โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. องอาจ วงษ์ประยูร

“สส.องอาจ” ขอ ประปาภูมิภาค แก้ไขปัญหาน้ำไม่ไหลในพื้นที่สระบุรี ชี้ เป็นเรื่องจำเป็นและเป็นดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพ ความสามารถ สมรรถภาพ ของผู้ดูแล

,

“สส.องอาจ” ขอ ประปาภูมิภาค แก้ไขปัญหาน้ำไม่ไหลในพื้นที่สระบุรี ชี้ เป็นเรื่องจำเป็นและเป็นดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพ ความสามารถ สมรรถภาพ ของผู้ดูแล

นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหาหรือในที่ประชุมสภาถึงปัญหา ความเดือดร้อนกรณีน้ำประปาไม่ไหลต่อเนื่องมานานถึง 3 วัน บริเวณตำบลขุนโขน อำเภอพระพุทธบาท ตั้งแต่
สี่แยกโรงพยาบาลพระพุทธบาท ไปยังหมู่ 9 หมู่บ้าน ราชพฤกษ์ หมู่บ้านอารียา ไปจนถึงพหลโยธิน ถึงถ้ำกระบอก โดยสาเหตุหลักและเกิดจากปัญหาคือ ท่อเล็กท่อน้อยที่ส่งไปยังหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ เทศบาลเมืองพระพุทธบาท เก่าแก่ เสื่อมโทรม ชำรุด อุดตัน มาหลายปี ไม่เคยได้รับการดูแลแก้ไข

“ผมขอให้ประปาส่วนภูมิภาค ปรับปรุงซ่อมแซม เปลี่ยนท่อเก่าให้เป็นท่อใหม่ โดยเร่งด่วน ปัญหานี้คาราคาซัง มาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งกรณีน้ำหยุดไหลต่อเนื่องหลายวัน ให้ฉุกเฉินกรณีดังกล่าว ขอให้ประปา ได้แจ้งเตือนก่อน เพราะว่าที่ผ่านมาไม่ได้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ก็จะได้เตรียมพร้อมดูแลแก้ไขทดแทนหาน้ำมาใช้ ในกรณีดังกล่าวได้ทันท่วงที พร้อมขอให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบในส่วนนี้ช่วยบริหารจัดการรถน้ำไปช่วย คลายทุกข์ให้พี่น้องประชาชน เป็นเวลาชั่วคราวอย่างน้อยทุกข์ก็จะได้คลายลงบ้าง“นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ ยังกล่าวต่อถึงปัญหาน้ำประปาในเทศบาลสวนดอกไม้ อำเภอเสาไห้ ไหลน้อยจนถึงไม่ไหล โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด เสาร์ อาทิตย์เป็นช่วงที่ใช้น้ำเยอะๆ สาเหตุหลักก็คือ เนื่องจากเทศบาลตำบลสวนดอกไม้ เป็นพื้นที่ปลายสาย ปลายน้ำ เพราะต้องใช้บริการน้ำประปาจากพระพุทธบาท ซึ่งจะใช้เวลาระยะเวลาที่ไกลก่อนน้ำจะไปถึง ก็ค่อยลงไปเรื่อยๆ จึงขอฝากไปยังประปาภูมิภาคให้ช่วยขยายท่อส่งน้ำ เพิ่มแรงดันให้น้ำแรงขึ้น จะได้ช่วยคลายทุกข์บริเวณอำเภอเสาให้ ได้ เพราะน้ำประปาเป็นดัชนีชี้วัดความสุขของพี่น้องประชาชน ในขณะเดียวกันก็เป็นดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพความสามารถ สมรรถภาพ ของผู้ที่ดูแลประปาภูมิภาค

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 สิงหาคม 2567

“สส.องอาจ”ห่วงชาวสระบุรี ช่วงฤดูน้ำหลาก ขอ กรมชลประทาน เร่งรัดทำประตูน้ำ บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานเริงราง

,

“สส.องอาจ”ห่วงชาวสระบุรี ช่วงฤดูน้ำหลาก ขอ กรมชลประทาน เร่งรัดทำประตูน้ำ บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานเริงราง

นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ก่อนอื่นตนขอขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมชลประทาน ที่ได้จัดสรรงบประมาณซ่อมคันผนังกั้นน้ำ คลองสาขา ชัยนาท ป่าสัก บริเวณประตูน้ำ เริงราง อำเภอบ้านหมอ ซึ่งผนังกั้นน้ำพังจากน้ำท่วมเมื่อปี 64 จนทำให้น้ำท่วมทะลัก สร้างความเสียหายเดือดร้อนให้กับพี่น้องทั้ง 3 อำเภอ ก็ต้องกราบขอบพระคุณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ช่วยดูแลเป็นอย่างดี

นายองอาจ กล่าวต่อว่า วันนี้กำลังเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก ตนเป็นห่วงจังหวัดสระบุรี เพราะเป็นพื้นที่หลุมต่ำ เพื่อให้การจัดการน้ำมีประสิทธิภาพ ทั้งฤดูน้ำหลากและฤดูแล้ง จึงขอให้กรมชลประทาน ช่วยเร่งรัดปรับปรุงทำประตูน้ำปากคลองส่งน้ำ 23 ขวา บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานเริงราง ถ้าเกิดทำได้สำเร็จก็จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการบริการจัดการน้ำให้ชาวนาชาวไร่ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านหมอ อำเภอหนองโดน อำเภอดอนพุด จะได้ประโยชน์อย่างยิ่ง

นายองอาจ ระบุด้วยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชน อำเภอเสาไห้ หมู่ 2 ท่าช้าง หมู่ 1 หมู่ 5 ศาลารีไทย ที่อาศัยติดริมตลิ่ง ตามแนวแม่น้ำป่าสัก เดือดร้อนอย่างหนัก มวลน้ำจำนวนมหาศาลกัดเซาะตลิ่งพังตลอดแนวยาว บ้านเรือนเสียหายหลายหลังคาเรือน เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ล่าสุด กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้กรุณาจัดงบก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสักให้แล้ว แต่ได้บางหมู่ ได้แก่ หมู่ 2 ตำบลท่าช้าง แต่หมู่ 1 หมู่ 5 ตำบลศาลารีไทย ยังไม่ได้รับการดูแลแก้ไข ซึ่งตอนนี้รอไม่ได้แล้ว เพราะน้ำกัดเซาะตลิ่ง ตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยเวลาและกระแสน้ำไม่เคยคอยใคร จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องขอเขื่อน ป้องกันบริเวณนี้โดยด่วน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567

“สส.องอาจ”จี้ แก้ปัญหาน้ำประปาขุ่น ส่งกลิ่นเหม็น หมู่ 3 ต.ตลาดน้อย หลังชาวบ้านทนทุกข์มาแรมปี พร้อม เร่ง กรมทางหลวง แก้ไฟฟ้าถนนทางหลวง 3048

,

“สส.องอาจ”จี้ แก้ปัญหาน้ำประปาขุ่น ส่งกลิ่นเหม็น หมู่ 3 ต.ตลาดน้อย หลังชาวบ้านทนทุกข์มาแรมปี พร้อม เร่ง กรมทางหลวง แก้ไฟฟ้าถนนทางหลวง 3048

นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนทั้งหมู่บ้านส่งรายชื่อมาเป็นร้อย โดยตนจะมอบให้กับท่านประธานสภาฯซึ่งร้องเรียนผ่านมายัง นายวิเชียร บุญสืบวงษ์ สจ.เขตอำเภอบ้านหมอ ถึงปัญหาความเดือดร้อนน้ำประปาไม่สะอาดเป็นอย่างยิ่ง ในพื้นที่บริเวณสะพาน 27 หมู่ที่ 3 ตำบลตลาดน้อย เชื่อมกับหมู่ 9 ตำบลสร่างโศก โดยน้ำประปาทั้งขุ่น ทั้งส่งกลิ่นเหม็น ไม่สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้ ชาวบ้านต้องทนทุกข์ทรมานเดือดร้อนมาเป็นแรมปี จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบเรื่องนี้ได้ช่วยดำเนินการดูแลแก้ไขให้น้ำประปาสะอาดใสด้วย นอกจากนี้อีกปัญหาหนึ่งก็คือ ไฟฟ้าสาธารณะบนถนนในหมู่บ้านก็ติดๆดับๆตลอดสาย

นายองอาจ กล่าวต่อว่า ปัญหาไฟฟ้าดับมานาน และไม่ได้รับการแก้ไขบริเวณ ทางหลวง 3048 เส้นทางห้วยบงท่าลาน ตั้งแต่วัดโพธิ์ถึงโคกกระท้อน มีเสาไฟตลอดเส้นทาง แต่ไฟฟ้าดับมืดสนิทตลอดทาง ซึ่งถนนสายนี้เป็นถนนสายหลัก เป็นถนนสายใหญ่ครับ 5-6 เลน รถวิ่งด้วยความเร็วสูง ผ่านเขตชุมชน เกิดอุบัติเหตุบ่อยทุกอาทิตย์ อันตรายมาก ในยามค่ำคืน ขอให้กรมทางหลวงช่วยดูแลเร่งรัด แก้ไขปัญหานี้โดยด่วน เพราะประชาชนบริเวณนี้ร้องเรียนมานานหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการดูแลและแก้ไข เชื่อว่า กรมทางหลวงทราบปัญหาดี รู้แต่ไม่ทำ หรือทำเป็นไม่รู้ก็ไม่ทราบ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 กรกฎาคม 2567

“สส.องอาจ”ขอหน่วยงานราชการลดขั้นตอนขอใช้พื้นที่แก้ปัญหา“ถนนพังเสียหาย-ไฟฟ้าส่องสว่าง ให้ ปชช. ชี้เป็นอุปสรรคในการพัฒนาท้องถิ่น

,

“สส.องอาจ”ขอหน่วยงานราชการลดขั้นตอนขอใช้พื้นที่แก้ปัญหา“ถนนพังเสียหาย-ไฟฟ้าส่องสว่าง ให้ ปชช. ชี้เป็นอุปสรรคในการพัฒนาท้องถิ่น

นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาฯว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องอำเภอพระพุทธบาท นายอำเภอ สจ.ในพื้นที่ นายกเทศบาลตำบลห้วยป่าหวาย และกำนันตำบลห้วยป่าหวาย รวมถึงผู้นำชุมชน ร่วมกันลงพื้นที่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ถนนพังเสียหายชำรุดอย่างหนักตลอดสายก็คือ ถนนเลียบคลองชลประทานฝั่งซ้าย เชื่อมระหว่างถนนทางหลวง 3034 สายหน้าพระลาน บ้านควน เชื่อมกับสาย 3250 สันประดู่ โดยถนนสายนี้เป็นถนนสายหลัก มีรถเล็ก รถบรรทุกวิ่งตลอดทั้งวัน ถนนแยกเกิดอุบัติเหตุรายวัน

นายองอาจ กล่าวต่อว่า ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แพทย์ประจำตำบล เกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์คว่ำก็สลบคาที่บนถนนเส้นนี้ ปัญหาก็คือ ท้องถิ่น อบจ.ตั้งใจที่จะมาซ่อมแซม ปรับปรุง สร้างใหม่ให้ก็ต้องใช้เวลานาน ทั้งๆที่มีงบประมาณ แต่ติดขัดเรื่องพิธีกรรมและระเบียบต่างๆ ในการขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ อย่างกรมชลประทาน ทางหลวงชนบท จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ช่วยเร่งรัด ซ่อมแซม ปรับปรุงถนนเส้นนี้โดยด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขระเบียบขั้นตอน เพื่อลดอุปสรรคต่างๆ ที่ทำให้เกิดความล่าช้าในระบบราชการ อย่างเช่น เรื่องของขออนุญาตซึ่งเป็นอุปสรรคการพัฒนาท้องถิ่นมาเป็นเวลานาน

นายองอาจ ยังกล่าวต่อถึงปัญหาถนนขาดไฟฟ้าส่องสว่าง มืดมิดยามค่ำคืน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้รถใช้ถนน ผู้สัญจรไปมา และเสี่ยงอันตรายในชีวิตและทรัพย์สินกับลูกหลานของเราเวลาเดินทางกลับบ้านช่วงกลางคืน อย่างเช่น ถนนบริเวณเลียบคลองตำบลห้วยป่าหวาย ถนนเส้นนี้ก็ขาดไฟฟ้าส่องสว่างตลอดสาย รวมถึงถนนสายหนองโดนน้อยหมู่ 9 ถึงประดู่หมู่ 5 ถนนสายนี้มีเสาไฟฟ้าโซล่าเซลล์ครบทุกอย่าง ขาดอย่างเดียว ขาดความสว่าง เพราะว่าไฟดับตลอดทั้งสายมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว

นอกจากนี้ เสาไฟฟ้าบริเวณหลังวัดสร่างโศก อำเภอบ้านหมอ ถูกรถยนต์ชนหัก ทำให้ไฟฟ้าบริเวณนี้ดับมาเป็นเวลาหลายเดือน โดยติดขัดเรื่องระเบียบเช่นกันเพราะถ้าจะติดตั้งใหม่ต้องมีขั้นตอนต่างๆ เรื่องของการแจ้งความ หาผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายเพื่อจะชดใช้ ถ้ารอก็คงใช้เวลาอีกนาน ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 กรกฎาคม 2567

“สส. องอาจ” ปธ. กมธ.กฎหมายฯ เปิดเวทีระดม 40 องค์กร ร่วมศึกษาความเห็นข้อบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองรับมาตรฐานสากล

,

“สส. องอาจ” ปธ. กมธ.กฎหมายฯ เปิดเวทีระดม 40 องค์กร
ร่วมศึกษาความเห็นข้อบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองรับมาตรฐานสากล

นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะ กมธ.ได้จัดงานสัมมนา เรื่องการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง ผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง และแนวทางในการแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมือง โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมาธิการฯ คณะทูตานุทูต ส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง องค์กรระหว่างประเทศ ภาคประชาชน รวมทั้งผู้แทนองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน รวม 40 หน่วยงาน ตลอดจนผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนจากภาควิชาการ ภาคเอกชน องค์ระหว่างประเทศ และผู้แทนจากกลุ่มผู้อพยพโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ เพื่อร่วมกันพิจารณาศึกษาปัญหา และทางออก เพื่อมิให้ขัดต่อระเบียบ และข้อกฎหมาย เป็นไปตามมาตรฐานสากล

นายองอาจ กล่าวต่อว่า คณะ กมธ.เห็นความสำคัญของเรื่องดังกล่าว จึงมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืนต่อการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ เพื่อพิจารณาศึกษาปัญหานี้อย่างจริงจัง ซึ่งประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศทางผ่าน ที่พักพิงชั่วคราว และเป็นที่แสวงหาโอกาสในการทำงานของคนที่ไม่มีสัญชาติไทยหลายกลุ่ม รวมถึงคนที่ยังไม่มีสัญชาติ แม้จะอยู่ในประเทศไทยมานาน ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การควบคุมจัดการของประเทศไทยผ่านกฎหมายฉบับเดียว คือ พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ที่บังคับใช้มานานเป็นเวลา 45 ปีแล้ว ไม่เท่าทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน

นอกจากนี้ โจทย์ท้าทายสำคัญที่ประเทศไทยจะต้องเผชิญต่อไป คือ การขาดกำลังแรงงานจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ต้องพึ่งพาแรงงานข้ามชาติ ดังนั้น ข้อเสนอในเรื่องการโยกย้ายถิ่นเพื่อทดแทนประชากรที่ลดลง จึงเป็นข้อเสนอที่ควรถูกหยิบยกมาทบทวน และถึงเวลาที่จะต้องมีการแก้ไขกฎหมายให้ทันสถานการณ์และการยอมรับในต่างประเทศ 

สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ มีการนำเสนอรายงานเรื่องปัญหาและแนวทางการแก้ไขแบบยั่งยืนเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ โดยมีข้อสังเกตต่อการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง การอภิปรายกลุ่มเรื่องพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และการบังคับใช้ ผลกระทบ ข้อท้าทาย และการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางกฎหมาย สำหรับการบริหารจัดการผู้อพยพโยกย้ายถิ่นฐาน และเรื่องการปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองเพื่อตอบโจทย์ประเทศไทยภายใต้บริบทสังคมสูงอายุ ข้อเสนอจากภาคส่วนต่าง ๆ ต่อการแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมือง และการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนประชากร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 พฤษภาคม 2567

“องอาจ สส.สระบุรี” ขอ รมว.มหาดไทย ดูแลประปาภูมิภาคพระพุทธบาท ปชช.เดือดร้อน กลายเป็นปัญหาซ้ำซาก ไร้การแก้ไข

,

“องอาจ สส.สระบุรี” ขอ รมว.มหาดไทย ดูแลประปาภูมิภาคพระพุทธบาท ปชช.เดือดร้อน กลายเป็นปัญหาซ้ำซาก ไร้การแก้ไข

นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นในอำเภอพระพุทธบาท คือปัญหาน้ำประปาไม่ไหล ไหลอ่อน ไหลเป็นบางเวลาหรือไหลเฉพาะช่วงดึก ประชาชนต้องตื่นขึ้นมาช่วงกลางดึก เพื่อมารองน้ำไว้ใช้ ซึ่งตนเคยหารือปัญหานี้มาแล้วเมื่อสมัยประชุมที่แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการดูแลแก้ไขจากการประปาภูมิภาคพระพุทธบาท โดยปัญหาเริ่มขยายวงกว้างเป็นวิกฤติเดือดร้อนกันในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นแถวบริเวณตลาดนิคม ตลาดใน หลังโรงพยาบาลบริเวณ หมู่ 6 หมู่ 7 หมู่ 8 ตำบลขุนโขน หมู่ 7 พระพุทธบาท หมู่ 9 ชะอม เดือดร้อนกันทั่ว

นายองอาจ กล่าวต่อว่า สาเหตุของปัญหาหลักๆ คือเนื่องจากประปาภูมิภาคขยายเขตไปยังอำเภออื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่าเกินศักยภาพของตัวเอง จึงปล่อยประละเลย ขุดใช้ประปาเก่า ไม่มีการปรับปรุงซ่อมแซมของเก่า ปล่อยท่อประปาเก่าชำรุดเสียหาย น้ำประปารั่วไหลทิ้ง นอกจากนี้ เครื่องสูบ เครื่องส่งน้ำหลัง ๆ ก็ไม่พอส่งน้ำให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองพระพุทธบาท

“ผมเคยสิ้นหวังกับการหารือในการแก้ปัญหาของน้ำประปาให้ท่านรัฐมนตรีมหาดไทยเข้ามาช่วยเรื่องประปาตรับ และขอฝากความหวังเรื่องนี้ให้กับท่านรัฐมนตรีให้ช่วยดูแลปัญหาเดือดร้อนปัญหาของประปาของพระพุทธบาทด้วย”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 ตุลาคม 2566