โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. และสมาชิก

“ด้วยความห่วงใย” ส.ส. นิพันธ์ มอบตัวแทนร่วมกับผู้นำชุมชนลงพื้นที่

,

“ด้วยความห่วงใย” ส.ส.นิพันธ์ เขต1 พปชร.จ.ตรัง มอบตัวแทนร่วมกับผู้นำชุมชนลงพื้นที่ นำถุงยังชีพไปมอบให้พี่น้องและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบโควิด-19

นายนิพันธ์ ศิริธร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง เขต1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติดสภาผู้แทนราษฎร ได้มอบหมายภารกิจให้ตัวแทนร่วมกับผู้นำชุมชนลงพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านหนองบัว ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมืองตรังนำถุงยังชีพไปมอบให้กับพี่น้องและครัวเรือนที่ประสบกับวิกฤตโควิด19 จำนวน 8 ครัวเรือน นอกจากนี้ ยังมอบหมายภารกิจให้ตัวแทนลงพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านคลองขุด ตำบลหนองตรุด อำเภอเมืองตรังนำถุงยังชีพไปมอบให้กับพี่น้องและครัวเรือนที่ประสบกับวิกฤตโควิด19 จำนวน 4 ครัวเรือน และยังให้ตัวแทนลงพื้นที่ชุมชนต้นสมอ เขตเทศบาลนครตรังนำถุงยังชีพไปมอบให้กับพี่น้องและครัวเรือนที่ประสบกับวิกฤตโควิด19 จำนวน 12 ครัวเรือน อีกด้วย นายนิพันธ์ เผยว่าในโอกาสนี้ ขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้นำชุมชน อสม.และพี่น้องทุกท่านทุกครัวเรือนได้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด19ไปด้วยกัน

#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 3 ธันวาคม 2564

“ครอบครัวรัตนเศรษฐ” ขอบคุณทุกสายธารน้ำใจ ร่วมช่วยเหลือชาวโคราช

,

“ครอบครัวรัตนเศรษฐ” ขอบคุณทุกสายธารน้ำใจ ร่วมช่วยเหลือชาวโคราช ให้บรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัยและคลี่คลายลงไปได้

นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.เขต 7 จังหวัดนครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เผยว่า ในนามของ “ครอบครัวรัตนเศรษฐ” ขอขอบพระคุณทุกสายธารน้ำใจที่ช่วยเหลือชาวโคราช ให้ความทุกข์จากอุทกภัยได้ถูกบรรเทาและคลายลงไปได้

โดยตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดนครราชสีมาเกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุเตียนหมู่ คมปาซุ และหมาเหล่า ส่งผลให้บ้านเรือนและไร่นาของประชาชนถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน มูลนิธิ องค์กรการกุศล และเหล่าจิตอาสา รวมถึงครอบครัวรัตนเศรษฐ ได้ร่วมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน – 26 พฤศจิกายน 2564 รวมกว่า 50,000 ครัวเรือน

ทั้งนี้ ล่าสุด ทางครอบครัวรัตนเศรษฐและทีมงาน ยังลงพื้นที่อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา เยี่ยมให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนตามจุดต่างๆ ทั้งวัดบ้านโคกแปะ ต.เทพาลัย วัดบ้านหนองพรานปาน ต.เทพาลัย “ด้วยความห่วงใยจาก ครอบครัวรัตนเศรษฐและทีมงาน”

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 3 ธันวาคม 2564

ส.ส. สุรชาติ ร้องโยธาธิการ-ผังเมืองแก้ปัญหาน้ำเซาะตลิ่ง ทำถนนริมแม่น้ำน่าน

,

ส.ส. สุรชาติ ร้องโยธาธิการ-ผังเมืองแก้ปัญหาน้ำเซาะตลิ่ง ทำถนนริมแม่น้ำน่าน-น้ำยมทรุดกระทบเส้นทางสัญจรปชช.จ.พิจิตร

ส.ส.สุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.เขต 3 พปชร.จ.พิจิตร ร้องกรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งแก้ปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่ง ทำถนนทรุดเสียหายริมแม่น้ำน่าน-แม่น้ำยม พื้นที่ อ.บางมูลนาก และ โพธิ์ทะเล ชี้ชาวบ้านเดินทางสัญจรยากลำบากในขณะนี้
วันที่ 2 ธันวาคม 2564 นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จังหวัดพิจิตร ได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ผ่านไปยังกรมโยธิการและผังเมือง โดยระบุว่า เนื่องด้วยชาวบ้านวิถีชีวิตริมแม่น้ำได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่ง ซึ่งตลิ่งดังกล่าวก็ใช้เป็นถนนสำหรับสัญจรมาระหว่างหมู่บ้านด้วย โดยในส่วน อ.บางมูลนาก ที่มีแม่น้ำน่านไหลผ่าน และมีประชาชนในเขตตำบลหอไกร รวมตัวกันยื่นหนังสือถือนายกเทศมนตรีหอไกร ซึ่งจากการลงพื้นที่จริงพบว่า ถนนมีความเสียหายจริงทุกปี ตั้งแต่ปี 2560 รวม 4 ปีต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันถนนที่ทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับถนนจริง กว่า 1.5 เมตร โดยพบว่า พื้นที่หมู่ 4 เสียหายหาย 500 เมตร หมู่ 2 เสียหาย 300 เมตร และหมู่ 1 เสียหาย 200 เมตร รวม 849 หลังคาเรือน

จุดที่ 2 ของแนวร่วมแม่น้ำน่านเช่นกัน ซึ่งตลิ่งทรุดตัวลงทุกปี ท้องถิ่นก็ใช้งบประมาณ ใช้ไม้และดินมาทำพนังกั้นน้ำทุกปี แต่ก็เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ประชาชนจึงยื่นหนังสือถึงนายกเทศมนตรี ตำบลเนินมะกอก เมื่อลงพื้นที่จริงพบว่า พื้นที่ทรุดตัวเสียหาย 1,100 เมตร มีประชากรอาศัย 700หลังคาเรือน หากน้ำล้นตลิ่งจะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน และเกษตรกรรมพื้นที่เศรษฐกิจทั้งหมด

และจุดที่ 3 คือ เป็นเขตอำเภอโพธิ์ทะเล จุดที่ตลิ่งทรุดตัวเป็นพื้นที่หมู่ 3 ตำบลโพธิ์ทะเล ลักษณะเป็นถนนคอนกรีตริมแม่น้ำยม และเกิดความเสียหายทรุดระยะทาง 300 เมตร สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางรวม 300 หลังคาเรือน จึงขอหารือผ่านไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง มาสำรวจและออกแบบ เพื่อจัดสรรงบประมาณ ในพื้นที่ 5 จุดของ 2 อำเภอต่อไป

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 2 ธันวาคม 2564

ส.ส. กานต์กนิษฐ์ ลงพื้นที่เช็คความพร้อมสถานที่ตรวจโควิดเชิงรุกให้นักเรียน-ผู้ปกครอง

,

ส.ส. กานต์กนิษฐ์ ลงพื้นที่เช็คความพร้อมสถานที่ตรวจโควิดเชิงรุกให้นักเรียน-ผู้ปกครอง

นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ กทม. เขต 1 เดินทางมาตรวจเช็คความพร้อมของสถานที่เพื่อ เตรียมตัว ทำการตรวจเช็คโควิด เชิงรุก ให้กับนักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากร ของ รร. เบญจมราชาลัย ในพื้นที่เขตพระนคร จำนวนกว่า 2,000 คน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเรียน อยากอุ่นใจให้กับผู้ปกครองและ นักเรียน นอกจากนั้นแล้ว ที่โรงเรียนเบญจมราชาลัย ยังมีมาตรการที่ เข้มงวด ในแนวทางสาธารณสุขให้ทุกท่านที่อยู่ในโรงเรียนปฏิบัติอย่างเข้มงวด

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 2 ธันวาคม 2564

ประธาน กมธ.กิจการสภาฯ ลงพื้นที่ดูงานวิทยุรัฐสภาพิษณุโลก

,

ประธาน กมธ.กิจการสภาฯ ลงพื้นที่ดูงานวิทยุรัฐสภาพิษณุโลก ดันใช้ดิจิทัลกระจายข่าวสาร – นโยบายรัฐให้ปชช. ถูกต้องทั่วถึง

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2564 นายอนันต์ ผลอำนวย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกำแพงเพชร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางพร้อมด้วย
นางสุพรรณี ชีวะไทย ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาและ นายชัยวัฒน์
ชายเกตุ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานเทคนิค ลงพื้นที่เพื่อดูการบริหารจัดการสถานีรัฐสภาเครือข่ายที่จังหวัดพิษณุโลก (สวท.พิษณุโลก) พร้อมหารือร่วมกับทางคณะผู้บริหารของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยถึงแนวทางการบริหารงานพร้อมดูพื้นที่อาคารและอุปกรณ์เครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงวิทยุรัฐสภาในเครือข่าย จ.พิษณุโลกที่พื้นที่เขาสมอแคลง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก

ทั้งนี้นายอนันต์ได้ ขอบคุณสำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 4 ที่สนับสนุนบุคคลากรดูแลสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภาเครือข่ายจังหวัดพิษณุโลกในคลื่นความถี่ 92.25 เมกะเฮิรตซ์ นับเป็นสถานีวิทยุของรัฐสภาที่สมบูรณ์แบบที่สุดพร้อมชื่นชมการทำงานของสวท.พิษณุโลกที่เป็นต้นแบบการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและสื่อสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้เพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนทุกกลุ่มรับทราบอย่างถูกต้องและทั่วถึง และสร้างความเข้าใจนโยบายรัฐ ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติประชาชนต้องก้าวตามทัน หากทำได้ทุกจังหวัด หูตาประชาชนจะกว้างไกลมากขึ้น

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 2 ธันวาคม 2564

3 ส.ส. เพชรบุรี ต้อนรับพลเอกประวิตร ประธานเปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ

, ,

3 ส.ส. เพชรบุรี ต้อนรับพลเอกประวิตร ประธานเปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพ
หน่วยงานพิทักษ์เด็กและสตรี!!!

ส.ส.สุชาติ (เปี๊ยก) อุสาหะ จังหวัดเพชรบุรี เขต 3 ส.ส.กฤษณ์ แก้วอยู่ จังหวัด เพชรบุรี เขต 1 และ ส.ส.สาธิต อุ๋ยตระกูล จังหวัดเพชรบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ร่วมงานพร้อมให้การต้อนรับ
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธาน เปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง ของ ตำรวจประจำปีงบประมาณ 2565 ณ โรงแรมดุสิตธานี อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

ทั้งนี้ พลเอกประวิตร ยังได้เน้นย้ำว่า โครงการดังกล่าว ถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งนับเป็นจุดยืนของรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ต้องร่วมกันทำงานหนัก จริงจัง และต่อเนื่องกว่าที่เป็นอยู่ โดยยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง และเร่งค้นหาเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่ตกค้าง และคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะเด็กและสตรี ที่ถูกกักขัง หน่วงเหนี่ยวและถูกบังคับข่มขืนทรมานจิตใจ

โดยที่ผ่านมาการปราบปรามและจับกุมในคดีค้ามนุษย์ ลดลงอย่างชัดเจนต่อเนื่อง แต่พบว่ารายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบออนไลน์มากขึ้น การคัดแยกเพื่อค้นหาผู้เสียหายบังคับใช้แรงงานหรือการบริการ ยังไม่ได้มาตรฐานและยังพบปัญหาทุจริตของเจ้าหน้าที่ซึ่งปล่อยปละละเลยทั้งพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นใน ที่ทุกหน่วยงานต้องเข้มรับผิดชอบกำกับดูแลมากขึ้น

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 2 ธันวาคม 2564

ส.ส. ประทวน เขต 1 จ. ลพบุรี ลงพื้นที่มอบชุดตรวจ ATK ให้กับโรงเรียน

,

ส.ส. ประทวน เขต 1 จ. ลพบุรี ลงพื้นที่มอบชุดตรวจ ATK ให้กับโรงเรียน พร้อมตรวจเยี่ยมความก้าวหน้า โครงการโคกหนองนาโมเดล” ต.ชอนน้อย ศูนย์กลางพัฒนางานอาชีพ ชุมชน!

ส.ส. ประทวน เขต 1 จ. ลพบุรี ลงพื้นที่มอบชุดตรวจ ATK ให้กับโรงเรียน พร้อมตรวจเยี่ยมความก้าวหน้า โครงการโคกหนองนาโมเดล” ต.ชอนน้อย ศูนย์กลางพัฒนางานอาชีพ ชุมชน!

ส.ส. ประทวน สุทธิอำนวยเดช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่ มอบชุดตรวจ ATK (โควิด-19) จำนวน 110 ชุด ให้แก่โรงเรียนซอย 19 สาย 2 ขวา ต.ชอนน้อย อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี โดยมี กำนัน ปรีชา ชมชื่น นางกัลยา อินทรวงส์สักดิ์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ และ ทีมงาน คณะครู เป็นผู้รับมอบ

นอกจากนี้ตนพร้อมคณะยังได้เดินทางต่อไปยัง “โครงการโคกหนองนาโมเดล” ต.ชอนน้อย เพื่อเยี่ยมชมความก้าวหน้าในการพัฒนาเป็นพื้นที่ในการใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และพัฒนาสร้างงานสร้างอาชีพให้พี่น้องประชาชนต่อไป

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 1 ธันวาคม 2564

“ส.ส.จอมขวัญ” จี้กรมทางหลวง-ทางหลวงชนบทเร่งซ่อมผิวถนน

, ,

“ส.ส.จอมขวัญ” จี้กรมทางหลวง-ทางหลวงชนบทเร่งซ่อมผิวถนน กระทบเส้นทางสัญจรของชาว จ.สมุทรสาครหลังเผชิญน้ำท่วม

นางสาวจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สุมทรสาคร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ต.หลักสาม, ต.ยกกระบัตร, ต.หนองสองห้อง ในพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว และ ต.บางโทรัด ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมผิวถนน ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 3274 ในพื้นที่ ต.หลักสาม และ ต.บางโทรัด ระยะทาง 6,178 เมตร โดยขอให้ยกระดับคันทางในส่วนที่น้ำล้นขึ้นท่วมผิวทางในช่วง กม.ที่ 5+272 ถึง กม.ที่ 6+178 พร้อมปรับระดับผิวทางที่เกิดความเสียหายและทรุดตัวระหว่าง กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 5+272

นอกจากนี้ ยังขอให้กรมทางหลวงชนบทดำเนินการปรับปรุงผิวแอสฟัลติกคอนกรีต (Asphaltic Concrete) พร้อมระบบท่อระบายน้ำ ถนนสาย สค. 3010 แยกทางหลวงหมายเลข 375 บ้านโคกวัดดอนสมุทรสาคร บริเวณหมู่ที่ 1 ต.หนองสองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทราสาคร ช่วง กม.ที่ 7+200 ถึง กม.ที่ 9 +000 ระยะทาง 1,800 เมตร

ทั้งนี้ ถนนทั้ง 2 เส้นนี้เกิดน้ำท่วมที่ซ้ำซาก กระทบต่อการสัญจรของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฝนตกและน้ำทะเลหนุน จึงขอเรียนผ่านท่านประธานสภาฯ ไปยังกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ได้โปรดพิจารณาดำเนินการซ่อมบำรุงถนนดังกล่าว ตามที่ประชาชนร้องอย่างเร่งด่วน เนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 1 ธันวาคม 2564

ส.ส. กรณิศ เสนอ การไฟฟ้าเบรกเพิ่มค่าไฟฟ้ารอบบิล ม.ค. – เม.ย. ปี 65

, ,

ส.ส. กรณิศ เสนอ การไฟฟ้าเบรกเพิ่มค่าไฟฟ้ารอบบิล ม.ค. – เม.ย. ปี 65 วอนลดค่าใช้จ่ายปชช. หลังเจอผลกระทบโควิดยาว 2 ปี รายได้ลด – ตกงาน

นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในประเด็น หาแนวทางลดภาระค่าใช้จ่ายจากค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงต้นปี 2565 ด้วยสภาวะที่ประชาชนต้องแบกรับภาระจากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีรายได้ลดลง ไม่มีงานทำ ขณะที่ค่าใช้จ่ายยังคงเดิม แม้ว่ารัฐบาลออกจะมาตรการช่วยเหลือ แต่ยังไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และจากการที่คณะกรรมการกิจการพลังงาน หรือ กกพ. มีมติให้ตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรในรอบเดือนมกราคม – เมษายน 2565 โดยเรียกเก็บ 1.39 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้อัตราค่าไฟฟ้าเรียกเก็บจากประชาชนอยู่ 3.78 บาทต่อหน่วย เพิ่มถึง 4.63 % จากงวดปัจจุบันอยู่ที่ 3.61 บาทต่อหน่วย การขึ้นค่าไฟฟ้า ในภาวะยากลำบาก เช่นนี้ ในฐานะที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นรัฐวิสาหกิจ และมีผลการดำเนินงานที่ดี ในแต่ละปี จึงมีความต้องการให้เข้ามาช่วยเหลือประชาชน ในสภาวะที่ได้รับผลกระทบอยู่

ทั้งนี้ จะมีสาเหตุในหลายปัจจัยที่เข้าใจได้ว่า ค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น มาจากปัจจัยต่างๆ ทั้ง อัตราแลกเปลี่ยนที่ค่าเงินบาทอ่อนตัว การนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ พลังงานน้ำลดลงตามฤดูกาล การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินลิกไนต์ ตามแผนที่โรงไฟฟ้าต้องถูกปลดออกจากระบบ ในส่วนของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ทำให้การเดินเครื่องโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนเชื้อเพลิงราคาต่ำลดลง รวมถึงราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลัก ในการผลิตไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาน้ำมันขาขึ้นในตลาดโลก ดังนั้นในสภาวะเช่นนี้ ขอให้การไฟฟ้าพิจารณาปรับลดราคาค่าไฟฟ้าให้อีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือประชาชน

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 1 ธันวาคม 2564

“ธรรมนัส” ผนึก “นฤมล” ชูนโยบายจัดที่ดินทำกินเพื่อคนสุราษฎร์

, ,

“ธรรมนัส” ผนึก “นฤมล” ชูนโยบายจัดที่ดินทำกินเพื่อคนสุราษฎร์ พร้อมส่งผู้สมัครลงครบทุกเขต กระจายทัพ พปชร. ช่วย ปชช.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อม ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคฯ พบปะสมาชิกพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1-6 เพื่อเป็นตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนนโยบาย และนำความเดือดร้อนของประชาชนส่งต่อการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด โดยเฉพาะการแก้ปัญหาที่ทำกิน และราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งเป็นอาชีพที่สำคัญของคนสุราษฎร์

วันที่ 30 พ.ย. 64 เวลา 11.30 น. ที่โรงแรมแก้วสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พร้อม ส.ส.ของพรรค ได้เดินทางมาให้กำลังใจในการประชุมการเลือกตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ เขต 1-6 เพื่อเป็นตัวแทนในการทำงานของพรรคในฐานะปากเสียงของประชาชนชาวสุราษฎร์ เพื่อเสนอต่อกรรมการนโยบายพรรคในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว และตรงเป้าหมาย โดยมีสมาชิกพรรคในภาคใต้ 14 จังหวัด ให้การร่วมต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ร.อ.ธรรมนัส ได้ขึ้นเวทีพร้อมกล่าวต้อนรับว่าที่ตัวแทนเขต 1-6 พร้อมขอบคุณทุกคน ทั้งชาวสุราษฎร์ธานี และตัวแทนสมาชิกพรรคทุกคน ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ตั้งแต่ที่สนามบิน ซึ่งทำให้เห็นว่าการทำงานที่ผ่านมาของตนเองมีผลทำให้ทุกคนเกิดความเชื่อใจ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในการที่จะรวมพลังในการได้รับความไว้วางใจในการเป็นตัวแทนของประชาชนในฐานะฝ่ายรัฐบาลอีกครั้ง โดยเป้าหมายหนึ่งเดียวคือการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องฐานราก ที่ถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยมากที่สุด ที่ส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรมซึ่งเป็นรายได้ของประเทศ แต่กลับต้องเจอสภาวะผลผลิตตกต่ำไม่ได้ราคา โดยเฉพาะภาคใต้ที่ส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกปาล์มและยางพารา ที่ยังต้องประสบปัญหาส่งผลต่ออาชีพรายได้ และปากท้อง

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเคยได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนใน อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ที่อาศัยอยู่ในที่ดิน สปก. ไม่มีบ้านเลขที่ ทำให้น้ำ ไฟ เข้าไม่ถึง เมื่อทราบเรื่องและได้ลงพื้นที่จึงได้ดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทันที ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้หลายเป็นพื้นที่ของความเจริญ นั่นจึงทำให้เชื่อว่าการมีตัวแทน ส.ส.แต่ละเขตเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้พรรคพลังประชารัฐ สามารถเข้าถึงปัญหาของประชาชนได้อย่างทั่วถึง ไม่ใช่เพียงแค่การมองภาพรวมของจังหวัด แต่ต้องมองให้ลึกลงไปยังความเดือดร้อน โดยเฉพาะการลดขั้นตอนการทำงานของรัฐบาลที่ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้า

“ผมเชื่อว่าครอบครัวพลังประชารัฐ จะสามารถสร้างพลังพัฒนาสุราษฎร์ธานี ทั้ง 6 เขต จะช่วยทำให้พี่น้องฐานราก อิ่มท้อง มีอาชีพ มีรายได้ มีชีวิตที่ดีขึ้น”

ศ.ดร. นฤมล ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐพร้อมส่งตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานีลงทุกเขต ตั้งเป้าหมายไม่ว่าในอนาคตตนเอง และ ร.อ.ธรรมนัส จะมีตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ก็จะยังเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้กับชาวบ้านต่อไป เพราะเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่มีใครแก้ได้ แต่ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส ก็ดำเนินการอย่างเต็มความสามารถเพื่อยึดคืนที่ดินจากนายทุนกลับมาให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ทำกิน รวมถึงบัตรสวัสดิการรัฐ ที่จะดูแลตั้งแต่ในครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน ในการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน และการแก้ปัญหาของสินค้าทางการเกษตรที่จะต้องมีการตลาดนำ มีตลาดส่งออก และการแปรรูปสินค้า

“ไม่ได้ต้องการอำนาจ ไม่ได้ต้องการผลประโยชน์ แต่เราต้องการมาแก้ปัญหาเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือการแก้ปัญหาอย่างไรให้ประชาชนอยู่ดีกินดีแบบยั่งยืน”

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 30 พฤศจิกายน 2564

“ธณิกานต์” ขอบคุณ “บิ๊กป้อม” เห็นความสำคัญปัญหาเด็ก-สตรี ตั้งเป็นที่ปรึกษาฯ

, ,

“ธณิกานต์” ขอบคุณ “บิ๊กป้อม” เห็นความสำคัญปัญหาเด็ก-สตรี ตั้งเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าภาค ขับเคลื่อนการแก้ปัญหา ให้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการจากภาครัฐ

น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส. เขตบางซื่อ-ดุสิต ลงพื้นที่ขับเคลื่อนดูแลด้านสิทธิและสวัสดิภาพเยาวชนและสตรี หลังได้รับมอบหมายและโอกาสจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาหัวหน้าภาค ด้านสิทธิและสวัสดิภาพเยาวชนและสตรี

น.ส.ธณิกานต์ กล่าวขอบคุณหัวหน้าพรรคและหัวหน้าภาค ที่เห็นความสามารถและให้ความไว้วางใจ มอบหมายตำแหน่งเพิ่ม เพื่อเป็นตัวแทนในการรับฟังและร่วมผลักดันนโยบายด้านสิทธิและสวัสดิภาพเยาวชนและสตรี ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

โดยระบุว่า ปัจจัยสี่ ต้องเป็นสวัสดิการในระดับนโยบายชาติที่เข้าถึงได้จริง ตนพร้อมผลักดันดูแลเยาวชนและสตรี ให้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการจากภาครัฐ โดยเฉพาะด้านสภาพที่อยู่อาศัยที่ไม่ปลอดภัย ต้องได้รับการดูแลอย่างเป็นรูปธรรม-เข้าถึง-ทันที

น.ส.ธณิกานต์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้มีรายได้น้อย (กลุ่มเปราะบาง) กลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ต้องการความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย จากสภาพที่อยู่อาศัยผุพัง หลังคารั่ว สัตว์มีพิษหรือโจรผู้ร้ายอาจเข้ามาได้ สามารถส่งรูปสภาพความเดือดร้อนและติดต่อได้ที่ FB page อุ๋ม ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ หรือ Line @oumthanikan (มี @ ข้างหน้า) เพื่อเป็นกระบอกเสียงและผลักดันให้ได้รับการดูแลอย่างจริงจัง

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 30 พฤศจิกายน 2564

“บิ๊กป้อม” มอบ “ธรรมนัส-ประสาน” แก้ปัญหาชาวบ้านห้วยน้ำหิน อ.นาน้อย จ.น่าน

, ,

“บิ๊กป้อม” มอบ “ธรรมนัส-ประสาน” แก้ปัญหาชาวบ้านห้วยน้ำหิน อ.นาน้อย จ.น่าน ที่ถูกจับกุมและถูกดำเนินคดี และไร้ที่ทำกินจากผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าเมื่อปี 2558 ย้ำเร่งรัดช่วยเหลือโดยเร็ว

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดน่าน
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ได้พบปะกับตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) จ.น่าน และชาวบ้านห้วยน้ำหิน อ.นาน้อย จ.น่าน ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าเมื่อปี 2558 มีผู้ถูกจับกุมและถูกดำเนินคดีได้รับความเดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน โดยพลเอก ประวิตร ได้มอบหมายให้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ภาคเหนือพปชร.เป็นตัวแทนรับหนังสือร้องทุกข์เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือตามขั้นตอน

จากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส และ นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ. ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประชุมกับตัวแทนตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และ
ชาวบ้านห้วยน้ำหิน อ.นาน้อย พร้อมข้าราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังปัญหา ซึ่งทราบว่า จนถึงขณะนี้ผู้ถูกจับกุมและถูกดำเนินคดีดังกล่าวนั้น คดียังไม่มีความคืบหน้า แม้พนักงานสอบสวนพื้นที่จังหวัดน่าน ได้ทำสำนวนและมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปยังพนักงานอัยการ จ.น่านแล้ว แต่ชาวบ้านได้รับการประสานว่า อัยการส่งหนังสือกลับให้ตำรวจมีการสอบคดีเพิ่ม ทำให้ชาวบ้านกังวลในกระบวนการแก้ไขปัญหาล่าช้า สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินดังกล่าว

ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า เบื้องต้นพลเอกประวิตร ได้มอบหมายให้ตนเอง ในฐานะที่ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ 8 จังหวัด ให้ประสานงานร่วมกับนายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ. ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเร่งหาแนวทางประสานงานกับหน่วยงานราชการในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านห้วยน้ำหิน อ.นาน้อย โดยเร็ว

“เรื่องนี้ผมได้ติดตามมาตลอด ตั้งแต่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่านท่านเก่า ซึ่งดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการสั่งไม่ฟ้องและส่งสำนวนให้อัยการ แต่เนื่องจากตามกฎหมายต้องดำเนินการอย่างรัดกุมรอบคอบ ทางอัยการจังหวัดจึงได้ให้ทางตำรวจสอบสวนให้รัดกุม ซึ่งท่านรองนายกฯ ประวิตร ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย คือท่านประสาน กำกับดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว ดังนั้นผมเอง ในฐานะที่ดูแลภาคเหนือ 8 จังหวัด และได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลกับท่านประสาน เพื่อเร่งดำเนินการแก้ปัญหา เพราะทราบดีว่าเรื่องนี้ล่าช้ามานานพอสมควร ทำให้พี่น้องที่ถูกดำเนินคดีได้รับความเดือดร้อน ซึ่งผมได้พูดคุยกันกับประธานพีมูฟและกรรมการมาตลอด จึงขอให้สบายใจ จึงขอฝากทางรองผู้ว่าฯ, นายอำเภอนาน้อย และตำรวจภูธรจังหวัดน่าน และตำรวจท้องที่ เพื่อการขับเคลื่อน ซึ่งจะไม่ปล่อยให้ล่าช้า เราจะเร่งช่วยเหลือให้อย่างจริงจัง โดยเร็วที่สุด” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 29 พฤศจิกายน 2564