โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวประชาสัมพันธ์

“ตรีนุช” เพิ่มโอกาสเด็กถิ่นทุรกันดารเรียนอุดมศึกษาสายสุขภาพ

,

“ตรีนุช” เพิ่มโอกาสเด็กถิ่นทุรกันดารเรียนอุดมศึกษาสายสุขภาพ

“ตรีนุช” หนุน “สบช. สัญจร” จับมือสถาบันพระบรมราชชนก ทำ MOU กับ โรงเรียนเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษา เขตพื้นที่สุขภาพที่ 6 เพิ่มโอกาสเด็กถิ่นทุรกันดารได้เรียนต่อสายสุขภาพ ในระดับอุดมศึกษา

วันนี้ 13 ธ.ค. ที่หอประชุมอาคารบุญเล็ก โรงเรียนสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว มีพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ( MOU) ระหว่างสถาบันพระบรมราชชนกกับโรงเรียนเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษา เขตพื้นที่สุขภาพที่ 6 โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธี นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ศ. (พิเศษ) ดร.นพ. วิชัย เทียนถาวร อธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก และ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตพื้นที่สุขภาพที่ 6 ร่วมพิธี

นางสาวตรีนุช เทียนทอง กล่าวตอนหนึ่งว่า การลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างสถาบันพระบรมราชชนก กับโรงเรียนเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษา เขตพื้นที่สุขภาพที่ 6 ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว ในวันนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมผ่านมา ตนและนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษา และพัฒนาสุขภาพของผู้เรียนทุกช่วงวัย ซึ่งหนึ่งในโครงการภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว คือ โครงการสถาบันพระบรมราชชนกสัญจร “สบช. สัญจร” ซึ่งเป็นโครงการที่สถาบันพระบรมราชชนก ได้มีส่วนช่วยกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนในท้องที่ห่างไกลทุรกันดาร ได้เข้าถึงการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพเพิ่มมากขึ้น

“ ดิฉันยินดีที่ได้มาเป็นประธานในวันนี้ และขอชื่นชมทุกฝ่ายที่จะร่วมมือกันมอบโอกาสที่ดี ให้แก่นักเรียนในโรงเรียนเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษา เขตพื้นที่สุขภาพที่ 6 ทั้งนี้ ต้องขอชื่นชมสถาบันพระบรมราชชนก โดยอธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก ที่มีแนวคิดในการจัดทำโครงการ สบช.สัญจร ในการส่งมอบโอกาสดี ๆ ให้แก่นักเรียนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาบุคลากรของชาติให้มีโอกาสได้รับการศึกษา มีความรู้ทางสุขภาพที่ครอบคลุม เพื่อดูแลตนเอง ครอบครัว สังคม และเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไปในอนาคต” รมว.ศธ.กล่าว

ทั้งนี้ โครงการ สบช.สัญจร มีวัตถุประสงค์ในการสร้างความร่วมมือทางวิชาการและสร้างเครือข่ายทางการศึกษาระหว่างสถาบันกับสถานศึกษาต่าง ๆ ในทุกเขตสุขภาพ เพื่อการกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนในท้องถิ่นที่ห่างไกล ท้องถิ่นทุรกันดารได้เข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษาในสาขาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ที่สถาบันพระบรมราชชนก โดยในปีการศึกษา 2565 นี้ สถาบันฯได้จัดสรรที่นั่งให้แก่นักเรียนได้เข้าศึกษาในคณะพยาบาลศาสตร์ จำนวน 4 คน และคณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ จำนวน 1 คนต่อโรงเรียน มีเป้าหมายครอบคลุมโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย 900 โรงเรียน

นอกจากนี้ นางสาวตรีนุช ยังได้ร่วมประชุมปฏิบัติการขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยมอบนโยบายให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) และ ผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดสระแก้วในการติดตามประเด็นต่าง ๆ อาทิ โครงการโรงเรียนคุณภาพ ห้องเรียนคุณภาพ บ้านพักครู ความปลอดภัยในสถานศึกษา ปัญหาเด็กตกหล่น และกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning รวมถึงการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ ว่า คุณภาพการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตนตั้งใจยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้น และตนทราบดีว่า ผู้บริหาร และครู ตั้งใจทำงาน แต่การทำงานก็อาจจะมีช่องโหว่หรือรูรั่วเกิดขึ้น ดังนั้น หากมีปัญหาก็ให้แจ้งมาที่กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งตนพร้อมที่จะช่วยสนับสนุนและร่วมอุดรูรั่วนั้นๆ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 13 ธันวาคม 2564

“ส.ส. กรณิศ” เร่งกปน. ติดตั้งป้ายขุดถนนวางท่อส่งน้ำเขตวัฒนา ลดอุบัติเหตุท้องถนน

,

“ส.ส. กรณิศ” เร่งกปน. ติดตั้งป้ายขุดถนนวางท่อส่งน้ำเขตวัฒนา อำนวยความสะดวกประชาชนสัญจรลดอุบัติเหตุท้องถนน

นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส. กรุงเทพฯ เขตคลองเตย-วัฒนา พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณี ความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตวัฒนา ที่ประสบปัญหาจากงานวางท่อประปาของการประปานครหลวง ที่ไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ถึงกระบวนงานการดำเนินงานของการประปานครหลวง รวมถึงไม่ได้รับความไม่สะดวกในการสัญจรเนื่องจากมีการเปิดผิวถนนและฝังกลบไม่เป็นไปตามสภาพเดิม โดยมีสภาพผิวถนนขรุขระไม่เรียบ เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับผู้ที่สัญจรโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ จึงขอฝากประธานสภาฯ ไปยังการประปานครหลวง (กปน.) ช่วยเร่งประชาสัมพันธ์โครงการพร้อมติดตั้งป้ายกำหนดระยะเวลาการทำงานให้ชัดเจน และทำการปรับผิวจราจรให้คงสภาพเดิมเหมือนก่อนขุด เพื่ออำนวยความสะดวกและไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากการสัญจรใน
พื้นที่ดำกล่าว

#กรณิศงามสุคนธ์รัตนา
#สสกรุงเทพฯ
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 11 ธันวาคม 2564

ส.ส. สัมฤทธิ์ เสนอพาณิชย์เร่งเบิกจ่ายผู้ปลูกมัน เยียวยาเกษตรกรกลุ่มตกหล่น

,

ส.ส. สัมฤทธิ์ เสนอพาณิชย์เร่งเบิกจ่ายผู้ปลูกมัน
เยียวยาเกษตรกรหลังพบกลุ่มเกษตรกรตกหล่น

นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส. ชัยภูมิ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีความเดือดร้อนจากเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชย เนื่องจากแจ้งทำการเพาะปลูกก่อนวันที่ 1 เม.ย. 2563 ซึ่งมีจำนวน 169,000 ครัวเรือน โดยที่ผ่านมาได้เข้าชี้แจ้งข้อมูลต่างๆ ต่อที่ประชุมกับคณะกรรมการทุกภาคส่วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการอีกหลายขั้นตอนจากคณะกรรมการต่างๆ รวมถึงที่ประชุมครม. จึงขอฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเร่งรัดให้หน่วยงานทุกฝ่ายดำเนินงานและอนุมัติวงเงิน เพื่อเยียวยาและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกลุ่มตกหล่นดังกล่าว เพราะเกษตรกรเหล่านี้รอเงินจำนวนนี้มานานเกือบปีแล้ว

#สัมฤทธิ์แทนทรัพย์
#สสชัยภูมิ
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 10 ธันวาคม 2564

“พัชรินทร์” ยินดี สสส. รับรางวัล “เนลสัน แมนเดลา” จาก WHO ปี 2564

,

“พัชรินทร์” ยินดี สสส. รับรางวัล “เนลสัน แมนเดลา” จาก WHO ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ปี 64 ชื่นชมมีมาตรการเชิงรุก แนะเพิ่มตัวชี้วัดประเด็นความรุนแรง-ล่วงละเมิดทางเพศ หวังต่อยอดมิติความปลอดภัย

ดร. พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ อภิปราย อภิปรายในวาระรับทราบรายงานประจำปี 2563 ของ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. โดยขอชื่นชมการทำงานของสสส. ที่มีมาตรการเชิงรุก และประสานงานกับภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานนั้นเกิดประสิทธิผล แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การดำเนินงานต่างๆ นั้นยากขึ้น พร้อมแสดงความยินดีกับสสส. ที่ได้รับรางวัล “เนลสัน แมนเดลา จากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ” ประจำปี 2564 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ ในการปฏิบัติภารกิจของ สสส. เพื่อสร้างเสริมสุขภาพให้สังคมไทย จนได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

ดร.พัชรินทร์ ยกตัวอย่างผลงานเด่นของ สสส. ในเรื่องการ “สร้างต้นทุนชีวิต เสริมพลังสุขภาวะ ประชากรกลุ่มเปราะบาง” โดยเฉพาะประเด็น “หยุดความรุนแรง ตัดตอนปัญหาผู้หญิงถูกล่วงละเมิด” ที่ได้พัฒนาระบบรายงานข้อมูลจุดเสี่ยงการคุกคามทางเพศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผ่านทางโปรแกรม Chat bot ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังทางออนไลน์ เป็นการกระตุ้นไม่ให้เพิกเฉยต่อความรุนแรง ซึ่งตนก็ดีใจ ที่ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมเป็นตัวกลาง ประสานกับหลายภาคส่วน เช่น กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร เป็นต้น เพื่อจะได้นำข้อมูลจุดเสี่ยงอันตรายที่ได้มานั้น ไปดำเนินการแก้ไข ให้กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัย เช่น การติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง หรือ การบำรุงรักษาเสาไฟฟ้าที่ชำรุด

เนื่องจากกว่าร้อยละ 50 ของการคุกคามทางเพศในที่สาธารณะ เกิดในพื้นที่ที่ขาดการบำรุงรักษา แสงสว่างไม่เพียงพอ และเป็นทางเปลี่ยว โดยตนหวังว่าโครงการนี้จะได้รับการพัฒนาต่อยอดขึ้นไปเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยจากการคุกคามทางเพศ และความรุนแรงทุกรูปแบบต่อผู้หญิงและคนกรุงเทพในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดิฉันให้ความสนใจและพยายามผลักดันมาโดยตลอด

นอกจากนี้ ดร.พัชรินทร์ ยังได้มีข้อเสนอแนะ

ประการแรก คือ ขอแนะนำหน่วยงานที่กำลังดำเนินโครงการที่มีความสอดคล้องกับ สสส. ที่เชื่อว่าจะสามารถประสานความร่วมมือกันได้ คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งปัจจุบันกำลังดำเนินโครงการ “Smart Safety Zone 4.0” เป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการพัฒนารูปแบบ วิธีการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก โดยใช้นวัตกรรม และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตามแนวคิดเรื่อง “เมืองอัจฉริยะ” ดังนั้นโครงการนี้จึงเป็นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเป็นตัวช่วย รวมถึงการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เพื่อที่จะป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่สาธารณะ ให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ซึ่งหากมีการประสานความร่วมมือกัน ก็จะเป็นการผนึกกำลังในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยต่อประชาชนได้อย่างก้าวกระโดด

นอกจากนี้ หลังจากที่ได้อ่านรายงานประจำปี 2563 ของ สสส. ตนยังไม่พบ เป้าหมายหรือตัวชี้วัดที่เกี่ยวกับความรุนแรง และการถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยตรง แต่จะเป็นการวัดในเชิงของครอบครัวมากกว่า ซึ่งปัญหาความรุนแรง และการถูกล่วงละเมิดทางเพศนั้น เป็นเรื่องที่กระทบต่อต้นทุนความเป็นมนุษย์อย่างมาก เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อทั้งทางด้านร่างกาย และด้านจิตใจ ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ในการเยียวยารักษาผู้เสียหาย ทั้งในทางตรงและทางอ้อม ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถที่จะรับประกันได้ว่า การเยียวยารักษานั้นจะช่วยให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ โดยจากข้อมูลในรายงานของ สสส. เอง รายงานว่า องค์การอนามัยโลก พบว่า หญิงไทย อายุระหว่าง 15-49 ปี เคยมีประสบการณ์ถูกใช้ความรุนแรง หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยคนที่ไม่ใช่คู่ครอง สูงถึงร้อยละ 44 และเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน หรือในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ อย่างเร่งด่วน ดังนั้นหากมีการตั้งเป้าหมายหรือตัวชี้วัดเกี่ยวกับความรุนแรง และการถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยตรง ก็จะช่วยให้เห็นผลการดำเนินงาน และการพัฒนาในด้านนี้อย่างชัดเจน

#พปชร
#พลังประชารัฐ
#WHO

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 10 ธันวาคม 2564

ส.ส. ภาดาท์” เสนอโยธาฯ-กฟน.ติดตั้งไฟส่องสว่าง ถ.ประดิพัทธ์ ลดปัญหาอุบัติเหตุ

,

ส.ส.ภาดาท์” เสนอโยธาฯ-กฟน.ติดตั้งไฟส่องสว่าง ถ.ประดิพัทธ์ ลดปัญหาอุบัติเหตุประชาชนผู้สัญจรบนท้องถนนในเขตพญาไท

นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตราชเทวี-พญาไท-จตุจักร พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตพญาไท บริเวณถนนประดิพัทธ์ ที่ได้รับผลกระทบจากไฟส่องสว่างที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากมีไฟส่องสว่างฝั่งถนนเลขคู่เพียงด้านเดียว แต่ฝั่งถนนเลขคี่กลับไม่มีไฟส่องสว่าง เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่สัญจรไปมา เพราะที่ผ่านมาประชาชนได้รับอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก ทั้งเดินสะดุดล้ม จักรยานยนต์เฉี่ยวชน และเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมตามมา ดั้งนั้น ขอฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และการไฟฟ้านครหลวง เร่งดำเนินการติดตั้งไฟส่องสว่างให้เพียงพอในบริเวณฝั่งถนนเลขคี่ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว

#ภาดาท์วรกานนท์
#สสกรุงเทพ
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 10 ธันวาคม 2564

ส.ส.อนุชา วอน ก.ทรัพย์ฯ – ก.สหกรณ์ฯ ลดขั้นตอนขอGAP ส่งเสริมอาชีพ

,

‘พล.อ.ประวิตร’ สั่ง กนช. เดินหน้า 9 มาตรการแก้ภัยแล้ง เพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนท้องถิ่น บริหารจัดการน้ำหนุนเกษตร

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 4/2564 โดยมีดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมโดยผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนท์ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การประชุมกนช. ในวันนี้ มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ฤดูแล้ง ปี 2564/2565 จำนวน 9 มาตรการ ได้แก่ 1.เร่งกักเก็บน้ำ 2.จัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ 3. ปฏิบัติการเติมน้ำ 4.กำหนดการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง 5.วางแผนเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง 6.เตรียมน้ำสำรองสำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำ 7.เฝ้าระวังคุณภาพน้ำ 8.ติดตามและประเมินผล เพื่อให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผน และ 9.สร้างการรับรู้สถานการณ์และแผนบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2565 เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และให้หน่วยงานดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวต่อไป

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เร่งพัฒนาโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ ส.ป.ก.จังหวัดกระบี่ เพื่อสนับสนุนพื้นที่เกษตรกรรม 3,321 ไร่ ให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ โดยให้ ส.ป.ก. และกรมพัฒนาที่ดิน เร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ และเร่งวางแผนการดำเนินการได้ทันที เมื่อได้รับงบประมาณ เนื่องจากมีประชาชนเข้าใช้ประโยชน์แล้ว รวมทั้งยังเห็นชอบ

ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้ติดตามความก้าวหน้าการได้มาซึ่งคณะกรรมการลุ่มน้ำฯ จากผู้แทนภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้การคัดเลือกมีความโปร่งใสและเป็นธรรม โดยเริ่มดำเนินการคัดเลือกกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกลุ่มน้ำในเดือนมกราคม 65 และประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกในเดือนมีนาคม 65 ซึ่งเป็นระยะเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกันกับการประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ ส่วนกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำได้ดำเนินการคัดเลือกครบถ้วนทุกลุ่มน้ำแล้ว นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) และร่างแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐและ อปท.พิจารณาจัดทำแผนปฏิบัติการฯ ให้สอดคล้องแผนแม่บทฯน้ำ 20 ปี ก่อนเสนอกนช. และครม. พิจารณาเห็นชอบต่อไป

การขับเคลื่อนการถ่ายโอนโครงการขนาดเล็กให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) โดยหน่วยงานราชการสามารถถ่ายโอนแหล่งน้ำขนาดเล็กที่ซ่อมแซมแซมแล้วให้แก่ อปท. นำไปบริหารจัดการเองได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำน้ำจากแหล่งน้ำที่ซ่อมแซมแล้วไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีพและประกอบอาชีพต่อไป

ทั้งนี้ ยังได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมมือในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และคุณภาพน้ำ โดยเฉพาะการดำเนินการตามมาตรการฤดูแล้งที่ต้องวางแผนบริหารจัดการน้ำไว้ล่วงหน้า ในส่วนแผนงาน/โครงการใดที่ยังติดขัดปัญหาและอุปสรรค ขอให้หน่วยงานเร่งดำเนินการตามระเบียบที่ถูกต้อง พร้อมจัดลำดับความสำคัญของแผนงานตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อให้การแก้ไขปัญหาด้านน้ำบรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียม ที่สำคัญยังได้สั่งการหน่วยงานเกี่ยวข้องวางแผนเตรียมความพร้อมก่อนเข้าฤดูฝนปี 2565 ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์เพื่อเสนอ กนช. พิจารณาต่อไปด้วย

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 10 ธันวาคม 2564

ส.ส.เร่งติดตามความคืบหน้ากรณีเงินชดเชย เกษรตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง

,

ผนึกพลัง ส.ส.เร่งติดตามความคืบหน้ากรณีเงินชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษรตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง

เมื่อเร็วๆนี้ ณ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นายเชิงชาย ชาลีจันทร์ ส.ส. เขต 2 จ.ชัยภูมิ พร้อมนายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส. เขต 3 จังหวัดชัยภูมิ และนาย วัฒนา ช่างเหลา ส.ส. เขต 2 จ.ขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ ร่วมกับ นายรังษี ไผ่สอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ได้ไปติดตามความคืบหน้ากรณีเงินชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษรตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ที่ยังไม่ได้รับอีกจำนวนมาก โดยมีนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น เรื่องเงื่อนเวลาการลงทะเบียนปลูก-ขุด มันสำปะหลัง ทั้งนี้ ทางกรมการค้าภายใน ได้รับเรื่องและเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาวไร่มันสำปะหลังไว้แล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการอีกไม่นานนี้

“ขอขอบพระคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ก่อนหน้านี้ ผมและคณะเคยไปยื่นเรื่องนี้ไว้ ” ส.ส.เชิงชาย กล่าว

#พร้อมเสมอเจอตัวง่าย
#พปชร
#พลังประชารัฐ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 9 ธันวาคม 2564

“ส.ส. พัชรินทร์” เสนอเพิ่มไฟส่องสว่างพื้นที่เปลี่ยวห่วงความปลอดภัยของปชช.

,

“ส.ส. พัชรินทร์” เสนอเพิ่มไฟส่องสว่างพื้นที่เปลี่ยวห่วงความปลอดภัยของปชช.
เร่งสนง.เขตปทุมวันพิจารณาปักเสาไฟฟ้าใหม่ ลดก่ออาชญากรรมแหล่งมั่วสุม

นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตปทุมวัน-บางรัก-สาทร พรรคพลังประชารัฐ หารือที่ในประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชนวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร เขตปทุมวัน บริเวณริมทางเดินคลองแสนแสบ ไปยังสำนักงานเขตปทุมวัน ช่วยพิจารณาและแก้ไข เปลี่ยนพื้นที่เสี่ยงให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย โดยขอให้เร่งติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง เพื่อลดพื้นที่จุดเสี่ยง มืดเปลี่ยว และเป็นแหล่งมั่วสุม อาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่พี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาบริเวณนั้นได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาขั้นตอนของสำนักงานเขตปทุมวัน

นอกจากนี้ ในพื้นที่ชุมชนซอยพระเจน เขตปทุมวัน พบว่าเสาไฟฟ้าโน้มเอียง จำนวน 2 ต้น ซึ่งเรื่องนี้ได้เคยหารือในสภาฯ ไปแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาใดๆ ซึ่งปัจจุบันเสาไฟฟ้าทั้งสองต้นนี้เริ่มโน้มเอียงลงมามากกว่าเดิม กลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยและสัญจรไปมาบริเวณดังกล่าว จึงอยากหารือท่านประธานสภาฯ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งพิจารณาและดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับพี่น้องประชาชนในอนาคต

#พัชรินทร์ซำศิริพงษ์
#สสกรุงเทพฯ
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 9 ธันวาคม 2564

ส.ส. ภาคภูมิ เขต 3 จ.ตาก พปชร.เสนอ ก.แรงงาน เข้มนำเข้าต่างด้าว

,

ส.ส. ภาคภูมิ เขต 3 จ.ตาก พปชร.เสนอก.แรงงาน เข้มนำเข้าต่างด้าว
สร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นหลังเป็นพื้นที่ควบคุมโควิด-19

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 นาย ภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.จังหวัดตาก เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 14 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ 3 เรื่อง คือ เรื่องแรก ฝากไปยัง กระทรวงแรงงาน การนำเข้าแรงงานที่ถูกกฎหมาย เนื่องจากจังหวัดตากอยู่ติดกับชายแดน มีการลักลอบเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละวันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการจับกุมผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองจำนวนหลาย 10 คน มาอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายของแรงงานต่างชาติลดลง จะต้องมีการดำเนินการนำเข้าแรงงานต่างชาติที่ถูกกฎหมาย โดยผ่านกระทรวงแรงงาน การกักตัว ก็จะช่วยลดปัญหาการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกันนี้เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ เข้ามาภายในประเทศด้วยเช่นกัน

เรื่องที่สองของหารือไปยัง ศบค. ในการลดอัตราภาษีของจังหวัดตาก ซึ่งปัจจุบันพื้นที่จังหวัดเป็นเขตควบคุมสูงสุดพื้นที่สีแดงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 และถึงแม้ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้จัดให้เป็นพื้นที่ที่มีการบริหารจัดการการแพร่ระบาดโควิด-19 ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถเยียวยาผลกระทบให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดตากได้ เช่นร้านอาหาร ซึ่งในตอนนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วและจะเห็นว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้นดังนั้นจึงอยากฝากไปยัง ศบค.พิจารณาจังหวัดตาก ลดลำดับพื้นที่ดังกล่าวลงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อีกครั้ง

ส่วนเรื่องสุดท้าย ตนขอฝากไปยัง กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ในเรื่อง คทช. ทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจังหวัดตาก โดยเฉพาะ กรมป่าไม้ และ กรมอุทยานแห่งชาติ ส่งเรื่องไปยังกระทรวงทรัพยากร เพื่อพิจารณาเอกสารสิทธิ์ ดังนั้นอยากให้กระทรวงทรัพยากร เร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ให้ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ ที่รอเอกสารสิทธิ์ และส่วนที่เหลือ 75% เป็นพื้นที่ป่าไม้

#พปชร
#พลังประชารัฐ
#โควิด19

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 9 ธันวาคม 2564

ส.ส. กานต์กนิษฐ์ ร้อง กทม.สำนักงานสิ่งแวดล้อม แก้ปัญหามลพิษทางกลิ่น

,

ส.ส. กานต์กนิษฐ์ ร้อง กทม.สำนักงานสิ่งแวดล้อม แก้ปัญหามลพิษทางกลิ่น
หาจุดจอดรถดูดสิ่งปฏิกูล ส่งผลกระทบปชช.ใช้บริการสถานีรถไฟฟ้าสามยอด

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส. กทม.เขต 1 พระนครป้อมปราบฯ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 14 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง)ในประเด็นที่เกี่ยวข้องการร้องขอให้กรุงเทพมหานคร สำนักงานสิ่งแวดล้อมช่วยเข้ามาดำเนินการเคลื่อนย้ายจุดจอดรถดูดสิ่งปฏิกูลที่บริเวณอู่ทางเข้าสวนรมนีนาถ ด้านประตูสามยอด ซึ่งจุดนี้ จะมีประชาชนที่มารอใช้บริการรถไฟฟ้าที่บริเวณประตูดังกล่าว และรถที่ใช้ดูดสิ่งปฏิกูลจอดพักทำให้มีกลิ่นเหม็นและมีน้ำปฏิกูล ไหล ออกมาส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่เข้าสัญจรไปยังสถานีรถไฟฟ้า

ดังนั้นจึงขอความอนุเคราะห์ไปยังกรุงเทพมหานคร สำนักงานสิ่งแวดล้อมเข้ามาดำเนินการเคลื่อนย้ายรถดูดสิ่งปฏิกูลในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ส่วนเรื่องถัดมาจะเกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชน ที่เป็นกลุ่มไม่ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งที่อยู่อาศัย ทำให้มีเสียงสะท้อนมาในการเข้าถึงการให้บริการสวัสดิการต่างๆจากกรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขต กรุงเทพฯ อย่างทั่วถึงเช่น ถังดับเพลิง ซึ่งได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าถังดับเพลิงจะสามารถติดตั้งให้เฉพาะชุมชนที่ขึ้นทะเบียนที่อยู่อาศัย รวมไปถึงการที่ไม่ได้รับสิ่งของสนับสนุนอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในช่วงที่มีการแพร่ระบาด โควิด-19 ซึ่งสิ่งของเหล่านี้มีการสนับสนุนเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นชุมชนเท่านั้น

“การหารือทั้งสองเรื่องดังกล่าวเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้สามารถเข้าถึงการสนับสนุนสิ่งของที่จำเป็นอย่างเสมอภาคในฐานะที่เป็นผู้เสียภาษี แต่ไม่ได้อาศัยอยู่ในชุมชนที่ขึ้นทะเบียนเช่นกัน” นางกานต์กนิษฐ์

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 9 ธันวาคม 2564

ส.ส.สิระ รับหนังสือจาก เลขาธิการสมาคมชาวอีสาน คลับเฮ้าส์ “TOXIC”

,

“ส.ส.สิระ”รับหนังสือจาก เลขาธิการสมาคมชาวอีสาน กรณีกลุ่มคลับเฮ้าส์ “TOXIC” ตั้งกระทู้สนทนาพฤติกรรมชาวอีสาน เตรียมนำเข้าหารือคณะกมธ.เร็วๆนี้

วันที่ 7 ธ.ค. 64 ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พปชร.ในฐานะประธานคณะ กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน รับยื่นหนังสือจาก พล.อ.ต.ณัฏฐอรรจน์ ถวิลหวัง เลขาธิการสมาคมชาวอีสาน เรื่อง กลุ่มคลับเฮ้าส์ “TOXIC” ตั้งกระทู้สนทนาพฤติกรรมชาวอีสานด้วยถ้อยคำหยาบคายเป็นการดูหมิ่น ดูแคลน และละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของชาวอีสาน

เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 64 ได้ปรากฏผู้ใช้บัญชีคลับเฮ้าส์ “TOXIC” ตั้งกระทู้สนทนากันเกี่ยวกับพฤติกรรมชาวอีสานโดยใช้ถ้อยคำดูถูก เหยียดหยาม สร้างความอับอายและเป็นที่จงเกลียดจงชังจากบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความแตกแยกและแบ่งชนชั้นในสังคมไทย ในการนี้ สมาคมชาวอีสาน พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของผู้ใช้บัญชีคลับเฮ้าส์ “TOXIC” ในการสนทนานั้น น่าจะเข้าข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สร้างความเสียหายและตื่นตระหนกต่อประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะชาวภาคอีสาน รวมทั้งเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในมาตรา 4 ที่ระบุว่า “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง”

ด้าน นายสิระ เจนจาคะ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ตนได้ติดตามกรณีดังกล่าวมาโดยตลอด และเกิดความไม่สบายใจที่มีผู้ใช้คำดูหมิ่นดูแคลนชาวอีสาน ทั้งนี้ จะนำเรื่องดังกล่าวบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของคณะ กมธ. โดยจะเชิญตำรวจไซเบอร์ ผู้แทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนจากกระทรวงวัฒนธรรม ตลอดจนกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาร่วมประชุมเพื่อให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวว่าเป็นการละเมิดสิทธิประชาชนของชาวอีสานหรือไม่ พร้อมทั้งขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการตามกฎหมายด้วย

อย่างไรก็ตาม ตนมีความเห็นว่าเราทุกคนล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน จึงไม่ควรมีการดูถูกดูแคลนกัน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา หรือภูมิลำเนาถิ่นกำเนิด พร้อมทั้งขอให้คนไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและมีความรักสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 8 ธันวาคม 2564

ส.ส. อรรถกรณ์ หารือสภาฯแก้ปัญหาชุมชนบางกระเจ็ดไฟไม่เพียงพอ

,

ส.ส. อรรถกรณ์ จ.ฉะเชิงเทรา หารือสภาฯแก้ปัญหาชุมชนบางกระเจ็ดไฟไม่เพียงพอ เร่ง กฟภ.วางระบบสายส่งครอบคลุม2หมู่บ้านลุยแก้ปัญหาค่าความเค็มน้ำในแหล่งน้ำ

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาแทนราษฎร(ส.ส.) จ.ฉะเชิงเทรา ได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้รับการร้องเรียนจากกำนัน ตำบลบางกระเจ็ด และประชาชนในพื้นที่ๆ ได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาระบบไฟฟ้าที่ให้บริการไม่ทั่วถึง เนื่องจากไม่มีการวางระบบสายส่ง ในพื้นที่ หมู่บ้านหมู่ ที่ 1 และหมู่ที่ 7 ต.บางกระเจ็ด อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา โดยขอให้กระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

ที่ผ่านมาประชาชนทั้งสองหมู่บ้านได้มีการระดมทุน เดินสายส่งไฟฟ้าเพื่อใช้ในหมู่บ้านทั้งสองแห่งด้วยตนเอง แต่แรงดันไฟฟ้าไม่เพียงพอ ต่อความต้องการใช้ของประชาชน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือนได้รับความเสียหาย จึงได้เข้าร้องเรียนต่อ กฟภ. สาขาบางคล้า เพื่อให้มีการประเมินความเป็นได้ในงบค่าใช้จ่าย การวางระบบ การเดินสายส่งไว้ รวมมูลค่า 1,021,453.95 บาท

นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงปัญหาความเค็มในพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ได้รับผลกระทบจากค่าความเค็มสูงขึ้นเร็วผิดปกติ ได้เสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมชลประทาน ในการปล่อยน้ำเพื่อลดค่าความเค็มของน้ำ และเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้ เพราะที่ผ่านมาเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงเร็วกว่าคาดการณ์ 13-15 วัน จึงทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเกษตรกร

#พปชร
#พลังประชารัฐ
#กฟภ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 8 ธันวาคม 2564