โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ผู้เขียน: pprpadmin

“ส.ส. ฐิติภัสร์” ร่วม กทม. แก้ปัญหาจราจรลดอุบัติเหตุ ติดตั้งป้ายสัญลักษณ์ในซอย

,

“ส.ส. ฐิติภัสร์” ร่วม กทม. แก้ปัญหาจราจรลดอุบัติเหตุ ติดตั้งป้ายสัญลักษณ์ซอยกรุงเทพกรีฑา 8 กทม.

“ส.ส. ฐิติภัสร์” ร่วมแก้ปัญหากับ กทม. ทำป้ายจราจรและสัญลักษณ์เพื่อลดอุบัติเหตุให้กับประชาชนในซอยกรุงเทพกรีฑา 8 ซึ่งมีการใช้เส้นทางสัญจรจำนวนมาก และมักเป็นพื้นที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมขอให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร

นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม. เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรคพลังประชารัฐ ร่วมลงพื้นที่กับ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุในซอยกรุงเทพกรีฑา 8 ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ซอยคับแคบ และมีจำนวนผู้อาศัยจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเร่งด่วนพบว่ามีการใช้ถนนสัญจรจำนวนมาก

เมื่อรับฟังปัญหาเบื้องต้นแล้ว ขณะนี้สำนักการจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการให้เจ้าหน้าที่แก้ไขเพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ด้วยการตีเส้นเตือนชะลอความเร็ว การปักป้ายเตือนตามซอยแยกต่างๆ เพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้กับรถที่ใช้เส้นทางสัญจร รวมทั้งการตีเส้นทึบแบ่งรถตรงไปและเลี้ยวซ้ายพร้อมลูกศรแนะนำช่องจราจรบริเวณหัวซอยด้านถนนกรุงเทพกรีฑา

นางสาวฐิติภัสร์ ระบุว่า ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามปรับปรุงทั้งทางด้านกายภาพ และสภาพแวดล้อม เพื่ออำนวยความสะดวกทางด้านการจราจร และลดอุบัติเหตุให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมาแล้ว โดยเป็นการแก้ปัญหาตามเสียงสะท้อนของประชาชนในพื้นที่ และยังจะต้องประเมินอีกครั้งว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ส่วนหนึ่งประชาชนก็ต้องช่วยกันให้ความร่วมมือในการปฎิบัติตามกฎจราจรและข้อแนะนำตามป้ายจราจรต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและเพื่อนร่วมทาง เพื่อที่จะได้ช่วยกันลดอุบัติเหตุ

#พปชร
#พรรคพลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 26 มกราคม 2565

“ส.ส. อาญาสิทธิ์” ร่วมพูดคุยให้ความรู้กลุ่มเยาวชน สร้างสำนึกรักบ้านเกิด

,

“ส.ส.อาญาสิทธิ์”ร่วมพูดคุยให้ความรู้กลุ่มเยาวชน สร้างสำนึกรักบ้านเกิด-สนับสนุนอาชีพเกษตรกรรม

นายกองตรี อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ และทีมงาน ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พร้อมร่วมพูดคุยให้ความรู้แก่นักศึกษาและเยาวชน ที่มีความสนใจในกลุ่มอาชีพเกษตรกร เพื่อขับเคลื่อนการสร้างานและอาชีพ ในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษาจบใหม่ ให้มีใจรักในบ้านเกิด และกลับมาพัฒนาบ้านเกิด ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงแพะ เลี้ยงไก่ เลี้ยงโค และอื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างอาชีพในชุมชน

“การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการให้ความรู้ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม สร้างความสำนึกความรักบ้านเกิดให้กับเยาวชนในพื้นที่ ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัว เพราะครอบครัวคือ สถาบันหลักของประเทศ”

#อาญาสิทธิ์ศรีสุวรรณ
#สสนครศรีธรรมราช
#พปชร
#พรรคพลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 25 มกราคม 2565

พล.อ.ประวิตร ลงพท.จ.ชัยนาทติดตามแผนรับมือภัยแล้ง เร่งรัดแผนพัฒนาแหล่งน้ำ

,

พล.อ.ประวิตร ลงพท.จ.ชัยนาทติดตามแผนรับมือภัยแล้ง เร่งรัดแผนพัฒนาแหล่งน้ำ-ป้อนภาคเกษตรให้มีเพียงพอ

เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ห้องประชุมเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ชัยนาทและสิงห์บุรี เพื่อติดตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 64/65 และแผนบริหารจัดการการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในเขตพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา โดยมี นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท กล่าวต้อนรับ นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) รายงานสถานการณ์น้ำในภาพรวมการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งและมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 64/65 และผู้แทนกรมชลประทาน นำเสนอแผนบริหารจัดการน้ำและแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในเขตพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคกลางในช่วงแล้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์น้ำปัจจุบันของ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (ข้อมูล 24 ม.ค.65) ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ มีปริมาณน้ำใช้การรวมกันอยู่ที่ 6,616 ล้าน ลบ.ม. หรือ 36% โดยเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย สำหรับสถานการณ์การเพาะปลูกข้าวรอบที่ 2 ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2564/65 พื้นที่ในเขตชลประทาน 22 จังหวัด ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำข้างเคียง มีการเพาะปลูกเกินแผน จึงได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและแผนบริหารจัดการการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวมถึงแผนการปลูกข้าวนาปรังในเขตพื้นที่ลุ่มต่ำที่ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำเข้าทุ่งในช่วงอุทกภัยที่ผ่านมา เพื่อเร่งชดเชยผลกระทบเพื่อให้เกษตรกรมีน้ำทำนาตลอดฤดูการเพาะปลูก

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้ตามแผนที่วางไว้ ได้กำชับให้ สทนช. กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตร และกระทรวงมหาดไทย ควบคุมการใช้น้ำให้เป็นไปตามแผนที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบ รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดแผนงาน/โครงการพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ ในพื้นที่ ที่ได้รับงบประมาณให้เสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะโครงการที่ได้รับงบกลางไปแล้ว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนโดยเร็ว พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง และเกิดความร่วมมือในการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งหวังให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและยังคงมุ่งมั่นบูรณาการขับเคลื่อนโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำในทุกมิติอย่างเป็นระบบและเกิดความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืนต่อไป

นายชยันต์ กล่าวว่า นอกจากการติดตามแผนบริหารจัดการน้ำและการเพาะปลูกพืชลุ่มน้ำเจ้าพระยาแล้ว รองนายกรัฐมนตรี ยังได้ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่มีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เป็นการเร่งด่วน โดยมอบให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินการเตรียมความพร้อมเรื่องที่ดิน การสำรวจ และออกแบบของโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ต.ประศุก และโครงการแก้มลิงหนองอ้อ จ.สิงห์บุรี โดยให้ สทนช. กำกับขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว อีกทั้งเน้นย้ำจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการดังกล่าวให้เกิดขึ้นโดยเร็ว นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการซ่อมสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ต.ไม้ดัด อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี และโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าตำบลหัวป่า ที่กรมชลประทานได้ดำเนินการแล้วเสร็จ เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งสามารถช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกว่า 1,400 ไร่ ด้วย

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 25 มกราคม 2565

พล.อ.ประวิตรตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนมรดกโลก ส่งทะเลอันดามันขึ้นบัญชี

,

พล.อ.ประวิตรตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนมรดกโลก ส่งทะเลอันดามันขึ้นบัญชีทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (24 มกราคม 2565)ว่าจากการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกเกี่ยวกับข้อมติคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 44 ปี 2564 ที่ให้ดำเนินการจัดทำรายงานสถานภาพการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลก พื้นที่กลุ่มป่าดง พญาเย็น – เขาใหญ่และรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาในการประชุมสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ในปี 2565 ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลกแสดงความยินดีที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ยุติการขยายทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 348 และให้หาทางเลือกอื่นเพื่อทบทวนความจำเป็นและเหมาะสมในการก่อสร้างเขื่อน และอ่างเก็บน้ำในพื้นที่แหล่งมรดกโลก รวมถึงการยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนลำพระยาธาร เพื่อลดผลกระทบทางลบต่อคุณค่า ความโดดเด่น อันเป็นสากลของแหล่งมรดกโลก แต่ยังมีความห่วงกังวลเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างเขื่อน และอ่างเก็บน้ำอื่นในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงว่าจะมีผลกระทบต่อคุณค่าและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่

โดยรายงานดังกล่าวจะเป็นการนำเสนอผลการดำเนินงานความคิดริเริ่มและความมุ่งมั่นในการดำเนินงาน เพื่อปกป้อง คุ้มครอง และป้องกันให้คงคุณค่าความเป็นแหล่งมรดกโลก และไม่ให้คณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกในภาวะอันตราย และการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน การนำเสนอพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันเป็นมรดกโลก ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้นำเสนอพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันเข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลก ดังนั้น เพื่อให้มีกลไกในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน เพื่อนำเสนอพื้นที่ดังกล่าว ให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก คณะกรรมการแห่งชาติฯ จึงเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการนำเสนอพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันเป็นมรดกโลกขึ้น

พลเอก ประวิตรฯ ระบุการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก นอกจากจะสร้างความภาคภูมิใจ และความตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของทรัพยากรของประเทศแล้ว ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา – ๒๐๑๙ ให้กับชุมชนและภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วย

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 24 มกราคม 2565

“ส.ส. วันชัย” ระดมพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ป้องกันการแพร่ระบาดในหน่วยงาน

,

“ส.ส. วันชัย” ระดมพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ป้องกันการแพร่ระบาดในหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน

นายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ มอบหมายให้ทีมงาน ลงพื้นที่พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ (HOCI) ให้กับสำนักงานศุลกากร ภาคที 4 และพื้นที่ชุมชนศาลาเหลือง สำนักงานประปาเขตสงขลา โรงพยาบาลสงขลา สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทุ่งหวัง รวมถึงโรงเรียนต่างๆ ได้แก่ อนุบาลกลับเพ็ชร โรงเรียนสงขลาวิทยามูลนิธิ โรงเรียนวิเชียรชม และร้านค้าในหมู่บ้าน เพื่อสร้างสุขอนามัยและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

“การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อเป็นเกาะป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ต่างๆ ของจ.สงขลา ทั้งสำนักงาน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงโรงเรียนต่าง”

#วันชัยปริญญาศิริ
#สสสงขลา
#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 24 มกราคม 2565

“ส.ส. ปริญญา” ประสานงบขุดลอกสระน้ำ บ้านดอนงา กำแพงเพชร แก้ปัญหาน้ำท่วม

,

“ส.ส. ปริญญา” ประสานงบขุดลอกสระน้ำ บ้านดอนงา จ.กำแพงเพชร แก้ปัญหาน้ำท่วม-สำรองน้ำใช้หน้าแล้งเพื่ออุปโภค-บริโภคของปชช.

นายปริญญา ฤกษ์หร่าย ส.ส.กำแพงเพชร เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ ได้ประสานงานพร้อมจัดสรรงบประมาณโครงการขุดลอกสระสาธารณประโยชน์ หมูที่ 5 บ้านดอนงา ต.สลกบาตร จ.กำแพงเพชร โดยมีปริมาณงานขุด ขนาดกว้างเดิม 84.00 ม. ลึก 4.50 ม. ยาว 210 ม. ขุดใหม่ขนาดกว้าง 84.00 ม. ลึก 7.00 ม. ยาว 210 ม. หรือมีปริมาณดินขุดไม่น้อยกว่า 28,203 ลบ.โดยมี นายพรเทพ พุ่มพวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสลกบาตร ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าของงานโครงการดังกล่าว

“หากโครงการขุดลอกสระน้ำแล้วเสร็จ จะเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อใช้ป้องกันน้ำท่วม และใช้กักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งเพื่อการอุปโภค-บริโภค”

#ปริญญาฤกษ์หร่าย
#สสกำแพงเพชร
#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 23 มกราคม 2565

“ส.ส. ฐนภัทร” เสนอมหาดไทยเพิ่มค่าตอบแทนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน

,

“ส.ส. ฐนภัทร” เสนอมหาดไทยเพิ่มค่าตอบแทนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน วอนพาณิชย์จันทบุรีจัดสรรโควต้าหมูให้ผู้ค้าอย่างเป็นธรรม

พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร กรณีขอปรับอัตราค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ เป็นอัตราใหม่ ดังนี้ กำนัน เป็น 10,000 บาท และผู้ใหญ่บ้าน 8,000 บาท แพทย์ สารวัตรกำนัน และผู้ช่วย รายละ 5,000 บาท เนื่องจากค่าตอบแทนต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำในปัจจุบัน ทั้งนี้ ยังขอให้พิจารณาการจ่ายค่าตอบแทนให้กับกรรมการหมู่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน ซึ่งมีหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน จึงอยากฝากท่านประธานฯ ไปยังกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการปรับอัตราค่าตอบแทนใหม่ให้กับบุคคลเหล่านี้อย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับบุคคลเหล่านี้

ทั้งนี้ ยังได้รับการร้องเรียนจากพ่อค้าหมูในตลาดพลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพาณิชย์จังหวัด และกระทรวงพาณิชย์ กรณีให้โควต้ากับผู้ค้าหมูบางราย ซึ่งเกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้ค้าหมูที่ไม่รับโควต้า เนื่องจากลูกค้าไปซื้อหมูจากกลุ่มผู้ที่ได้โควต้า จึงฝากท่านประธานไปยังพาณิชย์จังหวัด กระทรวงพาณิชย์ เร่งแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งวด่วน

#ฐนภัทรกิตติวงศา
#สสจันทบุรี
#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 23 มกราคม 2565

“ส.ส. จองชัย” ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด มอบเครื่องใช้อุปโภคบริโภค

,

“ส.ส. จองชัย”ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด มอบเครื่องใช้อุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อน

ร.อ.ดร.จองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.ชลบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ และทีมงาน ลงพื้นที่มอบเครื่องใช้อุปโภคบริโภค ข้าวสารอาหารแห้ง หน้ากากอนามัย รวมถึงผ้ากันเปื้อน ให้กับพนักงานทำความสะอาดในพื้นที่เขตเทศบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และใช้ป้องกันการและลดการแพร่ระบาดแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของทุกๆ คน และคนในครอบครัว

“การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เสริมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ให้มองเพื่อนมนุษย์รอบๆ ตัว ให้เกียรติถึงคุณค่า และให้ความสำคัญต่อกันในทุกๆ บทบาทหน้าที่ ที่ทำให้สังคมนี้ขับเคลื่อนไปได้”

#จองชัยวงศ์ทรายทอง
#สสชลบุรี
#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 23 มกราคม 2565

“ส.ส. สุชาติ” วอนรัฐเร่งจัดสรรงบเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์

,

“ส.ส. สุชาติ” วอนรัฐเร่งจัดสรรงบเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกอุทยานแก่งกระจานรองรับนักท่องเที่ยว

นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร กรณีเพิ่มประสิทธิภาพความจุอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ อ.หนองหญ้าป้อง จ.เพชรบุรี สืบเนื่องจากการเพิ่มความจุของอ่างเก็บน้ำฯ เป็น 3 ระยะ แบ่งเป็น ระยะที่ 1 ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งในเรื่องของแบบเสร็จสิ้นหมดแล้ว รอเพียงแต่ความคืบหน้าและความชัดเจน ว่างบประมาณ 200 บาท จะใช้งบกลางที่มีอยู่ในขณะนี้ หรือจะใช้งบประมาณปี 2566 จึงขอฝากท่านประธานฯ ไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยเร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันน้ำท่วมและกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง

ทั้งนี้ ยังฝากเรื่องไปถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ปัจจุบันพบว่าสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังไม่รับการปรับปรุง ทั้งเรื่องของที่พัก ห้องน้ำ และถนนหนทางที่เข้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะน้ำตกแม่กระดังลา ดังนั้น จึงขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามาดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่ออำนวยความาะดวกให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

#นายสุชาติอุสาหะ
#สสเพชรบุรี
#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 23 มกราคม 2565

“ส.ส. อนันต์” ส่งเสริมสุขภาพชุมชนประสาน รพ.สต.บริการ ดึงปชช.ตรวจสุขภาพประจำปี

,

“ส.ส. อนันต์” ส่งเสริมสุขภาพชุมชนประสานรพ.สต.บริการ ดึงปชช.ชุมชนเทศบาลตรวจสุขภาพประจำปี-ลดเสี่ยงเกิดโรค

นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย สจ.ชัยยศ ตั้งนิยม นายแสน ผิวลออ นายกเทศมนตรีตำบลวังยาง ประสานงานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังยาง โดยนายแพทย์สกล สินธุพรหม แพทย์ประจำ NPCU วังยาง และนายนิรันทร์ อุบลอ่อน ผอ.รพ.สต.วังยาง จัดกิจกรรมตรวจเจาะเลือดประจำปีในกับผู้สูงอายุที่อยู่ในระบบ รพ.สต.วังยาง เพื่อตรวจโรคต่างๆ ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ ลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่จะทำให้เกิดโรค และเฝ้าระวังติดตามปัญหาสุขภาพนั้นอย่างใกล้ชิดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

“ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคลองขลุงห้องเจาะเลือด เจ้าหน้าที่ สาธารณสุขอำเภอคลองขลุง เจ้าหน้าที่.NPCU วังยาง อสม.ตำบลวังยางทุกท่าน และ ชุด จราจร อีกหลายๆท่านที่มีส่วนร่วมในการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ซึ่งการดำเนินการไปด้วยดี”

#อนันต์ผลอำนวย
#สสกำแพงเพชร
#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 22 มกราคม 2565

“ส.ส.รณเทพ” มอบแอลกอฮอล์-หน้ากากอนามัย สกัดการแพร่ระบาดในโรงเรียน

,

“ส.ส.รณเทพ” มอบแอลกอฮอล์-หน้ากากอนามัย สกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในรั้วโรงเรียน

นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ และทีมงาน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพร้อมมอบแอลกอฮอลล์ และหน้ากากอนามัย ให้กับบุคลากรทางการศึกษา เจ้าหน้าที่ และนักเรียน โรงเรียนอนุบาลพนัสศึกษาลัย และโรงเรียนบ้านสระตา ต.นาวังหิน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการเสริมสร้างสุขอนามัย และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ภายในรั้วโรงเรียน

“การมอบสิ่งของในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และยังเป็นขวัญกำลังใจให้กับคุณครู เจ้าหน้าที่ และนักเรียน ให้ปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองอย่างเข้มแข็ง เพราะเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

#รณเทพอนุวัฒน์
#สสชลบุรี
#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 22 มกราคม 2565

‘รมว.ตรีนุช’ เปิดโครงการ ‘อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ’ ตั้งเป้าดึงเด็ก 5.2 พัน

,

‘รมว.ตรีนุช’ เปิดโครงการ ‘อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ’ ตั้งเป้าดึงเด็ก 5.2 พัน เข้าระบบ

เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่วิทยาลัยการอาชีพป่าซาง จ.ลำพูน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานในการเปิดโครงการ “สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชน เพื่อผลิตกำลังคนของประเทศ” และร่วมในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ดึงเด็กยากจนเข้าสู่ระบบการศึกษา

น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า โครงการนี้เป็นกิจกรรมต่อเนื่องกับโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน” โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างโอกาสทางการศึกษา และการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ขาดโอกาสทางการศึกษาได้เข้าศึกษาต่อในสายอาชีพ ตามนโยบาย ศธ. ที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ในการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนที่ตกหล่น จากระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานภาคบังคับ ได้เรียนต่อ 100% ซึ่งเป็นการผนึกกำลัง บูรณาการการทำงานภายในร่วมกันของ 4 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย สอศ. สพฐ. สช. และ กศน. ซึ่งรับผิดชอบกำกับดูแลเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กนักเรียนโดยตรง

“โครงการนี้ ทาง สอศ.ได้จัดเตรียมงบประมาณสำหรับปีการศึกษา 2565 ไว้แล้ว โดยสามารถให้การสนับสนุนน้องๆที่สนใจเข้าเรียนทางสายอาชีพในระดับประกาศณียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จำนวน 5,200 คน ในวิทยาลัยการอาชีพ และวิทยาลัยเกษตร จำนวน 87 แห่ง โดยเป็นการเรียนฟรี และมีที่พักมาตรฐานให้พักฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลา3 ปีของการเรียน อีกทั้งยังสนับสนุนให้น้องๆ มีรายได้ผ่านการจัดทำโครงการหารายได้ระหว่างเรียน รวมถึงการหาแหล่งงานให้ทำภายหลังจบการศึกษาอีกด้วย คาดหมายว่าตลอด 10 ปีของโครงการ จะรับได้จำนวน 8 รุ่น จะมีน้องๆที่เข้าร่วมโครงการ ประมาณ 110,000 คน และภายใต้การดูแลของวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศใน 77 จังหวัด รวม169 แห่ง” น.ส.ตรีนุช กล่าว

น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า ในปีการศึกษา 2565 เราจะเปิดทุกสาขาวิชาของระดับ ปวช. ที่สถานศึกษานั้นเปิดทำการสอนโดยจะเน้นให้ความสำคัญในภาคปฏิบัติ ส่วนวิชาสามัญที่เป็นพื้นฐานในการเรียนยังคงมีอยู่ แต่จะบูรณาการเข้ากับการเรียนเนื้อหาทางวิชาชีพ ในทางปฏิบัติ ทาง สอศ.จะประสานกับ สพฐ.เพื่อสำรวจนักเรียนที่กำลังจะจบการศึกษาม.3 ที่มีความประสงค์ในการเรียนต่อทางด้านสายอาชีพ แต่ครอบครัวขาดทรัพย์ที่จะให้การสนับสนุน ซึ่งเป็นเด็กกลุ่มเป้าหมายหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำ และป้องกันเด็กตกหล่นจากระบบการศึกษา ให้เข้ารับการศึกษาสายอาชีพแทน

นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า สอศ.ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายศธ. ภายใต้โครงการ “อาชีวะสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชน เพื่อผลิตกำลังคนของประเทศ” หรือ “อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ” โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ได้คัดเลือกสถานศึกษาที่มีความพร้อมในการรับผู้เรียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 87 แห่ง ทั่วประเทศ โดยสามารถรับปริมาณนักเรียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้จำนวน 5,200 คน ระยะที่ 2 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2566 เพิ่มสถานศึกษาที่มีความพร้อมในการรับผู้เรียนเข้าร่วมโครงการฯ ให้ได้จำนวนรวมทั้งสิ้น 169 แห่ง ทั่วประเทศ โดยสามารถสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชน จำนวนรวมทั้งสิ้น 116,000 คน

“เด็กกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมโครงการ มี 2 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นเด็กที่ตกหล่นจากระบบการศึกษาไปแล้ว คือ จบม.3 แล้วไม่ได้เรียนต่อ ซึ่งตกค้างมาหลายปี จะสามารถเข้ามาเรียนในโครงการนี้ได้ทั้งการศึกษานอกระบบและการศึกษาปกติ และกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่กำลังจะจบ ม.3 ซึ่งจะเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กกลุ่มนี้ตกหล่นจากระบบการศึกษาเนื่องจากวิเคราะห์แล้วพบว่ามีเด็กที่คาดว่าจะตกหล่นจากระบบการศึกษาด้วยสาเหตุหลักคือเรื่องของฐานะทางครอบครัวที่ยากจน และความไม่พร้อมในการศึกษา ถึงแม้จะมีโครงการเรียนฟรี15 ปี แต่ยังมีเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเรียน ทั้งค่าอาหาร ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่นอีก แต่โครงการนี้จะมีทั้งหอพักให้อยู่ฟรี มีอาหารเลี้ยง 3 มื้อ และยังให้เด็กทำงานหารายได้ระหว่างเรียนอีกด้วย “นายสุเทพ กล่าว

นายธีรศักดิ์ อรุณวัชรพันธ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพป่าซาง จ.ลำพูน กล่าวว่า ทางวิทยาลัยการอาชีพป่าซางเน้นบริหารจัดการศึกษา ภายใต้แนวคิด “การอาชีพ…เพื่อชุมชน” ที่ต้องการส่งเสริมให้เด็กที่มีต้นทุนชีวิตไม่มาก ได้มีโอกาสเข้าศึกษาต่อสายอาชีพ ซึ่งผู้เรียนส่วนใหญ่ เป็นชนเผ่าชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น ม้ง อาข่า กะเหรี่ยง จากดอยสูงสู่การเรียนรู้ 7 สาขาวิชาอาชีพ ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในศาสตร์ที่ผู้เรียนมีความสนใจ

สำหรับจำนวน 87 สถานศึกษาที่จะเปิดรับนักเรียนที่จบมัธยมศึกษาตอนต้น ในระยะแรก ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคนิค 1 แห่งวิทยาลัยการอาชีพ 39 แห่ง วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี 47 แห่ง แยกเป็นภูมิภาค ประกอบด้วยภาคเหนือ 26 แห่ง ภาคกลาง 19 แห่ง ภาคใต้ 19 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 แห่งภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานคร 5 แห่ง

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 22 มกราคม 2565