โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรมพรรค

“พล.อ.ประวิตร” คลอดแผนแม่บทอุตฯเหมืองแร่ เตรียมใช้ปี66-70 สร้างเม็ดเงินลงทุนในประเทศ

,

“พล.อ.ประวิตร” คลอดแผนแม่บทอุตฯเหมืองแร่
เตรียมใช้ปี66-70 สร้างเม็ดเงินลงทุนในประเทศ

วันที่ 14 ก.ย.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ครั้งที่2/2565 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ พ.ศ.2560-2564 มีผลใช้ได้จนถึง 31ธ.ค.65 และรับทราบ มติ คณะรัฐมนตรี เมื่อ 2 ส.ค.2565 เห็นชอบหลักการต่อนโยบายด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และก.อุตสาหกรรมประสานความร่วมมือกับ ก.ทรัพย์ฯ และก.การอุดมศึกษาฯ ในการกำหนดมาตรการที่เหมาะสม

ทั้งนี้ พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา เห็นชอบ(ร่าง)แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่2 (พ.ศ. 2566-2570) โดยให้เน้นการมีส่วนร่วม และสร้างการรับรู้ให้สาธารณะชนทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ และมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ทรัพยากรแร่ อย่างคุ้มค่า และยั่งยืน โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ,การพัฒนาที่ยั่งยืน(SDGs) ,BCG Model และหลักธรรมาภิบาล

พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ ก.อุตสาหกรรม(กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่) และกรมทรัพยากรธรณี เร่งรัดการปรับปรุงแก้ไข (ร่าง)แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่2 ให้เสร็จโดยเร็ว พร้อมเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ทุกภาคส่วน อย่างจริงจัง และให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม.ตรวจแนววางกระสอบทรายเสริมจุดฟันหลอริมเจ้าพระยา ป้องกันน้ำทะลักไหลท่วมบ้านเรือนปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.กทม.ตรวจแนววางกระสอบทรายเสริมจุดฟันหลอริมเจ้าพระยา ป้องกันน้ำทะลักไหลท่วมบ้านเรือนปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.จักรพันธ์ พรนิมิตร พปชร.กทม. เขตบางพลัด-บางกอกน้อย” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการวางแนวกระสอบทรายจุดฟันหลอ (ไม่มีเขื่อนคอนกรีตถาวร) ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเชิงสะพานกรุงธน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำทะลักเหมือนกับปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้กทม.ได้ผู้รับเหมาสร้างเขื่อนถาวรในจุดนี้แล้ว เพื่อแก้ปัญหาน้ำทะลักและท่วมบ้านเรือนประชาชนที่พักอาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยา

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม.ประสานเจ้าหน้าที่ จัดรถรับ-ส่งปชช. วางกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม

, ,

ส.ส.พปชร.กทม.ส่งทรายช่วยเหลือปชช. ป้องกันน้ำท่วมที่พักอาศัย

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ศิริพงษ์ รัสมี พปชร.กทม. เขตหนองจอก” พร้อมด้วยทีมงานนำทรายและกระสอบทรายมามอบให้กับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตหนองจอก กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นในการป้องกันน้ำท่วมที่พักอาศัย โดยมีชาวบ้านเข้ารับบริการกรอกทรายเพื่อนำไปใช้ทำเป็นทางเดิน และกั้นเป็นแนวเขื่อนเพื่อป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม.ประสานเจ้าหน้าที่ จัดรถรับ-ส่งปชช. วางกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม

, ,

ส.ส.พปชร.กทม.ประสานเจ้าหน้าที่ จัดรถรับ-ส่งปชช. วางกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ พปชร. กทม.เขตบางกะปิ – วังทองหลาง” พร้อมด้วยนายนพ ชูสอน ผู้อำนวยการเขตบางกะปิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา และเจ้าหน้าที่ทหารจิตอาสาจาก ช. พัน 1 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณหมู่บ้านสวนสน ซอยรามคำแหง 60 เพื่อรับฟังปัญหาและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง

นอกจากนี้ ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหาร และอาสาสมัครมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) เพื่อจัดรถและเจ้าหน้าที่รับส่งประชาชน พร้อมทั้งกั้นแนวกระสอบทรายตลอดแนวริมคลองหัวหมาก รวมถึงบริเวณท้ายซอยสวนสน 12 เพื่อบล็อกน้ำและทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 กันยายน 2565

“พล.อ. ประวิตร” ลงมอบสิทธิที่ทำกินพื้นที่ 5 ป่าให้ปชช.จ.ตาก เช็คแผนพัฒนาจัดหาแหล่งน้ำป้อนภาคเกษตร

,

“พล.อ. ประวิตร” ลงมอบสิทธิที่ทำกินพื้นที่ 5 ป่าให้ปชช.จ.ตาก เช็คแผนพัฒนาจัดหาแหล่งน้ำป้อนภาคเกษตร

วันนี้ (12 ก.ย. 65) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เดินทางไปตรวจราชการติดตามสถานการณ์ชายแดนและสถานการณ์น้ำในพื้นที่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก และเดินทางไปยังวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา บ้านมั่นคงเมืองแม่สอด โดยมีส.ส.พรรคพลังประชารัฐ อาทิ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ สส.พปชร. จ.นครราชสีมา ให้การต้อนรับ พร้อมเป็นประธาน เปิดงาน “บจธ.สอบสิทธิ มอบสุขในที่ดินทำดิน” เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติและมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับคัดเลือกทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ทั้งนี้พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน(บจธ.) ได้กล่าวรายงาน ถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องที่ทำกิน และนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวต้อนรับคณะ

พลเอกประวิตร กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้ทำการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้กับประชาชนในพื้นที่ จำนวน 5 ป่า ประกอบด้วย “ป่าช่องแคบและป่าแม่โกนเกน” “ป่าแม่ละเมา” “ป่าแม่สอด” “ป่าท่าสองยาง” และ “ป่าแม่ระกา” พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดตาก ให้กับประชาชนในพื้นที่ป่าช่องแคบและป่าแม่โกนเกน จำนวน 1,231 เล่ม

ทั้งนี้ พื้นที่วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชาบ้านมั่นคงเมืองแม่สอด ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จำนวน 43 ครัวเรือน ได้เข้าใช้ประโยชน์โดยการเช่าที่ดิน สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)บจธ. ในเนื้อที่ 58 ไร่เศษ จุดเด่นชุมชน “ชุมชนเกษตรอาหารปลอดภัยในพื้นที่ความมั่นคงเมืองแม่สอด” ระยะเวลาใน 1 ปีเศษ สมาชิกในชุมชนได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ มีความก้าวหน้าในการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นอย่างมาก สมาชิกมีที่อยู่อาศัยมีเงินเก็บ และมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถสร้างภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่จนได้รับการสนับสนุนการพัฒนาจากหลายภาคส่วน ร่วมกันบูรณาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมการอบรมตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้สมาชิกในชุมชน ในพื้นที่มีตลาดนัดชุมชนของตนเอง สมาชิกมีรายได้จากการปลูกและจำหน่ายพืชผัก และผลผลิตแปรรูปในพื้นที่ ถือเป็นอีกหนึ่ง (Best Practice) ของการดำเนินงานของ บจธ. ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาเกษตรกร ผู้ยากจน

พลเอกประวิตร ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)ได้ลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด ต.พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ โดย มี นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอสถานการณ์น้ำในภาพรวม และผู้แทนโครงการชลประทานตาก นำเสนอสถานการณ์น้ำในพื้นที่ พร้อมพบปะพี่น้องประชาชนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการทำงาน

พลเอก ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน จึงได้ดำเนินการเป็นนโยบายหลักโดยมุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สมบูรณ์ เพื่อรองรับการขยายตัวทางสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต จากการลงพื้นที่จังหวัดตากในครั้งนี้ ได้รับทราบข้อมูลทั้งเรื่องสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เรื่องที่ดินทำกิน สถานการณ์น้ำในพื้นที่ และสถานการณ์ชายแดน ที่สำคัญประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังประกอบอาชีพค้าขายและทำการเกษตร รวมถึงจังหวัดตากยังเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ น้ำเป็นปัจจัยสำคัญ จึงต้องมีการพัฒนาเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำและบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอ ปัจจุบันมีอ่างเก็บน้ำแม่สอดตอนบนและอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด เป็นแหล่งน้ำที่ใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภคและการเกษตร และรองรับการขยายตัวของเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตากได้อย่างเพียงพอ

ทั้งนี้ ยังได้รับรายงาน ผลสำเร็จในการขับเคลื่อนแผนงาน โดย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอถึงโครงการด้านน้ำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.ตาก ช่วงปี 61-64 มีทั้งสิ้น 588 โครงการ ความจุ 29.61 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 40,162 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 32,476 ครัวเรือน และพื้นที่ได้รับการป้องกัน 10,100 ไร่ เช่น การก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนแม่สอด ระยะที่ 2 อ.แม่สอด และการก่อสร้างฝายปู่เอ๋อพร้อมระบบส่งน้ำ อ.แม่ระมาด ส่วนแผนงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำปี 65 จำนวน 29 แห่ง ความจุ 0.057 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 6,000 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 9,674 ครัวเรือน เช่น การก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนแม่สอด และงานวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำทางหลวงหมายเลข 105 บริเวณหมู่บ้านแม่กึ๊ดหลวงหมู่ 1-หมู่บ้านแม่กึ๊ดสามท่าหมู่ 5 อ.แม่สอด

นอกจากนี้ ยังมีโครงการด้านน้ำที่สำคัญ ปี 66-67 จำนวน 8 โครงการ เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 28.83 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 13,935 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 3,765 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับการป้องกัน 2,506 ไร่ เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยฉลอม อ.บ้านตาก และอ่างเก็บน้ำแม่ยะพร้อมระบบส่งน้ำ อ.บ้าน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ยกระดับใช้กฎหมายปราบค้ามนุษย์เข้ม หลังสภาสหรัฐฯการันตีขึ้น Tier2 ผนึกองค์กรต่างประเทศร่วมดูแล

,

“พล.อ.ประวิตร” ยกระดับใช้กฎหมายปราบค้ามนุษย์เข้ม
หลังสภาสหรัฐฯการันตีขึ้น Tier2 ผนึกองค์กรต่างประเทศร่วมดูแล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) และคณะกรรมการประสาน และกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ครั้งที่ 2/2565 ที่ประชุมคณะกรรมการ ปคม. ได้รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี65 โดย ก.ต่างประเทศ สหรัฐฯ ได้จัดอันดับประเทศในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ จำนวน 188 ประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้ดำเนินการสอดคล้องตามมาตรฐานที่สหรัฐฯกำหนด และได้รับการยกระดับจาก Tier 2 (WL) ในปี 64 ขึ้นเป็น Tier 2 ในปี 65 พร้อมได้รับรางวัล “TIP REPORT HERO” 1 คน ได้แก่ นางอภิญญา ทาจิตต์ รอง ผอ. ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเล ซึ่งถือเป็นความสำเร็จตามเป้าหมาย และนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งยังคงมีความพยายาม ที่จะพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานต่อไป

ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเห็นชอบ ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาเซียน-ออสเตรเลีย เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (ASEAN – ACT) ซึ่ง ก.ยุติธรรมได้รายงานความคืบหน้าการจัดทำ ร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่าง ไทย – ออสเตรเลีย ในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ และความร่วมมือระหว่าง ไทย – ฟิลิปปินส์ ว่าด้วยการสืบสวน สอบสวนอาชญากรรมข้ามชาติ คดีค้ามนุษย์ โดยมีหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบได้แก่ ก.ยุติธรรม พร้อมทั้งให้ สำนักงานตำวจแห่งชาติ (สตช.) ,กระทรวงพัฒนาพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษยจ์ (พม.) กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กระทรวงแรงงาน(รง.) และสำนักงานอัยการสูงสุด ให้การสนับสนุนข้อมูล และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ และเห็นชอบ แนวทางการขับเคลื่อนตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) ซึ่งจะเน้นการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย เป็นสำคัญ และสอดคล้องกับกรอบการประเมิน เพื่อจัดอันดับ ในปีต่อไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ปกค. ได้เห็นชอบ ในหลักการแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ พ.ศ.2566-2570 ซึ่งประกอบด้วย 4ประเด็นยุทธศาสตร์และ 9กลยุทธ์ รวมทั้งได้เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญระดับชาติ และคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญระดับภาค หรือระดับหน่วยงาน พ.ศ.2565 และการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ให้มีความต่อเนื่อง และบรรลุเป้าหมายเพื่อการยกระดับ TIP REPORT ของไทย ต่อไป

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยงาน ที่ช่วยกันทำงาน อย่างทุ่มเท เสียสละ ทำให้ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับขึ้นเป็น Tier2 ในปีนี้ พร้อมกำชับ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้บูรณาการความร่วมมือกัน อย่างต่อเนื่อง และให้เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องบังคับใช้กม.อย่างจริงจัง พร้อมยืนยันความตั้งใจ ที่จะต้องกำจัด”การค้ามนุษย์” ให้หมดไปจากประเทศไทย โดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาภาพลักษณ์ และส่งสริม เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เพื่อการพัฒนาประเทศ ต่อไป


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.นครศรีธรรมราช จัดอบรมอาชีพดีพร้อม สร้างงานสร้างอาชีพปชช. กระตุ้นศก.ฐานราก

,

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ พปชร.จ.นครศรีธรรมราช” ร่วมเปิดโครงการพัฒนาส่งเสริมเพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม (อาชีพดีพร้อม) โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมี ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในพิธีเปิด ณ ศูนย์นวัตกรรมเกษตรสมัยใหม่ที่ยั่งยืน ลุ่มน้ำปากพนัง อำภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

ส.ส.อาญาสิทธิ์ กล่าาว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างทักษะและพัฒนาด้านอาชีพให้กับประชาชน ในการสร้างงานสร้างอาชีพและรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว เพื่อให้เกิดการพึ่งพาตนเองควบคู่กับการสร้างชุมชนเข้มแข็ง เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมรับการฝึกอบรมวิชาชีพในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นตั้งใจยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด

,

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สัญญา นิลสุพรรณ พปชร.จ.นครสวรรค์ เขต 3” มอบถุงยังชีพให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พี่น้องอสม. ในพื้นที่ต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลบรรพตพิสัย และโรงพยาบาลสนาม อำเภอบรรพตพิสัย พร้อมกันนี้ยังได้มอบเก้าอี้ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลบ้านส้มเสี้ยว ตำบลท่างิ้ว อำเภอบรรพตพิสัย เพื่อใช้ประโยชน์ภายในโรงพยาบาล

สำหรับการลงพื้นที่มอบสิ่งของในครั้งนี้ เป็นไปตามโครงการ “ใจถึงใจ ปันน้ำใจ” ซึ่งมูลนิธิพระราหู โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ และชมรม Fc สัญญาใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน โดยส.ส.สัญญา ได้เล็งเห็นความสำคัญและมีความห่วงใยต่อบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในรพ.สนามของ อ.บรรพตพิสัย และเจ้าหน้าที่ อสม.ที่เสียสละเวลาในการทำงานท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังได้ร่วมพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากปัญหาต่างๆ เพื่อนำไปหาแนวทางแก้ไขและช่วยเหลือต่อไป

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์​พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 กันยายน 2565

ชัยวุฒิ เผย “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่

ชัยวุฒิ เผย “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่

,

วันนี้ (4 ก.ย.65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวระหว่างลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนและติดตามการดำเนินงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่จ.สงขลา โดยเปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจราชการ และติดตามสถานการณ์น้ำที่ จ.กระบี่ และตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และปัญหาที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นภารกิจหลักที่ พลเอกประวิตร ให้ความสำคัญรวมทั้งการพัฒนาเมือง และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ในทุกจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ มี ส.ส.ของรัฐบาลอยู่จำนวนมาก ทำให้มีส่วนช่วยทำงานในการนำข้อเสนอแนะของประชาชน มาช่วยพัฒนา แก้ไขปัญหาต่างๆให้ตรงตามความต้องการของพีน้องประชาชนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงนี้พลเอกประวิตร ลงพื้นที่มากเป็นพิเศษและมีกระแสฟีเวอร์อย่างมาก เป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่าพลเอกประวิตรเป็นคนแข็งแรงอยู่แล้ว และเป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งใจทำงานมาอยู่โดยตลอด แต่ที่ผ่านมาโดยบทบาทการเป็นรองนายกฯอาจจะไม่ได้ลงพื้นที่เยอะ ก็ต้องสลับกันลงพื้นที่กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้เมื่อพลเอกประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้พลเอกประวิตร ต้องลงพื้นที่เยอะกว่าปกติเพื่อชดเชย ระหว่างที่ พลเอกประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อร่วมกันทำงานดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่และมีความต่อเนื่อง และเชื่อว่าการลงพื้นที่ พรุ่งนี้ของพลเอกประวิตร จะได้รับแรงเชียร์ที่ดีอย่างแน่นอนเพราะแฟนคลับ พลเอกประวิตร และพลเอกประยุทธ์ มีเยอะอยู่แล้ว

“การลงพื้นที่ มีข้อดี คือจะได้ไปพบพี่น้องประชาชน ได้พบกับตัวแทนชาวบ้าน มีปัญหามีอะไรก็มาร้องเรียนได้ หรือมีข้อเสนอแนะอย่างจะพัฒนาอะไรรัฐบาลจะได้รับฟังและรีบดำเนินการให้เพื่อให้ตรงกับความต้องการกับประชาชน ” รัฐมนตรีชัยวุฒิกล่าว

นายชัยวุฒิ ยังกล่าวถึงการเตรียมพร้อมเลือกตั้ง ในพื้นที่ภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐโดยเฉพาะที่ จ.สงขลาว่า ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส. ที่ จ.สงขลา ถึง 4 คน เชื่อว่า สิ่งที่รัฐบาล และพลเอกประวิตร ทำมา จะทำให้พรรคพลังประชารัฐ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาล อื่นๆจะประกาศมาปักธง แย่งพื้นที่ จ.สงขลา ด้วยนั้น ก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรคแต่ช่วงนี้ พรรคพลังประชารัฐอย่างเน้นที่การทำงานไม่ได้ต้องการสร้างประเด็นทางการเมืองหรือมาหาเสียงกัน เพราะถึงเวลาเลือกตั้งเชื่อว่าคนใต้ ยังรักลุงตู่ และรักลุงป้อม อยู่เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยน และคิดว่าจะรักมากกว่าเดิมด้วย เพราะเรามีผลงานในพื้นที่จำนวนมากที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งพี่น้องคนใต้รู้ดีกันอยู่แล้ว มองหน้าก็รู้ใจ

ชัยวุฒิ เผย “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์​พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” มั่นใจหาน้ำต้นทุนป้อนฉะเชิงเทราเพียงพอถึงปี 2580 ระดมป้องกันภัยแล้งสกัดน้ำเค็มเพิ่มประสิทธิภาพช่วยปชช.ระยะสั้น-ยาว

,

“พล.อ.ประวิตร” มั่นใจหาน้ำต้นทุนป้อนฉะเชิงเทราเพียงพอถึงปี 2580
ระดมป้องกันภัยแล้งสกัดน้ำเค็มเพิ่มประสิทธิภาพช่วยปชช.ระยะสั้น-ยาว

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร จากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อตรวจราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมคณะลงพื้นที่ พร้อมมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ อาทิ นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ. จ. ฉะเชิงเทรา นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี เขต3 นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี เขต 4 น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 รวมถึง น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทีมโฆษกพรรค โดยได้ติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำ และความพร้อมในการพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจัดหาแหล่งน้ำต้นทุน โดยได้ตรวจ สถานีผลิตน้ำประปาฉะเชิงเทรา และเยี่ยมชมคลองนครเนื่องเขต (คลองท่าไข่) โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นำเสนอสภาพปัญหาของพื้นที่ ของจังหวัดที่แบ่งออกเป็น 2ฝั่ง ของแม่น้ำบางประกง พร้อมด้วยนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน และนายเอกชัย อัตถกาญน์นา รองผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ปฎิบัติการ 3 นำเสนอการบริหารสถานการณ์น้ำ และงบประมาณในการดูแลระบบน้ำ ทั้งในด้านการจัดหาน้ำแหล่งน้ำต้นทุนในและนอกพื้นที่ การผลักดันน้ำเค็มที่ต้องลดปริมาณความเค็มในช่วงฤดูแล้ง

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งได้มีการเตรียมการในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อการเตรียมการเรื่องน้ำดิบที่จะใช้ถึงปี 2580 โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำเค็มจะต้องป้องกันในจุดพื้นที่บางปะกง เราไม่สามารถเอาน้ำดิบมาไล่ระบบนิเวศได้ตลอด ขอฝากพวกเราช่วยกันดู รัฐบาลได้ให้งบประมาณเกี่ยวกับเรื่องน้ำมาทุกปี โดย สทนช.ได้รายงานให้ทราบ โดยกรมชลประทานได้มีการเตรียมการต่างๆในการให้ประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อนในการใช้น้ำ

ดังนั้นการประปาต้องเตรียมการสำรองเพื่อป้อนให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องป้องกันน้ำเค็มที่จะรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ในสัปดาห์หน้าเราก็จะอนุมัติงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ไปในการศึกษาในการที่จะทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม ทางด้านฝั่งบางปะกง

ขณะเดียวกัน กรมชลประทานก็จะเร่งหาแหล่งน้ำต้นทุน เร่งก่อสร้างแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จและสามารถบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการประสานงานกับกระทรวงทรัพยากร ในการอนุมัติพื้นที่อ่างเก็บน้ำวังตะโหนด ถ้าเราได้มาทำให้การกระจายน้ำดีขึ้นมาก และสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีเพิ่มมากขึ้น ส่วนการป้องกันน้ำในช่วงฤดูฝนได้สั่งการให้มีการกระจายน้ำจากภาคเหนือไม่ให้มีน้ำท่วม และยืนยันว่าน้ำในปีนี้จะไม่ท่วมเหมือนปี 2554 เพราะเราพยายามทำอยู่ตลอดเวลาและทุกพื้นที่ ผ่านกลไกคณะกรรมการลุ่มน้ำ 22 ลุ่มน้ำในการกำกับประสาน กับคณะกรรมการน้ำจังหวัดทุกจังหวัดในการที่จะดูว่าน้ำยังมีมากขึ้นหรือน้อยลง หรือจะแล้ง เราทำมา 3 ปี แล้ว ไม่มีแล้งเลย ไม่มีประกาศหน่วยแล้งเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ รัฐบาลมีความห่วงใยอย่างมากกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว

“ถ้าประชาชนไม่มีน้ำ ก็ด่ารัฐบาล ประชาชนมีอย่างเดียวคือต้องด่ารัฐบาล แต่ต้องขอความความเห็นใจให้ข้าราชการทุกคนที่พยายามทำงานให้พวกเราได้อยู่ดีกินดีขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี และเข้าใจน้ำเค็มที่ทะลักเข้ามาจะมีผล โดยเฉพาะน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหาแนวทางเพื่อให้เป็นระบบในระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากทุกๆปี ในการที่เป็นข้าราชการถือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประชาชน อย่าคิดว่าเราเป็นนายของประชาชน เรากินเงินเดือนภาษีราษฎรฉะนั้นต้องจำไว้ด้วยว่าเราจะต้องประสานงานกับประชาชนทุกอย่างให้ร่วมมือการทำงาน” พล.อ.ประวิตร กล่าว

พร้อมกับให้มการบูรณาการสร้างการรับรู้ส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในทุกพื้นที่ ประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็ต้องบอกให้ข้าราชการ และข้าราชการต้องสนองต่อความต้องการของประชาชนนั่นเป็นเรื่องธรรมดา ที่รัฐบาลต้องการให้ข้าราชการทำงานอย่างเต็มที่สนองตอบนโยบายของรัฐบาลและสนองต่อความต้องการของประชาชน พร้อมกันนี้ขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการทุกคนที่มุ่งมั่นปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังเต็มความสามารถ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ประชาชน ขอให้ทุกท่านตระหนักเสมอว่าเราเป็นข้าราชการต้องทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จงมุ่งมั่นทุ่มเทปฏิบัติงานและทำหน้าที่ให้เต็มความรู้ความสามารถในการสนองตอบความต้องการของประชาชน และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน

อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ทั้ง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติแห่งชาติ ประสานบูรณาการขับเคลื่อนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ป้องกันแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนครอบคลุมถึงระยะยาว โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาน้ำเค็มที่จะรุกล้ำเข้าในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี อาทิตย์หน้านี้เราจะอนุมัติงบประมาณ 100 กว่าล้านบาท เพื่อศึกษาการทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม ขณะที่กรมชลประทานต้องหาแหล่งน้ำต้นทุน เร่งก่อสร้างเร่งแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จสามารถบริหารจัดการน้ำได้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการประสานงานกับกระทรวงทรัพย์ฯ และการอนุมัติพื้นที่อ่างเก็บน้ำวังโตนด ถ้าได้มาจะทำให้กระจายน้ำได้ดีสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงฤดูแล้งปลูกพืชไร่ได้ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้น การประปาส่วนภูมิภาคต้องวางแผนการใช้น้ำให้ครอบคลุมการใช้น้ำอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ พร้อมสำรองน้ำไว้ใช้ การประปาทุกแห่งต้องมีแหล่งน้ำสำรอง ถ้าไม่มีจะใช้น้ำดิบจากธรรมชาติอย่างเดียวไม่ได้

ขอให้ช่วยกันดูแลถ้าเรามีน้ำสมบูรณ์ทุกพื้นที่และทุกฤดูกาล จะทำให้การปลูกพืชไร่ของประชากรดีขึ้น ความเป็นอยู่ต่างๆจะดีขึ้น ขอฝากไว้ด้วยว่าเราจะต้องทำงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือข้าราชการทุกคน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กันยายน 2565

คีย์แมนขับเคลื่อนภารกิจรัฐบาลด้วยใจ

, ,

คีย์แมนขับเคลื่อนภารกิจรัฐบาลด้วยใจ

“ใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่ใช้แรงบันดาลใจ” ภารกิจล้นมือ “พล.อ.ประวิตร”พึ่งพาได้ทุกมิติ คีย์แมนคนสำคัญในการบริหารประเทศ

กว่า 3 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติ และยังเป็นที่พึ่งพาของ ส.ส.กว่า 100 คน ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่รับใช้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศ แล้ว พล.อ.ประวิตร ก็ยังเป็น ประธานกรรมการมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด มีเป้าหมายเพื่อการส่งเสริมชุมชนให้เข้ามาอนุรักษ์ป่าไม้ และการดูแลเจ้าหน้าที่ เพื่อการปกป้องผืนป่าของประเทศไทย

ที่สำคัญไปกว่านั้น พล.อ.ประวิตร ยังขับเคลื่อนส่งเสริมเยาวชนไทยในด้าน กีฬา ที่ผลักดันให้มีการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาไปใช้สู่ความเป็นเลิศ จนประสบความสำเร็จในด้านกีฬานานาชาติ ในเวทีต่างๆ ด้วยการผลักดันในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และประธานกรรมการคณะกรรมการการกีฬา

ภารกิจของ พล.อ.ประวิตร ยังดูแลคนไทยทั้ง 77 จังหวัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ภัยพิบัติต่าง ๆ ท่านก็นั่งเป็นหัวโต๊ะ ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ,ประธานกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และประธานกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ บริหารจัดการความปลอดภัยทางด้านชีวิตและทรัพย์สินให้กับคนไทยทุกคน

นอกจากนี้ปัญหาเรื่องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม น้ำแล้ง พล.อ.ประวิตร ก็ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เพื่อแก้ปัญหากับกับทุกภาคของประเทศไทย เพื่อให้พ้นภัยพิบัติ ป้องกันอุทุกภัยให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ ผ่านการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ,ผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ,ประธานคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา และ ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

อีกปัญหาหนึ่งที่ทั่วโลกจับตามองมาที่ประเทศไทย ก็คือ การต่อต้านการค้ามนุษย์ หรือ Trafficking in Persons (TIP) Report 2022 (2565) ของ สหรัฐฯ ที่ได้ประกาศยกระดับประเทศไทยขึ้นสู่ระดับที่ 2 (Tier 2) โดยขยับขึ้นจากการเป็นประเทศในกลุ่ม 2 บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watchlist) ในปีที่ผ่านมา ก็คงต้องยกผลงานเด่นนี้ให้กับ พล.อ.ประวิตร ที่ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ทำให้ประเทศไทยดูดีขึ้นในสายตาของชาวโลก

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กันยายน 2565

พปชร. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ จ.กาฬสินธุ์ “จำลอง ภูนวนทา” มั่นใจปชช.อีสานตอบรับสร้างผลงานชนะคู่แข่งแน่นนอน

, ,

พปชร. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ จ.กาฬสินธุ์ “จำลอง ภูนวนทา”
มั่นใจปชช.อีสานตอบรับสร้างผลงานชนะคู่แข่งแน่นนอน

พปชร. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ จ.กาฬสินธุ์ “จำลอง ภูนวนทา”
มั่นใจปชช.อีสานตอบรับสร้างผลงานชนะคู่แข่งแน่นนอน

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า วันนี้พรรคได้เปิดตัว นายจำลอง ภูนวนทา ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย พบว่ากระแสของพรรคพลังประชารัฐในภาคอีสาน มีกระแสที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมเอง มีนโยบายในการผลักดันให้เกิดนิคมอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ ให้คนทำงานใกล้บ้าน ไม่ต้องเดินทางมาทำงานในกรุงเทพฯ หรือในจังหวัดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)

“ถ้ามีโรงงานในภาคอีสานพี่น้องไม่ต้องจากบ้านมาทำงานในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำให้พี่น้องชาวภาคอีสานตอบรับเป็นอย่างมาก ทำให้เชื่อมั่นว่าการที่พรรคมีนโยบายแบบนี้ ก็จะทำให้ผู้สมัครในพื้นที่ภาคอีสาน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้มีว่าที่ผู้สมัครติดต่อมาหลายคน ก็ต้องบอกว่าหนักใจ ที่บอกเช่นนี้เพราะว่ามีผู้สมัครมาให้เลือกหลายคนไม่รู้จะเลือกใครดี ซึ่งมั่นใจว่าจะปักธง ส.ส.อีสาน มากกว่าของเดิมอย่างน้อย 3 เท่าแน่นอน”

นายจำลอง ภูนวนทา ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ขอลงที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 3 ที่เดิม เนื่องจากรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตอบโจทย์ประชาชนทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน การดูแลคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน การยับยั้งโรคระบาดโควิด-19 และเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ จากการลงพื้นที่และได้สัมผัสกับชาวบ้าน ชาวบ้านสะท้อนว่าไม่อยากให้หนีจากพลังประชารัฐ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงความชัดเจนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิต
“ ส่วนตัวมองว่าไปที่ไหนก็ไม่อบอุ่นเท่ากับที่พรรคพลังประชารัฐ เพราะท่านหัวหน้าพรรค พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และรองหัวหน้าพรรค ให้การดูแลเป็นอย่างดี และให้เกียรติผู้สมัครทุกคน ฉะนั้นผมจึงตัดสินใจแล้วว่า เพราะผมอยู่ในพื้นที่ตลอด และมั่นใจว่าจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่มีแลนด์สไลด์แน่นนอน และยังมั่นใจว่าจะชนะด้วย ส่วนตัวผมเองมั่นใจว่าผมไม่กลัวเพื่อไทย ถ้ากลัวก็ไปอยู่กับเขาแล้ว เพราะผมมั่นใจในผลงานของพรรคพลังประชารัฐ “


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 สิงหาคม 2565