โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. จตุพร กมลพันธ์ทิพย์

“สส.บุญยิ่ง-จตุพร”ร่วมเสวนา “พลเมืองยุคใหม่กับการมีส่วนร่วมทางการเมืองในปัจจุบัน” มอง ปชช. สามารถมีส่วนร่วมทางการเมืองได้ โดยใช้สิทธิที่ตนพึงได้รับ

,

“สส.บุญยิ่ง-จตุพร”ร่วมเสวนา “พลเมืองยุคใหม่กับการมีส่วนร่วมทางการเมืองในปัจจุบัน” มอง ปชช. สามารถมีส่วนร่วมทางการเมืองได้ โดยใช้สิทธิที่ตนพึงได้รับ

นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี เขต 2 และนายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ร่วมเสวนา เรื่อง “พลเมืองยุคใหม่กับการมีส่วนร่วมทางการเมืองในปัจจุบัน” ณ ห้องประชุมสุพจน์ มิเถาวัลย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดย สส.ทั้งสองท่านได้ร่วมกันเล่าถึงประวัติความเป็นมา บทบาทหน้าที่การทำงานทางการเมือง การทำงานในคณะกรรมาธิการ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีบทบาทสำคัญในการสื่อสารความเดือดร้อนของประชาชนไปสู่การแก้ไข

ด้านนางบุญยิ่ง ได้ร่วมกันอภิปรายถึงแนวคิดการมีส่วนทางการเมืองในมุมมองของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและนักวิชาการว่า ถึงแม้ประชาชนทั่วไปจะไม่ได้มีบทบาทเป็นนักการเมือง แต่ก็สามารถมีส่วนร่วมทางการเมืองได้โดยการใช้สิทธิที่ตนพึงได้รับ ประกอบกับติดตามสถานการณ์ทางสังคม หรือปัญหาในพื้นที่ของตนเอง และดำเนินการแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาต่อไป

ส่วนมุมมองของนักวิชาการ นางบุญยิ่ง มองว่า ในปัจจุบันการติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้พลเมืองสามารถรับข้อมูลข่าวสารแทบจะทันที แต่ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับมาให้ตกผลึกเท่าที่ควร ดังนั้นจึงควรสร้างความตะหนักรู้ให้กับพลเมืองในการเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน ทั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายได้ตั้งคำถามแลกเปลี่ยนในประเด็นต่าง ๆ อาทิ ปัญหาในพื้นที่ ตลอดจนประเด็นต่าง ๆ ที่เยาวชนให้ความสนใจ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 กรกฎาคม 2567

“จตุพร สส.ราชบุรี”ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาน้ำป่าไหลกัดเซาะริมตลิ่งพังทลาย พร้อมแนะทำฝายกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง

,

“จตุพร สส.ราชบุรี”ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาน้ำป่าไหลกัดเซาะริมตลิ่งพังทลาย พร้อมแนะทำฝายกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง

นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้นำชุมชนและพี่น้องประชาชนอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีว่า แม่น้ำภาชี ที่มีแหล่งต้นน้ำมาจากเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งไหลผ่านตำบลท่าเคย ตำบลปลาหวาย ในเขตอำเภอสวนผึ้งและตำบลด่านทับตะโก ตำบลแก้มอ้น อำเภอจอมบึงจังหวัดราชบุรี ไหลไปลงแม่น้ำแควน้อย ที่ตำบลหนองไผ่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี มีความยาวประมาณ 50 – 60 กิโลเมตร มีความกว้างโดยเฉลี่ย 60 – 70 เมตร ในบางช่วงมีการกัดเซาะตลิ่งทำให้บริเวณนั้นมีความกว้างถึง 100 เมตร

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ทุกปีในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม ฝนจะตกชุก น้ำป่าไหลอย่างรุนแรง และกัดเซาะริมตลิ่งพังทลาย ทำให้ที่ดินทำกินซึ่งเป็นไร่สวน พื้นที่เลี้ยงสัตว์ และบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหาย ถนนบางสายเสียหายน้ำท่วมตัดขาด ไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ ซึ่งบางครอบครัวต้องอพยพไปหาที่อยู่ที่ทำกินใหม่ พอถึงฤดูแล้งก็มีความแห้งแล้งเป็นอย่างมาก ไม่มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค เนื่องจากน้ำได้ไหลผ่านไปลงแม่น้ำแควน้อย

“เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยการสำรวจออกแบบทำฝายกักเก็บน้ำไว้ใช้เป็นระยะ ๆ และเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง พร้อมทั้งสร้างแนวเขื่อนกั้นตลิ่งบริเวณที่มีกระแสน้ำกัดเซาะเป็นประจำ”นายจตุพร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ตุลาคม 2566

“จตุพร สส.ราชบุรี” วอน ขยายถนน 4 เลนทางหลวงเชื่อม จ.กาญจนบุรี อำนวยความสะดวก ลดอุบัติเหตุให้ปชช.

,

“จตุพร สส.ราชบุรี” วอน ขยายถนน 4 เลนทางหลวงเชื่อม จ.กาญจนบุรี อำนวยความสะดวก ลดอุบัติเหตุให้ปชช.

นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาการจราจรคับคั่ง บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 3090 ซึ่งเป็นถนนที่เริ่มจาก ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ถึง ตำบลหนองตากยา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งถนนดังกล่าวมีปริมาณยานพาหนะผ่าน เฉลี่ยวันละ 16,000 คัน สาเหตุที่ทำให้การจราจรคับคั่ง เนื่องจากเป็นเส้นทางสายหลักที่เชื่อมไปยัง จ.กาญจนบุรี อ.บ้านโป่ง และ อ.เมือง จ.ราชบุรี แต่มีเพียง 2 ช่องจราจร เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ก่อเกิดความเสียหายในชีวิต และทรัพย์สินบ่อยครั้ง จึงอยากขอให้เพิ่มถนนเป็น 4 ช่องจราจร โดยขยายบริเวณ กม.8 บริเวณ ต.ท่าชุมพล ถึง กม.18 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี รวม 11 กิโลเมตร จึงขอเรียนประธานสภาฯผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 กันยายน 2566