โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวกิจกรรมพรรค

พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน

พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน

,

ที่จังหวัดหนองบัวลำภู พรรคพลังประชารัฐ จัดงาน “พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน” ซึ่งงานในครั้งนี้มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อีสานเหนือและแกนนำพรรคพลังประชารัฐเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างชื่นมื่น เป็นกันเอง และอบอุ่น ซึ่งงานในครั้งนี้ได้มีการจัดเวทีเสวนาขึ้น เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้สมัคร ส.ส. กับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อสรุปเป็นแนวนโยบายเสนอต่อท่าน พล.อ.ประวิตร

พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นกล่าวกับบรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อีสานเหนือและแกนนำพรรค ว่า วันนี้ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาพบสมาชิกพรรคพลังประชารัฐทุกท่าน เราจะเปลี่ยนพรรคพลังประชารัฐให้เป็นพลังเพื่อชาติ เพื่อที่จะให้ทุกคนได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อทำงานให้กับประเทศชาติให้เกิดความก้าวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งมีรายได้น้อยเป็นลำดับที่ 76 ของประเทศ ปีหน้าเราจะทำให้ขึ้นมาอย่างน้อย 10 อันดับ เพื่อที่จะพัฒนาให้เรื่องน้ำ คน ยานพาหนะ รวมไปถึงเส้นทางต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับทุกจังหวัดอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดไหน

งาน “พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน” ครั้งนี้คือความตั้งใจของตัวผมที่อยากจะเปิดพื้นที่ให้ประชาชน ผู้สมัคร แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างเป็นกันเอง เพราะฉะนั้นทุกจังหวัดที่มาในวันนี้อยากให้พูดคุยกัน มีอะไรอยากให้พรรคพลังประชารัฐได้ดำเนินการ เราต้องแลกเปลี่ยน ด้วยบรรยากาศแบบพี่ ๆ น้อง ๆ แบบนี้

สอดคล้องกับแนวคิด “ผ้าขาวม้าเชื่อมโลก” ที่เป็นความตั้งใจของทั้งรัฐบาล ที่อยากจะให้ภาคอีสานเป็นเสมือน “ตัวกลาง” เชื่อมไทยกับโลก พร้อมทั้งรองรับการขนส่งผู้คนและสินค้าไปมาระหว่างกัน ไม่ว่าจะทั้งทางราง ทางบก และทางอากาศ เมื่อพื้นฐานเราแข็งแรง ต่างชาติเขาเชื่อมั่น มันก็ช่วยสร้างงานให้คนในพื้นที่ เศรษฐกิจดี การท่องเที่ยวก็จะตามมา นี่คือความตั้งใจของรัฐบาลที่อยากให้พี่น้องอยู่ดีกินดี

ผมเชื่อมั่นในความสามารถของทุกท่าน ที่จะทำให้เกิดความคิดที่จะทำด้วยหัวใจ ใจบันดาลแรงคืออายุมากแล้วมีแรงใจจากพี่น้องประชาชนทำให้มีแรงทำงานเพื่อประชาชน เพื่อชาติ เพื่อทุกคน

พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน พลังใจจากประชาชน พล.อ.ประวิตร ขอใช้ “ใจบันดาลแรง” ลุยงานเพื่อประชาชน

#ใจบันดาลแรง #พรรคพลังประชารัฐ #ลุงป้อม #บิ๊กป้อม #อีสานเหนือ #หนองบัวลำภู

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 กันยายน 2565

สุดชื่นมื่น “บิ๊กป้อม” เปิดพื้นที่พบปะผู้สมัคร ส.ส. อีสาน ในงาน “พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน”

สุดชื่นมื่น “บิ๊กป้อม” เปิดพื้นที่พบปะผู้สมัคร ส.ส. อีสาน ในงาน “พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน”

,

ที่จังหวัดหนองบัวลำภู พรรคพลังประชารัฐ จัดงาน “พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน” ซึ่งงานในครั้งนี้มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อีสานเหนือและแกนนำพรรคพลังประชารัฐเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพียง นำมาโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สจ.ประภาลักษณ์ สิทธิ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. หนองบัวลำภู เขต 3 ว่าที่ พ.ต. สรชาติ วิชย สุวรรณพรหม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. หนองบัวลำภู เขต 2 นพ.กันณพงศ์ อัครไชยพงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 11 น.ส.กัญจน์พร วงศ์เวไนย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส ร้อยเอ็ด เขต 4 และนายสมรักษ์ คำสิงห์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 10

โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างชื่นมื่น ซึ่งงานในครั้งนี้ได้มีการจัดเวทีเสวนาขึ้น เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้สมัคร ส.ส. กับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อสรุปเป็นแนวนโยบายเสนอต่อท่าน พล.อ.ประวิตร นำโดยว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่

สจ.ประภาลักษณ์ กล่าวว่า ปัญหาหลักของหนองบัวลําภูคือโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนนสายหลัก และถนนสายรอง ขอยกตัวอย่างถนนสายหลัก ที่เป็นปัญหาหนักตอนนี้ คือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 210 สายอุดรธานี-วังสะพุง เป็นทางหลวงแผ่นดินแนวตะวันออก–ตะวันตกที่เชื่อมต่อจังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองบัวลําภู และจังหวัดเลยเข้าด้วยกัน มีปลายทางทิศตะวันออกบนถนนวงแหวนรอบเมืองอุดรธานี หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 216 ในอําเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ปัญหาหลักอีกเรื่องคือเรื่องนํ้า เพราะประชากรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ประกอบอาชีพทําการเกษตร เลี้ยงสัตว์ จังหวัดหนองบัวลําภูยัง ขาดนํ้าเพื่อการเกษตร มีนํ้าไม่เพียงพอในการทําการเกษตร เนื่องจากไม่มีที่เก็บนํ้าไว้ใช้ ที่สามารถใช้ได้ทําการเกษตรได้ตลอดทั้งปี สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากแหล่งนํ้าลําพะเนียงคือ อยากให้มีที่กั้นนํ้าไว้เป็นช่วง ๆ เพื่อใช้ในการทําการเกษตร และดึงนํ้าจากพะเนียงส่งไปเก็บ และกระจายไปยังตําบลต่าง ๆ ให้ทั่วถึง

ว่าที่พันตรี สรชาติ กล่าวว่า ผมกับท่านรัฐมนตรีสันติอยู่ด้วยกันมาหลายสิบปี วันนี้ก็ดีใจได้ไปอยู่ที่กระทรวงการคลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านรัฐมนตรีท่านเป็นประธานคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เลือกตั้งครั้งที่แล้วผมได้มีโอกาสไปช่วยผู้สมัครหาเสียง ที่จังหวัดหนองบัวลําภูรู้เลยว่าพี่น้องอยากได้บัตรประชารัฐกันมาก แต่เราไม่สามารถเอาให้เขาได้ในขนาดนั้น ผมคุยกับท่านรัฐมนตรีสันติยังไงเราก็ต้องมีโอกาสเปิดให้ลงทะเบียนบัตรประชารัฐรอบใหม่ เพื่อให้พี่น้องชาวหนองบัวและทั่วประเทศได้รับบัตรที่อยากได้และต้องการจริง ๆ และผมเชื่อแน่ว่า “บัตรประชารัฐ” นี่ละจะทำให้เราได้ผู้แทนทุกจังหวัด

นพ.กันณพงศ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ผมเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความตั้งใจ และมุ่งมั่น จะพัฒนาและสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้ประเทศของเรา จึงขออาสา และ ขอโอกาสให้ผม หมอโน่ นพ.กันณพงศ์ อัครไชยพงศ์ ได้ร่วมอุดมการณ์ ไปกับพรรคพลังประชารัฐและผมมั่นใจว่า จะเป็นกำลังที่สำคัญของพรรค ที่จะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไปครับ

น.ส.กัญจน์พร กล่าวว่า การเปลี่ยนการเมืองให้เป็นพลัง ด้วยการทำกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนในหลายด้านทั้งทางด้านพลังใจ พลังกาย และพลังความรู้ พลังใจ ไม่ว่าจะเป็นโครงการสอนทำปุ๋ยพลังใจ สอนชาวนาทำปุ๋ยน้ำหมักรำข้าวใช้เอง ทดแทนปุ๋ยเคมีในภาวะปุ้ยแพงในวิกฤตพลังงาน โครงการปุ๋ยพลังใจ ลดต้นทุนการผลิต สร้างอาชีพ ลดรายจ่ายภาคเกษตร ลดหนี้ สร้างรายได้ สร้างพลังใจให้ชาวนาชาวสวนชาวไร่ภาคการเกษตร พลังกาย ผ่านสายยางวิเศษ ภูมิปัญญาการยืดเส้นเพื่อดูแลสุขภาพตัวเอง และพลังของความรู้ภูมิปัญญา โดยการเข้าไปทำงานสร้างความรู้ต่อยอดภูมิปัญญาอยู่กับพี่น้องประชาชน

ทางด้าน นายสมรักษ์ ขึ้นกล่าวว่า ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ผมตัดสินใจร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เชื่อหรือไม่ครับ วันนั้นโซเชียลถล่มผมเละเลย แต่ด้วยใจที่หนักแน่นของผม ชีวิตผมต่อยมวยมาตั้งแต่เด็ก ใครด่าผมก็ช่างเพราะผมได้เลือกแล้วว่า ชีวิตหลังจากนี้เราอยากจะทำเพื่อบ้านเกิด เพื่อพี่น้องประชาชน

ปิดท้ายด้วย พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นกล่าวกับบรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อีสานเหนือและแกนนำพรรค ว่า วันนี้ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาพบสมาชิกพรรคพลังประชารัฐทุกท่าน เราจะเปลี่ยนพรรคพลังประชารัฐให้เป็นพลังเพื่อชาติ เพื่อที่จะให้ทุกคนได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อทำงานให้กับประเทศชาติให้เกิดความก้าวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งมีรายได้น้อยเป็นลำดับที่ 76 ปีหน้าเราจะทำให้ขึ้นมาอย่างน้อย 10 อันดับ เพื่อที่จะพัฒนาให้เรื่องน้ำ คน ยานพาหนะ รวมไปถึงเส้นทางต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับทุกจังหวัดอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดไหนงาน “พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน” ครั้งนี้คือความตั้งใจของตัวผมที่อยากจะเปิดพื้นที่ให้ประชาชน ผู้สมัคร แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างเป็นกันเอง เพราะฉะนั้นทุกจังหวัดที่มาในวันนี่้ก็อยากให้พูดคุยกัน มีอะไรอยากให้พรรคพลังประชารัฐได้ดำเนินการ เราต้องแลกเปลี่ยน ด้วยบรรยากาศแบบพี่ ๆ น้อง ๆ แบบนี้สอดคล้องกับแนวคิด “ผ้าขาวม้าเชื่อมโลก” ที่เป็นความตั้งใจของทั้งรัฐบาล ที่อยากจะให้ภาคอีสานเป็นเสมือน “ตัวกลาง” เชื่อมไทยกับโลก พร้อมทั้งรองรับการขนส่งผู้คนและสินค้าไปมาระหว่างกัน ไม่ว่าจะทั้งทางราง ทางบก และทางอากาศ เมื่อพื้นฐานเราแข็งแรง ต่างชาติเขาเชื่อมั่น มันก็ช่วยสร้างงานให้คนในพื้นที่ เศรษฐกิจดี การท่องเที่ยวก็จะตามมา นี่คือความตั้งใจของรัฐบาลที่อยากให้พี่น้องอยู่ดีกินดี ผมเชื่อมั่นในความสามารถของทุกท่าน ที่จะทำให้เกิดความคิดที่จะทำด้วยหัวใจ ด้วยใจบันดาลแรง ที่ผมบอกใจบันดาลแรงนั้นไม่ใช่แรงบันดาลใจ เพราะผมอายุ 78 แล้ว เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้ใจบันดาลแรง เพื่อจะเอาแรงนี้ไปช่วยพี่น้องคนไทยและประเทศชาติ มีความสมบูรณ์ มีความเป็นหนึ่งเดียวให้ได้ พวกเราทุกคนตลอดจนลูกหลานของเราจะมีความสุขตลอดไป ถ้าทุกคนได้ร่วมมือร่วมใจกัน ในการที่จะทำเพื่อประเทศชาติและการทำงานเสียสละเพื่อพี่น้องประชาชน ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้ความร่วมแรงร่วมใจเพื่อพรรคพลังประชารัฐของเราจะได้มีความเจริญก้าวหน้า พรรคนี้ไม่ได้เป็นพรรคของใครหรือคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นพรรคของทุกคนที่เป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ เราจะทำให้เป็นองค์กรทางการเมืองที่มีความเข้มแข็งต่อในอนาคต เพื่อประชาชนคนไทยทุกคน

สุดชื่นมื่น “บิ๊กป้อม” เปิดพื้นที่พบปะผู้สมัคร ส.ส. อีสาน ในงาน “พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน” สุดชื่นมื่น “บิ๊กป้อม” เปิดพื้นที่พบปะผู้สมัคร ส.ส. อีสาน ในงาน “พลังประชารัฐ มัดใจประชาชน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม.ตามงานซ่อมถนนพื้นที่หนองจอก อำนวยความสะดวกให้ ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.กทม.ตามงานซ่อมถนนพื้นที่หนองจอก อำนวยความสะดวกให้ ปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ศิริพงษ์ รัสมี พปชร.กทม. เขตหนองจอก” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชน พร้อมติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมถนนซอยข้างซอยวัดวิบูลย์ธรรมราม ในพื้นที่เขตหนองจอก กรุงเทพฯ โดยสำนักงานเขตหนองจอก ฝ่ายโยธา ได้จัดเจ้าหน้าที่นำวัสดุหินคลุกพร้อมเครื่องจักร เข้าดำเนินการปรับปรุงซอยฯ เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจร โดยมี นายวุฒิภัทร คำประกอบ ผู้อำนวยการเขตหนองจอก และนายจีระศักดิ์ หงษ์แปด หัวหน้าฝ่ายโยธา ลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 กันยายน 2565

“พัชรินทร์” ตอบ “เพื่อไทย” อย่าโยนความผิดน้ำท่วม 54 ให้รัฐบาลอื่น ยัน “ลุงป้อม” แก้น้ำท่วมจริงจัง กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ออก 13 มาตรการ รับมือฤดูฝน 65 ก่อนน้ำมา

,

“พัชรินทร์” ตอบ “เพื่อไทย” อย่าโยนความผิดน้ำท่วม 54 ให้รัฐบาลอื่น ยัน “ลุงป้อม” แก้น้ำท่วมจริงจัง กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ออก 13 มาตรการ รับมือฤดูฝน 65 ก่อนน้ำมา

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงถึงกรณีที่ฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาน้ำท่วม ที่มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาตอบกระทู้ ซึ่ง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วมปี 54 ว่า “น้ำท่วมสูงเหมือนสั่งได้ เหมือนรับน้อง รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์” ทั้งนี้ ตนมองว่าเหตุการณ์ น้ำท่วมใหญ่ ในครั้งนั้น เป็นผลที่เกิดจากการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเอง ขออย่าเบี่ยงเบน โยนความผิดให้รัฐบาลอื่น และใช้พื้นที่ของสภาฯ ให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช้วาทะกรรม เพื่อบิดเบือนข้อมูล ต่อการรับรู้ของประชาชน

ส่วนที่ตั้งคำถามถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ว่ารัฐบาลมองปัญหาการบริหารจัดการน้ำ สำคัญแค่ไหน และการบริหารจัดการน้ำ ขอยืนยันว่า รัฐบาล ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ มาอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งได้ตั้งศูนย์อำนวยการแก้น้ำท่วมส่วนหน้า เพื่อรับมือก่อนน้ำมา และสั่งการให้มีการฟื้นฟูเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน อย่างที่ถูกกล่าวอ้าง

ส่วนข้อคำถามที่ว่า รัฐบาลเคยนำผลศึกษาที่ผ่านมาในอดีต มาดำเนินการต่อหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำ ด้วยตนเองทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ ตั้งแต่รับหน้าที่ และได้บูรณาการ ร่วมกับส่วนราชการ นักวิชาการ เพื่อศึกษา และประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อรับมือในระยะเร่งด่วน และวางแผนในระยะยาวจนส่งผลให้ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา เราไม่เจอกับปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากการบริหารน้ำต้นทุน ที่มีประสิทธิผล และได้นำการศึกษาในอดีตมาปรับใช้ ออกแบบแนวทางรับมือ จนออกเป็น 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565
เช่น การจัดทำแผนการใช้พื้นที่ลุ่มต่ำ/แก้มลิงเพื่อรองรับน้ำหลาก และเป็นพื้นที่หน่วงน้ำ 1ในช่วงฤดูน้ำหลาก จัดทำแผนเก็บกักน้ำไว้ใช้ก่อนสิ้นฤดูฝน ติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ – กลาง เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำหรือเกณฑ์ควบคุม จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำแหล่งน้ำขนาดใหญ่ – กลาง ในช่วงภาวะวิกฤต ตรวจความมั่นคงและปลอดภัยคัน/ทำนบ/พนังกั้นน้ำ (ก่อนฤดูฝน-ตลอดช่วงฤดูฝน) ตรวจสอบความมั่นคง แข็งแรงของคันกั้นน้ำ ทำนบ และพนังกั้นน้ำ และซ่อมแซม ปรับปรุงให้มีสภาพดี ทั้งนี้เชื่อว่ารัฐบาลพร้อมเรียนรู้ข้อบกพร่องในอดีต มาปรับใช้กับปัจจุบัน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนให้ได้มากที่สุด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ตรวจน้ำท่วมเขตมีนบุรี-หนองจอก รับปากไม่ทอดทิ้งปชช.เร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว

,

“พล.อ.ประวิตร” ตรวจน้ำท่วมเขตมีนบุรี-หนองจอก รับปากไม่ทอดทิ้งปชช.เร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว

วันที่ 14 กันยายน 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(DES) และพล.อ.ชัชชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยกลาโหม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.,นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายชาญวิทย์ วิบูลย์ศิริ ส.ส.กทม. เขตมีนบุรี-เขตคันนายาว ร่วมคณะเดินทางลงตรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่เขต หนองจอก กทม. ในจุดแรกบริเวณประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ ซึ่งได้กล่าวกับผู้ว่าฯ กทม. ว่า ไม่เป็นไร ประเทศเดียวกันใช้ได้หมด อย่างไรต้องช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นจากปัญหาน้ำท่วมให้ได้เร็วที่สุด ส่วนการพัฒนาคลองแสนแสบก็ต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม และได้ดำเนินนโยบายมานานแล้ว เพราะแต่เดิมมันส่งกินเหม็น ฉะนั้นก็ต้องช่วยทำให้ดีขึ้น และน้ำสะอาด

พล.อ.ประวิตร ยังเดินทางไปยังวัดวิบูลย์ธรรมาราม เขตหนองจอก เพื่อมอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยมีนายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม.เขตหนองจอก พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ พร้อมพบปะประชาชนและมอบถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จากผลกระทบจากปริมาณฝนตกต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง

โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า สถานการณ์ฝนตกในช่วงนี้ทำให้หลายพื้นที่ใน กทม.เกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งรวมถึงเขตหนองจอกด้วย ตอนนี้รัฐบาลได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 18 ตัว เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ กทม.ขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา ที่กำลังแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ขอให้ทุกคนใจเย็น ๆ ขณะนี้รัฐบาลกำลังทำงานเพื่อประชาชน และต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ๆ เกี่ยวข้องทุกคนที่ทำงานกันอย่างหนัก การแก้ปัญหาให้ประชาชนถือเป็นความประสงค์ของท่านชัชชาติ และรัฐบาล ทั้งนี้ขอให้ประชาชนทุกคนปลอดภัยจากโควิด-19 เพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศร่วมกับรัฐบาลต่อไป

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้นำความห่วงใยถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และของใช้ที่จำเป็นมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เขตหนองจอก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับพี่น้องประชาชนด้วย

นายศิริพงษ์ กล่าวว่า พื้นที่หนองจอก เป็นพื้นที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุดในเขตกทม. และมีคลองและคลองซอยกว่า 100 คลอง มีถนนกว่า 100 สาย พื้นที่เขตหนองจอกประสบอุทกภัยทุกปี ขอเป็นพื้นที่รับน้ำก่อนที่จะเข้าสู่พื้นที่ กทม.ชั้นใน ตนต้องขอขอบคุณผู้หลักผู้ใหญ่ทุกคนที่ให้คงามสำคัญประชาชนชาวหนองจอกที่เผชิญน้ำท่วมมากว่า 3 สัปดาห์แล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์ สุดท้ายตนต้องขอฝากพี่น้องประชาชนไว้กับ พล.อ.ประวิตร ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” คลอดแผนแม่บทอุตฯเหมืองแร่ เตรียมใช้ปี66-70 สร้างเม็ดเงินลงทุนในประเทศ

,

“พล.อ.ประวิตร” คลอดแผนแม่บทอุตฯเหมืองแร่
เตรียมใช้ปี66-70 สร้างเม็ดเงินลงทุนในประเทศ

วันที่ 14 ก.ย.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ครั้งที่2/2565 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ พ.ศ.2560-2564 มีผลใช้ได้จนถึง 31ธ.ค.65 และรับทราบ มติ คณะรัฐมนตรี เมื่อ 2 ส.ค.2565 เห็นชอบหลักการต่อนโยบายด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และก.อุตสาหกรรมประสานความร่วมมือกับ ก.ทรัพย์ฯ และก.การอุดมศึกษาฯ ในการกำหนดมาตรการที่เหมาะสม

ทั้งนี้ พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา เห็นชอบ(ร่าง)แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่2 (พ.ศ. 2566-2570) โดยให้เน้นการมีส่วนร่วม และสร้างการรับรู้ให้สาธารณะชนทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ และมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ทรัพยากรแร่ อย่างคุ้มค่า และยั่งยืน โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ,การพัฒนาที่ยั่งยืน(SDGs) ,BCG Model และหลักธรรมาภิบาล

พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ ก.อุตสาหกรรม(กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่) และกรมทรัพยากรธรณี เร่งรัดการปรับปรุงแก้ไข (ร่าง)แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่2 ให้เสร็จโดยเร็ว พร้อมเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ทุกภาคส่วน อย่างจริงจัง และให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม.ตรวจแนววางกระสอบทรายเสริมจุดฟันหลอริมเจ้าพระยา ป้องกันน้ำทะลักไหลท่วมบ้านเรือนปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.กทม.ตรวจแนววางกระสอบทรายเสริมจุดฟันหลอริมเจ้าพระยา ป้องกันน้ำทะลักไหลท่วมบ้านเรือนปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.จักรพันธ์ พรนิมิตร พปชร.กทม. เขตบางพลัด-บางกอกน้อย” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการวางแนวกระสอบทรายจุดฟันหลอ (ไม่มีเขื่อนคอนกรีตถาวร) ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเชิงสะพานกรุงธน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำทะลักเหมือนกับปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้กทม.ได้ผู้รับเหมาสร้างเขื่อนถาวรในจุดนี้แล้ว เพื่อแก้ปัญหาน้ำทะลักและท่วมบ้านเรือนประชาชนที่พักอาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยา

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม.ประสานเจ้าหน้าที่ จัดรถรับ-ส่งปชช. วางกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม

, ,

ส.ส.พปชร.กทม.ส่งทรายช่วยเหลือปชช. ป้องกันน้ำท่วมที่พักอาศัย

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ศิริพงษ์ รัสมี พปชร.กทม. เขตหนองจอก” พร้อมด้วยทีมงานนำทรายและกระสอบทรายมามอบให้กับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตหนองจอก กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นในการป้องกันน้ำท่วมที่พักอาศัย โดยมีชาวบ้านเข้ารับบริการกรอกทรายเพื่อนำไปใช้ทำเป็นทางเดิน และกั้นเป็นแนวเขื่อนเพื่อป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 กันยายน 2565

พปชร.ลพบุรี จัดอบรมวิชาชีพ สร้างานสร้างอาชีพปชช. เศรษฐกิจหมุนเวียนภายในชุมชน

, ,

พปชร.ลพบุรี จัดอบรมวิชาชีพ สร้างานสร้างอาชีพปชช. เศรษฐกิจหมุนเวียนภายในชุมชน

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ประทวน สุทธิอำนวยเดช พปชร.จ.ลพบุรี เขต 1” เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพ “โครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชน (อาชีพดีพร้อม)” จัดโดย ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 3 จังหวัดพิจิตร กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประขาชนในเขตตำบลท่าแค เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนมีความรู้ และทักษะที่จำเป็น สามารถนำไปต่อยอดในการประกอบธุรกิจ ทำให้เกิดรายได้และเงินหมุนเวียนให้กับชุมชน ณ วัดท่าแค ตำบลท่าแค อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม.ประสานเจ้าหน้าที่ จัดรถรับ-ส่งปชช. วางกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม

, ,

ส.ส.พปชร.กทม.ประสานเจ้าหน้าที่ จัดรถรับ-ส่งปชช. วางกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ พปชร. กทม.เขตบางกะปิ – วังทองหลาง” พร้อมด้วยนายนพ ชูสอน ผู้อำนวยการเขตบางกะปิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา และเจ้าหน้าที่ทหารจิตอาสาจาก ช. พัน 1 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณหมู่บ้านสวนสน ซอยรามคำแหง 60 เพื่อรับฟังปัญหาและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง

นอกจากนี้ ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหาร และอาสาสมัครมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) เพื่อจัดรถและเจ้าหน้าที่รับส่งประชาชน พร้อมทั้งกั้นแนวกระสอบทรายตลอดแนวริมคลองหัวหมาก รวมถึงบริเวณท้ายซอยสวนสน 12 เพื่อบล็อกน้ำและทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 กันยายน 2565

“พล.อ. ประวิตร” ลงมอบสิทธิที่ทำกินพื้นที่ 5 ป่าให้ปชช.จ.ตาก เช็คแผนพัฒนาจัดหาแหล่งน้ำป้อนภาคเกษตร

,

“พล.อ. ประวิตร” ลงมอบสิทธิที่ทำกินพื้นที่ 5 ป่าให้ปชช.จ.ตาก เช็คแผนพัฒนาจัดหาแหล่งน้ำป้อนภาคเกษตร

วันนี้ (12 ก.ย. 65) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เดินทางไปตรวจราชการติดตามสถานการณ์ชายแดนและสถานการณ์น้ำในพื้นที่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก และเดินทางไปยังวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา บ้านมั่นคงเมืองแม่สอด โดยมีส.ส.พรรคพลังประชารัฐ อาทิ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ สส.พปชร. จ.นครราชสีมา ให้การต้อนรับ พร้อมเป็นประธาน เปิดงาน “บจธ.สอบสิทธิ มอบสุขในที่ดินทำดิน” เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติและมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับคัดเลือกทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ทั้งนี้พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน(บจธ.) ได้กล่าวรายงาน ถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องที่ทำกิน และนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวต้อนรับคณะ

พลเอกประวิตร กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้ทำการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้กับประชาชนในพื้นที่ จำนวน 5 ป่า ประกอบด้วย “ป่าช่องแคบและป่าแม่โกนเกน” “ป่าแม่ละเมา” “ป่าแม่สอด” “ป่าท่าสองยาง” และ “ป่าแม่ระกา” พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดตาก ให้กับประชาชนในพื้นที่ป่าช่องแคบและป่าแม่โกนเกน จำนวน 1,231 เล่ม

ทั้งนี้ พื้นที่วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชาบ้านมั่นคงเมืองแม่สอด ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จำนวน 43 ครัวเรือน ได้เข้าใช้ประโยชน์โดยการเช่าที่ดิน สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)บจธ. ในเนื้อที่ 58 ไร่เศษ จุดเด่นชุมชน “ชุมชนเกษตรอาหารปลอดภัยในพื้นที่ความมั่นคงเมืองแม่สอด” ระยะเวลาใน 1 ปีเศษ สมาชิกในชุมชนได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ มีความก้าวหน้าในการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นอย่างมาก สมาชิกมีที่อยู่อาศัยมีเงินเก็บ และมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถสร้างภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่จนได้รับการสนับสนุนการพัฒนาจากหลายภาคส่วน ร่วมกันบูรณาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมการอบรมตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้สมาชิกในชุมชน ในพื้นที่มีตลาดนัดชุมชนของตนเอง สมาชิกมีรายได้จากการปลูกและจำหน่ายพืชผัก และผลผลิตแปรรูปในพื้นที่ ถือเป็นอีกหนึ่ง (Best Practice) ของการดำเนินงานของ บจธ. ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาเกษตรกร ผู้ยากจน

พลเอกประวิตร ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)ได้ลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด ต.พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ โดย มี นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอสถานการณ์น้ำในภาพรวม และผู้แทนโครงการชลประทานตาก นำเสนอสถานการณ์น้ำในพื้นที่ พร้อมพบปะพี่น้องประชาชนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการทำงาน

พลเอก ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน จึงได้ดำเนินการเป็นนโยบายหลักโดยมุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สมบูรณ์ เพื่อรองรับการขยายตัวทางสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต จากการลงพื้นที่จังหวัดตากในครั้งนี้ ได้รับทราบข้อมูลทั้งเรื่องสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เรื่องที่ดินทำกิน สถานการณ์น้ำในพื้นที่ และสถานการณ์ชายแดน ที่สำคัญประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังประกอบอาชีพค้าขายและทำการเกษตร รวมถึงจังหวัดตากยังเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ น้ำเป็นปัจจัยสำคัญ จึงต้องมีการพัฒนาเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำและบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอ ปัจจุบันมีอ่างเก็บน้ำแม่สอดตอนบนและอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด เป็นแหล่งน้ำที่ใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภคและการเกษตร และรองรับการขยายตัวของเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตากได้อย่างเพียงพอ

ทั้งนี้ ยังได้รับรายงาน ผลสำเร็จในการขับเคลื่อนแผนงาน โดย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอถึงโครงการด้านน้ำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.ตาก ช่วงปี 61-64 มีทั้งสิ้น 588 โครงการ ความจุ 29.61 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 40,162 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 32,476 ครัวเรือน และพื้นที่ได้รับการป้องกัน 10,100 ไร่ เช่น การก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนแม่สอด ระยะที่ 2 อ.แม่สอด และการก่อสร้างฝายปู่เอ๋อพร้อมระบบส่งน้ำ อ.แม่ระมาด ส่วนแผนงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำปี 65 จำนวน 29 แห่ง ความจุ 0.057 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 6,000 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 9,674 ครัวเรือน เช่น การก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนแม่สอด และงานวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำทางหลวงหมายเลข 105 บริเวณหมู่บ้านแม่กึ๊ดหลวงหมู่ 1-หมู่บ้านแม่กึ๊ดสามท่าหมู่ 5 อ.แม่สอด

นอกจากนี้ ยังมีโครงการด้านน้ำที่สำคัญ ปี 66-67 จำนวน 8 โครงการ เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 28.83 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 13,935 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 3,765 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับการป้องกัน 2,506 ไร่ เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยฉลอม อ.บ้านตาก และอ่างเก็บน้ำแม่ยะพร้อมระบบส่งน้ำ อ.บ้าน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กำแพงเพชร พัฒนาอาชีพเพิ่มรายได้-ขับเคลื่อน ศก.ชุมชนผ่านโครงการอาชีพดีพร้อม

, ,

ส.ส.พปชร.กำแพงเพชร พัฒนาอาชีพเพิ่มรายได้-ขับเคลื่อน ศก.ชุมชนผ่านโครงการอาชีพดีพร้อม

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ปริญญา ฤกษ์หร่าย พปชร.จ.กำแพงเพชร เขต 4” จัดโครงการ “พัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม” โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ส่งเสริมและพัฒนาคนในชุมชนให้มีองค์ความรู้ และทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ สามารถนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพได้ เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการสร้างคน สร้างงาน และสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจัดฝึกอบรมให้แก่คนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และพี่ประชาชนทั่วไป จำนวน 200 คน ผ่านกิจกรรมฝึกวิชาชีพ ได้แก่ การเพ้นท์กระเป๋า การพับเหรียญโปรยทาน การทำสบู่เหลว และการทำน้ำยาล้างจาน โดยมีประชาชนในพื้นที่ตำบลสลกบาตร เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 กันยายน 2565