โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: พรรคพลังประชารัฐ

“สส.ปกรณ์” ยินดีชาวแม่ฮ่องสอน ได้รับการแปลง สปก.เป็นโฉนดรุ่นแรก 150 แปลง พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจ ปชช.เพื่อรักษาสิทธิ สร้างความมั่นคงในชีวิต

,

“สส.ปกรณ์” ยินดีชาวแม่ฮ่องสอน ได้รับการแปลง สปก.เป็นโฉนดรุ่นแรก 150 แปลง พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจ ปชช.เพื่อรักษาสิทธิ สร้างความมั่นคงในชีวิต

นายปกรณ์ จีนาคำ สส.เขต1 แม่ฮ่องสอน พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าแปลงสปก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อเกษตกร ของ จ.แม่ฮ่องสอนว่า จะมีพี่น้องประชาชนได้รับโฉนดในรอบแรกในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ประมาณ 150 แปลง หรือ ประมาณ 150 ครอบครัว ที่ถือครองที่ดินเพื่อทำการเกษตรอยู่หลายร้อยไร่ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีอาชีพที่มั่นคง สามารถนำที่ดินไปต่อยอดในการประกอบอาชีพได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้ประชาชนกินดีอยู่ยิ่งขึ้น ภายใต้การขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ไว้ และยังเป็นการสานต่อนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรไทยทั่วประเทศ
ทั้งนี้พื้นที่ สปก.4-01 ที่จะได้การแปลงเป็นโฉนดนั้น เป็นพื้นที่ ๆ เกษตรกรได้รับหนังสือเอกสารสิทธิ และประกอบอาชีพอยู่แล้ว ซึ่ง สปก.จังหวัดได้ทำการพิสูจน์สิทธิเสร็จสิ้นในกลุ่มแรก และอยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิในกลุ่มทั้งหมด 3,966 ราย ที่ถือครองที่ดินถึง 4,885 แปลง คิดเป็น 15,349 ไร่ ซึ่งจะทยอยเปลี่ยนแปลงเป็นโฉนดต่อไป

“ที่ผ่านมา ผมได้ประสานงานกับสปก.จังหวัดอย่างใกล้ชิด และได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรในการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบปฎิบัติที่กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถรักษาสิทธิ และนำไปสู่กระบวนการพิจารณาได้อย่างรวดเร็ว ตามแนวทางที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้มีข้อสั่งการให้ สส.ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน” นายปกรณ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“สส.กระแสร์”เชื่อ โครงการห้วยหลวง ช่วยแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนในลุ่มน้ำสวย วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ

,

“สส.กระแสร์”เชื่อ โครงการห้วยหลวง ช่วยแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนในลุ่มน้ำสวย วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 อำเภอเมือง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึง ลุ่มน้ำสวย ที่เป็นเขตติดต่อระหว่างอำเภอ เป็นบ้านหัวสวย ตำบลนาพู่ โดยช่วงนี้พี่น้องประชาชนจะทำนาปรัง ทำให้น้ำขาดแคลนในลุ่มน้ำสวยที่ไหลมาจากในเขตจังหวัดอุดรธานีมาเข้าที่อำเภอสระใคร ตำบลคอกช้าง ผ่านไปยังเขตอำเภอเมือง ไปยังตำบลโพนสว่าง ตำบลวัดธาตุ เทศบาลวัดธาตุ ไหลเรื่อยๆไปสิ้นสุดที่ตำบล บ้านเดื่อ แล้วไหลลงไปสู่ แม่น้ำโขง

นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง ซึ่งจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่เกษตรกรรองรับ ที่ของเกษตรกรประมาณ 3 แสนไร่ซึ่ง ตนทราบข่าวจากชลประทานว่าปีหน้าจะผันน้ำโขงขึ้นมาสู่ลำห้วยหลวงแห่งนี้ ซึ่งมีพื้นที่ใกล้เคียงกับลุ่มน้ำสวย ถ้าน้ำที่ผันขึ้นมาจากแม่น้ำโขง อีกส่วนหนึ่งแยกเข้ามา ลงไปสู่ลุ่มน้ำสวยนั้น จะทำให้พี่น้องประชาชนที่ตนได้กล่าวขึ้นมาข้างต้นนี้ คงจะมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ

ทั้งนี้ ตนต้องขอขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่ ครม.สัญจรไปที่ จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเขตการเลือกตั้งของตนที่ จังหวัดหนองคาย มีพื้นที่ติดกับจังหวัดหนองบัวลำภู คณะรัฐมนตรีหลายท่านได้เดินทางเข้าสู่จังหวัดหนองคาย เพื่อไปกราบขอพรหลวงพ่อพระใส เพราะเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดหนองคาย และพี่น้องจาก สปป.ลาว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ชูแคมเปญ “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” ร่วมใจในวันสิ่งแวดล้อมไทย

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ชูแคมเปญ “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” ร่วมใจในวันสิ่งแวดล้อมไทย

มุ่งให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ไขเพื่อเดินหน้าลดปัญหาการปล่อยคาร์บอนสู่เป้าหมายNet Zero

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2566 พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีและกล่าวปาฐกถาพิเศษ เนื่องใน “วันสิ่งแวดล้อมไทย” และ “วันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ” ที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดขึ้น ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนเครือข่ายชุมชนปลอดขยะและโรงเรียนปลอดขยะ และเครือข่าย ทสม. เข้าร่วม

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า วันนี้นับจากจุดเริ่มต้นของวันสิ่งแวดล้อมไทย ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำรัสให้การดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานที่ดูแล อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้น้อมนำตามแนวพระราชดำรัสของพระองค์มาปฏิบัติโดยตลอด ทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชน ทุกคนมีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดูแลรักษาโลกใบนี้ให้สืบทอดต่อไปจนถึงอนุชนรุ่นหลัง และนอกจากวันนี้จะเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทยแล้ว ยังเป็นวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ ซึ่งตนต้องขอบคุณเครือข่าย ทสม. ที่มีส่วนร่วมและประสานกลไกในการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง

“ปัจจุบันโลกใบเดียวของเราได้ส่งสัญญาณ และปี 2566 กำลังจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า เป็นปีที่ร้อนที่สุด ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องร่วมกันลงมือทำ เพื่อให้ลูกหลานของเรามีโลกใบนี้ที่อาศัยอยู่ได้ต่อไป ซึ่งประเทศไทยได้ให้คำมั่นสัญญาต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยได้ทำตามสิ่งที่ได้ให้คำมั่นไว้อย่างแน่นอน พร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อยกระดับการดำเนินงานต่อไป มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2593 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2608” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของประชาชนคนไทยทุกคน ที่จะมีส่วนร่วมในการปกป้อง ดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนเรื่องใกล้ตัวให้เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและรูปแบบการใช้ชีวิตชีวิตประจำวันให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดในการรณรงค์จัดกิจกรรมฯ ในปีนี้ ที่ว่า “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” และขอใช้โอกาสนี้กระตุ้นให้ผู้คนได้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งรับ ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกัน เริ่มจากการ “เปลี่ยนเรา” และขับเคลื่อนงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลให้ “เปลี่ยนโลก” เพื่อ “ลดโลกเดือด”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

“สส. อามินทร์”จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการอาคารศูนย์แสดงสินค้าชุมชน จ.นราธิวาส หลังสร้างเสร็จมาหลายปี แต่กลับไม่ได้ใช้งาน ปล่อยทรุดโทรม ชี้ สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน

,

“สส. อามินทร์”จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการอาคารศูนย์แสดงสินค้าชุมชน จ.นราธิวาส หลังสร้างเสร็จมาหลายปี แต่กลับไม่ได้ใช้งาน ปล่อยทรุดโทรม ชี้ สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.จังหวัดนราธิวาส เขต 2 อำเภอตากใบ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงเรื่องศูนย์แสดงสินค้าชุมชน จังหวัดนราธิวาส ตั้งอยู่บริเวณหน้าด่านศุลกากร อำเภอ สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นเรื่องที่รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่เป็นเขตดินแดนติดกับประเทศมาเลเซีย เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นนโยบายหลักสำคัญของรัฐบาล ที่ผ่านมาได้ดำเนินการขับเคลื่อนมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นตลอดระยะเวลา5-8 ปีที่ผ่านมาจนมีโครงการก่อสร้างอาคารต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน

“แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนได้รับกลับไม่ก่อประโยชน์เลยแม้แต่น้อย อาคารที่ถูกสร้างและเสร็จโดยสมบูรณ์ แต่ไม่มีการใช้งาน ปล่อยให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาทั้งทั้งที่สร้างเสร็จมาแล้วไม่ต่ำกว่า5 ปี ก็ยังไม่เห็นหน่วยงานใดมารับผิดชอบ อาคารแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็น ท้องถิ่นเทศบาล ที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรง หรือหน่วยงานใดที่ได้เสนอโครงการก่อสร้างอาคารชุดนี้ ผมถือว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินอย่างที่สุด จึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไข กฎระเบียบต่างๆ เพื่อที่จะได้ใช้อาคารแห่งนี้ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน”นายอามินทร์ กล่าว

นายอามินทร์ กล่าวต่อถึงความคืบหน้าการสร้างอาคาร เรียน 4 ชั้นของอาคารเรียนมิตรภาพที่ 223 โดยตน
ได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้อำนวยการโรงเรียนว่า การสร้างอาคารมีความล่าช้ามากว่า6 ปี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายกับนักเรียนและโรงเรียนเป็นอย่างมาก ที่ต้องสูญเสียโอกาสในการที่จะมีสถานศึกษาที่ดี และเพียบพร้อมสมบูรณ์ ตนได้สอบถามปัญหาเบื้องต้นทราบว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ได้นำเรื่องส่งถึง สำนักงานงบเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น

“ผมในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ขอให้สำนักงาน สพฐ. หรือสำนักงบอนุมัติงบประมานสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนที่ยังค้างอยู่ให้แล้วเสร็จด้วย“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

”สส.นเรศ“ขอ จ.เชียงใหม่หามติร่วมตัดสินเส้นทางชนบทที่4053 อยู่ในความรับผิดชอบของใคร จะได้แก้ไขปัญหาให้ ปชช.ชี้ เป็นอันตรายต่อการสัญจรมาก

,

”สส.นเรศ“ขอ จ.เชียงใหม่หามติร่วมตัดสินเส้นทางชนบทที่4053 อยู่ในความรับผิดชอบของใคร จะได้แก้ไขปัญหาให้ ปชช.ชี้ เป็นอันตรายต่อการสัญจรมาก

นายนเรศ ธำรงศ์ทิพยคุณ สส.เขต 9 จังหวัดเชียงใหม่ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายกฯบริหารส่วนตำบลแม่วินและผู้ใหญ่บ้านบ้านม่อนยะ ถึงถนนเส้นทางชนบทที่4053 เส้นทางระหว่างบ้านม่อนยะ ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จนไปถึง บ้านห้วยน้ำจางหมู่6 ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมือง กม.ที่ 9.7 ซึ่งทางอบต.ได้ทำหนังสือแจ้งว่า ถนนได้มีความเสียหาย แต่ทางหลวงชนบทได้บอกว่า ได้ถ่ายโอนถนนไปแล้ว

นายนเรศ กล่าวต่อว่า ต่อมาท้องถิ่นก็ได้ติดต่อไปยัง อบจ.แต่ถนนเส้นดังกล่าวก็ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.อีก ตนขอให้จังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นเจ้าภาพบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หามติร่วมกันว่า ถนนเส้นนี้อยู่ในความรับผิดชอบของใคร เพื่อจะได้เข้าไปแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนต่อไป เพราะสถาพถนนขณะนี้เป็นอันตรายต่อการสัญจรมาก

“ผมยังได้รับการร้องเรียนจากนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลแม่วาง และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล บ้านกาด กรณีทางหลวงหมายเลข 1013 ช่ว บ้านกลาง ถึงแม่วิ นกม.ที่ 1-8 ในช่วงหน้าฝน หรือในช่วงฝนตกหนักน้ำ เกิดน้ำนองท่วมถนน พื้นผิวถนนเป็นจำนวนมาก ทำให้พี่น้องซึ่งอยู่สองข้างทางถนนเส้นนี้ ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีทางระบายน้ำ ไม่มีช่องทางที่น้ำจะระบายออกได้ ประกอบกับเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา จึงขอให้กรมทางหลวงช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนด้วย“นายนเรศ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

“สส. จำลอง”ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขยายถนนเส้นยุทธศาสตร์ เชื่อมอีสานใต้ไปอีสานเหนือ ให้กว้างขึ้น เพราะเป็นทางหลักขนอ้อย จนเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง

,

“สส. จำลอง”ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขยายถนนเส้นยุทธศาสตร์ เชื่อมอีสานใต้ไปอีสานเหนือ ให้กว้างขึ้น เพราะเป็นทางหลักขนอ้อย จนเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง

นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ถนนเส้น 2268 ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก หรือเรียกว่าเป็นถนนยุทธศาสตร์ก็ได้ เพราะจะเชื่อมระหว่างอีสานใต้ไปยังอีสานเหนือ ถึงลุ่มแม่น้ำโขง ที่ผ่านมาได้รับการทะนุบำรุงถนน โดยการฉาบผิวใหม่ด้วยยางมะตอย จึงต้องขอขอบคุณ ผอ.แขวงการทาง แต่ยังมีประเด็นที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง ก็คือ ควรต้องขยายถนนให้กว้างขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเป็นฤดูกาลตัดอ้อย ทำให้มีรถบรรทุกอ้อยจำนวนมากที่ต้องใช้เส้นทาง ซึ่งนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอยู่บ่อยครั้ง จึงขอฝากให้เร่งดำเนินการด้วย

“ในเรื่องถนนยังมีถนนสายเชื่อมระหว่างตำบลหนองบัวตำบลหนองสรวง ยังไม่ได้รับการแก้ไข ถนนเชื่อมระหว่างตำบลโคกเครือ ตำบลดงมูล ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ายังไม่ได้รับการตอบรับจากกรมส่งเสริม”นายจำลอง กล่าว

นายจำลอง กล่าวต่อถึงระบบการจัดสรรน้ำ ของกรมชลประทาน ในลุ่มเขื่อนลำปาวที่ท่วมที่ดินที่พี่น้องประชาชนได้เช่าไว้ โดยในตอนแรกที่ทำสัญญาเช่าระหว่างพี่น้องประชาชนกับธนารักษ์มีการระบุว่า ถ้าเกิดมีการกักเก็บน้ำเกินอัตราจนเกิดน้ำท่วมก็ได้รับการชดเชยค่าเสียหาย จึงขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“รมช สันติ” เผยความคืบหน้านโยบาย สธ. บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ เชื่อมโยงข้อมูล 100% เดินหน้าคัดกรองมะเร็งตับอีก 1 แสนคน

,

“รมช สันติ” เผยความคืบหน้านโยบาย สธ. บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ เชื่อมโยงข้อมูล 100% เดินหน้าคัดกรองมะเร็งตับอีก 1 แสนคน

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 6/2566 โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมประชุม ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี

นายสันติ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุขและ Quick Win 4 ประเด็น คือ

1.การดูแลสุขภาพจิตและยาเสพติด มีการจัดตั้ง “มินิธัญญารักษ์” แล้ว 46 จังหวัด รวมโรงพยาบาล 76 แห่ง จำนวน 1,333 เตียง แบ่งเป็น การดูแลระยะกลาง (Intermediate Care :IMC) 42 แห่ง ดูแลระยะยาว (Long Term Care : LTC) 19 แห่ง และดูแลทั้งระยะกลางและระยะยาว 15 แห่ง ส่วนหอผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดมีการเปิดครบ 77 จังหวัดแล้ว รวม 7,796 เตียง เป็นโรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 1,407 เตียง กรมสุขภาพจิต 4,428 เตียง กรมการแพทย์ 1,840 เตียง และในกรุงเทพมหานคร 121 เตียง และจัดตั้งกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดในโรงพยาบาลชุมชนครบทั้ง 755 แห่ง

2.ดิจิทัลสุขภาพ เรื่องนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ มีความคืบหน้าใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพร่ มีการยืนยันตัวตน (Health ID) แล้ว 1 แสนคน เพชรบุรี 1.8 แสนคน ร้อยเอ็ด 3.41 แสนคน และนราธิวาส 1.51 แสนคน บุคลากรที่มีลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั้ง 4 จังหวัด รวมกว่า 5 พันคน ได้แก่ แพทย์ 4,058 คน ทันตแพทย์ 227 คน เภสัชกร 489 คน และเทคนิคการแพทย์ 424 คน โดยมีการเชื่อมโยงข้อมูลประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ของโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชนของทั้ง 4 จังหวัด นำร่อง ครบ 100% แล้ว พร้อมทั้งพัฒนาระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ทั้งระบบแจ้งเตือนเมื่อพบภัยคุกคาม การให้คำปรึกษาเมื่อเกิดเหตุ ระบบเฝ้าระวัง และการกู้คืนระบบ

3.ด้านสถานชีวาภิบาล ได้สำรวจความพร้อมการจัดตั้งทั่วประเทศแล้ว 143 แห่ง ครอบคลุมทุกเขตสุขภาพ พร้อมจัดทำเอกสารคู่มือ รวมถึงจะมีการศึกษาดูงานและถอดบทเรียนสถานชีวาภิบาลบ้านพักกลางโองโมงประชารัฐอนุเคราะห์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก เพื่อนำมาปรับให้สอดคล้องกับพื้นที่อื่นต่อไป และ 4.ประเด็นมะเร็งครบวงจร สามารถฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยอายุ 11-20 ปี ได้เกินเป้าหมาย 1 ล้านโดสก่อนกำหนด 100 วัน ซึ่งจะมีการจัดหาวัคซีนสำหรับฉีดเป็นเข็มที่สองในปีต่อไป ส่วนโรคมะเร็งตับ จะเดินหน้าคัดกรองและรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีในกลุ่มเป้าหมาย คือ ประชากรที่เกิดก่อนปี 2535 และกลุ่มเสี่ยง โดยมีเป้าหมาย 100 วัน จำนวน 1 แสนคน และคัดกรองให้ได้ 1 ล้านคน ภายในปี 2567

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“สส. ภาคภูมิ”ขอ “กรมปศุสัตว์”เร่งหาทางออกนำเข้าโคกระบือข้ามแดน เชื่อ ถึงจะสั่งปิดแต่ก็มีการลักลอบ นำเข้า พร้อมวอน รบ.อย่าปล่อยให้นำเข้าพืชทดแทนมากเกิน ทำราคาข้าวโพดตกต่ำ

,

“สส. ภาคภูมิ”ขอ “กรมปศุสัตว์”เร่งหาทางออกนำเข้าโคกระบือข้ามแดน เชื่อ ถึงจะสั่งปิดแต่ก็มีการลักลอบ นำเข้า พร้อมวอน รบ.อย่าปล่อยให้นำเข้าพืชทดแทนมากเกิน ทำราคาข้าวโพดตกต่ำ

นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส. จังหวัดตาก เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงปัญหาการนำเข้าโคกระบือข้ามแดน โดยล่าสุดกรมปศุสัตว์ได้ลงนามขยายเวลาห้ามนำเข้าครั้งที่ 4 เข้าเดือนที่ 10 แล้ว ทำให้ไม่สามารถนำเข้าโคกระบือได้ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกร ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมามีการพูดคุยเจรจาของทุกฝ่าย และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านก็ได้กำชับให้หาทางออกโดยเร่งด่วน

“ล่าสุดทางผู้ประกอบการได้ปิดถนนเส้นทางตาก แม่สอด แต่ก็มีการเจรจา โดยผู้ว่าฯการจังหวัดตาก ผู้ชุมนุมจึงได้ยุติการชุมนุมเป็นการชั่วคราว จึงอยากให้กรมปศุสัตว์เร่งรัดเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะว่าถ้า กรมปศุสัตว์ ปิดการนำเข้า ก็มีการลักลอบนำเข้าเรื่อยๆ”นายภาคภูมิ กล่าว

นายภาคภูมิ กล่าวต่อถึงราคาข้าวโพดตกต่ำว่า
สาเหตุหลักก็คือ ทางรัฐได้ปล่อยให้มีการนำเข้าพืชทดแทน เช่น ข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี มากเกินไป จึงทำให้ ทางไซโล และโรงงานอาหารสัตว์ไม่อยากจะรับซื้อข้าวโพดของไทย ซึ่งมันมีราคาแพงกว่า พืชทดแทน จึงขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขเรื่องนี้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการขออนุญาตใช้พื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การใช้พื้นที่ป่าไม้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ตอนนี้ตนทราบว่า นายก อปท. ทั่วประเทศ รวมตัวกัน เพื่อขอให้เป็นวาระพิเศษ ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ ตนอยากให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯและกระทรวงมหาดไทย พูดคุยเจรจากัน สิ่งไหนยกเว้นได้ก็ยกเว้น สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ของประชาชน ขอให้เร่งแก้ไข และนำเข้าที่ประชุม ครม.โดยเร่งด่วน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“โฆษก พปชร.” เผยพล.อ.ประวิตร เร่งสส.พร้อมให้ความรู้ ปชช. แปลงเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินทำกิน เพื่อการเกษตร

,

“โฆษก พปชร.” เผยพล.อ.ประวิตร เร่งสส.พร้อมให้ความรู้ ปชช. แปลงเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินทำกิน เพื่อการเกษตร

วันนี้ (12 ธ.ค.) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฉะเชิงเทรา เขต 3 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธานประชุม ซึ่งประเด็นการหารือครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อม การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 เนื่องจากมีพ.ร.บ.สำคัญหลายฉบับรอเข้าสภาเพื่อพิจารณา ซึ่งได้ให้ความสำคัญในประเด็นต่างๆที่พรรค พร้อมร่วมแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ได้กินดีอยู่ดี ทั้งในเรื่องการรณรงค์ให้ความรู้กับเกษตรกรในการดำเนินการของแปลงเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนด เพื่อเกษตรกรรม ซึ่งจะมีการมอบเอกสารสิทธิ์ที่จะมีผลในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เป็นนโยบายที่พรรค ผลักดันให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ที่มีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ทำหน้าที่ขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนในเรื่องการยื่นญัตติด่วน เรื่องของนิรโทษกรรม พรรคพร้อมพิจารณาความเหมาะสม หากมีโอกาส พรรค ก็ขอยื่นญัตติ เพื่อนำเรื่องดังกล่าว เข้าสู่ของกรรมาธิการ เพื่อให้เป็นเวทีทุกฝ่าย ได้แสดงเหตุผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ใช้กระบวนการของรัฐสภา เป็นฝ่ายดำเนินการ เพราะเป็นพื้นที่สำหรับทุกฝ่าย ในการหาทางออกให้ดีที่สุด

“สำหรับการพิจารณางบประมาณประจำปี 2567 จากที่มีกระแสข่าว ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะขอเลื่อนเรื่องนี้ออกไป เนื่องจากเห็นว่า ยังไม่พร้อมนั้น เรื่องดังกล่าว เห็นว่าคงต้องดูภาพรวมของรัฐสภา และคณะรัฐมนตรี ว่าจะมีความพร้อมเมื่อไร ซึ่งสส.ในสภา ก็พร้อมพิจารณา เพราะเราต้องการเดินหน้าให้เร็วที่สุด เนื่องจาก พรบ. ผ่านสภา เร็วเท่าไหร่ ก็จะส่งผลดีต่อพี่น้องประชาชน ที่จะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้เร็วยิ่งขึ้น”

นอกจากนี้ที่ประชุม ยังได้รับทราบ ประเด็นของ นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตสมาชิกพรรค พปชร. ซึ่งได้ลาออก และหมดสมาชิกภาพไปแล้ว ก่อนเกิดเหตุการณ์ ถือเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับพรรค

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“รมช.สันติ-โฆษกพปชร.” นำสส.พปชร. ร่วมวางพานพุ่มถวาย ร.7 เนื่องใน “วันรัฐธรรมนูญ” ประจำปี 66

,

“รมช.สันติ-โฆษกพปชร.” นำสส.พปชร. ร่วมวางพานพุ่มถวาย ร.7 เนื่องใน “วันรัฐธรรมนูญ” ประจำปี 66

วันที่ 10 ธันวาคม 2566 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 3 จ.ฉะเชิงเทรา โฆษกพรรคพปชร. เป็นตัวแทนพรรค พปชร. พร้อมด้วย สส. พปชร. ร่วมพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพิธีวางพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายบังคมฯ เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทย เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี บริเวณพิพิธภัณฑ์รัฐสภา ชั้น MB1 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ในช่วงเช้าได้ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, นายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภา , ประธานศาลฎีกา ,เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ,ข้าราชการ และตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ นำพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายบังคมฯ เบื้องหน้าพระรูปต้นแบบฯ

ทั้งนี้ 10 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันที่ระลึกถึงรัชกาลที่ 7 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามพุทธศักราช 2475 เป็นรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของประเทศไทย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 ธันวาคม 2566

“รมว.ธรรมนัส” ร่วมนายกฯลงพื้นที่ กาญจนบุรี แก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนสร้างความมั่นคงในชีวิตปชช.

,

“รมว.ธรรมนัส” ร่วมนายกฯลงพื้นที่ กาญจนบุรี แก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนสร้างความมั่นคงในชีวิตปชช.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ณ จุดรวมพลอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ยาเสพติด จัดสรรพื้นที่ทำกิน ค่าแรงขั้นต่ำ รวมถึงราคาสินค้าเกษตร ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจกับประชาชนว่ารัฐบาลจะทำงานแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินชมนิทรรศการสินค้า OTOP สินค้าวิสาหกิจชุมชน อาทิ น้ำอินทผลัมบาฮีผลสด เต่งเชียงปลายี่สก น้ำแกงส้มปรุงสำเร็จ ขนมกล้วยน้ำว้าแปรรูปบานาน่า ขนมทองโย๊ะหรือหมี่สิ รวมถึงคูหาจัดแสดงอัญมณีของจังหวัด (พลอย และนิล) ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมทั้งรับฟังการนำเสนอแนวทางแก้ไขสำหรับการพัฒนาจังหวัด อาทิ แก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนโดยบูรณาการจากทุกภาคส่วนเพื่อจัดทำ One Map การเร่งรัดพิจารณาการจัดสรรที่ดินที่ไม่ได้ใช้งานให้เกษตรกร เร่งช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ เมื่อปี 2547 และขอผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก เป็นต้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับข้อเสนอของทางจังหวัด และมอบหมายให้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เจรจาความร่วมมือกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนและดำเนินการจัดทำ One Map ร่วมกับกรมแผนที่ทหาร
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะได้เยี่ยมชมสะพานข้ามแม่น้ำแคว และได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนให้นักท่องเที่ยวสนใจเที่ยวเมืองรอง เนื่องจากกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 และมีศักยภาพหลายด้าน สามารถยกระดับเป็นเมืองถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกได้อีกด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 ธันวาคม 2566

“รมช.สันติ” รวมพลังสธ. ประกาศจุดยืนต่อต้านการทุจริต-ประพฤติมิชอบ ตอกย้ำเป็นวัฒนธรรมองค์กรโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นประชาชน

,

“รมช.สันติ” รวมพลังสธ. ประกาศจุดยืนต่อต้านการทุจริต-ประพฤติมิชอบ ตอกย้ำเป็นวัฒนธรรมองค์กรโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นประชาชน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหาร และบุคลากรสาธารณสุข ประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ไม่รับของขวัญและของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (No Gift Policy) และป้องกันการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ การล่วงละเมิดและการคุกคามทางเพศในการทำงาน (Stop sexual exploitation, abuse, and harassment : Stop SEAH)

วันนี้ (7 ธันวาคม 2566) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหารและบุคลากร ร่วมประกาศเจตนารมณ์ ในงาน MOPH Together Against Corruption & Stop SEAH ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พร้อมมอบโล่เชิดชูเกียรติให้กับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ผลการประเมิน ITA สูงสุด จากสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และมอบประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติหน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์การประเมินฯ จำนวน 10 หน่วยงาน รวมทั้งมอบประกาศเกียรติคุณ “จริยธรรม นวัตกรรมสร้างสรรค์ 2566” แก่ส่วนราชการระดับกรม 3 หน่วยงาน

นายสันติ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริต โดยนำมาตรการ “หอก 3 แฉก : LPL” (Three Pronged measures) มาใช้ ได้แก่ การบังคับใช้กฎหมาย (Law enforcement) กำหนดมาตรการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด รวดเร็ว และเป็นธรรม, การป้องกันการทุจริต (Prevention) ปรับปรุงกฎระเบียบ สร้างความเข้มแข็งของกลไกการตรวจสอบ ร่วมกันต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ และความรอบรู้สู้โกง (Literacy) ให้ความรู้ที่เท่าทันต่อการทุจริต ปลุกจิตสำนึก ปรับฐานความคิด ให้สามารถแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวออกจากผลประโยชน์ส่วนรวมได้โดยอัตโนมัติ รวมทั้งส่งเสริมมาตรฐานทางจริยธรรม และสร้างสังคมวัฒนธรรมภายในกระทรวงสาธารณสุข สู่เป้าหมาย “กระทรวงสาธารณสุข ปลอดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ”

ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า การประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนในการไม่ยอมรับและไม่อดทนต่อการทุจริต ไม่รับของขวัญและของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ และป้องกันการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ในการทำงาน รวมถึงการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต เป็นการแสดงถึงพลังของชาวกระทรวงสาธารณสุขในการร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความซื่อสัตย์สุจริตให้เกิดขึ้นในองค์กรอย่างจริงจัง ซึ่งจะส่งผลต่อการยกระดับค่าดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทยให้สูงขึ้นด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 ธันวาคม 2566