โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวประชาสัมพันธ์

 “พล.ต.ท.ปิยะ”แถลงหลังประชุม พปชร.ตั้งศูนย์ประสานข้อมูลเขตเลือกตั้ง 77 จังหวัด พร้อมตั้งโรงครัวช่วยชาวเชียงใหม่ประสบภัยน้ำท่วม มอบว่าที่ สส.เชียงใหม่ ดูแลชาวบ้าน

,

 “พล.ต.ท.ปิยะ”แถลงหลังประชุม พปชร.ตั้งศูนย์ประสานข้อมูลเขตเลือกตั้ง 77 จังหวัด พร้อมตั้งโรงครัวช่วยชาวเชียงใหม่ประสบภัยน้ำท่วม มอบว่าที่ สส.เชียงใหม่ ดูแลชาวบ้าน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 ต.ค.ที่พรรคพลังประขารัฐ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค ที่มีกรรมการบริหารและแกนนำ ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุม ว่า พล.อ.ประวิตร มีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ 18 จังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม และท่านไม่เคยทอดทิ้งพี่น้องประชาชนยามเดือดร้อน จึงได้มอบหมายให้ ว่าที่ผู้สมัคร สส.จ.เชียงใหม่ ประกอบด้วย นายพจนารถ ศรียารัณย์ ผู้เขต 1 อ.เมืองเชียงใหม่,นางศรีพรรณ เขียวทอง เขต 2 อ.สารกี 3.นายพรชัย อรรถปรียางกูร เขต 3 อ.ดอยสะเก็ด 4.นายนรพล ตันติมนตรี เขต 10 ทำหน้าที่ประสานงานในพื้นที่และออกให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง

“พรรคพลังประชารัฐจะไม่ทอดทิ้งพี่น้องประชาชนในยามลำบาก และได้ก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงานกับหน่วยงานราชการเพื่อขอรับการชดเชยและช่วยเหลือตามกฎหมาย และยังได้ตั้งโรงครัว เพื่อดูแลเรื่องอาหารน้ำดื่มของประชาชนเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น”

ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคได้เห็นชอบ เสนอให้จัดตั้งศูนย์ประสานข้อมูลเขตเลือกตั้ง 77 จังหวัด โดยมีนายภัครธรณ์ เทียนไชย รองเลขาธิการพรรค พปชร.เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ โดยมีจุดประสงค์ของการตั้งศูนย์ฯ เพื่อสนับสนุนการทำงานของ ส.ส. และกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค โดยจะหาวิธีการทำให้พรรคมีผู้สนับสนุนมากขึ้น และจะทำการจัดเก็บข้อมูลเขตเลือกตั้ง ทั้ง 77 จังหวัด เพื่อนำมาวิเคราะห์และเสนอกรรมการบริหารพรรค นำไปพัฒนาข้อมูล ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและสนับสนุนการทำงานของพรรคต่อไป
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ปิยะฯ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ  กล่าวถึงการติดตามตัว พล.อ. พิศาลฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลซึ่งเป็น สส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยลำดับที่ 27 นายกรัฐมนตรีเป็น1. หัวหน้าทุกภาคส่วนของรัฐบาล  2. หัวหน้าพรรคเพื่อไทย 3. หัวหน้าส่วนราชการ โดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการต่างประเทศ  กรณีที่ สส. พรรคเพื่อไทยถูกหมายจับและหลบหนีออกนอกประเทศ นายกรัฐมนตรีจะต้องมีมาตรการเพื่อให้ได้ถึงตัว สส. ที่ถูกจับนั้นมาเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและพิสูจน์ความผิด  หากปล่อยให้คดีขาดอายุความ  ผู้กระทำผิดก็ยังถือว่าเป็นผู้ที่กระทำผิดกฏหมาย แต่คดีขาดอายุความ ไม่สามารถนำมาฟ้องร้องดำเนินคดีได้ตาม ป.วิ อาญา มาตรา 39 (6) เท่านั้น  แต่การกระทำผิดตามกฏหมายยังคงอยู่  นายกรัฐมนตรีต้องใช้มาตรการผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ได้มาถึงตัวผู้ที่ถูก หมายจับ เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก่อนคดีจะขาดอายุความ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 ตุลาคม 2567

ทีม ศก. พรรคพลังประชารัฐ ‘’ดร. ม.ล.กรกสิวัฒน์-ดร.บุณณดา“  วิพากษ์รัฐบาล เรื่อง  การป้องกันอุบัติเหตุรถทัวร์ติดก๊าซ

,

ทีม ศก. พรรคพลังประชารัฐ ‘’ดร. ม.ล.กรกสิวัฒน์-ดร.บุณณดา“  วิพากษ์รัฐบาล เรื่อง  การป้องกันอุบัติเหตุรถทัวร์ติดก๊าซ

วันที่  8 ตุลาคม 2567  ทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย  ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรคฯ ,ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ อดีตโฆษกกระทรวงทรัพยากรฯ , นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานร่วมศูนย์นโบบายและวิชาการและอดีต รมว.กระทรวงการคลัง และ พล.ต.ท.ปิยะ  ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ  ร่วมกันแถลงข่าวตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร  วิจารณ์ปัญหารถทัวร์ติดก๊าซ

ดร.มล.กรกสิวัฒน์ ตั้งคำถามว่า  ทำไมยานยนต์ติดก๊าซ NGV ไทยจึงเกิดโศกนาฏกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ถ้าเป็นตามมาตรฐานยุโรปจะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้

“การใช้ก๊าซ NGV ทำให้ประหยัด  จึงต้องยอมรับว่า  รถทัวร์และรถบรรทุกนิยมใช้  แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า  ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ  จะพุ่งเป้าไปที่คนขับรถ  ทั้งที่ดูแล้วน่าจะเป็นปลายเหตุเสียมากกว่า  และเนื่องจากครั้งนี้ทำให้สูญเสียเด็กเล็กไปจำนวนมาก  รวมทั้งคุณครูผู้กล้าหาญ  พรรคพลังประชารัฐจึงต้องการเจาะลึกเรื่องนี้”  ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าว

ดร.มล.กรกสิวัฒน์ แจ้งว่า  ปัญหาเกิดจากภาครัฐ  ตั้งแต่ปี 2547  ที่ภาครัฐต้องการโปรโมตการขาย NGV  จึงออกกฎเกณฑ์ที่หย่อนยานและบิดเบือนเรื่องอันตราย  ดังนี้
1) มีการรณรงค์โดยหน่วยงานของรัฐด้านพลังงานว่า  ก๊าซ NGV ไม่ติดไฟง่ายปลอดภัยมากกว่าน้ำมัน  ทั้งที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุมีประกายไฟ  ก๊าซที่รั่วไหลมีแรงดันสูงจะเกิดไฟไหม้รุนแรง
2) มีการรณรงค์ว่าก๊าซ NGV เมื่อรั่วไหลจะกระจายตัวลอยขึ้นสู่อากาศไม่เป็นอันตราย เพราะไม่สะสมจนเกิดเพลิงไหม้ และปล่อยปละละเลยให้ติดตั้งถังก๊าซภายในห้องผู้โดยสาร ห้องเก็บสัมภาระโดยปราศจากเรือนกักก๊าซ (gas tight housing) เมื่อเกิดเหตุก๊าซรั่วทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตกับผู้โดยสาร
3) รัฐเน้นส่งเสริม NGV โดยอนุญาตให้ผู้ติดตั้งเลือกมาตรฐานความปลอดภัยต่ำ หรือ สูงก็ได้ เช่น เรื่องการไม่บังคับให้ต้องใช้วาร์วไฟฟ้าติดหัวถังเพื่อตัดก๊าซรั่ว  ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่จำเป็นที่จะรักษาชีวิตคนได้จำนวนมาก

“รัฐไม่ควรโยนความผิดให้เอกชนเพียงฝ่ายเดียว  เพราะต้นเหตุเกิดจากรัฐบาลตั้งแต่ปี 2547 ที่เน้นผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้ก๊าซ NGV  จนย่อหย่อนมาตรฐานความปลอดภัยลง” ดร.มล.กร กล่าว

ดร.มล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า ถึงเวลาต้องปฏิรูปมาตรฐานความปลอดภัยให้ครบวงจร  ทั้งตำแหน่งติดตั้งถังที่ควรติดบนหลังคา หรือ ท้ายรถนอกห้องโดยสาร  ต้องติดตั้งอุปกรณ์วาร์วไฟฟ้าเพื่อตัดการจ่ายก๊าซหากก๊าซรั่ว  และกระบวนการตรวจสอบประจำปีจะต้องแก้ไขเป็นการเร่งด่วนที่สุด

ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ อดีตโฆษกกระทรวงทรัพยากรฯ กล่าวไม่เห็นด้วยที่ผู้มีอำนาจจะประกาศยกเลิกทัศนศึกษา  เพราะจะเป็นการปิดกั้นการเรียนรู้โลกนอกห้องเรียน  และเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ  จึงขอเสนอแนะให้ปรับปรุงระเบียบ  ดังนี้
1. กำหนดระดับชั้นและระยะทางให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย
2. กำหนดสัดส่วนจำนวนครูผู้ดูแลที่เหมาะสม
3. ก่อนการเดินทาง  ต้องซักซ้อมแผนฉุกเฉิน  ทดสอบประตูฉุกเฉิน
4. กำหนดมาตรฐานยานพาหนะให้สูง  และมีหลักฐานการตรวจสอบจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
“เด็กเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของประเทศ  เราทุกคนมีหน้าที่ต้องหวงแหนและช่วยป้องกัน”  ดร.บุณณดา กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 ตุลาคม 2567

 “เลขาฯไพบูลย์” ยืนยัน 10 ต.ค. 7 โมงเช้าเป็นต้นไป มีเหตุที่จะนำไปสู่จุดจบพรรคแกนนำรัฐบาลล่มสลาย ชี้ เป็นเรื่องใหญ่แน่นอน

,

 “เลขาฯไพบูลย์” ยืนยัน 10 ต.ค. 7 โมงเช้าเป็นต้นไป มีเหตุที่จะนำไปสู่จุดจบพรรคแกนนำรัฐบาลล่มสลาย ชี้ เป็นเรื่องใหญ่แน่นอน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวว่า จากที่ตนได้ให้ข้อมูลในวันที่ 10 ต.ค. 2567 นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่มากของพรรคแกนนำรัฐบาล ซึ่งอาจจะถึงบทจบของพรรคนี้

“วันนี้ได้รับการยืนยันล่าสุดแล้วว่าจะเป็นวันที่ 10 ต.ค.แน่นอน ซึ่งวันนี้ 8 ต.ค.เหลือเวลาไม่ถึง 48 ชม.แล้ว ที่พรรคแกนนำรัฐบาลพรรคหนึ่งอาจจะล่มสลายได้ โดยในวันที่ 10 ต.ค.สื่อมวลชนจะได้ทราบเวลา 07.00 น.เป็นต้นไป ให้ทราบ ว่าเรื่องอะไร ที่ไหน เวลาเท่าไหร่ผมยืนยันว่า เป็นเรื่องใหญ่และอาจจะพัฒนาไปสู่บทจบของพรรคแกนนำรัฐบาล“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 ตุลาคม 2567

แถลงข่าวพรรคพลังประชารัฐ ทีม ศก. พรรคพลังประชารัฐ ‘’มล.กรกสิวัฒน์-ธีระชัย“ วิพากษ์ผลงานของรัฐบาล กระทุ้งให้เงินบาทแข็งลดราคานํ้ามัน และระวังการเขมือบบริหารกองทุนวายุภักษ์

,

แถลงข่าวพรรคพลังประชารัฐ
ทีม ศก. พรรคพลังประชารัฐ ‘’มล.กรกสิวัฒน์-ธีระชัย“ วิพากษ์ผลงานของรัฐบาล กระทุ้งให้เงินบาทแข็งลดราคานํ้ามัน และระวังการเขมือบบริหารกองทุนวายุภักษ์

วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรคฯ นาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกันแถลงข่าวตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร โดยมุ่งตรงไปยัง เรื่องเงินบาทกระทบราคานํ้ามัน และกองทุนวายุภักษ์

ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรค กล่าวว่า เรื่องเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่น่าเห็นใจต่อผู้ส่งออก เพราะแม้ว่าขายสินค้าเป็นเงินดอลล่าร์เท่าเดิมก็จริง แต่เมื่อแปลงเป็นบาทก็จะได้จำนวนน้อยลงกว่าเดิมถึง 10%

แต่เงินบาทอยู่ในตลาดเสรี การจะกำหนดให้ค่าเงินบาทแข็งหรืออ่อนคงที่ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เนื่องจากเงินบาทก็มันเหมือนสินค้าทั่วไปเมื่อมีคนต้องการมาก ราคาก็แพง หรือ เรียกว่า “บาทแข็ง” ตอนนี้ใช้เงินเพียง 33 บาท แลกเงินดอลล่าร์ได้ 1 เหรียญ ขณะที่ 3 เดือนก่อนต้องใช้เงินถึง 36 บาท จึงแลกเงินดอลล่าร์ได้ 1 เหรียญ

เงินบาทแข็งมีข้อเสีย ที่รู้กันดี คือ ส่งออกแล้วได้เงินบาทน้อยลง แต่การนำเข้าก็จ่ายเงินบาทน้อยลงเช่นกัน ข้อดีของบาทแข็ง คือ การนำเข้าสินค้าจำเป็นทั้ง นํ้ามันดิบ เพื่อกลั่นเป็นนํ้ามันเบนซินและดีเซล การนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี เพื่อผลิตไฟฟ้าก็ต้องถูกลง ดังนั้น เมื่อบาทแข็งค่าครองชีพควรถูกลง เพราะต้นทุนการผลิตสินค้าและการขนส่งถูกลง

แต่ภายใต้การบริหารงานของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ราคานํ้ามันกลับมีราคาแพงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตและการขนส่งยังคงสูง เงินเฟ้อจึงปรับตัวลงได้ยาก

เปรียบเทียบราคานํ้ามันในวันที่ 17 ธ.ค. 2564 ในช่วงที่เงินบาทและราคานํ้ามันดิบอยู่ในระดับเดียวกันกับปัจจุบัน (24 ก.ย. 2567) พบว่า ภายใต้การจัดการของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช) ราคานํ้ามันกลับแพงขึ้น 4.5-5.5 บาท (ดูตารางแนบ) ทั้งนํ้ามันเบนซิน แก๊ซโซฮอลและนํ้ามันดีเซล เพราะมีการเรียกเก็บเงินกองทุนสูงขึ้น เก็บค่าการตลาดสูงขึ้น เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น

ดังนั้น ท่านนายกฯ ต้องตระหนักว่า ท่านต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช) ซึ่งมีอำนาจในการกำหนดนโยบายยิ่งกว่ารัฐมนตรีพลังงาน จึงต้องจัดการปัญหาราคาพลังงานอย่างจริงจังและเร่งด่วน ก่อนที่ประชาชนจะตำหนิท่านว่า บริหารประเทศแบบ ปากว่าตาขยิบ

เพราะท่านเคยหาเสียงไว้ว่า ถ้าท่านเป็นรัฐบาลจะลดราคาพลังงานทันที แต่วันนี้ท่านเป็นนายกฯ แล้วกลับปล่อยปละละเลยให้ราคานํ้ามันสูงไม่สะท้อนค่าเงินบาทแข็ง ส่วนค่าไฟฟ้าก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง ทั้งที่การนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีมีราคาตํ่าลง และข่าวร้ายก็คือ ค่าไฟฟ้าอาจจะปรับขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย

ดังนั้น หากท่านแพทองธารเป็นนายกฯ ที่ดี ต้องไม่นิ่งเฉย เพราะการไม่แก้ไขปัญหาจะเหมือนการทำร้ายประเทศชาติ ประชาชน และผู้ประกอบการ

**********

นายธีระชัยเปิดเผย มีข่าวว่าอาจมี “กลุ่มทุนยักษ์ไทยดูไบ” สนใจเรื่องคาสิโน และเรื่องกองทุนวายุภักษ์

กรณีคาสิโน:- นายธีระชัยนำข่าวจากสื่อมวลชนมาถ่ายทอด เกี่ยวกับบริษัท VGI ซึ่งราคาหุ้นพุ่งขึ้นหวือหวา โดยนสพ.’ข่าวหุ้น’ ระบุสาเหตุเนื่องจาก มีข่าวว่าเป็นรายหนึ่งที่จะยื่นขอใบอนุญาตคาสิโน

สื่อรายงานว่า บริษัท VGI เดิมมีนายคีรี กาญจนพาสน์ถือหุ้นอยู่ 60% บัดนี้ยอมลดลงเหลือ 30% เพราะขายหุ้น 45% ให้แก่นักลงทุนใหม่ 4 ราย รายหนึ่งชื่อกองทุน Opus Chartered Issuance ซึ่งนสพ.’ข่าวหุ้น’ เรียกเป็น “กลุ่มทุนยักษ์ไทยดูไบ”

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกูเกิ้ลพบว่า Opus Chartered Issuance เป็นบริษัทโบรกเกอร์จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศลักเซมเบิร์กในยุโรป ให้บริการเป็นหน้าฉากเพื่อปิดบังชื่อของผู้ถือหุ้นแท้จริง มีที่อยู่ติดต่อได้ในเมือง Umm Al Quwain ซึ่งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ใกล้กับดูไบ ประชาชนจึงควรติดตามว่า โครงสร้างการถือหุ้นแบบนี้ ตั้งสมญานามเป็นไอ้โม่งดูไบ ได้หรือไม่? และเข้ามาลงทุนเพื่อวัตถุประสงค์ใด?

สื่อรายงานอีกว่า ส่วนนักลงทุนใหม่ในบริษัท VGI อีก 2 รายคือ CAI Optimum Fund VCC และ ASEAN Bounty นั้น นสพ. ‘ข่าวหุ้น’ พบว่ามีความเชื่อมโยงไปที่ บล.ฟินันซ่า ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้แก่กองทุนวายุภักษ์ด้วย
กรณีกองทุนวายุภักษ์:- นายธีระชัยนำข่าวจากสื่อมวลชนมาถ่ายทอด เหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2567 กองทุน Opus เข้ามาซื้อหุ้นใน บลจ. MFC 24.96% ซึ่งทำให้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด (ธนาคารออมสิน 24.94% และกระทรวงการคลัง 15.92%) ทั้งนี้ เนื่องจาก บลจ. MFC เป็นหนึ่งในสองผู้บริหารกองทุนวายุภักษ์ ประชาชนจึงควรติดตามว่า อาจมีไอ้โม่งเบื้องหลัง ที่ต้องการควบคุมการบริหารกองทุน ใช่หรือไม่?

นายธีระชัยอธิบายว่ากองทุนวายุภักษ์เป็นเป้าหมายที่ล่อใจ เพราะเงินที่เพิ่งระดมจากเอกชน 1.5 แสนล้านบาทนั้น กระทรวงการคลังได้ขยายขอบเขตให้ลงทุนได้แบบซูเปอร์เสี่ยง ได้ทั้งในและนอกประเทศไทย ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ ทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์

“ผมตั้งคำถาม ทำไมรัฐมนตรีคลังอนุมัติให้เสนอขายกองทุนวายุภักษ์อย่างไม่โปร่งใส ผิดวิสัยกองทุนขายประชาชนทั่วไป เพราะไม่ระบุเป้าหมายประเภทธุรกิจที่จะลงทุน แบบนี้ผู้จองซื้อจะไม่สามารถวิเคราะห์อนาคตได้เลย เพียงแค่จูงใจด้วยการประกันผลตอบแทนขั้นตํ่า และคุ้มครองเงินต้น ..

ผมจึงขอเตือนรัฐมนตรีคลัง ท่านมีหน้าที่ต้องป้องกันมิให้โครงการซึ่งเป็นของรัฐบาลไทย ตกไปเป็นเครื่องมือในการสมคบกันหาประโยชน์ส่วนตนให้แก่กลุ่มพรรคพวก” นายธีระชัยยํ้า

พร้อมทั้งเปิดเผยด้วยว่า ตนเองได้ร้องเรียนขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่า อาจมีการปฏิบัติไม่สอดคล้องกฎหมายอาญา มาตรา 147, มาตรา 152, มาตรา 157 และมาตรา 358 หรือไม่ เพราะการเอาเงินแผ่นดิน 3.5 แสนล้านบาทไปประกันผลตอบแทนและคุ้มครองเงินต้นให้แก่ผู้ลงทุนเอกชนนั้น อาจเป็นการมิชอบ

นายธีระชัยเชิญชวน ผู้ใดที่สนใจจะปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และต้องการเจาะลึกในประเด็นเทคนิค ก็ติดต่อมาขอคำอธิบายได้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 ตุลาคม 2567

“พล.อ.ประวิตร”แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียในเหตุไฟไหม้รถบัสของครู นักเรียน จ.อุทัย ชี้ เยาวชนถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติ ต้องดูแลคุณภาพชีวิตให้ดี

,

“พล.อ.ประวิตร”แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียในเหตุไฟไหม้รถบัสของครู นักเรียน จ.อุทัย ชี้ เยาวชนถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติ ต้องดูแลคุณภาพชีวิตให้ดี

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 16.00  น.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ในนามของพรรคพลังประชารัฐ ตนและสมาชิกพรรคทุกคน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี

“เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ควรที่จะเกิดขึ้น เพราะทำให้เยาวชนและบุคลากรครูสูญเสียจำนวนมาก และยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในโรงพยาบาลอีกส่วนหนึ่งด้วย โดยพรรคพลังประชารัฐขอเป็นกำลังใจกับผู้ประสบเหตุทุกคน และเราจะผลักดันให้เกิดมาตรการการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้อีก เพราะเยาวชนถือเป็นหัวใจสำคัญและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติ จึงต้องดูแลเรื่องคุณภาพชีวิตของพวกเขาด้วย”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 ตุลาคม 2567

‘เลขาฯไพบูลย์’ เผย ’พล.อ.ประวิตร‘ ทำหนังสือขอคืนเงินเดือน สส.ตั้งแต่รับตำแหน่งถึง 30 ก.ย.67 หวังเป็นตัวอย่างให้ สส.ติดภารกิจจำเป็นต้องลา ปฎิบัติตาม ยืนยัน ไม่กลัวการตรวจสอบ เตือนผู้ร้องใช้ความระมัดระวังด้วย

,

‘เลขาฯไพบูลย์’ เผย ’พล.อ.ประวิตร‘ ทำหนังสือขอคืนเงินเดือน สส.ตั้งแต่รับตำแหน่งถึง 30 ก.ย.67 หวังเป็นตัวอย่างให้ สส.ติดภารกิจจำเป็นต้องลา ปฎิบัติตาม ยืนยัน ไม่กลัวการตรวจสอบ เตือนผู้ร้องใช้ความระมัดระวังด้วย

วันนี้ (1 ต.ค. 67) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยนายภัครธรณ์ เทียนไชย และนางสาวกาญจนา จังหวะ รองเลขาธิการพรรค แถลงข่าวถึงกรณี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ  มีความประสงค์  ขอไม่รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.67 ไปจนถึงวันสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)

นอกจากนี้ยังส่งได้ส่งหนังสือแจ้งความประสงค์ ขอคืนเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของ สส.ทั้งหมดที่ได้รับ ตั้งแต่เป็นสมาชิกภาพจนถึงวันที่ 30 ก.ย.67 โดยให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งจำนวนเงินทั้งหมดให้ทราบโดยเร็วเพื่อนำส่งคืนให้ครบถ้วน

นายไพบูลย์ กล่าวว่า พลเอกประวิตรให้เหตุผลว่า การทำเช่นนี้เพื่อเป็นตัวอย่างให้ สส.ที่มีภารกิจมาก และอาจต้องลากิจกับสภาฯ บ่อย จึงอาจใช้วิธีเช่นเดียวกันนี้เพื่อประหยัดงบประมาณแผ่นดินก็จะเป็นการดี นอกจากนี้พลเอกประวิตร ยังระบุว่าภูมิใจมากในฐานะที่ได้ดำรงตำแหน่ง สส.และได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนโดยตรง จำนวน 537,625 เสียง และยืนยันว่าจะเดินทางไปสภาฯ ให้มากขึ้น และขอแจ้งให้ทราบว่าในวันที่ 3 ต.ค.นี้ พลเอกประวิตรได้ยื่นหนังสือลาล่วงหน้าไว้แล้ว เนื่องจากติดภารกิจสำคัญมาก

ส่วนกรณีที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.เพื่อไทย ยื่นร้องจริยธรรมนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนตัวตนสงสัยว่า นายพร้อมพงศ์ จบการศึกษาจากไหน มีความรู้เรื่องกฎหมายอ่อนมาก นายพร้อมพงศ์ ควรจะตระหนักว่าไม่รู้กฎหมาย อย่าไปชวนคนอื่นทำผิดกฎหมายด้วย ตนให้ทนายไปแจ้งความและได้ดำเนินคดีแล้วว่าอาจจะกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย นี่คือกรรมที่หนึ่ง และยังเหลืออีกสองกรรม “นายพร้อมพงศ์ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองถึงปี 69 ระวังดีๆ ด้วยความเป็นห่วงทางกฎหมายอาจจะถูกตัดสิทธิ์ต่อก็ได้”

“กระบวนการตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร ท่านไม่มีปัญหาอะไร สบายใจอยู่แล้ว ฝ่ายตรวจสอบก็ตรวจสอบไป พรรคได้ตรวจสอบแล้วว่าไม่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย ข้อบังคับ หรือจริยธรรม เราไม่กลัวการตรวจสอบ แต่ถ้าเป็นเพียงแค่ผู้ร้องให้ตรวจสอบก็ขอให้ใช้ความระมัดระวัง”นายไพบูลย์ กล่าว

นายไพบูลย์ ยังเปิดเผยถึงการดำเนินคดี นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ รักษาการผู้อำนวยการบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ในคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยเมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) ทนายความได้ส่งคำฟ้องที่ศาลอาญาแล้ว  เป็นคดีดำอ.2871/2567  และศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 9.00 น. ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกฟ้องคดีทั้งสามคน ตนได้ดำเนินการฟ้องที่ศาลแพ่ง ข้อหาความผิดละเมิดให้เสียหายต่อชื่อเสียงจำนวน 50 ล้านบาท ยื่นฟ้องไปที่ศาลแพ่ง ย้ำ ตนเป็นคนที่พูดอะไรต้องทำตามนั้น ทุกๆคำพูดของตน

นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับพรรคการเมืองที่นายพร้อมพงศ์เป็นสมาชิกอยู่ ว่า ไม่รู้ได้รับคำสั่งจากแกนนำพรรค  ให้มาร้องเรียนหรือไม่  

“อย่าหยุด ทำอะไรก็ทำ เพราะแหล่งข่าวบอกว่าให้จับตาดูวันที่ 10 ตุลาคม จะเกิดจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่ พรรคที่นายพร้อมพงศ์ สังกัดอยู่ อาจจะต้องกระทบรุนแรง แหล่งข่าวที่บอกมาน่าเชื่อถือ น่าจะเกิดขึ้นจริงได้ อยากให้แกนนำพรรค เตรียมรับแรงกระแทก รับมือไม่ดีอาจถึงขั้นล่มสลาย ส่วนปัญหารุนแรงคือไร ตนไม่ทราบ เขาบอกเพียงเท่านั้น ยืนยัน ไม่ใช่คำร้องเดิมๆ  ขอให้ติดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้น“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 ตุลาคม 2567

พปชร.ลงมติเลือก “พล.อ.ประวิตร” นั่งหัวหน้าพรรคนำทัพต่อ ปรับแผนใหม่ มอบรองหัวหน้ายึดโยงพื้นที่ เลขาฯคนใหม่หนุนการทำงาน มั่นใจ พรรคจะไม่แตกแยกอีก ยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ ชูทันสมัยเศรษฐกิจ เพื่อปชช.มีชีวิตทีดีขึ้น

,

พปชร.ลงมติเลือก “พล.อ.ประวิตร” นั่งหัวหน้าพรรคนำทัพต่อ ปรับแผนใหม่ มอบรองหัวหน้ายึดโยงพื้นที่ เลขาฯคนใหม่หนุนการทำงาน มั่นใจ พรรคจะไม่แตกแยกอีก ยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ ชูทันสมัยเศรษฐกิจ เพื่อปชช.มีชีวิตทีดีขึ้น

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 พรรคพลังประชารัฐ ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 2/2567 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ตัวแทนภาค และตัวแทนสาขา และสมาชิกพรรค เข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง กว่า 800 คน เพื่อร่วมกันเดินหน้าขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐมุ่งสู่การเป็นสถาบันการเมือง ด้วยอุดมการณ์ “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส ของคนไทยทั้งประเทศ”

จากนั้น เมื่อองค์ประชุมครบจำนวนตามข้อบังคับ พล.อ.ประวิตร ได้ทำหนังสือ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับของพรรค เป็นผลให้คณะกรรมการบริหารทั้งชุดปัจจุบัน หมดวาระลงทันที จากนั้น จึงเข้าสู่กระบวนการเสนอชื่อ และ เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ผลการลงคะแนนในที่ประชุม มีมติดังนี้

  • พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค
  • นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค
  • นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1
  • นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2
  • นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3
  • นายอุตตม สาวนายน รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4
  • นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  รองหัวหน้าพรรคคนที่ 5
  • นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 6
  • นายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 7
  • นายอภิชัย เตชะอุบล รองหัวหน้าพรรคคนที่ 8
  • พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรค
  • นายสมโภชน์ แพงแก้ว นายทะเบียนพรรค

ส่วนกรรมการจำนวน 12 คน ประกอบด้วย

  • นายอนันต์ ผลอำนวย  
  • นายทวี สุระบาล
  • นายสุธรรม จริตงาม
  • นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์
  • นางสาวกาญจนา จังหวะ
  • นายคอซีย์ มามุ
  • นายอัครวัฒน์ อัศวเหม
  • นายยงยุทธ สุวรรณบุตร
  • พลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย
  • นายชาญกฤช เดชวิทักษ์
  • หม่อมหลวง กรกสิวัฒน์ เกษมศรี และ
  • นายวัน อยู่บำรุง

คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง  จำนวน 5 คน ประกอบด้วย

  • นายสันติ พร้อมพัฒน์
  • นายไพบูลย์ นิติตะวัน  
  • นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
  • นางสาวตรีนุช เทียนทอง  
  • พลเอกกฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์

พล.อ.ประวิตร กล่าวในที่ประชุมว่า “ขอบคุณที่ทุกท่านที่มาร่วมประชุมในวันนี้ และเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่  จากวันนี้ไป พรรคพลังประชารัฐจะไม่มีวันแตกแยกอีกแล้ว พรรคจะดำเนินการในแนวทางใหม่โดยมอบหมายให้รองหัวหน้าพรรค ควบคุมพื้นที่ และดูแลสส. และมอบหมายให้เลขาธิการพรรคเป็นฝ่ายสนับสนุน พรรค จะยึดมั่นในสถาบัน และปกป้องไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะทำเศรษฐกิจที่ทันสมัย ให้ประชาชนมีชีวิตที่ดี และความเป็นอยู่ที่สดใส เราจะร่วมกันทำให้พรรคเข้มแข็ง เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ดีมีสุข”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 กันยายน 2567

โฆษก พปชร. ขอความเป็นธรรมให้ ‘บิ๊กป้อม’ มองข้อหาปฏิปักษ์ร่วมรัฐบาลแรงเกินไป

,

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.67 น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า  การพาดพิง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า ได้แสดงจุดยืนเป็นปฏิปักษ์ต่อการร่วมรัฐบาลนั้น ตนมองว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่รุนแรงเกินไป เนื่องจากในวันที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีวาระลงมติเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ตรงกับวันที่ พล.อ.ประวิตร มีภารกิจงานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬาโอลิมปิก ซึ่งพล.อ.ประวิตร มีฐานะเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และภารกิจดังกล่าวมีแผนดำเนินการมาล่วงหน้าก่อนวันลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว

น.ส.บุณณดา กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาฯให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร ก็ยังได้ส่งช่อดอกไม้ไปเพื่อแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธาร อีกด้วย ดังนั้น การกล่าวหาว่า พล.อ.ประวิตร เป็นปฏิปักษ์ คือ การกล่าวหาที่เกินจริง จึงต้องขอความเป็นธรรมให้กับ พล.อ.ประวิตร ด้วย อย่างเช่นเรื่อง การใส่ร้ายว่า พล.อ.ประวิตร อยู่เบื้องหลังกลุ่ม 40 สว.ที่ยื่นศาลคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ถือเป็นการใส่ร้ายแบบเลื่อนลอย ไม่มีหลักฐานเช่นกัน

“พล.อ.ประวิตร คือ ทหารของพระราชา ทำประโยชน์เพื่อชาติมาทั้งชีวิต จุดประสงค์ในการมาทำการเมืองก็คือ หวังจะทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน ดังนั้น พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งใด เพราะการทำงานการเมืองจะอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ก็สามารถช่วยพัฒนาประเทศและดูแลความเป็นอยู่ของพีน้องคนไทยได้ ดังนั้น พรรค พปชร.ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร จะทำหน้าที่ สส.ในสภา เป็นกระบอกเสียงและดูแลทุกข์สุขให้ประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชนทุกบาท“ น.ส.บุณณดา กล่าว.

ที่มา: https://www.dailynews.co.th
วันที่: 28 สิงหาคม 2567

พล.อ.ประวิตร คุมทัพโอลิมปิค ถวายพระพรในหลวง ครบ 72 พรรษา น้อมนำพรพระราชทาน สร้างขวัญกำลังใจ สู้ศึกปารีสเกมส์

,

พล.อ.ประวิตร คุมทัพโอลิมปิค ถวายพระพรในหลวง ครบ 72 พรรษา น้อมนำพรพระราชทาน สร้างขวัญกำลังใจ สู้ศึกปารีสเกมส์

เมื่อเวลา 09.30 น. 28 ก.ค.67 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เป็นประธานพิธีถวายราชสักการะ เฉลิมพระเกียรติ และถวายพระพรชัยมงคล แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา ทรงเจริญพระชนม์มายุครบ 6 รอบ 72 พรรษา พร้อมด้วยกรรมการบริหารและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนผู้แทนจากทุกสมาคมกีฬา ณ บริเวณสำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ

สำหรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่ได้เดินทางไป กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสแล้ว เพื่อเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 พล.อ.ประวิตร ได้มอบหมายให้ รองประธานคณะกรรมการฯ และเลขาธิการฯ ดำเนินการจัดพิธีถวายราชสักการะฯ ในห้วงเวลาและสถานที่ ให้เหมาะสม เช่นเดียวกัน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสร้างขวัญกำลังใจ มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท การแข่งขันให้กับทัพนักกีฬาทีมชาติไทย พร้อมขอให้น้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์ท่านในวันที่เข้าเฝ้ารับพระราชทานพร เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 มาปฏิบัติ เพื่อความเป็นสิริมงคล และประสบความสำเร็จ ในการเข้าร่วมชิงชัยการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในครั้งนี้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 กรกฎาคม 2567

“อดีต รมว.คลัง” หนุน “ปุ๋ยคนละครึ่ง” หวังลดต้นทุน เพิ่มรายได้เกษตรกร

,

“อดีต รมว.คลัง” หนุน “ปุ๋ยคนละครึ่ง” หวังลดต้นทุน เพิ่มรายได้เกษตรกร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 11 ก.ค.67 ) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กับ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง โดยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ดังกล่าว มาจาก เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่บอกว่านโยบายมีความไม่ชัดเจน และ เหมือนเป็นการโยนหินถามทาง

นอกจากนี้ นายธีระชัย ยังมองว่า โครงการดังกล่าว ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ไม่มีการล็อคสเป็กปุ๋ย เพื่อเอื้อให้กลุ่มนายทุน เพราะเปิดโอกาสให้ทุกบริษัทเข้าร่วมโครงการ โดยลงทะเบียนผ่านกรมวิชาการเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบคุณภาพปุ๋ย เป็นเรื่องของการพัฒนาคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรประเภทข้าว และ การคัดเลือกปุ๋ย อีกทางหนึ่ง จะดำเนินการโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธ.ก.ส .)

ส่วนเมื่อเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้ว จะได้รับการช่วยเหลือด้านใดบ้างนั้น นายธีระชัย กล่าวว่า  ตนในฐานะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เห็นว่านโยบายนี้ มาจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เท่าที่ตน ทราบข้อมูลมา อย่างแรก คือ ช่วยลดต้นทุนของเกษตร พอต้นทุนลดลง ขายได้ในราคาตลาด กำไรของเกษตรกร ก็จะเพิ่มขึ้น ส่วนผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าการเกษตร เราจะไม่ปรับราคาให้สูงขึ้น คงไว้ที่ตามราคาตลาด

นายธีระชัย กล่าวต่ออีกว่า นโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง จะไม่ซ้ำรอยกับ โครงการรับจำนำข้าว เพราะ โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ไม่มีการเวียนคืน ไม่มีการเก็บรักษา ไม่เหมือนกับโครงการจำนำข้าว ไม่มีความเสี่ยงในการทุจริต เพราะ ไม่เกิดการหมุนเวียนสินค้าเกษตร จึงไม่มีโอกาสเกิดการทุจริตในโครงการดังกล่าว

ตนไม่ขอพูดถึงโครงการอื่นของรัฐบาล ขอพูดแค่โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ที่ตนประเมินแล้ว โครงการนี้ เป็นโครงการที่ดี โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกระทรวงที่เริ่มความคิด ซึ่งในวันที่ 15 ก.ค.นี้ จะเริ่มเปิดให้เกษตรกรลงทะเบียนผ่านทาง ธ.ก.ส. ส่วนในแง่ของการส่งออกสินค้าเกษตร ยอมรับว่า โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง คงไม่ได้ช่วยกระตุ้นในเรื่องนี้ได้มากขนาดนั้น เพราะ ในแง่ของราคาตลาดโลก หรือ ตลาดภายในประเทศ เราไปแทรกแซงไม่ได้” นายธีระชัย ระบุ

นายธีระชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อเกษตรกรเข้าร่วมโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ต้นทุนในการผลิตของเกษตรกรต่ำ ก็จะสามารถมีกำไรเพิ่มขึ้น สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ตนยืนยันได้ว่า จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา: https://www.kaohoon.com/news/685043

พัชรวาท สั่งการด่วน! วางกฎเหล็ก 3 ข้อ แก้ปมพิพาทเฉือนป่าทับลาน

,

พัชรวาท สั่งการด่วน! วางกฎเหล็ก 3 ข้อ แก้ปมพิพาทเฉือนป่าทับลาน… คือ

1. ให้พิจารณาสิทธิชาวบ้านในการถือครองที่ดินซับซ้อน ส.ป.ก.ที่ทำกิน ต้องไม่มีนายทุนนักการเมือง ถือครองเด็ดขาด พิสูจน์สิทธิให้ชัดเจน
2. ให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน ที่อยู่อาศัยมาดั้งเดิมกว่า 40 ปี เพื่อรับสิทธิที่ดินอย่างถูกต้องเป็นธรรม เพื่อจะกันพื้นที่ให้ชัดเจนลดความคัดแย้งที่มีมายาวนาน
3. พื้นที่ป่าอนุรักษ์ จะไม่อนุญาตให้แบ่งแยกออกไป เพราะต้องรักษาผืนป่าไว้ และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ

บทสรุปคือ… พื้นที่ป่าอนุรักษ์ไม่เกี่ยวข้อง ยกเว้นที่เป็นชุมชนดั้งเดิม พื้นที่จะไม่ถึงกว่า 2.6 แสนไร่…. !!

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 กรกฎาคม 2567

ไพบูลย์ ยันจุดยืน พปชร. ปกป้องสถาบัน บิ๊กป้อม ไม่เอาคดี 112 มารวมนิรโทษ

ไพบูลย์ ยันจุดยืน พปชร. ปกป้องสถาบัน บิ๊กป้อม ไม่เอาคดี 112 มารวมนิรโทษ

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงจุดยืนของพรรค พปชร.ในการพิจารณาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะรวมมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ ว่า จุดยืนของพรรค พปชร.ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค คือไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขมาตรา 112 และไม่สนับสนุนให้มีการนำมาตรา 112 มาอยู่ในการนิรโทษกรรม เพราะหลักการที่สำคัญที่สุดของพรรคและ พล.อ.ประวิตร คือ การปกป้องสถาบัน เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ที่มา: https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/kEMLlYJ?utm_source=lineshare
วันที่: 31 พฤษภาคม 2567