โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรมพรรค

“อัคร ว่าที่ ส.ส.เพชรบูรณ์”เตรียมผลักดันผลิตภัณฑ์ชุมชนกระตุ้น ศก.พร้อมนำเทคโนโลยีจัดการเพาะปลูก ช่วยพัฒนาภาคเกษตร ลั่น การเมือง คือ ปชช.พร้อมทุ่มเทให้ชาวเพชรบูรณ์

,

“อัคร ว่าที่ ส.ส.เพชรบูรณ์”เตรียมผลักดันผลิตภัณฑ์ชุมชนกระตุ้น ศก.พร้อมนำเทคโนโลยีจัดการเพาะปลูก ช่วยพัฒนาภาคเกษตร ลั่น การเมือง คือ ปชช.พร้อมทุ่มเทให้ชาวเพชรบูรณ์
นายอัคร ทองใจสด ว่าที่ ส.ส. เขต 6 จ.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการทำหน้าที่ในช่วงนี้ว่า ตนยังลงพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อพูดคุยกับพี่น้องประชาชนถึงปัญหาในพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ อ.วิเชียรบุรี และศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ยังมีปัญหาเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องแก้ไขอีกหลายจุด โดยต้องเร่งสำรวจว่า มีจุดไหนบ้างที่ต้องประสานกับหน่วยงานให้เข้ามาดูแลซ่อมบำรุง โดยเฉพาะเรื่องของถนน ที่ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการสัญจร และไม่มีความปลอดภัย

นายอัคร กล่าวต่อว่า อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะในเรื่องการผลักดันผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีชื่อเสียงของวิเชียรบุรี และศรีเทพ นอกจากขึ้นชื่อเรื่องของไก่ย่างวิเชียรบุรี ที่เป็นที่รู้จักแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ชูเป็นสินค้าเด่น ทั้งผ้าไหมทอ ซึ่งจำเป็นต้องสร้างตลาด เชื่อมกับแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากเส้นทางวิเชียรบุรี และศรีเทพ เป็นเส้นทางก่อน เข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวเขาค้อ ต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานจังหวัด เพื่อดำเนินการจัดสร้างศูนย์จัดจำหน่ายของทีระลึก เพื่อเป็นแหล่งศูนย์ร่วมให้ชาวบ้านมาวางจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ทำให้เกิดการสร้างรายได้ ให้กับประชาชนได้อีกทางหนึ่ง และรักษาวัฒนธรรมของท้องถิ่น

นายอัคร ยังกล่าวต่อว่า เรื่องน้ำก็เป็นปัญหาที่สำคัญที่ต้องประสานกับหน่วยงาน จัดสร้างแหล่งน้ำ อ่างเก็บน้ำ หรือฝาย เพื่อกั้นน้ำ ใช้ทางการเกษตร ประชากรส่วนใหญ่กว่า 50% ประกอบอาชีพทางการเกษตร เนื่องจากพื้นที่ของอ.วิเชียรและศรีเทพ เป็นพื้นที่ลาดชัน ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ตลอดทั้งปี ซึ่งเรายังมีแนวทางที่จะส่งเสริมให้ภาคเกษตร เป็นเกษตรสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูกอ้อย ข้าว ข้าวโพด ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์การบริหารจัดการเพาะปลูก เพื่อให้สามารถคาดการณ์ปริมาณการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำ รวมถึงต้นทุนของการเพาะปลูกทั้งในเรื่อง การใช้ปุ๋ย เพื่อการวางเป้าหมายและผลลัพธ์ทางการเกษตรที่จะเกิดขึ้น ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างแท้จริง

“ผมพร้อมทุ่มเททั้งแรงกาย และแรงใจเพื่อชาวเพชรบูรณ์อย่างเต็มที่ เพราะที่นี้คือบ้านของผม สำหรับผมการเมืองคือ ประชาชน การสร้างตัวตนหรือภาพลักษณ์คือ เรื่องรอง สิ่งแรกที่ต้องทำคือเข้าถึงให้จริง รู้จักจริงๆ ทำความเข้าใจปัญหา และนำสิ่งนั้นมาศึกษาเพื่อนำไปแก้ไขอย่างตรงจุด”นายอัคร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 มิถุนายน 2566

“พล.อ.ประวิตร”เร่งปิดเวปพนัน ป้องกันปชช.เป็นเหยื่อ เพิ่มมาตรการเชิงรุกดึงทุกส่วนร่วมมือขจัดภัยไซเบอร์

,

“พล.อ.ประวิตร”เร่งปิดเวปพนัน ป้องกันปชช.เป็นเหยื่อ
เพิ่มมาตรการเชิงรุกดึงทุกส่วนร่วมมือขจัดภัยไซเบอร์

เมื่อ 14 มิ.ย.66 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ( กมช.) โดยมี รมว.ดีอีเอส และ รมช.กลาโหม เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ที่ประชุมได้รับทราบ รายงานเหตุการณ์ภัยคุกคามและผลการดำเนินงาน ที่มีผลกระทบอย่างมีนัย สำคัญ ต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ห้วง ต.ค.65 – มี.ค.66 จำนวน 943 เหตุการณ์ แยกตามภารกิจ หรือบริการสูงที่สุดได้แก่ หน่วยงานของรัฐด้านการศึกษา ,ภาครัฐอื่นๆ และด้านสาธารณสุข ตามลำดับ ซึ่งการปฎิบัติที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่กระทบประชาชน มีจำนวน 113 เหตุการณ์ 24 หน่วยงาน และรับทราบผลการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์ สำหรับระบบเลือกตั้ง (ศซล.) ห้วง 3-15 พ.ค.66 โดยมีการติดตามและรายงานสถานะความพร้อมที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จำนวน 6 ระบบ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ขอบคุณ สำนักงาน คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)ที่เฝ้าระวังเหตุการณ์ห้วงดังกล่าว สามารถติดตามข่าวสาร ได้อย่างใกล้ชิด และยับยั้ง หรือแก้ไขปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้ อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ รวมถึงที่ประชุม ได้รับทราบการลงนามบันทึกความเข้าใจ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆมากขึ้น ทั้งกับหน่วยงาน ในประเทศ และต่างประเทศด้วย รองรับการพัฒนาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ต่อไป

จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ (ร่าง)ข้อตกลง การเชื่อมต่อระบบแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูลภัยคุกคาม ภายใต้โครงการพัฒนาแพลตฟอร์ม สำหรับการรับและแบ่งปันเหตุการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อเชื่อมต่อระบบให้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ในการเฝ้าระวัง

และขยายเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่าง สกมช.กับหน่วยงานอื่น ทั้งภายในและภายนอกประเทศ และเห็นชอบ(ร่าง)บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ระหว่าง สกมช.กับ สำนักงาน ปล.สธ.รวมทั้งเห็นชอบ(ร่าง)บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรและนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ไปใช้ในสถานประกอบการ

พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับให้ สกมช. ให้เร่งขับเคลื่อนมาตรการเฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์ อย่างต่อเนื่อง เข้มข้นเชิงรุก เน้นป้องกันข้อมูลภาครัฐ และคุ้มครองส่วนบุคคล ต้องเพิ่มระดับความร่วมมือกับทุกหน่วยงานให้มากขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ และคนไทยให้มีประสิทธิภาพ พร้อมย้ำให้ ก.ดีอีเอส กำกับและสนับสนุน การดำเนินงานของ สกมช. อย่างเต็มที่ด้ว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 มิถุนายน 2566

“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่เมืองมะขามหวาน มอบเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน ช่วยเกษตรกร ยกระดับคุณภาพชีวิตยั่งยืน

,

“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่เมืองมะขามหวาน มอบเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน ช่วยเกษตรกร ยกระดับคุณภาพชีวิตยั่งยืน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายรัฐมนตรี
พร้อมด้วย นายสินติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามผลการดำเนินงานของ คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดิน จ.เพชรบูรณ์ พร้อมทั้งให้เกียรติเป็นประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรือ อยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และมอบสมุด
ประจำตัวผู้ได้รับ การคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล หรือ
คทช. และหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01)
ให้ประชาชน ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลได้มุ่งมั่นในการแก้ปัญหา ความเดือดร้อน ด้านที่ดินปัญหาไม่มีที่ดินทำกิน และปัญหาความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดิน โดยกำหนดนโยบาย ในการจัดทำที่ดินทำกิน หรือ คทช. มุ่งให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดิน โดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ของที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ทั้งเศรษฐกิจสังคม เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับการจัดสรรที่ดินสามารถ ใช้ประโยชน์จากที่ดินตามศักยภาพของพื้นที่ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปส่งเสริม พัฒนาอาชีพและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน บูรณาการในทุกมิติของทุกภาคส่วน เพื่อมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ยกระดับฐานะของประชาชน เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน

รัฐบาลต้องการให้ประชาชนอยู่ดีกินดีเพิ่มมากขึ้น มีความสามารถในการบริหารจัดการที่ดินของตนเองได้อย่างยั่งยืน พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกำกับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ขอให้ทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้เกิดเป็นผู้ประธรรมอย่างยั่งยืนหากมีปัญหาและอุปสรรค ขอให้ประสานอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป

นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ในฐานะผู้แทนคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่าปัจจุบัน จ.เพชรบูรณ์ มีพื้นที่เป้าหมายดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล หรือ คทช. จำนวน 17 พื้นที่ เนื้อที่รวม
219,578 ไร่ 1 งาน 49 ตารางวา อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 16 พื้นที่และพื้นที่สาธารณประโยชน์ 1 พื้นที่ ปัจจุบันได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยและพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติแล้ว จำนวน 16 พื้นที่ เนื้อที่รวม 225,319 ไร่ 1 งาน 35 ตารางวา โดยคณะอนุกรรมการนโยบายที่ ดินจังหวัดจะได้ดำเนินการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด รวมทั้งพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้กับประชาชนที่ได้รับการจัดที่ดินต่อไป

“สำหรับเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01)มีการอนุญาตให้ราษฎร์เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแล้ว จำนวน 1,494 ราย 442 แปลงในพื้นที่ 5 อำเภอ เนื้อที่รวม 10,216 ไร่ 5 งาน 569 ตารางวา” นายกฤษณ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 มิถุนายน 2566

“พล.อ.ประวิตร” เร่งพัฒนาแรงงานป้อนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต!!! เคาะแผนปี 66 เสริมทักษะแรงงาน 8 แสนคน ตอบโจทย์ความต้องการภาคอุตสาหกรรมในประเทศ

,

“พล.อ.ประวิตร” เร่งพัฒนาแรงงานป้อนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต!!! เคาะแผนปี 66 เสริมทักษะแรงงาน 8 แสนคน ตอบโจทย์ความต้องการภาคอุตสาหกรรมในประเทศ

วันที่ 9 มิ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ครั้งที่ 1/2566 กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบ (ร่าง) แผนพัฒนากำลังคนระดับจังหวัดปี 65 -70 มีเป้าหมายพัฒนากำลังคน รวมทั้งสิ้น 12.465 ล้านคน โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาแผนงานจังหวัด และเห็นชอบ (ร่าง) แผนพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ( S-Curve 11 ) ปี 65 – 70 รวมถึงการจัดทำแผนพัฒนาแรงงานในอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ ปี 66-70 เพื่อแก้ปัญหาด้านสมรรถนะแรงงานให้สอดรับกับความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งปี 2565 มีเป้าหมายพัฒนากำลังคนระดับจังหวัด 870,073 คน ดำเนินการแล้ว857,762 คน และปี 2566 มีเป้าหมาย 847,372 คน ดำเนินการแล้ว 194,075 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิ.ย. 2566)

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ขอให้คณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพจังหวัด (กพร.ปจ.) ขับเคลื่อนงานตามแผนพัฒนากำลังคนระดับจังหวัดให้เดินหน้าต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันให้แผนพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกในรายอุตสาหกรรมเป้าหมายบรรลุเป้าหมายเช่นเดียวกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของแรงงานทุกกลุ่ม ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 มิถุนายน 2566

‘ผู้กองธรรมนัส’ เปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟ บ้านภูเงิน บ้านโพธิ์ทอง ตำบลแม่ปืม อำเภอเมืองพะเยา บรรยากาศชื่นมื่น ชูสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟอีสานล้านนา

,

‘ผู้กองธรรมนัส’ เปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟ บ้านภูเงิน บ้านโพธิ์ทอง ตำบลแม่ปืม อำเภอเมืองพะเยา บรรยากาศชื่นมื่น ชูสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟอีสานล้านนา

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2566 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)เขต 1 จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เป็นประธานพิธีเปืดงานประเพณีบุญบั้งไฟบ้านภูเงิน บ้านโพธิ์ทอง ตำบลแม่ปืม อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ประจำปี 2566 ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ บ้านภูเงินบ้านโพธิ์ทอง ตำบลแม่ปืม อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา โดยมีนายอัครา พรหมเผ่า นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา ,นายอนุรัตน์ ตันบรรจง ว่าที่ ส.ส.เขต 2 จังหวัดพะเยา นายนฤนาถ ไฝเครือ นายกเทศมนตรีตำบลแม่ปืม และตัวแทนหน่วยงานท้องที่ท้องถิ่นร่วมในพิธี เป็นจำนวนมาก

ขณะที่ชาวบ้านจากบ้านภูเงิน บ้านโพธิ์ทอง ตำบลแม่ปืม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยอีสาน ได้พร้อมใจกันจัดขบวนแห่บั้งไฟ ขบวนรำเซิ้ง การแสดงฟ้อนรำต่างๆ เพื่อเป็นการต้อนรับอีกด้วย

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวช่วงหนึ่งว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟ อันดีงามนี้ของพ่อแม่พี่น้องชาวอีสานในพื้นที่จังหวัดพะเยาของเรา งานประเพณีบุญบั้งไฟ นับเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่สำคัญของชาวอีสาน ทั้งยังเกี่ยวข้อง และสัมพันธ์กับวิถีชีวิต ของชาวอีสานอย่างแนบแน่นและมีคุณค่าทางสังคม และทางจิตใจของคนในชุมชน โดยแท้จริง

ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันอนุรักษ์พื้นฟูวัฒนธรรม ช่วยกันรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม โดยตนเองยืนยันจะร่วมสืบสานและสนับสนุนประเพณีบุญบั้งไฟของชาวอีสานล้านนาในพื้นที่อำเภอเมืองพะเยาให้คงอยู่ และถ่ายทอดสู่อนุชนรุ่นหลัง อย่างมั่นคงยั่งยืน สืบไป

สำหรับกิจกรรมภายในงานประเพณีบุญบั้งไฟครั้งนี้ มีทั้งการประกวดบั้งไฟสวยงาม(บั้งไฟเอ้) ขบวนฟ้อนรำ ต่างๆ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ยังได้ร่วมถ่ายภาพ และฟ้อนรำกับขบวนของกลุ่มแม่บ้านชาวอีสานอย่างเป็นกันเอง บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักสนุกสนาน

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันพรุ่งนี้ (7 มิถุนายน) ตั้งแต่เวลา 09.30-16.00 น. จะมีกิจกรรมจุดบั้งไฟปฐมฤกษ์ บั้งไฟแฟนซี และชมการแสดงบั้งไฟสวยงามบั้งไฟโบราณต่างๆ จนเสร็จสิ้น ตามประเพณีอีสานล้านนา ณ บริเวณลานกิจกรรมชั่วคราวบ้านโพธิ์ทอง หมู่ที่ 16 ตำบลแม่ปืม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 07 มิถุนายน 2566

“พล.อ.ประวิตร” จูงใจพลเรือนและเอกชน เข้าร่วมพัฒนากองทัพ ใช้กลไกระบบกำลังสำรอง ดึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาศักยภาพ

,

“พล.อ.ประวิตร” จูงใจพลเรือนและเอกชน เข้าร่วมพัฒนากองทัพ ใช้กลไกระบบกำลังสำรอง ดึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาศักยภาพ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำลังพลสำรอง ผ่านระบบ เพื่อขับเคลื่อนกิจการกำลังพลสำรอง ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองของ กห.ปี 66 -70 รองรับการปฏิรูปกองทัพสมัยใหม่ ทั้งนี้ที่ประชุมรับทราบ การเปิดให้ผู้มีความรู้ ความชำนาญเฉพาะทาง สามารถเป็นกำลังพลสำรองครั้งแรกได้โดยไม่กำหนดอายุ รวมทั้งการกำหนดแต่งตั้ง เลื่อนยศกำลังสำรองได้ถึงยศ พันเอกหรือเทียบเท่า และการกำหนดสิทธิประโยชน์ของกำลังพลสำรอง จากอันตรายหรือเจ็บป่วย พร้อมทั้งรับทราบยุทธศาสตร์พัฒนาระบบกำลังสำรอง ที่เน้นการควบคุม บริหารจัดการด้านนโยบาย การพัฒนากิจการ การเสริมสร้างเครือข่าย การปรับปรุงกฎหมาย การพัฒนาสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ รวมทั้งการพัฒนาและปรับปรุงระบบฐานข้อมูลทรัพยากรด้านกำลังสำรองและกำลังพลสำรอง

ทั้งนี้ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาและเห็นชอบหลักการ รวม 3 ประเด็น คือ การปรับปรุงตำแหน่งและอัตราของหน่วยทหารรองรับการบรรจุกำลังพลสำรอง การบรรจุบุคคลพลเรือนและภาคเอกชน ที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะทาง และบรรจุกำลังพลสำรองให้มีชั้นยศที่เหมาะสม และการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลกำลังพลสำรองกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อการบริหารจัดการกำลังพลสำรองอย่างมีประสิทธิภาพ

พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ระบบกำลังสำรอง จะช่วยเสริมและพัฒนาศักยภาพกองทัพ จากบุคคลพลเรือนภายนอกกองทัพเป็นการชั่วคราวและเท่าที่จำเป็น จึงขอให้ กห.ได้ประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง หารือและขอความเห็นชอบในประเด็นที่อาจไม่สอดคล้องและขัดกันในข้อกฎหมาย ทั้งนี้ ขอให้กำหนดภารกิจและตำแหน่งเฉพาะที่จำเป็น พร้อมทั้งให้ติดตามประเมินผลการใช้ตำแหน่งและอัตราที่กำหนด เพื่อช่วยเสริมศักยภาพกองทัพและใช้ประโยชน์จากระบบกำลังสำรองอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤษภาคม 2566

ป๊อป”นิธิ”ควง “เป้ย”ปานวาดสวมบทอีกี้-เด็กแว้นสร้างสีสันเรียกคะแนนโค้งสุดท้าย

,

ป๊อป”นิธิ”ควง “เป้ย”ปานวาดสวมบทอีกี้-เด็กแว้นสร้างสีสันเรียกคะแนนโค้งสุดท้าย

วันนี้(13 พ.ค.66 ) นายนิธิ บุญยรัตกลิน (ป๊อป) ผู้สมัคร ส.ส. เขตทวี วัฒนา-ตลิ่งชั่น(ยกเว้นแขวงบางเชือกหนัง ) พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ลงพื้นที่หาเสียงพร้อมทีมงานโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้(14พ.ค.) ทุ่มสุดตัวด้วยการควงภรรยา”เป้ย” ปานวาด เหมมณี บุญยรัตกลิน ร่วมหาเสียงพร้อมแปลงร่างเป็นอีกี้ สุดแซ่บ!!!! ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ที่ป๊อปทำหน้าที่เป็นเด็กแว้น ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องหันมาให้ความสนใจตลอดทางเพราะงานนี้สาวเป้ยใช้โทรโข่งพูดหาเสียงอ้อนให้ประชาชนสนับสนุนท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนจัด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

“ผู้กองมาร์ค”เชื่อมั่นว่า ปชช.ให้โอกาสผู้แทนฯที่ลงพื้นที่และทำงานจริง วอน 14 พ.ค.นี้ เข้าคูหา ตัดสินใจเลือกจากหัวใจและสายตา

,

“ผู้กองมาร์ค”เชื่อมั่นว่า ปชช.ให้โอกาสผู้แทนฯที่ลงพื้นที่และทำงานจริง วอน 14 พ.ค.นี้ เข้าคูหา ตัดสินใจเลือกจากหัวใจและสายตา

13 พ.ค. 2566 / ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางซื่อ – ดุสิต กทม.หมายเลข 12 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยก่อนวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.ว่า ตนความมั่นใจในคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพราะตนทำงานในเขตบางซื่อมากว่า 13 ปี แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งใด ๆทางการเมืองเลย ตนได้สัมผัสกับชาวบ้าน เราร่วมทุกข์ ร่วมสุขมาด้วยกัน จึงเชื่อมั่นว่า ประชาชนจะให้โอกาสผู้แทนที่ลงพื้นที่และทำงานจริง

“หลายคนอาจจะอยากถามผมเรื่องอุดมการณ์ทางความคิดทางการเมืองของผม ซึ่งผมขอตอบตรงนี้เลยว่า ผมไม่ได้ยึดโยงที่พรรคการเมือง แต่ผมสามารถทำงานร่วมกับพรรคการเมืองใดก็ได้ ที่มีนโยบายแนวทางในการทำงานที่ตรงกัน และอะไรดีที่สุดสำหรับประเทศ เพื่อที่จะทำงานให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด ” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวต่อว่า การพัฒนาพื้นที่บ้านเกิดของเรา ตนไม่สามารถทำคนเดียวต่างลำพังได้ แต่ตนเข้ามาขอโอกาสรับใช้พี่น้องประชาชน แล้วเราจะมาร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืนและถาวร พรุ่งนี้จะเป็นวันที่คนไทยได้ตัดสินอนาคตของตัวเอง ขออย่าเลือกผู้สมัคร ส.ส.โดยการฟังเสียงโน้มน้าวของใคร แต่ขอให้ฟังเสียงหัวใจตัวเอง ตัดสินจากสายตาที่เคยเห็นการทำงานของผู้สมัคร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

“พล.อ. ธรรมรักษ์”เดินสายให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.พปชร.ภาคอีสานครบทุกจังหวัด ส่งสารจาก”พล.อ.ประวิตร”ขอให้ทำงานเพื่อประชาชน

,

“พล.อ. ธรรมรักษ์”เดินสายให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.พปชร.ภาคอีสานครบทุกจังหวัด ส่งสารจาก”พล.อ.ประวิตร”ขอให้ทำงานเพื่อประชาชน

พล.อ. ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ในภาคอีสาน จังหวัดยโสธร เป็นจังหวัดที่ 20 ซึ่งถือว่าครบทุกจังหวัดแล้ว โดย พล.อ.ธรรมรักษ์ มีกำหนดการเดินทางกลับกรุงเทพ ในวันที่ 13 พ.ค.66 เพื่อเตรียมตัวไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.66

พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ในการเดินทางลงพื้นที่ทั้ง 20 จังหวัดนั้น ภาพรวมถือว่ามีความเรียบร้อยดี อาจจะมีปัญหาในบ้างเล็กน้อย แต่ก็อยู่ในขอบเขตที่สามารถแก้ไขได้ นอกจากนี้ตนต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนในแต่ละจังหวัดที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ตนรู้สึกอบอุ่นใจและชื่นใจอย่างมาก เพราะแม้จะไม่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมพื้นที่กว่า 15 ปี แต่ทุกคนก็ยังไม่เคยลืมกัน

ทั้งนี้ พล.อ.ธรรมรักษ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ตนได้บอกกับผู้สมัครทุกเขตว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และผู้บริหารพรรคทุกคน ฝากกำลังใจมาให้ ฝากให้ทำงานเพื่อประชาชนอย่างหนัก เป็นผู้แทนฯให้ได้ จะได้นำนโยบายที่เป็นประโยชน์มาพัฒนาในพื้นที่ แก้ปัญหาให้กับประชาชนและประเทศชาติ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

“ทีมขุนพลพปชร. ร่วมคาราวานรถหาเสียงชวนคนไทยเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ ชวนปชช.ใช้เหตุผลตัดสินก่อนใช้สิทธิ์ กาเบอร์ 37 เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง

,

“ทีมขุนพลพปชร. ร่วมคาราวานรถหาเสียงชวนคนไทยเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้
ชวนปชช.ใช้เหตุผลตัดสินก่อนใช้สิทธิ์ กาเบอร์ 37 เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง

13 พ.ค. 2566 เวลา 9.00 น. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จุดกระจายรถหาเสียง โดยมีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมกทม. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่ปรึกษาคณะกรรมการฝ่ายจัดทำนโยบาย ขึ้นขบวนรถแห่ เพื่อให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศพร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าคูหาเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ในของรณรงค์หาเสียงของการเลือกตั้งครั้งนี้ อยากตั้งข้อสังเกตให้กับพี่น้องประชาชน ที่ไปใช้สิทธิก่อนกาบัตรเลือกตั้งครั้งนี้ นับว่ามีความสำคัญที่จะนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า หากจะไปเลือกพรรคที่จะนำไปการสร้างความขัดแย้ง จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เสียโอกาสและน่าเสียดายที่จะพัฒนาประเทศ หรือต้องหยุดการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศ การท่องเที่ยวกำลังเติบโตไปได้ด้วยดี หากเกิดความรุนแรง หรือนำนโยบายที่ขัดกับความรู้สึก ความเชื่อหรือความศรัทธาของประชาชน อาจนำไปสู่ความวุ่นวายทางการเมืองได้

สิ่งสำคัญที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค อยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ ถ้าไม่มีเรา ก็จะทำให้ปัญหาตามมามากมาย และไม่มีนโยบายที่จะช่วยเหลือประชาชน หรืออาจจะทำให้เกิดความขัดแย้ง ขอให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง กาเบอร์ 37

นายสกลธี กล่าวว่า ในวันนี้จะเป็นการรวมตัว และ กระจายไปในจุดต่างๆ ของกรรมการทุกคนเพื่อไปช่วยผู้สมัครในแต่ละเขต ซึ่งเรามั่นใจทั้งตัวบุคคล และพรรค เพราะเชื่อมั่นว่า ตัวผู้สมัครไม่เป็นรองใคร แม้ว่าในสนามกรุงเทพต้องอาศัยกระแสเป็นส่วนสำคัญ โดยในส่วนของผู้สมัครทุกคนได้ลงพื้นที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชน ในวันพรุ่งนี้ที่จะเข้าคูหาและก็เลือกเบอร์ 37

“การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญ ต่อผลของการเลือกตั้งว่าเราเลือกอะไร และได้อะไร ผู้สมัครพปชร.ทุกคนพูดมาแล้วว่าเลือกพรรคพลังประชารัฐ เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งอยากให้ทุกคนใช้เหตุผลว่าเลือกแล้วจะได้อะไรกลับมา”

ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า พรรคได้ทำงานอย่างเต็มที่ จึงขอฝากพี่น้องประชาชน ให้โอกาสกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้พปชร. เข้ามาทำหน้าที่รับใช้ชาวกทม.อีกครั้ง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร ”ส่งนโยบายถึงมือ ประชาชนผ่านคาราวานหาเสียงรอบกรุง ชวนคนไทยทุกคน ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง กา พปชร.ส่งกำลังใจผู้สมัครทุกเขตลุยเต็มพิกัด

,

“พล.อ.ประวิตร ”ส่งนโยบายถึงมือ ประชาชนผ่านคาราวานหาเสียงรอบกรุง ชวนคนไทยทุกคน ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง กา พปชร.ส่งกำลังใจผู้สมัครทุกเขตลุยเต็มพิกัด

วันที่ 13 พ.ค.66 เวลา 08.00 น
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)จัดกิจกรรมปล่อยตัวคาราวาน รถหาเสียงโค้งสุดท้ายทั่ว กทม.นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐโดย ได้โบกธงพรรคพปชร. เพื่อปล่อยคาราวานรถหาเสียงไปในเส้นทางต่างๆ โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีม กทม. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษาคณะกรรมการฝ่ายจัดทำนโยบาย ขึ้นขบวนรถแห่ เพื่อให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศพร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าคูหาเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม นี้

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้พรรคหาเสียงอย่างเข้มข้น และจะยุติการหาเสียงในเวลา 18.00 น. ขอให้ผู้สมัครทุกคนทำงานให้เต็มที่ เพื่อประเทศชาติ และประชาชนของเรา และความแข็งแกร่งของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะนำนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป

สำหรับเป้าหมายของพรรค ยังไม่มีการวางแผนใดๆ ขอให้ รอดูวันที่ 14 พฤษภาคม เพราะเราต้องให้เกียรติประชาชน ประชาชนจะเลือกใครก็แล้วแต่ และไม่ได้มีการคาดการณ์จำนวนที่นั่ง ที่จะได้รับ

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ได้เชิญชวนประชาชนมาใช้สิทธิ์ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ขอให้มาทุกคน เพราะบ้านเมืองเราต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนออกมาเลือกตั้ง เพื่อที่จะเห็นว่าเรามีสิทธิ์มีเสียงในการลงคะแนนเลือกตั้งทุกคน ขอฝากไว้ด้วย

สำหรับขบวนคาราวาน เริ่มปล่อยขบวนตั้งแต่หน้าพรรคพลังประชารัฐ ผ่านห้าแยกลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผ่านแยกยมราช เข้าถนนหลานหลวง ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานพุทธ และจบที่ วงเวียนใหญ่ วนไปจนใกล้เวลาสิ้นสุดการหาเสียง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

‘ผู้กองธรรมนัส’ ปลุกพลังคนพะเยานับหมื่น “กางจ้องฟังปราศรัยทิ้งทวนกลางฝน” อ้อน ขอความเมตตาชาวพะเยาเทคะแนนให้ เบอร์ 6 ยกจังหวัด ร่วมกันสร้างบ้านแปงเมืองเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น

,

‘ผู้กองธรรมนัส’ ปลุกพลังคนพะเยานับหมื่น “กางจ้องฟังปราศรัยทิ้งทวนกลางฝน” อ้อน ขอความเมตตาชาวพะเยาเทคะแนนให้ เบอร์ 6 ยกจังหวัด ร่วมกันสร้างบ้านแปงเมืองเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ที่จังหวัดพะยา ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ และนายจีรเดช ศรีวิราช ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 6 พปชร.พร้อมด้วยทีมงานผู้ช่วยหาเสียงขึ้นรถแห่ปราศรัยขอคะแนนพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลตำบลเชียงม่วน อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา โดยมีประชาชนออกมาต้อนรับและให้กำลังใจตามหมู่บ้าน ตลอดสองข้างทางเป็นจำนวนมาก

จากนั้นร้อยเอกธรรมนัส เดินทางไปพร้อมด้วยนายไพรัตน์ ตันบรรจง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเพื่อไปพบปะประชาชนและปราศรัยหาเสียงช่วยนายอนุรัตน์ ตันบรรจง หรือ ‘น้องออม’ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ที่บริเวณสนามกีฬาเชียงแรง อำเภอภูซาง ซึ่งมีประชาชนมารอให้กำลังใจและรับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก แม้จะมีฝนตกหนักแต่ประชาชนก็ไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ ต่างพากันกางจ้อง(กางร่ม)นั่งฟังปราศรัยอย่างไม่ย่อท้อ จนกระทั่งฝนหยุดตกในเวลาต่อมา

โดยนายอนุรัตน์ ปราศรัยว่า ตนเองมีความมุ่งมั่น และความจริงใจที่จะนำนโยายของพรรคพลังประชารัฐ มาแก้ปัญหาให้พ่อแม่พี่น้องที่ยังค้างคา ที่ผ่านมาหลายปียังไม่มีการแก้ไข เกษตรกรยังประสบกับปัญหาผลผลิตราคาถูก ผลงานที่ผ่านมาของผู้กองธรรมนัส ได้พิสูจน์ตัวเอง ทำคุณงามความดี พัฒนาบ้านแปงเมืองทั้ง 9 อำเภอของพะเยา ตนเชื่อว่า ผลงานต่างๆ จะเป็นที่ประจักษ์ต่อพ่อแม่พี่น้อง

“ราคาพืชผลการเกษตรเป็นปัญหาเรื้อรัง ถ้าเขาบอกว่าเป็นโรค ก็เป็นโรคร้ายที่ไม่ได้รับการแก้ไขครับ ดังนั้นผมจะใช้มันสมอง ใช้ความวิริยะอุตสาหะ เข้าไปแก้ปัญหา ไม่ใช่ปล่อยให้ผ่านไป 4 ปี พอมีการเลือกตั้งก็บอกให้เลือกแบบนั้นแบบนี้ วันนี้ผมพร้อมอาสามาเปลี่ยนปัญหาของพ่อแม่พี่น้องให้เป็นความสุข การหาเสียงในโค้งสุดท้ายนี้ผมเชื่อว่า พ่อแม่พี่น้องจะให้โอกาส ผมเป็น ส.ส.” นายอนุรัตน์ กล่าว

ด้านร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ขอบคุณในน้ำใจของพ่อแม่พี่น้องทุกท่านที่หลั่งไหลมาฟังปราศรัยของตนเองและน้องออม รวมถึง คุณพ่อไพรัตน์ ที่วันนี้มาในบทบาทผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคฯ ด้วย ซึ่งวันนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าพ่อแม่พี่น้องจะพร้อมใจกันสนับสนุนเราให้เข้าไปเป็นผู้แทนเป็นปากเป็นเสียงในสภาฯ

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวต่อว่า ตั้งใจจะมาบอกเรื่องดีมีประโยชน์ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท และผู้ถือบัตรยังมีประกันชีวิตอีก 200,000 บาท เพื่อ ไม่ให้เป็นภาระลูกหลาน ตลอดการดูแลผู้สูงอายุ ที่จะมีเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน เท่านั้นยังไม่พอเรายังแก้ปัญหาแหล่งน้ำและที่ดินทำกิน เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ใครที่มีเอกสาร คทช.ก็จะเปลี่ยนเป็น สปก.4-01 ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ที่ดินในการสร้างรายได้และประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน ซึ่งเราจะทำทันทีที่ได้จัดตั้งรัฐบาล

“พ่อแม่พี่น้องครับ วันที่ 14 พฤษภาคม นี้ขอความเมตตาจากทุกท่านไปลงคะแนนให้ผมกับน้องออม และจีรเดช ศรีวิราช เขต 1 เขต 2 และเขต 3 เบอร์ 6 ยกจังหวัดเพื่อเข้าไปเป็น ส.ส.ผนึกกำลังกันสร้างบ้านแปงเมืองพะเยาของเราให้เจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นปราศรัยหาเสียงที่อำเภอภูซาง ร้อยเอกธรรมนัส ยังไปพบปะประชาชนและปราศรัยหาเสียงช่วยนายจีรเดช เขต 3 อีกครั้งที่อำเภอปง ซึ่งมีประชาชนมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมากท่ามกลางฝนตกอย่างหนักเช่นกัน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566