โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ผู้เขียน: pprpadmin

ส.ส.พปชร. กทม. จัดระเบียบทางเท้าสร้างความปลอดภัยการเดินทางให้นักเรียน

,

ส.ส.พปชร. กทม. จัดระเบียบทางเท้าสร้างความปลอดภัยการเดินทางให้นักเรียน

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กษิดิ์เดช ชุติมันต์ พปชร. กทม.” และทีมงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยตลอดเส้นทางบริเวณซอยลาดพร้าว 69 และซอยสังคมสงเคราะห์ 7 , 9 และ 11 อำเภอวังทองหลาง กรุงเทพฯ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านและผู้ปกครอง ว่าได้รับผลกระทบจากการจราจรที่ไม่เป็นระเบียบ เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับผู้ใช้ทางเท้าโดยเฉพาะเด็กนักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา ที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวเดินทางไปและกลับโรงเรียน

ทั้งนี้ จาการลงพื้นที่พบว่ามีการจอดรถไม่เป็นระเบียบ เส้นทางมืดและเปลี่ยว ซึ่ง ส.ส.กษิดิ์เดช มีความเห็นว่าควรมีการจัดระเบียบการจอดรถใหม่ และเพิ่มไฟส่องส่องสว่างในซอยดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง และความปลอดภัยให้กับผู้สัญจรไปมาโดยเฉพาะเด็กนักเรียน ทั้งนี้ จะประสานงานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เข้ามาแก้ไขโดยเร่งด่วน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สร้างการกินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 4 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. กทม. ประสานกฟน. แก้ไขหม้อแปลงไฟฟ้าน้ำมันรั่วซึมหวั่นเกิดอุบัติเหตุ

,

ส.ส.พปชร. กทม. ประสานกฟน. แก้ไขหม้อแปลงไฟฟ้าน้ำมันรั่วซึมหวั่นเกิดอุบัติเหตุ

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ พปชร. กทม.” ประสานการไฟฟ้านครหลวง หลังได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประธานและคณะกรรมการหมู่บ้านสินธรและชาวบ้านในพื้น ว่าหม้อแปลงไฟฟ้าบริเวณปากซอย 9 มีน้ำมันรั่วซึมและไหลออกมา หากปล่อยทิ้งไว้เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับผู้ที่สัญจรและชาวบ้านในพื้นที่ได้

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจพบว่า มีน้ำมันรั่วซึมจากหม้อแปลงไฟฟ้าจริง ซึ่งทางการไฟฟ้านครหลวง โดยท่านเดชา วิริยะเจริญกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง
ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการแก้ไขด้วยการเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้าให้ใหม่ และได้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับชาวบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส
ร้างการกินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 4 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” เดินหน้าปลูกป่าชายเลน 3 แสนไร่ ดึงชุมชน 23 จังหวัด ขับเคลื่อนหนุนคาร์บอนเครดิต

,

“พล.อ.ประวิตร” เดินหน้าปลูกป่าชายเลน 3 แสนไร่ ดึงชุมชน 23 จังหวัด ขับเคลื่อนหนุนคาร์บอนเครดิต

วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ครั้งที่ 2/65 ได้มีการเร่งรัดขับเคลื่อน ยกระดับการแก้ปัญหาการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยพิจารณาเห็นชอบการออกกฎกระทรวง กำหนดพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ในพื้นที่ จ. ตรัง และ จ.พังงา มีสาระสำคัญ เป็นพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์และกำหนดมาตรการคุ้มครอง พันธุ์ไม้ สัตว์ป่า พันธ์พืชหายาก โดยผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาการกัดเซาชายฝั่งทะเล รวมทั้งเห็นชอบการจัดทำแผนที่
ข้อมูลวิชาการของระบบกลุ่มหาดประเทศไทย ปี 65 – 67 นำร่องรวม 11 กลุ่มหาด เพื่อประกอบการตัดสินใจแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

ทั้งนี้ได้ขอให้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ความสำคัญ กับการสร้างความเข้าใจและดึงชุมชนชายฝั่งทะเล เข้ามามีส่วนร่วมปลูกป่าชายเลนร่วมกันในทุกขั้นตอน และต้องให้ชุมชนได้รับประโยชน์ไปพร้อมกันอย่างแท้จริง ทั้งการสร้างงาน สร้างรายได้และการจ้างงานในพื้นที่ โดยเฉพาะให้ดึงสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ร่วมให้ความรู้กับเด็กและเยาวชน รวมท้ังชุมชนไปพร้อมกัน เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรในพื้นที่แบบมีส่วนร่วมที่มุ่งความยั่งยืน

พล.อ.ประวิตร’ ยังได้ย้ำถึงการใช้ประโยชน์ทางทะเล ก็ต้องมีการคืนประโยชน์ให้ทะเลไปพร้อมกัน ซึ่งต้องเร่งอนุรักษ์และฟื้นฟูคู่ขนานกัน โดยยังมีงานสำคัญ ที่ต้องช่วยกันเร่งรัดดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จในหลายเรื่อง โดยเฉพาะ การประกาศพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและชายฝั่ง การแก้ปัญหาขยะทะเลในฐานะผู้นำกลุ่มอาเซียน และการขับเคลื่อนการดำเนินการภายใต้ทศวรรษแห่งมหาสมุทร ที่ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกเป็นที่ตั้ง สำนักงานประสานทศวรรษแห่งมหาสมุทร ซึ่งขอให้ ทส.เร่งรัดผลักดันให้มีความชัดเจน และเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบถึงความคืบหน้าในโครงการปลูกป่าชายเลน เพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ในประเด็น การแบ่งปันผลประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ระหว่าง ผู้พัฒนาโครงการ และ ทช. ในสัดส่วน 90 : 10 โดย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จะแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครึ่งหนึ่ง เพื่อนำไปให้ชุมชนใช้ในกิจกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ โดยมีระยะเวลา 10 ปี ( 66 – 74 ) ในพื้นที่ 23 จว. เนื้อที่ 300,000 ไร่ มุ่งเป้า 6 พื้นที่ โดยเป็นพื้นที่พร้อมปลูกที่ผ่าน การดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ทำนากุ้ง ทำสวนปาล์ม พื้นที่เลนงอก พื้นที่ปรับปรุงสภาพป่าชายเลน รวมท้ังพื้นที่ป่าที่ชุมชนร่วมดูแล

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 4 สิงหาคม 2565

“รมว.ตรีนุช” ร่วมมือรัฐ-เอกชนหนุนเพิ่มศักยภาพอาชีวศึกษา ดันสู่ยุทธศาสตร์ประเทศเร่งพัฒนากำลังคนป้อนตลาดแรงงาน

,

“รมว.ตรีนุช” ร่วมมือรัฐ-เอกชนหนุนเพิ่มศักยภาพอาชีวศึกษา
ดันสู่ยุทธศาสตร์ประเทศเร่งพัฒนากำลังคนป้อนตลาดแรงงาน

วันนี้ (3 สิงหาคม 2565) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพฯ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ.) เพื่อสนับสนุนการจัดการอาชีวศึกษา และขับเคลื่อนศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (CVM) พร้อมมอบโล่ขอบคุณการสนับสนุนการจัดการอาชีวศึกษาให้แก่ อ.กรอ.อศ. 39 กลุ่มอุตสาหกรรม โดยมีผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ, สภาหอการค้าไทย, ผู้บริหารสถานประกอบการ และผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุม

ในฐานะประธาน อ.กรอ.อศ. ชื่นชมและขอบคุณผู้ประกอบการ ทั้ง 39 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ร่วมกันนำนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญและกำหนดให้อาชีวศึกษาเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของประเทศ เพื่อมุ่งพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะสูง ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน และภาคเอกชนถือเป็นพลังหลักสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาตนได้มอบนโยบายให้ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวะทั้งของรัฐและภาคเอกชนทุกแห่ง ขยายความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบทวิภาคี กับทางภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจใหม่ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีเป้าหมายต้องการให้นักเรียนเข้าสู่ระบบการเรียนการสอนในระบบทวิภาคีไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 จากปัจจุบันที่จัดอยู่ประมาณ 15 %

“ การสนับสนุนจากภาคเอกชนที่ต่อเนื่องมาหลายปี ได้ปรากฎผลเกิดสิ่งดีๆ ที่เป็นความสำเร็จต่อระบบเศรษฐกิจไทยในหลายอุตสาหกรรม จึงขอความร่วมมือจากภาคเอกชนสนับสนุนด้านอาชีวศึกษาอย่างเข้มข้น และแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ดิฉันมารับฟังข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน เพื่อนำมาปรับปรุง พัฒนา และต่อยอดความร่วมมือการจัดการอาชีวศึกษาให้ก้าวล้ำทันสมัย ได้บุคลาการมืออาชีพที่ตรงกับความต้องการ ที่ปัจจุบันยังมีช่องว่างกฎ ระเบียบต่างๆอยู่ ซึ่งการหารือในวันนี้จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้ตรงตามเป้าหมาย และปลดล็อกในประเด็นต่างๆ ต่อไป ” นางสาวตรีนุช กล่าว

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน ในวันนี้ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และดิจิทัลคอนเทนต์ ได้เสนอให้มีการจัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคีที่ยืดหยุ่น มีหลักสูตรที่ยืดหยุ่นให้ผู้เรียนอาชีวศึกษาสามารถเรียนจบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ภายใน 4 ปี โดยที่วิชาการและกิจกรรมไม่ลดลง ซึ่งเด็กจะมีอายุ 18 ปี สามารถทำงานในสถานประกอบการได้ ซึ่งขณะนี้เมื่อเด็กเรียนจบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จะมีอายุ 17 ปี ซึ่งไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากอายุไม่ถึงติดกฎหมายแรงงาน เป็นต้น

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 4 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.จ.ชลบุรี มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ศูนย์เด็กกำพร้าบ้านลอเรนโซ่

,

ส.ส.พปชร.จ.ชลบุรี มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ศูนย์เด็กกำพร้าบ้านลอเรนโซ่
พรรคพลังประชารัฐ โดย “นายรณเทพ อนุวัฒน์ พปชร. จ.ชลบุรี” ลงพื้นที่ ต.หน้าพระธาตุ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พร้อมนำสิ่งของเครื่องใช้อุปโภค-บริโภคที่จำเป็น ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง ไข่ไก่ น้ำดื่มสะอาด และหน้ากากอนามัย มอบให้กับสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า บ้านลอเรนโซ่ ชลบุรี โดยมีซิสเตอร์เป็นตัวแทนในการรับมอบในครั้งนี้

การลงพื้นที่มอบสิ่งของในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์ฯ ทุกท่าน ที่เสียสละและอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลเด็กและเยาวชนด้วยดีเสมอมา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยให้กินดีอยู่ดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนปละผู้ด้อยโอกาส เดินหน้าตามนโยบาย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมเปิดการรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป นำไปสู่เป้าหมายในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ที่มา :ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 4 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.จ.พิษณุโลก ลงพื้นที่บรรเทาทุกข์มอบเครื่องอุปโภคบริโภค 4 หมู่บ้าน

,

ส.ส.พปชร.จ.พิษณุโลก ลงพื้นที่บรรเทาทุกข์มอบเครื่องอุปโภคบริโภค 4 หมู่บ้าน

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.อนุชา น้อยวงศ์ พปชร. จ.พิษณุโลก” พร้อมด้วยนายเกษม คำสุกดี ประธานชมรมอสม. อำเภอวังทอง (ผู้ช่วยส.ส.)
นายฉัตรชัย ตันติพลาผล และกลุ่มเพื่อนส.ส. ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียมพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลวังยาง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
เพื่อมอบสิ่งของเครื่องใช้อุปโภค-บริโภคให้กับชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านคลองตะเคียน หมู่ 2 บ้านไทร ดงยั้ง หมู่ 3 บ้านวังดินเหนียว และหมู่ 4 บ้านหนองชาละวัน
เพื่อแบ่งเบาภาระความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ส.ส.อนุชา ยังได้รับฟังปัญหาความทุกข์ร้อนและข้อเสนอแนะจากชาวบ้าน
เพื่อนำมาปรับปรุงและแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น สอดรับกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้กินดีอยู่ดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา
ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 4 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.กทม.ดูสุขอนามัยพ่อค้าแม่มอบหน้ากากฯ-ผ้ากันเปื้อน ลดภาระค่าครองชีพ

,

ส.ส.พปชร.กทม.ดูสุขอนามัยพ่อค้าแม่มอบหน้ากากฯ-ผ้ากันเปื้อน ลดภาระค่าครองชีพ

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ พปชร. กทม.” พร้อมด้วยทีมงาน ลงพื้นที่
ย่านเฉลิมเขตต์ เขตป้อมปราบฯ และย่านตลาดน้อย ฝั่งเจริญกรุง 22 เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ เพื่อนำหน้ากากอนามัยพร้อมชุดกันเปื้อน มามอบให้กับพี่พ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมถึงผู้พักอาศัยในพื้นที่ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ ส.ส.กานต์กนิษฐ์ ยังได้ร่วมพูดคุยเพื่อรับฟังปัญหาความทุกข์ยากและข้อเสนอแนะต่างๆ จากชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อนำมาปรับปรุงและแก้ไข ภายใต้นโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างเศรษฐกิจฐานรากของประชาชนให้อยู่ดีกินดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 4 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. ประสานกรมเจ้าท่าได้เข้าขุดลอกร่องน้ำท่าเทียบเรือบ้านบางดุก ลดอุปสรรคการขนส่งของชุมชน

,

ส.ส.พปชร. ประสานกรมเจ้าท่าได้เข้าขุดลอกร่องน้ำท่าเทียบเรือบ้านบางดุก ลดอุปสรรคการขนส่งของชุมชน

พรรคพลังประชารัฐ นายนัทธี ถิ่นสาคู พปชร. จ.ภูเก็ต พร้อมทีมงานผู้ช่วย ส.ส. ลงพื้นที่บ้านบางดุก ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อเยี่ยมเยียนและพบปะพี่น้องประชาชน พร้อมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและข้อเสนอแนะต่างๆ ของชาวบ้าน ทั้งนี้ ได้แจ้งความคืบหน้าของโครงการขุดลอกร่องน้ำท่าเทียบเรือของชุมชน หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน โต๊ะอิหม่ำ และตัวแทนชาวบ้านเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ได้แจ้งปัญหาความเดือดร้อนในการนำเรือออกจากท่าเพราะร่องน้ำตื้นเขิน ซึ่งได้ขอให้ ส.ส.นัทธี เข้ามาดูแลและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหานี้โดยเร่งด่วน

ทั้งนี้ ส.ส.นัทธี ได้แจ้งว่า ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต และสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 จังหวัดตรัง กรมเจ้าท่า ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามความต้องการของชาวบ้านแล้ว โดยจะดำเนินการขุดลอกในช่วงเดือนธันวาคมนี้ และใช้เวลาดำเนินการประมาณ 4 เดือนจึงแล้วเสร็จ

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 3 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” ไฟเขียวเห็นชอบ 2 โครงการแก้ปัญหาจราจร เดินหน้าพัฒนาพื้นที่สีเขียวเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนทุกมิติ

,

“พล.อ.ประวิตร”ไฟเขียวเห็นชอบ2โครงการแก้ปัญหาจราจร
เดินหน้าพัฒนาพื้นที่สีเขียวเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนทุกมิติ

“พล.อ.ประวิตร” ถกบอร์ดสิ่งแวดล้อม ไฟเขียวอีไอเอโครงการต่อเชื่อมถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 กับสะพานพระราม 8 แก้ปัญหาจราจร-โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว

วันที่ 3 สิงหาคม 2565 ที่ พล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ครั้งที่ 3/2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพิจารณา ด้านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย
1. โครงการต่อเชื่อม ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 กับสะพานพระราม 8 ของสำนักการโยธา กทม. เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด รวมระยะทาง 3.5 ก.ม.
2. โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา-ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ของกรมทางหลวงชนบท เพื่อเพิ่มช่องทางความสะดวกในการสัญจร
ข้ามทะเลสาบสงขลา รวมระยะทาง 7 ก.ม. รองรับการส่งเสริมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในพื้นที่

นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้เห็นชอบ นโยบายการบริหารงานที่สำคัญ คือ (ร่าง) แนวทางปฎิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนการจัดการ “พื้นที่สีเขียว” อย่างยั่งยืน ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566-2570)
ซึ่งประกอบด้วย 4 แนวทาง ได้แก่
1. ให้ทุกภาคส่วนมีจิตสำนึกและหน้าที่ในการจัดการพื้นที่สีเขียว
2. ให้เมืองมีความมั่นคงทางอาหาร สามารถรองรับภัยพิบัติและมีฐานทรัพยากร เพื่อเอื้อต่อการดำรงชีวิตของประชาชน
3. มีเครื่องมือ กลไกเพื่อเอื้อต่อการเพิ่มและการจัดการพื้นที่สีเขียว
4. ให้ตระหนักในภูมิปัญญาท้องถิ่นและส่งเสริมนวัตกรรม เพื่อสร้างพลังทางสังคม

รวมทั้งเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการจัดการ “ขยะ” ของประเทศ ฉบับที่ 2
(พ.ศ. 2565-2570) ประกอบด้วย 3มาตรการ ได้แก่
1. การจัดการขยะที่ต้นทาง
2. การเพิ่มประสิทธิภาพระบบกำจัดขยะ
และ 3. การพัฒนาเครื่องมือ การบริหารจัดการขยะ

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้กระทรวงทรัพย์ฯ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามโครงการที่ยังดำเนินการล่าช้าและกำกับขับเคลื่อนโครงการที่ผ่านความเห็นชอบแล้ว ให้เป็นไปตามมาตรการฯในรายงาน EIA อย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมของประเทศ และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสุขอนามัยของประชาชนอย่างทั่วถึงและยั่งยืน พร้อมทั้งต้องสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้ทราบเพื่อให้การดำเนินงานมีความเข้าใจและเกิดประโยชน์ร่วมกันต่อไป


ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 3 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.ช่วยเหลือประชาชน แนะการลงทะเบียนรับสิทธิทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในพื้นที่จ.สุโขทัย

,

ส.ส.พปชร.ช่วยเหลือประชาชน แนะการลงทะเบียนรับสิทธิทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในพื้นที่จ.สุโขทัย

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ พปชร. จ.สุโขทัย” ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตลาดนัดบ้านสวน และตลาดนัดต่างๆ เพื่อแนะแนวและทำความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งนี้ ส.ส.พรรณสิริ
ได้ทำความเข้าใจเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร จะต้องชาวไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป มีรายได้ต่อคนไม่เกิน 1 แสนบาท มีทรัพย์สิน เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เกินกำหนด กรณีเป็นเจ้าของบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา หรือห้องชุดไม่เกิน 35 ตารางเมตร ที่ดินเพื่อการเกษตรไม่เกิน 10 ไร่ ที่ดินทั่วไปไม่เกิน 1 ไร่ ไม่มีบัตรเครดิต ไม่มีเงินกู้เกินที่กำหนด เช่น กู้สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และวงเงินกู้รถยนต์ไม่เกิน 1 ล้านบาท

“มีประชาชนในพื้นที่รับฟังและให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐต่างๆ เป็นนโยบายของ พปชร.ในการผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในกลุ่มเปาะบาง และมีผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงสิทธิที่รัฐจัดหาให้”

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน


ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 2 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. ลงพื้นที่ซ่อมแซมผิวถนน ลดปัญหาอุบัติเหตุเพิ่มความสะดวกให้ประชาชน

,

ส.ส.พปชร. ลงพื้นที่ซ่อมแซมผิวถนน ลดปัญหาอุบัติเหตุเพิ่มความสะดวกให้ประชาชน

พรรคพลังประชารัฐ โดย “นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ พปชร. จ.ชัยภูมิ” พร้อมด้วยทีมงานและคณะทำงาน ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในช่วงวันหยุดยาวในพื้นที่ต่างๆ อาทิ ตำบลละหาน ตำบลหนองบัวโคก ตำบลหนองโดน จ.ชัยภูมิ เพื่อซ่อมแซมผิวถนนที่ชำรุดทรุดโทรมจากอายุการใช้งานที่ยาวนาน กระทบต่อการสัญจรไปมาและเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ส.ส.เชิงชาย ได้แก้ไขปัญหาเบื้องต้น โดยนำยางมะตอยมาเททับผิวถนนเพื่อปรับสภาพผิวถนนที่ชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ ให้กลับมามีสภาพที่ใช้งานงานได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ที่สละเวลาส่วนตัวมาช่วยเหลือจนงานสำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการร่วมแรงร่วมใจ มีอะไรก็เอามาช่วยกัน ทั้งรถไถ รถพ่วง รถบรรทุก ส่งข้าว ส่งปลา ส่งน้ำ และอาหารต่างๆ

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 2 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”ลงนครพนมสกัดเส้นทางค้ายาเสพติด มอบสิทธิ์ที่ดินทำกินสร้างรายได้ยั่งยืนให้ปชช.

“พล.อ.ประวิตร”ลงนครพนม สกัดเส้นทางค้ายาเสพติด มอบสิทธิ์ที่ดินทำกิน

,

เมื่อ 1 ส.ค.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ลงพื้นที่ไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ จ.นครพนม พร้อมด้วยพล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหารเพื่อติดตามการป้องกันและปราบปรามการแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล(คทช.) โดยมีนาย ชาญชัย คงทัน รอง ผวจ.นครพนม ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ด้านการป้องกันและแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติด จ.นครพนม ร่วมกับจังหวัดอื่นๆรวม 7จังหวัด ตามแนวชายแดนในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งจากนโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำหนดให้การแก้ปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ

ที่ผ่านมาจากการจับกุม และกดดันผู้ค้ายาเสพติด จากเจ้าหน้าที่ พื้นที่ภาคเหนือมีมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา การลำเลียงลักลอบยาเสพติด มีแนวโน้มมาทางภาคอีสานในเส้นทางต่างๆ มากขึ้น ดังนั้น จ.นครพนมจึงได้กำหนดแผนปฎิบัติการ ชื่อว่า”ยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง” เพื่อบูรณาการหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองให้มีแนวทางไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ แม้ในห้วงที่ผ่านมา จะมีการจับกุมยาเสพติดได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีช่องทางการลักลอบ จากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในประเทศไทย หลากหลายวิธี เช่นกัน

พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบาย โดยกำหนดมาตรการรับมือป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยอาศัยความร่วมมือร่วมใจ จากทุกภาคส่วน ของจังหวัด ซึ่งจ.นครพนมเป็นพื้นที่ที่ประสบผลสำเร็จ อย่างน่าพอใจในการปราบปราม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่จังหวัดอื่นๆได้ด้วย โดยได้มอบนโยบายให้กับ จังหวัด ,อำเภอ ,ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ติดชายแดนภาคอีสาน โดยเน้นย้ำ และกำชับให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ทำความเข้าใจประมวลกฎหมายยาเสพติด อย่างจริงจัง และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้อง ทุ่มเท เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต ไม่รับผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น หากฝ่าฝืนจะต้องถูกลงโทษ อย่างเด็ดขาด พร้อมยินดีรับฟังหากมีข้อมูลหรือเบาะแส ยาเสพติดจากแหล่งต่างๆรวมทั้งฝ่ายการเมืองในพื้นที่ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาต่อไป

สำหรับมาตรการป้องกันจะต้องสร้างการตระหนักรู้ให้คนไทย ประชาคมโลกเห็นถึงผลร้าย และโทษของยาเสพติด ส่วนมาตรการบำบัดรักษาจะต้องนำผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ฟื้นฟู ตามประมวลกฏหมายยาเสพติด พร้อมทั้งให้ผู้ผ่านการบำบัด ฟื้นฟู มีการอบรม ทักษะ ความรู้ในอาชีพโดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรฯ กล่าวย้ำว่า ผู้ติดยาเสพติด คือ ผู้ป่วย ที่ต้องได้รับการดูแล บำบัดรักษา และฟื้นฟู ให้กลับคืนสู่สังคม อย่างดีที่สุด

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เป็นประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้กับ รอง ผวจ. นครพนม จำนวน 3แห่ง และมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ให้กับผู้แทนประชาชน จำนวน 5คน โดยมีตัวแทนกลุ่มประชาชนได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประวิตร และรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน ซึ่งตนและชาวบ้านเคยได้รับความเดือดร้อนในการดำรงชีพ ที่มีความเหลื่อมล้ำ และเพิ่งจะได้รับสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย จากรัฐบาลปัจจุบันในวันนี้ ซึ่งในภาพรวม จ.นครพนม มีเนื้อที่เป้าหมายจัดที่ทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 6พื้นที่ เนื้อที่รวม 106,907-2-33 ไร่ ดำเนินการอนุมัติแล้ว 4พื้นที่ เนื้อที่ 55,185-3-31ไร่ มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์แล้ว 4,684 ราย

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ที่ทำกินในชุมชน พร้อมกำชับ คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดิน จ.นครพนม ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ไฟฟ้า ประปา และเส้นทางคมนาคม พร้อมเร่งดำเนินการส่งเสริมอาชีพ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ โดยใช้แนวทางสหกรณ์ จากนั้นได้พบปะพี่น้องประชาชนที่มาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก พร้อมอวยพรขอให้ประชาชนปลอดภัยจากโควิด-19 และมีความอยู่ดีกินดี มีความสุขกันทุกคน“พล.อ.ประวิตร”ลงนครพนมสกัดเส้นทางค้ายาเสพติด มอบสิทธิ์ที่ดินทำกินสร้างรายได้ยั่งยืนให้ปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงนครพนมสกัดเส้นทางค้ายาเสพติด มอบสิทธิ์ที่ดินทำกินสร้างรายได้ยั่งยืนให้ปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงนครพนมสกัดเส้นทางค้ายาเสพติด มอบสิทธิ์ที่ดินทำกินสร้างรายได้ยั่งยืนให้ปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงนครพนมสกัดเส้นทางค้ายาเสพติด มอบสิทธิ์ที่ดินทำกินสร้างรายได้ยั่งยืนให้ปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงนครพนมสกัดเส้นทางค้ายาเสพติด มอบสิทธิ์ที่ดินทำกินสร้างรายได้ยั่งยืนให้ปชช.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 สิงหาคม 2565