“รมว.สุชาติ”เปิดตลาดแรงงานไทยในฟินแลนด์
ตั้งคณะทำงานทวิภาคีผลักดันมาตรการคุ้มครองคนงาน
วันนี้ (6 กันยายน 2565) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ชวนาถ ทั่งสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ สาธารณรัฐฟินแลนด์ ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณรัฐฟินแลนด์เพื่อหารือข้อราชการด้านแรงงาน ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ในประเด็นต่างๆ ที่สำคัญ โดยเฉพาะด้านการผลักดันให้แรงงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ ได้มีสัญญาจ้างงานกับนายจ้าง และได้รับการคุ้มครอง สิทธิประโยชน์ และสวัสดิการตามกฎหมาย สนับสนุนด้านการประสานความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ และกระทรวงแรงงานไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการผ่านกลไกคณะทำงาน (Working Group) ร่วมกัน
ทั้งนี้เพื่อให้การผลักดันให้แรงงานไทยที่ไปทำงานในฟินแลนด์ ได้รับความคุ้มครองและสวัสดิการตามกฎหมาย ทั้งแรงงานมีทักษะและแรงงานเก็บผลไม้ป่าตามฤดูกาล และส่งเสริมให้แรงงานไทยไปทำงานในฟินแลนด์มากขึ้น ขยายตลาดแรงงานไทยในฟินแลนด์ และการมีคณะทำงานร่วมกันระหว่างสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮลซิงกิ กับกระทรวงแรงงานในการบริหารจัดการและประสานงานเรื่องแรงงานไทยในฟินแลนด์
นายสุชาติ กล่าวว่า การเดินทางมาดูงานในครั้งนี้ ยังได้พบปะภาคเอกชนทั้ง 3 ท่าน คือ คุณคาริเซ บาริกอร์ท ประธานกรรมการบริหาร คุณอิรมา อูริคังกาส ที่ปรึกษาอาวุโส การริเริ่มทางยุทธศาสตร์ และ คุณไอเซค กาฟุงเคล ผู้อำนวยการด้านการดึงดูดทรัพยากรมนุษย์ศักยภาพสูง ซึ่งเป็นผู้บริหารของเฮลซิงกิ พาร์ทเนอร์ส โดยได้หารือการนำแรงงานไทยเข้ามาทำงานในฟินแลนด์ในสาขาที่ขาดแคลน ที่สำคัญทางสถานทูตจะให้ความร่วมมือในการพาตัวแทนภาคเอกชนเหล่านี้ได้ไปศึกษาดูงานที่ประเทศไทยภายในเดือนตุลาคมนี้ด้วย เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพในการจัดส่งแรงงานที่มีทักษะฝีมือเข้ามาทำงานในฟินแลนด์อยู่แล้ว ในปี 2564 และ ปี 2565 กระทรวงแรงงานได้มีการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในฟินแลนด์จำนวน รวมทั้งสิ้น 7,902 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเกษตรกร คนเก็บผลไม้ป่า คนงานในฟาร์ม คนทำสวน รองลงมาเป็นกุ๊ก พ่อครัวอาหารไทย ซึ่งในแต่ละปีแรงงานเหล่านี้สามารถสร้างรายได้กลับเข้าสู่ประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฟินแลนด์ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกำลังเข้าสู่สังคมสูงอายุ ประกอบกับเมืองเฮลชิงกิ ได้เปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมในหลายภาคส่วนเข้ามาลงทุนเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ทำให้มีความต้องการแรงงานที่มีทักษะในสาขาต่างๆ เป็นจำนวนมาก อาทิ สายงานด้านไอที โปรแกรมเมอร์ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เทคโนโลยีอัจฉริยะ เป็นต้น
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 กันยายน 2565