โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรมพรรค

“พล.อ.ประวิตร” นั่ง “ประธาน” ถก “กนภ.” เร่งรับมือสภาพอากาศผันผวนรุนแรง

,

“พล.อ.ประวิตร” นั่ง “ประธาน” ถก “กนภ.” เร่งรับมือสภาพอากาศผันผวนรุนแรง

วันที่ 25 สิงหาคม 2566 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแห่งชาติ (กนภ.) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมประชุม เพื่อปรับปรุงองค์กรและระเบียบราชการ รับงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ซึ่งได้รับทราบถึงการปรับปรุงกฎกระทรวงและการแบ่งส่วนราชการ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2566 ที่เปลี่ยนชื่อจาก กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยจะทำหน้าที่จะเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้ยังทำหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานกลางของประเทศ ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นหน่วยให้บริการข้อมูลข่าวสารเพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ศึกษาวิจัย พัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยี เพื่อการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทุกภาคส่วนต่อไป

ที่ประชุมมีมติแก้ไขเพิ่มเติม ระเบียบว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งการปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการภายใต้ กนภ.จำนวน 8 คณะ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเสนอให้ส่วนราชการต่างกระทรวง มีหน่วยงานรองรับร่วมขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวไปด้วยกัน

“การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ นับวันจะมีความผันผวนและทวีรุนแรงมากขึ้น โดยมีผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมของประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นเรื่องรอไม่ได้ ที่จะต้องเตรียมการรับมือ โดยกำชับขอให้คณะกรรมการฯ รวมทั้ง กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ศึกษา ติดตามและขับเคลื่อนดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในและระหว่างประเทศ เตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นไปด้วยกัน โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจและความร่วมมือกัน รับมือกับการเปลี่ยนแปลง ทั้งการป้องกันและการแก้ปัญหาไปพร้อมๆกัน เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้มากที่สุด” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2566

“อัครแสนคีรี”แนะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขุดลอกเขื่อนลำปะทาว กำจัดตะกอนดิน เพิ่มความจุในเขื่อน ป้องกันน้ำท่วม จ.ชัยภูมิ

,

“อัครแสนคีรี”แนะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขุดลอกเขื่อนลำปะทาว กำจัดตะกอนดิน เพิ่มความจุในเขื่อน ป้องกันน้ำท่วม จ.ชัยภูมิ

วันที่ 22 ส.ค.2566 ที่รัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)มอบหมายให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร.รับหนังสือจากสหพันธ์ครูแสะบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย โรงเรียนบ้านหันเชียงเทียน ตำบลเขวา อำเภอเมืองจังหวัดมหาสารคาม ภายใต้การประสานงานโดยนายปรีดา บุญเพลิง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคครูไทยเพื่อประชาชน

สำหรับโดยหนังสือดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ ขอให้คณะกรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)พิจารณามติก.ค.ศ.ที่คลาดเคลื่อนเพื่อเยียวยาผู้ส่งผลงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการว13/2556 น้ำสู่การพิจารณารับรองคุณสมบัติข้ารับการประเมิน โดยการเปิดประชุม ก.ค.ศ.

ทั้งนี้ ในรายละเอียดหนังสือ ยังอ้างถึง
1. หนังสือที่ศธ 0206.3/ว(23 สิงหาคม 2566 )นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวและขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า โดยเขื่อนลำปะทาวซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทน สังกัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งปัจจุบันเขื่อนลำปะทาวประกอบไปด้วย เขื่อนบนและเขื่อนล่าง ตั้งอยู่บนเขาของจังหวัดชัยภูมิ เขื่อนด้านบนจะอยู่ทางซ้าย เขื่อนด้านล่างจะอยู่ด้านขวา เป็นตัวผลิตไฟฟ้า เป็นเครื่องที่ตั้งอยู่ตีนเขา กรณีผลิตไฟฟ้าจะต้องปล่อยน้ำลงมาจากบนเขา ส่งไปที่ตัวเครื่องเจนเพื่อผลิตไฟ แล้วก็ป้อนไฟเข้าระบบ ในส่วนของเครื่องเจนเองจะอยู่ตรงตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอแก่งคล้อ หลังจากที่มีการสร้างเขื่อนนี้ มีการผลิตไฟฟ้า มีการปล่อยน้ำลงมา ก็จะได้ประโยชน์สองเรื่องหลักๆ เรื่องแรกคือเรื่อง ไฟฟ้าที่ได้ใช้ เรื่องที่ 2 คือ เกษตรกรที่อยู่ในเขตนาหนองทุ่มจะได้ใช้น้ำในการปล่อยน้ำลงมา เพื่อผลิตไฟฟ้า

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้เขื่อนลำปะทาว กำลังพบเจอปัญหาวิกฤติ หลักๆ คือการที่ไม่สามารถเก็บน้ำในเขื่อนได้ ปัจจุบันเขื่อนลำปะทาวเขื่อนบน ฃสามารถเก็บน้ำได้ 44 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนล่างกักเก็บน้ำได้ประมาณ 14 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่หลังจากสร้างใช้ระยะเวลานานยังไม่มีการขุดลอกในเขื่อน ทำให้เกิดปัญหา คือทำให้มีตะกอนดินสะสมมหาศาลจากการสำรวจพบว่ามีอยู่หลายล้านคิว ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมหรือเกิดเหตุ ช่วงพายุเข้ามาก็จะทำให้น้ำที่อยู่ในเขื่อนไหลทะลักและเข้าท่วมจังหวัดชัยภูมิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทศบาลเมือง

“ผมมีข้อเสนอ 2 ข้อ ข้อแรกคือ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวทั้งเขื่อนบนและเขื่อนล่าง ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับคือ ได้กำจัดตะกอนดิน เพิ่มความจุในเขื่อน และสามารถขยายกำลังผลิตไฟฟ้าได้ เพราะมีน้ำไว้ผลิตไฟมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันปัญหาน้ำไหลไปท่วมในตัวจังหวัดชัยภูมิ เมื่อเราเก็บน้ำได้มากขึ้นแล้ว ปัญหาน้ำที่จะล้นก็จะน้อยลง”

ข้อ 2 เพิ่มกำลังการผลิตไฟ โดยการติดตั้งเครื่อง Generator ในพื้นที่ตำบลโคกกุงซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับ ตำบลนาหนองทุ่ม จุดผลิตไฟเดิม และโดยตำบลโคกกุงนั้นเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ซึ่งเกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากน้ำที่ปล่อยลงมาเพื่อผลิตไฟ มีตัวอย่างให้เห็นที่ ตำบลนาหนองทุ่ม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” มอบหมาย “เลขาฯธรรมนัส” รับหนังสือจากสหพันธ์ครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ ขอให้ก.ค.ศ.พิจารณามติ ก.ค.ศ.ที่คลาดเคลื่อนเพื่อเยียวยาผู้ส่งผลงานตามหลักเกณฑ์

,

“พล.อ.ประวิตร” มอบหมาย “เลขาฯธรรมนัส” รับหนังสือจากสหพันธ์ครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ ขอให้ก.ค.ศ.พิจารณามติ ก.ค.ศ.ที่คลาดเคลื่อนเพื่อเยียวยาผู้ส่งผลงานตามหลักเกณฑ์

วันที่ 22 ส.ค.2566 ที่รัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)มอบหมายให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร.รับหนังสือจากสหพันธ์ครูแสะบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย โรงเรียนบ้านหันเชียงเทียน ตำบลเขวา อำเภอเมืองจังหวัดมหาสารคาม ภายใต้การประสานงานโดยนายปรีดา บุญเพลิง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคครูไทยเพื่อประชาชน

สำหรับโดยหนังสือดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ ขอให้คณะกรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)พิจารณามติก.ค.ศ.ที่คลาดเคลื่อนเพื่อเยียวยาผู้ส่งผลงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการว13/2556 น้ำสู่การพิจารณารับรองคุณสมบัติข้ารับการประเมิน โดยการเปิดประชุม ก.ค.ศ.

ทั้งนี้ ในรายละเอียดหนังสือ ยังอ้างถึง
1. หนังสือที่ศธ 0206.3/ว13 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2556
2. หนังสือที่ศธ 0206.3/ 1 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559
3. หนังสือที่ศธ 0206.3/0174 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563
หนังสือที่ศธ 04009/ว1216 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563
5. หนังสือที่ศธ 04112.01272/47 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2566
6. หนังสือที่ศธ 04112.01272/78 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2566
7. หนังสือที่นร 0105.04/419/24 ลงวันที่ 25 เมษายน 2566
8. หนังสือที่ศธ 0206.3/822 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2566
9. หนังสือที่ศธ 0206.3/840 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2566

ที่ต 0411201272/140

ทั้งนี้ภายหลังรับหนังสือดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส ได้รับปากจะนำความเดือดร้อนของสหพันธ์ครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย โรงเรียนบ้านหันเชียงเทียน ตำบลเขวา อำเภอเมืองจังหวัดมหาสารคาม นำเรียนต่อพล.อ.ประวิตร เพื่อพิจารณาแนวทางให้หน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไขปัญหาโดยเร็ว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 สิงหาคม 2566

“พลเอกประวิตร”นำทีม กก.มูลนิธิฯอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ถวายพระพร “พระพันปีหลวง” 91 พรรษา

,

“พลเอกประวิตร”นำทีม กก.มูลนิธิฯอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ถวายพระพร “พระพันปีหลวง” 91 พรรษา

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด นำคณะกรรมการ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางพานพุ่มเฉลิมพระเกียรติ ถวายเครื่องราชสักการะ ถวายราชสดุดี และถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

พลเอกประวิตร กล่าวถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงว่า ทรงรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า แหล่งต้นน้ำลำธาร นำมาซึ่งความผาสุขร่มเย็นโดยถ้วนหน้า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ จึงทรงเป็นพระแม่แห่งแผ่นดินที่สถิตย์สถาพรอยู่กลางใจพสกนิกรทั่วทั้งแผ่นดิน

พร้อมกันนี้พลเอกประวิตร ยังเปิดให้ข้าราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอดีตผู้ใต้บังคับบัญชามอบกระเช้าดอกไม้ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 78 ปี ย้อนหลัง 11 สิงหาคม 2566 เช่น คณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ และ ตัวแทนกรมป่าไม้ และหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2566

“สันติ”เผย กระทรวงการคลัง ประสานสถาบันการเงิน ออกมาตรการด้านกู้เงินฉุกเฉิน-สินเชื่อ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโกดังพลุระเบิด

,

“สันติ”เผย กระทรวงการคลัง ประสานสถาบันการเงิน ออกมาตรการด้านกู้เงินฉุกเฉิน-สินเชื่อ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโกดังพลุระเบิด

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวระหว่างการเดินทางลงพื้นที่ ต.บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมเยียมผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิดว่า ในส่วนของกระทรวงการคลังนั้นได้มีการประสานงานกับสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) หรือธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ๆ ให้เข้ามาดูแล เยียวยาให้กับผู้ประกอบการในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้

นายสันติ กล่าวต่อว่า อย่างธนาคารออมสินก็ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น มาตรการพักชำระหนี้ และยังให้ประชาชนที่ประสบภัยกู้เงินฉุกเฉิน สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อน รายละไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ ยังให้สินเชื่อเคหะแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ เพิ่มเติม สำหรับลูกค้าเดิมและประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบ เพื่อซ่อมแซมต่อเติมที่อยู่อาศัยส่วนที่เสียหายได้ถึง 100% ของราคาประเมิน สินเชื่อบุคคลแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอเนกประสงค์ในการบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายล ะ 500,000 บาท และสินเชื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจของธนาคาร วงเงินกู้สูงสุด 10% ของวงเงินกู้เดิม แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 5 ปี โดยปลอดชำระเงินต้น 1 ปี รวมถึงการดูแลเกี่ยวกับการชดเชยค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน โดยสามารถยื่นเรื่องได้ที่ธนาคารออมสินสุไหง โก-ลก หรือสาขาใกล้เคียงที่สะดวก

ทั้งนี้ภายในงานได้มีธนาคารจากหลายสถาบัน อาทิ ธนาคารอาคารสงเคราะห์,ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงไทย มารอให้บริการประชาชนในเรื่องธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร”นำทัพ พปชร.ลงพื้นที่บ้านมูโนะ จ.นราธิวาส มอบถุงยังชีพให้ ปชช.-จนท.-ผู้บาดเจ็บ จากเหตุโกดังพลุระเบิด สั่งระดมเร่งด่วนฟื้นฟูที่อยู่อาศัย ใช้เงินให้เป็นธรรมและโปร่งใส

,

“พล.อ.ประวิตร”นำทัพ พปชร.ลงพื้นที่บ้านมูโนะ จ.นราธิวาส มอบถุงยังชีพให้ ปชช.-จนท.-ผู้บาดเจ็บ จากเหตุโกดังพลุระเบิด สั่งระดมเร่งด่วนฟื้นฟูที่อยู่อาศัย ใช้เงินให้เป็นธรรมและโปร่งใส

เมื่อวันที่ 7 ส.ค.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรองหัวหน้าพรรค,น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรองหัวหน้าพรรค,นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรค,นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค,นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และเลขาธิการพรรค เดินทางลงพื้นที่ ต.บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมเยียมผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิด โดยมี สส.ของพรรคพลังประชารัฐให้การต้อนรับ อาทิ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ บีลา ส.ส.นราธิวาส เขต 3 นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส. นราธิวาส เขต 2 ให้การต้อนรับ

โดย พล.อ.ประวิตรและคณะได้เดินทางไปสนามกีฬามหาราช รับทราบรายงานสถานการณ์ความเสียหายและการช่วยเหลือ จาก ผวจ.นธ. อธิบดี กรม ปชส. รวมทั้งผู้แทน สธ. และศธ. มีผู้ได้รับผลกระทบ 682 ครัวเรือน เสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 389 ราย บ้านเรือนเสียหาย 682 หลัง รร.เสียหาย 3 แห่ง โดยมีการพระราชทานความช่วยเหลือทั้งสิ่งของพระราชทานและโรงครัวพระราชทานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุตรวจเยี่ยมความคืบหน้าในการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนและโรงเรียนบ้าน มูโน๊ะ พร้อมทั้งเดินทางไป รพ.สุไหงโกลก เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทีมแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนที่โรงเรียนบ้านมูโนะ เพื่อรับมอบเช็คเงินสดจากธนาคารออมสินจำนวน 2 ล้านบาท รวมถึงถุงยังชีพจำนวน 300 ถุง และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำนวน 150,000 บาท ก่อนส่งมอบให้กับทางจังหวัดนราธิวาส เพื่อนำไปดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้แจกถุงยังชีพ จำนวน 300 ถุงให้กับผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นขวัญกำลังใจ ให้ทุกคนสามารถฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ไปได้ รวมถึง ร.อ.ธรรมนัส ได้นำข้าวกล่องจำนวนมากจากมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า มามอบให้กับประชาชนด้วย

โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวกับประชาชนว่า ตนขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อพี่น้องชาวมูโน๊ะ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บ้านเรือนและอาคารสถานที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และที่สำคัญมีผลกระทบต่อจิตใจและขวัญของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ขอเป็นเป็นกำลังใจให้กับทุกคน เพื่อการก้าวผ่านความยากลำบากครั้งสำคัญนี้ไปด้วยกัน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือดูแล และไม่ทอดทิ้งกัน และจะทำให้ทุกอย่างคืนกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว

พล.อ.ประวิตร ยังได้ขอให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่ทั้งภาครัฐ เอกชนและทหาร ร่วมระดมความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ โดยเฉพาะการก่อสร้างและปรับปรุงบ้านพักอาศัยที่เสียหาย รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ให้สามารถใช้การได้เร็วที่สุด ทั้งนี้การก่อสร้างปรับปรุง รร.มูโน๊ะ ได้สั่งการมอบหมายให้ รมว.ศธ.ลงพื้นที่รับทราบปัญหาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงและก่อสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิมที่เสียหาย ซึ่งทราบว่ามีภาคเอกชนร่วมสนับสนุนสร้างอาคารใหม่ให้กับเด็กเล็ก ก็ต้องขอขอบคุญผู้ใจบุญด้วย

ทั้งนี้สำหรับการฟื้นฟูที่พักอาศัยและพัฒนาอาชีพ ได้กำชับ รมว.ที่เกี่ยวข้อง ร่วมระดมธนาคาร สถาบันการเงินของรัฐ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ( บสย.) เข้ามาให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนโดยปราศจากดอกเบี้ย โดยให้ ศอ.บต.ประสาน กค. จัดหามาตรการด้านการเงินและการคลัง เป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น การพักชำระหนี้จากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น โดยเตรียมเสนอ ครม.ทันที

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวขอบคุณน้ำใจคนไทยทั่วประเทศ ที่ร่วมบริจาคเงิน และความช่วยเหลืออื่นๆมาอย่างไม่ขาดสายผ่านจังหวัด โดยย้ำขอให้ ผวจ.นธ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งนำเงินดังกล่าวใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึงเป็นธรรมและโปร่งใส พร้อมทั้งขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่รัฐจากทุกหน่วยงาน รวมทั้งอาสาสมัครและภาคเอกชน ที่ร่วมกันเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องชาวมูโน๊ะ ที่ได้รับผลกระทบหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องมา โดยขอให้กรมประชาสัมพันธ์ ให้ความสำคัญและคงความต่อเนื่องในการสร้างความเข้าใจในภาวะวิกฤตกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำกับ มท. ตร.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยว่า ขอให้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น โดยจะต้องไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

จากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ และให้กำลังใจทีมแพทย์ สาธารณสุขที่ปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2566

พล.อ.ประวิตร ลงนามคำสั่งพรรค ตั้ง ร.อ.ธรรมนัส ประธานผู้ประสานงานส.ส. ในสภาฯ พร้อมตั้ง 2 รองประธาน อนันต์- อรรถรกร

,

พล.อ.ประวิตร ลงนามคำสั่งพรรค ตั้ง ร.อ.ธรรมนัส ประธานผู้ประสานงานส.ส. ในสภาฯ
พร้อมตั้ง 2 รองประธาน อนันต์- อรรถรกร

วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ลงนามในคำสั่ง แต่งตั้งผู้ประสานงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้การปฏิบัติงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐเป็นไปอย่างมีระเบียบแบบแผนตามระบบรัฐสภา และมีประสิทธิภาพ บรรลุตามอุดมการณ์ วัตถุประสงค์และนโยบายของพรรคอาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ.2561 และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 17 (1)

ได้มีการแต่งตั้งผู้ประสานงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย1.ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานผู้ประสานงาน 2.นายอนันต์ ผลอำนวย รองประธานผู้ประสานงาน คนที่ 1 และ 3 .นายอรรถรกร ศิริลัทธยากร รองประธานผู้ประสานงาน คนที่2 ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 กรกฎาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” ร่วมเคาะ กำหนดจุดยืนพปชร. เลือกนายกฯในรัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส ย้ำไม่ยกมือเลือกนายกเสียงข้างน้อย –ไม่โหวตพรรคแก้ ม. 112

,

“พล.อ.ประวิตร” ร่วมเคาะ กำหนดจุดยืนพปชร. เลือกนายกฯในรัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส ย้ำไม่ยกมือเลือกนายกเสียงข้างน้อย –ไม่โหวตพรรคแก้ ม. 112

วันที่ 11 กรกฎาคม 2566
พรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แถลงภายหลังการประชุมพรรค ว่า ทาง พปชร. มีการประชุมพรรค โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร. คณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการยุทธศาสตร์ ส.ส. และทุกฝ่ายเข้าร่วม โดยสาระสำคัญ ได้แก่ 1.การเลือกผู้แทน ซึ่งเป็น ส.ส.ของ พปชร.ในการทำหน้าที่ประสานกับพรรคอื่นๆ ซึ่งเวลานี้ยังไม่รู้ว่าพรรคเราอยู่ในสถานะใด โดยผู้ทำหน้าที่ประสานดังกล่าว มีตน เป็นประธาน นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.เขต 3 จ.กำแพงเพชร เป็นรองประธานคนที่ 1 นายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา รองประธานคนที่ 2 ประเด็นที่สอง พปชร.มีจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่เสนอผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯโดยใช้เสียงข้างน้อยอย่างเด็ดขาด และ 3.เราจะไม่โหวตให้กับผู้ที่จะมาดำรงนายกรัฐมนตรีที่มีนโยบายในการแก้ไขมาตรา 112 อย่างเด็ดขาด

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราเป็นพรรคที่มี ส.ส.อยู่ลำดับที่ 4 ดังนั้น ขั้นตอนต่อไป หากเกิดอะไรก็ขึ้น เราต้องให้พรรคที่มีเสียงรองลงมาในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนกรณีว่าหากพรรคที่มีเสียงรองลงมา มาติดต่อ พปชร.ในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น พปชร.ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.อีกครั้งเพื่อขอมติพรรค

“จากประสบการณ์ทางการเมืองของผม เรื่องของรัฐสภา ซึ่งประกอบไปด้วย ส.ส. และ ส.ว. 750 คน ที่จะลงฉันทามติในเสียงของเขาว่าจะเลือกใคร ดังนั้น จะให้ได้ดังใจมันคงเป็นไปไม่ได้ มันต้องยึดตามหลักกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เราเคารพเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา ซึ่งผมเชื่อว่า ทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี ซึ่งต้องใช้เวลา

ส่วนกรณีว่าควรที่จะโหวตนายกฯให้จบภายในครั้งเดียวหรือไม่นั้น ให้เป็นกลไกของรัฐสภา ส่วนตัวก็อยากให้จบในทีเดียว แต่เมื่อไม่จบก็ต้องให้เวลา เช่นเดียวกันทุกอย่างต้องใช้เวลา ถ้าสมมุติว่าครั้งแรกไม่ผ่านก็ต้องให้โอกาสพรรคอันดับสองในการรวบรวมพรรคร่วม ถ้าพรรคอันดับสองไม่ผ่านก็ให้พรรคอันดับสาม ฉะนั้น เราจะไม่มีการแทรกแซงเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นนโยบายของหัวหน้าพรรค พปชร. และคณะกรรมการบริหารพรรคที่เรามีฉันทามติเป็นอย่างนี้ แต่ทุกอย่างก็เป็นเรื่องของประธานรัฐสภา ซึ่งมีกฎหมายอยู่ เป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภาที่จะไปคุยกัน วันนี้ในที่ประชุมก็มีการเอาประเด็นนี้มาพูดคุยกัน โดยวันที่ 12 ก.ค.คงจะมีความชัดเจนมากขึ้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 11 กรกฎาคม 2566

ผู้กองธรรมนัส พร้อมครอบครัวและส.ส.พะเยา ร่วมทำบุญใหญ่ ฉลองพระพุทธรูปและทำบุญวันบูรพาจารย์ ณ วัดท่ากลอง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา

,

ผู้กองธรรมนัส พร้อมครอบครัวและส.ส.พะเยา ร่วมทำบุญใหญ่ ฉลองพระพุทธรูปและทำบุญวันบูรพาจารย์ ณ วัดท่ากลอง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา

วันนี้(1 ก.ค.66) ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)จังหวัดพะเยา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เป็นประธานพิธีทำบุญ ฉลองพระพุทธรูปและทำบุญวันบูรพาจารย์ ณ วัดท่ากลอง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ซึ่งถือเป็นวัดบ้านเกิด โดยมีคุณพ่อของร้อยเอกธรรมนัส คือพ่อหลวง อินจันทร์ พรหมเผ่า ร่วมในพิธีด้วย

นอกจากนี้ ยังมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภริยา ,นายอัครา พรหมเผ่า นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา ,นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.เขต 3 จังหวัดพะเยา นายอนุรัตน์ ตันบรรจง ส.ส.เขต 2 จังหวัดพะเยา และพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาตลอดจนประชาชนทั่วไปและคณะครู นักเรียนในพื้นที่ เข้าร่วมในพิธีทำบุญเป็นจำนวนมาก

โดยเวลา 09.09 น. ร.อ.ธรรมนัส เป็นประธานพิธีบวงสรวงบูรพาจารย์ จากนั้น เวลา 10.00 น.พระสงฆ์เจริญน้ำพระพุทธมนต์เบิกเนตรพระพุทธรูป และเวลา 11.00 น. ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ 10 รูป ทั้งนี้หลังเสร็จพิธีทำบุญ ทางวัดมอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนอีกด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กรกฎาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าเปิดจุดผ่านแดนถาวร บ.หนองเอี่ยน ยกระดับเศรษฐกิจชายแดน และตามแก้ปัญหาแหล่งน้ำแซร์ออ ลดผลกระทบสัมพันธ์ ไทย – กัมพูชา

,

“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าเปิดจุดผ่านแดนถาวร บ.หนองเอี่ยน ยกระดับเศรษฐกิจชายแดน และตามแก้ปัญหาแหล่งน้ำแซร์ออ ลดผลกระทบสัมพันธ์ ไทย – กัมพูชา

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รมว.ศึกษาธิการ รมช.คลัง และคณะ เดินทางลงพื้นที่ จว.สระแก้ว ประชุมเตรียมความพร้อม รับการเปิดจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพ ไทย – กัมพูชา (หนองเอี่ยน – สตึงบท ) ณ ด่านศุลกากรอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ และติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ มี ผวจ.สระแก้ว และหน.ส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ

โดยรับฟังภาพรวมสรุป ความก้าวหน้าการเตรียมความพร้อมรับการเปิดจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพ ไทย – กัมพูชา (หนองเอี่ยน – สตึงบท ) ณ ด่านศุลกากรอรัญประเทศ มีความคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 40 อยู่ระหว่างเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน ส.ค.68 ปัจจุบันมีการนำเข้า – ส่งออก การค้าผ่านจุดผ่านแดนชั่วคราวดังกล่าว เฉลี่ยเดือนละ 7,800 ล้านบาท รถสินค้าผ่านแดนกว่า 700 คัน ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและการจราจรบริเวณด่านพรมแดนคลองลึก ที่เคยคับแคบมีความคล่องตัวมากขึ้น

พล.อ.ประวิตร’ ได้กล่าวขอบคุณทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายไทย และกัมพูชา ที่ร่วมขับเคลื่อนการบริหารงานและการก่อสร้างจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ สะพานมิตรภาพ บริเวณบ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท ร่วมกัน โดยย้ำว่า จุดผ่านแดนถาวรดังกล่าว มีความสำคัญต่อการขยายตัวของพื้นที่เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะ จว.สระแก้ว รวมทั้งเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศในภาพรวม โดยกำชับ ขอให้ทุกส่วนราชการ ให้ความสำคัญเร่งรัดทำงานร่วมกันและประสานการปฏิบัติกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิด ในการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งระบบอำนวยความสะดวกคนเข้าเมือง และการผ่านสินค้าให้สามารถเปิดทำการได้อย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อยกระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศไปพร้อมกัน

จากนั้น ได้เดินทางต่อไปตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ อ.วัฒนานคร ณ อ่างเก็บน้ำแซร์ออ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพบปะประชาชนในพื้นที่ โดยรับฟังการบรรยายสรุป ความคืบหน้าโครงการแก้ปัญหาคลองพรมโหด การก่อสร้างระบบส่งน้ำและอาคารประกอบโครงการอ่างเก็บน้ำแซร์ออ ซึ่งมีพื้นที่รับน้ำ 14.85 ตร.กม. พื้นที่รับประโยชน์ 5,065 ไร่ หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งสองโครงการ จะสามารถบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ราบลุ่มตอนล่าง ต.ท่าข้าม เทศบาลเมืองอรัญประเทศ จว.สระแก้ว และเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำหรับการเกษตร และอุปโภค บริโภคของประชาชนในพื้นที่

พล.อ.ประวิตร’ ยังได้ย้ำ ขอให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เตรียมมาตรการรับมือฤดูฝนปี 66 โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทุกกลุ่มให้เร็วและครอบคลุมทุกด้าน สำหรับการบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำแซร์ออ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขอให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนด เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง จว.สระแก้ว ขณะเดียวกัน ขอให้เร่งรัดดำเนินการพัฒนาลุ่มน้ำพรมโหด ตามโครงการที่ได้ศึกษาออกแบบไว้เป็นการเร่งด่วน เพื่อบรรเทาปัญหาและลดความเสียหาย ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยขอให้หน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงดูความร่วมมือในการบริหารจัดการน้ำกับกัมพูชา ซึ่งการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองพรมโหด พร้อมสถานีสูบน้ำ จะช่วยแก้ปัญหาน้ำหลากจากไทยไปยังกัมพูชา และลดผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 มิถุนายน 2566

“พล.อ.ประวิตร” เดินทางเข้าสภา รายงานตัวส.ส.บัญชีรายชื่อชุดที่ 26 ลุยทำหน้าที่ในสภาฯร่วมมือส.ส.ทำงานให้ ประชาชน – ประเทศชาติ

,

“พล.อ.ประวิตร” เดินทางเข้าสภา รายงานตัวส.ส.บัญชีรายชื่อชุดที่ 26
ลุยทำหน้าที่ในสภาฯร่วมมือส.ส.ทำงานให้ ประชาชน – ประเทศชาติ

เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เดินทางเข้ารายงานตัวเป็นวันแรก หลังที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส. เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยในวันเดียวกันมีส.ส.ของพรรคพปชร.บางส่วนเร่ิมทยอยรายงานตัวต่อ สภาผู้แทนราษฎร เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในการเดินทางมาสภาฯครั้งนี้ มี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มารอให้การต้อนรับ

จากนั้นเมื่อรายงานตัวเสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายงานทีวีสภา โดยระบุว่า ตนขอขอบคุณที่ได้เลือกพรรคพลังประชารัฐเข้ามารับใช้ประชาชน รับใช้ประเทศชาติ รับใช้ประชาชนรวมทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อที่จะให้เกิดความมั่นคงแก่ชาติบ้านเมืองของเราต่อไป ก็ต้องขอขอบคุณท่านที่มาลงคะแนนเสียงให้พรรคพลังประชารัฐได้เข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรในครั้งนี้

“ผมก็อยากจะเห็นร่วมมือของ ส.ส.ทุกท่านได้ร่วมทำงานให้ประชาชนเพื่อประเทศชาติ และ เพื่อแผ่นดินที่รักยิ่งของเราคือสถาบันพระมหากษัตริย์นะ เพื่อที่จะให้พัฒนาชาวราษฎรสืบไป เพราะประเทศเราก็มีสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ฝากกับทุกท่านด้วยว่า ท่านจะทำงานด้วยความร่วมมือร่วมแรงกันอาศัยความร่วมไม้ร่วมมือนั้น เพื่อต่อยอดทำให้ประเทศชาติของเราพัฒนาก้าวได้ต่อไป”

พลเอกประวิตร กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า อยากเห็นความร่วมร่วมมือกันระหว่าง ส.ส. และก็อย่าใช้อารมณ์ซึ่งกันและกันในสภา ทุกอย่างก็เป็นไปตามเรื่องของประชาธิปไตยอันดีงาม อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และทุกอย่างก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ จึงอยากจะฝากกับทุกท่านว่า ขอให้ทุกคนทำงานร่วมไม้ร่วมมือกันเพื่อประเทศชาติ และประชาชนของเราให้มีความอยู่ดี กินดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของเราทุกคนนั้นเป็นอยู่ต่อไปครับตราบชั่วกาลนานเทอญ

ทั้งนี้เมื่อ พล.อ.ประวิตร ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกับ โชว์ใบรับรอง ส.ส. และบัตรประจำตัวส.ส.ต่อสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี และย้ำว่า ไม่รู้สึกตื่นเต้น เพราะเคยเป็นสมาชิกรัฐสภาเมื่อปี พ.ศ.2551 จึงมีความคุ้นเคยดี

นอกจากนี้ สำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ได้สรุปภาพรวมการรายงานตัว ส.ส. ชุดที่ 26 วันแรก (20 มิ.ย.66)ของการรายตัว โดยในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมารายงานตัวจำนวน 17 คนประกอบด้วย จังหวัดสงขลา
1. ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า พรรคพลังประชารัฐ. จังหวัดพะเยา
2. นายไผ่ ลิกค์ พรรคพลังประชารัฐจังหวัดกำแพงเพชร
3. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดฉะเชิงเทรา
4. นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข พรรคพลังประชารัฐจังหวัดตาก
5. นายคอซีย์ มามุ พรรคพลังประชารัฐจังหวัดปัตตานี
6. นายชัยมงคล ไชยรบ พรรคพลังประชารัฐจังหวัดลพบุรี
7. นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์พรรคพลังประชารัฐจังหวัดพังงา
8. น.ส.กาญจนา จังหวะ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดชัยภูมิ
9. นางขวัญเรือน เทียนทอง. พรรคพลังประชารัฐจังหวัดสระแก้ว
10. นายปกรณ์ จีนาคำ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
11. นายสุธรรม จริตงาม พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดนครศรีธรรมราช
12. นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดสงขลา
13. นางรัชนี พลซื่อ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดร้อยเอ็ด
14. นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดราชบุรี
15. นายนเรศ ธำรงทิพยคุณ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดเชียงใหม่
16. นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดนราธิวาส
17. นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดนราธิวาส

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 มิถุนายน 2566

“พล.อ.ประวิตร” รองนายกฯ ประชุม คกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ EIA รถไฟรางคู่ สุราษฎร์ฯ – หาดใหญ่ – สงขลา ย้ำคุณภาพน้ำต้องรักษาเตรียมรองรับระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนให้พอกับน้ำเสียที่เพิ่มขึ้น

,

“พล.อ.ประวิตร” รองนายกฯ ประชุม คกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ EIA รถไฟรางคู่ สุราษฎร์ฯ – หาดใหญ่ – สงขลา ย้ำคุณภาพน้ำต้องรักษาเตรียมรองรับระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนให้พอกับน้ำเสียที่เพิ่มขึ้น

วันนี้ (19 มิถุนายน 2566) เวลา 10.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ผ่านระบบ VTC ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด โดยที่ประชุมรับทราบเรื่องสำคัญ ประกอบด้วย รายงานสถานการณ์มลพิษฯ ปี 2565 สรุป คุณภาพน้ำ ทั้งแหล่งผิวดิน น้ำทะเลชายและน้ำบาดาล โดยรวมอยู่ในเกณฑ์คุณภาพดี คุณภาพอากาศและเสียงมีแนวโน้มดีขึ้นขยะมูลฝอยชุมชนของเสียและสารอันตรายพบว่าขยะมูลฝอยเพิ่มขึ้นมีการขัดแยกและกำจัดขยะถูกต้องเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันของเสียอันตรายและวัตถุอันตรายมีปริมาณเพิ่มขึ้นกากอุตสาหกรรมที่มีอันตรายมีการแจ้งและนำเข้าสู่ระบบการจัดการเพิ่มขึ้นมูลฝอยติดเชื้อมีปริมาณเพิ่มขึ้นและได้รับการกำจัดอย่างถูกต้องเพิ่มขึ้น

ต่อจากนั้น ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาและให้ความเห็นชอบ รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการอ่างเก็บน้ำแม่คำ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี – ชุมทางหาดใหญ่ – สงขลา นอกจากนั้น ยังให้ความเห็นชอบการปรับปรุงมาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากโรงไฟฟ้า เพื่อควบคุมและแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง

โดยรองนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ร่วมกันทำหน้าที่ให้ข้อคิดเห็นและมุมมองต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อเนื่องที่ผ่านมา พร้อมย้ำโครงการสาธารณะขนาดใหญ่ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ขอให้ใช้ความรอบคอบทั้งหลักวิชาการและสภาพจริง รวมทั้งต้องยึดประโยชน์ส่วนรวมและรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่อย่างรอบด้าน

พร้อมกำชับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถึงปัญหาสถานการณ์มลพิษ ทั้งคุณภาพน้ำ อากาศและเสียง รวมทั้งขยะมูลฝอยชุมชน ของเสียและวัตถุอันตราย บางพื้นที่ที่อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม จำเป็นต้องให้น้ำหนักเข้าไปแก้ปัญหาให้ทั่วถึง สำหรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งการทำการเกษตรที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การปล่อยปริมาณน้ำเสียลงผิวดินเพิ่ม ประกอบกับระบบบำบัดน้ำเสียรวมชุมชนที่ไม่เพียงพอและไม่สามารถรองรับ ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องประสานการทำงานร่วมกันมากขึ้น โดยขอให้มีแผนงาน มาตรการรองรับและมีการกำกับที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำผลการประชุมดังกล่าว เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และดูแลกำกับโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามที่กำหนด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 มิถุนายน 2566