อยกเว้น” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว ข้อมูลที่นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เก็บรวบรวมในพื้นที่จังหวัดน่าน พบสารปรอทปนเปื้อนในดิน น้ำ และอากาศ ซึ่งเป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่

ความจริงที่ถูกเปิดเผยออกมานี้ ทำให้เกิดความกังวลในวงกว้าง ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ จึงเร่งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำเนินการแก้ไขโดยด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการกับกลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังโรงไฟฟ้า “ถึงเวลาหรือยังที่ผู้นำประเทศจะแสดงความจริงจังในการจัดการปัญหานี้ เริ่มจากคนใกล้ตัว?” เขากล่าว พร้อมชี้ว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจพลังงาน แต่เป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานในการมีอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

นอกจากนั้น เขายังเน้นถึงความจำเป็นในการที่ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามหลักการ “ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน” ที่องค์การสหประชาชาติ (UNGP) กำหนดไว้ “ถึงเวลาแล้วที่ทุนพลังงานต้องโปร่งใส หยุดการทำลายสิ่งแวดล้อม ก่อนที่ภาคเหนือจะไม่มีอากาศให้หายใจ!”

การแก้ไขปัญหามลพิษนี้จะเป็นของขวัญปีใหม่ที่ล้ำค่าสำหรับคนไทยทุกคน ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวปิดท้ายว่า “สิทธิในอากาศสะอาดไม่ใช่แค่ความหวัง แต่เป็นสิทธิที่ทุกคนต้องมี!”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 ตุลาคม 2567

“สส.อัคร” ปลื้ม เป็นตัวแทนอภิปรายในฐานะยุวสมาชิก บนเวทีประชุม 149th IPU ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เผย ได้เปิดมุมมองใหม่ นำมาใช้ในการทำงานการเมือง

,

“สส.อัคร” ปลื้ม เป็นตัวแทนอภิปรายในฐานะยุวสมาชิก บนเวทีประชุม 149th IPU ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เผย ได้เปิดมุมมองใหม่ นำมาใช้ในการทำงานการเมือง
     
นายอัคร ทองใจสด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตนได้เป็นตัวแทนของรัฐสภาไทย เดินทางไปประชุมสหภาพรัฐสภาที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 11-18 ต.ค.ที่ผ่านมา และได้เป็นตัวแทนขึ้นอภิปรายในฐานะยุวสมาชิกในหัวข้อ “Science Technology and Innovation” ในการประชุม 149th IPU ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการได้รับเกียรติขึ้นอภิปรายในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วบนเวทีโลกแห่งนี้

“นอกจากการประชุมในเวทีรัฐสภาโลกแล้วยังได้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนสส.ในอีกหลายๆประเทศ ซึ่งได้มีการยกประเด็นยุวสมาชิกและนโยบายที่อาจเป็นประโยชน์ต่อแต่ละประเทศมาหารืออีกด้วยครับ” นายอัคร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 ตุลาคม 2567

“วรโชติ” เผย ลงพื้นที่ ต.ดงขุย แจกกระสอบทรายเตรียมรับมือน้ำเริ่มท่วมแล้ว หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง หวั่น ชาวบ้านกว่า 1,200 ครัวเรือนจะเดือดร้อนหนัก

,

“วรโชติ” เผย ลงพื้นที่ ต.ดงขุย แจกกระสอบทรายเตรียมรับมือน้ำเริ่มท่วมแล้ว หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง หวั่น ชาวบ้านกว่า 1,200 ครัวเรือนจะเดือดร้อนหนัก

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณจากน้ำฝนและน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ตำบล ดงขุย ทั้งในเขตเทศบาลและเขต.อบต ดงขุย เป็นบริเวณกว้าง กระทบต่อชาวบ้านใน ม2. ม3. ม5. ม 4. ม14 ม 15. จำนวน 1200 ครัวเรือน ในขณะนี้เดือดร้อนอย่างหนัก บ้านเรือน ทรัพย์สิน รวมถึงพื้นที่ทางการเกษตร เสียหายจากเหตุอุทกภัย เพราะน้ำมาค่อนข้างเร็วและมีปริมาณมากจนทำให้ระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ผมได้ลงพื้นที่ร่วมกับนายกเทศมนตรี ต.ดงขุย กำนันผู้ใหญ่บ้าน ตำบลดงขุย เพื่อแจกกระสอบทรายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และได้เตรียมการจัดตั้งโรงครัว เพื่อทำอาหารมอบให้กับประชาชนทั้งเขตเทศบาล และเขต อบต.ดงขุย ซึ่งยังเป็นที่น่ากังวลว่า ปริมาณน้ำที่เพิ่มอย่างรวดเร็วอาจจะทำให้การสัญจรถูกตัดขาด และจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,200 ครัวเรือน โดยชจะไม่สามารถเข้าออกมาซื้ออาหาร เครื่องอุปโภค-บริโภคได้“นายวรโชติ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 กันยายน 2567

“สส.ฉกาจ”วอน กระทรวงเกษตรฯ หามาตรการเยียวยา”เกษตรกร“ในพื้นที่น้ำท่วม หลังไร่นา พืชผลเสียหาย สร้างความทุกข์แสนสาหัส

,

“สส.ฉกาจ”วอน กระทรวงเกษตรฯ หามาตรการเยียวยา”เกษตรกร“ในพื้นที่น้ำท่วม หลังไร่นา พืชผลเสียหาย สร้างความทุกข์แสนสาหัส

นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ พังงา เขต 2 และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวว่า จากการที่มีฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ทำให้น้ำในแม่น้ำตะกั่วป่าเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่ม มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 5-6 หลังเรือน และพื้นที่การเกษตร สวนปาล์มน้ำมันและสวนผลไม้ ได้รับความเสียหาย ตนได้ลงพื้นที่ส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชน ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

นายฉกาจ กล่าวต่อว่า ทาง อบต.โคกเคียน ได้ขอติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำเพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 28,000 ลิตร เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ราบลุ่มที่ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนเพื่อระบายน้ำออกสู่แม่น้ำตะกั่วป่า

“ในพื้นที่ยังคงมีฝนตก ประกอบกับน้ำที่ไหลมาจากอำเภอกะปง ลงสู่แม่น้ำตะกั่วป่าเพื่อระบายลงสู่ทะเลได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูงบางช่วง ทำให้น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรสวนปาล์มน้ำมัน สวนผลไม้ กระทบกับเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างมาก ผมขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแลและให้การเยียวยากับเกษตรกรไทยด้วย เพราะน้ำมาครั้งนี้แทบจะหมดตัว และไม่ใช่เฉพาะใน จ.พังงานเท่านั้น ผมเชื่อว่า เกษตรกรในพื้นที่อุทกภัยต่างกำลังเผชิญกับความทุกข์แสนสาหัส”นายฉกาจ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 กันยายน 2567

“สส.จักรัตน์”นำ กมธ.บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สภาฯ ศึกษาการบริหารจัดการน้ำบาดาล ณ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเตือนภัย ถกหาแนวทางแก้ปัญหา

,

“สส.จักรัตน์”นำ กมธ.บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สภาฯ ศึกษาการบริหารจัดการน้ำบาดาล ณ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเตือนภัย ถกหาแนวทางแก้ปัญหา

นายจักรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนและคณะกรรมาธิการฯ ได้ไปศึกษาดูงาน บทบาทของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลในการบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และการสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำบาดาลเพื่อการเกษตร และการสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล รวมทั้งได้หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงปัญหาและอุปสรรค พร้อมให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อเป็นแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำของประเทศต่อไป

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ยังได้ไปศึกษาดูงานจังหวัดนครปฐม เพื่อหารือถึงการบำรุงรักษาแม่น้ำท่าจีน และการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดนครปฐม และความพร้อมในการเตรียมรับมืออุทกภัย และลงพื้นที่ดูศักยภาพของแม่น้ำท่าจีน ช่วงที่ไหลผ่าน อ.บางเลน เพื่อนำมาเป็นข้อมูลเพื่อพัฒนา

นายจักรัตน์ กล่าวต่อว่า คณะกมธ.บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวเนื่องกับการแจ้งเตือน และการพยากรณ์อากาศ อาทิ สทนช. กรมชลประทาน,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,กรมอุตุนิยมวิทยา, สสน.และ Gistda เข้าให้ข้อมูลกับกรรมาธิการ เพื่อทบทวนข้อพกพร่องก่อนที่จะต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาการแจ้งเตือนภัยต่างๆ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 กันยายน 2567

“สส.อัคร”ถาม รัฐบาลมีแผนบริหารจัดการน้ำ แก้วิกฤตน้ำท่วม-ภัยแล้ง จ.เพชรบูรณ์ อย่างไร ชี้ ที่ผ่านมาระบบยังไม่ดีพอ แถมน้ำประปายังไม่พอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

,

“สส.อัคร”ถาม รัฐบาลมีแผนบริหารจัดการน้ำ แก้วิกฤตน้ำท่วม-ภัยแล้ง จ.เพชรบูรณ์ อย่างไร ชี้ ที่ผ่านมาระบบยังไม่ดีพอ แถมน้ำประปายังไม่พอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภา ฯ นายนายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ ได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี โดยได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ตอบกระทู้ถึงแนวทางการแก้ปัญหาน้ำในจังหวัดเพชรบูรณ์อย่างเป็นระบบว่า ตนได้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและได้พบว่า ปัญหาหลักของเพชรบูรณ์คือ ระบบการจัดการน้ำ ซึ่งประสิทธิภาพยังไม่ดีพอที่จะรองรับต่อการใช้งานได้อย่างทั่วถึงในอีกหลาย ๆ พื้นที่ของจังหวัด ปัญหาการขาดแคลนน้ำนับเป็นสิ่งที่เร่งด่วนและสำคัญต่อการดำรงชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก

นายอัคร กล่าวต่อว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ได้รับผลกระทบจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและปัญหาโลกร้อน ซึ่งทำให้ปริมาณของน้ำฝนที่ตกนั้นไม่แน่นอน และยากต่อการคาดเดา บางปีฝนตกน้อยก็เกิดภัยแล้ง บางปีฝนตกหนักก็น้ำท่วม ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะเกษตรกร แม้ว่าเพชรบูรณ์จะมีอ่างเก็บน้ำทั้งหมด 11 แห่ง แต่กลับไม่เพียงพอ แสดงให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องของปริมาณน้ำในอ่างต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ตัวอย่างเช่น อำเภอวิเชียรบุรีและศรีเทพ มีประชากรเกือบๆ 200,000 คนซึ่งคิดเป็นประมาณเกือบ 20% จากประชากรทั้งจังหวัด แต่กลับมีเพียง อ่างเก็บน้ำขนาดกลางห้วยเล็งเพียงที่เดียว ทำให้เกษตรกรในพื้นที่มีน้ำไม่เพียงพอที่จะไปเพาะปลูกพืชผล และในปี 2566 อำเภอวิเชียรบุรีมีพืชผลเสียหายกว่า 1,000 ไร่ ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรลดลง ชาวบ้านเดือดร้อนมาก

นายอัคร กล่าวต่ออีกว่า ตนยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชน หมู่ 13 ต.ศรีเทพ อ.ศรีเทพ ว่า น้ำประปาไม่ไหลและไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แถมน้ำที่ใช้ได้กลับเป็นน้ำสกปรก มีกลิ่นเหม็น และมีสีแดงขุ่น ตนคิดว่า ควรหาทางแก้สำหรับเรื่องนี้ และนี่เป็นเพียงแค่ปัญหาภัยแล้งในเพชรบูรณ์ ยังไม่รวมถึงปัญหา อุทกภัยที่เกิดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ ช่วงทางน้ำผ่าน หรือขนาดของลำน้ำป่าสักที่แคบและตื้น ทำให้รองรับน้ำได้อย่างจำกัด ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม

โดยในปี 2565 เกิดฝนตกหนักในจังหวัด พื้นที่อำเภอวิเชียรบุรีและศรีเทพ มีน้ำท่วมขัง สูงถึง 150 เซนติเมตร ประชาชนในหลายตำบลได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน ทรัพย์สิน หรือพืชผล
ทางการเกษตร เราได้เรียนรู้มากมายจากภัยธรรมชาติที่เกิดในอดีต ปัจจุบัน เราควรนำมาถอดบทเรียน เพื่อวางแผนการจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพและเป็นระบบสำหรับอนาคตของเพชรบูรณ์

”ผมจึงอยากทราบว่ารัฐบาลมีแผนบริหารจัดการน้ำรวมถึงแผนงานโครงการแก้ไขปัญหาน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงการบรรเทาอุทกภัยและบรรเทาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างสมบูรณ์ได้อย่างไร รวมถึงความก้าวหน้าโครงการฝายยางบ้านท่า ในอำเภอศรีเทพ อยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว สุดท้าย ผมขอให้จังหวัดเพชรบูรณ์ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและยั่งยืน“

ต่อมา รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ตอบคำถามของนายอัคร โดยชี้แจงถึงความคืบหน้าโครงการฝายทั้ง 2 แห่งว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการจะแล้วเสร็จช่วงปี 2568-2570 ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีน้ำอุปโภค บริโภค และเกษตรกรจะมีน้ำใช้ในการเพาะปลูก

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 กันยายน 2567

“สส.บุญชัย”ขอ มท.แก้ปัญหาบุคลากรท้องถิ่นจำนวนน้อย ต้องแบกรับดูแลประชาชนจำนวนมาก พร้อมขอกรมปกครองส่วนท้องถิ่น จัดงบเร่งซ่อมแซมถนนในพื้นที่

,

“สส.บุญชัย”ขอ มท.แก้ปัญหาบุคลากรท้องถิ่นจำนวนน้อย ต้องแบกรับดูแลประชาชนจำนวนมาก พร้อมขอกรมปกครองส่วนท้องถิ่น จัดงบเร่งซ่อมแซมถนนในพื้นที่

นายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ เพชรบูรณ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาฯถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ตำบลเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายม้ง มีจำนวนประชากร กว่า 16,000 คน  4,000 กว่าครัวเรือน ซึ่งในจำนวนนี้มี 2 หมู่บ้าน ที่มีประชากรมากกว่า 2,000 คน 500 กว่าครัวเรือน  คือหมู่ที่ 10 และ หมู่ที่ 12  ทำให้ผู้นำหมู่บ้าน ผู้ใหญ่ ผู้ช่วย อบต. ทำงานค่อนข้างหนัก ในการช่วยเหลือดูแลแก้ไขปัญหาต่างๆ ของพี่น้องในหมู่บ้าน ทั้งปัญหาเรื่องโรคระบาด และปัญหายาเสพติด
จึงขอให้กระทรวงมหาดไทย เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ด้วย

นายบุญชัย กล่าวต่อว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนหมู่บ้านศิลา อำเภอหล่มเก่า ถึงความเดือดร้อนของการใช้ถนนสายทาง พช  2052  บ้านศิลา ห้วยผักกูด ตอนที่ 2 กม5+490 – กม7+130 ระยะทางประมาณ 1,640 เมตร ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อลึก และเป็นสภาพเช่นนี้มา หลายปีแล้ว ถนนสายนี้มีประชากรที่ใช้ผ่านอยู่ทั้งหมด  7 หมู่บ้าน และยังต้องใช้ในการขนส่งสินค้าทางการเกษตร และส่งนักเรียน และตำบลตาดกลอย ถนนสายทาง พช45-003 สายตาดกลอยใต้ ถึงวังเวินพัฒนา ระยะทาง 2 กิโลเมตร ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ และไม่ได้รับการซ่อมแซมมาเป็นเวลาหลายปีเช่นกัน จึงขอให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยจัดสรรงบประมาณซ่อมแซมถนนทั้ง 2 สายด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 กันยายน 2567

“พล.อ.ประวิตร“ ส่ง สส.กระแสร์“ ลงพื้นที่ป้องกันน้ำโขงล้นท่วมหนองคาย แนะ รัฐบาลควรเร่งเตรียมแผนเยียวยาพร้อมงบประมาณให้ ปชช.ทันที

,

“พล.อ.ประวิตร“ ส่ง สส.กระแสร์“ ลงพื้นที่ป้องกันน้ำโขงล้นท่วมหนองคาย แนะ รัฐบาลควรเร่งเตรียมแผนเยียวยาพร้อมงบประมาณให้ ปชช.ทันที

 นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงบริเวณจังหวัดหนองคาย อยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน   ตนได้รับมอบหมาย จากพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  เร่งลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ โดยได้ร่วมกับนายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย และคณะลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม ยอมรับว่า ตั้งแต่ระดับน้ำในย่านเศรษฐกิจของตัวเมืองหนองคาย เริ่มเพิ่มสูงขึ้น และแม่น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ในตัวเมืองหนองคาย ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมือง ต้องหยุดขายสินค้า และประชาชนที่จะเข้าไปซื้อสินค้า ก็ไม่สามารถทำได้ ทำให้เกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจด้วย

 นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า ในขณะนี้เราทำอย่างเต็มที่เร่งช่วยเหลือพี่น้องให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันน้ำโขง ทะลักเข้าพื้นที่เขตเทศบาลเมือง อย่างกรณี เมื่อวานนี้(14 ก.ย.)ตนและกลุ่มรักหนองคาย พร้อมด้วยหนองคายเจริญจักรกล ได้นำรถดั้มเข้าทำงานร่วมกับทาง อบจ.หนองคาย นำทรายเข้ากระจายตามจุดสำคัญต่างๆ ในตัวเมืองหนองคาย เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนที่ต้องการทราย นำกระสอบมาใส่ เพื่อทำคันป้องบกันน้ำชั่วคราเพื่อป้องกันน้ำเข้าบ้านเรือน และทาง อบจ.หนองคาย ก็ได้นำทรายไปกระจายตามจุดต่างๆ ภายในตัวเขตเทศบาลเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนด้วย

 “เหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นทำให้บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเสียหายจำนวนมาก รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะการสัตว์เลี้ยง ซึ่งได้มีการนำเรือเข้าลำเลียงสัตว์เลี้ยง มาอยู่ในพื้นปลอดภัยแล้ว โดยภายหลังจากน้ำลดแล้วก็ยังต้องฟื้นฟูกันอีกมาก ผมจึงขอให้รัฐบาลเตรียมแผนและงบประมาณในการเยียวยาให้กับประชาชนไว้ล่วงหน้าเลย เพราะปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่สามารถรอได้ ทั้งนี้ ผมขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกคน และเราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน“นายกระแสร์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 กันยายน 2567

“สส.วรโชติ”จี้ ถามรัฐบาลถึงมาตรการแก้ปัญหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เผย เกษตรกรเพชรบูรณ์ จ่อบุกศาลากลางฯเรียกร้องให้รัฐแก้ปัญหาด่วน

,

“สส.วรโชติ”จี้ ถามรัฐบาลถึงมาตรการแก้ปัญหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เผย เกษตรกรเพชรบูรณ์ จ่อบุกศาลากลางฯเรียกร้องให้รัฐแก้ปัญหาด่วน

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พ่อค้าหยุดรับซื้อข้าวโพด เกษตรกรจะทำอย่างไร เพราะวันนี้ถึงฤดูเก็บเกี่ยวมาถึงแล้ว แต่พ่อค้าไม่รับซื้อ เพราะโรงงานอาหารสัตว์แต่ละแห่งจำกัดการซื้อ และก็ปรับลดราคาลงเรื่อย ๆ ตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และทางรัฐบาลมีมาตรการอย่างไรเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น

นายวรโชติ กล่าวต่อว่า วันนี้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลดลงอย่างต่อเนื่อง และรุนแรง ไม่รู้ว่าเกิดจากกลไกการตลาด หรือ เป็นกลไกของพ่อค้า รวมทัังมีการจำกัดการรับซื้อของกลุ่มผู้ประกอบการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และผู้ประกอบการ SME ที่เป็นผู้รับซื้อจากเกษตรกรโดยตรงก็ไม่สามารถรับซื้อได้เนื่องจากโรงงานอาหารสัตว์ไม่รับซื้อ ความลำบากไปตกที่พี่น้องเกษตรกร โดยในวันพรุ่งนี้(12 ก.ย.)พี่น้องเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ก็จะไปหน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อไปเรียกร้องเรื่องดังกล่าวด้วย

“ผมอยากฝากเรื่องนี้ไปยังกรมการค้าภายใน กระทรวงกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง ให้ช่วยดูแลแก้ไขปัญหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสัตว์ด้วย ซึ่งเมื่อสักครู่ผมต้องขอบคุณนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และผมได้สอบถามว่า เรื่องข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รัฐบาลมีนโยบายอย่างไรบ้าง ซึ่ง
ท่านแจ้งว่า มีการหารือกันวานนี้และจะรีบดำเนินการ“นายวรโชติ กล่าว

นายวรโชติ กล่าวต่อว่า สถานการณ์น้ำท่วมเกือบทั่วประเทศในตอนนี้ แต่ราคาข้าวกลับลดลง ซึ่งจริง ๆ แล้วข้าวต้องราคาแพงขึ้น แล้วทำไมลดลงทุกวัน ตนอยากทราบว่า วันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้มีการจัดการดูแลเรื่องนี้หรือไม่ โดยการนำเข้าต่างๆ ตนขอฝากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และคณะรัฐมนตรีทุกท่าน ให้ใส่ใจพี่แม่พี่น้องประชาชนเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 กันยายน 2567

 “สส.ชัยมงคล”เปรียบ ครม. เหมือน ”เหล้าเก่าในขวดใหม่ “เขียนฉลากเพิ่มเติม ซัดภาพจำรัฐบาลตระบัดสัตย์ เปรย ไม่อยากเห็นภาพ รบ.ชนชั้นสูง“

,

“สส.ชัยมงคล”เปรียบ ครม. เหมือน ”เหล้าเก่าในขวดใหม่ “เขียนฉลากเพิ่มเติม ซัดภาพจำรัฐบาลตระบัดสัตย์ เปรย ไม่อยากเห็นภาพ รบ.ชนชั้นสูง“

นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวอภิปรายนโยบายของคณะรัฐมนตรี ว่า ประโยคที่น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และประโยคที่บอกว่า“คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ความหวังของคนไทยเริ่มเรืองรอง” แต่เมื่อเห็นรายชื่อคณะรัฐมนตรีทำให้ความหวังเหล่านั้นเริ่มลางเลือน เพราะประกอบไปด้วยคนเก่า 70-80% เพิ่มเติมคนใหม่มาบ้าง เปรียบเสมือนเหล้าเก่าในขวดใหม่ เขียนฉลากเพิ่มเติม มีทั้งพ่อแทนลูก หรือลูกแทนพ่อ น้องแทนพี่ ซึ่งคนที่เข้ามาแทนกันไม่ใช่ว่าไม่ใช่คนดี เขาอาจเป็นคนดี แต่จะสามารถบริหารราชการแผ่นดิน ที่มีเดิมพันด้วยประชาชนคนไทย 70 กว่าล้านคนได้หรือไม่

องค์ประกอบคณะรัฐมนตรีชุดนี้มาจากหลายสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ที่มาจากผลพวงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่มีจุดยืนว่าอำนาจรัฐต้องมาจากปลายกระบอกปืนกระบอกปืน มาจากรัฐมนตรีอาชีพ ที่เลือกจะเป็นรัฐมนตรีมา 17-18 สมัย ส่วนคนใหม่นั้นก็สืบทอดโดยสายเลือด  สื่อมวลชนจึงขนานนามคณะรัฐมนตรีชุดนี้ว่า ญาติกาบ้าง ผู้สืบสันดานบ้าง ทำให้เห็นทางของนโยบายรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งไม่ได้เห็นว่าจะสามารถหวังผลประการใด และหากได้ทำตามที่อ่านคำการแถลงนโยบายในรัฐสภาแห่งนี้ ประเทศชาติจะเจริญรุ่งเรืองในวันพรุ่งนี้เลยแต่ตนไม่แปลกใจเพราะนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ไม่ต่างจากชุดที่แล้ว และมีต้นทางมาจากพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน เช่นเรื่องยาเสพติดก็เขียนเหมือนกันว่าจะต้องจัดการรวมถึงพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน มีการยึดทรัพย์บำบัดผู้เสพ ซึ่งผลดำเนินการของรัฐบาลชุดที่แล้ว ไตรมาสที่สอง มีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดเพิ่มขึ้น 29.9% ซึ่งหมายความว่าเป็นการบริหารงานรัฐที่ล้มเหลวในการปราบปรามยาเสพติด

นอกจากนี้นโยบายเรือธงและเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ที่บอกจะสร้างเศรษฐกิจให้ดีขึ้น คนไทยจะมีรายได้เพิ่มสามารถเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ซึ่งตนเชื่อว่าจะมีการจ้างงานซึ่งคนไทยจะไปเป็นคนแจกไพ่ เป็นแรงงาน เป็นคนต้อนรับ แต่คนรวยมีไม่เกิน 10 ตระกูล แต่คนจนจะมีนับ 10 ล้านคน ซึ่งนโยบายเช่นนี้เปรียบเสมือนทำให้เห็นว่าเป็นนโยบายจากกลุ่มชนชั้นนำ เพื่อชนชั้นนำและเพื่อทุนขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงไร้ความหวังจากพฤติกรรมที่ทำ แต่หากอ่านตามนโยบายที่เขียนไว้ตนขอชื่นชม

ขณะที่เรื่องของพลังงานที่ต้องการให้ลดราคาทั้งค่าไฟค่าน้ำ ฝากถึงนายกรัฐมนตรี ว่ากรุณาดูเอ็มโอยู ปี 44 ซึ่งบอกว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับประเทศเพื่อนบ้าน และข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์และหลักฐานต่างๆได้บ่งชี้ว่าไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนแต่เป็นแผ่นดินไทย ซึ่งเราไปทำเอ็มโอยูและสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดน และดินแดนที่จะเสียเต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ มีปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งใครไปเซ็นกับใครไว้ตามไปแก้ไขไปยกเลิกด้วย ทั้งนี้ขอให้จำคำพูดของตนไว้ให้ดีในแผ่นดินรัชกาลนี้ คนไทยจะไม่ยอมเสียดินแดนไม่ว่าจะทางพื้นดินทางพื้นน้ำแม้แต่ตารางนิ้วเดียว หากทำให้เสียดินแดนเขาจะตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติคนทรยศต่อแผ่นดิน

“นโยบายเรือธงที่พูดกันมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วการแจกเงิน 10,000 บาท จะเป็นเงินสดหรือไม่แต่มีการวางแผนไว้ดีอย่างไร เพื่อที่จะไม่ไปส่งเสริมสินค้าจากต่างชาติที่มีราคาถูกที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย จนกระทั่งทำลาย sme ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยเจ๊งระเนระนาด เรื่องเหล่านี้ไม่ได้ทำโดยการอ่านตามตัวอักษร แต่อยากเห็นการกระทำที่เป็นจริง เมื่อมองที่ของรัฐบาลวันนี้ภาพที่ประชาชนรับรู้คือ “การตระบัดสัตย์” มีที่ไหนพรรคที่ยกมือให้ 39 เสียง ให้ไปเป็นฝ่ายค้านเปรียบเสมือนไปหุงข้าวด้วยกันแต่เมื่อเวลาข้าวสุกข้าพเจ้าขอกินคนเดียว แต่พรรคที่งดออกเสียงเชิญมาเป็นรัฐบาล

นายชัยมงคล ได้กล่าวอภิปรายเพิ่มเติมว่า ตนทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาลนักการเมืองไม่สนใจว่าเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ขอแต่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างน้อยข้อเสนอแนะแนวทางที่ตนพูดไปเป็นประโยชน์เพื่อประชาชนไม่ใช่เป็นประโยชน์ส่วนตัว

”ผมไม่อยากเห็นรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากชนชั้นสูงเพื่อคนชั้นสูงและอาศัยมือของประชาชนในคาบประชาธิปไตย  แล้วอ้างประชาชนมากอบโกยผลประโยชน์อย่างตะกละตะกราม และมุมมาม “

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 กันยายน 2567

“สส.วรโชติ”ติง นโยบายเกษตรของรัฐบาลยังไม่โดนใจเกษตรกร ชี้ ปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์-ข้าว ยังตกต่ำกระทบผู้ปลูก ฝาก“นายกฯเร่งแก้ปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ

,

“สส.วรโชติ”ติง นโยบายเกษตรของรัฐบาลยังไม่โดนใจเกษตรกร ชี้ ปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์-ข้าว ยังตกต่ำกระทบผู้ปลูก ฝาก“นายกฯเร่งแก้ปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวอภิปรายนโยบายรัฐบาลในที่ประชุมรัฐสภาตามมาตรา 162 ว่า นโยบายข้อที่ 6 ที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องเกษตรกร แต่ยังไม่ครอบคลุมพี่น้องเกษตรกร และยังไม่โดนใจพี่น้องเกษตรกร วันนี้ท่านจะเห็นจากหน้าข่าวต่างๆ ว่า พี่น้องเกษตรกรโดยเฉพาะผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดนพ่อค้าหยุดรับซื้อข้าวโพดในฤดูกาลเก็บเกี่ยว มันเกิดอะไรขึ้น ทำให้พี่น้องเกษตรกรเดือดร้อนหนัก ไม่รู้จะนำข้าวโพดไปขายที่ไหน ปัญหาเกิดจากโรงงานอาหารสัตว์ที่หยุดรับซื้อและลดราคาก็ลงทุกวัน

นายวรโชติ กล่าวต่อว่า ตนไม่ทราบว่า การกำหนดราคาในบ้านนี้เมืองนี้ มันเกิดจากพ่อค้าหรือว่ากระทรวงพาณิชย์ หรือว่ารัฐบาลเป็นผู้กำหนด ราคาถึงลดลงทุกวัน ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถซื้อข้าวโพดจากพี่น้องเกษตรกรได้ ต้องหยุดรับซื้อ ทั้งที่เป็นฤดูเก็บเกี่ยว
อย่างเรื่องการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และอาหารสัตว์ก็เหมือนกัน จริงๆ แล้วบ้านเราผลิตได้ประมาณ 5 ล้านตันต่อปี การนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศ หรือประเทศเพื่อนบ้าน ต้องไม่เกินประมาณ 1.5 ล้านตันต่อปี
แต่วันนี้มันทะลุไป 2 ล้าน ความต้องการใช้ข้าวโพดภายในประเทศ 8 ล้านตัน ผลิตได้ 5 ล้านตัน ราคาต้องดี แต่ในขณะนี้ราคากลับลดลงทุกวัน

“ผมได้รับข่าวจากพี่น้องเกษตรกรชาวเพชรบูรณ์ว่า วันนี้ได้เปิดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แล้ว โดยราคาต่างๆ เป็นไปตามที่เกษตรกรออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยประกันหลักการในความชื้น 30% ซึ่งเกษตรกรขอราคามา 7.50 สตางค์ ไม่ต่ำกว่านี้แล้ว และที่ความชื้น 14.5% ขอเป็น 11 บาท ซึ่งวันนี้มีการเปิดรับซื้อความชื้นที่ 14.5% จะอยู่ที่โดยเฉลี่ย 9. 90 สตางค์ และความชื้น 30% ก็จะอยู่ที่ประมาณ 6.80 สตางค์ ผมขอบพระคุณจริงๆที่ท่านแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรด้วยความฉับไว”นายวรโชติ กล่าว

นายวรโชติ กล่าวต่อว่า ตนมีข้อสงสัยว่า ราคาข้าวโพดบ้านเรา พอถึงฤดูเก็บเกี่ยว ราคาจะลดลงทุกปี ซึ่งจริงๆ แล้วปีนี้มีปัญหาอุทกภัยหลายพื้นที่ เหตุใดราคาถึงลดลง เพราะในความจริงแล้ว ราคาจะต้องปรับขึ้น ในส่วนของโควต้าในการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่กำหนดไว้ว่า ภายในประเทศ 3 ส่วน นำเข้า 1 ส่วน เกษตรกรจึงเป็นห่วงว่าโควต้าแบบนี้จะลดลงหรือไม่ ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ตนอยากฝากรัฐบาลชุดใหม่แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนเกษตรกรผูัข้าวโพด ที่เป็นความหวังของพี่น้อง เป็นรายได้หลัก เป็นกระดูกสันหลังของชาติ

นายวรโชติ ยังกล่าวต่อถึง ปัญหาราคาข้าวที่วันนี้น้ำท่วมทั่วประเทศ แต่ข้าวราคาถูกลงทุกวัน ราคาเกิดจากพ่อค้าคนกลางกำหนดเองหรืออย่างไร รัฐบาลมีส่วนเข้าไปกำหนดให้ได้หรือไม่ ให้ราคาเป็นธรรมกับพี่น้องเกษตรกร เหมือนกับคำที่ท่านนายกรัฐมนตรีบอกว่าต่อไปพี่น้องประชาชนคนไทยจะมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีโอกาส เท่าเทียม เท่ากัน ทุกคน

สุดท้าย พรรคพลังประชารัฐ นำโดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ขอแสดงความห่วงใยและเสียใจต่อพี่น้องที่ประสบอุทกภัยทางภาคเหนือของประเทศ  ขอให้ทุกท่านปลอดภัยโดยเร็ว และตนในนาม สส.เพชรบูรณ์ทั้ง 6 คน ขอฝากให้นายกฯและคณะรัฐมนตรีดูแลประชาชนด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 กันยายน 2567

“พล.อ.ประวิตร” ถือฤกษ์มงคล นำทีม พปชร. ทำบุญเสริมสิริมงคล รับคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ลุยงานผลักดันนโยบายเพื่อปชช.

,

“พล.อ.ประวิตร” ถือฤกษ์มงคล นำทีม พปชร. ทำบุญเสริมสิริมงคลรับคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ลุยงานผลักดันนโยบายเพื่อปชช.

เวลา 07.30 น. (10 กันยายน 2567 )ที่พรรคพลังประชารัฐ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานในพิธีสักการะ ศาลพระพรหม ซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหน้า ตึกอาคารที่ทำการพรรค พปชร. เพื่อเสริมสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองในวาระที่พรรคได้มีคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ นำโดยพลเอก ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยสมาชิกพรรค บุคลากร พนักงาน เพื่อประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนพรรคสู่การเป็นสถาบันการเมืองที่มั่นคง พร้อมดูแลพี่น้องประชาชน ภายใต้อุดมการณ์ “ปกป้องสถาบัน  ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส”

จากนั้นในช่วงเช้าได้จัดพิธีสงฆ์ ซึ่งคณะสงฆ์ได้เมตตาสวดบทพระปริตร เจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคลในการทำงานของทุกคนให้ราบรื่น และประสบผลสำเร็จในการดำเนินนโยบายของพรรค เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค  นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค  นายอภิชัย เตชะอุบล   รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรค   พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรคเข้าร่วมพิธี อย่างพร้อมเพรียง

สำหรับบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น และมีความเป็นสิริมงคล โดยพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวทักทาย และขอบคุณสมาชิกพรรคและผู้ร่วมงานทุกคนที่ได้ร่วมพิธีสวดมนต์และทำบุญในครั้งนี้



































ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 กันยายน 2567