โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. และสมาชิก

“สส.สัมพันธ” “สส.อามินทร์” นำคณะ“มท.1” และ “รมว.ศึกษาฯ” ลงพื้นที่ ต.มูโนะ ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ”

,

“สส.สัมพันธ” “สส.อามินทร์” นำคณะ“มท.1” และ “รมว.ศึกษาฯ” ลงพื้นที่ ต.มูโนะ ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ”

วานนี้ 1 สิงหาคม 2566 นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ (บีลา) กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต 3 และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต 2 ร่วมต้อนรับ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทย และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมต.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในโอกาสลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องชาวมูโนะที่ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ” ณ ตลาดมูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส

พร้อมกันนี้ได้ร่วมประชุมหารือรับมอบนโยบายและข้อราชการต่างๆ และติดตามสถานการณ์โกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด โดยมีนายนริศ ขำนุรักษ์ รมต.ช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส, รอง ผวจ.นราธิวาส, หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาและช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบเหตุให้ได้รับการเยียวยาให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ทางด้านกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ได้รับการสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่ร่วมกันสนับสนุนงบประมาณจัดซื้อวัสดุ”กระเบื้องหลังคา” เพื่อแจกจ่ายมอบใ้หกับพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งส่งผลให้อาคารบ้านเรือนและหลังคาได้รับความเสียหาย โดยมีพี่น้องมาลงทะเบียนกว่า 500 ราย เพื่อมาขอรับการช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยทีมงานกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ได้บริการจัดส่งถึงบ้านเรือนของพี่น้องยังความประทับใจและขอบคุณพร้อมให้กำลังใจซึ่งกันและกันดั่งคำว่า “คนไทยที่ไหนเดือดร้อน..คนไทยย่อมไม่ทิ้งกัน” ทางทีมงานกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ซาบซึ้งในน้ำใจจากพี่น้องทั่วสารทิศ ทั่วไทย จึงขอขอบคุณทุกน้ำใจทุกท่าน มา ในโอกาสนี้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 สิงหาคม 2566

“ส.ส.สะถิระ”เสนอสภาฯตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทาง โอนย้ายบริการไฟฟ้าของชาวสัตหีบ จากไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ไปให้ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดูแลแทนบรรเทาความเดือดร้อนให้ ปชช.

,

“ส.ส.สะถิระ”เสนอสภาฯตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทาง โอนย้ายบริการไฟฟ้าของชาวสัตหีบ จากไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ไปให้ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดูแลแทนบรรเทาความเดือดร้อนให้ ปชช.

นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้เสนอญัตติด่วนเพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการมอบหน้าที่การให้บริการไฟฟ้า อำเภอสัตหีบ จากกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทาน กองทัพเรือ ไปเป็นหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยตรง เพราะในตอนนี้พี่น้องประชาชน อำเภอสัตหีบ ทั้ง ๕ ตำบล ตำบลแสมสาร ตำบลพลูตาหลวง ตำบลสัตหีบ ตำบลบางเสร่ และตำบลนาจอมเทียน ประสบปัญหาได้รับความเดือดร้อนจากการให้บริการไฟฟ้า โดยกิจการไฟฟ้าสวัสติการสัมปทานกองทัพเรือ ทั้งการขยายเขตไฟฟ้า ไฟดับ ไฟตก ค่าไฟ รวมถึง สิทธิประโยชน์ของผู้ใช้ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

นายสะถิระ กล่าวต่อว่า การขยายเขตไฟฟ้าพี่น้องประชาชนอำเภอสัตหีบ ยังไม่มีไฟฟ้าถาวรใช้อีกหลายครัวเรือน รวมถึงการเพิ่มขนาดกระแสไฟฟ้าในแต่ละครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันกระแสไฟฟ้าในอำเภอสัตหีบตกบ่อยมาก ทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้รับความเสียหาย ทำให้พี่น้องประชาชนอำเภอสัตหีบ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา

“การให้บริการไฟฟ้า โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นการให้บริการไฟฟ้าหลักของคนไทยทั้งประเทศ ควรเข้ามาให้บริการไฟฟ้าประชาชนอำเภอสัตหีบ เช่นเดียวกับพื้นที่อื่น ๆ ผมจึงขอเสนอญัตติด่วนดังกล่าว เพื่อตั้ง กมธ.ศึกษาให้ประชาชนอำเภอสัตหีบได้รับการบริการสาธารณะชั้นพื้นฐาน เช่นเดียวกับคนไทยทั้งประเทศ และเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยด่วน”นายสะถิระ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 สิงหาคม 2566

“ส.ส อรรถกร”ยื่นญัตติด่วนขอสภาฯตั้ง กมธ.แก้ไขราคากุ้งตกต่ำ หาทางช่วยเกษตรกรเลี้ยงกุ้งเดือดร้อนหนัก หลังมีการนำเข้าจาก ตปท.ย้ำ รัฐต้องเร่งจัดการก่อนปัญหาบานปลาย

,

“ส.ส อรรถกร”ยื่นญัตติด่วนขอสภาฯตั้ง กมธ.แก้ไขราคากุ้งตกต่ำ หาทางช่วยเกษตรกรเลี้ยงกุ้งเดือดร้อนหนัก หลังมีการนำเข้าจาก ตปท.ย้ำ รัฐต้องเร่งจัดการก่อนปัญหาบานปลาย

31 กรกฎาคม 2566 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)จ.ฉะเชิงเทรา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้เสนอญัตติด่วน เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำ เนื่องจากในขณะนี้ ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั้งขนาดกลาง และขนาดย่อยกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากราคากุ้งเลี้ยงตกต่ำอย่างรวดเร็ว โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งหลังจากการที่ คณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโช่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) หรือบอร์ดกุ้งอนุมัติการนำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์และอินเดียเข้ามา โดยอ้างว่าเกษตรกรไทยมีโครงการประกันราคากุ้งอยู่แล้ว

“ปัญหาการขาดทุนจากการเลี้ยงกุ้งของเกษตรกร เกิดมาจากราคาน้ำมันเซื้อเพลิงมีราคาสูง และ มีโรคระบาดในกุ้ง ประกอบกับราคาประกันขั้นต่ำที่ห้องเย็นตั้งไว้นั้นเท่ากับราคาตันทุนการผลิตที่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ซึ่งเท่ากับเป็นการบังคับให้เกษตรกรขายในราคาขาดทุน ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาหนี้สิน”นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า แม้ราคากุ้งจะถูกกำหนดโดยคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) แต่ราคาของจริงไม่ได้ตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด จึงต้องการให้รัฐช่วยลดภาระต้นทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เช่น ค่าอาหารกุ้ง ค่าปู่น ค่าไฟฟ้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง หากภาครัฐไม่ดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม ปัญหาอาจบานปลายได้

“ผมจึงขอให้สภาฯตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคากุ้งดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยโดยเร่งด่วน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สำคัญของแผ่นดินและประชาชนจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะรักษาความมั่นคง ของประเทศในทางเศรษฐกิจและสังคม โดยญัตติที่ผมเสนอไปได้ถูกบรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภาฯเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผมหวังว่าจะสามารถช่วยแก้ไขความเดือดร้อนของเกษตรกรได้ทันท่วงที”นายอรรถกร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 31 กรกฎาคม 2566

‘พลเอกประวิตร-ผู้กองธรรมนัส’ ร่วมทำบุญพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ วัดโพสพผลเจริญ จังหวัดปทุมธานี ขณะที่ ปชช.ในพื้นที่รอให้กำลังใจจำนวนมาก

,

‘พลเอกประวิตร-ผู้กองธรรมนัส’ ร่วมทำบุญพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ วัดโพสพผลเจริญ จังหวัดปทุมธานี ขณะที่ ปชช.ในพื้นที่รอให้กำลังใจจำนวนมาก

วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เป็นประธานในพิธียกช่อฟ้า อุโบสถวัดโพสพผลเจริญ ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.จังหวัดพะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ,พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ
และนายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ร่วมพิธีด้วย

ทั้งนี้ ก่อนที่พลเอกประวิตร จะเดินทางมาถึงที่วัดมีฝนตกโปรยปรายลงมา แต่ทันทีที่พลเอกประวิตร และคณะมาถึงฝนก็ได้หยุด และมีประชาชนมารอให้การต้อนรับจำนวนมาก พร้อมกันนี้ยังขอถ่ายรูป รวมถึงนำผ้าขาวม้ามาผูกที่เอวของพลเอกประวิตร พร้อมส่งเสียงเชียร์บอกให้สู้ๆ และเรียกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อีกด้วย ซึ่งพลเอกประวิตร มีสีหน้า สดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส

เวลา 13.19 น. พลเอกประวิตร พร้อมด้วย ร้อยเอกธรรมนัส และนายสุรทิน ได้ร่วมพิธียกช่อฟ้าอุโบสถฯ จนเสร็จสิ้นพิธี ท่ามกลางคำกล่าว “สาธุ สาธุ สาธุ” จากพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก จากนั้นพลเอกประวิตร ได้นำคณะไปปลูกต้นพยุง ไม้มงคล และร่วมพิธีเสริมดวงชะตาเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งในช่วงทำพิธีดังกล่าว ทางวัดขอให้สื่อมวลชนออกไปรอภายนอกโบสถ์ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชนเป็นอย่างดี

มีรายงานว่า หลังเสร็จพิธีแล้ว พลเอกประวิตร ยังได้ทักทายประชาชนที่รอให้กำลังใจ ก่อนจะเดินขึ้นรถกลับทันที ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 กรกฎาคม 2566

“พล.อ. ประวิตร” ขอแสดงความเสียใจกับ พี่น้องปชช.ต.มูโน๊ะ ประสบเหตุโรงงานประทัดระเบิด มอบ สส.พปชร เร่งดูแล ปชช.ในพื้นที่ลดความเดือดร้อน

,

“พล.อ. ประวิตร” ขอแสดงความเสียใจกับ พี่น้องปชช.ต.มูโน๊ะ ประสบเหตุโรงงานประทัดระเบิด มอบ สส.พปชร เร่งดูแล ปชช.ในพื้นที่ลดความเดือดร้อน

30 กรกฎาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องประชาชนชาว ต.มูโน๊ะ อ.สุไหง-โกลก จ.นราธิวาส จากอุบัติเหตุโรงงานประทัดระเบิดเมื่อวันที่ 29 กค ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมถึงบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายในวงกว้าง

ทั้งนี้ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ บีลา ส.ส.นราธิวาส เขต 3 และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส. นราธิวาส เขต 2 ได้ลงเข้าพื้นที่เปิดครัว และที่พักชั่วคราว พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการให้ความช่วยเหลือและดูแลพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะรองนายกฯ ดูแลด้านความมั่นคง ได้สั่งการลงในพื้นที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โดยด่วน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 กรกฎาคม 2566

“ดร.เอ สะถิระ” หนุน พัฒนาคนรุ่นใหม่รับอุตสาหกรรมใหม่ พร้อมส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้คนพื้นที่ ลั่น ขอทำงานเพื่อสัตหีบตลอดไป

,

“ดร.เอ สะถิระ” หนุน พัฒนาคนรุ่นใหม่รับอุตสาหกรรมใหม่ พร้อมส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้คนพื้นที่ ลั่น ขอทำงานเพื่อสัตหีบตลอดไป

นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จ.ชลบุรี อยู่ในเขตพื้นที่เศรษฐหกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งเราได้พัฒนาพื้นที่ รวมถึงการสร้างบุคลากรเพื่อรองรับ โดยรัฐบาลชุดที่ผ่านมาได้วางแผนพัฒนาแรงงานทักษะไว้เพื่อรองรับการขยายตัวในพื้นที่ และอุตสาหกรรมใหม่ที่มาพร้อมอีอีซี โดยเน้นดึงคนรุ่นใหม่ของให้เกิดการเรียนรู้กับวิชาการแนวใหม่ๆที่จะนำมาสู่การสร้างรายได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่มากขึ้น รวมทั้งเร่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ปัญหาสาธารณูปโภครวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ที่บางแห่งที่ยังมีความต้องการจากประชาชน สิ่งเหล่านี้ คือ เรื่องที่เราทำไปแล้วแต่ก็ยังมีความจำเป็นที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

นายสะถิระ กล่าวต่อว่า ตลอด 4 ปีของการลงพื้นที่ทำหน้าที่ ส.ส.มีทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหา และแนวทางการพัฒนา โดยตนได้นำเสียงสะท้อนของพี่น้องประชาชนไปบอกต่อพรรค เพื่อนำเสนอในแผนนโยบายของรัฐบาล นำมาสู่การพัฒนาอำเภอสัตหีบ ซึ่งเป็นเสียงจากล่างสู่บน ไม่ใช่บนสู่ล่าง เพื่อพี่น้องชาวอำเภอสัตหีบ ตนฟังเสียงของประชาชนเป็นหลักในการทำงานมาโดยตลอด

“ผมอาจไม่ใช่ผู้แทนที่เก่ง หรือ ดีที่สุด แต่ขอปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงชาติบ้านเมือง เพื่อศักดิ์ศรีของอำเภอสัตหีบ ผมตั้งใจมาเป็นปากเป็นเสียงในการทำงาน แก้ปัญหา พัฒนา ยังคงเป็นแนวทางการทำงานที่สำคัญที่สุด ถึงแม้ว่า การเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่แนวทางการทำงานของผมเป็นเช่นนี้เพื่อสัตหีบตลอดไป”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 กรกฎาคม 2566

“ส.ส.เพชรภูมิ” ร่วมผลักดันสร้างฝายผันน้ำแม่น้ำปิงสำเร็จ แก้ปัญหาน้ำขาดแคลนช่วยเกษตรกรนับแสนไร่ใน3อำเภอ

,

“ส.ส.เพชรภูมิ” ร่วมผลักดันสร้างฝายผันน้ำแม่น้ำปิงสำเร็จ
แก้ปัญหาน้ำขาดแคลนช่วยเกษตรกรนับแสนไร่ใน3อำเภอ

นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ สส.จังหวัดกำแพงเพชร เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนน้ำซึ่งตนได้ร่วมประสานแนวทางการช่วยเหลือไปยังกรมชลประทานซึ่งล่าสุดทางกรมชลฯได้เตรียมพัฒนาฝายกั้นน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างในเร็วๆ นี้ เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำปิง ทำการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ ผลิตประปาหมู่บ้าน ให้กับพี่น้องประชาชน ในตำบลลานดอกไม้ อำเภอเมืองกำแพงเพชร ตำบลโกสัมพี อำเภอโกสัมพีนคร และอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ขณะเดียวกันได้ทำข้อตกลงกับประชาชนในการใช้น้ำ เพื่อลดปัญหาการแย่งชิงน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ในฤดูกาลเพาะปลูก

นอกจากนี้ยังต้องมีการพัฒนาในเรื่องของคลองส่งน้ำ ประตูน้ำต่างๆ ต่อไป เพื่อให้สอดรับกับฝายที่จะพัฒนาขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ไม่ใช่คลองที่กรมชลประทานรับผิดชอบ ทำให้ไม่สามารถ เข้าไปซ่อมบำรุง หรือพัฒนาได้เท่าที่ควร แต่เมื่อมีการพัฒนาโครงการฝายกันน้ำแล้วเสร็จ ก็จะเป็นพื้นที่ของกรมชลประทานเข้ามาดูแล ซึ่งจะส่งผลดีตอประชาชนที่จะได้รับโอกาสพัฒนาระบบชลประทานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ผมพยายามผลักดันฝายกั้นน้ำตรงจุดนี้ร่วมกับชาวบ้านมาโดยตลอด จนประสบความสำเร็จ ที่กรมชลประทานเตรียมจะมาสร้างฝายกั้นน้ำ เพื่อผันน้ำไปยังพื้นที่ใช้น้ำจากลำคลองดังกล่าว ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้น้ำ ทั้งสามอำเภอซึ่งรวมพื้นที่ราว 1 แสนไร่ที่สำคัญหากฝายกั้นน้ำบริเวณนี้สร้างสำเร็จจะช่วยพี่น้องเกษตรกร ได้นับแสนไร่ด้วย”นายเพชรภูมิ กล่าว

นายเพชรภูมิ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำปิง เพื่อความสะดวกในการย่นระยะทางการติดต่อระหว่างอำเภอ ซึ่งปัจจุบัน ประชาชนต้องได้รับความเดือดร้อนในการสัญจร โดยเฉพาะการเดินทางไปรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลหลัก การขนส่งสินค้าเกษตร เป็นต้น จึงได้ประสานไปยังกรมหลวงชนบทให้พิจารณาเร่งเพื่อดำเนินการก่อสร้างสะพานดังกล่าว ซึ่งตนและประชาชนในพื้นที่ได้แก้ไขปัญหาการจัดการที่ดินเพื่อก่อสร้าง โดยเจ้าของที่ดินทั้งสองฝั่งแม่น้ำ ยินยอมให้ใช้ประโยชน์เป็นที่เรียบร้อย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 กรกฎาคม 2566

“อนุรัตน์ สส.พะเยา”หวั่นชาวบ้านประสบภัยแล้งหนัก น้ำไม่พอใช้ กระทบภาคเกษตร วอนรัฐพิจารณางบวางท่อน้ำเพื่อผลิตประปาระดับท้องถิ่นลดความเดือดร้อนให้ ปชช.

,

“อนุรัตน์ สส.พะเยา”หวั่นชาวบ้านประสบภัยแล้งหนัก น้ำไม่พอใช้ กระทบภาคเกษตร
วอนรัฐพิจารณางบวางท่อน้ำเพื่อผลิตประปาระดับท้องถิ่นลดความเดือดร้อนให้ ปชช.

นายอนุรัตน์ ต้นบรรจง สส. เขต 2 จังหวัดพะเยา ในอำเภอจุน ในอำเภอพูซาน อำเภอเชียงคำ กล่าวหารือถึงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ได้รับแจ้งจากพี่น้องประชาชนใน 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลลอ ตำบลหิน ตำบลห้วยยางขาว และตำบลห้วย ถึงสถานการณ์ปริมาณน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค รวมถึงเกษตร แหล่งน้ำในอำเภอจุนใน ที่ยังต้องพึ่งพิงจากธรรมชาติ โดยการขุดสระ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ แต่ขณะนี้ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากเกิดปัญหาภัยแล้ง น้ำในสระมีปริมาณไม่เพียงพอที่จะสูบขึ้นมาใช้ในการอุปโภค บริโภค ปัญหาที่ตามมาคือ น้ำในการใช้เพื่อการเกษตรไม่เพียงพอ เช่นเดียวกัน เนื่องจากประชาชนทั้ง 4 ตำบลนี้ มีอาชีพทำเกษตรกร ทำสวน ทำไร่ เป็นหลัก

“ผมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันงบประมาณ ส่งเสริมให้เกิดการโครงการวางท่อน้ำ HDPE จัดทำน้ำประปาระดับชุมชน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด มีน้ำใช้ แต่ในขณะนี้พบว่า ยังขาดงบประมาณ ในการที่จะทำการวางท่อ เพื่อการผลิตน้ำปะปา ที่จะป้อนให้กับประชาชนได้ใช้น้ำประปา ขอให้หน่วยงาน เร่งดำเนินการพิจารณา โดยด่วน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว “นายอนุรัตน์ กล่าว

นายอนุรัตน์ กล่าวต่อว่า ถนนสาย 1021 เป็นถนนที่เชื่อมต่อจาก อำเภอจุนสู่ อำเภอเชียงคำ ใน กมที่ 70+300 -กมที่ 71+400 เป็นแยกเชียงบาน เป็นจุดเสี่ยงสำคัญ ที่ประชาชนได้ประสบอุบัติเหตุ อย่างที่เรียนไว้ข้างต้นครับ กมที่ 70+300 -กมที่ 71+400 ตนขอให้ขยายเป็นถนนสี่เลน และมีสัญญาณไฟจราจร ให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 กรกฎาคม 2566

สส. อรรถกร วอนกรมชลแก้ปัญหาผักตบชวาล้นแม่น้ำบางปะกง ลดความเดือดร้อนประกอบอาชีพในลำน้ำของประชาชน

,

สส. อรรถกร วอนกรมชลแก้ปัญหาผักตบชวาล้นแม่น้ำบางปะกง ลดความเดือดร้อนประกอบอาชีพในลำน้ำของประชาชน

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ กล่าวหารือถึงความเดือดร้อนของพี่น้องจังหวัดฉะเชิงเทราในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนที่ได้รับความไม่สะดวกในการสัญจรไปมา โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน บนทางหลวงหมายเลข 3076 เส้นพนมสารคาม บ้านซ่า โดยเฉพาะในช่วง จากตำบลหนองยาวอำเภอ พนมสารคาม ไปถึงช่วงตำบลดงน้อย อำเภอราชสาน ว่าในช่วงเวลากลางคืนแสงสว่างไม่เพียงพอ จนทำให้เกิดความไม่สะดวก และเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง จึงขอเรียนผ่านท่านประธานไปยังกระทรวงคมนาคม ขอให้ติดตั้งไฟส่องสว่างเป็นช่วง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

นายอรรถกร ยังกล่าวต่อถึงปัญหาจากประชาชนที่อาศัยอยู่ช่วงถนนสายบางปะอิน หมู่ที่ 6 ตำบลบางกระเจ็ด ว่า ในบางช่วงของการใช้ไฟฟ้ามีเหตุการณ์เกิดไฟตกทำให้การใช้ชีวิตภายในบ้านไม่ปกติ หลายครั้ง เครื่องใช้ไฟฟ้าก็เสียหาย่ จึงขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ช่วยขยายเฟสไฟใน ช่วงหมู่ที่6 ตำบลบางกระเจ็ดจาก 2 เฟสเป็น 3 เฟสทั้งหมดด้วย จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้เยอะ

“ส่วนเรื่องที่สำคัญและเร่งด่วนอีกเรื่อง เนื่องจากในขณะนี้แม่น้ำบางประกง ในช่วงของตำบลกลางตลาด ช่วงตำบลบางขนาด และในบริเวณอำเภอคลองเขื่อน และที่เขตบางปะกง มีปัญหาผักตบชวาล้น ต้องเรียกว่ามวลมหาผักตบชวาก็เป็นไปได้ สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่มีวิถีชีวิตประมง ในลำน้ำ เพื่อมาเลี้ยงชีพ รวมถึง ปัญหาของการสัญจรไปมาในริมคลองแม่น้ำ ซึ่งเป็นปัญหาทุกปี ซึ่งในอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้รับความช่วยเหลือจากกรมชลประทาน องค์กรจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมไปถึงอำเภอกำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต และพี่น้องประชาชนช่วยกันป้องกันปัญหาผักตบชวาที่ต้องจัดการ โดยการต้องเรี่ยไรเงิน ที่จะนำไปแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ผมขอให้กรมชลประทานช่วยระดมกำลังเครื่องไม้เครื่องมือ มาแก้ไขอย่างต่อเนื่อง”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 กรกฎาคม 2566

“ชนนพัฒฐ์”พร้อมลงมือแก้ปัญหาพัฒนาอาชีพเสริมชาวสงขลา เพิ่มแหล่งน้ำทำเกษตรทั้งปี พัฒนาตลาดกลางรับซื้อสินค้าเกษตร

,

“ชนนพัฒฐ์”พร้อมลงมือแก้ปัญหาพัฒนาอาชีพเสริมชาวสงขลา
เพิ่มแหล่งน้ำทำเกษตรทั้งปี พัฒนาตลาดกลางรับซื้อสินค้าเกษตร

17 ก.ค. 2566 นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ส.ส.สงขลา เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับทำหน้าที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมบูรณ์แล้ว พร้อมจะทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และจะตั้งใจเป็นปากเป็นเสียง ผลักดันการพัฒนา และแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนชาวสงขลา เขต 4 อย่างเต็มที่ และขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ให้โอกาสและสนับสนุนคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมือง ซึ่งถือเป็นเกียรติครั้งที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการใน 3 เรื่องหลัก ในพื้นที่เขต 4 ซึ่งเป็นปัญหาของคนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง คือ 1.ปัญหาน้ำแล้งและน้ำเค็มที่รุกล้ำ โดยจะมีการเสนอสร้างแก้มลิงขนาดใหญ่ในทะลสาบในพื้นที่ ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ เพื่อใช้ในการกักเก็บน้ำจืด เพื่อการเกษตรในหน้าแล้ง เพื่อให้มีน้ำใช้ตลอดปีในการทำการเกษตรแล้ว ยังเป็นการป้องกันน้ำเค็มไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชน ซึ่งโครงการแก้มลิงอยู่ระหว่างการตั้งงบประมาณเพื่อการศึกษา ซึ่งหากโครงการสำเร็จ เกษตรกรในคาบสมุทรสทิงพระ จะไม่มีปัญหาเรื่องน้ำแล้งและ น้ำท่วมอีกต่อไป 2. ปัญหาประมง ต้องมีการพัฒนารายได้เสริมให้กับชาวประมง ที่ต้องหยุดการทำประมงเวลา 6 เดือน ในช่วงฤดูมรสุม และ 3. แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรพืชผล โดยการตั้งตลาดกลางรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรโดยตรง โดยตลาดกลาง จะคิดราคาที่เป็นธรรม และบริหารจัดการราคาเพื่อไม่แสวงหากำไร เป็นการป้องกันพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบเกษตรกร โดยอาศัยจากประสบการณ์ การทำธุรกิจ รู้เส้นทางการค้าขาย ซึ่งใน 3 เรื่องนี้ เป็นปัญหาหลัก ที่ต้องผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ของชาวสงขลา

“แม้ผมจะไม่เคยเล่นการเมือง ไม่ว่าจะระดับไหน แต่ผมมีความรู้ มีความเข้าใจ ในปัญหาของประชาชน และที่สำคัญคือ ผมมีความตั้งใจที่จะเป็นนักการเมือง ที่จะเข้ามารับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ผมยังประสบความสำเร็จในเรื่องกีฬา ในฐานะที่เคยเป็นประธานสโมสรฟุตบอลนครศรี ยูไนเต็ด จ.นครศรีธรรมราช ก็จะใช้ประโยชน์ในเรื่องนี้ผลักดันให้เด็ก ๆ และเยาวชนในพื้นที่ใช้เวลาว่างไปกับการออกกำลังกายกับกีฬา ดีกว่าหันหน้าเข้าสู่ยาเสพติด”นายชนนพัฒฐ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 กรกฎาคม 2566

“อนันต์ ผลอำนวย”พร้อมศิษยานุศิษย์ ร่วมพิธีฉลองสัญญาบัตร พัดยศ”พระครูอุดมวชิรกิตติ์”

,

“อนันต์ ผลอำนวย”พร้อมศิษยานุศิษย์ ร่วมพิธีฉลองสัญญาบัตร พัดยศ “พระครูอุดมวชิรกิตติ์”

นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.เขต 3 จ.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้เข้าร่วมพิธีฉลองสัญญาบัตร – พัดยศ (จอ.ชอ.) และงานทำบุญอายุวัฒนมงคลครบ 73 ปี พระครูอุดมวชิรกิตติ์ (เยี่ยม กิตติภทโท ทิมชล) เจ้าเจ้าคณะอำเภอคลองขลุง เจ้าอาวาส โดยมีพระมหาเถระ พระเถรานุเถระ ร่วมเจริญพระพุทธมนต์ มีคณะสงฆ์ พร้อมด้วยข้าราชการ อุบาสกอุบาสิกาพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธี ณ วัดหนองเต่าทอง ตำบลคลองขลุง อำเภอคลองขลุง

โดยมีนายสดุดี พุทธัง นายอำเภอคลองขลุง เป็นประธาน(ฝ่ายฆราวาส) ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) บทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ระดับตำบล เพื่อเป็นแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข และเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”บวร” โดยมีพระครูอุดมวชิรกิตติ์ เจ้าคณะอำเภอคลองขลุง เป็นประธาน(ฝ่ายสงฆ์) เจ้าคณะตำบลทั้ง 10 ตำบล กำนัน ทุกตำบล เข้าร่วมลงนามในพิธีฯ

ทั้งนี้ภายในงานได้มีการเปิดโรงทานมหาเศรษฐีมีสมบัติพันล้าน ถวายภัตตาหารเพล แด่เจ้าคณะพระสังฆาธิการและสามเณร 300 รูป และเลี้ยงสาธุชนที่มาร่วมงานพิธีด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 กรกฎาคม 2566

“อามินทร์ มะยูโซ๊ะ”ลั่น ต้องพัฒนาเมืองชายแดนให้เป็นรูปธรรม แนะ เปิด ม.นานาชาติ-รามคำแหง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนพื้นที่

,

“อามินทร์ มะยูโซ๊ะ”ลั่น ต้องพัฒนาเมืองชายแดนให้เป็นรูปธรรม แนะ เปิด ม.นานาชาติ-รามคำแหง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนพื้นที่

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก และ อ.ตากใบว่า ยังพบอีกหลายปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ซึ่งทั้ง 2 อำเภอเป็นเมืองที่เป็นประตูเศรษฐกิจชายแดนของ จ.นราธิวาส แต่กลับไม่ได้รับการพัฒนา เป็นเพียงทางผ่านของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางผ่านไปจังหวัดอื่นๆ เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากที่ต้องเร่งรัดก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด รวมถึงปัญหาเกษตรกรที่ทำนาได้แค่บริโภค ไม่พอที่จะเอาไปจำหน่ายสร้างรายได้ให้ครัวเรือนได้

นายอามินทร์ กล่าวต่อว่า จากปัญหาที่กล่าว ตนจะเสนอแนวทางการพัฒนาเมืองชายแดนที่เป็นรูปธรรม ด้วยการผลักดันให้เกิดมหาวิทยาลัยนานาชาติ รวมทั้งมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตสุไหงโก-ลก ในพื้นที่เพราะจะทำให้เกิดการพัฒนาเมืองแบบก้าวกระโดด ถ้ามีสถานประกอบการร้านค้ามากขึ้น เศรษฐกิจในพื้นที่ก็จะดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ การตั้งโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อรองรับนำผลผลิตในพื้นที่ โดยเฉพาะโรงงานแปรรูป ควบคู่กับการส่งเสริมการทำเกษตรผสมผสาน การทำปศุสัตว์เเบบครบวงจร ให้มีการเลี้ยงวัว เลี้ยงเเพะคุณภาพดี ทดแทนการสั่งซื้อวัวและแพะ

“ถ้าเราสามารถทำระบบประปาให้เข้าถึง และครอบคลุมพื้นที่ อ.ตากใบ จะยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนในพื้นที่ได้ เพราะจะเกิดการจ้างงาน เมื่อเศรษฐกิจเมืองชายแดนเติบโต ก็จะส่งผลให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่ตามมา เพราะประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพ มีรายได้ สุดท้ายก็จะไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 กรกฎาคม 2566