โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ปี: 2024

“สส.สุธรรม”ขอบคุณ“รมช.อรรถกร”ลงพื้นที่ นครศรีฯ ผลักดันโครงการเร่งด่วน เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ํา แก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม อย่างยั่งยืน

,

“สส.สุธรรม”ขอบคุณ“รมช.อรรถกร”ลงพื้นที่ นครศรีฯ ผลักดันโครงการเร่งด่วน เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ํา แก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม อย่างยั่งยืน

นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนขอเป็นตัวแทนชาวนครศรีธรรมราช ขอบคุณนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อนำไปสู่การแก้ไข ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ท่านให้ความสำคัญกับจังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่อำเภอทุ่งสงที่เป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ทำให้พี่น้องเกษตรกรและชาวบ้านได้รับผลกระทบ

”กระทรวงเกษตรฯที่นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้มุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร โดยได้เร่งผลักดันโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน รวมถึงเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุน เพื่อเป็นแหล่งเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เพื่อให้พี่น้องประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ได้ใช้ประโยชน์จากการเก็บกักน้ำ สามารถใช้น้ำได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและปัญหาอุทกภัย“นายสุธรรม กล่าว

นายสุธรรม กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรฯยังได้เสนอแผนโครงการเร่งด่วนในพื้นที่อำเภอทุ่งสง 3 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการทำนบดินบนบ้านบนควน ตำบลที่วัง เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับการเกษตร และอุปโภคบริโภค 2) ประตูระบายนํ้าวัดวังขรี ตําบลนาไม้ไผ่ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ําในช่วงน้ําหลาก และ 3) เพิ่มประสิทธิภาพการระบายนํ้าวัดคงคาเจริญ ตําบลหนองหงส์ ป้องกันน้ําท่วมในพื้นที่การเกษตร 50 ไร่ อีกด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

“พล.อ.ประวิตร”ยกหูหา“โค้ชเช”ขอบคุณที่ทำให้คนไทยมีความสุข ฝากอวยพรวันเกิด“น้องเทนนิส”ขอให้มีความสุข สมหวัง ทุกเรื่อง

,

“พล.อ.ประวิตร”ยกหูหา“โค้ชเช”ขอบคุณที่ทำให้คนไทยมีความสุข ฝากอวยพรวันเกิด“น้องเทนนิส”ขอให้มีความสุข สมหวัง ทุกเรื่อง

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังนายชัชชัย เช หรือโค้ชเช หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย โดยขอ เป็นตัวแทนของคนไทยขอบคุณและแสดงความยินดีกับ เรืออากาศโทพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือน้องเทนนิส โค้ชเช และสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่สามารถคว้าเหรียญทองเทควันโด ประเภทหญิงเดี่ยวรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม ให้กับประเทศไทย และยังเป็นการป้องกันแชมป์ได้อีกหนึ่งสมัยด้วย

โดยพลเอกประวิตร ได้ฝากสุขสันต์วันเกิดน้องเทนนิส และขอให้มีความสุข สมหวังทุกประการ และขอต้อนรับการเดินทางกลับประเทศไทย ด้วยความชื่นชมยินดีและภาคภูมิใจที่ทีมเทควันโดได้สร้างความสุขให้กับประชาชนคนไทย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

“รมช.อรรถกร”ตอบกระทู้“สส.จักรัตน์”อ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ เตรียมก่อสร้างได้ในปี 70 มั่นใจช่วยเกษตรกรเก็บกักน้ำเพิ่มได้กว่า 9,700 ไร่“ลั่น กระทรวงเกษตรพร้อมทำทุกทางเพื่อแก้ปัญหาน้ำให้ชาวหล่มสัก

,

“รมช.อรรถกร”ตอบกระทู้“สส.จักรัตน์”อ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ เตรียมก่อสร้างได้ในปี 70 มั่นใจช่วยเกษตรกรเก็บกักน้ำเพิ่มได้กว่า 9,700 ไร่“ลั่น กระทรวงเกษตรพร้อมทำทุกทางเพื่อแก้ปัญหาน้ำให้ชาวหล่มสัก

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่8 ส.ค. นายจักรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่รัฐมนตรีติดภารกิจสำคัญ จึงมอบหมายให้ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน

โดยนายจักรัตน์ กล่าวว่า ตนทราบข้อมูลมาว่าประเทศไทยจะพบจะเกิดปรากฏการณ์ลานีญา ก็คือจะมีฝนตกมากกว่าปกติ พื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีแม่น้ำสำคัญ เปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ของคนเพชรบูรณ์ก็คือ แม่น้ำป่าสัก จากเหนือสุดของจังหวัดก็คือที่อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก ไล่ลงมาถึงใต้สุดของจังหวัดก็คือ อำเภอศรีเทพ ความยาวของแม่น้ำป่าสัก ประมาณ 280 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ทางต้นน้ำ อำเภอหล่มสัก เกิดอุทกภัยทุกๆปี ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะจากแม่น้ำป่าสัก ไม่มีอ่างเก็บน้ำที่ต้นน้ำเลย ก็คือ ไม่มีอ่างที่จะคอยชะลอน้ำ หรือว่าตัดยอดน้ำทางจังหวัด และกรมชลประทานมีความเห็นตรงกันก็คือ ต้องสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ ก็อยู่ในโครงการพระราชดำริด้วย

“ผมอยากทราบความก้าวหน้าของโครงการอ่างเก็บน้ำสะดวงใหญ่ เพราะในปี 2562 ได้รับเงินศึกษาสิ่งแวดล้อมไปแล้ว แต่จนถึงปี 2567 ก็ยังไม่ผ่านประเมินสิ่งแวดล้อม จึงอยากถามว่า ความก้าวหน้าเป็นอย่างไร และปัญหาความล่าช้าเกิดจากอะไร รวมถึงจะตั้งงบประมาณก่อสร้างอ่างเก็บน้ำสะดวงใหญ่ได้ ในปีไหน

นอกจากนี้ นายจักรัตน์ ยังถามถึงโครงการแนวทางผันน้ำเลี่ยงเมืองหล่มสัก ที่จะช่วยไม่ให้เกิดอุทกภัยในเขตพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอหล่มสักก็คือการทำบายพาสน้ำ เพื่อลดมวลน้ำที่จะไหลเข้าเมืองให้ไหลอ้อมเมืองออกไปลงที่แม่น้ำป่าสัก ในจุดที่ไกลเมืองออก ซึ่งทราบว่าทางกรมชลประทานได้ของบศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปแล้ว แต่ก็ยังได้รับเงินงบประมาณ จึงอยากทราบว่า เมื่อไหร่จะได้เงินงบประมาณในการศึกษาแผนงานนี้

ด้าน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตอบกระทู้ของ สส.จักรัตน์ว่า เบื้องต้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนในเขตอำเภอหล่มสัก ทางกรมชลประทาน ก็พยายามที่จะดำเนินการในการแก้ไขปัญหาไปหลายเรื่อง โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งการแก้ไขปัญหาในเรื่องของน้ำแล้ง น้ำท่วมในเขตอำเภอหล่มสักยังมีอีกหลายจุด ที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน และทางกรมชลประทานก็ทราบดี และเป็นเป้าหมายที่ทางกรมชลประทานมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการต่อ

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ ที่อำเภอหล่มสัก เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งกรมชลประทานนั้นได้ให้ความสำคัญกับโครงการตามพระราชดำริอยู่แล้ว ซึ่งโครงการนี้หากสร้างเสร็จจะสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำได้ประมาณ 13.75,000,000 ลูกบาศก์เมตร โดยอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่จะอยู่ขึ้นอยู่ทางเหนือของอำเภอหล่มสัก อยู่ตอนบนของอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่นที่เรามีโอกาสได้ลงพื้นที่ไปในคราวก่อน ซึ่งความคืบหน้าของโครงการนั้นได้รับการผ่านการตรวจสอบ EIA และจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการในการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ และทางกรมชลประทานมีความเชื่อว่า ภายในเดือนนี้ รายงานฉบับนี้ก็จะผ่าน จากนั้นเราก็จะเร่งทำการสำรวจเพื่อที่จะวางแผนในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่

”คาดว่าเราจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ใน 2570 โดยทางกรมชลประทานคาดการณ์ว่า จะต้องใช้เงินงบประมาณถึง 975 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 4 ปีแล้วเสร็จในปี 73 ซึ่งเราเชื่อว่าจะมีพื้นที่พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรจะได้รับประโยชน์กับการที่เราจะเก็บกักน้ำเพิ่มได้ประมาณ 9700 ไร่“นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า วานนี้ ร.อ.ธรรมนัส ,ปลัดกระทรวงเกษตรฯ พร้อมด้วยตน ได้เดินทางไปร่วมประชุมและสัมมนาที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และก็มีการได้ร่วมสัมมนาพูดคุยกับทางผู้บริหารของสำนักงาน กปร.ด้วย ซึ่งบทความสนทนา เมื่อวานก็คือการที่กระทรวงเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมารวมกัน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการไปแล้ว 4900 โครงการจาก 5000 กว่าโครงการ ก็สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งให้กับพี่น้องประชาชนในทั่วภูมิภาคได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่

ในเขตพื้นที่ในอำเภอเมืองในเขตเทศบาลเมืองของพี่น้องชาวอำเภอหล่มสัก ก็มีปัญหาในเรื่องของน้ำเอ่อล้นทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนได้รับความเดือดร้อน กระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะกรมชลประทานเราได้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำเอ่อล้นในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักเป็น 2 รูปแบบ ซึ่งแบบแรกอาจจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร คือการก่อสร้างอ่างเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะกักเก็บน้ำที่จะไหลลงไปเอ่อล้นในเขตชุมชนของเทศบาลเมืองหล่มสัก โดยทางสำนักงานบริหารโครงการชลประทาน มีแผนการที่จะดำเนินการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลเมืองหล่มสัก หลายโครงการยกตัวอย่างเช่น อ่างเก็บน้ำห้วยหินโง่น อ่างเก็บน้ำห้วยผักกูด โครงการต่าง ๆ ทางกรมชลประทานวางแผนว่าจะลงมือทำในอนาคตอันใกล้นี้

ในส่วนของแนวทางที่ 2 น่าจะรวดเร็วกว่า โดยกรมชลประทานกำลังพิจารณาที่จะขยายความกว้างของคลองส่งน้ำสายใหม่ ฝั่งซ้ายของแม่น้ำป่าสัก โดยเรามีการสำรวจพื้นที่แล้ว และมีแผนที่จะขยายคลองเพิ่มให้เป็นความกว้างประมาณ 40 เมตรกรมชลประทานจะใส่แผนในการสำรวจศึกษาออกแบบในปี 69 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะแบ่งเบาภาระการผันน้ำที่แม่น้ำป่าสักได้ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งนอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระในการผันน้ำแล้ว การขยายก็หมายความว่า จะเป็นการเพิ่มความจุเก็บกักน้ำไปในตัวด้วย

“ไม่ว่าจะเป็นแนวทางที่หนึ่งในการสร้างอ่างเก็บน้ำหลาย ๆ อ่างเก็บน้ำเพิ่ม บริเวณเหนืออำเภอหล่มสัก หรือว่าแนวทางที่ 2 ในการที่จะขยายคลอง เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระการผันน้ำ ผมเชื่อว่า ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาไม่ว่าโครงการไหนที่สามารถดำเนินการได้ก่อน เรายินดีที่จะดำเนินการก่อน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ ความพร้อมของเจ้าหน้าที่ รวมถึงทำความเข้าใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และที่สำคัญเราจะออกแบบสำรวจให้เสร็จรวดเร็วที่สุด“

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางกรมชลประทานได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการที่จะทำช่องลัดน้ำ ซึ่งภูมิประเทศตรงนั้น แม่น้ำป่าสักมีลักษณะเป็นตัวซี มีฝายอยู่ด้านบน ถ้าเราจะไปทำการปรับปรุงจะต้องผ่านกระบวนการในการที่จะรับฟังความคิดเห็นในเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะใช้เวลานาน จึงได้พูดคุยกับทางกรมชลประทานให้แยกทำเป็น 2 มิติ คือการปรับปรุงฝายทั้งด้านบนและด้านล่างของแม่น้ำสายนี้ก็ทำไป อีกส่วนหนึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องทำช่องลัดน้ำซึ่งจะแยกกับฝายทั้งสองตัวที่เราตั้งใจจะทำ พอเราทำทางลัดน้ำ ก็ไม่ต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ ไม่ต้องผ่านขอความเห็นในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพราะว่าเราไม่ได้ไปทำเพิ่มในแหล่งน้ำ แต่เราใช้พื้นที่ ๆ เป็นที่ดินในการขุดทางลัดขึ้นมาเพิ่ม ดังนั้น การระบายน้ำหรือว่า การเดินทางของน้ำในพื้นที่บริเวณหมู่บ้านคลองสีฟันจะสามารถระบายน้ำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยทางกรมชลประทานได้วางแผนที่จะทำการศึกษาออกแบบให้แล้วเสร็จในปี 68 ใช้เวลาไม่นาน และจะเข้าแผนในปี 69 ซึ่งถ้าเราสามารถทำโครงการนี้สำเร็จลุล่วง จะสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรได้ไม่ต่ำกว่า 4000 ไร่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567

“สส.รัชนี”ขอ ”รมว.ธรรมนัส“เร่งรัดงบก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 2 จุดใน จ.ร้อยเอ็ด เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน และขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง

,

“สส.รัชนี”ขอ ”รมว.ธรรมนัส“เร่งรัดงบก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 2 จุดใน จ.ร้อยเอ็ด เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน และขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง

นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน และขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง
โดยในพื้นที่เขตเลือกตั้งของตน มีลำน้ำสายหลักที่ไหลผ่านคือ ลำน้ำยัง และลำห้วยแดง ซึ่งลำน้ำยังนั้นมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาภูพานน้อย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งในฤดูฝน จะมีน้ำจำนวนเยอะมาก ทำให้เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และไร่นาสวนของเกษตรกรได้รับความเสียหายมากเป็นประจำทุกปี

นางรัชนี กล่าวต่อว่า แต่หลังการเก็บเกี่ยว และช่วงฤดูแล้ง พี่น้องประชาชนและเกษตรกร ก็มีความต้องการน้ำจากลำห้วย เพื่อปลูกข้าวโพด,มันสำปะหลัง,อ้อย,ผักสวนครัว และพืชผลต่างๆ เลี้ยงสัตว์ รวมถึงการประมง จึงมีความประสงค์ที่จะให้กรมชลประทานก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ที่จุดวังหิน บ้านกุดแห่ ตำบลหนองใหญ่ อำเภอโนนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด และก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า จากลำห้วยแดง จุดบ้านหนองโน ตำบลชมสะอาด อำเภอ เมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่ง 2 จุดนี้ ทางชลประทานได้สำรวจความเหมาะสมและประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับ
เรียบร้อยแล้ว แต่ยังขาดงบประมาณในการดำเนินการ

“ดิฉันจึงขอหารือท่านประธาน ผ่านไปยังรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีความเข้าใจ และใส่ใจปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและเกษตรกรเป็นหลักอยู่แล้ว เพื่อให้เร่งรัดจัดสรรงบประมาณดำเนินการเป็นกรณีเร่งด่วน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567

“สส.องอาจ”ห่วงชาวสระบุรี ช่วงฤดูน้ำหลาก ขอ กรมชลประทาน เร่งรัดทำประตูน้ำ บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานเริงราง

,

“สส.องอาจ”ห่วงชาวสระบุรี ช่วงฤดูน้ำหลาก ขอ กรมชลประทาน เร่งรัดทำประตูน้ำ บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานเริงราง

นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ก่อนอื่นตนขอขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมชลประทาน ที่ได้จัดสรรงบประมาณซ่อมคันผนังกั้นน้ำ คลองสาขา ชัยนาท ป่าสัก บริเวณประตูน้ำ เริงราง อำเภอบ้านหมอ ซึ่งผนังกั้นน้ำพังจากน้ำท่วมเมื่อปี 64 จนทำให้น้ำท่วมทะลัก สร้างความเสียหายเดือดร้อนให้กับพี่น้องทั้ง 3 อำเภอ ก็ต้องกราบขอบพระคุณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ช่วยดูแลเป็นอย่างดี

นายองอาจ กล่าวต่อว่า วันนี้กำลังเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก ตนเป็นห่วงจังหวัดสระบุรี เพราะเป็นพื้นที่หลุมต่ำ เพื่อให้การจัดการน้ำมีประสิทธิภาพ ทั้งฤดูน้ำหลากและฤดูแล้ง จึงขอให้กรมชลประทาน ช่วยเร่งรัดปรับปรุงทำประตูน้ำปากคลองส่งน้ำ 23 ขวา บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานเริงราง ถ้าเกิดทำได้สำเร็จก็จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการบริการจัดการน้ำให้ชาวนาชาวไร่ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านหมอ อำเภอหนองโดน อำเภอดอนพุด จะได้ประโยชน์อย่างยิ่ง

นายองอาจ ระบุด้วยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชน อำเภอเสาไห้ หมู่ 2 ท่าช้าง หมู่ 1 หมู่ 5 ศาลารีไทย ที่อาศัยติดริมตลิ่ง ตามแนวแม่น้ำป่าสัก เดือดร้อนอย่างหนัก มวลน้ำจำนวนมหาศาลกัดเซาะตลิ่งพังตลอดแนวยาว บ้านเรือนเสียหายหลายหลังคาเรือน เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ล่าสุด กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้กรุณาจัดงบก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสักให้แล้ว แต่ได้บางหมู่ ได้แก่ หมู่ 2 ตำบลท่าช้าง แต่หมู่ 1 หมู่ 5 ตำบลศาลารีไทย ยังไม่ได้รับการดูแลแก้ไข ซึ่งตอนนี้รอไม่ได้แล้ว เพราะน้ำกัดเซาะตลิ่ง ตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยเวลาและกระแสน้ำไม่เคยคอยใคร จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องขอเขื่อน ป้องกันบริเวณนี้โดยด่วน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567

“สส.อามินทร์“ย้ำ พปชร.เปิดกว้างพร้อมร่วมงานกับทุกคน หากมีแนวทางเดียวกัน แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้อ

,

“สส.อามินทร์“ย้ำ พปชร.เปิดกว้างพร้อมร่วมงานกับทุกคน หากมีแนวทางเดียวกัน แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้อ

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะทีมโฆษกพรรรคให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ระบุว่า ที่มีผู้ช่วยของรัฐมนตรีกระทรวงปล่อยน้ำ มาทาบทามเข้าพรรคที่กำลังตั้งขึ้นใหม่ โดยเสนอจะให้เงินทำพื้นที่ 20-30 ล้านบาทว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือเป็นเพียงการสร้างมูลค่าให้กับตัวเอง ซึ่งการกล่าวพาดพิงว่า รัฐมนตรีกระทรวงปล่อยน้ำ ก็ค่อนข้างระบุชัดเจน เพราะกระทรวงที่ปล่อยน้ำก็มีอยู่ไม่กี่กระทรวง ทั้งนี้หากมีอุบัติเหตุทางการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคก้าวไกลจริง ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เราไม่เคยปิดกั้นการทำงานร่วมกับ สส.จากพรรคการเมืองอื่น ๆ

“การทำพรรคการเมืองนั้น สิ่งสำคัญคือต้องมีแนวทางการทำงานเดียวกัน และขอย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐ เราไม่มีนโยบายในการใช้เงินในการซื้อตัว สส.หรือช้อนซื้องูเห่าอย่างที่เป็นกระแสข่าวแน่นอน ของเพียงแค่มีใจก็มาร่วมงานกันได้”นายอามินทร์ กล่าว

นายอามินทร์ กล่าวต่อว่า ตนยังเชื่อว่า ถ้ามีคนติดต่อไปอย่างที่ถูกกล่าวอ้างจริงก็คงเป็นคนนอก ไม่ใช่คนในสภา เนื่องจากผู้ที่ออกมาเปิดเผยก็เป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน คุณสมบัติกับตำแหน่งที่ได้รับยังคลุมเครือ ไม่รู้ว่าเรื่องเกณฑ์ทหารจะไปจบอย่างไร ดังนั้น จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะพรรคพลังประชารัฐ ไม่อยากให้คนที่มีปัญหาเข้ามาทำให้พรรคของเรามีปัญหาอีก

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567

“สส.ไผ่ ลิกค์” ร่วมผู้ว่ากำแพงเพชร เปิดศึกมวยไทยอาชีพเมืองชากังราว “MR.FIGHT ON TOUR ” สร้างนักมวยไทยหน้าใหม่เข้าวงการศิลปการต่อสู้ “รมว.เสริมศักดิ์” หนุนจังหวัดกระตุ้นการท่องเที่ยวและกีฬา

,

“สส.ไผ่ ลิกค์” ร่วมผู้ว่ากำแพงเพชร เปิดศึกมวยไทยอาชีพเมืองชากังราว “MR.FIGHT ON TOUR ” สร้างนักมวยไทยหน้าใหม่เข้าวงการศิลปการต่อสู้ “รมว.เสริมศักดิ์” หนุนจังหวัดกระตุ้นการท่องเที่ยวและกีฬา

นายไผ่ ลิกค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.กำแพงเพชร เขต 1 ร่วมกับ นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการ จ.กำแพงเพชร ในการจัดการแข่งขันมวยไทยอาชีพ “ศึกคนแกร่งมวยไทยเมืองชากังราว” และการแข่งขัน MR.FIGHT ON TOUR ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะช่วยสร้างการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จ.กำแพงเพชร และจังหวัดใกล้เคียงมีส่วนร่วมในการสร้างกิจกรรมของจังหวัด ด้านการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมเยาวชนให้หันมาสนใจกีฬามวยมากยิ่งขึ้น ที่สามารถต่อยอดไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ สร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งสอดรับกับนโบบ่ยของพรรคที่มุ่งการสร้างความกินดีอยู่ดีให้พี่น้องประชาชน

“ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของเยาวชนในจังหวีดกำแพงเพชร ที่มีฝีไม้ลายมือในศิลปะมวยไทย ไม่แพ้เยาวชนในจังหวัดอื่นๆ จึงได้ประวานขอความร่วมมือไปยังกระทรวงการเที่ยวและกีฬา ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้ได้นีบการตอบรับและให้การสับสนุนเป็นอย่างดี ผมขอขอบคุณ“ท่านเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญและจัดสรรงบประมาณในการจัดงานมายังจ.กำแพงเพชร ในการที่ส่งเสริมและสนับสนุนด้านกีฬามวย ในครั้งนี้”

นายไผ่กล่าวอีกว่า การจัดการแข่งขัน “ศึกคนแกร่งมวยไทยเมืองชากังราว” และการแข่งขัน MR.FIGHT ON TOUR จะเกิดขึ้น โดยประชาชนสามารถเข้าชมได้ในระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม 2567 เวลา 18.00 น ณ เวทีมวยชั่วคราว หน้าลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิริจิตอุทยาน อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567

“พล.อ.ประวิตร“เบิกบานต้อนรับ คนพปชร.ร่วมใจเป็นหนึ่งอวยพรวันเกิด ฝากผู้บริหาร สมาชิกทุกคนยืนหยัดสามัคคีช่วยกันสร้างพรรคเข้มแข็ง

,

“พล.อ.ประวิตร“เบิกบานต้อนรับ คนพปชร.ร่วมใจเป็นหนึ่งอวยพรวันเกิด ฝากผู้บริหาร สมาชิกทุกคนยืนหยัดสามัคคีช่วยกันสร้างพรรคเข้มแข็ง

8 สิงหาคม 2567 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร. ) โดยกรรมการบริหารพรรค กรรมการยุทธศาสตร์พรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่มีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ,นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและรองหัวหน้าพรรค,นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ และนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ น.ส. ตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค ,พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรค และนายทะเบียนพรรค นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญอ นายอุตตม สาวนายน ประธานกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ,นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานกรรมการด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ และ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานยุทธศาสตร์ด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย สส.ครบ ทุกเขต 39 คน,เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค อย่างพร้อมเพรียง ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 11 สิงหาคม 2488 ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ทั้งนี้บรรยากาศ เต็มไปด้วยความอบอุ่นและสามัคคี ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ยิ้มแย้มแจ่มใจ ทักทายและพูดคุยกับผู้บริหาร และสส.ทุกคนอย่างใกล้ชิด และเป็นกันเอง ท่ามกลางสมาชิกพรรคที่ทยอยเดินทางมาอวยพรกันอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้นายสันติ เป็นตัวแทนกล่าวคำอวยพร เนื่องในวันคล้ายวันเกิดพล.อ.ประวิตร กล่าวว่าพวกเรากรรมการบริหารพรรค และสส. พร้อมใจกัน มาอวยพรขอให้ท่านหัวหน้า มีสุขภาพดี แข็งแรง คิดสิ่งใด ขอให้สมปรารถนาทุกประการ พร้อมทำงานเป็นปึกแผ่น ภายใต้การนำของหัวหน้า ด้วยความเคารพรักของท่านหัวหน้า และได้มอบแจกันดอกไม้แทนใจของคนพรรคพปชร. จากนั้นเลขาธิการพรรค ได้อวยพร และมอบพวงมาลัยดอกมะลิ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวกับ“ สมาชิกพรรคพปชร.ที่มาอวยพร ในวันนี้ว่า ต้องขอบคุณทุกคนมาก ผมปีนี้ 80 ปีแล้ว พยายามทำพรรคให้ดี มีความเข้มแข็งต่อไป ซึ่งก็เป็นผลมาจากพวกเราทุกคนที่เข้ามาช่วยกัน และอยู่ร่วมกันช่วยเหลือพรรคกันต่อไป ขอบคุณมากครับ“

นอกจากนี้ยังมีบรรดาแกนนำพรรคการเมืองอื่นๆ เข้าร่วมอวยพร อาทิ นาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ผู้บริหารด้านกีฬา ผู้บริหารภาคเอกชน เข้าร่วมอวยพรกันอย่างคับคั่ง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567

“บุณณดา”เผยครือข่าย ทสม. ปลื้ม “บิ๊กป๊อด” ปลุกพลังดูแลธรรมชาติ

,

“บุณณดา”เผยครือข่าย ทสม. ปลื้ม “บิ๊กป๊อด” ปลุกพลังดูแลธรรมชาติ

น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ โฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฝ่ายการเมือง)เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในการประชุมรับมอบนโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) และภาคีเครือข่ายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยมีประธานและผู้แทนเครือข่าย ทสม. ระดับจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมรับฟังนโยบาย ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และผ่านระบบออนไลน์ รวมกว่า 1,000 คน

น.ส.บุณณดา กล่าวต่อว่า ภายในงานได้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมสู่แผนการปรับตัวเชิงพื้นที่ของเครือข่าย ทสม. พร้อมกิจกรรมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ในการดำเนินกิจกรรม ทสม. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดทำแผนยุทธศาสตร์เครือข่าย ทสม. เชิงพื้นที่ 6 กลุ่มจังหวัด

“พล.ต.อ.พัชรวาท ได้กล่าวกับพี่น้องเครือข่าย ทสม. ว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หากจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์ จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะภาคประชาชน ซึ่ง “อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ ทสม.เป็นอาสาสมัครภาคประชาชนที่มีจิตอาสา เสียสละและมุ่งมั่นในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ นับเป็นกำลังสำคัญของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการลดและแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย”

น.ส.บุณณดา ยังกล่าวต่อว่า ปัจจุบัน ทสม.มีจำนวน 289,199 คน ทั่วประเทศ ทำหน้าที่เชื่อมประสานการทำงานระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน ซึ่งทุกคนล้วนเป็นจิตอาสาทำงานด้วย ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้นอกจากได้แลกเปลี่ยนการทำงานระหว่างเครือข่าย ทสม.ด้วยกันแล้ว ยังได้พบผู้บริหารของกระทรวงทรัพยากรฯ และที่ทุกคนปลื้มใจก็คือ การได้พบปะพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับ พล.ต.อ.พัชรวาท และขอขอบคุณที่ท่านได้ให้ความสำคัญ ทั้งยังยกให้ ทสม. ทุกคน คือ “หัวใจ” ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นับเป็นการปลุกพลังใจให้กับ ทสม. ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยส่งต่อความยั่งยืนไปสู่ลูกหลานในอนาคต

ที่มา: https://www.nationtv.tv/news/social/378946717
วันที่: 4 สิงหาคม 2567

“สส.บีลา-อามินทร์” ร่วมต้อนรับ นายกฯ “เศรษฐา” และ นายกฯ ”อันวาร์” มาเลเซีย ในโอกาสลงพื้นร่วมประชุม ตอกย้ำความมุ่งมั่นความสงบสุข และพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนของทั้งสองประเทศ

,

“สส.บีลา-อามินทร์” ร่วมต้อนรับ นายกฯ “เศรษฐา” และ นายกฯ ”อันวาร์” มาเลเซีย ในโอกาสลงพื้นร่วมประชุม ตอกย้ำความมุ่งมั่นความสงบสุข และพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนของทั้งสองประเทศ

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 และพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.เปิดเผยว่า ตน และนายอามินทร์ มายูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 ได้ลงพื้นที่ด่านสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ร่วมให้การต้อนรับ ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และท่านดาโตะ เซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสลงพื้นที่อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อหารือข้อราชการโดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ร่วมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก พร้อมรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก

จากนั้นในช่วงบ่ายคณะนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางถึง Pasir Mas District and Land Office รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียเพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน โดยการประชุมในครั้งนี้นายกเศรษฐาได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นเรื่องความสงบสุขและการพัฒนา เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนสองประเทศ การได้มาเยี่ยม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส – เมืองรันเตาปันจัง รัฐกลันตัน ได้ดูโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจ เชื่อมโยงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซียร่วมกัน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 สิงหาคม 2567

”จันทร์แจ่ม“สุดแกร่งทำสำเร็จ การันตีเหรียญทองแดงแล้ว จ่อลุ้นเหรียญทอง โอลิมปิค พล.อ.ประวิตร เชียร์ถึงขอบสนาม เติมพลังนักชกสู้ศึก ปารีส -2024 เพื่อคนไทย

,

”จันทร์แจ่ม“สุดแกร่งทำสำเร็จ การันตีเหรียญทองแดงแล้ว จ่อลุ้นเหรียญทอง โอลิมปิค พล.อ.ประวิตร เชียร์ถึงขอบสนาม เติมพลังนักชกสู้ศึก ปารีส -2024 เพื่อคนไทย

เมื่อ 3 ส.ค.67, 21.35 น. (เวลาประเทศไทย) มีการแข่งขันมวยสากลหญิง รอบก่อนรองชนะเลิศ(8คนสุดท้าย) ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 2คู่ได้แก่จุฑามาศ รักสัตย์ รุ่น 50 กิโลกรัมกับนักชกประเทศจีน และจันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง รุ่น 66 กิโลกรัมกับนักชกประเทศตุรกี ณ สนาม North Paris Arena

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายธนาไชยประสิทธิ์ รองประธานฯและหัวหน้านักกีฬา, พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ และพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ได้เดินทางเข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬาชกมวยสากล(หญิง) เพื่อให้กำลังใจนักชกของไทยทั้ง 2คน อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากเป็นกีฬาประเภทการต่อสู้ที่ ทัพนักกีฬาไทย มีความหวังจะได้เหรียญทุกครั้ง โดยต้องใช้พละกำลัง และมีหัวใจนักสู้ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้ส่งเสียงเชียร์ และปรบมือในจังหวะสำคัญของการออกอาวุธ อย่างดุเดือด ตื่นเต้น เพราะหากนักชกไทยสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ จะได้รับเหรียญทองแดง ตามกฎกีฬาโอลิมปิกทันที ซึ่งทัพนักชกไทยก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถทำผลงานได้ตามเป้า เอาชนะคู่ต่อสู้ในรุ่น 66 กิโลกรัม คือจันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกชิงเหรียญทอง ได้อย่างน่าชื่นชม และภาคภูมิใจยิ่ง

ภายหลังการแข่งขัน พล.อ.ประวิตร ได้พบกับนักชก พร้อมกล่าวแสดงความยินดี และขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศ ที่ทำให้คนไทยมีความสุขในวันนี้ และตนเองก็มีความรู้สึกชื่นชม ดีใจและมีความภาคภูมิใจที่นักชกหญิงไทย ได้ทุ่มเทจากการฝึกซ้อม และมุ่งมั่นแข่งขันจนประสบชัยชนะ ได้เข้ารอบและได้สิทธิ์รับเหรียญทองแดงแล้ว 1คน ในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง ที่มีนักชกไทยได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และคนไทยทั้งประเทศ และขอขอบคุณสมาคมมวยสากลฯ ที่ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมตามนโยบายของโอลิมปิกฯมาด้วยดี และขอเป็นกำลังใจให้กับนักชก พร้อมด้วยทีมสตาฟโค้ช ที่จะต้องแข่งขันในแมตช์ต่อไป ให้สามารถคว้าชัยชนะอีก2ครั้ง และได้รับเหรียญทองตามเป้าที่ตั้งไว้ พร้อมขอบคุณประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ที่ได้ร่วมกันเชียร์ ส่งกำลังใจมายังนักชกทีมชาติไทย ในครั้งนี้ด้วย และขอให้คนไทยช่วยกันส่งเสียงเชียร์ดังๆ ผ่านหน้าจอทีวี
ให้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง หนึ่งเดียวของไทย ที่ทำผลงานสำเร็จ สามารถคว้าเหรียญทองให้กับคนไทยได้ชื่นชมเหมือนเช่นในอดีต ที่ผ่านมาได้อีกครั้งหนึ่ง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 สิงหาคม 2567

“สส.นเรศ”ขอบคุณ สส.ฝ่ายรัฐบาล-ค้าน ลงมติรับร่างพ.ร.บ.ลำใย มอง รัฐบาลจะได้ใช้ พ.ร.บ.ลำไย เป็นเครื่องมือบริหารจัดการผลผลิตให้มีประสิทธิภาพ

,

“สส.นเรศ”ขอบคุณ สส.ฝ่ายรัฐบาล-ค้าน ลงมติรับร่างพ.ร.บ.ลำใย มอง รัฐบาลจะได้ใช้ พ.ร.บ.ลำไย เป็นเครื่องมือบริหารจัดการผลผลิตให้มีประสิทธิภาพ

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ เขต 9 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนในฐานะผู้เสนอร่างพ.ร.บ.ลำใย เข้าสู่สภาฯ และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้เสียงสนับสนุนจาก สส.ทั้งพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ลงมติเห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.ลำใย จนผ่านวาระที่ 1 ไปแล้วนั้น ต้องถือว่าเป็นก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ หลังความพยายามในการผลักดันเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนประสบความสำเร็จและเป็นหนทางที่จะสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำให้กับเกษตรกรผู้ปลูกได้อย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม

“ผมขอบคุณทุกการสนับสนุนให้ผ่านสภาฯครั้งนี้
เพื่อรัฐบาลจะได้ใช้ พ.ร.บ.ลำไยเป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการผลผลิตทางการเกษตรที่มีประสิทธิภาพอย่างเหมาะสม มีผลต่อผลประโยชน์ด้านการผลิต การลดต้นทุน และการเชื่อมโยงตลาดในระดับประเทศและต่างประเทศ การปฏิรูประบบเกี่ยวกับลำไย การวิจัยและพัฒนา การรักษาเสถียรภาพระดับราคาลำไย การดำเนินธุรกิจและการจัดสรรประโยชน์อย่างเป็นธรรมและยั่งยืน โดยกรรมการบริหารลำไยโดยเฉพาะ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานจะสามารถบูรณาการขับเคลื่อนลำได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง“นายนเรศ กล่าว

นายนเรศ กล่าวต่อว่า ร่าง พรบ.ลำไย จะทำให้เกิดกาาบูรณาการระหว่างกระทรวง กรม ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ การพัฒนาและแก้ปัญหาให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไย ที่ซับซ้อนร่วมกันทุกมิติ เพราะ
ลำไยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเกษตรกรภาคเหนือ สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรจากการส่งออกผลผลิตไปยังประเทศจีน อินโดนีเซีย อินเดียและประเทศอื่น ๆ กว่า 1.4 ล้านตัน สร้างรายได้ปีละ 23,000 ล้านบาท

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 สิงหาคม 2567