“ศ.ดร.นฤมล” ควง “อ้น ณิรินทร์”ผู้สมัคร พปชร.คันนายาว ลงพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กรับฟังปัญหา มั่นใจ พปชร.พร้อมดูแล ปชช.ทุกช่วงวัย เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต สร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 เวลา 16.00-19.00 น. ณ บริเวณกาดแม่วาง ต.บ้านกาด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้จัดเวทีปราศรัยหาเสียง นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 6 จังหวัดพะเยา พปชร.และในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พร้อมด้วยนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการบริหาร พปชร.ร่วมขึ้นปราศรัยนโยบายพรรค พร้อมผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ประกอบด้วย นายพจนารถ ศรียารัณย เขต1 เบอร์ 4, นางศรีพรรณ เขียวทอง เขต2 เบอร์ 5,นายพรชัย อรรถปรียางกูร เขต 3 เบอร์1, ดร.มนสิชา ภัคดิเมธีเขต 4 เบอร์ 2 นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ เขต5 เบอร์ 1, นางรัตนประภา ดิศวัฒน์ เขต6 เบอร์ 5 ,นายบดินทร์ กินาวงษ์ เขต 7 เบอร์13,นางสาวกุสุมา บัวพันธ์ เขต8 เบอร์9 ,นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ เขต9 เบอร์6และนายนรพล ตันติมนตรี เขต10 เบอร์ 8 โดยมีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่น
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าดีใจที่ได้มาพบปะพ่อแม่พี่น้องทุกท่านในวันนี้ และขอบคุณที่มาให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นลูกหลานของพ่อแม่พี่น้องชาวเชียงใหม่ที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว และแม้ว่าวันนี้ตนเองจะยังต้องปิดตาซ้ายข้างหนึ่ง จากสาเหตุที่วันก่อนขี้นรถแห่ปราศรัยหาเสียงที่พะเยาช่วงมืดค่ำ ทำให้แมลงบินเข้าตา ทำให้ตาแดงอักเสบ หมอให้พักรักษาเป็นเวลา 5 วัน แต่ตนเองไม่สามารถพักได้เพราะใจสั่งมาต้องทำตามที่รับปากไว้แล้ว ก็ต้องมาพบพ่อแม่พี่น้องทุกท่านและช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครของเราทุกคน
“พ่อแม่พี่น้องทุกท่านครับ สิ่งที่อยากบอกคือพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มีหลักยึดชัดเจนคือก้าวข้าวความขัดแย้ง เพื่อให้ประชาชนมีความรักสามัคคีกัน ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงของชาติบ้านเมือง นอกจากนี้ยังสานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะเพิ่มเป็น 700 บาท เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน และยังมีเงินประกันชีวิต 2 แสนบาทด้วย ที่สำคัญคือแก้ปัญหาที่ดินทำกิน โดยผลักดันเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนด และ ค.ท.ช.เปลี่ยนเป็นส.ป.ก. ตามเป้าหมาย ‘มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน’ ซึ่งพร้อมจะทำทันทีหลังจากเลือกตั้งและได้จัดตั้งเป็นรัฐบาลครับ”
ร.อ. ธรรมนัส ยังย้ำว่า วันนี้ภาคเหนือทั้ง 8 จังหวัดเราต้องเดินหน้าขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อให้มีพลังในการผลักดันแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประชาชน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาแหล่งน้ำ การผลักดันเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยต่อเนื่องคือไร่ละ 2 พันบาท ไม่น้อยกว่า 25 ไร่และผลักดัน พ.ร.บ.ลำไย เป็นรูปธรรม ตนเอง ซึ่งเป็นลูกข้าวนึ่งคนหนึ่งจะเดินหน้าทำงานเพื่อพ่อแม่พี่น้องทุกท่านให้ดีที่สุด ขอฝากว่าวันที่ 14 พฤษภา นี้ไปใช้สิทธิ์กาบัตรเลือก ส.ส.ซึ่งเป็นลูกหลานของท่านยกจังหวัดไปเป็นปากเป็นเสียงแทนในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อผลักดันงบประมาณต่างๆ มาพัฒนาบ้านเมืองของเราต่อไป
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 เมษายน 2566