โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: พรรคพลังประชารัฐ

“ชัยมงคล ว่าที่ ส.ส.สกลนคร”เชื่อ ปักธงสำเร็จเพราะนโยบาย พปชร.-รถไฟความเร็วสูง เดินหน้าแก้หนี้สินให้เกษตรกร

,

“ชัยมงคล ว่าที่ ส.ส.สกลนคร”เชื่อ ปักธงสำเร็จเพราะนโยบาย พปชร.-รถไฟความเร็วสูง เดินหน้าแก้หนี้สินให้เกษตรกร

นายชัยมงคล ไชยรบ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.สกลนคร เขต 5 กล่าวว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ขอขอบพระคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ตน ซึ่งเป็นคนสว่างแดนดินให้ได้เป็นผู้แทน การได้รับเลือกครั้งนี้เป็นตนตั้งใจจะเปลี่ยนเพื่อพัฒนาสว่างแดนดินให้ดีขึ้น จะถือโอกาสทำงานพัฒนาเมืองสว่างฯ ให้เจริญก้าวหน้า เรามีเป้าหมายชัดเจนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยต้องแก้ไขปัญหาหนี้สิน ควบคู่กับการสร้างรายได้ เนื่องจากปัจจุบันประชาชนประสบกับหนี้สินทั้งในและนอกระบบจำนวนมาก

นายชัยมงคล กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนได้บอกกับประชาชนในพื้นที่ก็คือ ตนจะผลักดันให้จังหวัดสกลนครมีการพัฒนาด้านคมนาคมด้วยรถไฟความเร็วสูงเพื่อการขนส่ง และสกลนครจะต้องอยู่ในแผนของการวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะนำรถไฟความเร็วสูง จากอุดรธานี ผ่านสกลนคร ไปนครพนม แม้ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม เรื่องนี้คือยุทธศาสตร์ในการพัฒนาที่ตนตั้งใจว่าจะทำให้ได้ และประชาชนก็ขานรับเป็นอย่างดี เพราะสาเหตุที่ทำให้ประชาชนตัดสินใจให้ตนมาเป็นผู้แทนฯนอกเหนือจากนโยบายของพรรคพลังประชารัฐแล้ว ก็มาจากนโยบายรถไฟความเร็วสูงด้วย

“รถไฟความเร็วสูงที่จะเกิดขึ้น จะทำให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน เพราะจะสามารถส่งออกผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การที่ต้องนำเอางบประมาณจากภาครัฐลงไปสนับสนุนอยู่ตลอดเวลา และก็แก้ปัญหาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น”นายชัยมงคล กล่าว

นายชัยมงคล กล่าวต่อว่า ตนยังมีโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตรด้วยที่ตั้งใจจะผลักดันให้สำเร็จเพราะเป็นบริหารการจัดการน้ำและส่งเสริมวิถีชุมชนการเกษตรที่ยั่งยืน โดยจะสูบน้ำจากบ่อบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซล่าเซลล์ ถือเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน และยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนทางการเกษตรโดยที่ไม่ต้องใช้น้ำมันอีกด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 มิถุนายน 2566

“รัชนี ว่าที่ ส.ส.ร้อยเอ็ด”ประกาศ พร้อมดูแล ปชช.แก้ปัญหาทุกเรื่องตามที่หาเสียงไว้ เชื่อ ทำงานไม่เคยหยุด จนได้ใจชาวร้อยเอ็ด ส่งเข้าสภาฯอีกสมัย

,

“รัชนี ว่าที่ ส.ส.ร้อยเอ็ด”ประกาศ พร้อมดูแล ปชช.แก้ปัญหาทุกเรื่องตามที่หาเสียงไว้ เชื่อ ทำงานไม่เคยหยุด จนได้ใจชาวร้อยเอ็ด ส่งเข้าสภาฯอีกสมัย

นางรัชนี พลซื่อ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ร้อยเอ็ด เขต 3 กล่าวถึงการทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาภายหลังได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ว่า สิ่งแรกจะต้องเน้นการนำนโยบายของพรรคที่เราได้หาเสียงไว้เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องที่ทำกินและแก้ปัญหาภัยแล้ง รวมถึงการประสานงานเพื่อให้ได้เอกสารสิทธิ์ สปก.เพื่อการทำอาชีพเกษตรที่มั่นคงสร้างรายได้ให้กับครอบครัวตามแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ

นางรัชนี กล่าวต่อถึงเรื่องของพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นถนนที่ได้ผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นผลงานในช่วงที่ผ่านมาของตนเอง และจำเป็นที่ต้องทำต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับปรุงเส้นทางที่ชำรุดให้คงสภาพใช้งานเพื่อการสัญจรที่สะดวกของประชาชน ซึ่งส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนจนได้รับคะแนนเสียง และชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้

“เราไม่เคยหยุดที่จะทำงาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่งก็ตาม ครอบครัวพลซื่อ พร้อมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และประชาชนสามารถเข้าถึงในทุกรูปแบบ แจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งพบปะ โทรศัพท์ ทั้งงานบุญ งานลงพื้นที่ ไม่เคยขาด”นางรัชนี กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 มิถุนายน 2566

“ปกรณ์ จีนาคำ” เดินสายขอบคุณ ปชช. พร้อมทำงานพัฒนา จ.แม่ฮ่องสอน เล็งผลักดันเสนอยกจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้เป็น “จังหวัดพิเศษ” เพื่อลดปัญหารายได้ต่อหัวต่ำ และแรงงานฝีมือ รวมถึงข้าราชการขาดแคลน

,

“ปกรณ์ จีนาคำ” เดินสายขอบคุณ ปชช. พร้อมทำงานพัฒนา จ.แม่ฮ่องสอน เล็งผลักดันเสนอยกจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้เป็น “จังหวัดพิเศษ” เพื่อลดปัญหารายได้ต่อหัวต่ำ และแรงงานฝีมือ รวมถึงข้าราชการขาดแคลน

นายปกรณ์ จีนาคำ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.แม่ฮ่องสอน เขต 1 เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนในทุกอำเภอที่ให้ความไว้วางใจตนเอง ซึ่งขณะนี้กำลังรอการรับรองผลอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) เมื่อรับรองแล้ว ตนจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนบุคลากรของหน่วยราชการ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของการขับเคลื่อนจังหวัด ด้วยข้อจำกัดของภูมิศาสตร์ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ห่างไกล ทำให้บุคลากรที่จะมาบรรจุทำงานในพื้นที่มีไม่มาก และไม่เพียงพอต่อการบริหารงานด้านต่างๆให้มีประสิทธิภาพ ตนจึงตั้งใจว่า ทันทีที่เปิดสภาฯ จะเร่งเสนอให้มีการยกฐานะของจังหวัด เป็นเมืองพิเศษ เช่นเดียวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้มีการกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่นมากขึ้น

“จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากร ของหน่วยราชการ ที่จะเข้ามาให้บริการประชาชน ผมต้องการให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีข้าราชการเพียงพอต่อการพัฒนาพื้นที่ ทั้งด้าน เศรษฐกิจ สังคม และสุขอนามัย เพื่อให้ทัดเทียมกับพื้นที่อื่นๆ ผมเห็นว่า ควรมีการผ่อนผันข้อบังคับระบบราชการ โดยการสร้างแรงจูงใจ การปฎิบัติหน้าที่ของบุคลากร ที่จะเข้ามาบรรจุในพื้นที่ และควรมีระยะเวลาทำงานในพื้นที่ได้นานขึ้น การพิจารณาความเหมาะสม ของค่าตอบแทน ค่าเดินทาง พร้อมทั้งเพิ่มอำนาจการอนุมัติให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด การใช้พื้นที่ป่า เพื่อการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ทั้งไฟฟ้า ถนน เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น”นายปกรณ์ กล่าว

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาในเรื่องของที่ทำกิน จะต้องเร่งผลักดันให้มีการออกใบอนุญาตโดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เพราะปัจจุบันมีประชาชน กว่า 2 หมื่นครัวเรือนที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตในการเข้าทำกินในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ตามนโยบายคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เพื่อเป็นการลดปัญหาการบุกรุกป่า เพราะพื้นที่แม่ฮ่องสอนมีประชาชนที่เป็นกลุ่มชาติพันธ์หลากหลาย เน้นทำการเพาะปลูกอยู่ในพื้นที่สูงซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่า ดังนั้นควรส่งเสริมให้เกิดอาชีพที่มั่นคง และลดกระทำผิดทางกฎหมาย พร้อมให้เป็นแนวร่วมในการดูแลฟื้นฟูป่าให้อุดมสมบูรณ์มากขึ้นไปพร้อมกัน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 มิถุนายน 2566

เดินหน้าทำงานไม่ต้องรอ กกต.!”อัครแสนคีรี ว่าที่ ส.ส.ชัยภูมิ”ลงพื้นที่ประสานเครื่องจักรฟื้นฟูแหล่งน้ำ รับมือหน้าฝน ลั่น เกษตรกรชัยภูมิต้องก้าวสู่ตลาดโลก

,

เดินหน้าทำงานไม่ต้องรอ กกต.!”อัครแสนคีรี ว่าที่ ส.ส.ชัยภูมิ”ลงพื้นที่ประสานเครื่องจักรฟื้นฟูแหล่งน้ำ รับมือหน้าฝน ลั่น เกษตรกรชัยภูมิต้องก้าวสู่ตลาดโลก

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ชัยภูมิ เขต 7 กล่าวว่า ในช่วงระหว่างรอการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตนก็ได้ลงพื่นที่หนองซ่อ ม.3 บ้านโคกสง่า ตำบลห้วยไร่ ซึ่งปัจจุบันมีสภาพปกคลุมไปด้วยวัชพืชจำนวนมาก ทำให้กักเก็บน้ำไม่ได้ และยังเป็นด่านรับน้ำด่านหน้าของอำเภอคอนสวรรค์ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่น้ำจากบนเขาภูแลนคาจะไหลมาตรงนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องรีบเอาวัชพืชออก เพื่อให้กักเก็บน้ำได้มากขึ้นทั้งหน้าแล้งและหน้าฝน ตนจึงได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รีบเข้ามาดูเพื่อประสานเครื่องจักรฟื้นฟูแหล่งน้ำ โดยเบื้องต้นทราบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะสามารถย้ายรถแบคโฮเข้ามาขุดลอกได้ภายในอาทิตย์หน้า

“การผลักดันโครงการเพิ่มพื้นที่ในการกักเก็บน้ำในระดับหมู่บ้าน ผลักดันโครงการกักเก็บน้ำ ป้องกันน้ำท่วมแล้งซ้ำซาก เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องช่วยเหลือเกษตรกร รวมไปถึงแนวทางการลดต้นทุนรายจ่าย เช่น ราคาปุ๋ยแพง อาหารสัตว์แพงด้วย ไฟฟ้าแพง”

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า การเกษตรจะพัฒนาได้ก็จะตัองมีความร่วมมือระหว่างจังหวัด และระหว่างประเทศ เพื่อเป็นช่องทางในการช่วยซื้อขายสินค้าเกษตร เช่น มันสำปะหลัง อ้อย ให้กับพี่น้องชาวชัยภูมิ
และจะเป็นการยกระดับรายได้เกษตกรชัยภูมิ ตนมีความตั้งใจที่จะทำให้จังหวัดชัยภูมิก้าวออกไปสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งมีความต้องการกินการใช้มหาศาล

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 มิถุนายน 2566

“ฉกาจ ว่าที่ส.ส.พังงา” เตรียมสานต่อแก้ปัญหาน้ำ-ที่ทำกินให้ปชช.หนุนปรับปรุงผังเมืองจังหวัดสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มรายได้คนท้องถิ่น

,

“ฉกาจ ว่าที่ส.ส.พังงา” เตรียมสานต่อแก้ปัญหาน้ำ-ที่ทำกินให้ปชช.หนุนปรับปรุงผังเมืองจังหวัดสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มรายได้คนท้องถิ่น

นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.พังงา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่า เป้าหมายการทำงานในพื้นที่หลังที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตนจะสานต่อนโยบายที่ทำกิน และการแก้ปัญหาเรื่องแหล่งน้ำตามนโยบายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร. ที่ให้ความสำคัญและล่าสุดได้ลงพื้นที่มายังอำเภอกะปง จังหวัดพังงาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำในพื้นที่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจในจังหวัดตามที่ท้องถิ่นนำเสนอ

“ผมจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามเพื่อการสนับสนุนและผลักดันในการสร้างอ่างเก็บน้ำโดยเฉพาะ ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล บางทอง, ลำภี ,โคกเคียน ที่ได้เริ่มดำเนินการสำรวจเพื่อออกแบบและประมาณการความเป็นไปได้ ในการที่จะก่อสร้างเพื่อสนับสนุนให้ภาคเกษตรและประชาชนมีแหล่งน้ำใช้ที่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น”นายฉกาจกล่าว
นอกจากนี้ยังจะมีการยกระดับจังหวัดพังงา ให้เป็นแหล่งรองรับนักท่องเที่ยว ภายใต้การขับเคลื่อนแบบคลัสเตอร์ที่ควรจะมีการเชื่อมโยงกับจังหวังต่างๆ ในฝั่งทะเลอันดามัน ที่สามารถพัฒนาจากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์ เกิดการสร้างรายได้ให้กับชาวพังงามากยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบัน

“ต้องมีการเสนอการปรับปรุงผังเมืองใหม่ จ.พังงา เพราะปัจจุบันเป็นพื้นที่สีเขียว ทำให้ไม่สามารถพัฒนาได้เท่าที่ควร ซึ่งเรื่องนี้ ต้องอาศัยการเข้าไปทำหน้าที่ผลักดันในสภาฯ ผ่านการขับเคลื่อนของพรรค ทั้งนี้พรรคพลังประชารัฐจะมีการแบ่งงาน และหน้าที่ความรับผิดชอบภายหลังสภาฯเปิด เพื่อจะได้เดินหน้าในการเข้าไปเป็นปากเสียงให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่”นายฉกาจ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 มิถุนายน 2566

“นเรศ ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่” ฝ่าศึกเลือกตั้ง ปชช.เทเสียงหนุน เชื่อมั่นในผลงาน ลุยสานต่อโครงการสร้างแหล่งน้ำผลักดัน พ.ร.บ.ลำไยแก้ปัญหาราคาตกต่ำ

,

“นเรศ ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่” ฝ่าศึกเลือกตั้ง ปชช.เทเสียงหนุน เชื่อมั่นในผลงาน ลุยสานต่อโครงการสร้างแหล่งน้ำผลักดัน พ.ร.บ.ลำไยแก้ปัญหาราคาตกต่ำ

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 9 จ. เชียงใหม่ กล่าวว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาตนได้รับคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน จนสามารถเป็นหนึ่งในว่าที่ ส.ส. พปชร. อีก 1 สมัย จาก 10 เขตในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งเป็นผลมาจากทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในหลายแห่งที่เป็นนโยบายของพรรค โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มุ่งการแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่ จนสามารถมีโครงการแหล่งกักเก็บน้ำให้ประชาชนได้มีน้ำกิน น้ำใช้ เพื่ออุปโภค บริโภคตลอดปีรวมถึงภาคการเกษตร และยังมีโครงการต่อเนื่องที่ต้องสานต่อ อาทิ อ่างเก็บน้ำโป่งจ้อ อ่างเก็บน้ำแม่วาง และโครงการทำน้ำประปา เพื่อประชาชน การจัดหาแหล่งน้ำบาดาล ในโครงการเกษตรแปลงใหญ่ พร้อมกับติดตามความคืบหน้าการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ปอน ซึ่งจะเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่เข้ามาแก้ไขปัญหา เพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนให้กับประชาชนในพื้นที่

นายนเรศ กล่าวต่อว่า เรายังมีแผนที่ต้องเร่งผลักดันในระยะต่อไป ในเรื่องการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะปัญหาราคาลำไย ที่ต้องเผชิญกับราคาตกต่ำในแต่ละปี จำเป็นต้องมีการผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.ลำไย เพื่อมาดูแลราคาผลผลิตให้ได้รับความเป็นธรรม เช่นเดียวกับสินค้าเกษตรหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นยางพารา มันสำปะหลัง และอ้อย ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการหารือในพรรค ว่าจะวางแนวทางให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมเพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ให้สามารถ ออก พ.ร.บ.เพื่อแก้ปัญหาราคาลำไย ของเกษตรกร 8 จังหวัดของภาคเหนือ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ในฐานะเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหรกรณ์ ได้เข้าร่วมพิจารณาแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำซึ่งเป็นความเดือดร้อนที่เกษตรกรได้รับมาอย่างต่อเนื่อง

“การที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน เนื่องจาก การทำงานที่เห็นผลงานเป็นรูปธรรม และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ทั้ง การหาแหล่งน้ำ แก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญของการประกอบอาชีพ ของพี่น้องชาวภาคเหนือ ทำให้ผมสามารถฝ่าฟัน สนามการแข่งขันเลือกตั้งใน พื้นที่จ.เชียงใหม่ ที่มีความรุนแรงและเข้มข้นของ สองพรรคใหญ่ จนได้รับชัยชนะ และต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เชื่อมั่นในการทำงานของตนและพปชร. จากนี้ไป ยังคงมุ่งมั่น พร้อมทำงานอย่างหนัก เพราะบางพื้นที่ยังต้องได้รับการแก้ไข และเยียวยา เพื่อเข้าไปยกระดับคุณภาพชีวิต ของพี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้น” นายนเรศ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 พฤษภาคม 2566

ผู้กองธรรมนัส ควงว่าที่ ส.ส. เขต 2 พะเยา ‘น้องออม อนุรัตน์ ตันบรรจง’ ร่วมประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง ประจำปี 2566 ‘รวมพลคนอิสานล้านนา สืบสานตำนานบุญบั้งไฟตำบลอ่างทอง’

,

ผู้กองธรรมนัส ควงว่าที่ ส.ส. เขต 2 พะเยา ‘น้องออม อนุรัตน์ ตันบรรจง’ ร่วมประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง ประจำปี 2566 ‘รวมพลคนอิสานล้านนา สืบสานตำนานบุญบั้งไฟตำบลอ่างทอง’

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)เขต1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานพิธีเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง ประจำปี 2566 ‘รวมพลคนอิสานล้านนา สืบสานตำนานบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง’ ณ บ้านปางมดแดง ตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา โดยมีนางสาวธนพร ศรีวิราช ภริยา และนายอนุรัตน์ ตันบรรจง ว่าที่ ส.ส.เขต จังหวัดพะเยา ไปร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ตำบลอ่างทอง และหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ยินดีที่ได้มาร่วมประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง เพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของพ่อแม่พี่น้องชาวอีสาน ในพื้นที่ตำบลปางมดแดง ที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาจากหลายจังหวัดของภาคอีสานทั้ง กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ และมหาสารคาม เป็นเวลานาน และเมื่อมีพ่อแม่พี่น้องชาวอิสานเข้ามาอาศัยเป็นจำนวนมาก ขยายเป็นหลายหมู่บ้านของตำบลอ่างทอง ต่างก็ร่วมกันสานต่อประเพณีบุญบั้งไฟอันดีงามนี้มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตนเองพร้อมสนับสนุนให้มีการจัดประเพณีบุญบั้งไฟ ตำบลอ่างทอง สู่รุ่นลูกหลานในอนาคตสืบไป

สำหรับงานประเพณีบุญบั้งไฟบ้านปางมดแดง ตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา จัดโดยองค์การบริหารส่วนตำบลอ่างทอง ระหว่างวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2566 ภายในงานมีทั้งการประกวดขบวนแห่บั้งไฟ และขบวนเซิ้งแต่ละชุมชน การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน เซิ้งและโปงลาง หมอลำ และยังมีการจุดบั้งไฟ เพื่อบูชาพญาแถน (ขอฝน) ณ อ่างเก็บน้ำสาธารณะ (หนองสลาบ) บ้านปางมดแดง หมู่ที่ 4 ตำนลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ อีกด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤษภาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการจ.กำแพงเพชร ติดตามเรื่องน้ำ-ที่ดิน “วราเทพ”นำ4 ว่าที่ ส.ส. ร่วมต้อนรับ

,

“พล.อ.ประวิตร” เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการจ.กำแพงเพชร ติดตามเรื่องน้ำ-ที่ดิน “วราเทพ”นำ4 ว่าที่ ส.ส. ร่วมต้อนรับ

วันที่ 29 พ.ค. พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ จ. กำแพงเพชร เพื่อตรวจราชการโดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมคณะเพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำที่แก้มลิงหนองดงขวัญ ต.หนองปลิง อ.เมือง พร้อมกับมอบนโยบายและพบปะประชาชน

ทั้งนี้มีกำหนดการที่จะเดินทางไปยังโรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคม ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย เพื่อร่วมพิธีมอบสมุดประจำตัวจัดสรรที่ทำกินพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเขียว ป่าเขาสว่าง และป่าคลองห้วยทราย ให้ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ในลักษณะแปลงรวมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมกับมอบนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างมีอาชีพที่มั่นคงลดปัญหาการบุกรุกป่า

อย่างไรก็ตามพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ถือเป็นจังหวัดแรกที่พล.อ.ประวิตร กลับมาลงพื้นที่หลังการเลือกตั้ง และพรรคพลังประชารัฐได้รับคะแนนเสียงยกจังหวัด โดยมีนายวราเทพ รัตนากร ในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าทีมเลือกตั้งจ.กำแพงเพชร นำว่าที่ส.ส. กำแพงเพชร ร่วมต้อนรับ โดย 4 ว่าที่ส.ส.กำแพงเพชร ประกอบด้วย นายไผ่ ลิกค์ นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ นายอนันต์ ผลอำนวย และนายปริญญา ฤกษ์หร่าย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤษภาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” จูงใจพลเรือนและเอกชน เข้าร่วมพัฒนากองทัพ ใช้กลไกระบบกำลังสำรอง ดึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาศักยภาพ

,

“พล.อ.ประวิตร” จูงใจพลเรือนและเอกชน เข้าร่วมพัฒนากองทัพ ใช้กลไกระบบกำลังสำรอง ดึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาศักยภาพ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำลังพลสำรอง ผ่านระบบ เพื่อขับเคลื่อนกิจการกำลังพลสำรอง ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองของ กห.ปี 66 -70 รองรับการปฏิรูปกองทัพสมัยใหม่ ทั้งนี้ที่ประชุมรับทราบ การเปิดให้ผู้มีความรู้ ความชำนาญเฉพาะทาง สามารถเป็นกำลังพลสำรองครั้งแรกได้โดยไม่กำหนดอายุ รวมทั้งการกำหนดแต่งตั้ง เลื่อนยศกำลังสำรองได้ถึงยศ พันเอกหรือเทียบเท่า และการกำหนดสิทธิประโยชน์ของกำลังพลสำรอง จากอันตรายหรือเจ็บป่วย พร้อมทั้งรับทราบยุทธศาสตร์พัฒนาระบบกำลังสำรอง ที่เน้นการควบคุม บริหารจัดการด้านนโยบาย การพัฒนากิจการ การเสริมสร้างเครือข่าย การปรับปรุงกฎหมาย การพัฒนาสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ รวมทั้งการพัฒนาและปรับปรุงระบบฐานข้อมูลทรัพยากรด้านกำลังสำรองและกำลังพลสำรอง

ทั้งนี้ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาและเห็นชอบหลักการ รวม 3 ประเด็น คือ การปรับปรุงตำแหน่งและอัตราของหน่วยทหารรองรับการบรรจุกำลังพลสำรอง การบรรจุบุคคลพลเรือนและภาคเอกชน ที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะทาง และบรรจุกำลังพลสำรองให้มีชั้นยศที่เหมาะสม และการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลกำลังพลสำรองกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อการบริหารจัดการกำลังพลสำรองอย่างมีประสิทธิภาพ

พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ระบบกำลังสำรอง จะช่วยเสริมและพัฒนาศักยภาพกองทัพ จากบุคคลพลเรือนภายนอกกองทัพเป็นการชั่วคราวและเท่าที่จำเป็น จึงขอให้ กห.ได้ประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง หารือและขอความเห็นชอบในประเด็นที่อาจไม่สอดคล้องและขัดกันในข้อกฎหมาย ทั้งนี้ ขอให้กำหนดภารกิจและตำแหน่งเฉพาะที่จำเป็น พร้อมทั้งให้ติดตามประเมินผลการใช้ตำแหน่งและอัตราที่กำหนด เพื่อช่วยเสริมศักยภาพกองทัพและใช้ประโยชน์จากระบบกำลังสำรองอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤษภาคม 2566

“สัมพันธ์ – อามินทร์” คว้าที่นั่งส.ส.เดินหน้าแก้ปัญหาปากท้องจ.นราธิวาส กระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจพื้นที่ดึงคนมาเลย์เข้าไทยกระจายรายได้ ปชช.

,

“สัมพันธ์ – อามินทร์” คว้าที่นั่งส.ส.เดินหน้าแก้ปัญหาปากท้องจ.นราธิวาส กระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจพื้นที่ดึงคนมาเลย์เข้าไทยกระจายรายได้ ปชช.

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา ในจังหวัดนราธิวาส ตนและ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ เขต 2 ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง โดยตนได้รับการแต่งตั้งเป็นสมัยที่ 2 ถือเป็นความไว้วางใจที่ ประชาชนในพื้นที่ได้มอบให้ และพร้อมทำหน้าที่ต่อเนื่อง นอกจากเรื่องการสร้างสันติสุขในพื้นที่ ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน ทำให้สามารถพัฒนาการเติบโตทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ที่ต้องการสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับประชาชน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับคืนมา เพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชน โดยการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียมาสู่จังหวัดนราธิวาสมากยิ่งขึ้น ที่อาศัยความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ

“ส่วนเรื่องการกินดีอยู่ดีที่มั่นคง ยังเป็นปัญหาที่ต้องเร่งเข้าไป ส่งเสริมอาชีพทางการเกษตร ที่ปัจจุบันเกษตรกร มีการละทิ้งไร่นา จนเป็นนาล้าง ไม่มีการเพาะปลูก จึงจะวางแผนเร่งส่งเสริม ประสานหน่วยราชการ ให้มาสนับสนุน โดยการมอบเมล็ดพันธ์ข้าว เพื่อให้ที่นากลับมาเป็นที่ทำกินได้อีกครั้ง เชื่อมั่นว่า จะทำให้ประชาชน มีอาชีพ และมีรายได้มั่นคงมากขึ้น”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 พฤษภาคม 2566

ว่าที่ ส.ส.อรรถกร ขอบคุณเสียง ปชช.เขต 2 ฉะเชิงเทรา เร่ง ทำงานสางปัญหาราคากุ้งช่วยเกษตรกรรายย่อยทันที

,

ว่าที่ ส.ส.อรรถกร ขอบคุณเสียง ปชช.เขต 2 ฉะเชิงเทรา เร่ง ทำงานสางปัญหาราคากุ้งช่วยเกษตรกรรายย่อยทันที

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ฉะเชิงเทรา เขต 2 หนึ่งในว่าที่ส.ส.พปชร. ที่ชนะการเลือกตั้งเป็นผู้แทนของชาวฉะเชิงเทรา และเป็นหนึ่งในผู้สมัครที่สามารถฝ่าการแข่งขันสูงในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ตนขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความเชื่อมั่นให้ได้ทำงานต่อเนื่อง ตนพร้อมทำงานทันที เพราะยังมีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง ซึ่งประสบปัญหาราคากุ้งไม่สอดคล้องกับต้นทุนการเพาะเลี้ยง ทั้งค่าอาหารและปูนในการเพาะเลี้ยงปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรประสบปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เข้าร่วมประชุมหารือ กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อวางแนวทางร่วมกัน ในการยกระดับราคากลางให้สูงขึ้น คุ้มค่ากับการลงทุนในการเพาะเลี้ยง ควบคู่กับการหาช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับเกษตรกรรายย่อยในระยะต่อไป เพื่อให้ได้ราคากุ้งที่เหมาะสมกับต้นทุน

“พื้นที่ฉะเชิงเทรา เป็นแหล่งผลิตกุ้งเลี้ยง อีกแห่งหนึ่ง ถือเป็นเศรษฐกิจพื้นฐานของจังหวัด ต้องได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาระยะยาว ให้เกษตรกรอยู่รอดได้”นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า เราต้องเร่งสานต่อนโยบายการแก้ปัญหาเรื่องน้ำในจังหวัด ทั้งการแก้ไขปัญหาน้ำเค็ม การจัดหาแหล่งน้ำจืด และลดปัญหาน้ำกร่อย พร้อมกับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้น้ำสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เพราะพื้นที่ฉะเชิงเทรา มีความหลากหลายทางอาชีพ นอกจากเกษตรกรรม ยังเป็นแหล่งเพาะพันธ์สัตว์น้ำ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมด้วย ทำให้ความต้องการใช้น้ำมีการปริมาณเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 พฤษภาคม 2566

“สุธรรม” พร้อมรับหน้าที่ ส.ส.หน้าใหม่เมืองคอน เร่งทำงานพื้นที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

,

“สุธรรม” พร้อมรับหน้าที่ ส.ส.หน้าใหม่เมืองคอน เร่งทำงานพื้นที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

นายสุธรรม จริตงาม ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ. นครศรีธรรมราช เขต 6 เปิดเผยว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้เสียงสนับสนุนในการได้รับเลือกตั้งในพื้นที่เขต 6 ซึ่งตนได้ทำงานกับประชาชนมาอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีทีผ่านมา ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น ทั้งนโยบายของพรรค และการเข้าถึงพื้นที่ของตนเอง จนสามารถรับรู้ปัญหาของพี่น้องประชาชน ซึ่งได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ว่าที่ ส.ส.หน้าใหม่ของจังหวัด โดยตนจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี โดยมีเป้าหมายทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดีขึ้น

“ตำแหน่งที่ผมได้รับมอบหมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ผมพร้อมจะทำงานอย่างเต็มที่ และเต็มกำลัง เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม หรือเกิดการเปลี่ยนแปลง ภายใน 6 เดือน ถึง 1 ปีให้เป็นผลสำเร็จ”นายสุธรรม กล่าว

นายสุธรรม กล่าวต่อว่า ปัญหาส่วนใหญ่ของประชาชนในพื้นที่มีความหลากหลาย ทั้งเรื่องปากท้อง ค่าครองชีพ ราคาสินค้าเกษตร ที่ได้รับผลกระทบในภาพรวม จำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบางเรื่องจะเป็นเรื่องที่ยาก และเกี่ยวข้องหลายภาคส่วน ในฐานะ ส.ส.ตนจะทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงและประสานงานให้ดีที่สุดเพื่อให้พี่น้องได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤษภาคม 2566