โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: ข่าวกิจกรรม

“รมช.อธิรัฐ – ส.ส.ทัศนียา รัตนเศรษฐ” เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพ

,

“รมช.อธิรัฐ – ส.ส.ทัศนียา รัตนเศรษฐ” เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพ บรรเทาความเดือดร้อนผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมพื้นที่โคราช ต่อเนื่อง

ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะลงพื้นที่ อ.ประทาย จ.นครราชสีมา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพสำหรับบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เป็นการเยียวยา สร้างขวัญกำลังใจ และช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประสบภัยให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตปกติได้โดยเร็ว

โดยมอบถุงยังชีพ จำนวน 1,200 ชุด ตามจุดต่างๆ ดังนี้ ศาลาประชาคมบ้านสี่เหลี่ยม ต.กระทุ่มราย จำนวน 373 ชุด, ศาลาประชาคมบ้านเขว้า ต.กระทุ่มราย จำนวน 222 ชุด, ศาลาประชาคมบ้านโนนไผ่ล้อม ต.กระทุ่มราย จำนวน 247 ชุด, ศาลาประชาคมบ้านกระทุ่มราย ต.กระทุ่มราย จำนวน 216 ชุด และ ศาลาประชาคมบ้านดอนกลาง ต.กระทุ่มราย จำนวน 142 ชุด

ด้าน ส.ส.ทัศนียา รัตนเศรษฐ (เขต7 จังหวัดนครราชสีมา) พร้อมด้วย นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ได้ลงพื้นที่ อ.คง จ.นครราชสีมา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพสำหรับบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้นำชุมชนเพื่อส่งมอบให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เป็นการเยียวยา สร้างขวัญกำลังใจ และช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประสบภัยให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตปกติได้โดยเร็ว

โดยมอบถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด ตามจุดต่างๆ ดังนี้ ศาลากองทุนบ้านมะค่า ต.ขามสมบูรณ์ จำนวน 200 ชุด, วัดบ้านโจด ต.ขามสมบูรณ์ จำนวน 130 ชุด, วัดปริยัติไพศาล ต.ขามสมบูรณ์ จำนวน 232 ชุด และวัดบ้านขาม ต.ขามสมบูรณ์ จำนวน 407 ชุด“ด้วยความห่วงใยจาก ครอบครัวรัตนเศรษฐและทีมงาน”

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 22 พฤศจิกายน 2564

“ส.ส. จอมขวัญ” ผนึกชมรมชาวปักษ์ใต้สมุทรสาคร ช่วยเหลือผู้สูงอายุยากไร้

, ,

“ส.ส. จอมขวัญ” ผนึกชมรมชาวปักษ์ใต้สมุทรสาคร

สร้างบ้าน-มอบเงินทุนให้ผู้สูงอายุยากไร้ในพื้นที่ ต.โคกขาม

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 นางสาวจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส. สมุทรสาคร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ร่วมกับ พ.ต.อ.สมชาย ขอค้า ผกก.สภ.โคกขาม, พ.ต.ท.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง รอง ผกก.ป. สภ.บ้านแพ้ว พร้อมด้วย นายสากล ชลคีรี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสมุทรสาคร และทีมงาน ส.ส. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ ม.9 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อรับฟังความคิดเห็นและปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ พร้อมมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ประกอบด้วยข้าวสารอาหารแห้ง และสิ่งของจำเป็นต่างๆ รวมถึงมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งให้กับป้าอร ผู้สูงอายุยากไร้ เพื่อใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หลังพบว่าได้รับความเดือดร้อนด้านความเป็นอยู่และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย

“การลงพื้นที่ช่วยเหลือในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะชมรมชาวปักษ์ใต้สมุทรสาคร ที่รับหน้าที่สร้างบ้านให้กับป้าอรทดแทนหลังเก่าที่ได้รับความเสียหาย เราจะไม่ทิ้งกัน ด้วยความห่วงใยจากทีมงาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ”

ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมชาย ขอค้า ผกก.สภ.โคกขาม ในฐานะประธานชมรม สมาคมชาวปักษ์ใต้สมุทรสาคร ได้ให้ความช่วยเหลือสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับป้าอรเพื่อชดเชยกับหลังเก่าที่เสียหาย โดยจะเร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน และกำหนดส่งมอบบ้านให้ป้าอรในวันที่ 11 ธันวาคมนี้

#จอมขวัญกลับบ้านเกาะ
#ส.ส.สมุทรสาคร
#พรรคพลังประชารัฐ
#พปชร.

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand
ออกอากาศเมื่อวันที่ : 22 พฤศจิกายน 2564

“สัณหพจน์” เสนอ สธ. เร่งจัดเครื่องมือแพทย์เสริม รพ.ปากพนัง

,

“สัณหพจน์” เสนอ สธ. เร่งจัดเครื่องมือแพทย์เสริม รพ.ปากพนัง บริการประชาชนลุ่มน้ำปากพนัง

สัปดาห์หน้าสร้างเสร็จแล้ว! ส.ส.พปชร. เขต 2 นครศรีฯ เสนอ สธ. เร่งจัดเครื่องมือแพทย์เสริม รพ.ปากพนัง เติมเต็มศักยภาพการรักษาประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง 3 อำเภอ จ.นครศรีฯ พร้อมรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19ในประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ โรงพยาบาลปากพนัง จะแล้วเสร็จตามสัญญาของผู้รับเหมารายใหม่ ภายหลังจากการก่อสร้างมากกว่า 10 ปี เพิ่งจะแล้วเสร็จ

ทั้งนี้เมื่อ รพ.ปากพนังเสร็จสมบูรณ์ พี่น้องประชาชนต่างหวังว่า รพ.ปากพนังจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 อำเภอ ลุ่มน้ำปากพนัง ประกอบด้วย อ.ปากพนัง (97,649 คน) อ.เชียรใหญ่ (42,139 คน) และอ.หัวไทร (63,641 คน) รวมประชากรประมาณ 203,429 คน (ข้อมูลประชากรปี 2563) ได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเดินทางไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ อ.เมือง ซึ่งอยู่ห่างไกลหลายสิบกิโลเมตร
แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุดจากการที่ตนได้ร่วมรับมอบรถตู้เอนกประสงค์และห้องความดันลบให้กับ รพ.ปากพนัง ซึ่งบริจาคโดยนายเฉลิมชัย ครุอำโพธิ์ และมี นพ.สมเกียรติ วรยุทธการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปากพนังเป็นผู้รับมอบ จึงพบว่าแม้ รพ.ปากพนังจะสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ยังคงขาดอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์อีกเป็นจำนวนมาก

“แม้ รพ.ปากพนังจะสร้างเสร็จในวันที่ 28 พ.ย.64 ที่จะถึงนี้ แต่พบว่ายังคงขาดเครื่องมือและอุปกรณ์อีกจำนวนมาก เช่น เครื่องเอกซเรย์ เครื่องมือผ่าตัด (ห้องผ่าตัดจำนวน 4 ห้อง) และอื่นๆ ที่จะรองรับการให้บริการประชาชนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“ดังนั้นตนจึงอยากเสนอขอความช่วยเหลือไปยัง กระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากที่ผ่านมา รมช.สธ.ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้าง รพ.ปากพนัง เพื่อเร่งจัดหาเครื่องไม้เครื่องมือเป็นจำนวนมาก สนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์อย่างเต็มที่ในการดูแลพี่น้องประชาชนพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง” ดร.สัณหพจน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังนั้น ตนอยากขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนสามารถติดต่อขอเข้ารับวัคซีนจาก รพ.ในพื้นที่ใกล้เคียงโดยเร่งด่วน เพื่อบรรลุเป้าหมายการรับวัคซีนในพื้นที่ให้ได้ 70% ของจำนวนประชากร เตรียมพร้อมรับการเปิดการท่องเที่ยว อ.ปากพนัง ตามแผนการเปิดการท่องเที่ยวของจังหวัด ในระยะที่ 2 วันที่ 16 ธ.ค.64

ที่สำคัญ การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ดังกล่าวยังช่วยให้พี่น้องประชาชน สามารถป้องกันการเกิดอาการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโควิด-19 หากมีการติดเชื้อได้

ล่าสุดทาง รพ.ปากพนัง ได้จัดการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยทุก 500 คนที่เข้ารับการฉีดวัคซีน จะได้รับสิทธิร่วมชิงรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้า 1 ชิ้นทันที

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 21 พฤศจิกายน 2564

“รมว.ดีอีเอส” หนุนผู้ประกอบการไทยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี พัฒนาศักยภาพธุรกิจ

,

“รมว.ดีอีเอส” หนุนผู้ประกอบการไทยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี-นวัตกรรมพัฒนาศักยภาพธุรกิจพร้อมเข้าสู่ศก.ดิจิทัล

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ตนได้เป็นประธานในงานแถลงข่าวและพิธีเปิด “กิจกรรมส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนเมืองเศรษฐกิจอัจฉริยะต้นแบบ (Smart Economy Showcase) ในพื้นที่จังหวัดสงขลา” ซึ่งจัดโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า โดยตนได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการชาวไทยทุกระดับ ได้ใช้โอกาสในการเข้าร่วมงาน เพื่อสร้างโอกาสธุรกิจ เปลี่ยนวิถีชีวิตให้คิดอย่างดิจิทัล รวมทั้งใช้โครงข่ายที่ภาครัฐได้จัดสรรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ในการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ การพัฒนาศักยภาพการค้าธุรกิจ สร้างความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างมั่นคง

“ในงานดังกล่าวเราได้นำแพลตฟอร์มที่เหมาะสม มามอบโปรโมชั่นพิเศษให้กับผู้ประกอบการชาวสงขลา
facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 20 พฤศจิกายน 2564

‘สุริยะ’ สั่ง กสอ.ฟื้นฟูธุรกิจ 6 จว.ภาคใต้ฝั่งอันดามันสู่อุตฯ 4.0

, ,

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา ระนอง และสตูล) ที่จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 15-16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) หรือดีพร้อม เร่งส่งเสริม พัฒนา สนับสนุนเอสเอ็มอี พร้อมกันนี้ได้รับฟังความต้องการของผู้ประกอบการเพื่อนำไปปรับเป็นแผนการดำเนินงานส่งเสริมต่อไป นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้เร่งเพิ่มประสิทธิภาพเศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจหมุนเวียน – เศรษฐกิจสีเขียว หรือ บีซีจี โมเดล สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่สร้างความต่างให้ผลิตภัณฑ์ ขยายช่องทางตลาดออนไลน์ และพัฒนานวัตกรรมการผลิตไปสู่อุตสาหกรรม 4.0

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดี กสอ. กล่าวว่า ที่ผ่านมากสอ.มีแนวทางยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ติดตามการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการหลายสาขา โดยเฉพาะกลุ่มไมโครเอสเอ็มอี กว่า 5 แสนราย อาทิ ประมง เกษตร อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว วิสาหกิจชุมชน หลังจากนี้จะเร่งฟื้นฟูและยกระดับผู้ประกอบการด้วยแนวทาง ดังนี้ เพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมผ่านศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ไอทีซี4.0) ช่วยแปรรูปสมุนไพรประจำถิ่น อาทิ พริกไทย ดีปลีเชือก ขิงแห้ง ปีงบประมาณ 2565 ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนแล้ว นอกจากนี้จะยกระดับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน อาทิ มาตรฐานฮาลาลจีเอ็มพี/เอชเอซีซีพี รวมทั้งดึงอัตลักษณ์ประจำถิ่นกระตุ้นความต้องการของตลาด ผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ พัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพิ่มช่องทางการขาย จับคู่ธุรกิจ และการพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน นำงานวิจัยต้นแบบ เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติที่ผ่านการพัฒนาจากศูนย์ไอทีซี ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัยในพื้นที่มาช่วยลดต้นทุนการทำธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ อาทิ ต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้า ต้นทุนแรงงานมนุษย์ ต้นทุนด้านขนส่ง รวมถึงต้นทุนในกระบวนการผลิต ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีมากขึ้น

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 20 พฤศจิกายน 2564

ส.ส.สัมพันธ์ฯ ลงพื้นที่เขตพื้นที่ อ.สุไหงปาดี เข้าถึงปัญหา ปชช. วางแนวทางช่วยเหลือ

,

ส.ส.สัมพันธ์ฯ ลงพื้นที่เขตพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เข้าถึงปัญหา ปชช.สู่การวางแนวทางช่วยเหลือได้ตรงจุด!!!

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต 2 (ส.ส.บีลา) พร้อมทีมงานผู้ช่วย ส.ส.ฯ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อให้ตนและทีมงานได้เข้าถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในชุมชนที่ตนดูแล ที่จะนำไปสู่การ วางแนวทางช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้พี่น้องประชาชนได้อย่างตรงจุด
ทั้งนี้ยังได้เดินทาง ร่วมงานศพของนายแวอาแซ แวมามุ กรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส ซึ่งได้เสียชีวิตอย่างสงบ ณ ม.3 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส

#ขอเพียงรู้จักแล้วจะรักสสบีลา
#กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ
#สสบีลา #สสสัมพันธ์ #พปชร #พลังประชารัฐ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 20 พฤศจิกายน 2564

ธรรมนัส-นฤมล เปิดสาขา พปชร.ขอนแก่น ผนึกทีม ส.ส. ขับเคลื่อนนโยบาย

, ,

ธรรมนัส-นฤมล เปิดสาขา พปชร.ขอนแก่น ผนึกทีม ส.ส.ขับเคลื่อนนโยบายสู้ศึกเลือกตั้ง

“ธรรมนัส-นฤมล” นำคณะลุยอีสานไม่หยุด ล่าสุด ร่วมประชุมจัดตั้งสาขาพรรคและคณะกรรมการสาขาพรรคพลังประชารัฐ จังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 1 ย้ำร่วมมือเป็นหนึ่งเดียว มีความเข้มแข็ง สามัคคีกัน เพื่อผลักดันขับเคลื่อนนโยบายพรรคฯ เตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า และมั่นใจกวาดที่นั่ง ส.ส.เพิ่มมากขึ้น

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ณ ห้องประชุมเทศบาลเมืองศิลา ตําบลศิลา อําเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย ,ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก พรรคฯ,นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พปชร.ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคฯภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน, นายวัฒนา ช่างเหลา และ นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนก่น พปชร. ร่วมประชุมเพื่อจัดตั้งสาขาพรรคพลังประชํารัฐ จังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 1 โดยสมาชิกพรรคฯที่มีภูมิลําเนาในเขตเลือกตั้ง มารายงานตัว และลงทะเบียนเข้าประชุมเป็นจำนวนมาก ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ดำเนินการคัดเลือกสาขาพรรคกํารเมืองจังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 1 ตามลำดับ ทั้งการคัดเลือกคณะกรรมการสาขาพรรคฯ กำหนดไม่น้อย กว่า 7 คน โดยให้ที่ประชุมลงมติแบบเปิดเผย(ยกมือ) ก่อนจะเลือกตําแหน่งหัวหน้าสาขา ซึ่งสมาชิกเสนอชื่อผู้ที่สมควรได้รับเลือกเป็นหัวหน้า และมีผู้รับรองเกินกว่า 2 คน ให้ที่ประชุมลงมติโดยการเปิดเผยเช่นกัน จากนั้นเลือกรองหัวหน้า เลขานุการ เหรัญญิก และนายทะเบียนสมาชิกสาขา ให้สมาชิกเสนอชื่อผู้ที่สมควรได้รับเลือก เป็นนายทะเบียนสมาชิก พร้อมผู้ช่วยนายทะเบียน โดยทุกตำแหน่งดังกล่าว ให้สมาชิกเสนอชื่อผู้ที่สมควรได้รับเลือก โดยมีผู้รับรองเกินกว่า 2 คน ให้ที่ประชุมลงมติโดยการเปิดเผยเช่นเดียวกัน เมื่อขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้ว ก็มีการกำหนดสถานที่ตั้งสาขาพรรคการเมืองจังหวัดขอนแก่น เขตการเลือกตั้งที่ 1 และสรุปผลการประชุมพร้อมข้อเสนอแนะกํารขับเคลื่อนของสาขาพรรคการเมือง ซึ่งบรรยากาศเป็นอย่างเรียบร้อย

ด้านร้อยเอก ธรรมนัส ได้กล่าวในโอกาสพบปะกับผู้แทนสาขาพรรคการเมืองจังหวัดขอนแก่น เขต เลือกตั้ง ที่ 1 และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ช่วงหนึ่งว่า ขอชื่นชมและยินดีกับการดำเนินการ จัดตั้งสาขาพรรคพลังประชํารัฐ จังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 1 และคณะกรรมการสาขาพรรคที่เป็นไปอย่างเรียบร้อย สะท้อนความรักสามัคคีของสมาชิกพรรคฯ ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนาพรรคไปในทิศทางเดียวกันและสอดคล้องกับนโยบายของพรรค ที่มีท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เน้นย้ำต้องการเห็นความเข้มแข็ง เป็นหนึ่งเดียวของสมาชิกรวมถึงส.ส.ทุกคน เพื่อจะได้ร่วมกันผลักดันนโยบายบายของพรรค ที่ยึดมั่นเชิดชูในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมุ่งทำงานเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งพรรคได้ทำงานหนักผ่านกลไกของรัฐ ในฐานะแกนนำของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้มีผลสำเร็จเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่อง

“การจัดตั้งสาขาพรรคพลังประชํารัฐ จังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 1 และคณะกรรมการสาขาพรรคในวันนี้ ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะขอนแก่นถือเป็นเมืองหลวงของภาคอีสาน ภาคอีสานจะเจริญหรือไม่ให้ดูที่ขอนแก่น และภาคอีสาน ถือว่ามีประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ มีส.ส. ตามรัฐธรรมนูญเก่าถึง 132 ที่นั่ง การที่จะยกระดับพัฒนาภาคอีสาน จึงจำเป็นต้องพัฒนาขอนแกน่ให้เจริญก่อน ดังนั้นพรรคจึงให้ความสำคัญดังกล่าว และการจัดตั้งสาขาพรรคพลังประชํารัฐ จังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 1 วันนี้ จึงเป็นการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคต ซึ่งตามระยะเวลาของรัฐบาลที่เหลือปีกว่าๆ ผมในฐานะแม่บ้านของพรรค และ ส.ส.ของพรรค จะทำงานร่วมกันกับ ส.ส.ของพรรคและคณะทำงานทุกฝ่ายอย่างเข้มข้นต่อไป จึงขอให้ทุกคนมีความมั่นใจในนโยบายของพรรคฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ภายใต้การนำของท่านหัวหน้าพรรค ที่มีเป้าหมายทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและพี่น้องประชาชน ซึ่งท่านหัวหน้าพรรคฯ ได้เน้นย้ำมาตลอดว่า ทุกคนต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เดินไปข้างหน้า เพื่อความเป็นปึกแผ่นของพรรคฯและเป็นที่พึ่งพาได้ของประชาชนต่อไป ” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

ขณะที่ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก พรรคฯ ได้เน้นย้ำเช่นกันว่า ขอให้ตัวแทนแทนพรรคและสมาชิกพรรคฯมั่นใจว่าภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร พรรค พปชร.จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และมีชัยชนะเพิ่มมากขึ้นแน่นอน จึงพร้อมเปิดโอกาสให้ ส.ส.ของพรรคฯแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายพรรค ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีประโยชน์ต่อประชาชน และช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองอย่างเข้มแข็งต่อไป

ร้อยเอกธรรมนัส ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ด้วยว่า วันนี้พรรคฯมีการประชุมเพื่อหาตัวแทนและเลือกสาขาระดับภาค จากก่อนหน้านี้มีตัวแทนสาขาภาคเหนือและภาคใต้แล้ว จึงดำเนินการในส่วนภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่นในวันนี้ ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปอย่างเรียบร้อย ตามวัตถุประสงค์ของพรรค

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 20 พฤศจิกายน 2564

“ดร.ส้ม” สืบสานประเพณีไทย นำทีมพรรค พปชร.ลอยกระทงรัฐสภา

, ,

“ดร.ส้ม” สืบสานประเพณีไทย นำทีมพรรค พปชร.ลอยกระทงรัฐสภา

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 เวลา 17.00 น. บริเวณรัฐสภา ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางกอกน้อยและบางพลัด พปชร. และนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช พปชร.

ด้วยชุดแต่งกายผ้าไทย ร่วมกิจกรรมประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2564 ในงาน“รัฐสภาร่วมใจ สืบสานวัฒนธรรมไทยลอยกระทงวิถีใหม่”เพื่อสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่ทรงคุณค่าของไทย โดยในปีนี้ได้นำกระทงของพรรค พปชร.ที่ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติร่วมลอยกระทงในวันนี้เพื่อช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและแม่น้ำลำคลอง

ดร.พัชรินทร์ กล่าวว่า สำหรับบรรยากาศงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2564 บริเวณรัฐสภาเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เข้มงวด ซึ่งกิจกรรมในวันนี้การแสดงดนตรีไทย และแสดงผลงานประกวดกระทงสืบสานประเพณีวิถีไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วย บูทขายสินค้าซึ่งมีประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากได้เป็น

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 19 พฤศจิกายน 2564

อธิรัฐ ติดตามผลงานท่าเรือปากเมง นักท่องเที่ยวเพิ่มหลังนายกรัฐมนตรีนำเปิด

,

“อธิรัฐ ติดตามผลงานท่าเรือปากเมง นักท่องเที่ยวเพิ่มหลังนายกรัฐมนตรีนำเปิด สร้างบรรยากาศ
ท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคัก”

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวหลังจากท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดท่าเทียบเรือปากเมง จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ชาวไทยและชาวต่างชาติทราบถึงความสวยงามของท่าเทียบเรือที่มีเอกลักษณ์เข้ากับทัศนียภาพที่สวยงามของท้องทะเลตรัง จึงกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงเดินทางมาเที่ยวชมบริเวณท่าเทียบเรือเป็นจำนวนมาก กลายเป็นแลนด์มาร์คและจุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัดตรัง ช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ค้าขาย ผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่เป็นอย่างมาก อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการท่าเรือปากเมงเฉลี่ย ปีละ 67,000 คน คาดว่าหลังจากนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 90,000 คน สามารถสร้างรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของจังหวัดตรัง

ทั้งนี้ตนได้เน้นย้ำให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตรัง เข้มงวดมาตรการป้องกันโรคติดต่อเชื้อไวรัส
โคโรน่า 2019 (Covid-19) ควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยภายใต้กติกาสาธารณสุข

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 19 พฤศจิกายน 2564

“ธรรมนัส-นฤมล” นำทีมพปชร.ขึ้นเหนือ ร่วมพบปะตัวแทนพรรคฯ

,

“ธรรมนัส-นฤมล” นำทีม พปชร.ขึ้นเหนือ ร่วมพบปะตัวแทนพรรคฯประจำจังหวัดเขตเลือกตั้ง จ.น่าน โดยมี สมาชิกพรรคฯและ ส.ส.พื้นที่ใกล้เคียงให้การต้อนรับคึกคัก

ที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 16.30 น. ที่บริเวณห้องประชุม น่านกรีนเลควิว รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย ศ.ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา เขต 3 และนายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน เขต 1 ร่วมประชุมและพบปะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จังหวัดน่าน เพื่อคัดเลือกตัวแทนพรรคฯประจำจังหวัดเขตเลือกตั้งใน เขต 1 เขต 2 และเขต 3 โดยมีคณะกรรมการกกต.จังหวัดน่าน ร่วมสังเกตการณ์ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอให้ผู้รับคัดเลือกตัวแทนพรรคฯประจำจังหวัดเขตเลือกตั้ง และสมาชิกพรรคฯจังหวัดน่านเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคฯ ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคฯที่มีเป้าหมายและจุดยืนยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพรรคพลังประชารัฐ มีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนผ่านกลไกในหน่วยงานภาครัฐ ในฐานะแกนนำของรัฐบาลจนประสบผลสำเร็จในการขับเคลื่อนนโยบายที่เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด

“วันนี้ผมขอแสดงความยินดีกับผู้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรคฯ ซึ่งทุกท่านล้วนมาจากตัวแทนพี่น้องในพื้นที่ ซึ่งรับทราบปัญหาและความเดือดร้อนของชาวบ้านอยู่แล้ว ทั้งเรื่องที่ดินทำกินในเขตป่าสงวน ปัญหาการใช้น้ำ และพื้นที่กักเก็บน้ำ รวมทั้งปัญหาเตาเผาขยะของหมู่บ้านสะปัน ที่พรรคฯเชื่อว่าเป็นเรื่องที่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยทีม ส.ส.ในพื้นที่ที่มีการทำงานด้วยความตั้งใจ สอดคล้องกับการทำงานเป็นทีมร่วมกับทางพรรค ที่จะทำให้เห็นการพัฒนาเปลี่ยนแปลงเมืองน่านให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ พัฒนาเจริญก้าวหน้าเพื่อชาวเมืองน่านในอนาคต” ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว

ขณะที่ ศ.ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้มาพบปะพี่น้องชาวเมืองน่านอีกครั้ง และเป็นโอกาสดีที่จะได้ร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนาเมืองน่านไปพร้อมกันกับประชาชนในพื้นที่ โดยพรรคฯพร้อมเปิดโอกาส ส.ส.พรรคฯได้โชว์ฝีมือ และศักยภาพในการทำงานได้ตรงตามความสามารถ ตามเป้าหมายสำคัญ เพื่อลดความยากจนให้กับประชาชนในระยะยาว รวมทั้งต่อยอดนโยบายของพรรค เช่นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ดูแลประชาชนอย่างเหมาะสมและเป็นระบบ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีการสนับสนุนจากประชาชน โดยมี ส.ส.ของพรรคร่วมขับเคลื่อนผลักดันกับรัฐบาลเพื่อให้เกิดผลงานเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 19 พฤศจิกายน 2564

“ส.ส.ไพลิน” เสนอสภาฯ แก้ปัญหาประมงชายฝั่ง อ.พระสมุทรเจดีย์

, ,

“ส.ส.ไพลิน” เสนอสภาฯแก้ปัญหาประมงชายฝั่งอ.พระสมุทรเจดีย์ รับผลกระทบจากมวลน้ำเหนือ หนุนเป็นเขตภัยพิบัติขอรัฐเยียวยา

“ส.ส.ไพลิน” หารือ สภาฯ ช่วยเหลือเกษตรกรประมงชายฝั่ง อ.พระสมุทรเจดีย์ รับผลกระทบมวลน้ำเหนือ ปริมาณฝนเพิ่ม ส่งผลน้ำทะเลจืด กระทบการเลี้ยงสัตว์น้ำ สูญเสียรายได้ เตรียมส่งเรื่องพิจารณา เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เฉพาะเขต เพื่อเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือ และเยียวยา ผ่านกลไกช่วยเหลือของภาครัฐ

นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ เขต7 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวประมงชายฝั่ง และกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ ในพื้นที่อ.พระสมุทรเจดีย์ กำลังเผชิญปัญหาความเสียหายจากภัยพิบัติ ส่งผลสัตว์ที่เลี้ยงและเพาะพันธ์เสียหายเป็นจำนวนมาก กระทบต่อการประกอบอาชีพ ซึ่งตนในฐานะที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าว ได้นำเรื่องเสนอเพื่อหารือกับสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งเรื่องไปยังรัฐบาลและหน่วยที่เกี่ยวข้องในการเข้าช่วยเหลือ และเยียวยาชดเชยความเสียหายอย่างเร่งด่วน พร้อมให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการประกาศในการเป็นพื้นที่ ภัยพิบัติเฉพาะ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ เนื่องจาก เป็นพื้นที่รับน้ำจากภาคเหนือไหลผ่านกรุงเทพฯ และไหลลงสู่อ่าวไทยบริเวณ จ.สมุทรปราการ ประกอบกับมีปริมาณฝนจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณความเค็มของน้ำทะเลลดลง “ที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ ไม่ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ จึงไม่สามารถขอรับความช่วยเหลือและเงินเยียวยาจากภาครัฐได้ จำเป็นต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการนำหัวแร่ธาตุทดแทนน้ำทะเล เพื่อเพิ่มปริมาณความเค็มในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น”

จากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ที่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาน้ำทะเลเจือจาง (น้ำทะเลจืด) ทำให้เกษตรกรผู้
เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อาทิ กุ้ง และหอย ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 14,680,000 บาท ปัจุบันที่มีผู้เพาะเลี้ยงทั้งสิ้น 1,754 ราย หรือกว่า 38,926 ไร่ แบ่งเป็นประมงชายฝั่ง 1,086 ราย คิดเป็นพื้นที่เพาะเลี้ยง 22,495 ไร่ และประมงน้ำจืด 668 ราย คิดเป็นพื้นที่เพาะเลี้ยง 16,431 ไร่

นอกจากนี้ยังได้เตรียมนำปัญหาดังกล่าวยื่นเสนอต่อ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณามาตรการการเยียวยาชดเชยความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่ดังกล่าว

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 18 พฤศจิกายน 2564

‘บิ๊กป้อม’ ห่วงประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ นำ ‘ธรรมนัส-นฤมล’ ลงพื้นที่

,

‘บิ๊กป้อม’ ห่วงประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ นำ ‘ธรรมนัส-นฤมล’ ลงพื้นที่ชุมพร-สุราษฎร์ธานี มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย พร้อมเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อบูรณาการข้อมูลสารสนเทศแจ้งเตือนภัยพิบัติให้ประชาชนรับมือได้ทันท่วงที

‘บิ๊กป้อม’ กระชับแผนป้องกันอุทุกภัยภาคใต้ ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
ร่วมกับ เลขาฯ ธรรมนัส – ดร.นฤมลฯ บูรณาการหน่วยงานวางแผนป้องกัน ผลกระทบระยะยาว พร้อมเปิด ‘ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าภาคใต้’ เชื่อมโยงข้อมูล ประเมินสถานการณ์ลดความเสี่ยง ภัยพิบัติ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนรับมือได้ทันท่วงที พร้อมมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมศาลากลาง จังหวัดชุมพร พล.อ.ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์พรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร. ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และคณะส.ส.พปชร. ลงพื้นที่ตรวจราชการและให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วม พร้อมทั้งติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ โดยมีนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัด คอยให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง และ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวรายงานโครงสร้างอำนาจหน้าที่คณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ และ ดร.สุทัศน์ วีสกุล ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กล่าวรายงานคาดการณ์สภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้บริหารสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และเลขาธิการกรมป้องกันและกรมบรรเทาสาธารณภัย บรรยายสรุปสถานการณ์อุทุกภัย และแนวทางการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหา โดยขณะนี้ ชุมพร มีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหลังสวน อำเภอสวี และอำเภอท่าแซะ รวม 15 ตำบล 66 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,876 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ระดับน้ำลดลง

พลเอก ประวิตรฯ มอบนโยบายว่า ขณะนี้ภาคใต้ของประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว โดยในช่วงที่ผ่านมา อิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้มีสถานการณ์ฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่หลายจังหวัด ซึ่ง จ.ชุมพร เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ประสบกับสถานการณ์อุทกภัย โดยเฉพาะบริเวณ อ.หลังสวน อ.สวี อ.ท่าแซะ อ.ทุ่งตะโก และ อ.เมือง โดยรัฐบาลมีความห่วงใยและตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย ในวันนี้จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดบูรณาการความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือ ซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของผู้ประสบภัย รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหาย ฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบตามเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำให้ความสำคัญในการสร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำและการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจาก กอนช. ได้คาดการณ์ว่า ยังคงมีพื้นที่เสี่ยงในบริเวณภาคใต้ซึ่งจะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจุบันมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ของความจุ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหลายแห่ง เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสูงสุดในการรับมือกับสถานการณ์น้ำ จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ และจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตาม ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำและอำนวยการหน่วยงานในพื้นที่ ในการบริหารจัดการมวลน้ำช่วงฤดูฝนภาคใต้ปี 2564 ให้เกิดความเป็นเอกภาพและสามารถคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว พร้อมมอบหมายให้ทุกหน่วยงานใช้ข้อมูลจากศูนย์บริหารจัดการน้ำฯ ในการวางแผนบริหารจัดการน้ำหลาก เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป

เวลา 15.30 น. พลเอก ประวิตรฯ พร้อมคณะเดินทางไปมอบถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด ให้กับผู้ประสบภัย ที่โรงเรียนอนุบาลสวี จ.ชุมพร เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วม ทั้งนี้ พลเอก ประวิตรฯ ยังได้พบประชาชนและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนเพื่อนำไปพิจารณาประสานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที

เวลาประมาณ 16.30 น. พลเอก ประวิตรฯ พร้อมคณะได้เดินต่อไปยังห้องประชุมตาปี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 ตำบลหนองไทร อ.พุนพิน จ. สุราษฎร์ธานี โดยมีนาย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมและแผนเผชิญเหตุให้การช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบภัย ตลอด 24 โดยมีเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศ ทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) สรุปแนวทางการบริหารจัดการน้ำของจ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่ ปภ.รายงานว่า สุราษฎร์ธานี มีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก อำเภอท่าชนะ อำเภอเกาะสมุย และอำเภอกาญจนดิษฐ์ รวม 7 ตำบล 12 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 373 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

จากนั้น พลเอกประวิตรฯ ได้เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศจากทุกหน่วยงานใช้คาดการณ์และวิเคราะห์สภาพอากาศปริมาณลำน้ำ แหล่งเก็บกักน้ำ พื้นที่น้ำหลาก และแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในภาคใต้ รวมทั้งอำนวยการร่วมกับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (บกปก.ก.) เพื่อแก้ไขสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ และเพื่อแจ้งเตือนประชาชนรับมือได้ทันท่วงที

สำหรับศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ดังกล่าว มีรองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สนทช.) ทำหน้าที่ผู้อำนวยการ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 17 พฤศจิกายน 2564