โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: ข่าวกิจกรรม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ

“พัชรวาท” ฟิต ถกแก้ฝุ่นพิษ 2 ชุดรวด จับมือ “ธรรมนัส” ประกาศสงคราม PM 2.5 และการเผา กำชับขนส่ง-จราจร คุมเข้มตั้งจุดตรวจรถควันดำ แนะเพิ่มความถี่ ขยายวงกว้าง

,

“พัชรวาท” ฟิต ถกแก้ฝุ่นพิษ 2 ชุดรวด จับมือ “ธรรมนัส” ประกาศสงคราม PM 2.5 และการเผา กำชับขนส่ง-จราจร คุมเข้มตั้งจุดตรวจรถควันดำ แนะเพิ่มความถี่ ขยายวงกว้าง

ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการจัดการไฟในพื้นที่เกษตรกรรม โดยชุดแรกได้เชิญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกัน พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 มีระดับเข้มข้นขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน จึงเชิญหน่วยที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อหาแนวทางรับมือร่วมกัน โดยเฉพาะภาคเกษตรที่จะเข้าสู่ฤดูกาลของการเผา

ในที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันว่า มาตรการที่เคยดำเนินการมาอาจจะไม่ได้ผล เพราะปริมาณฝุ่นไม่ลดลง
จึงเห็นควรประกาศสงครามกับ PM 2.5 และการเผา และควรมีการสื่อสารกับประชาชน ว่าการเผาผิดกฏหมายอาญาเข้าข่ายการวางเพลิงมีโทษสูง ทั้งถูกจับถูกปรับ และหากพบว่าในที่ดิน สปก.มีการเผาอาจจะมีการยกเลิกสิทธิ์ในการออกเป็นโฉนด รวมทั้งที่ดินจากคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติอาจจะถูกยึดคืน ขณะเดียวกันยังมีข้อเสนอให้มีการล็อกเป้าตรึงพื้นที่เกษตร ในช่วง 2-3 เดือนจากนี้ ไม่ควรมีการเผา เพราะเป็นช่วงวิกฤติ หรือให้มีการเผาน้อยที่สุด ควรมีมาตรการลดเผาตอซังข้าว โดยเสนอให้ช่วยเหลือเกษตรกรเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์ เช่น น้ำยาอีเอ็มช่วยย่อยสลาย หรืออาจร่วมมือกับเอกชนรับซื้อใบอ้อย ใบข้าวโพดมาอัดเป็นพลังงานชีวมวล การไม่รับซื้ออ้อยที่เผาไฟ เป็นต้น ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะนำไปปรับแก้แล้วนำกลับเสนอให้คณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืนพิจารณาในวันที่ 21 ธ.ค.ต่อไป

หลังจากประชุมชุดแรกแล้วเสร็จ พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เป็นประธานการประชุมควบคุมฝุ่นละอองจากภาคจราจร โดยมีตัวแทนจากกรมการขนส่งทางบก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจจราจร และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. และผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม.

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า วันนี้ที่เชิญทุกหน่วยงานมา เพื่อขอความร่วมมือให้เข้มงวดกวดขันเรื่องรถควันดำ และควรมีการจัดชุดปฏิบัติการตรวจให้มีความถี่ขึ้นและควรเพิ่มชุดตรวจให้มากยิ่งขึ้น ในช่วงที่มีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งต้องประสานความร่วมมือกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก กับตำรวจจราจร ในการทำงานจะได้ไม่ซ้ำซ้อนในด้านพื้นที่ตรวจสอบรถควันดำ ขณะเดียวกันขอฝากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจังหวัดปริมณฑลช่วยตรวจตราการเผาในพื้นที่เกษตรกรด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ. พัชรวาท” จับเข่าคุยรองผู้ว่าฯ เชียงราย ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ห่วงกระทบสุขภาพปชช. ตรวจเข้มเผานาข้าว หลังมีข้อมูล “จิสด้า” จับจุด Hotsport พบเผาหลายพื้นที่ ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ฟ้าใส”

,

“พล.ต.อ. พัชรวาท” จับเข่าคุยรองผู้ว่าฯ เชียงราย ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ห่วงกระทบสุขภาพปชช. ตรวจเข้มเผานาข้าว หลังมีข้อมูล “จิสด้า” จับจุด Hotsport พบเผาหลายพื้นที่ ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ฟ้าใส”

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเปิดงานเทศกาลหนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ได้มีโอกาสพบปะหารือกับนายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ว่าฯ มาร่วมงานดังกล่าว จึงได้ใช้โอกาสนี้หารือเกี่ยวกับข้อห่วงใยเรื่องของไฟป่าหมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ที่เชียงราย ซึ่งได้กำชับกับรองผู้ว่าฯและฝากถึงผู้ว่าฯ ให้ช่วยกันตรวจตรา เรื่องการเผาเรือกสวนไร่นาของประชาชน เพราะขณะนี้เข้าใกล้ช่วงของการเตรียมพื้นที่สำหรับทำเกษตรกรรมในฤดูกาลที่จะมาถึงอาจจะมีการเผามากยิ่งขึ้น จนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในวงกว้าง

นอกจากนี้ตนได้รับการรายงานข้อมูลจาก จิสด้า พบว่าพื้นที่จังหวัดเชียงรายมีจุด Hotsport เกิดขึ้นจากการเผานาข้าว แม้ว่าจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องก็ยังพบว่ามีการเผาอยู่ ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือทางจังหวัดให้เข้มงวดมากขึ้น เพราะมีอำนาจในการสั่งการแก้ปัญหา อีกทั้งมีข้อมูลจากดาวเทียมชี้พิกัดที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเกิดบริเวณไหน อย่างไร เชื่อว่าจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที อย่างไรก็ตามก็อยากขอร้องพี่น้องประชาชน ให้ความร่วมมือหยุดการเผา เพราะปัญหานี้จะแก้ไขได้ทุกฝ่าย ต้องช่วยกันจึงจะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันตนได้มีการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาว และเมียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินยุทธศาสตร์ฟ้าใส ลดการเผาพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่า และร่วมกันให้ข้อมูลกับประชาชนให้ตระหนักปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ปัญหานี้ต้องจับมือกันแก้ไข เพื่อสุขภาพที่ดีของพี่น้องประชาชนของเรา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ชูแคมเปญ “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” ร่วมใจในวันสิ่งแวดล้อมไทย

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ชูแคมเปญ “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” ร่วมใจในวันสิ่งแวดล้อมไทย

มุ่งให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ไขเพื่อเดินหน้าลดปัญหาการปล่อยคาร์บอนสู่เป้าหมายNet Zero

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2566 พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีและกล่าวปาฐกถาพิเศษ เนื่องใน “วันสิ่งแวดล้อมไทย” และ “วันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ” ที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดขึ้น ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนเครือข่ายชุมชนปลอดขยะและโรงเรียนปลอดขยะ และเครือข่าย ทสม. เข้าร่วม

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า วันนี้นับจากจุดเริ่มต้นของวันสิ่งแวดล้อมไทย ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำรัสให้การดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานที่ดูแล อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้น้อมนำตามแนวพระราชดำรัสของพระองค์มาปฏิบัติโดยตลอด ทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชน ทุกคนมีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดูแลรักษาโลกใบนี้ให้สืบทอดต่อไปจนถึงอนุชนรุ่นหลัง และนอกจากวันนี้จะเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทยแล้ว ยังเป็นวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ ซึ่งตนต้องขอบคุณเครือข่าย ทสม. ที่มีส่วนร่วมและประสานกลไกในการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง

“ปัจจุบันโลกใบเดียวของเราได้ส่งสัญญาณ และปี 2566 กำลังจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า เป็นปีที่ร้อนที่สุด ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องร่วมกันลงมือทำ เพื่อให้ลูกหลานของเรามีโลกใบนี้ที่อาศัยอยู่ได้ต่อไป ซึ่งประเทศไทยได้ให้คำมั่นสัญญาต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยได้ทำตามสิ่งที่ได้ให้คำมั่นไว้อย่างแน่นอน พร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อยกระดับการดำเนินงานต่อไป มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2593 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2608” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของประชาชนคนไทยทุกคน ที่จะมีส่วนร่วมในการปกป้อง ดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนเรื่องใกล้ตัวให้เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและรูปแบบการใช้ชีวิตชีวิตประจำวันให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดในการรณรงค์จัดกิจกรรมฯ ในปีนี้ ที่ว่า “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” และขอใช้โอกาสนี้กระตุ้นให้ผู้คนได้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งรับ ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกัน เริ่มจากการ “เปลี่ยนเรา” และขับเคลื่อนงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลให้ “เปลี่ยนโลก” เพื่อ “ลดโลกเดือด”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

“พัชรวาท” มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน แจกไม้มงคล 19 ชนิด 101,010 กล้า ผ่านพิธีพุทธาภิเษก จาก “สมเด็จธงชัย” ได้สิริมงคล – เพิ่มพื้นที่สีเขียว นำบัตรประชาชนมารับได้ตั้งแต่ 13-28 ธ.ค. พร้อมกันทั่วประเทศ

,

“พัชรวาท” มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน แจกไม้มงคล 19 ชนิด 101,010 กล้า ผ่านพิธีพุทธาภิเษก จาก “สมเด็จธงชัย” ได้สิริมงคล – เพิ่มพื้นที่สีเขียว นำบัตรประชาชนมารับได้ตั้งแต่ 13-28 ธ.ค. พร้อมกันทั่วประเทศ

พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ “พฤกษามหามงคล” โดยมี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ท่านเจ้าประคุณธงชัย) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่
หนกลาง วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์รวม 10 รูป
ร่วมเจริญพระพุทธมนต์พุทธาภิเษกกล้าไม้มงคลกว่า 19 ชนิด จำนวน 101,010 กล้า พร้อมทั้งแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อสิริมงคลและเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2567
ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งใจมอบให้ประชาชน

พล.ต.อ. พัชรวาท กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ผลักดันและส่งเสริม
ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศ ด้วยวิธีสนับสนุนการปลูกและฟื้นฟูป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ “ปลูกป่า ปลูกคน” สร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วม ประกอบกับช่วงโอกาสพิเศษ
ในวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2567 ที่กำลังจะมาถึง กระทรวงทรัพย์ฯ โดยกรมป่าไม้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ “พฤกษามหามงคล” ซึ่งนำกล้าไม้มงคลกว่า 19 ชนิด อาทิ สักทอง พะยูง ไผ่สีสุก ล่ำซำ (สั่งทำ)
หอมหมื่นลี้ จิกเศรษฐี หัวใจเศรษฐี แผ่บารมี (หูกระจง) มั่งมี (เฉียงพร้านางแอ) ชะแมบทอง จำปี ขนุน พิกุล ทองหลาง ทรงบาดาล ชัยพฤกษ์ บุนนาค มะขาม และกันเกรา จำนวน 101,010 กล้า ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี จะได้นำกล้าไม้มงคลดังกล่าวแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
ให้นำกลับไปปลูกเป็นสิริมงคลกับครอบครัวและที่อยู่อาศัย หรือนำไปปลูกตามสถานที่หน่วยงาน
ซึ่งเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้

ทั้งนี้ประชาชนสามารถเดินทางมาขอรับกล้าไม้มงคลได้ระหว่างวันที่ 13-28 ธันวาคม 2566 ณ กรมป่าไม้ บางเขน กรุงเทพมหานคร โดยแบ่งเป็น 4 รอบ รอบละ 50 ท่าน ช่วงเช้ารอบแรกเวลา 9.00 น.
และรอบสองเวลา 10.30 น. สำหรับช่วงบ่ายเริ่มเวลา 13.00 น. และรอบสุดท้ายเวลา 15.00 น. สามารถขอรับกล้าไม้ได้ท่านละ 50 ต้น โดยนำบัตรประชาชนมาลงทะเบียนรับกล้าไม้ พร้อมนำถุงผ้าหรือภาชนะมาใส่กล้าไม้ และขอความร่วมมือประชาชนในการงดใช้ถุงพลาสติกเพื่อช่วยลดโลกร้อน

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า นอกจากการจัดพิธี
ในส่วนกลางแล้ว ประชาชนในส่วนภูมิภาคก็สามารถขอรับกล้าไม้มงคลได้เช่นกัน โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้
ทั่วประเทศจะจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ “พฤกษามหามงคล” พร้อมกับส่วนกลาง และประชาชนในพื้นที่
สามารถโทรสอบถามและขอรับกล้าไม้มงคลได้ที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ทั่วประเทศ หรือติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ที่เว็บไซต์กรมป่าไม้ www.forest.go.th/nursery/requestseedling/seedlingnurserylocation

นายจตุพร กล่าวอีกว่า สำหรับเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ คาดว่าจะมีประชาชนต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา
เพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัวจำนวนมาก กระทรวงทรัพย์ฯ โดยกรมป่าไม้ ได้จัดเตรียมของขวัญให้กับประชาชนในช่วงระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 66 – 1 ม.ค. 67 โดยจะยกเว้นค่าบริการท่องเที่ยวในป่านันทนาการ
3 แห่ง ได้แก่ ป่านันทนาการทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จ.ยะลา ป่านันทนาการหินสามวาฬ จ.บึงกาฬ
และป่านันทนาการน้ำตกเขาอีโต้ จ.ปราจีนบุรี เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ได้เข้าไปท่องเที่ยวธรรมชาติกับครอบครัว นอกจากนี้ กรมป่าไม้ได้จัดจุดให้บริการประชาชน นักท่องเที่ยว
เป็นจุดพักรถ จำนวน 297 จุด และให้บริการช่วยเหลืออำนวยความสะดวก บริการเครื่องดื่ม ผ้าเย็น
ยาสามัญเบื้องต้น ให้ข้อมูลการเดินทาง และห้องสุขา ในช่วงเวลาดังกล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ดึงหน่วยงานแหล่งกำเนิดฝุ่น ร่วมวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา – ออกมาตรฐานรับมือฤดูฝุ่นจิ๋ว สื่อสารให้ประชาชนรับทราบข้อมูลให้ทันท่วงที ด้าน อธิบดี คพ. แนะเช็ก 2 แอปฯ Air4Thai – AIRBKK เป็นหลัก ป้องกันการสับสน

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ดึงหน่วยงานแหล่งกำเนิดฝุ่น ร่วมวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา – ออกมาตรฐานรับมือฤดูฝุ่นจิ๋ว สื่อสารให้ประชาชนรับทราบข้อมูลให้ทันท่วงที ด้าน อธิบดี คพ. แนะเช็ก 2 แอปฯ Air4Thai – AIRBKK เป็นหลัก ป้องกันการสับสน

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในหลายพื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยได้สั่งการไปยัง นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ให้เร่งรัดประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5

นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาว การถ่ายเทอากาศไม่ดี ทำให้ฝุ่นระบายออกยาก จึงทำให้ค่าฝุ่นเพิ่มขึ้นในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล แหล่งกำเนิดฝุ่นที่สำคัญคือภาคจราจรและขนส่ง ทำให้ค่าฝุ่นแตะเกินค่ามาตรฐานสีส้ม ในอนาคตจะเริ่มมีการเผาในพื้นที่โล่ง โดยเฉพาะภาคการเกษตร ยิ่งทำให้ค่าฝุ่นในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นอีก หากควบคุมไม่ได้ในปัจจุบัน สำหรับพื้นที่ กทม.ที่เกิดฝุ่นพิษจากจราจรและการขนส่งนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรณรงค์ให้เข้มข้น เรื่องการหันมาใช้น้ำมันยูโร 5 โดยที่ไทยเริ่มปรับมาใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ผ่านมา ช่วยค่าฝุ่นในกทม.ลงได้ถึงร้อยละ 10 ควบคู่กับบำรุงรักษาเครื่องยนต์และตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้ดี จะช่วยลดการเกิดฝุ่นลงได้มากถึงร้อยละ 50 ของรถคันดังกล่าว และได้รับการประสานข้อมูลจากจิสด้า เพื่อแยกแยะจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ว่าเกิดจากการเผาป่าหรือภาคเกษตร เผานาข้าว ไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งมายังกระทรวงฯ จากนั้นจะส่งไปยังจังหวัด เป็นซิงเกิ้ลคอมมานด์ ที่มีผู้ว่าราชการเป็นผู้สั่งการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จะทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น เช่น มีข้อมูลจากจิสด้าระบุว่ามีการเผาไหม้นาข้าวในเขตจังหวัดภาคกลาง ทำให้ชี้เป้าจุดเกิดเหตุได้ และสั่งการแก้ไขในทันที

นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า เราได้มีการตั้งศูนย์สื่อสาร ภายใต้คณะกรรมการสื่อสาร ที่มีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นประธาน เพื่อให้สื่อสารว่าควรแก้ไขอย่างไร พื้นที่ไหน เวลาใด ขณะนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน กำลังทำเรื่อง เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและการสื่อสารรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“พล.ต.อ.พัชรวาท ได้วางระบบแนวทางแก้ปัญหาไว้ โดยมีอนุกรรมการและคณะทำงานวิชาการส่วนกลาง เพื่อวิเคราะห์ว่าปัญหาเกิดจากอะไร รวบรวมข้อมูลให้ถูกต้อง เพื่อให้มีมาตรการที่เหมาะสม และส่งข้อมูลให้ศูนย์ซิงเกิ้ลคอมมานด์ในระดับจังหวัด และระดับภาคที่มีแม่ทัพภาคเข้ามาช่วยแก้ปัญหา” นายปิ่นสักก์ กล่าว

อธิบดี คพ. กล่าวด้วยว่า นอกจากแอปพลิชันที่ใช้ในการสื่อสารอย่าง Air4Thai กรุงเทพฯ แล้ว จะมี AirBKK ที่ใช้มาตรฐานเดียวกัน จึงอยากให้ใช้ 2 แอพนี้เป็นหลัก เพราะจะมีการเตือนที่ถูกต้อง ซึ่งหากใช้แอปฯ อื่น อิงมาตรฐานประเทศอื่น ค่าสีจะไม่เท่ากัน อาจจะทำให้เกิดความสับสนได้ และจากความตระหนักอาจกลายเป็นความตระหนก เช่น มีการถามว่า กทม.สีแดงแล้วทำไมไม่เวิร์คฟอร์มโฮม ทั้งที่จริงๆ แล้ว ผู้ว่าฯ กทม.เตรียมความพร้อมแล้วว่าจะต้องสีแดงต่อเนื่อง 3 วัน แต่ค่ามาตรฐานของไทยยังไม่สีแดง แต่พอเราไปใช้มาตรฐานประเทศอื่น ที่มีการแบ่งสี 6 ช่วง 6 เฉด ทำให้เกิดการตระหนกเกิดขึ้น เป็นต้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“พัชรวาท” กล่าวถ้อยแถลงร่วมกับผู้นำนานาชาติ ในเวที COP 28 ประกาศหมุดหมายลดก๊าซเรือนกระจก ในปี 2030 พร้อมแสดงความจริงใจแก้ปัญหาเร่งผลักดัน พ.ร.บ.เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรียกร้องทุกฝ่ายร่วมมือเพื่อโลกให้ลูกหลานอยู่อาศัย

,

“พัชรวาท” กล่าวถ้อยแถลงร่วมกับผู้นำนานาชาติ ในเวที COP 28 ประกาศหมุดหมายลดก๊าซเรือนกระจก ในปี 2030 พร้อมแสดงความจริงใจแก้ปัญหาเร่งผลักดัน พ.ร.บ.เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรียกร้องทุกฝ่ายร่วมมือเพื่อโลกให้ลูกหลานอยู่อาศัย

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับสูงของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 28 (COP 28) ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมกับผู้นำจากนานาประเทศ โดยกล่าวว่า ไทยมีความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามเป้าหมาย โดยจะมีแผนการปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมให้เป็นไปตามเป้าหมายตามแผนการลดก๊าซเรือนกระจกในปี ค.ศ. 2030

นอกจากนั้น ประเทศไทยในการแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาจะได้เร่งผลักดันพระราชบัญญัติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการจัดทำแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ให้ออกมาเป็นหลักในการทำงานของประเทศโดยเร็วที่สุด

พล.ต.อ.พัชรวาท ยังกล่าวสนับสนุนการระดมเงินแสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ภายในปี ค.ศ. 2025 ที่จะดำเนินการโดยประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อนำมาเป็นแรงผลักดันการเปลี่ยนแปลง และรองรับผลกระทบในประเทศกำลังพัฒนา ที่จะเกิดขึ้นจากเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีจึงคาดหวังที่จะได้เห็นความชัดเจนของกองทุนสำหรับการสูญเสียและความเสียหายนี้ในการประชุม COP28 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมมือกันในระดับโลกจะนำไปสู่เส้นทาง 1.5 องศา เซลเซียส ตามเป้าหมายของความตกลงปารีส ให้สำเร็จ

“ขอย้ำเตือนว่าทุกประเทศว่าต้องร่วมมือกันให้เต็มที่เพราะโลกกำลังส่งสัญญาณแล้วว่าอุณหภูมิโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องลงมือทำ เพื่อลูกหลานมีโลกอาศัยอยู่ต่อไป“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” นำทีมประชุม COP 28 ขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจกสู่เป้าหมายฟื้นฟูภูมิอากาศ ร่วมรักษ์โลก รักษ์ประเทศไทย

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” นำทีมประชุม COP 28ขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจกสู่เป้าหมายฟื้นฟูภูมิอากาศ ร่วมรักษ์โลก รักษ์ประเทศไทย

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2566 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณรอง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ เดินทางไปยังเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อร่วมประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 28 (COP 28) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ย.- 12 ธ.ค. 2566

โดย พล.ต.อ. พัชรวาท กล่าวก่อนการร่วมประชุมว่า ประเทศไทยได้เข้าร่วมการประชุมในฐานะรัฐภาคีมาตลอดทุกปี นอกจากในฐานะประชาคมโลกแล้ว ยังเป็นการทำเพื่อสร้างประเทศไทยในการเปลี่ยนแปลงรับสภาพภูมิอากาศ ในการประชุมครั้งนี้ จะเป็นการให้ความรู้ในเชิงบวกถึงการทำงานของประเทศไทยในการร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และขยายโอกาสการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน เทคโนโลยีและวิชาการ

ประเด็นสำคัญของการประชุมในปีนี้ ประกอบด้วย การประเมินสถานการณ์ดำเนินงานระดับโลก เพื่อให้ทราบว่าการดำเนินงานที่ผ่านมาว่าสามารถบรรลุเป้าหมายตามความตกลงปารีสมากน้อยเพียงใด รวมถึงการวิเคราะห์ช่องว่าง ที่ต้องการให้ภาคีจะต้องผลักดันอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้การจัดทำเป้าหมายระดับโลกด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป้าหมายด้านการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งภาคีประเทศกำลังพัฒนาขอให้เร่งระดมเงินให้ได้ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปีภายในปี ค.ศ. 2025 เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ให้บรรลุเป้าหมายตามที่แต่ละภาคีได้ให้คำมั่นไว้ รวมถึงการตั้งกองทุนสำหรับการสูญเสียและความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อช่วยประเทศที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะประเทศที่มีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งคาดหวังที่จะให้ได้ข้อสรุปร่วมกันในการประชุมครั้งนี้

“ผมเชื่อว่า การประชุม COP28 จะมีความก้าวหน้าและประสบความสำเร็จตามที่ประชาคมโลกคาดหวัง โดยเราจะสนับสนุนเต็มที่ในฐานะประชาคมโลก และ เร่งดำเนินการปรับตัวภายในประเทศให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลก”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 ธันวาคม 2566

“พัชรวาท” เด้งรับทันที ชงครม.สัญจร แก้ปัญหาน้ำให้คนท่าบ่อหนองคาย หลังรับฟังปัญหาความเดือดร้อน ลั่นเป้าหมายสำคัญประชาชน ต้องอยู่ดีกินดี

,

“พัชรวาท” เด้งรับทันที ชงครม.สัญจร แก้ปัญหาน้ำให้คนท่าบ่อหนองคาย หลังรับฟังปัญหาความเดือดร้อน ลั่นเป้าหมายสำคัญประชาชน ต้องอยู่ดีกินดี

ที่หนองคาย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการเทศบาลเมืองท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ก่อนร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งแรก ที่จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมารับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และรับข้อเสนอโครงการจัดหาน้ำบาดาล โดยมีนายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวต้อนรับ

จากนั้นนายกิตติศักดิ์ วรรณวิเชษฐ์ นายเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ กล่าวรายงานความเดือดร้อนในพื้นที่ว่า เนื่องจากเทศบาเมืองท่าบ่อ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้มีจำนวนประชากร มาใช้บริการในเขตพื้นที่มากกว่า 30,000 คน และระบบประปาใช้งานมาแล้วกว่า 33 ปี มีสภาพชำรุด มีปริมาณความจุ 1,500 ลูกบาศก์เมตร แต่มีจำนวนประชากรที่ต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นปริมาณ 2,547 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จึงส่งผลให้พื้นที่เทศบาลเมืองท่าบ่อไม่สามารถผลิตน้ำประปาที่มีคุณภาพให้บริการได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนได้ ขณะเดียวกันยังมีโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช และชุมชนโดยรอบ ก็ยังขาดแคลนน้ำประปา จึงอยากขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงฯ

นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
กล่าวว่า ตามที่นายกเทศมนตรี กล่าวถึงปัญหาทางกรมฯส่งเจ้าหน้าที่มาดูแนวทางการแก้ไขปัญหา ใน 3 แห่ง เพื่อดำเนินโครงการจัดหาแหล่งน้ำบาดาลระยะไกลเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ขาดแคลนน้ำหรือน้ำเค็ม

จากนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท ได้กล่าวทักทายประชาชนว่า หลังจากที่ได้รับฟังปัญหาจากนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองท่าบ่อ ว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนมีความเดือดร้อนเรื่องการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ซึ่งส่งผลกระทบต่อการให้บริการทางการแพทย์ และจากการที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้นำเสนอ ตนจะรีบนำโครงการนี้ให้ที่ประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดหนองบัวลำภูในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) ได้พิจารณาอนุมัติ เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนโดยเร่งด่วน รัฐบาลมีนโยบายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ให้ประชาชนอยู่ดี กินดี อย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำกินน้ำใช้ หรือน้ำเพื่อการเกษตร

ภายหลังเสร็จสิ้น พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เดินทางพบปะ ทักทายและถ่ายภาพร่วมกับประชาชนที่เดินทางมาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง รวมถึงมีชาวบ้านมาผูกผ้าขาวผ้าให้ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ. พัชรวาท” ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศลรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ “วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ”

,

“พล.ต.อ. พัชรวาท” ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศลรัชกาลที่ 9
เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ “วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ”

วันนี้ (1 ธันวาคม 2566) เวลา 08.00 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วย รมว.ทส. นายโกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. นายนพดล พลเสน เลขานุการ รมว.ทส. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ และคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 เพื่อร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดพระเกียรติ พระบาทสทเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จากนั้น ได้นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป จากวัดสร้อยทอง ณ บริเวณโถงด้านในอาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 ธันวาคม 2566

ผู้ช่วย รมว.ทส. ลุยเฟ้นนวัตกรรมแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ตามสั่งการ “พัชรวาท” บุกเยี่ยมชม “หอต้นแบบฟอกอากาศฟ้าใส” ทึ่งระบบอัจริยะทำ PM 2.5 ลดลงจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ มั่นใจช่วยทำอากาศสะอาดให้กลุ่มเปราะบาง

,

ผู้ช่วย รมว.ทส. ลุยเฟ้นนวัตกรรมแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ตามสั่งการ “พัชรวาท” บุกเยี่ยมชม “หอต้นแบบฟอกอากาศฟ้าใส” ทึ่งระบบอัจริยะทำ PM 2.5 ลดลงจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ มั่นใจช่วยทำอากาศสะอาดให้กลุ่มเปราะบาง

ที่วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เดินทางไปเยี่ยมชม ต้นแบบหอฟอกอากาศ ระดับเมือง ภายใต้ชื่อ “ฟ้าใส” ของศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) โดยบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)

ร.อ.รชฏ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ตนติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ระยะเร่งด่วนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พร้อมกับได้เน้นย้ำเรื่องการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม มาใช้ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งวันนี้ได้รับเชิญจาก RISC ให้มาดู ต้นแบบ หอฟอกอากาศ “ฟ้าใส” มีที่มาจากแนวคิดการฟอกอากาศที่เต็มไปด้วยมลภาวะให้ใสสะอาด ปลอดฝุ่นพิษ PM 2.5 ด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง ผ่านการคิดค้นพัฒนาร่วมกับบริษัท เนสเทค ประเทศไทย จำกัด

“ภาคเอกชนได้ให้ข้อมูลว่าหอฟอกอากาศฟ้าใสสามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ในอัตราสูงสุด 120,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หลักการทำงานเริ่มต้นจากการใช้ใบพัดความเร็วสูงดึงอากาศเข้าไปในระบบ และแยกฝุ่นขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ด้วยความเร็วลมและการปล่อยละอองน้ำเพื่อการดักจับฝุ่นสามชั้น โดยระบบอัจฉริยะจะควบคุมการทำงานของมอเตอร์ใบพัดให้สอดคล้องกับความเข้มข้นของฝุ่นละออง จนระดับความเข้มข้น PM2.5 ลดลงถึงเกณฑ์ปกติ หอฟอกอากาศฟ้าใสสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเมื่อกระแสลมสงบนิ่ง ในระยะรัศมี 1 กิโลเมตร”

ร.อ.รชฏ กล่าวว่า การดำเนินการหอฟอกอากาศฟ้าใสได้มีการเก็บข้อมูลเชิงลึกมาเป็นระยะเวลา 10 กว่าปี ผ่านการทำงานที่เข้มข้นของทีมวิจัย มีข้อมูลจากการศึกษาและวิจัย มีสถิติที่เห็นประสิทธิภาพการทำงานอย่างละเอียด ในการแลกเปลี่ยนข้อมูดังกล่าวภาคเอกได้นำเสนอให้มีการติดตั้งตามป้ายรถเมล์ โรงพยาบาล โรงเรียน รวมถึงจุดที่เป็นแหล่งรวมกลุ่มเปราะบาง เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับนโยบายของ พล.ต.อ.พัชรวาท ที่ได้เน้นย้ำมาโดยตลอดที่อยากให้กลุ่มเปราะบางและประชาชนได้สูดอากาศที่สะอาดปราศจากฝุ่นพิษ ดังนั้นข้อมูลทั้งหมดวันนี้จะนำเรียนท่านรองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้รับทราบต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” เผยครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด สร้างกลไกแก้ปัญหามลพิษอากาศเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนไทย

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” เผยครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด
สร้างกลไกแก้ปัญหามลพิษอากาศเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนไทย

“พัชรวาท” เผย ครม.เคาะแล้วร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด ชี้เป็นกฎหมายเชิงรุกครอบคลุม “ป้องกัน – แก้ไข” ลดความซ้ำซ้อนในการสั่งการ มีระบบ “บิ๊กดาต้า” เพื่อบริหารสถานการณ์ สร้างกลไกจัดการหมอกควันข้ามแดนอย่างเป็นรูปธรรม มั่นใจแก้มลพิษทางอากาศ ทำให้คนไทยได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงมี

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบต่อร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ…. ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นการแก้ปัญหาเชิงรุก ครอบคลุมทุกมิติ เป็นกฎหมายใหม่ที่มีความเฉพาะ ทำให้สามารถบริหารจัดการอากาศสะอาดได้อย่างแท้จริง ป้องกันปัญหาด้านอากาศที่จะเกิดขึ้น และแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศที่มีอยู่ ให้ลดลงและหมดไป มีการบูรณาการการบริหารจัดการบนหลักการของ “การป้องกันไว้ก่อน” แก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อนของการดำเนินการ การสั่งการ การปฏิบัติงาน ในแต่ละคณะกรรมการหลักและคณะกรรมการย่อยต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือและกลไกที่ทันสมัยและเหมาะสมสำหรับขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษอากาศของประเทศ ครอบคลุมแหล่งกำเนิดมลพิษอากาศทุกประเภท มีกลไกการจัดการปัญหาหมอกควันข้ามแดนที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น มีระบบฐานข้อมูลคุณภาพอากาศแห่งชาติ หรือบิ๊กดาต้า เพื่อบริหารจัดการแก้ไขปัญหามลพิษอากาศ ประชาชนทราบข้อมูลพื้นฐานของคุณภาพอากาศ และมีช่องทางรายงานสภาพปัญหามลพิษอากาศที่เป็นปัจจุบัน เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

“อากาศสะอาดเป็นสิทธิพึงมีที่คนไทยทุกคนต้องได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน กระทรวงทรัพยากรธรรชาติฯ จะทำให้คนไทยมีอากาศที่ดี เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 พฤศจิกายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” สั่งระดมทีมเกาะติดปัญหาฝุ่นPM2.5 พื้นที่กทม.-ปริมณฑลเกินมาตรฐาน เสนอแนวคิดนำนวัตกรรมแก้ปัญหาเร่งด่วน เปิดเอกชนร่วมแก้ไข

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” สั่งระดมทีมเกาะติดปัญหาฝุ่นPM2.5 พื้นที่กทม.-ปริมณฑลเกินมาตรฐาน
เสนอแนวคิดนำนวัตกรรมแก้ปัญหาเร่งด่วน เปิดเอกชนร่วมแก้ไข

ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้รับรายงานสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 ในเขต กทม.และปริมณฑล พบว่ามีค่าเกินมาตรฐาน จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อภิรัต นิยมการ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีการประชุมด่วนเพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง
ทั้งนี้ในการประชุม พล.ต.ท.อภิรัต ในฐานะประธานและมี นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อย่างพร้อมเพียง ได้มีหารือถึงสภาพปัญหาโดยเฉพาะพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ประชุมได้สะท้อนปัญหาว่า ช่วงนี้เป็นช่วงอากาศปิด ทำให้ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ประกอบกับสภาพการจราจร ที่มีปริมาณการใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก สำหรับปัญหาควันจากการเผา จะขอความร่วมมือในพื้นที่ปริมณฑลไม่ให้มีการเผาในพื้นที่โล่ง และขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เสนอให้มีการใช้นวัตกรรมร่วมแก้ไขปัญหาฝุ่น เช่น การติดตั้งพัดลมยักษ์ตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ของกลุ่มเปราะบาง และตามสถานศึกษา เพื่อให้เป็นเซฟโซน ทำให้เกิดอากาศหมุนเวียน พร้อมกันนี้ยังได้เปิดรับฟังข้อเสนอของภาคเอกชน เชิญชวนให้มาร่วมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถบรรเทาและแก้ปัญหาได้ และยังเป็นการระดมสมองเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาระดับชาติต่อไป และได้นำเรียนผลการประชุมรายงาน พล.ต.อ.พัชรวาท แล้ว
“ท่านรองนายกฯ และ รมว.ทส.ห่วงใยสุขภาพของประชาชนอย่างมาก ได้เร่งรัดให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ ไม่ให้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ” ร.อ.รชฏ กล่าวว่าเร็วๆ นี้จะลงพื้นที่สถานการณ์ในจุดที่เป็นต้นกำเนิดฝุ่น ตามที่ พล.ต.อ.พัชรวาท สั่งการเพื่อหามาตรการแก้ไขเพิ่มเติม ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาวต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2566