โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวประชาสัมพันธ์

“รมว. ตรีนุช” ยกเลิกระเบียบศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน

,

“รมว. ตรีนุช” ยกเลิกระเบียบศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีเสียงเรียกร้องให้มีการแก้ไขปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 มาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญการลงโทษเรื่องทรงผมได้ส่งผลถึงร่างกายและจิตใจของนักเรียน ศธ.จึงได้มีหนังสือหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียน ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 8) ได้ให้ความเห็นว่า รมว.ศธ.ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดอาจอาศัยอำนาจตามมาตรา 12 ประกอบกับมาตรา 39 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 กำหนดเป็นนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดนำไปปฏิบัติได้ ดังนั้น เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมาตนจึงได้ลงนามในระเบียบศธ.ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 และเสนอสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วออกเป็นหนังสือสั่งการหรือหนังสือเวียน กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนหรือนักศึกษาไว้อย่างกว้างๆ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดที่เป็นผู้กำกับดูแลสถานศึกษา กำหนดให้สถานศึกษาแต่ละแห่งนำหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวไปกำหนดเป็นระเบียบหรือข้อบังคับของสถานศึกษาแต่ละแห่งเอง

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ศธ.ได้ยกร่างแนวนโยบายเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษา ไว้ดังนี้ 1.การไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษาในสังกัด ศธ. และสถานศึกษาในกำกับดูแลของ ศธ. จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ โดยสถานศึกษาอาจกำหนดลักษณะทรงผมได้ตามพันธกิจ บริบท และความเหมาะสมของแต่ละสถานศึกษา และ 2. สถานศึกษาในสังกัด ศธ.และสถานศึกษาในกำกับดูแลของ ศธ.อาจดำเนินการกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับไว้ทรงผมของนักเรียนได้ โดยการวางระเบียบหรือข้อบังคับของสถานศึกษาและควรระบุบทอาศัยอำนาจของกฎหมายเฉพาะมาตรา 39 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 , จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามหลักการมีส่วนร่วม เช่น นักเรียน คณะกรรมการสภานักเรียน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง หรือ ผู้แทนผู้ปกครอง ชุมชนท้องถิ่น บุคคลหรือกลุ่มบุคคลอื่นใดที่หัวหน้าสถานศึกษาเห็นสมควร เป็นต้น และเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา หรือ คณะกรรมการบริหารโรงเรียนแล้วแต่กรณี ก่อนการประกาศใช้ และควรเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนไว้ในระบบสารสนเทศ หรือบริเวณของสถานศึกษา และดำเนินการแจ้งให้นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสถานศึกษาทราบเป็นการทั่วไป เพื่อให้การปฏิบัติตนของนักเรียนมีความถูกต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดความชัดเจนในการดำเนินการของสถานศึกษา

“ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีข้อต้องปฏิบัติตนเกี่ยวกับการไว้ทรงผม ว่า นักเรียนชายจะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวด้านข้าง ด้านหลังต้องยาว ไม่เลยตีนผม ด้านหน้าและกลางศีรษะให้เป็นไปตามความเหมาะสมและมีความเรียบร้อย นักเรียนหญิงจะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวให้เป็นไปตามความเหมาะสมและรวบให้เรียบร้อย และมีข้อต้องห้ามปฏิบัติตน ดังนี้ ดัดผม ย้อมสีผมให้ผิดไปจากเดิม ไว้หนวดหรือเครา การกระทำอื่นใดซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตัดแต่งทรงผมเป็นรูปทรงสัญลักษณ์หรือเป็นลวดลาย แต่ต่อไปหลังจากมีการประกาศยกเลิกในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เรื่องการไว้ทรงผมของนักเรียนทั้งหมดจะอยู่ที่สถานศึกษา ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ได้มาจากการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย” นางสาวตรีนุช กล่าว.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 มกราคม 2566

“ส.ส.อาญาสิทธิ์” วอนมท.เร่งรัดงบสำรองเบิกจ่ายซ่อมถนน ประชาชนเดือดร้อนหลังประสบภัยบางพื้นที่ยังไม่อนุมัติ

, ,

“ส.ส.อาญาสิทธิ์” วอนมท.เร่งรัดงบสำรองเบิกจ่ายซ่อมถนน
ประชาชนเดือดร้อนหลังประสบภัยบางพื้นที่ยังไม่อนุมัติ

นายกองตรี อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงการดำเนินโครงการตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อก่อสร้างปรับปรุงซ่อมแซมถนน หรือที่อยู่ในความรับผิดชอบ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งได้รับความเสียหายจากสาธารณภัย หรือเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะ ในพื้นที่อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอชะอวดครับ โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ใช้จ่ายเงินงบประมาณสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินดังกล่าวแล้ว เพื่อปรับปรุงถนนในพื้นที่หมู่ที่1 ตำบลควนหน่องฟ้า อำเภอบ้านต้นไทรทุ่งนา

“ตอนนี้งบประมาณดังกล่าวถูกนำมาใช้ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ แต่บางที่บางแห่งเนี่ยยังนะไม่ได้ดำเนินการใดๆ ผมจึงขอให้กระทรวงมหาดไทยได้เร่งรัดติดตามให้แล้วเสร็จโดยเร็ว”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #อาญาสิทธิ์ศรีสุวรรณ

Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 มกราคม 2566

ส.ส.ชลบุรี พปชร. วอนรัฐเร่งแก้ปัญหาคนชลบุรี จัดสรรงบลดปัญหาน้ำแล้ง-รถติด-ออกเอกสารที่ทำกิน

, ,

ส.ส.ชลบุรี พปชร. วอนรัฐเร่งแก้ปัญหาคนชลบุรี จัดสรรงบลดปัญหาน้ำแล้ง-รถติด-ออกเอกสารที่ทำกิน

นายรณเทพ อนุวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ขอให้กรมทางหลวง กระทรวมคมนาคม ได้จัดสรรงบประมาณการก่อสร้างถนนยกระดับที่ถนนทางหลวงหมายเลข 331 จังหวัดฉะเชิงเทราไปจังหวัดชลบุรี ที่กิโลเมตรที่ 87 เพื่อการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดตั้งแต่เช้าจนเย็น

นอกจากนี้ ยังขอให้กรมชลประทาน จัดสรรงบประมาณการก่อสร้างท่อส่งน้ำ จากอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทรไปยังอ่างเก็บน้ำสัตพงษ์ สระน้ำหนองบอน และสระน้ำบ้านหนองตองเขต เพื่อเป็นการแก้ปัญหาขาดน้ำในช่วงน้ำแล้ง เนื่องจากว่าอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลธรนั้นไม่มีระบบสูบน้ำ จึงอยากจะให้ทางกรมชลประทานได้จัดสรรงบประมาณที่จะสร้างเชื่อมต่อที่สูบขังที่อ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลธร

ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนในตำบลท่าบุญมี อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ไม่มีขอบเขตแน่นอน ทำให้ที่ดินข้างเคียงไม่ได้รับเอกสารสิทธิ์ที่ดิน เนื่องจากว่าไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนที่จะกล้าออกไปเดินสำรวจ ออกเอกสารสิทธิ์ ให้กับผู้ครอบครอง ทำให้ผู้ครอบครองได้รับความเสียหาย จึงขอให้กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ยกเลิกที่ดินสารณะประโยชน์ และออกเอกสารสิทธิ์ ให้กับผู้ครอบครองเพื่อทำประโยชน์ในที่ดินดังกว่าต่อไป

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #รณเทพอนุวัฒน์
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 มกราคม 2566

“ศ.ดร.นฤมล”ย้ำบัตรประชารัฐ700บ.สอดรับเงินเฟ้อ พร้อมเพิ่มสวัสดิการอื่นๆแก้ปัญหายากจนแบบยั่งยืน

,

“ศ.ดร.นฤมล”ย้ำบัตรประชารัฐ700บ.สอดรับเงินเฟ้อ
พร้อมเพิ่มสวัสดิการอื่นๆแก้ปัญหายากจนแบบยั่งยืน

“ศ.ดร.นฤมล”ย้ำ นโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท/เดือนสอดรับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงหลังฟังเสียงสะท้อนจากการลงพื้นที่ของสส. 200-300 บาทไม่เพียงพอใช้จ่าย ลั่นยังมีสวัสดิการช่วยเหลือ ปชช.อีกเพียบเดินหน้าให้เบ็ดตกปลาแทนให้ปลาแก้ไขปัญหายากจนแบบยั่งยืน แย้มเตรียมประกาศนโยบาย”ที่ดินประชารัฐ”เร็วๆ นี้

วันนี้(19 ม.ค. 66)ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐเป็น 700 บาทต่อเดือน ของพรรคพลังประชารัฐว่า ในปี 2566 จะมีประชาชนได้รับสิทธิประมาณ 18 ล้านคน คนละ 700 บาทต่อเดือน จะต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ ปีละ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวมีการคำนวนแหล่งที่มาของงบประมาณมาจากที่ใดแล้ว ในส่วนของบัตรประชารัฐที่เราได้ทำมาตั้งแต่ปี 61 ไม่ใช่มีแค่เงินรายเดือน 200 หรือ 300 บาทเท่านั้น แต่ยังมีสวัสดิการอื่น ๆ อีก อย่างเช่น ค่าแก๊สหุงต้ม ค่าเดินทาง จิปะถะ เราพยายามจัดการสิ่งเหล่านี้ให้สอดคล้อง กับความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ บางคนได้ไปก็ไม่ได้ใช้ ค่าเดินทางไม่ได้ใช้ แก๊สหุงต้มไม่ได้ใช้

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า เมือปี 2561 ตนก็เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ดูแลรับผิดชอบสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงนั้น เราอยากจะให้พี่น้องประชาชน ผู้ที่มีรายได้น้อย สามารถที่จะมีเงินประทังชีวิตต่อเดือน สิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน เขาสามารถไปซื้อ ข้าวสาร น้ำปลา อาหารแห้ง ได้ ในต่างจังหวัดอยู่ได้โดยไม่ลำบาก แต่ปัจจุบันสภาวะ ทางเศษฐกิจทั่วโลกเผชิญกับสภาวะเงินเฟ้อ ไม่ต่างกับประเทศไทย สินค้ามีราคาที่สูงขึ้นมาก ดั้งนั้นเงิน 200-300 บาทต่อเดือน ก็ไม่เพียงพอ เสียงสะท้อนก็ออกมาจากผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ที่ลงพื้นที่ไปพบปะกับประชาชนต่างก็บอกเงินไม่พอแล้ว

“พรรคพลังประชารัฐให้ความจำเป็นขั้นพื้นฐาน ต้องปรับให้สอดคล้องกับสภาวะกับทางเศรษกิจและปัจจุบัน ให้สู่กับสภาวะเงินเฟ้อได้ และจริงๆในนโยบาย ทั้งหมดไม่ใช่มี แค่ 700 บาท เรายังคงมุ่งหน้าทำการแก้ปัญหา ความยากจนอย่างยั่งยืน หมายความว่าต้องมีการฝึกอบรมให้ 700 บาทเป็นการให้ปลาไปเฉยๆ จะต้องมีการ ให้เบ็ดเขาด้วย แล้วก็สอนวิธีตกปลา”ศ.ดร.นฤมล กล่าว

สำหรับประเทศไทย ถ้าเราจะพึ่งเพียงงบประมาณอย่างเดียว ประเทศไทยก็คงจะเดิน ไปข้างหน้าได้อย่างช้า เราจึงต้องคิดออกนอกกกรอบ งบประมาณรัฐบาลด้วย ในหลาย ๆ ประเทศเขาใช้ศักยภาพตลาดทุน คือ กองทุนเพื่อสังคม ที่ระบุเลยว่า ไปช่วยกลุ่มไหนแล้วก็ระดมทุน เช่น กองทุนพัฒนาชีวิตผู้พิการ กองทุนที่จะช่วยแม่เลี้ยงเดียว กองทุนผู้ที่ติดคุกมีงานทำ กองทุนที่จะช่วยเกษตรไทย เพื่อเป็นกองทุนลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในเศรษกิจระดมทุนจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

“สิ่งที่ภาครัฐทำได้ ก็คือ การจัดโครงสร้างพื้นฐานให้เหมาะสม เช่น ถ้ามีการซื้อหน่วยลงทุนก็มาหักภาษีได้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าจะไปช่วยเกษตรกร บริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นมา ก็สามารถที่จะเข้าไปดูแลเกษตรกร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ว่าเขาปลูกพืชอะไร เขาใช้ต้นทุนเท่าไร คุณต้องไปทำอย่างไร ให้เขาลดต้นทุน สินค้าที่ได้มา ไปที่ไหน ตลาดที่เรารับคืออะไร แปรรูปแล้วราคาเท่าไร พอเป็นรูปธรรมอย่างนี้ ตัวช่วยต่อไปที่ต้องทำ คือ เชื่อมกับภาคเอกชน เพื่อที่จะหาแหล่งตลาด ทำให้เกิดรายได้กับเกษตรกร ซึ่งรายได้นี้จะต้องคืนผลตอบแทนกลับมาให้ นักลงทุนที่เป็นเจ้าของเงินที่ซื้อหน่วยลงทุน”ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ทั้งนี้ ศ.ดร.นฤมล กล่าวด้วยว่า จากนี้พรรคพลังประชารัฐจะมีการแถลงนโยบายออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งคาดว่านโยบายต่อไปที่น่าจะมีการประกาศก็คือ นโยบายที่ดินประชารัฐ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

“พล.อ.ประวิตร”เร่งหน่วยงานเยียวยาปชช.จากโครงการพัฒนาของรัฐ ระดมกลไกแก้ปัญหาลดผลกระทั้งระบบเพื่อคืนความกินดีอยู่ดีให้ปชช

,

“พล.อ.ประวิตร”เร่งหน่วยงานเยียวยาปชช.จากโครงการพัฒนาของรัฐ ระดมกลไกแก้ปัญหาลดผลกระทั้งระบบเพื่อคืนความกินดีอยู่ดีให้ปชช

เมื่อ 18 ม.ค.66 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัด ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่ประชุมได้รับทราบ ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการและคณะทำงาน การแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ตามข้อเรียกร้อง และความคืบหน้าการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้แก่ การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้ชุมชน ปัญหาที่สาธารณะประโยชน์และที่ดินเอกชนที่ปล่อยทิ้งร้าง ปัญหาที่อยู่อาศัยและสินเชื่อ ปัญหาด้านคดีความที่ดินทำกินและการบังคับคดี ปัญหาการเข้าถึงกองทุนยุติธรรมและความช่วยเหลือทางกฏหมาย ปัญหาพื้นที่สาธารณะประโยชน์ทับซ้อน รวมทั้งการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาล เป็นต้น โดย พล.อ.ประวิตร ได้กำชับผู้เกี่ยวข้อง ทุกกระทรวงให้เร่งรัด ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา อย่างต่อเนื่องและให้ได้ข้อยุติ เพื่อลดผลกระทบของพี่น้องประชาชน โดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ที่ประชุม ได้เห็นชอบตามข้อเรียกร้องของ ขปส.เร่งด่วน ที่ส่งผลกระทบเพิ่มเติมในโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงการใก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3สนามบิน และโครงการพัฒนาที่ดินย่านพหลโยธิน ซึ่งส่งผลกระทบด้านการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของโครงการที่อยู่อาศัย สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย ตามนโยบายของรัฐบาลและ เห็นชอบการเร่งรัดเยียวยาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้ผู้ได้รับผลกระทบ จาก จ.ลำปาง การจัดที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้ราษฎร จ.น่าน รวมทั้งการจัดซื้อที่ดินเยียวยาให้ราษฎร จ.อุบลราชธานี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ

พล.อ.ประวิตร ย้ำว่ารัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก ทุกปัญหาความเดือดร้อน ควบคู่การพัฒนาพื้นที่ ตามความต้องการท้องถิ่น ทั่วประเทศ โดยได้พยายามเร่งรัดให้ทุกหน่วยงาน จากทุกกระทรวง ร่วมกับภาคประชาชน และสร้างการรับรู้ควบคู่กันไป เพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้ข้อยุติโดยเร็วที่สุด และลดความเหลื่อมล้ำ โดยยืนยันจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เป็นอันขาด


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

ส.ส.อรุณ พปชร.วอน กรมชลประธานช่วยสร้างคันกั้นน้ำ บรรเทาความเสียหายจากน้ำเข้าท่วมบ้านเรือน -พื้นที่การเกษตร

,

ส.ส.อรุณ พปชร.วอน กรมชลประธานช่วยสร้างคันกั้นน้ำ บรรเทาความเสียหายจากน้ำเข้าท่วมบ้านเรือน -พื้นที่การเกษตร

ร้อยตำรวจเอกอรุณ สวัสดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 4 จังหวัดสงขลา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนได้แจ้งถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน และเกษตรกรในช่วงมรสุม ทุกๆปี ช่วงเดือนธันวาคม และมกราคม น้ำจากจังหวัดพัทลุงและนครศรีธรรมราช จะไหลลงมาที่ทะเลสาบสงขลา และก็ล้นเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่อำเภอระโนท เกษตรกรได้รับความเสียหาย กว่าสิบกว่าล้านเกือบทุกปี

“ผมขอฝากไปยังกรมชลประธานช่วยสร้างคันกั้นน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วม ระยะทาง 3 กิโลเมตรสามารถช่วยเหลือชาวบ้านเกิดพื้นที่ได้กว่า 35,000 ไร่ และจะช่วยกว่า 700 ครอบครัวไม่ได้รับความเดือดร้อน จากการน้ำเข้าท่วม”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #อรุณสวัสดี
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

ส.ส.ชลบุรี พปชร.วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาน้ำทะเลเอ่อล้นเข้าบ้านเรือน ปชช.สร้างความเสียหายต่อยานพาหนะที่สัญจรไปมา

,

ส.ส.ชลบุรี พปชร.วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาน้ำทะเลเอ่อล้นเข้าบ้านเรือน ปชช.สร้างความเสียหายต่อยานพาหนะที่สัญจรไปมา

ร้อยเอกจองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ในเขตอำเภอเมือง,พานทอง,บ้านบึง จังหวัดชลบุรี ซึ่งพบปัญหาน้ำทะเลเอ่อล้นเข้ามาในพื้นที่บ้านเรือน อยู่อาศัยและถนนที่สัญจรไปมา โดยเฉพาะเวลาน้ำทะเลขึ้น เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้ติดชายฝั่งทะเล ไม่ว่าจะเป็นตำบลคลองตำหรุ เทศบาลเมืองชลบุรี และเทศบาลเมืองบ้านสวน และเนื่องจากเป็นน้ำเค็มจากทะเล จึงส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อยานพาหนะที่สัญจรไปมา ตนขอฝากไปยังทุกหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเทศบาลอบต.และจังหวัดชลบุรี ช่วยร่วมกันหาทางออก เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคไม่เพียงพอจากการที่แหล่งน้ำตื้นเขิน และปัญหาการบริการของประปาส่วนภูมิภาคยังเข้าไม่ถึงทุกพื้นที่ทุกครัวเรือน ซึ่งไม่สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของเมืองที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมาก จึงขอให้การประปาส่วนภูมิภาคที่รับผิดชอบจังหวัดชลบุรี เร่งสำรวจพื้นที่ที่น้ำประปายังเข้าไม่ถึง และรีบทำการวางระบบน้ำที่มีคุณภาพเข้าไปโดยด่วน รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ขอให้ทำการขุดลอกแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่ตื้นเขิลอยู่เสมอ”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #จองชัยวงศ์ทรายทอง
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

ส.ส.จันทบุรี พปชร.ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการจราจรเร่งสร้างอุโมงค์ทางลอดทางแยก บริเวณเขาคิชฌกูฏ ช่วงประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท

,

ส.ส.จันทบุรี พปชร.ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการจราจรเร่งสร้างอุโมงค์ทางลอดทางแยก บริเวณเขาคิชฌกูฏ ช่วงประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท

พันตำรวจโทฐนภัทร กิตติวงศา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดจันทบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงการประชาสัมพันธ์กำหนดการขึ้นเขาคิชฌกูฏ อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ม.ค.ถึง 22 มี.ค. นี้ ซึ่งประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท เป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยให้ความเคารพนับถืออย่างมากและยังนำรายได้เข้ามาสู่จังหวัดจันทบุรีอีกหลายช่องทาง

“แต่เส้นทางที่เข้าไปพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ นั้นจราจรติดขัดมาก ตรงบริเวณสี่แยกเขาระยา จึงอยากจะเร่งรัดให้มีการสร้างอุโมงค์ทางลอดทางแยก
บริเวณถนนสุขุมวิทสี่แยกเขาระยา เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างมาก ซึ่งแยกนี้เป็นเส้นทางที่สำคัญในการที่จะมุ่งหน้าสู่จังหวัดสระแก้ว จังหวัดตราดไป สู่ต่างประเทศที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ฐนภัทรกิตติวงศา
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

“ส.ส.จองชัย” ขอ “มหาวิทยาลัยบูรพา- กยศ” เร่งจ่ายค่าของชีพจากกองทุนให้ตรงเวลา เพื่อไม่ให้นักศึกษาเดือดร้อน

,

“ส.ส.จองชัย” ขอ “มหาวิทยาลัยบูรพา- กยศ” เร่งจ่ายค่าของชีพจากกองทุนให้ตรงเวลา เพื่อไม่ให้นักศึกษาเดือดร้อน

ร้อยเอกจองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงกรณีที่มีนักศึกษาจากมหาวิลัยบูรพาจำนวนหนึ่ง ได้รับคบามเดือดร้อนมาร้องเรียนกับตน ขอให้แก้ปัญหาที่มหาวิทยาลัยจ่ายเงินค่าของชีพจากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กยศ.ล่าช้าหลายเดือนเลย แล้วไม่สามารถออกมาให้คำอธิบายที่ชัดเจนกับนักศึกษาได้ทำให้การดำรงชีพของนักศึกษาที่เดือดร้อนอยู่แล้ว เดือดร้อนขึ้นไปอีก เงินไม่พอใช้ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน เพื่อมาจ่ายค่ากิน ค่าอยู่ ค่าหนังสือ

ร้อยเอกจองชัย กล่าวต่อว่า จากการที่ได้ตรวจสอบเบื้องต้น มีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลกระทบ และคาดว่าปัญหานี้อาจจะเกิดขึ้นที่สถาบันการศึกษาอื่นๆ ด้วย จึงขอแจ้งไปยังมหาวิทยาลัยบูรพาและ กยศ.ขอให้กำกับดูแลตรวจสอบหน่วยงานย่อย หรือหน่วยงานปลายทาง เช่น สถาบันการศึกษาต่างๆ กำชับให้จ่ายค่าของชีพจากกองทุนให้ตรงเวลา หรือจ่ายโดยเร็ว เพื่อไม่เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีพของนิสิตนักศึกษาที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไปในอนาคต

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #จองชัยวงศ์ทรายทอง
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” พร้อมส่งเสริมด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม ดันออกกฎหมายสืบสานพระพุทธศาสนา ให้ยั่งยืนคู่คนไทย

,

“พล.อ.ประวิตร” พร้อมส่งเสริมด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม
ดันออกกฎหมายสืบสานพระพุทธศาสนา ให้ยั่งยืนคู่คนไทย

วันที่ 18 มกราคม2566 ณ อาคารมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้การต้อนรับคณะสำนักงานการศึกษา พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาเขต 9 โดยมีพระครูปริยัติวีราภรณ์ ประธานเขตการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาเขต 9 รักษาการผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ พร้อมคณะผู้แทนผู้บริหารโรงเรียน ผู้แทนนักวิชาการศาสนา และผู้แทนครู และคณะผู้ติดตามรวม 25 รูป /คน ได้เข้าพบ เพื่อขอบคุณ ที่ให้การสนับสนุน พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562 และหารือแนวทางการพัฒนาการศึกษาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของ พ.ร.บ.

พล.อ.ประวิตร ได้กราบนมัสการ แสดงมุทิตาจิต แด่พระครูปริยัติวีราภรณ์ พร้อมคณะ ในโอกาสนี้ ที่ได้มีส่วนร่วมรับรอง/สนับสนุนกฎหมายฉบับดังกล่าว ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นคุณูปการ แก่การจัดการศึกษาของพระสงฆ์ อย่างแท้จริง โดยจะมีอานิสงส์แก่โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา มากถึง 402 แห่งทั่วประเทศ มีจำนวนนักเรียน 31,373 รูป รวมทั้งครูและบุคลากรอีกจำนวน 4,282 รูป/คน และบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศอีก หลาย10,000 คน ที่จัดการศึกษาโดยใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 8กลุ่มสาระ ของ ก.ศึกษาธิการ ด้วย

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตรมีความยึดมั่นในพระพุทธศาสนา และมีความศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา มาอย่างยาวนานตั้งแต่เด็กจวบจนกระทั่งปัจจุบัน และมักจะไปร่วมทำบุญ สร้างกุศลตามวัดและสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ อย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งที่ท่านได้มีส่วนส่งเสริมและสนับสนุน ให้พระพุทธศาสนา สืบทอดต่อไปได้ถึง 5,000 ปี ตามพุทธทำนาย พล.อ.ประวิตร’ สนับสนุน กม.การศึกษาพระปริยัติธรรม ช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้ยั่งยืนสืบไป


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

ศ.ดร.นฤมล” เปิดบ้านพปชร. ต้อนรับ “ฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ” ร่วมขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก-ลดเหลื่อมล้ำพื้นที่ภาคใต้และทั่วประเทศ

,

ศ.ดร.นฤมล” เปิดบ้านพปชร. ต้อนรับ “ฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ”
ร่วมขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก-ลดเหลื่อมล้ำพื้นที่ภาคใต้และทั่วประเทศ

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบุคลากรสำคัญที่มีคุณภาพและศักยภาพเต็มเปี่ยมในการเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย โดยเฉพาะนโยบายหลักด้านสวัสดิการประชารัฐ เศรษฐกิจประชารัฐ และสังคมประชารัฐ ที่จะขยายผลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ รวมถึงการส่งเสริมสตรีให้มีบทบาทเท่าเทียมในสังคม โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคฯ ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นทั้งการยกระดับความเป็นอยู่และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง เป็นทายาททางการเมืองผู้สืบทอดปณิธานของดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนผู้ล่วงลับ นับเป็นผู้หญิงมุสลิมเพียงไม่กี่คนของสังคมมุสลิมที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์การทำงานทางการเมืองมาอย่างยาวนาน ด้วยบทบาททั้งงานในสภาและการทำงานร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ในฐานะอดีต ส.ส.ในระบบเขตของจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครศรีธรรมราช ฯลฯ โดยยึดการทำงานหนักเพื่อคนอื่น เพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติ เพื่อศาสนา เป็นที่ตั้ง
“ตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมาพรคคพลังประชารัฐประสบความสำเร็จในการผลักดันนโยบายทั้งบัตรสวัสดิการประชารัฐ การจัดสรรที่ดินทำกินให้พี่น้องประชาชนผู้ยากไร้ การดูแลจัดการเรื่องน้ำ การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ฯลฯ การเข้าร่วมงานของนางฮูวัยดีย๊ะ ซึ่งเป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ กอปรกับประสบการณ์การทำงานด้านการเมืองมาอย่างยาวนานจึงนับเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายตามเจตนารมย์ของหัวหน้าพรรคฯ ที่มุ่งเน้นการดูแลพี่น้องประชาชน ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทุกพื้นที่อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เนื่องจากแต่ละพื้นที่มีความต้องการที่แตกต่างกันตามบริบทการดำเนินชีวิตและวัฒนธรรม ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่ผ่านมาพบว่าประสบปัญหาและอุปสรรคด้านการทำประมงโดยเฉพาะเรือประมงขนาดเล็กที่รอการช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยพรรคฯ ได้นำข้อเสนอต่างๆ บรรจุเป็นนโยบายในการหาเสียง เพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ทางด้านนางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง กล่าวว่า ในฐานะที่ทำงานทางด้านการเมืองและลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน สิ่งแรกที่จะทำเมื่อเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐคือการสานต่อนโยบายของพรรคฯ ที่ช่วยเหลือประชาชนได้จนถึงรากหญ้า เช่น นโยบายบัตรสวัสดิการต่างๆ รวมถึงการผลักดันเรื่องเศรษฐกิจชุมชน โดยตนจะเข้าไปส่งเสริมและต่อยอดเรื่องการผลิต การจัดจำหน่าย และการตลาดให้ครบทุกมิติและครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
“นับเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเปิดโอกาสให้ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถตามเจตนารมย์ที่ยึดถือมาโดยตลอด อีกทั้งส่วนตัวมีความสนใจและมีนโยบายในการขับเคลื่อนเพื่อภาคใต้และชาวมุสลิม โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับสิทธิสตรี เด็ก และเยาวชน ผู้สูงอายุ บทบาทของสตรีมุสลิมในสังคมพหุวัฒนธรรม การส่งเสริมอาชีพในกลุ่มสตรีมุสลิม การขับเคลื่อนเรื่องการศึกษาในสถาบันศึกษาปอเนาะ พร้อมทั้งนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐต้องให้การสนับสนุน ส่งเสริม และต่อยอดเรื่องการผลิต การจัดจำหน่าย การตลาด โดยคำนึงถึงบริบทที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ อาทิ พื้นที่ภาคใต้มีความโดดเด่นด้านพหุวัฒนธรรม การประมง การเกษตร พรรคฯ จึงต้องเข้าไปกำหนดนโยบายและทิศทางอย่างชัดเจน พร้อมสนับสนุนให้เป็นต้นทุนเพื่อสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ต่อยอดเศรษฐกิจที่มาจากฐานรากอย่างแท้จริง” นางฮูวัยดีย๊ะ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

คลื่นชาวพะเยา คึกคักแห่รับ’พล.อ.ประวิตร’ จัดสรรที่ทำกินเร่งฟื้นฟูอ่างเก็บน้ำกว๊านพะเยา

,

คลื่นชาวพะเยา คึกคักแห่รับ’พล.อ.ประวิตร’
จัดสรรที่ทำกินเร่งฟื้นฟูอ่างเก็บน้ำกว๊านพะเยา

วันที่ 16 มกราคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จ. พะเยา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ รวมทั้งการแก้ปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร โดยมี ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ว่าราชการจังหวัดให้การต้อนรับ โดยพล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าพล.อ.ประวิตร และคณะเดินทางเพื่อสักการะ ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง อ.เมือง จ.พะเยา โดยมีประชาชนมาร่วมต้อนรับเป็นจำนวนมาก และได้เข้าประชุมหารือกับ จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามผลการดำเนินงาน ตามนโยบายของรัฐบาล และการบริหารจัดการน้ำ ของจังหวัด และการพัฒนา ฟื้นฟูอ่างเก็บน้ำกว๊านพะเยา

ทั้งนี้ ยังได้เป็นประธานพิธีมอบเอกสาร โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล(คทช.) และหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ให้แก่เกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งโครงการดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ มีกลุ่มเกษตรกรที่มีฐานะยากจนได้กล่าว ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ผ่านผลักดันการหาที่ทำกินให้ประชาชน เพื่อสร้างโอกาสการประกอบอาชีพ มีรายได้มั่นคง ยังชื่นชมท่านเป็นคนใจดี เป็นกันเองใกล้ชิดติดดิน ไม่ถือตัว และมีความจริงใจแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกิน/ที่อยู่อาศัย จนเป็นผลสำเร็จ ที่ผ่านมายังไม่มีใครทำได้นอกจากท่าน การแก้ภัยแล้งก็ได้ผลดี ทำให้ชาวบ้านมีน้ำใช้ตลอดปี ยอมรับท่านมีภาวะผู้นำ ทำงานได้ผลรวดเร็ว โดนใจชาวบ้านแท้จริง จึงมีความประทับใจที่อยากจะสนับสนุนให้ท่าน เป็นนายกฯคนต่อไป ในการเลือกตั้งสมัยหน้า

พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังโครงการขุดลอก”กว๊านพะเยา” อ.เมือง จ.พะเยา เพื่อตรวจติดตาม ความก้าวหน้าโครงการที่ได้เคยสั่งการไปแล้ว ทั้งนี้ได้รับรายงานจากกรมชลประทาน และกรมประมงที่รับผิดชอบโครงการว่า มีความคืบหน้าไปมาก ตามแผนงาน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ กรมชลประทานให้เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี67 พร้อมเร่งก่อสร้าง ทำนบดิน ลาดยางความยาว 1.3 ก.ม. รองรับการท่องเที่ยวรอบกว๊านพะเยา และสามารถช่วยเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการทางการเกษตร และอุปโภค-บริโภค ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ มากกว่า 150,000 ครัวเรือน บรรเทาพื้นที่อุทกภัย ได้มากถึง31,776 ไร่


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 มกราคม 2566