โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: พรรคพลังประชารัฐ

“พลเอกประวิตร”นำทีม กก.มูลนิธิฯอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ถวายพระพร “พระพันปีหลวง” 91 พรรษา

,

“พลเอกประวิตร”นำทีม กก.มูลนิธิฯอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ถวายพระพร “พระพันปีหลวง” 91 พรรษา

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด นำคณะกรรมการ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางพานพุ่มเฉลิมพระเกียรติ ถวายเครื่องราชสักการะ ถวายราชสดุดี และถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

พลเอกประวิตร กล่าวถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงว่า ทรงรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า แหล่งต้นน้ำลำธาร นำมาซึ่งความผาสุขร่มเย็นโดยถ้วนหน้า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ จึงทรงเป็นพระแม่แห่งแผ่นดินที่สถิตย์สถาพรอยู่กลางใจพสกนิกรทั่วทั้งแผ่นดิน

พร้อมกันนี้พลเอกประวิตร ยังเปิดให้ข้าราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอดีตผู้ใต้บังคับบัญชามอบกระเช้าดอกไม้ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 78 ปี ย้อนหลัง 11 สิงหาคม 2566 เช่น คณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ และ ตัวแทนกรมป่าไม้ และหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2566

“สันติ”เผย กระทรวงการคลัง ประสานสถาบันการเงิน ออกมาตรการด้านกู้เงินฉุกเฉิน-สินเชื่อ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโกดังพลุระเบิด

,

“สันติ”เผย กระทรวงการคลัง ประสานสถาบันการเงิน ออกมาตรการด้านกู้เงินฉุกเฉิน-สินเชื่อ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโกดังพลุระเบิด

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวระหว่างการเดินทางลงพื้นที่ ต.บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมเยียมผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิดว่า ในส่วนของกระทรวงการคลังนั้นได้มีการประสานงานกับสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) หรือธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ๆ ให้เข้ามาดูแล เยียวยาให้กับผู้ประกอบการในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้

นายสันติ กล่าวต่อว่า อย่างธนาคารออมสินก็ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น มาตรการพักชำระหนี้ และยังให้ประชาชนที่ประสบภัยกู้เงินฉุกเฉิน สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อน รายละไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ ยังให้สินเชื่อเคหะแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ เพิ่มเติม สำหรับลูกค้าเดิมและประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบ เพื่อซ่อมแซมต่อเติมที่อยู่อาศัยส่วนที่เสียหายได้ถึง 100% ของราคาประเมิน สินเชื่อบุคคลแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอเนกประสงค์ในการบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายล ะ 500,000 บาท และสินเชื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจของธนาคาร วงเงินกู้สูงสุด 10% ของวงเงินกู้เดิม แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 5 ปี โดยปลอดชำระเงินต้น 1 ปี รวมถึงการดูแลเกี่ยวกับการชดเชยค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน โดยสามารถยื่นเรื่องได้ที่ธนาคารออมสินสุไหง โก-ลก หรือสาขาใกล้เคียงที่สะดวก

ทั้งนี้ภายในงานได้มีธนาคารจากหลายสถาบัน อาทิ ธนาคารอาคารสงเคราะห์,ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงไทย มารอให้บริการประชาชนในเรื่องธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร”นำทัพ พปชร.ลงพื้นที่บ้านมูโนะ จ.นราธิวาส มอบถุงยังชีพให้ ปชช.-จนท.-ผู้บาดเจ็บ จากเหตุโกดังพลุระเบิด สั่งระดมเร่งด่วนฟื้นฟูที่อยู่อาศัย ใช้เงินให้เป็นธรรมและโปร่งใส

,

“พล.อ.ประวิตร”นำทัพ พปชร.ลงพื้นที่บ้านมูโนะ จ.นราธิวาส มอบถุงยังชีพให้ ปชช.-จนท.-ผู้บาดเจ็บ จากเหตุโกดังพลุระเบิด สั่งระดมเร่งด่วนฟื้นฟูที่อยู่อาศัย ใช้เงินให้เป็นธรรมและโปร่งใส

เมื่อวันที่ 7 ส.ค.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรองหัวหน้าพรรค,น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรองหัวหน้าพรรค,นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรค,นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค,นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และเลขาธิการพรรค เดินทางลงพื้นที่ ต.บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมเยียมผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิด โดยมี สส.ของพรรคพลังประชารัฐให้การต้อนรับ อาทิ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ บีลา ส.ส.นราธิวาส เขต 3 นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส. นราธิวาส เขต 2 ให้การต้อนรับ

โดย พล.อ.ประวิตรและคณะได้เดินทางไปสนามกีฬามหาราช รับทราบรายงานสถานการณ์ความเสียหายและการช่วยเหลือ จาก ผวจ.นธ. อธิบดี กรม ปชส. รวมทั้งผู้แทน สธ. และศธ. มีผู้ได้รับผลกระทบ 682 ครัวเรือน เสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 389 ราย บ้านเรือนเสียหาย 682 หลัง รร.เสียหาย 3 แห่ง โดยมีการพระราชทานความช่วยเหลือทั้งสิ่งของพระราชทานและโรงครัวพระราชทานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุตรวจเยี่ยมความคืบหน้าในการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนและโรงเรียนบ้าน มูโน๊ะ พร้อมทั้งเดินทางไป รพ.สุไหงโกลก เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทีมแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนที่โรงเรียนบ้านมูโนะ เพื่อรับมอบเช็คเงินสดจากธนาคารออมสินจำนวน 2 ล้านบาท รวมถึงถุงยังชีพจำนวน 300 ถุง และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำนวน 150,000 บาท ก่อนส่งมอบให้กับทางจังหวัดนราธิวาส เพื่อนำไปดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้แจกถุงยังชีพ จำนวน 300 ถุงให้กับผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นขวัญกำลังใจ ให้ทุกคนสามารถฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ไปได้ รวมถึง ร.อ.ธรรมนัส ได้นำข้าวกล่องจำนวนมากจากมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า มามอบให้กับประชาชนด้วย

โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวกับประชาชนว่า ตนขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อพี่น้องชาวมูโน๊ะ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บ้านเรือนและอาคารสถานที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และที่สำคัญมีผลกระทบต่อจิตใจและขวัญของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ขอเป็นเป็นกำลังใจให้กับทุกคน เพื่อการก้าวผ่านความยากลำบากครั้งสำคัญนี้ไปด้วยกัน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือดูแล และไม่ทอดทิ้งกัน และจะทำให้ทุกอย่างคืนกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว

พล.อ.ประวิตร ยังได้ขอให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่ทั้งภาครัฐ เอกชนและทหาร ร่วมระดมความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ โดยเฉพาะการก่อสร้างและปรับปรุงบ้านพักอาศัยที่เสียหาย รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ให้สามารถใช้การได้เร็วที่สุด ทั้งนี้การก่อสร้างปรับปรุง รร.มูโน๊ะ ได้สั่งการมอบหมายให้ รมว.ศธ.ลงพื้นที่รับทราบปัญหาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงและก่อสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิมที่เสียหาย ซึ่งทราบว่ามีภาคเอกชนร่วมสนับสนุนสร้างอาคารใหม่ให้กับเด็กเล็ก ก็ต้องขอขอบคุญผู้ใจบุญด้วย

ทั้งนี้สำหรับการฟื้นฟูที่พักอาศัยและพัฒนาอาชีพ ได้กำชับ รมว.ที่เกี่ยวข้อง ร่วมระดมธนาคาร สถาบันการเงินของรัฐ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ( บสย.) เข้ามาให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนโดยปราศจากดอกเบี้ย โดยให้ ศอ.บต.ประสาน กค. จัดหามาตรการด้านการเงินและการคลัง เป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น การพักชำระหนี้จากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น โดยเตรียมเสนอ ครม.ทันที

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวขอบคุณน้ำใจคนไทยทั่วประเทศ ที่ร่วมบริจาคเงิน และความช่วยเหลืออื่นๆมาอย่างไม่ขาดสายผ่านจังหวัด โดยย้ำขอให้ ผวจ.นธ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งนำเงินดังกล่าวใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึงเป็นธรรมและโปร่งใส พร้อมทั้งขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่รัฐจากทุกหน่วยงาน รวมทั้งอาสาสมัครและภาคเอกชน ที่ร่วมกันเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องชาวมูโน๊ะ ที่ได้รับผลกระทบหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องมา โดยขอให้กรมประชาสัมพันธ์ ให้ความสำคัญและคงความต่อเนื่องในการสร้างความเข้าใจในภาวะวิกฤตกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำกับ มท. ตร.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยว่า ขอให้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น โดยจะต้องไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

จากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ และให้กำลังใจทีมแพทย์ สาธารณสุขที่ปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2566

“ส.ส.นราธิวาส”พปชร.อภิปรายน้ำตาซึม ขอบคุณแทนชาวมูโนะสำหรับความช่วยเหลือเยียวยาที่ทุกฝ่ายมอบให้ จี้ เร่งสอบเอาผิด หากพบใครรับส่วย ต้องจัดการเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นใคร

,

“ส.ส.นราธิวาส”พปชร.อภิปรายน้ำตาซึม ขอบคุณแทนชาวมูโนะสำหรับความช่วยเหลือเยียวยาที่ทุกฝ่ายมอบให้ จี้ เร่งสอบเอาผิด หากพบใครรับส่วย ต้องจัดการเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นใคร

วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในการประชุม นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามข้อบังคับฯ ข้อ ๕๔ (๑) เกี่ยวกับเหตุการณ์พลุระเบิด ที่ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบพิจารณาเรื่องดังกล่าว

โดย นายอามินทร์ กล่าวว่า ตนอยู่ในพื้นที่มา 4 วัน 4 คืน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีบ้านเรือนเสียหาย จำนวน 681 หลังคาเรือน ผู้เสียชีวิตจำนวน 10+2 สาเหตุที่ต้อง +2 เพราะยังพิสูจน์อัตลักษณ์ไม่ได้ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 290 ราย บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย 100 เต็มๆ ไม่เหลือซากอะไรเลยจำนวน 59 หลังคาเรือน จำนวนรถยนต์ 69 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 107 คัน และทรัพย์สินอย่างอื่น ประเมินค่าได้อีกนับไม่ถ้วน สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวมูโนะ

นายอามินทร์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนนำมาพูดในวันนี้เพื่อต้องการให้เกิดการเยียวยาให้กับพี่น้องที่ได้รับผลกระทบ ในเรื่องของวงเงินที่จะให้การช่วยเหลืออย่างเหมาะสม และความเร่งด่วนในการจัดการแก้ไขปัญหา เนื่องจากในพื้นที่ภาคใต้ ใกล้จากเข้าช่วงฤดูมรสุม หมายความว่าจะมีฝนตก ทุกวันตั้งแต่เดือน สิงหาคมเป็นต้นไป ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนอย่างสาหัส จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่สภาแห่งนี้จะได้ร่วมกันพิจารณาและร่วมหาทางออก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบ้านเรือน สถานที่ราชการอย่าง เช่น โรงเรียน ที่ทำการ อบต. ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักหนาเช่นกัน

“ไม่ใช่วัวหายแล้วล้อมคอก สิ่งที่เจ้าหน้าที่และภาครัฐต้องรับผิดชอบ ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ของการจัดการเก็บพลุดอกไม้ไฟ ต่างๆตามกฏหมาย ถ้าโรงงานหรือโกดัง มีรั้วล้อมรอบตัว อาคารต้องอยู่ห่างจากรั้วไม่ต่ำกว่า 20 เมตร สำหรับโรงงานหรือโกดัง ที่ไม่มีรั้วล้อมรอบ ต้องอยู่ห่างจากชุมชน 35 ถึง 55 เมตร แต่โกดังดังกล่าวกลับมี บ้านเรือนล้อมรอบในระยะไม่เกิน 3 เมตร นี่คือความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของเจ้าของโกดัง ท่านต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ประเมินค่าไม่ได้นี้ ที่จริงเราไม่ควรมองเพียงแค่การจัดเก็บ เราต้องมองตั้งแต่เรื่องการขนส่งมาถึงมูโนะ ได้อย่างไรกัน สถานที่เกิดเหตุห่างจากสถานีตำรวจเพียง 100 เมตร ห่างจากโรงเรียนเพียง 700 เมตร ห่างจากที่ทำการ อบต.เพียง 500 เมตร สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความบกพร่องในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไม่ว่า จากหน่วยงานใดก็ตาม ต้องมีการเร่งรัด การสอบสวนอย่างเร่งด่วน หากสืบทราบแล้วว่า ผู้ที่มีส่วนรู้เห็น ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน เจ้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลใดก็ตาม หรือแม้แต่ตัวผมเอง ไม่ว่าจะเป็นการรับสินบนหรือ ส่วย จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างถึงที่สุด”

นายอามินทร์ กล่าวต่อว่า ตนขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ร่วมลงพื้นที่ให้กำลังใจ และเดินทางมายังที่เกิดเหตุให้กำลังใจผู้ประสบเหตุ และได้เยียวยาบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น สุดท้ายตนขอนำสารจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่ฝากผมมาให้พูดในสภาฯอันทรงเกียรติแห่งนี้ ว่าพวกเราชาวตำบลมูโนะ ขอขอบคุณรักษาการนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีหลายกระทรวง ทุกๆหน่วยงาน ทุกๆองค์กร พรรคการเมืองทุกๆพรรค ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องชาวตำบลมูโนะ อย่างทันท่วงที และไม่ขาดสาย ขอขอบคุณที่แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีในยามที่ยากลำบาก

ทั้งนี้ ระหว่างการอภิปรายนายอามินทร์ได้มีการเปิดคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพความเสียหายและความสูญเสียขอพี่น้องประชาชน ซึ่งในช่วงที่เปิดคลิปดังกล่าวนายอามินทร์และนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ต่างนั่งดูแบบน้ำตาซึม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 สิงหาคม 2566

“ปกรณ์”ขอเป็นตัวแทนชาวแม่ฮ่องสอน เรียกร้องเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์พบขาดแคลนอย่างหนัก วอน กระทรวงสาธารณสุขเร่งหามาตรการแก้ปัญหาด่วน

,

“ปกรณ์”ขอเป็นตัวแทนชาวแม่ฮ่องสอน เรียกร้องเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์พบขาดแคลนอย่างหนัก วอน กระทรวงสาธารณสุขเร่งหามาตรการแก้ปัญหาด่วน

นายปกรณ์ จีนาคำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส) จังหวัดแม่ฮ่องสอน เขต1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร) กล่าวหารือความเดือดร้อนของประชาชนในที่ประชุมสภาฯถึงปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ในจังหวัด แม่ฮ่องสอน อย่างรุนแรง เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมี 7 อำเภอ และมี7 โรงพยาบาลของรัฐ และไม่มีโรงพยาบาลของเอกชนเลย ซึ่งมีประชากร 280,000 กว่าคนเศษ แต่มีแพทย์ปฏิบัติการเพียงแค่ 74 คนเท่านั้น ถ้าดูอัตราเฉลี่ยแล้วแพทย์หนึ่งคน ต้องดูแลพี่น้องประชากรกว่า 3000 คน ซึ่งไม่สอดคล้องกับมาตรฐานของระบบสาธารณสุขของไทย ที่จะต้องมีแพทย์ 1 คน เพื่อดูแลประชากรอยู่ที่1600 คนเศษเท่านั้น

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า บางโรงพยาบาลในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีแพทย์เพียงสองคนเท่านั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบกับการดูแลรักษาพี่น้องประชาชน ที่อาจจะ ไม่ครอบคลุมและไม่ทั่วถึง ที่สำคัญคือ ความเหนื่อยล้าของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งมีอัตราที่ลาออกและโยกย้ายออกจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ค่อนข้างมาก สาเหตุมีหลายประการ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ในเรื่องของงบประมาณ และสวัสดิการที่ไม่เพียงพอ ตนขอฝากให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเข้ามากำกับดูแล และแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยด่วนด้วย

นายปกรณ์ ยังกล่าวถึง ปัญหาเรื่องหนังสือรับรองสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินทำกิน ตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่อันดับ 8 ของ ประเทศไทย กว่า 95% เป็นพื้นที่ป่า ซึ่งในปี 2558 รัฐบาลมีโครงการแก้ปัญหาที่ดินคือ โครงการ ครช. จังหวัดแม่ฮ่องสอน คือจังหวัดหนึ่งที่เป็นจังหวัดเป้าหมาย มีเป้าหมาย 70,000 กว่าไร่ ที่จะแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยในปี 2560 สามารถตรวจสอบและอนุมัติพื้นที่ได้ 36,000 กว่าไร่ มีผู้ยื่นขอรับสิทธิ์ 12,000 กว่าคน แต่ปัจจุบันนี้ออกเอกสารได้เพียง 6800 กว่าไร่ และผู้ได้รับสิทธิ์เพียง 3900 กว่าราย เท่านั้นยังตกหล่นอีก 28,000 กว่าไร่ ยังมีผู้ไม่ได้รับสิทธิ์อีก 8000 กว่าราย ตนขอฝากไปยังกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ช่วยกำกับ ดูแล และเร่งรัดในการออกเอกสารสิทธิ์ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 สิงหาคม 2566

“อัครแสนคีรี” วอนหน่วยงานที่ เร่งแก้ปัญหาทางหลวงชำรุด-ออกโฉนดที่ดินทำกิน บรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องชาวชัยภูมิ

,

“อัครแสนคีรี” วอนหน่วยงานที่ เร่งแก้ปัญหาทางหลวงชำรุด-ออกโฉนดที่ดินทำกิน บรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องชาวชัยภูมิ

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือถึงเรื่องทางหลวงแผ่นดิน โดยได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ว่า ได้รับความเดือดร้อนในการใช้ถนนทางหลวงแผ่นดินในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ หมายเลข 2054 จาก แยกลาดใหญ่ไปยังแยก ช่องสามหมอ และ ทางหลวงหมายเลข 2389 จากเขต เทศบาลแก้งคร้อไปยังบ้านสัมภาษณ์ อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณการใช้ถนนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถบรรทุกขนาดใหญ่ซึ่ง บรรทุกพืชผลทางการเกษตร ส่วนมากทำให้ถนนทางหลวงสองเส้นนี้ ซึ่งมีอายุการใช้งานมานาน เกิดความชำรุดทรุดโทรม และที่สำคัญไม่มีไหล่ทาง ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนบ่อยครั้ง สร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก ในระยะเวลาหลาย 10 ปีที่ผ่านมา

“ผมขอฝากไปยังกรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามถึงแผนพัฒนา ทางหลวงแผ่นดินเส้นทางดังกล่าว ในระยะสั้น และระยะยาว เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้นำข้อมูลไปประชาสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชน และประสานงานการปฏิบัติ เพื่อแก้ปัญหาไขความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชนให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป”นายอัครแสนคีรี กล่าว

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศเรื่องที่ดินทำกิน เนื่องได้ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ และเขตป่าสงวน เขตป่าไม้ รวมถึงพื้นที่ในความรับผิดชอบของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินหรือ สปก.มาเป็นเวลานาน แต่ประชาชนที่ทำกินและอาศัยอยู่บนที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรือหนังสือรับรองการครอบครองที่ดิน ทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ทำกิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน หรือสร้างรายได้ในพื้นที่ดังกล่าวได้ ตนจึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเร่งรัดในการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน รวมถึงการเปลี่ยน สปก.เป็นโฉนด เร่งรัดรังวัดที่ดินต่างๆ ที่มีปัญหาด้านโฉนดตกหล่น เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งจะสามารถสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจ ครอบครัวชุมชน และประเทศชาติโดยรวมอย่างยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 สิงหาคม 2566

“วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ “ขอเพิ่มงบประมาณซ่อมแซมถนนชำรุด เสียหาย อย่าปล่อยให้จังหวัดกับอบต.มีปัญหากันเอง

,

“วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ “ขอเพิ่มงบประมาณซ่อมแซมถนนชำรุด เสียหาย อย่าปล่อยให้จังหวัดกับอบต.มีปัญหากันเอง

นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ส.ส.จังหวัดเพชรบูรณ์ เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในที่ประชุมสภาฯถึงเรื่องถนนชำรุด เสียหาย มีงบประมาณไปยังท้องถิ่นไม่เพียงพอ เช่น งบประมาณในการซ่อมแซมถนนทาง พช 92-006 จากสามแยกทางหลวง ถึงหมายเลข 225 ช่วง กม. 155+150 หมู่ที่ 6 บ้านซับกะโซ่ ตำบล ย่างสาว อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ระยะทางตรงนี้ประมาณ 2.9 กิโลเมตร ถนนเส้นนี้จะเป็นการใช้งานร่วมกันของหมู่ที่ 13 ของบ้านทรัพย์เจริญ

ส่วนโครงการที่ 2 ก็คือทาง พช ที่ 2 ถึง92-004 สามแยก ทางหลวง 225 กม.ที่ 148 -400 บ้านพึ่งรางวัดหมู่ที่ 3 ไปบ้านหนองแดง หมู่ที่ 15 ตำบล ย่างสาว อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร ปัจจุบันถนนเส้นนี้ หลังจากถ่ายโอนมาจากทางหลวงชนบท ไม่เห็นผิวจราจรเดิม คือลาดยาง หรือคอนกรีตเลย เห็นแต่ถนนดินลูกรังหรือหินคลุก ตอนนี้ถนนดินลูกรังหรือหินคลุกตลอดทุกเส้นทาง เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้ง 2 หมู่บ้านเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ อบต.สามแยก อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัด เพชรบูรณ์ ขอให้สนับสนุนงบประมาณ ในการก่อสร้างถนนสาย พชถ 116 -010 ถนนสายฝูงนกเป้า หมู่ที่10 ตำบลสามแยก วิเชียรบุรี ระยะทาง 3.75 กิโลเมตร เดิมถนนเส้นดังกล่าวนี้ เป็นเส้นทางหลวงชนบท ชื่อบ้านทรัพย์ตะเคียน ถึงบ้านดงเข็ม ระยะทาง ถ่ายโอนตั้งแต่ หลายปีก่อน 7.061 กิโลเมตร ประเภทผิวการจราจร เป็นถนนลาดยาง แต่พอได้ถ่ายโอนแล้วก็แบ่ง ออกเป็น 2 ช่วง เป็นความรับผิดชอบของ อบต. สามแยก ตนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และส่วนกลาง ขอเพิ่มงบประมาน ไปที่จังหวัด ไม่ใช่ปล่อยให้ จังหวัดหรือ อบต.ไป เถียงกันในจังหวัดของตัวเอง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 สิงหาคม 2566

“สส.สัมพันธ” “สส.อามินทร์” นำคณะ“มท.1” และ “รมว.ศึกษาฯ” ลงพื้นที่ ต.มูโนะ ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ”

,

“สส.สัมพันธ” “สส.อามินทร์” นำคณะ“มท.1” และ “รมว.ศึกษาฯ” ลงพื้นที่ ต.มูโนะ ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ”

วานนี้ 1 สิงหาคม 2566 นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ (บีลา) กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต 3 และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต 2 ร่วมต้อนรับ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทย และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมต.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในโอกาสลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องชาวมูโนะที่ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ” ณ ตลาดมูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส

พร้อมกันนี้ได้ร่วมประชุมหารือรับมอบนโยบายและข้อราชการต่างๆ และติดตามสถานการณ์โกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด โดยมีนายนริศ ขำนุรักษ์ รมต.ช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส, รอง ผวจ.นราธิวาส, หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาและช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบเหตุให้ได้รับการเยียวยาให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ทางด้านกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ได้รับการสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่ร่วมกันสนับสนุนงบประมาณจัดซื้อวัสดุ”กระเบื้องหลังคา” เพื่อแจกจ่ายมอบใ้หกับพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งส่งผลให้อาคารบ้านเรือนและหลังคาได้รับความเสียหาย โดยมีพี่น้องมาลงทะเบียนกว่า 500 ราย เพื่อมาขอรับการช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยทีมงานกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ได้บริการจัดส่งถึงบ้านเรือนของพี่น้องยังความประทับใจและขอบคุณพร้อมให้กำลังใจซึ่งกันและกันดั่งคำว่า “คนไทยที่ไหนเดือดร้อน..คนไทยย่อมไม่ทิ้งกัน” ทางทีมงานกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ซาบซึ้งในน้ำใจจากพี่น้องทั่วสารทิศ ทั่วไทย จึงขอขอบคุณทุกน้ำใจทุกท่าน มา ในโอกาสนี้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 สิงหาคม 2566

“ส.ส.สะถิระ”เสนอสภาฯตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทาง โอนย้ายบริการไฟฟ้าของชาวสัตหีบ จากไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ไปให้ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดูแลแทนบรรเทาความเดือดร้อนให้ ปชช.

,

“ส.ส.สะถิระ”เสนอสภาฯตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทาง โอนย้ายบริการไฟฟ้าของชาวสัตหีบ จากไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ไปให้ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดูแลแทนบรรเทาความเดือดร้อนให้ ปชช.

นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้เสนอญัตติด่วนเพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการมอบหน้าที่การให้บริการไฟฟ้า อำเภอสัตหีบ จากกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทาน กองทัพเรือ ไปเป็นหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยตรง เพราะในตอนนี้พี่น้องประชาชน อำเภอสัตหีบ ทั้ง ๕ ตำบล ตำบลแสมสาร ตำบลพลูตาหลวง ตำบลสัตหีบ ตำบลบางเสร่ และตำบลนาจอมเทียน ประสบปัญหาได้รับความเดือดร้อนจากการให้บริการไฟฟ้า โดยกิจการไฟฟ้าสวัสติการสัมปทานกองทัพเรือ ทั้งการขยายเขตไฟฟ้า ไฟดับ ไฟตก ค่าไฟ รวมถึง สิทธิประโยชน์ของผู้ใช้ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

นายสะถิระ กล่าวต่อว่า การขยายเขตไฟฟ้าพี่น้องประชาชนอำเภอสัตหีบ ยังไม่มีไฟฟ้าถาวรใช้อีกหลายครัวเรือน รวมถึงการเพิ่มขนาดกระแสไฟฟ้าในแต่ละครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันกระแสไฟฟ้าในอำเภอสัตหีบตกบ่อยมาก ทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้รับความเสียหาย ทำให้พี่น้องประชาชนอำเภอสัตหีบ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา

“การให้บริการไฟฟ้า โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นการให้บริการไฟฟ้าหลักของคนไทยทั้งประเทศ ควรเข้ามาให้บริการไฟฟ้าประชาชนอำเภอสัตหีบ เช่นเดียวกับพื้นที่อื่น ๆ ผมจึงขอเสนอญัตติด่วนดังกล่าว เพื่อตั้ง กมธ.ศึกษาให้ประชาชนอำเภอสัตหีบได้รับการบริการสาธารณะชั้นพื้นฐาน เช่นเดียวกับคนไทยทั้งประเทศ และเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยด่วน”นายสะถิระ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 สิงหาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ตามคำมั่น 4 ปีที่ผ่านมาวางรากฐานพัฒนาแหล่งน้ำกว่า 2 หมื่นแห่งเพิ่มคุณภาพชีวิต เอาประโยชน์ ปชช.เป็นที่ตั้ง

,

“พล.อ.ประวิตร” มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ตามคำมั่น 4 ปีที่ผ่านมาวางรากฐานพัฒนาแหล่งน้ำกว่า 2 หมื่นแห่งเพิ่มคุณภาพชีวิต เอาประโยชน์ ปชช.เป็นที่ตั้ง

1 สิงหาคม 2566 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยังคงมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ตามคำมั่นที่ให้กับประชาชน “ จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ทำให้พี่น้องคนไทยอยู่ดีกินดี” เพราะทุกปัญหาของประชาชนเขารอไม่ได้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตนได้ผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มุ่งมั่นแก้ปัญหาเรื่องปากท้องประชาชน ให้คนไทยกินดีอยู่ดี ตามแนวทางและนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอาชีพของประชากรไทยส่วนใหญ่คือเกษตรกร การพัฒนาแหล่งน้ำ จึงเป็นต้นทุนการประกอบอาชีพที่สำคัญ ที่ได้วางรากฐานการจัดหาน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งปี และยังสามารถรับมือกับภัยแล้ง และอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น เช่นในขณะนี้ ที่ภาวะอากาศในประเทศไทยร้อน ฝนไม่ตกตามฤดูกาล นับเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาแหล่งน้ำที่ยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบ ม่ให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพ และสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีน้ำใช้ในการอุปโภค-บริโภค และภาคการเกษตร

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้สนับสนุนงบกลาง มาใช้ในโครงการบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง และป้องกันน้ำท่วม โดยบูรณาการทุกหน่วยงานภายใต้การบริหารคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(กนช.) ที่ได้ผลักดันในการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก ระบบกระจายน้ำเพื่อสนับสนุนน้ำอุปโภค-บริโภค รวมถึงการเกษตรครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งสิ้น 26,830 แห่ง เช่น การขุดเจาะบ่อบาดาล แหล่งน้ำสำรองเพื่อผลิตน้ำประปา ก่อสร้างฝายและสระเก็บน้ำเพื่อการเกษตร ขุดลอกคลอง และกำจัดวัชพืช ถือว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนและสามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ทั้งนี้ยังมีแผนการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำในหลายแห่งที่ยังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ อาทิ โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง ต.ป่าแดด จ.เชียงราย เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำในการอุปโภคบริโภค และประกอบอาชีพทางการเกษตร หลังจากที่ประชาชนรอคอยมายาวนานถึง 30 ปี เราได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สานฝันให้ประชาชนจนเป็นผลสำเร็จ ซึ่งในปี 2569 ประชาชนในพื้นที่ ต.ป่าแดด จ.เชียงราย และในพื้นที่ใกล้เคียง จะมีแหล่งน้ำไว้ใช้อุปโภค บริโภค และภาคการเกษตร เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี มั่นคง และยั่งยืน ให้กับคนลุ่มน้ำลาวตอนกลาง และตอนล่าง

“การทำงานของผมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีวันใดที่หยุดพัก ดีใจที่ได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ผมอาจจะเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่เคยออกมาบรรยายสรรพคุณ คุณงามความดีต่อสาธารณชน เพราะผมเชื่อว่า การทำงานจะต้องวัดจากผลงานที่เป็นประจักษ์ มิใช่การวัดเอาจากคำพูด โดยการเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะโครงการต่างๆ จะส่งผลให้สามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนใช้ประโยชน์ในช่วงหน้าแล้งได้รวม 742 ล้าน ลบ.ม. และยังสามารถนำน้ำบาดาลมาใช้ได้ถึง 91 ล้าน ลบ.ม. โดยมีน้ำดิบผลิตประปาได้อีก 62 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเกิดประโยชน์โดยตรงกับประชาชนถึง 3.65 ล้านครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7.5 ล้านไร่”พล.อ.ประวิตร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 สิงหาคม 2566

“ไผ่ ลิกค์”ชงญัตติเข้าสภาฯ ตั้ง กมธ.พิจารณาบุหรี่ไฟฟ้า ชี้ ต้องมีกฎหมายรองรับ ตอบให้ชัด ข้อดี-ข้อเสีย วิธีรับมือการใช้

,

“ไผ่ ลิกค์”ชงญัตติเข้าสภาฯ ตั้ง กมธ.พิจารณาบุหรี่ไฟฟ้า ชี้ ต้องมีกฎหมายรองรับ ตอบให้ชัด ข้อดี-ข้อเสีย วิธีรับมือการใช้

1 สิงหาคม 2566นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุญัตติด่วนที่ตนเสนอไป เพื่อขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว โดยตนเห็นว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับและวิธีรับมือกับการบริโภค และการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า แต่สภาพความเป็นจริงเราสามารถพบเห็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย มีการนำเสนอเพื่อผลกำไรผ่านทางช่องทางสื่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่มีการเสียภาษีทำให้รัฐเสียประโยชน์

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ในส่วนเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างได้รับผลกระทบจากปริมาณการรับซื้อลดลงอย่างมาก ทั้งจากมาตรการด้านสุขภาพและการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า จนทำให้ราคาใบยาสูบตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งข้อมูลข้อดีข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า โทษต่อสุขภาพของบุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นที่สงสัยว่าเป็นโทษต่อร่างกายมากน้อยเพียงใด

“ผมจึงขอเสนอให้สภาฯมาศึกษา และวางแนวทางเพื่อออกกฎหมายในการกำกับดูแลบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้เด็กและเยาวชนมีการใช้การอย่างแพร่หลาย ทั้งที่แนวทางบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย ยังไม่มีงานวิจัยที่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนหรือไม่ มีแต่การกล่าวอ้างว่า ไอบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้า จึงต้องมีการออกมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น”นายไผ่ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 สิงหาคม 2566

“ส.ส อรรถกร”ยื่นญัตติด่วนขอสภาฯตั้ง กมธ.แก้ไขราคากุ้งตกต่ำ หาทางช่วยเกษตรกรเลี้ยงกุ้งเดือดร้อนหนัก หลังมีการนำเข้าจาก ตปท.ย้ำ รัฐต้องเร่งจัดการก่อนปัญหาบานปลาย

,

“ส.ส อรรถกร”ยื่นญัตติด่วนขอสภาฯตั้ง กมธ.แก้ไขราคากุ้งตกต่ำ หาทางช่วยเกษตรกรเลี้ยงกุ้งเดือดร้อนหนัก หลังมีการนำเข้าจาก ตปท.ย้ำ รัฐต้องเร่งจัดการก่อนปัญหาบานปลาย

31 กรกฎาคม 2566 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)จ.ฉะเชิงเทรา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้เสนอญัตติด่วน เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำ เนื่องจากในขณะนี้ ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั้งขนาดกลาง และขนาดย่อยกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากราคากุ้งเลี้ยงตกต่ำอย่างรวดเร็ว โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งหลังจากการที่ คณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโช่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) หรือบอร์ดกุ้งอนุมัติการนำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์และอินเดียเข้ามา โดยอ้างว่าเกษตรกรไทยมีโครงการประกันราคากุ้งอยู่แล้ว

“ปัญหาการขาดทุนจากการเลี้ยงกุ้งของเกษตรกร เกิดมาจากราคาน้ำมันเซื้อเพลิงมีราคาสูง และ มีโรคระบาดในกุ้ง ประกอบกับราคาประกันขั้นต่ำที่ห้องเย็นตั้งไว้นั้นเท่ากับราคาตันทุนการผลิตที่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ซึ่งเท่ากับเป็นการบังคับให้เกษตรกรขายในราคาขาดทุน ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาหนี้สิน”นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า แม้ราคากุ้งจะถูกกำหนดโดยคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) แต่ราคาของจริงไม่ได้ตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด จึงต้องการให้รัฐช่วยลดภาระต้นทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เช่น ค่าอาหารกุ้ง ค่าปู่น ค่าไฟฟ้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง หากภาครัฐไม่ดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม ปัญหาอาจบานปลายได้

“ผมจึงขอให้สภาฯตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคากุ้งดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยโดยเร่งด่วน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สำคัญของแผ่นดินและประชาชนจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะรักษาความมั่นคง ของประเทศในทางเศรษฐกิจและสังคม โดยญัตติที่ผมเสนอไปได้ถูกบรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภาฯเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผมหวังว่าจะสามารถช่วยแก้ไขความเดือดร้อนของเกษตรกรได้ทันท่วงที”นายอรรถกร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 31 กรกฎาคม 2566