โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวกิจกรรม ส.ส. และสมาชิกพรรค

“ส.ส.ไผ่ ลิกค์“เชื่อเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทางแก้บ่อนพนันเถื่อน ดึงเงินใต้ดินเข้าระบบพัฒนาประเทศ

,

“ส.ส.ไผ่ ลิกค์“เชื่อเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทางแก้บ่อนพนันเถื่อน ดึงเงินใต้ดินเข้าระบบพัฒนาประเทศ

นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตั้งสถานกาสิโนและการพนันพื้นบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างรายได้และเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ กล่าวว่า เมื่อครั้งหนึ่งวันที่เราเคยมีหวยบนดิน ถ้าจำได้หวยใต้ดินตายหมด และถ้าวันหนึ่งมีบ่อนถูกกฎหมาย ย่อมจะไม่เห็นบ่อนผิดกฎหมายแน่นอน
เพราะเชื่อว่า ไม่มีใครอยากจะวิ่งหนีตำรวจ แนวคิดนี้เกิดจากการนำปัญหาที่ซุกอยู่ใต้พรม มาแก้ให้ถูกต้องให้

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการหาเงินเข้าประเทศจากการตั้งกาสิโนนั้น ก็เพราะว่าประเทศไทยเราอยู่ได้เพราะการท่องเที่ยวเป็นหลัก อย่างเช่นชาวจีน ถ้าเขาอยากเล่นพนัน ก็อาจจะต้องไปชายแดนพม่า ลาวกัมพูชา แต่ปรากฏว่า ของประเทศสภาพภูมิประเทศสวยงามกว่าทุกที่ แต่ไม่มีกาสิโน นอกจากนี้ ถ้าเราไปสำรวจชายแดน จะพบว่า คนที่ไปเล่นคือคนไทย แล้วเราจะปล่อยให้เงินออกนอกประเทศเช่นนี้หรือ

“ปัญหาที่หลายฝ่ายกังวลว่า เยาวชนจะเข้าไปเล่นการพนันนั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กจะไปเล่นกาสิโนเพราะระบบกาสิโนตามที่ผมได้ศึกษามาอย่างที่ประเทศสิงคโปร์ คนที่จะเข้าไปเล่นต้องกรอกเอกสารมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปมาก ถ้าคนที่อายุไม่ถึง เขาจะบอกเลยว่า เขาไม่ให้เล่น เพราะต้องลงทะเบียนให้เรียบร้อยแล้วเขาจะจำกัดเวลาด้วย กำจัดเงินด้วย เราทำได้หลายรูปแบบ แต่บ่อนเถื่อนที่อยู่รายล้อมลูกหลานเรา จำกัดอะไรได้หรือไม่ ผมเชื่อว่า ถ้ามีสิ่งที่ถูกต้อง ผมว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า”นายไผ่ กล่าว

นายไผ่ กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ตนมาศึกษาแนวคิดการตั้งกาสิโนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็เพราะไม่อยากให้มีส่วย ตนมองว่าทมันทำให้เกิดระบบผู้มีอิทธิพลขึ้น และเรายังเอาเงินไปให้คนอื่น คนที่ไม่ได้เอามาพัฒนาบ้านเมืองของเรา ประเทศอื่นเขามีกาสิโนกันมา 50 ปีแล้ว เราเดินช้ากว่าคนอื่น แต่ของเราตนเชื่อว่าดีกว่าเยอะ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และวัฒนธรรม

เมื่อถามถึงปัญหาการพนันออนไลน์ นายไผ่ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ การพนันออนไลน์สูบเงินลูกหลานเราไปมหาศาล แต่ปัญหานี้ถ้าเราทำถูกต้อง มีขั้นตอน มีการกรอกอายุ เหมือนตอนที่ตนไปเที่ยวอังกฤษ เวลาเราจะไปกดเข้าเว็บไซต์ที่เป็นการพนันออนไลน์ ทำไม่ได้เลย แต่สิ่งนี้คงต้องร่วมมือกับภาครัฐด้วย แล้วต้องเอาจริงเอาจัง เพราะวันนี้มันระบาดไปทั่วแล้ว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 พฤศจิกายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ชวนคนไทยเที่ยว “สวนสัตว์เชียงใหม่” แลนด์มาร์ก “แหล่งเรียนรู้ อนุรักษ์ วิจัย สัตว์ป่า” เปิดรับฤดูหนาว ตั้งเป้าปีหน้า กระตุ้นท่องเที่ยว เพิ่มรายได้เกือบ 100 ล้าน

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ชวนคนไทยเที่ยว “สวนสัตว์เชียงใหม่” แลนด์มาร์ก “แหล่งเรียนรู้ อนุรักษ์ วิจัย สัตว์ป่า” เปิดรับฤดูหนาว ตั้งเป้าปีหน้า กระตุ้นท่องเที่ยว เพิ่มรายได้เกือบ 100 ล้าน

พล.ต.อ.พัชรวาท” ตั้งเป้าปีหน้า “สวนสัตว์เชียงใหม่” ปั๊มเม็ดเงินเกือบ 100 ล้านบาท หลังเพิ่มสัตว์นานาชนิดดึงดูดนักท่องเที่ยว-มีกิจกรรมหลากหลาย พร้อมชวนคนไทย หนาวนี้ปักหมุดเที่ยวจุดแลนด์มาร์ก “แหล่งเรียนรู้ อนุรักษ์ วิจัย สัตว์ป่า” เชิญชวนสักการะ “พระนวพุทธมหาบารมี” พระพุทธรูปองค์แรกของไทยที่บูรณะจากชิ้นส่วนองค์เดิมสมัยล้านนา

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อมอบนโยบายเรื่องแก้ไขปัญหาหมอกควัน ตนยังได้ไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและรับฟังการบรรยายพิเศษของสวนสัตว์เชียงใหม่ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมนั่งรถชมพื้นที่โดยรอบสวนสัตว์เชียงใหม่ สามารถเข้าชมสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นมา สวนสัตว์เชียงใหม่ได้เพิ่มความหลากหลายของสัตว์มากขึ้น เพื่อส่งมอบความสุขให้นักท่องเที่ยวและผู้มาเยือน โดยมีโซนสัตว์แอฟริกา อาทิ ยีราฟ ที่ได้รับมอบเพิ่มมาใหม่ 1 ตัว ชื่อเดิมว่า “น้องแหว่ง” หรือ “น้องต้นคูน” เพศผู้ อายุ 6 ปี 1 เดือน และม้าลาย ชื่อ “ต้นหนาว” เพศผู้ อายุ 2 ปี 11 เดือน ตลอดจนสัตว์อื่นๆ ซึ่งได้รับทราบจากรายงานว่า สวนสัตว์เชียงใหม่ในปีนี้มีรายได้ถึง 79.50 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผน และในปีหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 97 ล้านบาท

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังได้ร่วมกิจกรรม “แอ่วเหนือ ม่วนหนาว สุดว้าว ที่สวนสัตว์เชียงใหม่” “Chiangmai Zoo Winter Land” ณ บริเวณด้านหน้าส่วนจัดแสดงหิมะเทียม (Snow Buddy Winter Land) และนั่งรถบริการไปสักการะองค์ “พระนวพุทธมหาบารมี” ณ โบราณสถานวัดกู่ดินขาว ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งเป็นองค์ที่ตนเคยเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2562 สำหรับองค์พระนวพุทธมหาบารมีองค์นี้มีความพิเศษ เพราะเป็นการบูรณะพระพุทธรูปองค์แรกของประเทศไทย ที่ใช้นวัตกรรมการบูรณะโดยใช้ชิ้นส่วนเดิมเป็นองค์ประกอบขึ้นเป็นองค์พระ เพื่อให้มีความศักดิ์สิทธิ์และรักษาองค์พระเดิม ภายหลังที่ได้พบชิ้นส่วนพระอุระที่หลงเหลือจากสมัยล้าน

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า การมาตรวจเยี่ยมสวนสัตว์เชียงใหม่ในครั้งนี้ ได้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมมือกัน จนทำให้สวนสัตว์มีการพัฒนาอย่างมาก เป็นแหล่งเรียนรู้ อนุรักษ์ วิจัย สัตว์ป่า และเป็น Landmark แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดอีกทางหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้ อยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนเดินทางมาเที่ยวสวนสัตว์แห่งนี้ รับรองว่าจะประทับใจไม่รู้ลืม ทางสวนสัตว์จะมีกิจกรรมมากมาย อาทิ ช่วงปลายเดือนนี้ จะมีกิจกรรมลอยกระทงในสโนว์บัดดี้ เดือน ธ.ค. จะมีกิจกรรมเกิดวันไหนไปสวนสัตว์ และหมอกบนดินถิ่นล้านนา เป็นต้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤศจิกายน 2566

“ชนนพัฒฐ์”จับมือ ประมง จ.สงขลา สร้างปะการังเทียมแผนฟื้นฟูอนุรักษ์สัตว์น้ำ เตรียมเสนอ ก.เกษตรฯ คาดผ่านงบปี 67-68 เชื่อ ทำให้ปริมาณสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้น สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

,

“ชนนพัฒฐ์”จับมือ ประมง จ.สงขลา สร้างปะการังเทียมแผนฟื้นฟูอนุรักษ์สัตว์น้ำ เตรียมเสนอ ก.เกษตรฯ คาดผ่านงบปี 67-68 เชื่อ ทำให้ปริมาณสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้น สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้หารือกับประมงจังหวัดสงขลา เพื่อดำเนินการตามแผนในการทำปะการังเทียมใน 2 พื้นที่คือ อำเภอระโนง และอำเภอสทิงพระ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและฟื้นฟูการประมงชายฝั่งทะเลอย่างยั่งยืน และเป็นสร้างพื้นที่อนุบาลสัตว์น้ำ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ลดน้อยลงส่งผลให้ปริมาณปลาและสัตว์ทะเลอื่น ลดจำนวนลง จนเป็นหนึ่งในวิกฤติสิ่งแวดล้อมที่ไทยกำลังเผชิญคือปลากำลังจะชหมดทะเล

นายชนนพัฒฐ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ทางประมงจังหวัดได้ร่วมหารือกับตนในฐานะตัวแทนประชาชนในพื้นที่ เพื่อผลักดันให้เป็นแผนฟื้นฟูและอนุรักษ์สัตว์น้ำใน จ.สงขลา ที่จะเสนอไปยังกระทรวงเกษตรฯ เพื่อบรรจุในแผนปีงบประมาณของกรมประมง ซึ่งคาดว่าแผนดังกล่าวจะสามารถบรรจุได้ในงบประมาณปี 2567-2568

“สิ่งสำคัญคือ ทำอย่างไรถึงจะมีที่ ๆ ทำให้ลูกปลามีโอกาสเติบโต ซึ่งการมีปะการังเทียม จะทำให้เรืออวนลากเข้ามาไม่ถึง ลูกปลามีโอกาสเติบโต ประมงท้องที่ก็มีโอกาสทำมาหากินได้ต่อเนื่อง นี่เป็นยุทธวิธีหนึ่งที่เราส่งเสริมที่จังหวัดสงขลา เพื่อเพิ่มผลผลิตประมงและสร้างความมั่นคงด้านอาหาร เป็นแหล่งอาศัย เลี้ยงตัว วางไข่ และหลบภัยของสัตว์น้ำ และช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งประมง ชาวประมงสามารถใช้ประโยชน์จากการทำประมงอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามมา”นายชนนพัฒฐ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2566

“อรรถกร”เผย‘รอ.ธรรมนัส’ลงพื้นที่ จ. ฉะเชิงเทรา สั่งหน่วยงานเร่งแก้ปัญหา ‘ปลากะพงขาว’ ราคาตกต่ำ พร้อมขับเคลื่อนงานจัดที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกร

,

“อรรถกร”เผย‘รอ.ธรรมนัส’ลงพื้นที่ จ. ฉะเชิงเทรา สั่งหน่วยงานเร่งแก้ปัญหา ‘ปลากะพงขาว’ ราคาตกต่ำ พร้อมขับเคลื่อนงานจัดที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกร

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.ฉะเชิงเทรา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เปิดเผยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจราชการและเป็นประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 70 ราย พร้อมทั้งรับฟังข้อเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาว นำโดย นายสุทธิ มะหะเลา นายกสมาคมผู้เพาะเลี้ยงปลาทะเลไทย ณ ห้องประชุมมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้รับข้อร้องเรียนจากกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาว ถึงปัญหาราคาตกต่ำ ซึ่งสาเหตุจากมีการนำสัตว์น้ำโดยเฉพาะปลากะพงขาวจากประเทศมาเลเซียเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งมีการนำเข้าทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ทำให้สัตว์น้ำของเกษตรกรที่เลี้ยงมีราคาตกต่ำ ประกอบกับมีต้นทุนการผลิตสูง ทำให้ผู้เพาะเลี้ยงปลากะพงขาวได้รับความเดือดร้อน ดังนั้น ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณการทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

โดย ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาว ได้กล่าวขอบคุณ รมว.เกษตรฯ ที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเร่งรัดแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งภายหลังจากที่กลุ่มได้ยื่นเรื่องร้องเรียนดังกล่าวต่อศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์จากเกษตรกร ทำให้ปัญหาดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือและผลักดันให้เกิดแนวทางแก้ไขร่วมกัน สำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจังหวัดฉะเชิงเทรา มีกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 5,754 ราย 5,829 ฟาร์ม พื้นที่ 64,550 ไร่ กลุ่มผู้เลี้ยงปลาน้ำจืด 4,011 ราย 4,017 ฟาร์ม พื้นที่ 42,268 ไร่ กลุ่มผู้เลี้ยงปลาทะเล 503 ราย 503 ฟาร์ม พื้นที่ 9,467 ไร่ ในส่วนของปริมาณผลผลิตปลากะพงขาว ปี 2565 มีจำนวน 6,624.32 ตัน และในปี 2566 ประมาณการผลผลิต จำนวน 6,713.00 ตัน

ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ได้มอบ ส.ป.ก. 4-01 ให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 70 รายด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2566

“สันติ รมช.สธ.” ตรวจติดตามภารกิจกรมอนามัย เร่งส่งเสริมการมีบุตร ดันให้บรรจุเป็นวาระแห่งชาติ

,

“สันติ รมช.สธ.” ตรวจติดตามภารกิจกรมอนามัย เร่งส่งเสริมการมีบุตร ดันให้บรรจุเป็นวาระแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหาร ตรวจเยี่ยม ติดตาม และรับฟังภารกิจของกรมอนามัย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญ ในการดำเนินงานส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี พร้อมมอบนโยบายให้กับผู้บริหารและบุคลากรเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายสันติ กล่าวว่า วันนี้ได้เน้นย้ำการดำเนินการ “ยกระดับ 30 บาทอัพเกรด” ให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ต้องพร้อมรับมือกับความท้าทายจากสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอน ภายใต้นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ทั้ง 13 ประเด็น โดยเฉพาะนโยบายการส่งเสริมการมีบุตร ต้องเร่งรัดขับเคลื่อนการดำเนินการให้เห็นผลลัพธ์เป็นรูปธรรม และผลักดันให้บรรจุเป็นวาระแห่งชาติ ร่วมบูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการกำหนดมาตรการส่งเสริมการมีบุตร ทั้งเรื่องคลินิกส่งเสริมการมีบุตร หน่วยคัดกรองโรคหายาก และการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการรักษาภาวะมีบุตรยาก ด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ให้มีโอกาสมีลูกได้ รวมถึงบูรณาการขับเคลื่อนภายใต้ประเด็นเศรษฐกิจสุขภาพ การส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม ให้เกิดการพัฒนาเมืองต้นแบบชุมชนสุขภาพดี (Healthy City Models) และขับเคลื่อนนโยบายในประเด็นอื่น ๆ ด้วย

“ผมมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาอัตราการเกิดน้อยของประชากรน้อยลง ซึ่งกรมอนามัยเป็นผู้ที่สนับสนุน วางแผนในด้านต่างๆ ที่จะส่งเสริมการมีบุตรและอยากให้บรรจุเป็นวาระแห่งชาติ และมีสิ่งจูงใจให้สุภาพสตรีมีบุตร เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าการมีบุตรนั้นมีเกียรติ เสียสละ เพราะต้องยอมรับว่า สุภาพสตรีที่มีบุตรนั้นร่างกายจะทรุดโทรมค่อยข้างมาก กระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ดูแลเรื่องเหล่านี้ ถ้าไม่นำร่องการให้เกียรติ ยกย่อง เพื่อให้เขารู้ว่าการมีบุตรเป็นสิ่งที่ช่วยประเทศชาติ” นายสันติ กล่าว

ดังนั้นควรสร้างแรงจูงใจให้กับสตรีที่มีครอบครัวใหม่ มีความมั่นใจในการมีบุตร สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจำเป็นของสังคม ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีความตั้งใจจะผลัดดันเรื่องนี้ใน ครม. ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มประชากรที่มีคุณภาพมาพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ รองรับการเป็นสังคมสูงวัย ทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงแข็งแรง สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

วันนี้ผู้บริหารทุกท่านจะได้รับฟังการนำเสนอภารกิจและการดำเนินงานของกรมอนามัย ร่วมให้ข้อเสนอแนะเพื่อนำไปพัฒนาการดำเนินงานต่อไป ขอให้ทุกท่านร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตนและผู้บริหารทุกท่าน มีความเชื่อมั่นและเห็นถึงศักยภาพของบุคลากรของกรมอนามัย และพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานทุกด้าน ที่จะทำงานร่วมกันให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด ยกระดับ 30บาท อัพเกรด เพื่อคุณภาพชีวิตในทุกระดับชั้นมีสุขภาพที่ดี

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 11 พฤศจิกายน 2566

“รมว.ธรรมนัส” ลงพื้นที่อุตรดิตถ์ติดตามความคืบหน้าโครงการเขื่อนผาจุก เร่งแก้ไขปัญหา สร้างความมั่นคงด้ายน้ำยั่งยืนให้พี่น้องประชาชน

,

“รมว.ธรรมนัส” ลงพื้นที่อุตรดิตถ์ติดตามความคืบหน้าโครงการเขื่อนผาจุก เร่งแก้ไขปัญหา สร้างความมั่นคงด้ายน้ำยั่งยืนให้พี่น้องประชาชน

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามความก้าวหน้าโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ต.ผาจุก อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำน่านตอนล่างให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ครอบคลุมพื้นที่อ.เมืองอุตรดิตถ์ อ.ลับแล อ.ตรอน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ อ.พรหมพิราม และอ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เพื่อพัฒนาระบบชลประทาน ประมาณ 481,400 ไร่ (พัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝนที่มีศักยภาพให้เป็นพื้นที่ชลประทานประมาณ 304,000 ไร่ และส่งน้ำสนับสนุนและปรับเปลี่ยนระบบส่งน้ำจากเดิมโดยการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า เป็นระบบส่งน้ำด้วยแรงโน้มถ่วงประมาณ 134,800ไร่ และพื้นที่โครงการชลประทานน้ำริด จังหวัดอุตรดิตถ์ ประมาณ 42,600 ไร่)

ทั้งนี้โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก ตั้งอยู่ในแม่น้ำน่าน บริเวณบ้านคลองนาพง หมู่ 7 ต.ผาจุก อ.เมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำน่าน เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำน่านตอนล่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ปัจจุบันได้สร้างเขื่อนทดน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการก่อสร้างระบบส่งน้ำ พร้อมอาคารประกอบ หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถส่งน้ำได้ครอบคลุมพื้นที่อ.เมืองอุตรดิตถ์ อ.ลับแล อ.ตรอน และอ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ อ.พรหมพิราม และอ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก รวมพื้นที่กว่า 481,400 ไร่
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน จะเร่งรัดดำเนินการก่อสร้างระบบส่งน้ำ และระบบระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบให้แล้วเสร็จ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับลุ่มน้ำน่าน เพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนให้กับพี่น้องชาวอุตรดิตถ์ ได้มีน้ำไว้ใช้ในการอุปโภค บริโภค และการเกษตร อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ จ.อุตรดิตถ์ มีพื้นที่ชลประทานประมาณ 447,618 ไร่ มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ คือ เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสนับสนุนการใช้น้ำให้กับจังหวัดต่าง ๆ ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวม 22 จังหวัด ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างฯประมาณ 6,102 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) หรือร้อยละ 64 ของความจุอ่างฯ

“วันนี้ตั้งใจมารับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน และได้มอบหมายกรมชลประทานเร่งแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องอย่างเร่งด่วน ปัญหาใดที่สามารถแก้ไขได้ให้ทำทันที ปัญหาไหนที่ยังทำไม่ได้ จะต้องกลับไปศึกษาและหาแนวทางแก้ไข รวมถึงให้บรรจุแผนดำเนินการในปีงบประมาณต่อไป” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 พฤศจิกายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ลงพื้นที่เชียงใหม่ระดมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยปฏิบัติการรับมือไฟป่า แก้ปัญหาหมอกควัน-PM 2.5 “แม่นยำ รวดเร็ว ทันท่วงที มีประสิทธิภาพ”

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ลงพื้นที่เชียงใหม่ระดมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยปฏิบัติการรับมือไฟป่า
แก้ปัญหาหมอกควัน-PM 2.5 “แม่นยำ รวดเร็ว ทันท่วงที มีประสิทธิภาพ”

พล.ต.อ.พัชรวาท ลงพื้นที่ กำกับ ติดตาม เตรียมความพร้อม ระดมสรรพกำลัง รับมือไฟป่า-หมอกควันภาคเหนือล่วงหน้า ย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติการด้วยความ “แม่นยำ รวดเร็ว ทันท่วงที มีประสิทธิภาพ”

วันนี้ 8 พฤศจิกายน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจเยี่ยม มอบนโยบาย ติดตามการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 17 จังหวัด เร่งรัดการดำเนินมาตรการเพื่อลดฝุ่นควัน PM2.5 ทั้งระบบให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติการด้วยความ “แม่นยำ รวดเร็ว ทันท่วงที มีประสิทธิภาพ”

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า สถานการณ์ปี 2566 เกิดฝุ่น PM2.5 และจุดความร้อนมีปริมาณสูงกว่าปีที่ผ่านมา และในปี 2567 คาดว่าปรากฏการณ์เอลนีโญ จะทำให้สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง มีความรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าวที่จะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน จึงได้ตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน โดยมี ตน เป็นประธาน และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นรองประธานคนที่ 2 และเร่งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับพื้นที่เพื่อดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่งหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ทส. ได้มีการเตรียมการล่วงหน้าเพื่อรับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมระดมความร่วมมือจากหน่วยงาน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 17 จังหวัด เพื่อดำเนินมาตรการป้องกัน ลดฝุ่นควัน PM2.5 ทั้งระบบ เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นที่คาดว่าจะรุนแรงได้อย่างทันท่วงที

พล.ต.อ. พัชรวาท กล่าวว่า แนวทางการดำเนินงาน ได้เน้นย้ำให้เกิดการสื่อสารในทุกระดับของภาครัฐโดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานต้องเข้าใจแนวทางปฏิบัติที่จะควบคุมให้ลดการเผาไหม้ทั้งในพื้นที่เกษตรเผาไหม้ซ้ำซาก ในส่วนของพื้นที่ป่า จะมุ่งเป้าไปที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ ที่มีสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงโดยเฉพาะพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ

โดยมาตรการป้องกันไฟป่า เน้นย้ำมาตรการ “ตรึงพื้นที่ ให้มีจุดเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในทุกพื้นที่ป่า เราจะมีการจัดระเบียบการเก็บหาของป่าโดยอนุญาตเฉพาะคนในพื้นที่เท่านั้น โดยผ่านการลงทะเบียนรายบุคคลในพื้นที่และปิดป่าเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง” โดยก่อนห้วงฤดูไฟป่าให้มีการจัดการเชื้อเพลิงในห้วงเวลาที่เหมาะสม ให้ตั้งจุดเฝ้าระวังเพื่อกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าป่า โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จะต้องมี จุดตรวจ/จุดสกัด เพื่อมิให้เกิดการลักลอบเผาป่า เมื่อเข้าห้วงสถานการณ์ฤดูไฟป่าจะต้องมีผู้บังคับบัญชาเหตุการณ์ในระดับพื้นที่ มีกำลังพล และเครื่องมือพร้อมปฏิบัติในการดับไฟป่าและสามารถสับเปลี่ยนกำลังระดมพลช่วยกันดับไฟป่าได้อย่างทันท่วงทีโดยผ่าน war room ระดับพื้นที่ และดึงหมู่บ้านเครือข่ายดับไฟป่า (อาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช : อส.อส.) มาร่วมในการดับไฟป่าด้วย โดยมีเป้าลดพื้นที่ไฟไหม้ลดลง 50 % จากปี พ.ศ.2566

นอกจากนี้ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าฝุ่นสูงจนระดับวิกฤต คือ หมอกควันข้ามแดน จึงสั่งการให้ทส.กระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ ประสานงานและเจรจาขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในระดับอาเซียน และระดับพหุภาคี เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างเต็มที่ การแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นต้องทั่วถึง ทันท่วงที เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่รวดเร็ว ถูกต้อง

พล.ต.อ. พัชรวาท ยังได้ตรวจความพร้อมของหน่วยงานทุกหน่วยปฏิบัติการ และกล่าวขอบคุณพร้อมให้กำลังใจกำลังพลและเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและ PM2.5 ซึ่งรัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และยังได้แสดงความชื่นชมทุกในการเสียสละแรงกาย และแรงใจ เพื่อชาติ บ้านเมือง และประชาชน โดยเน้นย้ำว่า รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและ PM2.5 อย่างเต็มที่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 พฤศจิกายน 2566

“อัคร ทองใจสด”เผย “พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ’ ฉบับใหม่ คือความหวังของครูทั้งประเทศ เชื่อ จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาระบบการศึกษาไทย

,

“อัคร ทองใจสด”เผย “พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ’ ฉบับใหม่ คือความหวังของครูทั้งประเทศ เชื่อ จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาระบบการศึกษาไทย

นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนได้ร่วมงานประชุมสามัญข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำปีการศึกษา 2566 ของอำเภอวิเชียรบุรี ซึ่งจากการรับฟังและพูดคุยกับคุณครูหลายๆท่าน ทางคุณครูกำลังรอคอยพรบ.การศึกษาฉบับใหม่ที่เป็นความหวังของข้าราชการครู เพราะจะเน้นในเรื่องของคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยเน้นการเรียนแบบ Active Learning ให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง

นายอัคร กล่าวต่อว่า การเรียนในยุคต่อไปต้องวัดกันที่ภูมิปัญญาของเด็ก วัดความถนัดของเด็ก โดยหน้าที่ของครูจะเปลี่ยนจาก Teacher มาเป็น Coaching เพื่อให้เด็กเห็นในสิ่งที่ตนเองถนัด และสอนในเชิงแนะแนวว่า คุณควรเดินทางไปทางไหนในชีวิต โดยเรื่องนี้ตนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหาก พรบ.ฉบับนี้ผ่าน สิ่งที่ต้องขอฝากทางกระทรวงศึกษาธิการก็คือ กระบวนการพัฒนาครูให้เข้าสู่ระบบการสอนในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบการศึกษาของไทย และอนาคตของเยาวชนไทย

นายอัคร ยังกล่าวต่อว่า ในขณะเดียวกันปัญหาของครูที่ได้รับเสียงสะท้อนมาก็คือ เงินเดือนครูธุรการที่ได้รับไม่เท่ากัน และการที่คุณครูธุรการ1 คนมีหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบหลายโรงเรียน ซึ่งเรื่องนี้ตนจะหาข้อมูลและดำเนินการประสานกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อเร่งแก้ปัญหา ทั้งนี้ ตนต้องขอขอบคุณคุณครูทุกๆท่านที่คอยเสียสละ และอบรมสั่งสอนเด็กๆให้เป็นเยาวชนที่ดีเพื่อเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศเราต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 พฤศจิกายน 2566

“นายกเศรษฐา” แต่งตั้ง “พล.ต.อ.พัชรวาท” นั่งประธานคณะกรรมการแก้ฝุ่น PM2.5

,

“นายกเศรษฐา” แต่งตั้ง “พล.ต.อ.พัชรวาท” นั่งประธานคณะกรรมการแก้ฝุ่น PM2.5

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการดูแลเรื่อง PM2.5 เพราะเรากำลังเข้าสู่ฤดูของ PM2.5 โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 อย่างใกล้ชิด ภายหลังพบว่า สถานการณ์ ฝุ่นเริ่มกลับมามีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน ตนได้กำชับกรมควบคุมมลพิษให้เตรียมการรับมือและป้องกัน รวมทั้งให้มีการแจ้งเตือนประชาชนให้ทันท่วงที

จากการรายงานค่าฝุ่น PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน Air4Thai ซึ่งรายงานสภาพอากาศเป็นรายชั่วโมงสำหรับพื้นที่ที่มีสถานการณ์วิกฤติ และรายงานเป็นรายวันกราฟคุณภาพอากาศย้อนหลัง 7 วัน โดยใช้ข้อมูลจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษทั่วประเทศ ขณะเดียวกันศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ได้มีการพยากรณ์สถานการณ์ฝุ่นล่วงหน้า 7 วัน เพื่อให้ประชาชนสามารถเตรียมรับมือกับปัญหาได้

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า จากการรายงานในวันนี้ พบว่าปริมาณฝุ่นพิษในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเริ่มลดลง ปรับจากสีส้มเป็นสีเหลือง สีเขียว และในบางพื้นที่เป็นสีฟ้า ซึ่งเป็นจุดที่ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เนื่องจากมีลม ทำให้ฝุ่นขนาดเล็กไม่สะสมในพื้นที่ ส่วนในภาคอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน สภาพอากาศดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในระยะ 7 วัน คาดการณ์ว่าสถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง

“อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนได้ติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด ผ่านแอปพลิเคชัน Air4Thai ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบแอนดรอยด์และ IOS ซึ่งมีการรายงานที่รวดเร็ว แม่นยำ เชื่อถือได้ หรือจะติดตามการรายงานของ ศกพ.ที่จะมีประจำทุกวัน ผ่านช่องทาง Facebook live และผ่านทางแฟนเพจกรมควบคุมมลพิษ จะได้รับทราบข่าวสารเพื่อนำไปวางแผนในชีวิตประจำวันได้” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 พฤศจิกายน 2566

“ชนน​พัฒ​ฐ์​” จัดโครงการดูแลรถมอเตอร์ไซค์ให้ ปชช.หวังลดอุบัติเหตุในพื้นที่ พร้อมลุยแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง ต. ม่วงงาม

,

“ชนน​พัฒ​ฐ์​” จัดโครงการดูแลรถมอเตอร์ไซค์ให้ ปชช.หวังลดอุบัติเหตุในพื้นที่ พร้อมลุยแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง ต. ม่วงงาม

นายชนน​พัฒ​ฐ์​ นาค​สั้ว สส.สงขลา เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้สนับสนุนโครงการ​ศูนย์อาชีวะจิตอาสาช่วยประชาชน ร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพสิงหนคร (รัตน์ ประธานราษฎร์นิกร)และ สถานีตำรวจภูธรม่วงงาม
เพื่อดูแลรถมอเตอร์ไซค์ให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซม​ไฟท้าย ตรวจระบบไฟหน้า ไฟเลี้ยว
ถ้าไฟเสียเราก็ทำการเปลี่ยนหลอดไฟให้ หรือสำหรับรถที่เข้าเกณฑ์​เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็สามารถทำโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

“ไฟท้ายรถมอเตอร์ไซค์ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากในการขับขี่ รถที่ไฟท้ายไม่ติดในช่วงเวลากลางคืนจะเป็นอันตราย​ต่อผู้ใช้รถและคนรอบข้าง อุบัติเหตุ​หลายครั้งก็มาจากปัญหานี้ ผมเลยคิดโครงการเปลี่ยนไฟรถมอเตอร์ไซค์​ ฝให้สำหรับชาวบ้านเพื่อความปลอดภัย ในการใช้รถในเวลากลางคืน”นายชนน​พัฒ​ฐ์​ กล่าว

นอกจากนี้ นายชนนพัฒฐ์ ยังได้ลงพื้นที่ดูแลความเดือดร้อนน้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลม่วงงาม หมู่ที่ 3 โดยได้นำรถแบคโฮและเครื่องจักรในการขุดลอกคูระบายน้ำให้น้ำสามารถไหลลงสู่ทะเลได้สะดวก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งตนพร้อมแก้ไขทุกเรื่องที่จะทำให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดี มีฐานความสุขที่ดีขึ้น และหลุดพ้นปัญหาต่างๆ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 พฤศจิกายน 2566

“รมว.ธรรมนัส” เดินหน้า 3 นโยบาย ขับเคลื่อนการดำเนินงานของ กยท. มุ่งสร้างเสถียรภาพยาง ปราบปรามการนำเข้ายางผิดกฎหมาย ประสานภาคเอกชนร่วมลงทุน

,

“รมว.ธรรมนัส” เดินหน้า 3 นโยบาย ขับเคลื่อนการดำเนินงานของ กยท. มุ่งสร้างเสถียรภาพยาง ปราบปรามการนำเข้ายางผิดกฎหมาย ประสานภาคเอกชนร่วมลงทุน

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายขับเคลื่อนการบริหารยางพารา โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารระดับสูงของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นำโดย นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ กยท. คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย พนักงานในสังกัด ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกันตัง กยท. สำนักงานใหญ่

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ต้องการมาพบปะและหาแนวทางการขับเคลื่อนงานร่วมกัน ซึ่งต้องการให้ทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการการทำงานไปพร้อมกัน โดยมุ่งเน้น 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
1) การปรับสมดุลปริมาณยางพาราในประเทศ ได้มอบหมายให้ กยท. ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร ตรวจสอบสต็อกยางพาราให้ตรงกัน รวมถึงให้ตรวจสอบจำนวนสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและไม่ขึ้นทะเบียน เพื่อจัดทำเป็น Big data ใช้ในการบริหารจัดการยางให้เกิดเสถียรภาพ
2) การปราบปรามการนำเข้าสินค้าภาคการเกษตรมาสู่ราชอาณาจักรแบบผิดกฎหมาย จะต้องเอาจริงเอาจัง และมีบทลงโทษอย่างเด็ดขาดสำหรับผู้กระทำผิด และ
3) ดึงภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนกับ กยท. โดยมีแนวทางในการสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากยางพารา เช่น ยางล้อรถยนต์ เป็นต้น เพื่อใช้ในส่วนราชการ และใช้ภายในประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการส่งยางออกนอกราชอาณาจักรด้วย

“อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าภายใต้การกำกับดูแลของผู้บริหาร กยท. จะสามารถเดินหน้าหามาตรการต่าง ๆ มาขับเคลื่อนให้ราคายางดีดีกว่านี้ เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางอยู่ดีกินดี และสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวสวนยางให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 พฤศจิกายน 2566

“สส.สัมพันธ์”เยี่ยมคารวะ“รองนายกรัฐมนตรี” มาเลเซีย หารือแนวทางผลักดันพัฒนาพื้นที่ติดต่อทางชายแดนไทย-มาเลเซีย เชื่อเป็นของขวัญให้ ปชช.ทั้ง 2 ประเทศ

,

““สส.สัมพันธ์”เยี่ยมคารวะ“รองนายกรัฐมนตรี” มาเลเซีย หารือแนวทางผลักดันพัฒนาพื้นที่ติดต่อทางชายแดนไทย-มาเลเซีย เชื่อเป็นของขวัญให้ ปชช.ทั้ง 2 ประเทศ

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส. นราธิวาส เขต 3 และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนได้เข้าเยี่ยมคารวะ ท่านดาโต๊ะ ศรี ฮัจญี ฟาดิลละห์ บิน ฮัจญี ยูโซ๊ะ (YAB Dato’ Sri Haji Fadillah Bin Haji Yusof) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเพาะปลูกและสินค้าโภคภัณฑ์ (Timbalan Perdana Menteri Dan Menteri Perladangan Dan Komoditi) ณ อาคารรัฐสภามาเลเซีย เพื่อหารือถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อไทยและมาเลเซีย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า การค้าชายแดนบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย ในอำเภอตากใบและอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องร่วมกันไว้ ทั้งนี้จะเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า การขนส่งสินค้าข้ามแดน การเดินทางของประชาชน การส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว เป็นการพัฒนาที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และประชาชนอย่างแท้จริง ตามแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม

“การหารือในวันนี้นั้นเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนโครงการให้บรรลุผลสำเร็จทั้งโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส – เปิงกาลันกูโบร์ รัฐกลันตัน มาเลเซีย และโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก (ไทย-มาเลเซีย) แห่งที่ 2 อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส – เมืองรันเตาปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย”นายสัมพันธ์ กล่าว

นายสัมพันธ์ เปิดเผยด้วยว่า ดาโต๊ะ ศรี ฮัจญี ฟาดิลละห์ เห็นพ้องต้องกันที่จะร่วมมือผลักดันการพัฒนาพื้นที่ติดต่อทางชายแดนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางสัญจรของประชาชน การเพิ่มประสิทธิภาพทางการค้าชายแดน การลงทุนและการท่องเที่ยว ซึ่งตั้งความหวังว่า โครงการที่ขับเคลื่อนร่วมกันจะเป็นของขวัญให้กับประชาชนทั้งสองประเทศที่ดีที่สุด และท่านได้ให้เกียรติตอบรับคำเชิญ พร้อมที่จะเยือนจังหวัดนราธิวาส ประเทศไทย ในโอกาสอันใกล้นี้เพื่อส่งเสริมมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2566